คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : บทที่ 20 คนทรยศ
เสียงร้องอย่างเสียขวัญของทหารผู้โชคร้ายดึงดูดให้ทุกผู้หันมายังสระ อสูรกายร่างยักษ์เจ้าของหนวดเส้นที่พันรอบขาทหารยามเผยกายส่วนหนึ่งโผล่พ้นผิวน้ำ รูปร่างของมันนั้นคล้ายดั่งก้อนเนื้อสีม่วงคล้ำที่ไม่มีส่วนอื่นใดนอกจากลำตัวและสายรยางค์คล้ายกับหนวดปลาหมึกอีกหลายสิบเส้น สิ่งที่คล้ายกับดวงตาส่องแสงสีเขียวสว่างเรืองกระจายอยู่ทั่วไปตามร่างอัปลักษณ์ หากนับเอาเฉพาะส่วนที่โผล่พ้นน้ำโดยไม่นับรวมสายรยางค์ ร่างนั้นก็สูงถึงสิบห้าฟุตแล้ว
ในความตะลึงงันของทุกคน จอร์ชเป็นคนแรกที่ได้ลั่นกระสุนเข้าใส่ผู้บุกรุก ทำให้เจ้าอสูรกายตนนั้นปล่อยเหยื่อของมันทันที ทหารคนอื่นๆจึงรีบเข้าไปช่วยสหายของตนให้พ้นจากอันตราย เจ้าอสูรกายดูจะไม่พอใจนัก มันฟาดหนวดลงไปกลางค่ายทันที ซึ่งเป้าหมายของมันก็คือโจเอลนั่นเอง! โดยที่นายบ้านหนุ่มที่เพิ่งจะตื่นได้ไม่นานจึงมิอาจตั้งหลักรับการโจมตีได้ทัน!!
ทุกคนในที่นั้นต่างพากันกลั้นหายใจต่อภาพที่เห็นตรงหน้า เกรงต่อการสูญเสียที่มิอาจทำใจรับได้... แต่เมื่อมองให้ดีๆแล้ว หนวดเส้นนั้นยังมิได้สัมผัสร่างของโจเอลแต่อย่างใด มันคาอยู่บนไหล่ของคนผู้หนึ่ง ซึ่งสูงเกินกว่าสิบฟุต...
“โปรดปล่อยพวกเราไปด้วย ท่านเมยานาร์ ข้าขอสัญญาว่าจะนำของสำหรับบวงสรวงมาให้ในภายหลัง*” มาโก๊กวิงวอน เขาถึงกับทรุดกายลงด้วยไม่อาจทานกำลังของอสูรกายไว้ได้ทั้งหมด แต่แล้วร่างอันกำยำอีกร่างก็เข้ามารัดสายรยางค์เส้นนั้นไว้ใต้วงแขน
“โปรดกลับไปเถิด ท่านผู้ยิ่งใหญ่ นี่ยังไม่ถึงเวลาที่ท่านจะรับสิ่งสังเวยจากเรา...*” โก๊กร้องขึ้นบ้าง ทว่าน้ำเสียงนั้นกลับขัดแข็งยิ่งกว่าผู้พี่ ทั้งวงแขนนั้นก็บีบกระชับแรงเข้าอย่างกับจะลองกำลัง
ดวงตาตาทั่วร่างเมยานาร์แปรเป็นสีแดงกล่ำด้วยโทสะ มันตะคอกกลับไป “เจ้าสองคนรีบไสหัวไปเสีย อย่าได้เสนอหน้ามาต่อรองกับข้า คนพวกนี้บังอาจทำลายร่างทรงของข้า พวกมันจะต้องชดใช้อย่างสามสม!!*”
สิ้นเสียงอันทรงอำนาจ ทั้งโก๊กและมาโก๊กก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนในบริเวณที่สัมผัสกับสายรยางค์ แต่ทั้งทั้งคู่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ เพราะรู้ว่าเป้าหมายของเมยานาร์คือโจเอล จึงสู้อดทนเพื่อปกป้องผู้เป็นจ้าวชีวิตของตนไว้ จนกระทั่งอาวุธหนึ่งได้ฟาดลงมาใส่สายรยางค์เส้นนั้นจนขาดสะบั้น...
เป็นฮานส์นั่นเองที่ได้เข้ามาช่วยยักษ์ฝาแฝดไว้ ใบหน้าเหี้ยมฉีกยิ้มให้กับสองพี่น้อง ขณะที่ค้อนสงครามในมือพร้อมที่จะห้ำหั่นกับศัตรูตรงหน้าอีกครา
เมยานาร์ร้องขึ้นด้วยความโกรธ ฟาดอาวุธของตนใส่กลุ่มชนอย่างสะเปะสะปะ ทำเอาทุกคนต้องวิ่งหลบไปกันคนละทิศละทางมิอาจรวมกันติด มาโก๊กอุ้มร่างของโจเอลหลบการโจมตีโดยมีน้องชายและฮานส์คอยคุ้มกัน ขณะที่จอร์ชต้องคอยปกป้องลูนาร์ การถูกจู่โจมอย่างกะทันหันทำให้พวกเขาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากวิ่งหลบไปมา ทว่าการช่วยเหลือหนึ่งก็ได้มาถึงทันเวลาพอดี...
ร่างของอัศวินและพาหนะโผล่พ้นอุโมงค์ด้านหนึ่งพร้อมด้วยทหารอีกราวสี่สิบคน ด้วยชุดเกราะสีแดงเพลิงและมังกรในควบคุม ทำให้ทุกผู้รู้ได้โดยพลันว่าคนผู้นี้คือดารูเกนซ์นั่นเอง!
อัศวินมังกรออกนำผู้ติดตามเข้าโรมรันกับอสูรกายเบื้องหน้าอย่างมิได้เกรงกลัว ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็ร้องขึ้นด้วยความโกรธอันเหลือคณา
“มังกร!!!” มันร้องขึ้นด้วยเสียงแหลมสูง “ข้าจะฆ่าพวกเจ้าเผ่าพันธุ์อันน่าชิงชังให้หมด เข้ามาเลย!!!” สิ้นคำเมยานาร์ก็ฟาดสายรยางค์เข้าใส่ศัตรูที่พุ่งเข้ามา ดารูเกนซ์หันอาวุธเข้ารับทันที ทว่าการโจมตีนั้นก็รุนแรงเกินกว่าที่เขาจะต้านไหว แม้หนวดเส้นนั้นจะขาดออกจากขั้ว แต่อัศวินหนุ่มก็ถึงกับกระเด็นตกจากหลังมังกรเลยทีเดียว
เมื่อสิ้นผู้บังคับ หนวดอีกหลายเส้นก็ฟาดเข้าใส่มังกร แต่ด้วยเกล็ดหนาที่ทนทานต่อการโจมตี เมยานาร์จึงเปลี่ยนเป็นการใช้สายรยางค์รัดรึงร่างศัตรูเอาไว้เพื่อเตรียมเผด็จศึก มันดูจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มังกรรุ่นเยาว์จะต่อกรกับอาร์คีที่แก่กว่า
ระหว่างที่เมยานาร์มัวให้ความสนใจกับเผ่าพันธุ์คู่อาฆาต ธนูหลายดอกก็ยิงเข้าใส่ พลธนูของโจเอลภายใต้การนำของจอร์ชต่างช่วยกันโจมตีเข้าใส่อย่างแข็งขัน แต่อาวุธธรรมดาเหล่านั้นก็ทำได้แค่สร้างความรำคาญให้กับเมยานาร์เพียงเล็กน้อยมันจึงมิได้ใส่ใจมากนัก จนกระทั่งใครคนหนึ่งได้ขว้างคบเพลิงไปต้องร่างอัปลักษณ์นั้นเข้า มันถึงได้หวีดร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด
“ฮะฮ่า! เจอนี่หน่อยเถิดน่าเจ้าปิศาจ เตรียมตัวถูกเอาไปขายได้เลย!” เฮอร์มร้องขึ้นด้วยความลำพอง ในมือนั้นเตรียมที่จะเขวี้ยงคบเพลิงเข้าไปอีก แต่เมื่อทำการโจมตีด้วยวิธีการเดิม เจ้าอสูรกายกลับสร้างกำแพงที่เวทคุ้มกัน ทำเอาตาแก่ถึงกับหงุดหงิดโวยวายไม่หยุดปาก
การสร้างกำแพงเวทคุ้มกัน ทำให้เมยานาร์ไม่ต้องมัวสนใจกับการโจมตีเล็กๆน้อยๆที่สร้างความรำคาญ กระนั้นชั่วขณะที่มัวพะวงกับด้านหนึ่ง มันกลับสูญเสียเหยื่อที่มาดหมายไปแทน
ดารูเกนซ์ได้ใช้อาวุธในมือตัดสายรยางค์ที่รัดพาหนะคู่ใจของตนในทันที แต่ส่วนขั้วของสายที่เพิ่งถูกตัดก็หันมารัดอัศวินผู้นั้นไว้แทน จากนั้นเมยานาร์ก็สลายกำแพงเวทแล้วยิงลูกไฟยักษ์เข้าใส่ผู้ที่บังอาจมาปล่อยเหยื่อของมันด้วยความโกรธ
กระสุนเพลิงพุ่งเข้าใส่ดารูเกนซ์อย่างรวดเร็ว ขณะที่อัศวินหนุ่มกำลังปลดเปลื้องตัวจากพันธนาการทำให้มิอาจหลบได้ทัน แต่ก่อนที่เขาจะถูกเพลิงนรกแผดเผา ลาร์ซมังกรคู่ใจก็กระโจนเข้ามาบังร่างของผู้เป็นนายไว้อย่างรวดเร็ว...
“ลาร์ซ!!” อัศวินหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสหายเพียงผู้เดียวของตนรับกระสุนเพลิงเข้าไปเต็มแรง แม้ว่าที่ผ่านมามังกรของเขาจะทนต่อการโจมตีนานาชนิด ทว่าครานี้กลับต่างไปอย่างเห็นได้ชัด...
ร่างที่เคยทรงพลังและแข็งแกร่ง บัดนี้กลับแน่นิ่งแทบไร้สัญญาณการมีชีวิต เหลือเพียงลมหายใจรวยรินแผ่วเบาเท่านั้น เกล็ดสีน้ำเงินวาวก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำ ควันสีขาวลอยตลบส่งกลิ่นเหม็นไหม้ ดารูเกนซ์ถึงกับทรุดเข่า นิ่งมองสหายรักอย่างมิรู้จะช่วยอะไรได้
เมยานาร์ส่งเสียงประหลาดคล้ายดั่งการหัวเราะเยาะเย้ย ดูจะเต็มตื้นที่สามารถจัดการกับเผ่าพันธุ์คู่แค้นลงได้ ดวงตาที่ขึ้นอยู่รอบกายได้แปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองด้วยความรู้สึกสำราญอารมณ์ขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ก็เหลือเพียงชายในชุดเกราะที่บังอาจมาทำลายร่างทรงของมันถึงสองครั้งสองคราเท่านั้น... แต่เมื่อเหลือบไปเห็นเป้าหมายกำลังออกควบม้า ความขุ่นเคืองก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง มันรีบยิงลูกไฟยักษ์ใส่อย่างต่อเนื่องเพื่อไล่ล่ามิให้ศัตรูตัวร้ายรอดไปได้ ทว่าความเร็วของฝีเท้าม้าก็ช่วยให้โจเอลหลบไปได้อย่างฉิวเฉียด
โจเอลทราบดีว่าตนนั้นตกเป็นเป้าหมาย แม้จะแปลกใจในรูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่ก็เข้าใจได้ว่าสตรีร่างงดงามกับอสูรกายอัปลักษณ์เป็นตัวเดียวกัน เขายังนึกไม่ออกว่าจะจัดการกับศัตรูตรงหน้าได้อย่างไร เพราะแม้จะตัดหัวออกไปแล้ว ก็ยังไม่วายที่มันจะกลับมาเล่นงานพวกเขาได้อีก เท่าที่นึกได้ในตอนนี้ก็มีเพียงใช้ตนเองเบี่ยงเบนความสนใจมันไว้ก่อน หวังเพียงให้ใครสักคนคิดวิธีสังหารมันได้เท่านั้น
เมยานาร์ยิงกระสุนเพลิงเข้าใส่ชายในชุดเกราะด้วยความโมโห จนลืมไปว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้มันไม่อาจสร้างกำแพงเวทคุ้มกัน ซึ่งพรานเฒ่าจอมฉวยโอกาสย่อมไม่ปล่อยให้ผ่านเลย ดุ้นฟืนที่มีไฟลุกโชนถูกปาเข้าใส่เจ้าอสูรกายอีกครั้งโดยมีทหารของโจเอลเข้าร่วม ต่างก็หาท่อนไม้มาต่อไฟให้ติดขึ้นเพื่อจะใช้โจมตี เมื่อโดนตอบโต้หนักเข้า เมยานาร์ก็ต้องหยุดการใช้เวทจู่โจมแล้วหันกลับมาป้องกันตัวอีกครั้ง กระนั้นก็ยังมีสายรยางค์อีกหลายเส้นทำการไล่ล่าศัตรูที่มันชิงชัง
โจเอลต้องควบคุมม้าด้วยความยากลำบาก นั่นเพราะสถานที่ไม่กว้างขวางสักเท่าไหร่ ซ้ำยังต้องหลอกล่อการโจมตีให้ไปยังทิศทางที่จะไม่โดนคนอื่นๆ สายรยางค์หลายเส้นทำท่าว่าจะกล้ำกรายถึงตัวแต่ก็ถูกสกัดไว้ได้
จอร์ชน้าวสายธนูในมืออย่างรวดเร็วปล่อยลูกศรเข้าใส่ปลายของสายรยางค์ด้วยความแม่นยำ ส่งผลให้พวกมันเฉออกจากทิศทางเดิมซึ่งได้ช่วยโจเอลเอาไว้ ขณะที่ฮานส์ก็ได้ทำลายสายรยางค์พวกนั้นไปหลายเส้นแต่ไม่ช้าพวกมันก็งอกออกมาใหม่อย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ตรงหน้าทำให้โก๊กเริ่มจะทำอะไรบางอย่าง ยักษ์ผู้มีผิวสีน้ำเงินนำเชือกเส้นยาวมามัดเข้าไว้กับก้อนหินขนาดพอเหมาะเพื่อจะทำเป็นลูกตุ้ม
“เจ้าจะทำอะไร?*” ผู้เป็นพี่ร้องขัด
“ข้าต้องช่วยท่านโจเอล พี่ข้า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องต่อต้านท่านเมยานาร์ เมื่อท่านทำตามอำเภอใจ ก็ไม่มีเหตุผลให้เราต้องยำเกรงอีก หมดเวลาที่จะมาลำเลิกบุญคุณ เผ่าการ์กอนชดเชยจนเกินพอแล้ว!*” คำตอบของน้องชายทำให้ยักษ์แดงนิ่งเงียบไป มาโก๊กรู้สึกสองจิตสองใจอยู่จึงมิได้ขัดขวางหรือเข้าร่วมแต่อย่างใด
ทางด้านเมยานาร์นั้นดูจะตั้งใจกับการเล่นงานโจเอลเป็นอย่างมากจนทำให้ละเลยการโจมตีรอบๆตัว ซึ่งคงเป็นเพราะมีกำแพงเวทคุ้มกันอยู่จึงทำให้มันมิได้ใส่ใจต่อต่อพวกมนุษย์คนอื่นๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามนุษย์ผู้หนึ่งกำลังจะกระทำการอันบ้าบิ่นเพียงเพื่อระบายโทสะ...
ดารูเกนซ์ซึ่งอยู่ในอารมณ์โกรธจัดปรี่เข้าหาเมยานาร์อย่างรวดเร็ว อัศวินหนุ่มกระโดดจากฝั่งขึ้นไปอยู่เหนือศัตรู ร่างในชุดเกราะสีแดงเพลิงยืนอยู่บนกำแพงเวททำให้ดูเหมือนว่าลอยเหนือพื้นอย่างน่าประหลาด ทีแรกเมยานาร์ไม่ใส่ใจต่อการกระทำที่ไร้สตินั้น เพราะลำพังกำลังมนุษย์ย่อมมิอาจสร้างความเสียหายให้กับกำแพงเวทอยู่แล้ว
แต่สำหรับดารูเกนซ์แล้ว ความแข็งแกร่งของกำแพงดังกล่าวมิได้สำคัญอะไรเลย เพราะเขาต้องการเพียงระบายความโกรธอันพลุ่งพล่านใส่ผู้ที่ทำร้ายสหายรักของตนเท่านั้น อาวุธในมือถูกใช้กระแทกเข้าใส่เป้าหมายโดยใช่ด้านที่เป็นลิ่มแหลม และการกระหน่ำแทงซ้ำๆก็เริ่มที่จะส่งผลต่อเวทคุ้มกัน เพราะปรากฏรอยร้าวคล้ายกับแผ่นน้ำแข็งที่กำลังจะแตกอยู่บนกำแพงที่มองไม่เห็นนั้น
เจ้าอสูรกายต้องรามือจากโจเอลเป็นการชั่วคราวเพื่อจะจัดการกับดารูเกนซ์ สายรยางค์หลายเส้นตรงเข้าจู่โจมอัศวินมังกร แม้เขาจะปัดพวกนั้นออกไปได้บ้างแต่สุดท้ายก็ถูกรัดที่ข้อเท้าอยู่ดี เมยานาร์ยกร่างของผู้ที่สร้างความรำคาญให้กับตนแล้วฟาดลงกับพื้นด้วยความรุนแรง ส่งผลให้อัศวินหนุ่มสลบลงไปในทันที และเมื่อมันจะยกร่างนั้นขึ้นฟาดอีกครั้งหวังให้ตายคาที่ ลูกตุ้มที่สร้างขึ้นอย่างชั่วคราวก็รัดไปที่สายรยางค์เส้นนั้นแล้วรั้งไว้ไม่ให้มันยกขึ้น
โก๊กใช้อาวุธนั้นเข้าประลองกำลังกับเมยานาร์อีกคราแต่ก็เป็นไปอย่างเต็มกลืน และเมื่อทำท่าว่าจะเสียหลัก ใครคนหนึ่งก็ได้เข้ามาช่วยไว้ทันเวลาพอดี...
มาโก๊กรั้งร่างของน้องชายอย่างทันท่วงที เมื่อการณ์ล่วงเลยมาถึงเพียงนี้ เขาก็จำเป็นต้องช่วยอย่างเสียมิได้ การร่วมมือกันของยักษ์ฝาแฝดทำให้เมยานาร์มิอาจเอาชนะได้โดยง่าย และช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายยังคงยื้อยุดกันอยู่นั้น ก็เป็นโอกาสให้โจเอลได้ชักม้ากลับมาแล้วใช้ดาบฟันสายรยางค์เส้นนั้นจนขาดสะบั้น
ร่างของดารูเกนซ์หล่นลงกระแทกพื้นขณะที่เมยานาร์ร้องโหยหวนขึ้น มันทำให้โจเอลได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะถูกอาวุธอื่นโจมตีอย่างไรสายรยางค์พวกนั้นก็งอกขึ้นมาใหม่ได้ทุกครั้ง แต่เมื่อฟันด้วยดูรันดานามันกลับมิอาจฟื้นคืนได้ หรือว่ามีเพียงดาบเล่มนี้เท่านั้นที่สามารถสังหารพวกอาร์คีได้?
เมยานาร์ที่โกรธเกรี้ยวสลายกำแพงมนต์เตรียมที่จะโจมตีอีกครั้ง สายฟ้ามากมายแลบแปลบปลาบขึ้นรอบๆร่างอัปลักษณ์ หมายใจจะกวาดล้างพวกมนุษย์ที่น่ารำคาญในครั้งเดียว
เฮอร์มคิดจะใช้ไฟเพื่อขัดขวางการโจมตีอันนั้น ทว่าบัดนี้คบเพลิงก็ได้หมดสิ้นไปแล้ว ขณะที่การโจมตีอื่นๆก็ไม่สามารถทำให้มันสะดุ้งสะเทือน แต่ก็ยังมีอีกคนหนึ่งที่สามารถจะยับยั้งเมยานาร์ไว้ได้...
ท่ามกลางความโกลาหล สตรีผู้งดงามก็ก้าวออกมาเผชิญหน้ากับอสูรร้าย เธอหลับตาพร่ำบ่นขึ้นไม่เป็นภาษา จากนั้นฝ่ามือเรียวสวยก็ชี้ไปด้านหน้า ริมฝีปากแดงเผยอส่งเสียงร้องออกมา
“มานาสโตล!!”
สิ้นเสียงกังวานใส แสงสีขาวเจิดจ้าก็ส่องสว่างกลืนกินร่างของเมยานาร์จนสิ้น เพียงเท่านั้นลูนาร์ก็หมดเรียวแรงล้มลง อันเป็นผลจากการใช้เวทสลายพลังนั้น
ทว่าเมื่อแสงสว่างจางหายไป ทุกคนก็แทบจะหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อ... เพราะเมยานาร์มิได้สิ้นกำลังลงด้วยเวทบทนั้น!
ไพ่ตายที่เคยสยบยักษ์แดงกลับส่งผลต่อเมยานาร์แต่อย่างใด ร่างอัปลักษณ์นั้นยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่เพียงเท่านั้นมันยังใช้สายรยางค์เข้าจับตัวลูนาร์ไว้ เพราะหญิงสาวผู้นี้คือหนึ่งในของสังเวยที่มันต้องใช้เพื่อที่จะย้ายไปยังร่างทรงใหม่ ทว่าไม่ทันที่เจ้าอสูรกายจะทันได้คว้าตัวหญิงสาว ชายหนุ่มร่างบอบบางก็เข้ามาขวางจนถูกจับไปแทน และก่อนที่หนวดอีกเส้นจะทันได้จับตัวลูนาร์ไปอีกหน ฮานส์ก็เข้ามาป้องกันเอาไว้ได้ทันท่วงที
หลังจากที่เมยานาร์ได้จับตัวจอร์ชไป มันก็เลิกสนใจกับกลุ่มชนที่เหลืออย่างน่าประหลาด นั่นเพราะที่จริงแล้วเวทของลูนาร์ได้ส่งผลต่อเจ้าอสูรกายอย่างใหญ่หลวง ซึ่งทำให้มันไม่สามารถใช้เวทได้อีก และพละกำลังก็ถดถอยลงมาก เมื่อได้ตัวจอร์ชไปแล้ว มันจึงคิดที่จะถอนตัวไปก่อน แล้วค่อยหาวิธีที่จะให้ชายหนุ่มใบหน้าสวยผู้นี้ยอมเป็นร่างทรงให้มันอีกที
แต่ความคิดนั้นก็ถูกขัดขวางอีกจนได้ สายรยางค์เส้นหนึ่งของเมยานาร์ถูกรั้งไว้ด้วยลูกตุ้ม โก๊กพยายามสู้แรงเอาไว้ไม่ยอมให้เมยานาร์หนีไปได้ และเมื่อได้ลองกำลังกันเช่นนี้ ทำให้เขารู้ว่าเรี่ยวแรงของอีกฝ่ายนั้นลดลงเป็นอย่างมาก ยักษ์ชาวการ์กอนจึงตะโกนร้องบอกโจเอลทันที
“ท่านโจเอล! เมยานาร์ถอดแรงไปมากแล้ว ท่านอย่าได้ปล่อยโอกาสนี้ไปเป็นอันขาด!*” โก๊กเร่งเร้า นั่นเพราะรู้ดีว่าสถานะของตนย่อมมิอาจหวนคืน เมื่อได้ทรยศให้กับคนต่างเผ่าไปแล้ว ก็มีแต่จะต้องกระทำไปให้ถึงที่สุดเท่านั้น
โจเอลเองก็ใช้เวลาไม่นานนักในการตัดสินใจ เพราะหากว่าจอร์ชถูกจับอีกครั้ง คงเป็นการยากที่จะช่วยสหายของตนกลับคืน ชายหนุ่มจึงออกคำสั่งทันที
“ทุกคน! ช่วยกันตรึงร่างศัตรูไว้ อย่าให้มันหนีไปได้!”
คำสั่งนั้นได้รับการตอบสนองในทันที โดยเฮอร์มเป็นคนแรกที่เริ่มลงมือ เชือกถูกมัดให้เป็นบ่วงบาศแล้วคล้องสายรยางค์อีกเส้นของเมยานาร์ไว้ อีกฝ่ายนั้นพยายามจะดิ้นให้หลุด ทว่าพรานเฒ่าย่อมไม่ประมาท เพราะเชือกเส้นนั้นได้ควั่นกับก้อนหินใหญ่เอาไว้แล้ว
ไม่ช้าคนที่เหลือก็ทำตามเฮอร์ม จากศัตรูซึ่งเคยเป็นที่คร้ามเกรง กลับถูกพันธนาการจากคนธรรมดาที่ไม่มีฤทธิ์เดชอันใด พวกม้าศึกถูกใช้ในการลากร่างอัปลักษณ์ให้ขึ้นมาพ้นสระ ระหว่างนั้นโจเอลก็พุ่งเข้าหาอสูรร้ายแล้วใช้ดูรันดานาตัดสายรยางค์เพื่อช่วยสหายตนออกมา เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเมยานาร์ดังขึ้นทุกครั้งที่ดาบสีเขียวสร้างรอยแผลให้กับมัน
“บุตรข้า... เจ้าจะให้พวกคนนอกมาฆ่าผู้ให้กำเนิดพวกเจ้ากระนั้นหรือ?... ด้วยกำลังของเจ้าทั้งสองย่อมเอาชนะคนพวกนี้ได้อย่างแน่นอน มาเถิด! อย่าได้ทรยศต่อเผ่าและผู้ให้กำเนิดเจ้าเลย!*” เมยานาร์พยายามเกลี้ยกล่อมยักษ์ฝาแฝด ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้ผลอยู่บ้าง เพราะทั้งโก๊กและมาโก๊กต่างก็หยุดมือ อาจจะจริงดังที่มันได้กล่าวออกมา เมื่อมองดูคนต่างเผ่าที่สาละวนรับมือกับเมยานาร์ คนเหล่านั้นมีเพียงเชือกที่อยู่ในมือ... และหากลองตรองดูแล้ว การช่วยคนนอกสังหารมารดาแห่งเผ่าพันธุ์ก็ดูจะเป็นการกระทำที่เกินเลยไปมาก...
คนอื่นๆไม่มีใครใส่ใจในคำพูดของเมยานาร์แต่อย่างใด เพราะพวกเขาไม่เข้าใจในภาษาการ์กอน มีเพียงโจเอลเท่านั้นที่มองไปยังสองพี่น้องด้วยความหวั่นใจ ในยามนี้การตัดสินใจเปลี่ยนข้างของทั้งคู่อาจส่งผลต่อทุกคนจนเกินจะหยั่ง และเขาหวังอยู่ว่าทั้งสองจะไม่เปลี่ยนใจเอากลางครัน
“อย่ามาหลอกลวงพวกเราอีก ท่านเมยานาร์! แม้ท่านจะมีส่วนในการให้กำเนิดเราทั้งสอง แต่นั่นก็แลกกับชีวิตของผู้เป็นพ่อและแม่ของเรา ทุกสิ่งที่ท่านให้มาก็เพื่อรักษาอำนาจของตนเท่านั้น! หากไม่สังหารท่าน เผ่าการ์กอนจักไม่มีวันได้รับอิสรภาพ!*” โก๊กกล่าวด้วยความเด็ดเดี่ยว ดั่งลูกธนูที่พุ่งออกจากคันศร การตัดสินใจของเขานั้นย่อมมิอาจหวนคืน
เมื่อได้ยินคำตอบเมยานาร์ก็ร้องขึ้นด้วยความโกรธ กระนั้นมันก็ยังได้ประโยชน์จากการณ์นี้อยู่บ้าง สายรยางค์ที่ยังเป็นอิสระพุ่งเข้าจู่โจมยังโจเอลซึ่งมัวให้ความสนใจในยักษ์ฝาแฝด เป้าหมายนั้นก็เพื่อแย่งชิงดูรันดานา หากไร้ซึ่งดาบเล่มนี้ อาวุธใดๆก็มิอาจสังหารมันได้ และเมื่อกำลังฟื้นคืนกลับมา การเอาชนะพวกคนที่ต่ำชั้นก็ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ
สายรยางค์พุ่งเข้าหาโจเอลอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะแย่งชิงดูรันดานา เพราะมัวแต่ให้ความสนใจกับยักษ์ฝาแฝดทำให้ชายหนุ่มมิได้ระวังตัว ดูรันดานาจึงตกไปอยู่ในมือของศัตรู ทว่าก็เพียงไม่นาน เพราะเมื่ออยู่กับเมยานาร์ดาบก็สั่นอย่างรุนแรงจนราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อไม่อาจควบคุมอาวุธนั้นได้ มันจึงขว้างดาบไปปักกับผนังถ้ำเพื่อมิให้ผู้ใดนำมาใช้สังหารตน
โจเอลรีบติดตามอาวุธวิเศษในทันที ทว่าเมยานาร์ก็ใช้สายรยางค์รัดขาของเขาไว้เพื่อขัดขวาง ฮานส์ที่เห็นว่านายของตนกำลังเสียทีจึงรีบเข้ามาช่วยเอาไว้ สายรยางค์ที่รั้งโจเอลไว้ถูกฟาดจนขาดสะบั้น เมื่อเป็นอิสระแล้วชายหนุ่มจึงรีบไปคว้าดาบของตนทันที ขณะที่ฮานส์ก็กระโดดขึ้นไปเหนือร่างเจ้าอสูรกายแล้วใช่ค้อนสงครามกระหน่ำอย่างไร้ความปราณี
แต่เมยานาร์ก็มิได้ให้ความสนใจต่อการโจมตีของฮานส์มากนัก เพราะไม่นานบาดแผลที่ได้รับก็สามารถจะฟื้นคืนได้ดังเดิม ตอนนี้มันเริ่มส่งเสียงพึมพำไม่เป็นภาษาออกมา อันเป็นการร่ายคาถาเพื่อจะใช้เวท
โดยปกติแล้วเมยานาร์สามารถที่จะใช้เวทได้ในทันที ทว่าด้วยกำลังที่ถดถอยทำให้จำเป็นต้องใช้เวลาในการรีดเค้นสมาธิ หลังจากที่เสียงงึมงำไม่เป็นภาษาดังออกมาได้ระยะหนึ่ง ฮานส์ก็ต้องรีบออกห่างจากร่างศัตรูทันที นั่นเพราะรอบๆตัวเมยานาร์นั้นได้บังเกิดประจุไฟฟ้าไหลเวียนไปมา และยิ่งมันร่ายเวทนานเท่าใด ไฟฟ้าเหล่านั้นก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ ไม่น่าเชื่อว่าด้วยเวลาเพียงไม่นาน เจ้าอสูรกายจะสามรถใช้เวทได้อีกหน... กระนั้น มันก็ยังคงต้องการที่จะรวบรวมพลังให้ได้มากกว่านี้...
ขณะเดียวกัน โจเอลได้พยายามถอนดาบที่ปักไว้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทว่ามันก็ตรึงติดแน่นเกินกว่ากำลังมนุษย์จะสามารถดึงขึ้นได้ เมื่อเห็นดังนั้นมาโก๊กจึงก้าวเข้ามาแล้วดึงดาบเล่มนั้นอย่างสุดแรง ด้วยพละกำลังที่มหาศาล ดูรันดานาก็ถูกถอนออกมาเหนือพื้นศิลาด้วยเวลาไม่นานนัก แต่พอโจเอลขอดาบในมือ มาโก๊กกลับยืนนิ่งด้วยความลังเล
“มาโก๊กส่งดาบมาให้ข้า เราไม่มีเวลามากแล้วนะ*” โจเอลกล่าวอย่างร้อนรน เพราะเชือกที่รั้งร่างเมยานาร์ไว้เริ่มที่จะขาดลงทีละเส้น ขณะที่เสียงงึมงำจากเมยานาร์ก็ยิ่งดังในจังหวะที่เร่งเร้ามากขึ้น กระนั้นยักษ์แดงก็ยังไม่ยอมที่จะขยับเขยื้อน เหมือนกับว่ายังคงชั่งใจในบางสิ่ง แต่ไม่นานมาโก๊กก็ปริปากออกมา เผยให้รู้ถึงความคิดของตน
“ไม่... ท่านโจเอล... ท่านจะสังหารเมยานาร์ไม่ได้...*”
..........
* เป็นภาษาการ์กอน
ความคิดเห็น