ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brave & Honor

    ลำดับตอนที่ #21 : บทที่ 20 คนทรยศ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 213
      1
      9 ก.ย. 49

                    เสียงร้องอย่างเสียขวัญของทหารผู้โชคร้ายดึงดูดให้ทุกผู้หันมายังสระ  อสูรกายร่างยักษ์เจ้าของหนวดเส้นที่พันรอบขาทหารยามเผยกายส่วนหนึ่งโผล่พ้นผิวน้ำ  รูปร่างของมันนั้นคล้ายดั่งก้อนเนื้อสีม่วงคล้ำที่ไม่มีส่วนอื่นใดนอกจากลำตัวและสายรยางค์คล้ายกับหนวดปลาหมึกอีกหลายสิบเส้น  สิ่งที่คล้ายกับดวงตาส่องแสงสีเขียวสว่างเรืองกระจายอยู่ทั่วไปตามร่างอัปลักษณ์  หากนับเอาเฉพาะส่วนที่โผล่พ้นน้ำโดยไม่นับรวมสายรยางค์  ร่างนั้นก็สูงถึงสิบห้าฟุตแล้ว

                    ในความตะลึงงันของทุกคน  จอร์ชเป็นคนแรกที่ได้ลั่นกระสุนเข้าใส่ผู้บุกรุก  ทำให้เจ้าอสูรกายตนนั้นปล่อยเหยื่อของมันทันที  ทหารคนอื่นๆจึงรีบเข้าไปช่วยสหายของตนให้พ้นจากอันตราย  เจ้าอสูรกายดูจะไม่พอใจนัก  มันฟาดหนวดลงไปกลางค่ายทันที  ซึ่งเป้าหมายของมันก็คือโจเอลนั่นเอง!  โดยที่นายบ้านหนุ่มที่เพิ่งจะตื่นได้ไม่นานจึงมิอาจตั้งหลักรับการโจมตีได้ทัน!!

                    ทุกคนในที่นั้นต่างพากันกลั้นหายใจต่อภาพที่เห็นตรงหน้า  เกรงต่อการสูญเสียที่มิอาจทำใจรับได้...  แต่เมื่อมองให้ดีๆแล้ว  หนวดเส้นนั้นยังมิได้สัมผัสร่างของโจเอลแต่อย่างใด  มันคาอยู่บนไหล่ของคนผู้หนึ่ง  ซึ่งสูงเกินกว่าสิบฟุต...

                    โปรดปล่อยพวกเราไปด้วย  ท่านเมยานาร์  ข้าขอสัญญาว่าจะนำของสำหรับบวงสรวงมาให้ในภายหลัง*  มาโก๊กวิงวอน  เขาถึงกับทรุดกายลงด้วยไม่อาจทานกำลังของอสูรกายไว้ได้ทั้งหมด  แต่แล้วร่างอันกำยำอีกร่างก็เข้ามารัดสายรยางค์เส้นนั้นไว้ใต้วงแขน

                    โปรดกลับไปเถิด  ท่านผู้ยิ่งใหญ่  นี่ยังไม่ถึงเวลาที่ท่านจะรับสิ่งสังเวยจากเรา...*  โก๊กร้องขึ้นบ้าง  ทว่าน้ำเสียงนั้นกลับขัดแข็งยิ่งกว่าผู้พี่  ทั้งวงแขนนั้นก็บีบกระชับแรงเข้าอย่างกับจะลองกำลัง

                    ดวงตาตาทั่วร่างเมยานาร์แปรเป็นสีแดงกล่ำด้วยโทสะ  มันตะคอกกลับไป  เจ้าสองคนรีบไสหัวไปเสีย  อย่าได้เสนอหน้ามาต่อรองกับข้า  คนพวกนี้บังอาจทำลายร่างทรงของข้า  พวกมันจะต้องชดใช้อย่างสามสม!!*

                    สิ้นเสียงอันทรงอำนาจ  ทั้งโก๊กและมาโก๊กก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนในบริเวณที่สัมผัสกับสายรยางค์  แต่ทั้งทั้งคู่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ  เพราะรู้ว่าเป้าหมายของเมยานาร์คือโจเอล  จึงสู้อดทนเพื่อปกป้องผู้เป็นจ้าวชีวิตของตนไว้  จนกระทั่งอาวุธหนึ่งได้ฟาดลงมาใส่สายรยางค์เส้นนั้นจนขาดสะบั้น...

                    เป็นฮานส์นั่นเองที่ได้เข้ามาช่วยยักษ์ฝาแฝดไว้  ใบหน้าเหี้ยมฉีกยิ้มให้กับสองพี่น้อง  ขณะที่ค้อนสงครามในมือพร้อมที่จะห้ำหั่นกับศัตรูตรงหน้าอีกครา

                    เมยานาร์ร้องขึ้นด้วยความโกรธ  ฟาดอาวุธของตนใส่กลุ่มชนอย่างสะเปะสะปะ  ทำเอาทุกคนต้องวิ่งหลบไปกันคนละทิศละทางมิอาจรวมกันติด  มาโก๊กอุ้มร่างของโจเอลหลบการโจมตีโดยมีน้องชายและฮานส์คอยคุ้มกัน  ขณะที่จอร์ชต้องคอยปกป้องลูนาร์ การถูกจู่โจมอย่างกะทันหันทำให้พวกเขาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากวิ่งหลบไปมา  ทว่าการช่วยเหลือหนึ่งก็ได้มาถึงทันเวลาพอดี...

                    ร่างของอัศวินและพาหนะโผล่พ้นอุโมงค์ด้านหนึ่งพร้อมด้วยทหารอีกราวสี่สิบคน  ด้วยชุดเกราะสีแดงเพลิงและมังกรในควบคุม  ทำให้ทุกผู้รู้ได้โดยพลันว่าคนผู้นี้คือดารูเกนซ์นั่นเอง!

                    อัศวินมังกรออกนำผู้ติดตามเข้าโรมรันกับอสูรกายเบื้องหน้าอย่างมิได้เกรงกลัว  ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็ร้องขึ้นด้วยความโกรธอันเหลือคณา

                    มังกร!!!”  มันร้องขึ้นด้วยเสียงแหลมสูง  ข้าจะฆ่าพวกเจ้าเผ่าพันธุ์อันน่าชิงชังให้หมด  เข้ามาเลย!!!”  สิ้นคำเมยานาร์ก็ฟาดสายรยางค์เข้าใส่ศัตรูที่พุ่งเข้ามา  ดารูเกนซ์หันอาวุธเข้ารับทันที  ทว่าการโจมตีนั้นก็รุนแรงเกินกว่าที่เขาจะต้านไหว  แม้หนวดเส้นนั้นจะขาดออกจากขั้ว  แต่อัศวินหนุ่มก็ถึงกับกระเด็นตกจากหลังมังกรเลยทีเดียว

                    เมื่อสิ้นผู้บังคับ  หนวดอีกหลายเส้นก็ฟาดเข้าใส่มังกร  แต่ด้วยเกล็ดหนาที่ทนทานต่อการโจมตี  เมยานาร์จึงเปลี่ยนเป็นการใช้สายรยางค์รัดรึงร่างศัตรูเอาไว้เพื่อเตรียมเผด็จศึก  มันดูจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มังกรรุ่นเยาว์จะต่อกรกับอาร์คีที่แก่กว่า

                    ระหว่างที่เมยานาร์มัวให้ความสนใจกับเผ่าพันธุ์คู่อาฆาต  ธนูหลายดอกก็ยิงเข้าใส่  พลธนูของโจเอลภายใต้การนำของจอร์ชต่างช่วยกันโจมตีเข้าใส่อย่างแข็งขัน  แต่อาวุธธรรมดาเหล่านั้นก็ทำได้แค่สร้างความรำคาญให้กับเมยานาร์เพียงเล็กน้อยมันจึงมิได้ใส่ใจมากนัก  จนกระทั่งใครคนหนึ่งได้ขว้างคบเพลิงไปต้องร่างอัปลักษณ์นั้นเข้า  มันถึงได้หวีดร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด

                    ฮะฮ่า!  เจอนี่หน่อยเถิดน่าเจ้าปิศาจ  เตรียมตัวถูกเอาไปขายได้เลย!”  เฮอร์มร้องขึ้นด้วยความลำพอง  ในมือนั้นเตรียมที่จะเขวี้ยงคบเพลิงเข้าไปอีก  แต่เมื่อทำการโจมตีด้วยวิธีการเดิม  เจ้าอสูรกายกลับสร้างกำแพงที่เวทคุ้มกัน  ทำเอาตาแก่ถึงกับหงุดหงิดโวยวายไม่หยุดปาก

                    การสร้างกำแพงเวทคุ้มกัน  ทำให้เมยานาร์ไม่ต้องมัวสนใจกับการโจมตีเล็กๆน้อยๆที่สร้างความรำคาญ  กระนั้นชั่วขณะที่มัวพะวงกับด้านหนึ่ง  มันกลับสูญเสียเหยื่อที่มาดหมายไปแทน

                    ดารูเกนซ์ได้ใช้อาวุธในมือตัดสายรยางค์ที่รัดพาหนะคู่ใจของตนในทันที  แต่ส่วนขั้วของสายที่เพิ่งถูกตัดก็หันมารัดอัศวินผู้นั้นไว้แทน  จากนั้นเมยานาร์ก็สลายกำแพงเวทแล้วยิงลูกไฟยักษ์เข้าใส่ผู้ที่บังอาจมาปล่อยเหยื่อของมันด้วยความโกรธ

                    กระสุนเพลิงพุ่งเข้าใส่ดารูเกนซ์อย่างรวดเร็ว  ขณะที่อัศวินหนุ่มกำลังปลดเปลื้องตัวจากพันธนาการทำให้มิอาจหลบได้ทัน  แต่ก่อนที่เขาจะถูกเพลิงนรกแผดเผา  ลาร์ซมังกรคู่ใจก็กระโจนเข้ามาบังร่างของผู้เป็นนายไว้อย่างรวดเร็ว...

                    ลาร์ซ!!”  อัศวินหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสหายเพียงผู้เดียวของตนรับกระสุนเพลิงเข้าไปเต็มแรง  แม้ว่าที่ผ่านมามังกรของเขาจะทนต่อการโจมตีนานาชนิด  ทว่าครานี้กลับต่างไปอย่างเห็นได้ชัด...

                    ร่างที่เคยทรงพลังและแข็งแกร่ง  บัดนี้กลับแน่นิ่งแทบไร้สัญญาณการมีชีวิต  เหลือเพียงลมหายใจรวยรินแผ่วเบาเท่านั้น  เกล็ดสีน้ำเงินวาวก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำ  ควันสีขาวลอยตลบส่งกลิ่นเหม็นไหม้  ดารูเกนซ์ถึงกับทรุดเข่า  นิ่งมองสหายรักอย่างมิรู้จะช่วยอะไรได้

                    เมยานาร์ส่งเสียงประหลาดคล้ายดั่งการหัวเราะเยาะเย้ย  ดูจะเต็มตื้นที่สามารถจัดการกับเผ่าพันธุ์คู่แค้นลงได้  ดวงตาที่ขึ้นอยู่รอบกายได้แปรเปลี่ยนเป็นสีเหลืองด้วยความรู้สึกสำราญอารมณ์ขึ้นกว่าเดิม  ตอนนี้ก็เหลือเพียงชายในชุดเกราะที่บังอาจมาทำลายร่างทรงของมันถึงสองครั้งสองคราเท่านั้น...  แต่เมื่อเหลือบไปเห็นเป้าหมายกำลังออกควบม้า  ความขุ่นเคืองก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง  มันรีบยิงลูกไฟยักษ์ใส่อย่างต่อเนื่องเพื่อไล่ล่ามิให้ศัตรูตัวร้ายรอดไปได้  ทว่าความเร็วของฝีเท้าม้าก็ช่วยให้โจเอลหลบไปได้อย่างฉิวเฉียด

                    โจเอลทราบดีว่าตนนั้นตกเป็นเป้าหมาย  แม้จะแปลกใจในรูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก  แต่ก็เข้าใจได้ว่าสตรีร่างงดงามกับอสูรกายอัปลักษณ์เป็นตัวเดียวกัน  เขายังนึกไม่ออกว่าจะจัดการกับศัตรูตรงหน้าได้อย่างไร  เพราะแม้จะตัดหัวออกไปแล้ว  ก็ยังไม่วายที่มันจะกลับมาเล่นงานพวกเขาได้อีก  เท่าที่นึกได้ในตอนนี้ก็มีเพียงใช้ตนเองเบี่ยงเบนความสนใจมันไว้ก่อน  หวังเพียงให้ใครสักคนคิดวิธีสังหารมันได้เท่านั้น

                    เมยานาร์ยิงกระสุนเพลิงเข้าใส่ชายในชุดเกราะด้วยความโมโห  จนลืมไปว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้มันไม่อาจสร้างกำแพงเวทคุ้มกัน  ซึ่งพรานเฒ่าจอมฉวยโอกาสย่อมไม่ปล่อยให้ผ่านเลย  ดุ้นฟืนที่มีไฟลุกโชนถูกปาเข้าใส่เจ้าอสูรกายอีกครั้งโดยมีทหารของโจเอลเข้าร่วม  ต่างก็หาท่อนไม้มาต่อไฟให้ติดขึ้นเพื่อจะใช้โจมตี  เมื่อโดนตอบโต้หนักเข้า  เมยานาร์ก็ต้องหยุดการใช้เวทจู่โจมแล้วหันกลับมาป้องกันตัวอีกครั้ง  กระนั้นก็ยังมีสายรยางค์อีกหลายเส้นทำการไล่ล่าศัตรูที่มันชิงชัง

                    โจเอลต้องควบคุมม้าด้วยความยากลำบาก  นั่นเพราะสถานที่ไม่กว้างขวางสักเท่าไหร่  ซ้ำยังต้องหลอกล่อการโจมตีให้ไปยังทิศทางที่จะไม่โดนคนอื่นๆ  สายรยางค์หลายเส้นทำท่าว่าจะกล้ำกรายถึงตัวแต่ก็ถูกสกัดไว้ได้

                    จอร์ชน้าวสายธนูในมืออย่างรวดเร็วปล่อยลูกศรเข้าใส่ปลายของสายรยางค์ด้วยความแม่นยำ  ส่งผลให้พวกมันเฉออกจากทิศทางเดิมซึ่งได้ช่วยโจเอลเอาไว้  ขณะที่ฮานส์ก็ได้ทำลายสายรยางค์พวกนั้นไปหลายเส้นแต่ไม่ช้าพวกมันก็งอกออกมาใหม่อย่างรวดเร็ว

                    สถานการณ์ตรงหน้าทำให้โก๊กเริ่มจะทำอะไรบางอย่าง  ยักษ์ผู้มีผิวสีน้ำเงินนำเชือกเส้นยาวมามัดเข้าไว้กับก้อนหินขนาดพอเหมาะเพื่อจะทำเป็นลูกตุ้ม

                    เจ้าจะทำอะไร?*  ผู้เป็นพี่ร้องขัด

                    ข้าต้องช่วยท่านโจเอล  พี่ข้า  ถึงเวลาแล้วที่เราต้องต่อต้านท่านเมยานาร์  เมื่อท่านทำตามอำเภอใจ  ก็ไม่มีเหตุผลให้เราต้องยำเกรงอีก  หมดเวลาที่จะมาลำเลิกบุญคุณ  เผ่าการ์กอนชดเชยจนเกินพอแล้ว!*”  คำตอบของน้องชายทำให้ยักษ์แดงนิ่งเงียบไป  มาโก๊กรู้สึกสองจิตสองใจอยู่จึงมิได้ขัดขวางหรือเข้าร่วมแต่อย่างใด

                    ทางด้านเมยานาร์นั้นดูจะตั้งใจกับการเล่นงานโจเอลเป็นอย่างมากจนทำให้ละเลยการโจมตีรอบๆตัว  ซึ่งคงเป็นเพราะมีกำแพงเวทคุ้มกันอยู่จึงทำให้มันมิได้ใส่ใจต่อต่อพวกมนุษย์คนอื่นๆ  โดยที่ไม่รู้เลยว่ามนุษย์ผู้หนึ่งกำลังจะกระทำการอันบ้าบิ่นเพียงเพื่อระบายโทสะ...

                    ดารูเกนซ์ซึ่งอยู่ในอารมณ์โกรธจัดปรี่เข้าหาเมยานาร์อย่างรวดเร็ว  อัศวินหนุ่มกระโดดจากฝั่งขึ้นไปอยู่เหนือศัตรู  ร่างในชุดเกราะสีแดงเพลิงยืนอยู่บนกำแพงเวททำให้ดูเหมือนว่าลอยเหนือพื้นอย่างน่าประหลาด  ทีแรกเมยานาร์ไม่ใส่ใจต่อการกระทำที่ไร้สตินั้น  เพราะลำพังกำลังมนุษย์ย่อมมิอาจสร้างความเสียหายให้กับกำแพงเวทอยู่แล้ว

                    แต่สำหรับดารูเกนซ์แล้ว  ความแข็งแกร่งของกำแพงดังกล่าวมิได้สำคัญอะไรเลย  เพราะเขาต้องการเพียงระบายความโกรธอันพลุ่งพล่านใส่ผู้ที่ทำร้ายสหายรักของตนเท่านั้น  อาวุธในมือถูกใช้กระแทกเข้าใส่เป้าหมายโดยใช่ด้านที่เป็นลิ่มแหลม  และการกระหน่ำแทงซ้ำๆก็เริ่มที่จะส่งผลต่อเวทคุ้มกัน  เพราะปรากฏรอยร้าวคล้ายกับแผ่นน้ำแข็งที่กำลังจะแตกอยู่บนกำแพงที่มองไม่เห็นนั้น

                    เจ้าอสูรกายต้องรามือจากโจเอลเป็นการชั่วคราวเพื่อจะจัดการกับดารูเกนซ์  สายรยางค์หลายเส้นตรงเข้าจู่โจมอัศวินมังกร  แม้เขาจะปัดพวกนั้นออกไปได้บ้างแต่สุดท้ายก็ถูกรัดที่ข้อเท้าอยู่ดี  เมยานาร์ยกร่างของผู้ที่สร้างความรำคาญให้กับตนแล้วฟาดลงกับพื้นด้วยความรุนแรง  ส่งผลให้อัศวินหนุ่มสลบลงไปในทันที  และเมื่อมันจะยกร่างนั้นขึ้นฟาดอีกครั้งหวังให้ตายคาที่  ลูกตุ้มที่สร้างขึ้นอย่างชั่วคราวก็รัดไปที่สายรยางค์เส้นนั้นแล้วรั้งไว้ไม่ให้มันยกขึ้น

                    โก๊กใช้อาวุธนั้นเข้าประลองกำลังกับเมยานาร์อีกคราแต่ก็เป็นไปอย่างเต็มกลืน  และเมื่อทำท่าว่าจะเสียหลัก  ใครคนหนึ่งก็ได้เข้ามาช่วยไว้ทันเวลาพอดี...

                    มาโก๊กรั้งร่างของน้องชายอย่างทันท่วงที  เมื่อการณ์ล่วงเลยมาถึงเพียงนี้  เขาก็จำเป็นต้องช่วยอย่างเสียมิได้  การร่วมมือกันของยักษ์ฝาแฝดทำให้เมยานาร์มิอาจเอาชนะได้โดยง่าย  และช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายยังคงยื้อยุดกันอยู่นั้น  ก็เป็นโอกาสให้โจเอลได้ชักม้ากลับมาแล้วใช้ดาบฟันสายรยางค์เส้นนั้นจนขาดสะบั้น

                    ร่างของดารูเกนซ์หล่นลงกระแทกพื้นขณะที่เมยานาร์ร้องโหยหวนขึ้น  มันทำให้โจเอลได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง  ไม่ว่าจะถูกอาวุธอื่นโจมตีอย่างไรสายรยางค์พวกนั้นก็งอกขึ้นมาใหม่ได้ทุกครั้ง  แต่เมื่อฟันด้วยดูรันดานามันกลับมิอาจฟื้นคืนได้  หรือว่ามีเพียงดาบเล่มนี้เท่านั้นที่สามารถสังหารพวกอาร์คีได้?

                    เมยานาร์ที่โกรธเกรี้ยวสลายกำแพงมนต์เตรียมที่จะโจมตีอีกครั้ง  สายฟ้ามากมายแลบแปลบปลาบขึ้นรอบๆร่างอัปลักษณ์  หมายใจจะกวาดล้างพวกมนุษย์ที่น่ารำคาญในครั้งเดียว

                    เฮอร์มคิดจะใช้ไฟเพื่อขัดขวางการโจมตีอันนั้น  ทว่าบัดนี้คบเพลิงก็ได้หมดสิ้นไปแล้ว  ขณะที่การโจมตีอื่นๆก็ไม่สามารถทำให้มันสะดุ้งสะเทือน  แต่ก็ยังมีอีกคนหนึ่งที่สามารถจะยับยั้งเมยานาร์ไว้ได้...

                    ท่ามกลางความโกลาหล  สตรีผู้งดงามก็ก้าวออกมาเผชิญหน้ากับอสูรร้าย  เธอหลับตาพร่ำบ่นขึ้นไม่เป็นภาษา  จากนั้นฝ่ามือเรียวสวยก็ชี้ไปด้านหน้า  ริมฝีปากแดงเผยอส่งเสียงร้องออกมา

                    มานาสโตล!!”

                    สิ้นเสียงกังวานใส  แสงสีขาวเจิดจ้าก็ส่องสว่างกลืนกินร่างของเมยานาร์จนสิ้น  เพียงเท่านั้นลูนาร์ก็หมดเรียวแรงล้มลง  อันเป็นผลจากการใช้เวทสลายพลังนั้น

                    ทว่าเมื่อแสงสว่างจางหายไป  ทุกคนก็แทบจะหมดกำลังใจที่จะสู้ต่อ...  เพราะเมยานาร์มิได้สิ้นกำลังลงด้วยเวทบทนั้น!

                    ไพ่ตายที่เคยสยบยักษ์แดงกลับส่งผลต่อเมยานาร์แต่อย่างใด  ร่างอัปลักษณ์นั้นยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ  ไม่เพียงเท่านั้นมันยังใช้สายรยางค์เข้าจับตัวลูนาร์ไว้  เพราะหญิงสาวผู้นี้คือหนึ่งในของสังเวยที่มันต้องใช้เพื่อที่จะย้ายไปยังร่างทรงใหม่  ทว่าไม่ทันที่เจ้าอสูรกายจะทันได้คว้าตัวหญิงสาว  ชายหนุ่มร่างบอบบางก็เข้ามาขวางจนถูกจับไปแทน  และก่อนที่หนวดอีกเส้นจะทันได้จับตัวลูนาร์ไปอีกหน  ฮานส์ก็เข้ามาป้องกันเอาไว้ได้ทันท่วงที

                    หลังจากที่เมยานาร์ได้จับตัวจอร์ชไป  มันก็เลิกสนใจกับกลุ่มชนที่เหลืออย่างน่าประหลาด  นั่นเพราะที่จริงแล้วเวทของลูนาร์ได้ส่งผลต่อเจ้าอสูรกายอย่างใหญ่หลวง  ซึ่งทำให้มันไม่สามารถใช้เวทได้อีก  และพละกำลังก็ถดถอยลงมาก  เมื่อได้ตัวจอร์ชไปแล้ว  มันจึงคิดที่จะถอนตัวไปก่อน  แล้วค่อยหาวิธีที่จะให้ชายหนุ่มใบหน้าสวยผู้นี้ยอมเป็นร่างทรงให้มันอีกที

                    แต่ความคิดนั้นก็ถูกขัดขวางอีกจนได้  สายรยางค์เส้นหนึ่งของเมยานาร์ถูกรั้งไว้ด้วยลูกตุ้ม  โก๊กพยายามสู้แรงเอาไว้ไม่ยอมให้เมยานาร์หนีไปได้  และเมื่อได้ลองกำลังกันเช่นนี้  ทำให้เขารู้ว่าเรี่ยวแรงของอีกฝ่ายนั้นลดลงเป็นอย่างมาก  ยักษ์ชาวการ์กอนจึงตะโกนร้องบอกโจเอลทันที

                    ท่านโจเอล!  เมยานาร์ถอดแรงไปมากแล้ว  ท่านอย่าได้ปล่อยโอกาสนี้ไปเป็นอันขาด!*  โก๊กเร่งเร้า  นั่นเพราะรู้ดีว่าสถานะของตนย่อมมิอาจหวนคืน  เมื่อได้ทรยศให้กับคนต่างเผ่าไปแล้ว  ก็มีแต่จะต้องกระทำไปให้ถึงที่สุดเท่านั้น

                    โจเอลเองก็ใช้เวลาไม่นานนักในการตัดสินใจ  เพราะหากว่าจอร์ชถูกจับอีกครั้ง  คงเป็นการยากที่จะช่วยสหายของตนกลับคืน  ชายหนุ่มจึงออกคำสั่งทันที

                    ทุกคน!  ช่วยกันตรึงร่างศัตรูไว้  อย่าให้มันหนีไปได้!”

                    คำสั่งนั้นได้รับการตอบสนองในทันที  โดยเฮอร์มเป็นคนแรกที่เริ่มลงมือ  เชือกถูกมัดให้เป็นบ่วงบาศแล้วคล้องสายรยางค์อีกเส้นของเมยานาร์ไว้  อีกฝ่ายนั้นพยายามจะดิ้นให้หลุด  ทว่าพรานเฒ่าย่อมไม่ประมาท  เพราะเชือกเส้นนั้นได้ควั่นกับก้อนหินใหญ่เอาไว้แล้ว

                    ไม่ช้าคนที่เหลือก็ทำตามเฮอร์ม  จากศัตรูซึ่งเคยเป็นที่คร้ามเกรง  กลับถูกพันธนาการจากคนธรรมดาที่ไม่มีฤทธิ์เดชอันใด  พวกม้าศึกถูกใช้ในการลากร่างอัปลักษณ์ให้ขึ้นมาพ้นสระ  ระหว่างนั้นโจเอลก็พุ่งเข้าหาอสูรร้ายแล้วใช้ดูรันดานาตัดสายรยางค์เพื่อช่วยสหายตนออกมา  เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเมยานาร์ดังขึ้นทุกครั้งที่ดาบสีเขียวสร้างรอยแผลให้กับมัน

                    บุตรข้า...  เจ้าจะให้พวกคนนอกมาฆ่าผู้ให้กำเนิดพวกเจ้ากระนั้นหรือ?...  ด้วยกำลังของเจ้าทั้งสองย่อมเอาชนะคนพวกนี้ได้อย่างแน่นอน  มาเถิด!  อย่าได้ทรยศต่อเผ่าและผู้ให้กำเนิดเจ้าเลย!*  เมยานาร์พยายามเกลี้ยกล่อมยักษ์ฝาแฝด  ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้ผลอยู่บ้าง  เพราะทั้งโก๊กและมาโก๊กต่างก็หยุดมือ  อาจจะจริงดังที่มันได้กล่าวออกมา  เมื่อมองดูคนต่างเผ่าที่สาละวนรับมือกับเมยานาร์  คนเหล่านั้นมีเพียงเชือกที่อยู่ในมือ...  และหากลองตรองดูแล้ว  การช่วยคนนอกสังหารมารดาแห่งเผ่าพันธุ์ก็ดูจะเป็นการกระทำที่เกินเลยไปมาก...

                    คนอื่นๆไม่มีใครใส่ใจในคำพูดของเมยานาร์แต่อย่างใด  เพราะพวกเขาไม่เข้าใจในภาษาการ์กอน  มีเพียงโจเอลเท่านั้นที่มองไปยังสองพี่น้องด้วยความหวั่นใจ  ในยามนี้การตัดสินใจเปลี่ยนข้างของทั้งคู่อาจส่งผลต่อทุกคนจนเกินจะหยั่ง  และเขาหวังอยู่ว่าทั้งสองจะไม่เปลี่ยนใจเอากลางครัน

                    อย่ามาหลอกลวงพวกเราอีก  ท่านเมยานาร์!  แม้ท่านจะมีส่วนในการให้กำเนิดเราทั้งสอง  แต่นั่นก็แลกกับชีวิตของผู้เป็นพ่อและแม่ของเรา  ทุกสิ่งที่ท่านให้มาก็เพื่อรักษาอำนาจของตนเท่านั้น!  หากไม่สังหารท่าน  เผ่าการ์กอนจักไม่มีวันได้รับอิสรภาพ!*  โก๊กกล่าวด้วยความเด็ดเดี่ยว  ดั่งลูกธนูที่พุ่งออกจากคันศร  การตัดสินใจของเขานั้นย่อมมิอาจหวนคืน

                    เมื่อได้ยินคำตอบเมยานาร์ก็ร้องขึ้นด้วยความโกรธ  กระนั้นมันก็ยังได้ประโยชน์จากการณ์นี้อยู่บ้าง  สายรยางค์ที่ยังเป็นอิสระพุ่งเข้าจู่โจมยังโจเอลซึ่งมัวให้ความสนใจในยักษ์ฝาแฝด  เป้าหมายนั้นก็เพื่อแย่งชิงดูรันดานา  หากไร้ซึ่งดาบเล่มนี้  อาวุธใดๆก็มิอาจสังหารมันได้  และเมื่อกำลังฟื้นคืนกลับมา  การเอาชนะพวกคนที่ต่ำชั้นก็ง่ายดายราวพลิกฝ่ามือ

                    สายรยางค์พุ่งเข้าหาโจเอลอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะแย่งชิงดูรันดานา  เพราะมัวแต่ให้ความสนใจกับยักษ์ฝาแฝดทำให้ชายหนุ่มมิได้ระวังตัว  ดูรันดานาจึงตกไปอยู่ในมือของศัตรู  ทว่าก็เพียงไม่นาน  เพราะเมื่ออยู่กับเมยานาร์ดาบก็สั่นอย่างรุนแรงจนราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ  เมื่อไม่อาจควบคุมอาวุธนั้นได้  มันจึงขว้างดาบไปปักกับผนังถ้ำเพื่อมิให้ผู้ใดนำมาใช้สังหารตน

                    โจเอลรีบติดตามอาวุธวิเศษในทันที  ทว่าเมยานาร์ก็ใช้สายรยางค์รัดขาของเขาไว้เพื่อขัดขวาง  ฮานส์ที่เห็นว่านายของตนกำลังเสียทีจึงรีบเข้ามาช่วยเอาไว้  สายรยางค์ที่รั้งโจเอลไว้ถูกฟาดจนขาดสะบั้น  เมื่อเป็นอิสระแล้วชายหนุ่มจึงรีบไปคว้าดาบของตนทันที  ขณะที่ฮานส์ก็กระโดดขึ้นไปเหนือร่างเจ้าอสูรกายแล้วใช่ค้อนสงครามกระหน่ำอย่างไร้ความปราณี

                    แต่เมยานาร์ก็มิได้ให้ความสนใจต่อการโจมตีของฮานส์มากนัก  เพราะไม่นานบาดแผลที่ได้รับก็สามารถจะฟื้นคืนได้ดังเดิม  ตอนนี้มันเริ่มส่งเสียงพึมพำไม่เป็นภาษาออกมา  อันเป็นการร่ายคาถาเพื่อจะใช้เวท

                    โดยปกติแล้วเมยานาร์สามารถที่จะใช้เวทได้ในทันที  ทว่าด้วยกำลังที่ถดถอยทำให้จำเป็นต้องใช้เวลาในการรีดเค้นสมาธิ  หลังจากที่เสียงงึมงำไม่เป็นภาษาดังออกมาได้ระยะหนึ่ง  ฮานส์ก็ต้องรีบออกห่างจากร่างศัตรูทันที  นั่นเพราะรอบๆตัวเมยานาร์นั้นได้บังเกิดประจุไฟฟ้าไหลเวียนไปมา  และยิ่งมันร่ายเวทนานเท่าใด  ไฟฟ้าเหล่านั้นก็เพิ่มขึ้นทุกขณะ  ไม่น่าเชื่อว่าด้วยเวลาเพียงไม่นาน  เจ้าอสูรกายจะสามรถใช้เวทได้อีกหน...  กระนั้น  มันก็ยังคงต้องการที่จะรวบรวมพลังให้ได้มากกว่านี้...

                    ขณะเดียวกัน  โจเอลได้พยายามถอนดาบที่ปักไว้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้  ทว่ามันก็ตรึงติดแน่นเกินกว่ากำลังมนุษย์จะสามารถดึงขึ้นได้  เมื่อเห็นดังนั้นมาโก๊กจึงก้าวเข้ามาแล้วดึงดาบเล่มนั้นอย่างสุดแรง  ด้วยพละกำลังที่มหาศาล  ดูรันดานาก็ถูกถอนออกมาเหนือพื้นศิลาด้วยเวลาไม่นานนัก  แต่พอโจเอลขอดาบในมือ  มาโก๊กกลับยืนนิ่งด้วยความลังเล

                    มาโก๊กส่งดาบมาให้ข้า  เราไม่มีเวลามากแล้วนะ*  โจเอลกล่าวอย่างร้อนรน  เพราะเชือกที่รั้งร่างเมยานาร์ไว้เริ่มที่จะขาดลงทีละเส้น  ขณะที่เสียงงึมงำจากเมยานาร์ก็ยิ่งดังในจังหวะที่เร่งเร้ามากขึ้น  กระนั้นยักษ์แดงก็ยังไม่ยอมที่จะขยับเขยื้อน  เหมือนกับว่ายังคงชั่งใจในบางสิ่ง  แต่ไม่นานมาโก๊กก็ปริปากออกมา  เผยให้รู้ถึงความคิดของตน

                    ไม่...  ท่านโจเอล...  ท่านจะสังหารเมยานาร์ไม่ได้...*

    ..........

     

    *  เป็นภาษาการ์กอน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×