ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brave & Honor

    ลำดับตอนที่ #15 : ภาคผนวก จักรวรรดิโฮลี่เอ็มไพร์

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 49


                จักรวรรดิที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทวีป  ทิศเหนือและทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทร  ทิศตะวันออกติดกับแดนการ์กอน  โดยมีเทือกเขาโอรูธานและเทือกเขาโอลิเวียขวางกั้น  ทิศใต้ประชิดติดพรมแดนของจักรวรรดิไรบัน  โดยมีแม่น้ำอัลน่าและเรเดียสพาดผ่าน  ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเกลลาร์ (หรือเรียกอีกอย่างว่าชาวเกลลิค)

                    จักรวรรดิโฮลี่เอ็มไพร์ถูกก่อตั้งขึ้นโดยปฐมจักรพรรดิโอรูธาน  ด้วยการรวบรวมอาณาจักรรอบๆรวมทั้งอาณาจักรของพระองค์รวมเป็นสิบสองอาณาจักรไว้ในเครือจักรภพเดียวกัน  และได้เริ่มปีศักราชนับแต่นั้น

                    อย่างไรก็ดี  การรวมตัวกันของอาณาจักรต่างๆก็เป็นไปอย่างหลวมๆ  เพราะต่างก่อมีผู้ปกครองและระบอบเป็นของตนเอง  และตำแหน่งจักรพรรดินั้นก็เป็นตำแหน่งที่เวียนกันในบรรดาผู้นำทั้งสิบสองอาณาจักร  โดยผู้ที่ได้รับตำแหน่งจักรพรรดิจะดำรงตำแหน่งไปตลอดพระชนม์ชีพ

                    ดูเหมือนสิ่งที่ยึดเหนี่ยวการปกครองในระบอบจักรวรรดิไว้ก็คือ  ตำแหน่งจักรพรรดิที่ผู้นำอาณาจักรเฝ้ารอให้ถึงวาระของตน  การเกี่ยวดองทางเครือญาติผ่านทางการสมรส  และศาสนาความเชื่อเดียวกัน  โดยมีองค์พระสังฆราชเป็นประมุข

                    อาณาจักรทั้งสิบสองที่รวมตัวขึ้นเป็นจักรวรรดิโฮลี่ได้แก่

                    อารีอัส - อาณาจักรแห่งแกะ  เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรเก่าแก่ของชนเผ่าโบราณที่สาบสูญ  อยู่ทางทิศตะวันออกของจักรวรรดิ  ติดกับเทือกเขาโอรูธานและเทือกเขาโอลิเวีย  เป็นอาณาจักรเดียวที่มีทางผ่านสู่แดนการ์กอน

                    ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงประกอบด้วยทุ่งหญ้าเหมาะแก่การปศุสัตว์  ซึ่งสัตว์ที่มีมากที่สุดเห็นจะได้แก่พวกแกะ  อันอาจจะเป็นที่มาของชื่ออาณาจักร  อย่างไรก็ดี  อาณาจักรแห่งนี้มิได้มีทางออกทะเล  จึงมีความต้องการนำเข้าเกลือมากเป็นพิเศษ

                    โทโร - อาณาจักรที่อยู่ตอนใต้สุดของจักรวรรดิ  และอยู่ติดกับจักรวรรดิไรบัน  เป็นอาณาจักรสุดท้ายที่จักรพรรดิโอรูธานทรงรวบรวมได้  โดยก่อนหน้านั้นได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรไรบันถึงสองร้อยปี  ทำให้มีวัฒนธรรมของไรบันผสมผสานอยู่ไม่น้อย

                    ภูมิประเทศเป็นที่ราบค่อนข้างแห้งแล้ง  มีทะเลทรายอยู่ประปราย  ทว่าก็ได้รับประโยชน์จากการค้าขายกับจักรวรรดิไรบันแทน  วัวกระทิงถือเป็นสัตว์สำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของอาณาจักรแห่งนี้  ได้รับการขนานนามว่าเป็น  ประตูสู่จักรวรรดิอันศักดิสิทธิ์

                    เจมิไน - อาณาจักรที่มีการปกครองค่อนข้างแปลกประหลาด  กล่าวคือมีกษัตริย์สองพระองค์พร้อมๆกัน  รู้จักกันในนามว่า  ดินแดนแห่งสองกษัตริย์สองนครา  โดยองค์หนึ่งปกครองด้านการเกษตรและพระคลัง  อีกหนึ่งปกครองขุนทหารและการต่างประเทศ  ซึ่งอาจเป็นเพราะมีชนชาติที่ต่างกันอยู่สองชนชาติ  คือชาวเกลิคและชาวเจมาร์  ทำให้ทั้งสองกลุ่มได้ตั้งกษัตริย์ของตนเองให้ขึ้นปกครองร่วมกันอย่างรอมชอม

                    แคนเซอเร็ด - อาณาจักรทางตอนเหนือซึ่งเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานตามกุศโลบายในยุคของจักรพรรดิโอรูธาน  โดยแยกมาจากดราโกเนียร์จึงมีวัฒนธรรมและความเชื่อใกล้เคียงกันมาก  อย่างไรก็ดีอาณาจักรแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นที่ซ่องสุมของเหล่าโจรสลัด  โดยที่แคนเซอเร็ดเองก็เฉยชาต่อการปราบปราม  จนมีเสียงเล่าลือว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโจรสลัดเหล่านั้น  ซึ่งการคงอยู่ของโจรสลัดพวกนี้  ได้ลดทอนแสนยานุภาพทางทะเลของดราโกเนียร์ลงจนเกือบจะโดดเดี่ยวเส้นทางเดินเรือของดราโกเนียร์เลยทีเดียว

                    บริเวณผาหินที่ติดกับชายฝั่งในแคนเซอเร็ดนี้  มีความเชื่อว่ามีถ้ำใต้หน้าผาที่เชื่อมกับโลกความตายอยู่ห้าแห่งด้วยกัน  คือ โคโลนัส, คีวมี, เฮอร์เมียน, เทอเนรัส และ ออร์นุม  แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัด

                    เลโอเดน - อาณาจักรที่มีที่ตั้งเป็นเกาะอยู่ทางตะวันตกของจักรวรรดิ  เป็นหนึ่งในพันธมิตรแรกๆของจักรพรรดิโอรูธาน  มีกองทหารที่เข้มแข็ง  และกษัตริย์ของเลโอเดนก็ทรงมีพระปรีชาสามารถหลายพระองค์  เป็นอาณาจักรที่มีแสนยานุภาพอันน่าเกรงขาม

                    เวอร์จีน่า - อาณาจักรแรกเริ่มของจักรพรรดิโอรูธาน  เดิมทีเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ  แต่เมื่อองค์จักรพรรดิได้ทรงเดินทางเข้าไปในป่าโบราณต้องคำสาปที่อยู่ทางตอนเหนือของหมู่บ้าน  และทรงกลับออกมาพร้อมด้วย อาราริค  สหายและขุนศึกร่วมพระทัย  นับแต่นั้นก็ทรงแผ่ขยายอาณาเขตได้อย่างต่อเนื่อง  และรวมอาณาจักรที่นับถือศาสนาเดียวกันไว้ใต้เครือจักรภพ  ป่าโบราณจึงได้ชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า  ป่าอาราริค

                    อย่างไรก็ดี  กษัตริย์ในระยะหลังๆทรงไร้ความสามารถหรือไม่ก็ทรงวิกลจริต  ทำให้ราชวงศ์ที่เคยยิ่งใหญ่เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ  พระราชวงศานุวงศ์ที่เป็นสตรีได้ทรงประคับประคองสถานะไว้ได้ในระดับหนึ่ง  อำนาจจึงตกแก่เหล่าสตรีในราชวงศ์  และตำแหน่งกษัตริย์ก็ได้ว่างลง  มีเพียงตำแหน่งพระสวามีเท่านั้น  กระนั้นอาณาจักรเวอร์จีน่าก็ไม่เคยผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งได้อีกเลย

                    ไลบราริค - อาณาจักรโบราณอันศักดิ์สิทธิ์  ตั้งอยู่กึ่งกลางของจักรวรรดิและเป็นเมืองหลวงของศาสนจักร  จักรพรรดิโอรูธานมีความเกรงพระทัยต่อองค์พระสังฆราชเป็นอย่างมาก  ทรงขอให้องค์พระสังฆราชเป็นผู้สวมมงกุฎ  นั่นทำให้ศาสนจักรได้รับความเกรงใจจากอาณาจักรโดยรอบ  ในทางเดียวกันก็ได้ทำให้จักรพรรดิโอรูธานรวบรวมกลุ่มพันธมิตรได้อย่างรวดเร็ว

                    เนื่องจากได้รับภาษีในการบำรุงศาสนาจากที่ต่างๆในจักรวรรดิ  ดินแดนแห่งนี้จึงค่อนข้างมั่งคั่ง  และใส่ใจงานด้านศิลปะเป็นอย่างยิ่ง  นอกจากนี้บรรดานักบวชและอัศวินชั้นสูงจะต้องมาทำพิธีแต่งตั้ง ณ ที่แห่งนี้  และยังมีผู้แสวงบุญมาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย  อาณาจักรไลบราลิคมีกองทัพอัศวินศักดิสิทธิ์ที่มีฝีมือเลื่องลือในการคุ้มกัน  ทำให้นอกจากจะเป็นอาณาจักรที่มั่งคั่งแล้ว  ยังเป็นอาณาจักรที่มีความมั่นคงอีกด้วย

                    สคอร์ปินัส - อาณาจักรเล็กๆที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งค่อนข้างเป็นจุดอับ  นั่นคืออยู่ติดกับเทือกเขาโอรูธาน  และไม่มีทางสู่ทะเล  ด้วยการที่อยู่ติดกับดราโกเนียร์และซาจิทาร์ซึ่งมีกองทัพอันเกรียงไกร  ทำให้สถานภาพของสคอร์ปินัสค่อนข้างง่อนแง่น  แต่น่าแปลกใจที่ยังสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ถูกรุกราน มากนัก

                    นั่นอาจเพราะข่าวลือที่ว่า  อาณาจักรแห่งนี้ให้การสนับสนุนแก่กลุ่มนักลอบสังหาร  บนภูเขาลูกหนึ่งลูกใดในสคอร์ปินัส  ถูกเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของ ปราการมรกต  ฐานบัญชาการลับของกลุ่มนักฆ่าซึ่งเป็นที่หวาดกลัวแม้แต่กับผู้ที่ดำรงตำแหน่งจักรพรรดิ

                    ซาจิทาร์ - อาณาจักรซึ่งถูกก่อตั้งได้ไม่นานนัก  โดยผู้สถาปนาคือเคราส์ขุนศึกคู่พระทัยคนหนึ่งของจักรพรรดิโอรูธาน  ซึ่งได้ทรงสัญญาไว้ว่าจะมอบดินแดนให้ก่อตั้งอาณาจักร

                    ซาจิทาร์มีกองทัพที่แข็งแกร่ง  โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการทหารที่ค่อนข้างเหนือกว่าอาณาจักรอื่นๆ  ทั้งนี้เพราะมีการสนับสนุนงานช่างอย่างแพร่หลาย  และแร่เหล็กที่มีคุณภาพ

                    ดราโกเนียร์  - อาณาจักรที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุด  เป็นอาณาจักรที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก  มีกองทหารที่แข็งแกร่ง  โดยเฉพาะกลุ่มอัศวินมังกรอันเลื่องชื่อ  และยังมีกองเรืออันเกรียงไกร  ทำให้ในอดีตจักรพรรดิโอรูธานต้องส่งพระราชสาสน์ให้มาร่วมเป็นพันธมิตรถึงสามครั้ง

                    ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน  และมีภูมิอากาศหนาวเย็น  ทำให้ค่อนข้างแยกตัวจากเพื่อนบ้าน  กระนั้นก็ยังเป็นที่คร้ามเกรงอยู่ดี

                    ทางตะวันตกเฉียงเหนือมีกลุ่มเทือกเขาที่กว้างใหญ่และสลับซับซ้อนที่ถูกเรียกว่าเทือกเขามังกร  ซึ่งต่อจากปลายของเทือกเขาโอรูธาน  เทือกเขามังกรนี้เป็นที่อยู่ของพวกมังกรซึ่งพยามยามหลีกเลี่ยงไม่ข้องแวะกับผู้คน  แต่นักล่ามังกรชาวดราโกเนียร์มักจะขโมยไข่มังกรมาจากที่นี่เสมอเพื่อนำมาฝึกร่วมกับอัศวินมังกร

                    อควาริค - อาณาจักรที่มีความงดงามของธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยม  ด้วยอาณาเขตที่ติดกับอาณาจักรไลบราริคและไพคาเรี่ยม  และเทือกเขาเคเบลอสที่โอบอุ้ม  ทำให้อาณาจักนี้ค่อนข้างสงบสุข

                    แม้จะไม่มีทางออกสู่ทะเล  แต่ก็มีพื้นที่ติดกับทะเลสาบแกรนด์เลคซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิ  ซึ่งทะเลสาบแกรนด์เลคนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก  และมีเรื่องเล่านิทานปรัมปราเกี่ยวกับมันมากมาย  ราชวงศ์ต่างๆมักจะเลือกมาพักที่นี่ในช่วงฤดูหนาว  ผิดกับไพคาเรี่ยมที่น่าชื่นชมในช่วงฤดูร้อน

                    ไพคาเรี่ยม - อาณาจักรทางตอนใต้อันสุขสงบ  ถูกจัดให้เป็นที่ซึ่งน่าไปเยี่ยมเยียนที่สุดในจักรวรรดิ  ด้วยแสงแดดอันอบอุ่น  และอ่าวซิลลาอันสวยงาม  ทำให้มีพระราชตำหนักฤดูร้อนของเกือบทุกราชวงศ์ตั้งอยู่  จนถูกตกลงจากแต่ละฝ่ายให้เป็นอาณาจักรที่เป็นกลางไปอย่างไม่เป็นทางการนัก

                    ชาวไพคาเรี่ยมมีความเป็นนักเดินเรือที่เชี่ยวชาญและเก่งกาจ  ไม่ว่าจะด้วยกิจการใดที่ต้องใช้เรือ  พวกเขาก็จะมีความชำนาญเหนือชนชาติอื่นๆ  การประมงและการค้าขายทางทะเลคืออาชีพหลักของผู้คนในอาณาจักรนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×