ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Legend of the Seven Sins.

    ลำดับตอนที่ #2 : INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 56


    Intro

     

    ยามเหล่าสัตว์ เรไร ร่วมกรีดร้อง

    ยามเลือดนอง พิภพ ดั่งข้าฝัน

    ยามเหล่าศพ ทหาร อันน่าชัง

    แย่งแก่งกัน ฆ่าชิง บรรลังก์เงิน

     

     

    ยามเมื่อนั้น ข้าจะจ้อง มองเหล่าศพ

    ข้าจะขบ กัดร่าง ดังอาหาร

    ข้าจะเป็น เปรียบดัง พญามาร

    ที่ประหาร ร่างหยาบ ให้เลือนลง

     

    เสียงร่ำร้อง เพรียกหา น่ารังเกียจ

    สัตว์สำเหนียก กลิ่นอาย ให้ลวงหลง

    เจ้ากาน้อย สีแสด แสนทระนง

    ข้าบรรจง วาดนิ้วบน ร่างโลหิต

     

    รอยยิ้มงาม บนใบหน้า อันบิดเบี้ยว

    ฟันขบเคี้ยว  อาหาร  พร้อมหยาดฝน

    ฟ้ารีดร้อง ลงผ่า มากลางตน

    ซึ่งร่างคน  ตรงนั้น คือข้าเอง

     

     

     

     

     

     

     

    ฟิ้ว

    เสียงอันแสนหนวกหูภายในค่ำคืนอันมืดมิด  ดังขึ้นเหนือน่านฟ้าใน ภาคเหนือของไทย  แสงกระพริบสีแสบตากระจ่างเป็นดวงแข่งกับดวงจันทร์สีนวล  เมฆขาวลอยบดบังดวงดาวดวงน้อยรอบๆ  ส่อเค้าให้เห็นพายุขนาดย่อมลูกหนึ่งไกลๆ และแสงแลบแปลบปลาบของสายฟ้า

     

    ติ๊งต่อง

     

    “ ขอให้ผู้โดยสารทุกคน  คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยค่ะ เนื่องจากในขณะนี้  เราใด้เข้าใกล้พายุฝนขนาดเล็กแล้ว  และขอให้ทุกท่านกรุณาอยู่กับที่นะคะ อย่าเดินไปใหนหากไม่จำเป็น ขอบคุณค่ะ”

     

    ติ๊งต่อง

     

    เสียงประกาศดังก้องภายในห้องผู้โดยสาร ภายในเครื่องบินสีขาวฟ้าลำใหญ่  ร่างบางบนเบาะนั่งสีแดงกำมะหยี่กระตุก ก่อนจะสะดุ้งผวาตื่นขึ้น เมื่อรับรู้ถึงแรกกระทบที่ไหล่ เธอใช้ดวงตากลมสีฟ้าตวัดมองข้างตัวทันที  มือหนาของชายหนุ่มผู้มีผ้าปิดตาข้างซ้ายชักกลับอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ  เขาเกาข้างแก้มอย่างเขินอายเบาๆ เมื่อหญิงสาวถอนหายใจแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

    “อ่า   มีอะไรหรือคะ?”  หญิงสาวถามเสียงนุ่ม  ชายหนุ่มตาสีน้ำตาลไหม้มองอย่างแปลกใจ แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงขัดๆเขินๆ

    “พูดไทยใด้ด้วยหรือครับ?” หญิงสาวใด้ยินแล้วก็อมยิ้ม  หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย  ทำให้ชายหนุ่มยิ่งเขินอายทำตัวไม่ถูกขึ้นไปอีก

    “ก็ดิฉันเป็นคนไทยนี่คะ  ถ้าไม่พูดภาษาไทยจะให้พูดภาษาอะไรล่ะคะ คิกๆ” ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ

    “อ่า ครับ”  ชายหนุ่มตอบ “เอ่อ  คุณชื่ออะไรครับ”

    หญิงสาวทำหน้างง แล้วเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มนางฟ้า “ รัตติรัมภา ค่ะ  หรือจะเรียกว่า รตี ก็ใด้นะคะ เอ่อ แล้วคุณล่ะคะ ชื่ออะไรคะ ?”

    “ ผมชื่อ เจมส์มิกซ์ ครับ เจมส์มิกซ์  เซาว์วีค ”

    “คุณเป็นคนอังกฤษหรอคะ”

    “ครับ  แต่ใด้เชื้อมาจากแม่ที่เป็นคนไทยครับ และมาอยู่แต่ที่ไทย ผมเลยไทยแลนด์ทั้งใจครับ นี่ผมก็เพิ่งไปเยี่ยมพ่อที่ลอนดอนมาครับ   แล้วทำไม คุณเป็นคนไทยแท้  ดวงตาคุณรตีถึงเป็นเอ่อ  สะ สีฟ้าล่ะครับ”

    “ฉันมีแม่เป็นคนฝรั่งเศษค่ะ  เลยใด้ตามาจากแม่ แต่ก็เหมือนคุณค่ะ ไทยแลนด์ทั้งใจเช่นกันค่ะคุณ เจมส์มิกซ์”

    “ผมว่า เราเลิกใช้คุณเถอะครับ มันดูห่างเหินยังไงไม่รู้”ว่าแล้วก็เกาแก้มด้วยความเขิน

    “ค่ะ  มิกซ์ก็เหมือนกันนะ “ ส่งรอยยิ้มน่ารักให้  ทำเอาชายหนุ่มบิดม้วนทีเดียว

     

    ครึกๆ

    ปี๊ดๆ

    โครม!!!!!

    เปรี้ยง!!!!!

     

    มีแสงสว่างวาบลอดออกมาจากผ้าม่านสีน้ำเงิน  เครื่องบินโคลงเคลงเอียงไปมาทำให้รัตติรัมภาเอนตัวไปพิงเจมส์มิกซ์  ทั้งสองสบตากันเล็กน้อยอย่างเขินๆ ก่อนที่รัตติรัมภาจะขยับตัวออก “ขอโทษค่ะ”

     

     

    เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!!!

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดด”

    “อ๊ากกกกกกกกกกกก”

    เครื่องบินขนาดจุ 100 คน  ดิ่งหัวทิ่มลงไปในเขตป่าหนาทึบ  เหล่าผู้โดยสารต่างกรีดร้องระงมด้วยความตกใจ  รัตติรัมภาคว้าแขนเจมส์มิกซ์และเบาะนั่งไว้  บีบแน่นจนนิ้วขาวซีด  ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ  ชายหนุ่มคว้าเอวหญิงสาวมากอดไว้อย่างปกป้อง  แสงไฟในเครื่องกระพริบถี่ๆ  แล้วดับวูบ  เหลือเพียงเงาที่กำลังเคลื่อนที่ไปมาของผู้โดยสารเท่านั้น 

      เครื่องบินดิ่งลงพื้นด้วยความรวดเร็ว  กระชากตัวเป็นครั้งๆเนื่องจากความพยายามของนักบินที่พยายามฉุดให้ขึ้น  แม้มันออกจะไร้ผลก็ตาม

     

    วาบ

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

    บึ้ม!!!!!!!

     

    เครื่องบินลำใหญ่  ตกลงไปในป่าเขารกทึบ  เศษซากของเครื่องบินแตกกระจาย  ปลิวว่อนไปพร้อมกับลูกเพลิงขนาดเล็กบริเวณส่วนปีกด้านซ้าย  ลุกลามเข้าตัวเครื่องเรื่อยๆ   บรรดาผู้โดยสารที่มีสติอยู่  ต่างแย่งกันออกมา  ผลักกันบ้าง  เหยียบกันบ้างก็มี

    “นี่แก  ออกไปสิ  ไฟลามแล้วเห็นมั้ย!!

    “อีอ้วน  มึงหลีกไป  ให้กูออกก่อน”

    “กรี๊ด  อย่าผลักฉันนะ”

    “ปล่อยแขนฉัน  แกจะตายอยู่แล้ว ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!!

    …..กรี๊ด……

    “ชะ……ช่วยด้วย  ช่วยพาฉันออกไปด้วย”

    “ม่ายยยย”

     

     

    “หึๆ”

    ใต้ต้นไม้ใหญ่  ห่างออกไปจากเครื่องบินเล็กน้อย  ร่างสูงของใครบางคนกำลังยืนกอดอกเหยียดยิ้มอันแสนวิปริตให้กับการรักตัวกลัวตายของบรรดาเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ได้ขึ้นชื่อว่า มนุษย์

     

    “อะ อืม”

    เสียงครางแผ่วๆ ของเจ้าของร่างบอบบางที่มีรอยแผลตามตัว ดังขึ้นมาเบาๆ  เธอเหยียดกายขึ้นลุกจากพื้น แล้วปัดเศษดินเศษหญ้าออกไป  ร่างสูงชะงัก  ก่อนจะหันมามองหญิงสาวด้านหลัง พลางยิ้มให้อย่างโยน

    “เป็นยังไงมั่ง รตี  ผมเป็นห่วงคุณแทบแย่รู้มั้ย” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับช่วยพยุงหญิงสาวลุกขึ้น

    “เอ๋? มิกซ์ นาย…….

    หญิงสาวอุทานด้วยความงุนงง  ก่อนจะเพ่งมองใบหน้าชายหนุ่มที่เป็นเงาสลัวอย่างเพ่งพินิจ  เธอเบิกตากว้าง  สะบัดแขนชายหนุ่มออกทันที

    “กรี๊ดดดดด!!!!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×