คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ภาคผนวก จักรวรรดิโฮลี่เอ็มไพร์
จักรวรรดิที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทวีป ทิศเหนือและทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทร ทิศตะวันออกติดกับแดนการ์กอน โดยมีเทือกเขาโอรูธานและเทือกเขาโอลิเวียขวางกั้น ทิศใต้ประชิดติดพรมแดนของจักรวรรดิไรบัน โดยมีแม่น้ำอัลน่าและเรเดียสพาดผ่าน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเกลลาร์ (หรือเรียกอีกอย่างว่าชาวเกลลิค) จักรวรรดิโฮลี่เอ็มไพร์ถูกก่อตั้งขึ้นโดยปฐมจักรพรรดิโอรูธาน ด้วยการรวบรวมอาณาจักรรอบๆรวมทั้งอาณาจักรของพระองค์รวมเป็นสิบสองอาณาจักรไว้ในเครือจักรภพเดียวกัน และได้เริ่มปีศักราชนับแต่นั้น อย่างไรก็ดี การรวมตัวกันของอาณาจักรต่างๆก็เป็นไปอย่างหลวมๆ เพราะต่างก่อมีผู้ปกครองและระบอบเป็นของตนเอง และตำแหน่งจักรพรรดินั้นก็เป็นตำแหน่งที่เวียนกันในบรรดาผู้นำทั้งสิบสองอาณาจักร โดยผู้ที่ได้รับตำแหน่งจักรพรรดิจะดำรงตำแหน่งไปตลอดพระชนม์ชีพ ดูเหมือนสิ่งที่ยึดเหนี่ยวการปกครองในระบอบจักรวรรดิไว้ก็คือ ตำแหน่งจักรพรรดิที่ผู้นำอาณาจักรเฝ้ารอให้ถึงวาระของตน การเกี่ยวดองทางเครือญาติผ่านทางการสมรส และศาสนาความเชื่อเดียวกัน โดยมีองค์พระสังฆราชเป็นประมุข อาณาจักรทั้งสิบสองที่รวมตัวขึ้นเป็นจักรวรรดิโฮลี่ได้แก่ อารีอัส - อาณาจักรแห่งแกะ เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรเก่าแก่ของชนเผ่าโบราณที่สาบสูญ อยู่ทางทิศตะวันออกของจักรวรรดิ ติดกับเทือกเขาโอรูธานและเทือกเขาโอลิเวีย เป็นอาณาจักรเดียวที่มีทางผ่านสู่แดนการ์กอน ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงประกอบด้วยทุ่งหญ้าเหมาะแก่การปศุสัตว์ ซึ่งสัตว์ที่มีมากที่สุดเห็นจะได้แก่พวกแกะ อันอาจจะเป็นที่มาของชื่ออาณาจักร อย่างไรก็ดี อาณาจักรแห่งนี้มิได้มีทางออกทะเล จึงมีความต้องการนำเข้าเกลือมากเป็นพิเศษ โทโร - อาณาจักรที่อยู่ตอนใต้สุดของจักรวรรดิ และอยู่ติดกับจักรวรรดิไรบัน เป็นอาณาจักรสุดท้ายที่จักรพรรดิโอรูธานทรงรวบรวมได้ โดยก่อนหน้านั้นได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรไรบันถึงสองร้อยปี ทำให้มีวัฒนธรรมของไรบันผสมผสานอยู่ไม่น้อย ภูมิประเทศเป็นที่ราบค่อนข้างแห้งแล้ง มีทะเลทรายอยู่ประปราย ทว่าก็ได้รับประโยชน์จากการค้าขายกับจักรวรรดิไรบันแทน วัวกระทิงถือเป็นสัตว์สำคัญทั้งในด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของอาณาจักรแห่งนี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ประตูสู่จักรวรรดิอันศักดิสิทธิ์” เจมิไน - อาณาจักรที่มีการปกครองค่อนข้างแปลกประหลาด กล่าวคือมีกษัตริย์สองพระองค์พร้อมๆกัน รู้จักกันในนามว่า “ดินแดนแห่งสองกษัตริย์สองนครา” โดยองค์หนึ่งปกครองด้านการเกษตรและพระคลัง อีกหนึ่งปกครองขุนทหารและการต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นเพราะมีชนชาติที่ต่างกันอยู่สองชนชาติ คือชาวเกลิคและชาวเจมาร์ ทำให้ทั้งสองกลุ่มได้ตั้งกษัตริย์ของตนเองให้ขึ้นปกครองร่วมกันอย่างรอมชอม แคนเซอเร็ด - อาณาจักรทางตอนเหนือซึ่งเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานตามกุศโลบายในยุคของจักรพรรดิโอรูธาน โดยแยกมาจากดราโกเนียร์จึงมีวัฒนธรรมและความเชื่อใกล้เคียงกันมาก อย่างไรก็ดีอาณาจักรแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นที่ซ่องสุมของเหล่าโจรสลัด โดยที่แคนเซอเร็ดเองก็เฉยชาต่อการปราบปราม จนมีเสียงเล่าลือว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโจรสลัดเหล่านั้น ซึ่งการคงอยู่ของโจรสลัดพวกนี้ ได้ลดทอนแสนยานุภาพทางทะเลของดราโกเนียร์ลงจนเกือบจะโดดเดี่ยวเส้นทางเดินเรือของดราโกเนียร์เลยทีเดียว บริเวณผาหินที่ติดกับชายฝั่งในแคนเซอเร็ดนี้ มีความเชื่อว่ามีถ้ำใต้หน้าผาที่เชื่อมกับโลกความตายอยู่ห้าแห่งด้วยกัน คือ โคโลนัส, คีวมี, เฮอร์เมียน, เทอเนรัส และ ออร์นุม แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัด เลโอเดน - อาณาจักรที่มีที่ตั้งเป็นเกาะอยู่ทางตะวันตกของจักรวรรดิ เป็นหนึ่งในพันธมิตรแรกๆของจักรพรรดิโอรูธาน มีกองทหารที่เข้มแข็ง และกษัตริย์ของเลโอเดนก็ทรงมีพระปรีชาสามารถหลายพระองค์ เป็นอาณาจักรที่มีแสนยานุภาพอันน่าเกรงขาม เวอร์จีน่า - อาณาจักรแรกเริ่มของจักรพรรดิโอรูธาน เดิมทีเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ แต่เมื่อองค์จักรพรรดิได้ทรงเดินทางเข้าไปในป่าโบราณต้องคำสาปที่อยู่ทางตอนเหนือของหมู่บ้าน และทรงกลับออกมาพร้อมด้วย “อาราริค” สหายและขุนศึกร่วมพระทัย นับแต่นั้นก็ทรงแผ่ขยายอาณาเขตได้อย่างต่อเนื่อง และรวมอาณาจักรที่นับถือศาสนาเดียวกันไว้ใต้เครือจักรภพ ป่าโบราณจึงได้ชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ป่าอาราริค” อย่างไรก็ดี กษัตริย์ในระยะหลังๆทรงไร้ความสามารถหรือไม่ก็ทรงวิกลจริต ทำให้ราชวงศ์ที่เคยยิ่งใหญ่เสื่อมถอยลงเรื่อยๆ พระราชวงศานุวงศ์ที่เป็นสตรีได้ทรงประคับประคองสถานะไว้ได้ในระดับหนึ่ง อำนาจจึงตกแก่เหล่าสตรีในราชวงศ์ และตำแหน่งกษัตริย์ก็ได้ว่างลง มีเพียงตำแหน่งพระสวามีเท่านั้น กระนั้นอาณาจักรเวอร์จีน่าก็ไม่เคยผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำที่เข้มแข็งได้อีกเลย ไลบราริค - อาณาจักรโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่กึ่งกลางของจักรวรรดิและเป็นเมืองหลวงของศาสนจักร จักรพรรดิโอรูธานมีความเกรงพระทัยต่อองค์พระสังฆราชเป็นอย่างมาก ทรงขอให้องค์พระสังฆราชเป็นผู้สวมมงกุฎ นั่นทำให้ศาสนจักรได้รับความเกรงใจจากอาณาจักรโดยรอบ ในทางเดียวกันก็ได้ทำให้จักรพรรดิโอรูธานรวบรวมกลุ่มพันธมิตรได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากได้รับภาษีในการบำรุงศาสนาจากที่ต่างๆในจักรวรรดิ ดินแดนแห่งนี้จึงค่อนข้างมั่งคั่ง และใส่ใจงานด้านศิลปะเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้บรรดานักบวชและอัศวินชั้นสูงจะต้องมาทำพิธีแต่งตั้ง ณ ที่แห่งนี้ และยังมีผู้แสวงบุญมาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย อาณาจักรไลบราลิคมีกองทัพอัศวินศักดิสิทธิ์ที่มีฝีมือเลื่องลือในการคุ้มกัน ทำให้นอกจากจะเป็นอาณาจักรที่มั่งคั่งแล้ว ยังเป็นอาณาจักรที่มีความมั่นคงอีกด้วย สคอร์ปินัส - อาณาจักรเล็กๆที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งค่อนข้างเป็นจุดอับ นั่นคืออยู่ติดกับเทือกเขาโอรูธาน และไม่มีทางสู่ทะเล ด้วยการที่อยู่ติดกับดราโกเนียร์และซาจิทาร์ซึ่งมีกองทัพอันเกรียงไกร ทำให้สถานภาพของสคอร์ปินัสค่อนข้างง่อนแง่น แต่น่าแปลกใจที่ยังสามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่ถูกรุกราน “มากนัก” นั่นอาจเพราะข่าวลือที่ว่า อาณาจักรแห่งนี้ให้การสนับสนุนแก่กลุ่มนักลอบสังหาร บนภูเขาลูกหนึ่งลูกใดในสคอร์ปินัส ถูกเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของ “ปราการมรกต” ฐานบัญชาการลับของกลุ่มนักฆ่าซึ่งเป็นที่หวาดกลัวแม้แต่กับผู้ที่ดำรงตำแหน่งจักรพรรดิ ซาจิทาร์ - อาณาจักรซึ่งถูกก่อตั้งได้ไม่นานนัก โดยผู้สถาปนาคือเคราส์ขุนศึกคู่พระทัยคนหนึ่งของจักรพรรดิโอรูธาน ซึ่งได้ทรงสัญญาไว้ว่าจะมอบดินแดนให้ก่อตั้งอาณาจักร ซาจิทาร์มีกองทัพที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการทหารที่ค่อนข้างเหนือกว่าอาณาจักรอื่นๆ ทั้งนี้เพราะมีการสนับสนุนงานช่างอย่างแพร่หลาย และแร่เหล็กที่มีคุณภาพ ดราโกเนียร์ - อาณาจักรที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุด เป็นอาณาจักรที่มีความเก่าแก่เป็นอย่างมาก มีกองทหารที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มอัศวินมังกรอันเลื่องชื่อ และยังมีกองเรืออันเกรียงไกร ทำให้ในอดีตจักรพรรดิโอรูธานต้องส่งพระราชสาสน์ให้มาร่วมเป็นพันธมิตรถึงสามครั้ง ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน และมีภูมิอากาศหนาวเย็น ทำให้ค่อนข้างแยกตัวจากเพื่อนบ้าน กระนั้นก็ยังเป็นที่คร้ามเกรงอยู่ดี ทางตะวันตกเฉียงเหนือมีกลุ่มเทือกเขาที่กว้างใหญ่และสลับซับซ้อนที่ถูกเรียกว่าเทือกเขามังกร ซึ่งต่อจากปลายของเทือกเขาโอรูธาน เทือกเขามังกรนี้เป็นที่อยู่ของพวกมังกรซึ่งพยามยามหลีกเลี่ยงไม่ข้องแวะกับผู้คน แต่นักล่ามังกรชาวดราโกเนียร์มักจะขโมยไข่มังกรมาจากที่นี่เสมอเพื่อนำมาฝึกร่วมกับอัศวินมังกร อควาริค - อาณาจักรที่มีความงดงามของธรรมชาติอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยอาณาเขตที่ติดกับอาณาจักรไลบราริคและไพคาเรี่ยม และเทือกเขาเคเบลอสที่โอบอุ้ม ทำให้อาณาจักนี้ค่อนข้างสงบสุข แม้จะไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ก็มีพื้นที่ติดกับทะเลสาบแกรนด์เลคซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในจักรวรรดิ ซึ่งทะเลสาบแกรนด์เลคนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างมาก และมีเรื่องเล่านิทานปรัมปราเกี่ยวกับมันมากมาย ราชวงศ์ต่างๆมักจะเลือกมาพักที่นี่ในช่วงฤดูหนาว ผิดกับไพคาเรี่ยมที่น่าชื่นชมในช่วงฤดูร้อน ไพคาเรี่ยม - อาณาจักรทางตอนใต้อันสุขสงบ ถูกจัดให้เป็นที่ซึ่งน่าไปเยี่ยมเยียนที่สุดในจักรวรรดิ ด้วยแสงแดดอันอบอุ่น และอ่าวซิลลาอันสวยงาม ทำให้มีพระราชตำหนักฤดูร้อนของเกือบทุกราชวงศ์ตั้งอยู่ จนถูกตกลงจากแต่ละฝ่ายให้เป็นอาณาจักรที่เป็นกลางไปอย่างไม่เป็นทางการนัก ชาวไพคาเรี่ยมมีความเป็นนักเดินเรือที่เชี่ยวชาญและเก่งกาจ ไม่ว่าจะด้วยกิจการใดที่ต้องใช้เรือ พวกเขาก็จะมีความชำนาญเหนือชนชาติอื่นๆ การประมงและการค้าขายทางทะเลคืออาชีพหลักของผู้คนในอาณาจักรนี้ |
ความคิดเห็น