ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #70 : : ( KRIS x SUHO ) : - WHEN THE SPRING COMES (OS)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 122
      9
      13 เม.ย. 63

    คุณคิดว่า การจากลาแบบไหนเจ็บปวดที่สุดอย่างนั้นเหรอ 

    สำหรับผม… ไม่ว่าจะจากลาแบบไหน ก็เจ็บปวดไม่ต่างกันหรอก 


    กรมอุตุนิยมวิทยาออกมาเตือนว่า ฤดูหนาวปีนี้นั้นอุณหภูมิจะต่ำลงกว่าหลายปีที่ผ่านมา… คิมจุนมยอนไม่ชอบฤดูหนาว และเขาก็ไม่ชอบอากาศเย็น ๆ เลยสักนิด เพราะความหนาวนั้นทำให้ผิวของเขาแห้งแตกง่าย ๆ และอีกเหตุผลหนึ่ง… เพราะฤดูนี้ไม่เคยใจดีกับเขาเลย



    ร่างโปร่งยืนนิ่งอยู่ริมถนนที่หิมะกำลังโปรยปรายลงมา… ละอองสีขาวโพลนกำลังตกลงมาจากฟ้าอย่างบางแบา แต่ภาพตรงหน้าผมกลับชัดเจน เหมือนกับหัวใจที่กำลังถูกมือที่มองไม่เห็นบีบแน่น… 


    ภาพของคนสองคนกำลังยิ้มให้กันอย่างมีความสุข… มันคงเป็นภาพที่น่าอิจฉา…

    ถ้าหากร่างสูงที่กำลังยกมือขึ้นลูบหัวของอีกคนอยู่นั้นไม่ใช่ของผม 




    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใด… แต่สำหรับคิมจุนมยอนคนนี้กลับรู้สึกว่า มันช่างยาวนานเหลือเกิน คนทั้งสองไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว เหลือเพียงแต่เขาที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ยืนตากหิมะที่เกลียดแสนเกลียดนี้อยู่เพียงลำพัง กว่าจะรู้สึกตัว มือเรียวก็เย็นเฉียบและเจ็บไปหมดแล้ว และมันก็คงถึงเวลาที่ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับความจริงเสียที 


    เจ้าของร่างโปร่งพาตัวเองกลับมาที่คอนโดหรูใจกลางกรุงโซลที่เคยเรียกว่าบ้านได้เต็มบ้าน… แต่ตอนนี้มันกลับไม่อบอุ่น แถมยังหนาวเหน็บไม่ต่างจากข้างถนนเมื่อครู่ด้วยซ้ำ… ดวงตาคู่โตกวาดมองไปทั่วห้อง… ไม่ว่าจะตรงไหนก็เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยกัน 


    แล้วมันผิดพลาดไปตอนไหน… ทำไมคนคนนั้นถึงเลือกที่จะเดินไปหาคนอื่นกันนะ


    ในคราแรก… เขาตั้งใจจะเก็บข้าวของออกไปจากที่แห่งนี้ แต่เหมือนเหลือบไปเห็นกล่องปฐมพยาบาล ความคิดแปลกใหม่ก็ผุดขึ้น… 

    ถ้ามันเจ็บปวดขนาดนี้… หนีไปไหนก็คงเจ็บปวดไม่ต่าง

    หากเลือกตายจากเล่า… จะยังเจ็บปวดอยู่หรือไม่ 





    ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีเข้มเดินกลับเข้ามาในคอนโดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มกว้าง… มือหนาวางถุงกระดาษที่มีกล่องเค้กร้านโปรดของอีกคนไว้บนเคาน์เตอร์ในส่วนของห้องครัว ก่อนที่ดวงตาคู่คมจะสังเกตุเห็นข้าวของของเจ้าของห้องอีกคนที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง 


    โดยปกติแล้วคนรักของเขาค่อนข้างเป็นคนเจ้าระเบียบ และไม่มีทางวางข้าวของไม่เป็นที่เป็นทางแบบนี้แน่นอน… 

    ความกลัวเริ่มเข้าเกาะกินหัวใจของเขาในขณะที่ปากก็เอ่ยเรียกคนตัวบางที่เปรียบเสมือนดวงใจของตน 


    “จุนมยอน!!” 


    หากแต่ไร้เสียงตอบรับ… เขาเดินหาเจ้าของห้องอีกคนไปทั่วคอนโดกว้างที่กินอาณาเขตทั้งชั้นนี้ จนไปหยุดอยู่หน้าห้องน้ำของห้องนอนรับแขกที่มีเสียงน้ำไหลเอื้อย ๆ ไม่หยุด 


    ในวินาทีนั้น… เขาได้แต่เพียงภาวนา… อย่าให้มันเป็นอย่างที่เขาคิดเลย… ริมฝีปากหนาเม้มแน่นแล้วก้มลงมองพื้น มือหนาแสนสั่นเทานั้นค่อย ๆ เอื้อมไปคว้าลูกบิดประตูก่อนจะกระชากมันอย่างแรง 


    ภาพของร่างโปร่งกำลังนั่งอยู่ข้างอ่างอาบน้ำที่เอ่อล้นด้วยน้ำจากฝักบัวที่เปิดอยู่ทำให้เขารีบกระชากคนตัวเล็กให้ออกห่าง… ก่อนจะช้อนตัวโอบอุ้มคนตัวเล็กขึ้นและรีบพาไปโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดทันที… 


    ไม่ว่าจะคิดอย่างไร… เขาก็คิดไม่ออก

    ว่าทำไมคิมจุนมยอนถึงอยากจากเขาไป… ถึงขนาดคิดจะฆ่าตัวตาย 




    ตอนนี้คนตัวเล็กของเขาพ้นขีดอันตรายแล้ว… แต่เจ้าตัวยังไม่รู้สึกตัว มือหนากอบกุมมือเล็กไว้แน่น… อยากจะเอื้อนเอ่ยเรียกให้ตื่นขึ้นมา แต่คุณหมอบอกว่าคนตัวเล็กของเขาต้องพักผ่อน เขาถึงเลือกที่จะนั่งกุมมือคนตัวเล็กอยู่แบบนี้ 


    “คะ… คริสเหรอ…” เสียงแหบพร่าเอื้อนเอ่ยแผ่วเบา แต่ก็ดังชัดให้คนที่กำลังเฝ้ารออยู่นั้นรีบหันมาดูพร้อมกับกุมมือบางที่ยังคงเย็นเฉียบนั้นแน่น…


    “ครับ… ผมเอง… ขอบคุณพระเจ้าที่คุณปลอดภัย… คุณอยากได้อะไรไหม” เสียงทุ้มเอ่ยไม่เป็นศัพท์ทำให้คนที่เพิ่งลืมตาตื่นหลับตาลงอีกครั้งก่อนจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมนั้นพร้อมกับดวงหน้าหวานที่เบือนหน้าหนี


    “กลับไปเถอะครับ… ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ” น้ำเสียงราบเรียบเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่ไม่ลื่นหูสักนิด หากแต่คนตัวสูงกลับยังยืนอยู่ไม่ไปไหน แล้วมองเสี้ยวหน้าของคนป่วยอย่างไม่เข้าใจ 


    “ผมเป็นสาเหตุให้จุนมยอนทำแบบนี้เหรอ” คริสเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ต่างกัน… เขาจำไม่เห็นได้เลยว่าไปทำอะไรให้คนตัวเล็กของเขาขุ่นหมองใจตอนไหน ไม่เคยคิดนอกใจ นอกกายก็ไม่เคยสักครั้ง… 


    “ถ้าใช่… นายจะเดินออกไปจากชีวิตผมไหม”


    “ผมไม่เข้าใจ… แต่ตอนนี้จุนมยอนพักผ่อนก่อนนะ เรื่องนี้เราค่อยคุยกันดีกว่า… หมอบอกว่าไม่ควรทำให้จุนมยอนเครียด…”


    “ออกไป๊!!” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ น้ำเสียงเย็นเยียบตวาดลั่นห้องพร้อมกับดวงหน้าหวานที่หันมาหาเขายิ่งทำให้คริสทำอะไรไม่ถูก… เมื่อเขาเห็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของคนตัวเล็ก…


    “ยะ… อย่าร้อง...ไห้… ผะ...ผมออกไปก็ได้… แต่คุณอย่าร้องไห้ ได้โปรด…” 


    สิ่งที่อู๋อี้ฟานหรือคริสแพ้ที่สุดก็คือ...น้ำตาของคนที่เขารัก




    คริสออกไปอย่างที่เขาต้องการแล้วก็จริง หากแต่ความเจ็บปวดภายในใจยังไม่เลือนหายไปสักนิด… มากกว่าเจ็บปวดคือเขายังไม่ตาย… แถมคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้กลับเป็นคนที่เป็นต้นเหตุด้วยซ้ำ…


    มีคนเคยบอกจุนมยอนว่า… การตายก็เหมือนการหลับไป  

    แต่ทำไมสำหรับเขามันถึงไม่ง่ายเลยสักนิด 


    จุนมยอนจมอยู่กับความคิดตัวเองได้ไม่นานนัก คุณหมอก็เข้ามาตรวจเขาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก เหลือแต่เพียงแค่อ่อนเพลียเท่านั้น สรุปคือคิมจุนมยอนต้องนอนโรงพยาบาลต่ออีกหนึ่งคืน เพราะคุณหมออยากดูอาการและเพื่อให้เขาพักผ่อนให้เยอะกว่านี้ 


    คริสไม่เข้ามาอีกให้เขารำคาญใจ… แต่เป็นเขาเองที่เอ่ยปากเรียกคนตัวสูงนั้นเอง 


    ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องก็จริง แต่กลับไม่กล้านั่งลงใกล้ ๆ เขาเหมือนเดิม คนคนนั้นไม่เคยทำอะไรขัดใจเขาเลยสักครั้ง… แต่ทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างหน้าตาเฉยกันนะ 


    “นายไม่มีอะไรจะพูดกับผมเลยเหรอ” เป็นเขาที่เอ่ยปากถามคนตัวสูงที่ยืนก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าเงยหน้ามองเขาด้วยซ้ำ “ถ้านายไม่มาหา ผมจะลุกไปหานายนะ” 


    เงียบ… 


    คริสก็ยังไม่ขยับตัวมาหาเขาเหมือนเดิม


    “ถ้าผมเข้าไปหาจุนมยอน จุนมยอนก็จะบอกเลิก และจะออกไปจากชีวิตของผมใช่หรือเปล่า” คริสเอ่ยถามเสียงสั่นเทา ในขณะที่ดวงหน้าหล่อเหลานั้นยังคงก้มมองพื้นอยู่แบบนั้นไม่กล้าเงยหน้าสบตาคนตัวเล็กที่อยู่บนเตียง 


    เพราะคริสกำลังกลัวที่จะต้องเห็นน้ำตานั้นอีกครั้ง 


    “ทำไมผมจะพูดไม่ได้… ในเมื่อคุณมีคนอื่น” เสียงหวานว่าแผ่วเบาแล้วเบือนหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างที่ยามนี้ ราตรีกาลได้ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า พร้อมกับเมฆหมอกหนาไร้แสงจันทร์ในคืนเดือนดับนี้ 


    เมื่อได้ยินดังนั้น คนตัวสูงค่อยเงยหน้ามองเสี้ยวหน้าหวานที่เขาแสนรักด้วยสายตาไม่เข้าใจ… เขาจำไม่เห็นได้เลยว่าไปทำอะไรแบบนั้นตอนไหน… 


    “จุนมยอน… วันนี้ผมอยู่แค่ที่ออฟฟิส… คุณจะเช็คกับเลขาหรือกล้องวงจรปิดก็ได้ นอกจากลงมาหาน้องสาวที่เอาขนมของคุณมาส่งให้ ผมก็ไม่ได้เจอใครอีกเลย” คำอธิบายยืดยาวไม่ได้ทำให้ร่างโปร่งขยับกายแม้แต่น้อย… 


    “อย่างนั้นเหรอ… คริสก็จะบอกว่าผมคิดไปเองอย่างนั้นเหรอ” เสียงหวานราบเรียบเอ่ยตอบกลับในที่สุด พร้อมกับดวงหน้าหวานที่หันมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง… “รู้ไหม… ผมหน่ะ ยืนอยู่ตรงนั้นละ… ยืนเห็นคนรักของตัวเอง มอบรอยยิ้มอบอุ่นให้กับใครก็ไม่รู้… ท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บ… ผมยืนอยู่ตรงนั้น…” 


    ในที่สุดคริสก็ยอมแพ้... เขาเดินเข้ามาคว้าคนตัวเล็กแสนรักที่อยู่บนเตียงนั้นเข้ามากอด กดจูบที่ขมับครั้งแล้วครั้งเล่า แม้คนตัวเล็กจะพยายามดิ้นและผลักเขาเท่าไร เขาก็ไม่ยอมปล่อย จนกระทั่งมือเรียวคู่นั้นเลิกทุบตีเขาเปลี่ยนเป็นกำเสื้อเขาแน่น… 


    จุนมยอนของเขาเป็นคนคิดมาก… เขาถึงต้องรักและทะนุถนอมร่างเล็กนี้มากที่สุด แต่เขาก็ไม่คิดว่า จุนมยอนจะไปเห็นตอนที่เขากำลังอยู่กับรุ่นน้องเหมือนกัน เพราะตอนนั้นเขามัวแต่ดีใจที่หาซื้อเค้กร้านโปรดของจุนมยอนมาได้ 


    แต่ใครจะคิดว่าคนตัวเล็กถึงคิดมากขนาดคิดจะหนีจากเขาไปตลอดกาลขนาดนั้นกันนะ… 


    “ผมรักคุณคนเดียวนะครับ… รักมากขนาดนี้ จะทำร้ายคุณได้ยังไง หื้ม…” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบชิดริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนโยน แล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบที่หน้าผากมนละเรี่ยลงมาถึงเปลือกตาและจบที่ริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา 


    ทุกสัมผัสที่เต็มไปด้วยความรักมากมายที่คริสเคยมอบให้มาเสมอ ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรก และเมื่อสมองทำงานช้ากว่าหัวใจเสมอ คนตัวเล็กยกแขนขึ้นกอดตอบคนตรงหน้าแน่น น้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาเหมือนทำนบที่แตก… หัวใจดวงน้อยนี้สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของคนตรงหน้าเหมือนอย่างที่เป็นมา…


    “ขะ… ขอโทษที่คิด…ไปเอง…” คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากที่คนตัวโตยอมถอนริมฝีปากออก มือหนาใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาที่ไหลอยู่ออก ก่อนจะหยิกแก้มนุ่มเบา ๆ แล้วส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร…


    “ไม่เป็นไรครับ… ผมรักจุนมยอนขนาดนี้ จะโกรธได้ยังไงกัน” มือหนายกขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างเบามือ และค่อย ๆ ประคองคนตัวเล็กให้นอนลงบนเตียงคนไข้อีกครั้ง “แต่ตอนนี้คุณต้องพักผ่อนก่อนเข้าใจไหมครับ และพรุ่งนี้เมื่อคุณตื่นมา… จะมีผมอยู่ตรงนี้เสมอ” 


    จุนมยอนพยักหน้ากับถ้อยคำของเขา และยอมหลับตาลงอีกครั้งก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไป โดยมีร่างสูงของคริส อยู่ไม่ห่าง… เขาจ้องมองแผขนตาสวยของร่างโปร่งบนเตียงแล้วก็ยกยิ้มกว้าง… เขาอยากขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ทำให้เขาได้ดูและคิมจุนมยอนคนนี้ และยังไม่พรากคนคนนี้ไปจากเขา… 


    ไม่รู้เพราะอะไร… แต่เขารักคนคนนี้มากมายเหลือเกิน 




    จุนมยอนลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งวันสายวันถัดมา เปลือกตาบาง ค่อย ๆ เปิดออกก่อนจะกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อปรับแสงและโฟกัส แต่เมื่อมองไปรอบห้องกลับไร้เงาของร่างสูงก็หลับตาลงอีกครั้งและถอนหายใจออกมายาวเหยียด… 


    เมื่อคืนช่างเป็นฝันที่แสนดีเหลือเกิน… นั่นสิ มันคงเป็นแค่ความฝันนั่นแหละ 


    คนคนนั้นเหรอจะกอดและจูบเขาด้วยความอ่อนโยนขนาดนั้น ถึงคริสจะไม่เคยรุนแรง แต่ก็ไม่ได้อ่อนโยน และทำให้หัวใจเขาอบอุ่นขนาดนั้นสักหน่อย… แต่ก็อดเสียใจไม่ได้ที่มันเป็นแค่ความฝัน พอคิดได้ดังนั้น… น้ำตาเม็ดโตก็ไหลลงอาบแก้มอีกครั้ง


    “คงไม่ได้เจอแล้วสินะ…” 


    “ไม่ได้เจอใครเหรอครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นเบื้องหลัง ทำให้คนตัวบางที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้รีบหันไปดูคนตัวสูงที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกล่องขนมสีหวานที่มีโลโก้ร้านโปรดของเขาอยู่บนนั้น “ว่าไงครับ ตอนผมกลับไปเอาเค้กนี่ให้คุณ คุณคิดถึงคนอื่นงั้นเหรอ” 


    “เรื่องจริงเหรอ…” จุนมยอนเอ่ยเสียงเบาหวิวและเผลอยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวอย่างลืมตัว ทำให้คนตัวสูงเดาได้เลยว่า เรื่องที่จุนมยอนกำลังคิดอยู่คือเรื่องอะไร ร่างสูงวางเค้กไว้หน้าทีวีแล้วเดินมาที่ข้างเตียงคนไข้ แล้วก้มลงกดจูบที่หน้าผากมน 


    “ตื่นแล้วเหรอครับ… เมื่อกี้ผมเจอคุณพยาบาล เขาบอกว่าคุณยังหลับอยู่เลยยังไม่ได้ทานยา… จุนมยอนหิวไหม” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับลูบกลุ่มนุ่มเบา ๆ เหมือนเมื่อคืนไม่มีผิดทำให้จุนมยอนเข้าใจในทันทีเลย… เขาไม่ได้ฝันไปจริง ๆ 


    “มะ… ไม่… ผมยังไม่หิว” 


    “แต่ต้องกิน เพราะจุนมยอนต้องกินยา เดี๋ยวผมปรับเตียงให้นะครับ” คริสว่าพร้อมกับกดรีโมทปรับเตียงให้คนตัวเล็ก พร้อมกับดึงโต๊ะที่คุณพยาบาลวางถาดอาหารไว้ให้เรียบร้อยแล้วมาให้คนไข้ “สูงไปไหมครับ”


    “โอเคแล้ว… นายไม่ไปทำงานเหรอ” 


    “ไม่ครับ คุณสำคัญกว่างานของผม” ตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง แต่คนที่ได้ยินนี่สิ หน้าร้อนจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว… ปกติคริสค่อนข้างเป็นคนรักษาภาพลักษณ์ และไม่ค่อยทำตัวหวาน ๆ สักเท่าไร แต่เขาก็รู้ว่าคริสแคร์เขามากขนาดไหน ตอนนี้เลยรู้สึก… ผิดมาก ๆ ที่ไม่ยอมฟังคนตัวสูง 


    “ขะ… ขอโทษนะ” 


    “ถ้าจุนมยอนรู้สึกผิดละก็ ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ง้อผมสิ คุณก็รู้ว่าผมแพ้คุณแบบไหน” รอยยิ้มกรุ่มกริ่มถูกยกขึ้นพร้อมกับดวงหน้าหล่อเหลายื่นเข้าไปกดจูบที่แก้มนุ่ม… เจ้าของแก้มทำได้แค่เพียงก้มหน้างุดแล้วหยิบตะเกียบคีบข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างทำอะไรไม่ถูก 


    “กะ… ก็ได้” 


    ดวงหน้าหล่อเหลายื่นหน้าเข้าไปกดจมูกที่แก้มนิ่มอีกครั้ง และผละมานั่งข้างเตียงมองคนที่กำลังกินข้าวอย่างอารมณ์ดี… ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก เขาก็ขออยู่เคียงข้างคนตัวเล็กนี้ไปตลอด จะคอยเป็นคนเช็ดน้ำตา และกอดปลอมยามที่คิมจุนมยอนไม่สบายใจ จะคอยเป็นกำลังใจในวันที่คิมจุนมยอนเหนื่อยล้า


    จะไม่ปล่อยมือเด็ดขาด 


    “งั้นกินเยอะ ๆ เลยนะครับ หมอบอกว่าเย็นนี้คุณก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ถึงหมอจะบอกให้คุณพักผ่อนเยอะ ๆ แต่ผมจะยอมให้คุณง้อหนัก ๆ เลยก็ได้ครับ” 


    จุนมยอนมองหน้าคนตัวสูงข้างเตียงคนไข้ที่พูดเรื่องแบบนั้นโดยไม่รู้สึกเขินอายอะไรเลยด้วยสายตาคาดโทษ แต่เขาก็ไม่อาจต่อกรกับสายตาที่คริสมองมาได้เหมือนกัน ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกดจูบที่ริมฝีปากของคนข้าง ๆ และผละออกอย่างรวดเร็ว 


    “มะ...มัดจำ” คริสยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองอย่างอึ้ง ๆ เขาคบกันมาหลายปีก็จริง… แต่ไม่เคยเลยที่คิมจุนมอยนจะเป็นคนจูบเขาก่อน ไม่ต้องพูดถึงการทำเรื่องแบบนี้นอกสถานที่ ทำไมคิมจุนมยอนถึงได้น่ารักขนาดนี้กันนะ 


    “น่ารักเกินไปแล้ว… คืนนี้คุณไม่ได้นอนแน่ที่รัก” 


    ในที่สุดหิมะก็หยุดตกเสียที ฤดูกาลใหม่กำลังจะมาถึง

    เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่สดใสขึ้นอีกครั้ง 



    END. 


    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ใช่ค่ะ.... จบแล้ว ไม่มีซ่อนใด ๆ เป็นฟิคใส ๆ งอนกันหนัก ๆ หนึ่งเรื่องจบปิ๊งงง

    สวัสดีค่าทุกคนนน ไม่ได้อัพฟิคมาสามปีแย้วววววววว T w T คิดถึงเค้าไหมมม คิดถึงเค้าใช่ม๊าาาา คิดถึงกันแน่ ๆ 5555555555 ด้วยช่วงนี้มีเวลา(??) เลยอยากเขียนอะไรสักอย่างมีพล๊อตในหัว เลยออกมาเป็นฟิคเรื่องนี้ จริงๆ แล้วอยากลงตั้งแต่วันครบรอบแปดปี แต่ไม่ทันค่ะ อุแง้ ยังไงก็ฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอก อ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ และก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านฟิค(โคตร)สั้นเรื่องนี้นะคะ


    รบกวนติดแทก #MOLKrisho ในการหวีดฟิคเรื่องนี้นะฮับบ

    เข้ามาพูดคุยกับเค้าได้ที่ทวิตเตอร์ @Rerenela ได้เรยค่าา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×