คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [KAI x SUHO] IS THAT YOUR LOVE....? --- PART 1/?----
[SHORTFIC] IS THAT YOUR LOVE....?
KAI x SUHO
BY SOULINA
PART :: 1 / ?
การเอื้อนเอ่ยว่ารักใครสักคน... บางครั้งมันก็ยาก...
...เพราะหัวใจของเราทุกคน...
ล้วนกลัวความผิดหวัง...
ร่างบางของเด็กหนุ่มตัวขาวในเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงยีนส์สีเข้มเดินทอดน่องไปตามทางเดินของสวนสาธารณะหลังมหาวิทยาลัยที่เป็นที่นิยมในการมาออกกำลังกายของเด็กหอในทั้งหลาย... เรือนร่างขาวเจ้าของใบหน้าหวานภายใต้แว่นสายตานั้นดูน่ารักจนมีคนเข้ามาอยากทำความรู้จักมากมาย...
...แต่ก็ไม่เคยมีใครได้รู้จักสักคน...
“พี่จุนมยอน!!” เสียงแหลมเล็กของรุ่นน้องดังขึ้น ทำให้ใบหน้าหวานนั้นเบือนไปที่ต้นเสียงทันที... แต่สายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มพราวนั้นก็ต้องชะงักค้าง... เมื่อรุ่นน้องของเขาไม่ได้มาคนเดียว...
“ว่าไงแพคฮยอน” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างพยายามที่จะเป็นปกติที่สุดพร้อมกับขยับยิ้มบางๆอย่างเคย
“พี่กำลังจะไปไหนอ่ะ ไปหาไรกินกันไหม... อ่อ... นี่ไค เอ่อ...ฟะ...แฟนผม” แพคฮยอนเอ่ยขึ้นอย่างร่าเริงพร้อมกับเอ่ยแนะนำคนข้างกายอย่างเขินอาย ดวงตากลมโตของจุนมยอนเหลือบมองคนข้างกายรุ่นน้องเล็กน้อยก่อนจะขยับยิ้มส่งให้แพคฮยอนพร้อมคำตอบ
“มะ...ไม่เป็นไรหรอก... เดี๋ยวพี่จะกลับหอก่อน เผอิญพรุ่งนี้มีสอบน่ะ...แล้วเจอกันที่หอนะ” คำโกหกคำโตถูกเอื้อนเอ่ยพร้อมกับ ร่างบางที่หันหลังออกเดินอีกครั้งอย่างรวดเร็ว...
ถ้าหาก...แฟนของแพคฮยอนไม่ใช่คนคนนั้นเขาคงไม่ทำเรื่องเสียมารยาทแบบนี้...
...ถ้าไม่ใช่คิมจงอินคนนั้น...
ในตอนแรกก็ว่าจะรีบกลับหอ... แต่เรี่ยวแรงที่มีมันก็หมดลงเอาดื้อๆตรงสนามเด็กเล่นที่ไร้ผู้คนเพราะเป็นช่วงใกล้มืดแล้ว... ร่างบางทิ้งตัวนั่งบนชิงช้าเบาๆ อย่างเหม่อลอย... บางทีการไม่กล้าทำอะไรก็รั้งแต่จำทำให้ตัวเองเจ็บปวด...
...ไม่กล้าแม้กระทั่งบอกคนที่แอบชอบว่าชอบ...
แล้วก็ต้องมานั่งเจ็บ ในตอนที่เห็นเขามีคนอยู่ข้างๆแล้ว...
“บ้าชะมัด...” เสียงหวานสบถอย่างหัวเสียก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า... หากเป็นคนอื่นที่เขาไม่รู้จัก... คงจะดีกว่า... ที่จะเป็นรุ่นน้องที่อยู่ข้างห้องของเขา...
คงดีกว่านี้ถ้าไม่ใช่พยอนแพคฮยอน...
...เพราะถ้าเป็นแพคฮยอน..เขาจะต้องเจอหน้าคนคนนั้นบ่อยๆ
...แล้วแบบนี้เขาจะตัดใจได้ยังไงละ...
ครั้นเมื่อปล่อยตัวเองเข้าสู่โลกแห่งความคิดก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเวลาล่วงเลยไปขนาดไหน... กว่าจะรู้สึกตัวรอบข้างก็มืดเสียแล้ว... ร่างบางถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงและออกเดิน... แต่ด้วยความไม่ทันระวังตัว จุนมยอนก็สะดุดพื้นต่างระดับจนล้มหัวเข่ากระแทกพื้นไปเต็มๆ ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วร่าง แต่ก็ไม่มีเสียงร้องออกมาสักแอะ... ร่างบางค่อยใช้มือยันตัวขึ้นก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆกันนั้นและเปิดดูหัวเข่าขาวที่มีรอยถลอกเล็กน้อยเพราะใส่กางเกงขายาว... แต่ความเจ็บที่เข่านี่สิ... มันไม่น้อยไปตามแผลเลย...
“ซวยชะมัด...” จุนมยอนสบถอย่างหัวเสีย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าหยิบทิชชู่ในกระเป๋าออกมากดซับเลือดเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเดินกลับหอที่อยู่ถัดจากสวนสาธารณะแห่งนี้...
จุนมยอนเดินกะเพลกมาจนถึงหน้าหอด้วยใบหน้าซีดที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ... ไม่คิดเลยว่าแผลเล็กๆจะทำให้เขาเดินลำบากมากขนาดนี้ ในขณะที่กำลังจะยกขาก้าวขึ้นบันไดตรงหน้านั้นมือปริศนาก็เข้ามาประคองตัวเขาไว้เสียก่อน... ดวงกลมหันไปมองเจ้าของร่างสูงที่อยู่ข้างๆนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ...
....ไค....
“มีสอบแต่กลับมาป่านนี้... โกหกไม่เนียนเลยนะ” คำพูดถากถางถูกเอ่ยขึ้น ก่อนที่คนพูดจะค่อยประคองร่างบางนั้นขึ้นบันไดไปอย่างทุลักทุเล...
หลังจากพาคนตัวขาวนี้เข้ามานั่งในห้องแล้ว ร่างสูงก็เดินออกไปทันที... จุนมยอนมองแผ่นหลังนั้นอย่างอาลัยอาวรณ์แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่นั้น....
...ไม่กล้าที่จะพูดเองจะไปโทษใครได้...
มือบางคว้ากล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆกับโซฟานั้นออกมาก่อนจะหยิบแอลกอฮอล์ล้างแผลและยาทาออกมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับสำสีก้อนสีขาว... ยังไม่ทันที่จะเริ่มลงมือทำแผลให้กับตัวเอง ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่เขาคิดว่ากลับไปเสียแล้วนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องบางอย่าง...
“มีอะไรเหรอ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด... จะไม่ให้ตกใจได้ไง เขาคิดว่าจงอินกลับไปแล้วหรือไม่ก็ไปหาแพคฮยอนแล้วนี่... แล้วนี่ทำไมถึงกลับมาแบบนี้.... กลับมาทำไม....
“แพคฮยอนบอกให้มาดูพี่” คำตอบที่ทำเอาคนเจ็บนั้นขับยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก... ไม่ใช่เพราะเป็นห่วง... แต่แค่ทำตามสิ่งที่ “แฟน” บอก... แค่นั้นสินะ... นายมันใจร้าย...จงอิน...
“เชื่อฟังกันดีจัง... คบกันนานๆนะ แต่พี่ไม่เป็นไรหรอก นี่ไงเดี๋ยวทำเองได้นายไปหาพยอนเถอะ” เขาพูดออกไปพร้อมกับพยายามเปิดขวดแอลกอฮอล์และใช้สำลีซับมันอย่างไม่สนใจคนที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่มือบางอันแสนสั่นเทานั้นกลับทำออกมาได้ไม่ดีเท่าไรเพราะเขาจิ้มมันลงไปที่ปากแผลตรงๆแทนที่จะเป็นกดซับข้างๆเท่านั้น แก้วตาใสเริ่มเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำสีใสในขณะที่มือเรียวบางนั้นโยนสำลีทิ้งลงพื้นอย่างหงุดหงิดแล้วหันไปหาคนตัวสูง
“ไปซะ!!! พี่สิ.... ถ้านายยังอยู่ตรงนั้น... พี่จะทำอะไรได้... ไปหาแพคฮยอนเถอะนะจงอิน” จงอินยืนนิ่งมองคนตัวบางที่สั่นเทาด้วยตาที่อ่านยาก... คนตัวสูงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่ด้านหน้าของคนเจ็บ... มือหนาหยิบสำลีขึ้นมาใหม่ก่อนจะซับแอลกอฮอล์และกดลงบนแผลและบริเวณรอบๆอย่างเบามือ... ในขณะที่คนตัวบางนั้นนั่งหลับตาเกร็งอย่างทำตัวไม่ถูก...
...อย่าอ่อนโยนได้ไหม...
ถ้านายต้องจำใจ....
อย่าทำให้ฉันเลิกรักนายแบบนี้ไม่ได้สิ...
หลังจากทำแผลให้จุนมยอนเสร็จ ไคก็เดินออกไปจากห้องโดยไม่ลืมล็อกประตูให้กับเขาด้วยซ้ำ... ใบหน้าหวานแย้มยิ้มสมเพชตัวเองก่อนจะก้มลงมองดูหัวเข่าที่มีแผลถลอกน้อยๆ อันที่จริงไม่เห็นจำเป็นจะต้องมาทำแผลให้เขาเลย... แต่ที่มาทำให้ก็คงเป็นเพราะทำตามที่แฟนตัวเองบอกสินะ....
...นายคงรักแพคฮยอนมากเลยสินะ...
ความรักของผม... มันไม่เคยสวยงาม...
ไม่เคยมีเรื่องให้ตื่นเต้น... ไม่เคยแม้กระทั่งพูดคุยด้วยซ้ำ
ร่างบางทิ้งตัวนอนลงบนเตียงหนาหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว... เขาไม่เข้าใจว่ารุ่นน้องตัวสูงกว่าเขาคนนั้นทำไมถึงมาช่วยพยุงเขา... อีกทั้งยังทำแผลให้เขาแบบนี้... ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเจอกันหลายครั้งด้วยซ้ำ แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่ร่างสูงนั้นจะยื่นมือมาให้เขา....
อันที่จริงอย่าว่าแต่ยื่นมือมาเลย.... สายตาคู่นั้นยังไม่เคยชายตามองเขาเลยสักครั้งด้วยซ้ำ...
...ทั้งหมดก็คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นรักพยอนแพคฮยอนรุ่นน้องข้างห้องของเขามากเลยสินะ...
ในขณะที่สมองกำลังคิดถึงสาเหตุ... หัวใจกลับเหมือนถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น.... ความเจ็บที่หัวเข่านั้นไม่อาจเทียบเท่าที่หัวใจเลยสักนิด... คนที่เขาเฝ้ามองมาตลอดกลับกำลังคบกับรุ่นน้องข้างห้องที่เขาแสนจะเอ็นดู...
...จะฝืนยิ้มยินดีก็เจ็บ...
จะร้องไห้เสียใจก็ยิ่งเจ็บกว่า...
พระเจ้าครับ...ไม่มีทางไหนที่คิมจุนมยอนคนนี้จะไม่เจ็บบ้างเหรอหรือครับ...
เวลาผ่านล่วงเลยไปเท่าไรเขาไม่อาจรับรู้... สิ่งที่มาปลุกเขาจากห้วงความคิดอันไร้จุดจบนั้นคือ เสียงเคาะที่หน้าประตูในยามวิกาลนั่นเอง... ดวงตากลมเหลือบมองนาฬิกาที่วางอยู่บนชั้นวางของแล้วก็ต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัย ก่อนจะเดินไปเปิดในที่สุด...
ร่างสูงของคนที่ทำให้เขาไม่เป็นอันทำงานยืนอยู่ตรงนั้น... ใบหน้าคมคายรับเข้ากับผิวสีเข้มได้อย่างลงตัว... ดวงตาคมคู่นั้นที่ไม่เคยชายตาแลมองเขาสักครั้งกลับจ้องเขาไม่วางตา... สาเหตุอะไรเขาไม่รู้และคิดไม่ออกด้วยซ้ำ... ร่างของเขายืนนิ่งมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ จนเจ้าของร่างสูงนั้นเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย
ไคคว้าข้อมือของเขาไว้ก่อนจะลากเขาเข้ามาในห้องโดยไม่ลืมกดล็อกประตูอีกด้วย...
จุนมยอนยืนนิ่งมองคนที่กำลังยืนอยู่กลางห้องอย่างไม่วางตา.... เขาไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่ คิมจงอินคนนี้เดินออกไปจากห้องเขาโดยไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเขาเลยสักนิด... และเขาก็ไม่รู้อีกเช่นกันนั่นแหละว่าทำไมคนคนนี้อยู่ดีๆถึงกลับมาเคาะห้องเขาแถมยังถือวิสาสะเข้ามาในห้องของเขาด้วย....
...แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร...
ตัวของเขาในยามนี้ก็ใช่ว่าจะยินดีที่คนที่เขาแอบชอบและมีแฟนไปแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้...
...เพราะเขาไม่อยากถูกตราหน้าว่าไปแย่งของของใครมา...
ไม่อยากถูกตราหน้าว่าลักกินของของชาวบ้านด้วย...
“มีธุระอะไรอีก?” ร่างบางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ... จงอินเลิกคิ้วเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปากและเดินเข้ามาใกล้... จนเขาต้องถอยห่าง...
...เด็กคนนี้อันตราย...
“หายเจ็บรึยัง” จงอินไม่ตอบคำถามของเขา... คนอายุน้อยกว่าเลี่ยงมันพร้อมกับตอบกลับด้วยคำถามที่ทำให้เขาได้แต่พยักหน้าเป็นคำตอบ... จงอินนั่งลงที่โซฟากลางห้องของเขา ในขณะที่เจ้าของห้องนั้นได้ยืนหลบมุมอย่างไม่ไว้ใจ...
“พี่ควรจะนั่งลงนะ... เดี๋ยวแผลจะอักเสบ...”
“แผลมันก็อยู่ที่ขาของพี่... ไม่เกี่ยวกับนาย” จงอินยักไหล่กับคำตอบของรุ่นพี่เจ้าของห้อง... ร่างสูงลุกขึ้นเต็มความสูงและเดินตรงมายังร่างบางทีเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นนั้น ก่อนที่อ้อมแขนแกร่งจะโอบอุ้มคนตัวเล็กกว่านั้นขึ้นและค่อยๆวางลงบนเตียงหนาอย่างเบามือ... จุนมยอนเบิกตากว้างอย่างตกใจกับการกระทำของรุ่นน้องที่ตนแอบชอบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการขยับตัวร่นหนีขึ้นไปหัวเตียง....
“พี่จุนมยอน... พี่จำไม่ได้จริงเหรอ...” จงอินทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนุ่ม มือหนายื่นไปเกลี่ยแก้มใสเบาๆอย่างเหม่อลอยพร้อมกับเอ่ยออกมา...
“จะ...จำอะไร...”
“จำไม่ได้จริงเหรอครับ... ว่าเราเคยเจอกันก่อนหน้านี้...”
“ใช่... ฉันเคยเจอนายก่อนหน้านี้... ที่ลานกิจกรรมของมหาลัย... แล้วยังไงละ...”
“ไม่ใช่... ก่อนหน้า...นั้นอีก” ดวงตากลมโตมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆนั้นด้วยสายตาไม่เข้าใจ... ดวงตาคมที่แสนเย็นชาคู่นั้นไม่ได้มองเขาอยู่... มันมีแต่ความน้อยใจและตัดพ้อ...
นี่ตัวเขากับจงอินเคยเจอกันมาก่อนหน้านั้นจริงๆเหรอ...
...ทำไมพี่ถึงจำมันได้เลยละ..
“พี่ไม่เข้าใจ” จงอินถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าขาวที่พยายามหดคอหนี... จมูกโด่งกดลงบนแก้มเนียนเบาๆ ก่อนจะผละออกมามองหน้าขาวจัดที่แดงระเรื่อ...
“คบกัน...นะ” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบใกล้ๆ อีกทั้งดวงตาคมคู่นั้นที่อยู่ห่างไปไม่ถึงคืบ... มันช่างยากนักที่คิมจุนมยอนจะสามารถบังคับให้ตัวเองทำเฉยกับคนตรงหน้าได้...
“ทำไมต้องคบกับนายละ... นายมีแพคฮยอนอยู่แล้วไม่ใช่รึ...ไง” เขาพยายามตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุด... แต่มันดูไม่เป็นปกติเลยสักนิดเมื่อมันแสนจะสั่นและขาดความมั่นในเหมือนกับทุกครั้งที่เขาเผลอประหม่าใส่คนตรงหน้า...
“แต่ตอนนี้ผมอยากคบกับพี่...” ตากลมมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจเหตุผลเท่าไร... แค่อยากคบก็จะคบเหรอ ? ถ้าแบบนั้นถ้าอยากเลิกก็จะเลิกเหมือนกันใช่ไหมละ...
“แล้วต่อจากตอนนี้ละ... มันจะเป็นยังไง... ไม่ใช่ว่าต่อจากวันพรุ่งนี้...ก็อยากจะเลิกเหรอ...เห็นพี่ง่ายแบบนั้นเลยรึไง” จุนมยอนเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา... มือบางค่อยๆยกขึ้นลูบใบหน้าของคนตรงหน้าพร้อมกับรายยิ้มแสนเศร้าที่ปรากฏขึ้น.. จงอินก้มลงกดจูบลงบนหน้าผากมน... ก่อนจะเลื่อนใบหน้าไปที่ใบหูขาว...
“ถ้าวันนั้นมาถึง....พี่ก็ฆ่าผมซะสิ....”
“ทะ...ทำไมต้องฆ่าละ... เห็นพี่เป็นคนเลวร้ายขนาดนั้นเลยรึไง” จงอินกระตุกยิ้มกับคำพูดของจุนมยอน ดวงตาคู่สวยที่แสนส่องประกายนั้นอยู่ห่างไม่ถึงคืบ.. ความร้อนรุ่มของลมหาใจที่เป่ารดอยู่ที่พวงแก้วขาวทำให้ดวงหน้าหวานนี้แดงระเรื่อขึ้นอย่างน่ารัก... จงอินกดจมูกลงบนแก้มเนียนอีกครั้งก่อนจะกระซิบชิดริมฝีปาก..
“อาจต้องลองพิสูจน์ดู...” มือบางยกขึ้นดันใบหน้าคมเข้มออกห่างก่อนจะลุกขึ้นนั่ง... แต่ด้วยความลืมตัวทำให้เผลองอเข่าทั้งๆที่ยังไม่หายดีจนเจ้าตัวร้องลั่นร้อนให้คนที่กำลังแกล้งอยู่นั้นต้องถอนหายใจออกมายาวเหยียด... และยอมลุกจากร่างบางนั้นในที่สุด...
มือหนาคว้าขาเรียวมาดูทันที ก่อนจะเอื้อมไปหยิบยาทากับสำลีขึ้นมาทาให้ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่เหนือบาดแผลนั้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาจูบริมฝีปากแดงสดของคนตรงหน้าและผละออกมองใบหน้าขาวที่นิ่งค้างนั้นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย...
“พี่จุนมยอน..........คบกับผมนะครับ”
TBC.
อิโบ้ขอบ่น-----------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีทุกๆคนที่เข้ามาอ่านช็อตฟิคเรื่องนี้นะ... จะบอกว่าเป็นความชั่ววูบที่อยากเอาพล๊อตแบบนี้ไปยัดใส่สักครู่ประจวบเหมาะกับช่วงนี้ตัวโบ้กำลังสครีมไคโฮอย่างหนักหน่วง(?) เลยเขียนเลยฮือออออออออออออ เป็นความท้าทายเล็กๆน้อยๆกับการฟิคให้ได้ฟีลที่น่าอึดอัด... ไม่รู้ว่าทำออกมาได้ดีไหม.. อย่างไรก็ติชมและติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ :)))
โซลิน่า @ 130202 11.14 PM.
ความคิดเห็น