คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [KAI x D.O] It's only U & Me ::ตอนพิเศษ 50%::
ตอนพิเศษ... “หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเป็นเหตุ”
หลายวันต่อมาหลังจากเกิดเรื่องที่ชานยอลกับแพคฮยอนแอบเอารูปเขากับจงอินไปขายให้กับชมรมหนังสือพิมพ์และเขาตามไปวีนเหวี่ยงจนทางชมรมล้มเลิกที่จะทำข่าวนั้น รูปทั้งหลายที่เกลื่อนโรงเรียนนั้นก็เริ่มน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
...แต่บางครั้ง...
เขาก็ลืมคิดไปว่า... การหลอกให้ศัตรูตายใจเป็นพื้นฐานของการทำสงคราม...
เสียงกระแทกฝีเท้าไปตามทางเดินอย่างเอาเรื่องของร่างบางที่กำลังเดินตรงไปที่ห้องเรียนด้วยใบหน้าบูดบึ้งนั้นทำให้หลายคนที่กำลังถือ “หนังสือพิมพ์โรงเรียน” อยู่นั้นแทบจะโยนมันทิ้งไปไม่ทัน... คยองซูเลี้ยวเข้าห้องกวาดตาหาเพื่อนสนิททั้งสองคนต้นเรื่องทันที แต่ก็ไม่พบร่างกายสูงโย่งกับคนตัวเล็กเลยสักนิดจึงหันไปถามเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งอยู่หน้าห้อง
“ปาร์คชานยอลกับพยอนแพคฮยอนมายังอ่ะ” เพื่อนร่วมห้องส่ายหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คยองซูเอากระเป๋าไปวางที่โต๊ะเรียน ก่อนจะออกไปจากห้องทันที...
ถ้าพวกนั้นเป็นคนทำ... คงจะนั่งหัวเราะคิกคักอยู่ในห้องไปแล้ว...
แปลว่าชานยอลกับแพคฮยอนไม่ได้ทำ...
...แล้วใคร?...
...คงไม่ใช่ไอ้เด็กดำนั่นหรอกใช่ไหม...
เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ขาที่กำลังจะตรงไปยังห้องชมรมหนังสือพิมพ์ก็เปลี่ยนเป็นชมรมเต้นทันที.... ซักฟอกทีเดียวให้มันจบคงดีกว่าวิ่งไปวิ่งมาอย่างไม่มีจุดหมาย เพราะถ้าไอ้สองตัวนั้นมันจะหนี ให้ตายยังไงมันก็ต้องหนีให้พ้นอยู่แล้ว...วิ่งตามไปก็เหนื่อยเปล่า เพราะชานยอลขายาวมากเกินไป....
“คิมจงอิน!!” เสียงหวานตะโกนแหวกเสียงดนตรีจากเครื่องกระจายเสียงทำให้คนในห้องทั้งหมดหันมามองเขาเป็นตาเดียว... ร่างสูงของจงอินที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีดำและกางเกงวอร์มเดินออกมาหาเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเล็กน้อยตามแบบฉบับ... ผิวกายสีเข้มชื่นไปด้วยเหงื่อทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
ดวงตากลมมองค้างลืมสิ้นซึ่งธุระที่เดินมาถึงที่นี่ จนร่างสูงอดแกล้งไม่ได้
“ที่มาหาเนี่ยเพราะเหตุผลนี้น่ะเหรอ?”
“บะ.... บ้าเหรอ!! มีเรื่องจะคุยด้วยต่างหากเล่า!!” คยองซูอยากจะบีบคอคนตรงหน้าขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำพูดของคนตรงหน้า... จะแกล้งกันมากเกินไปแล้วนะ...
“พี่มินซอกครับ เดี๋ยวผมขอเวลาสักครู่นะครับ” เจ้าของชื่อพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่จงอินจะคว้าผ้าขนหนูมาพาดคอและจูงร่างบางออกไปยังหลังโรงยิมที่เดิม...
เพราะเป็นเวลาใกล้เข้าเรียนทำให้สวนตอนนี้จะเรียกว่าไร้ผู้คนก็คงไม่ผิด... เมื่อทั้งคู่มาถึงคยองซูก็เปิดประเด็นขึ้นมาทันที
“นายรู้เรื่องหนังสือพิมพ์โรงเรียนวันนี้รึเปล่า?”
“รูปผมกับพี่สินะ” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับเงยหน้ามองต้นไม้ข้างบน และหลับตารับสายลมที่พัดผ่านมาพอดี...
“รู้อยู่แล้ว?”
“แน่สิครับ.... เช็ดเหงื่อให้หน่อยสิ” คนตัวสูงกว่าว่าอย่างไม่สนใจใบหน้าที่กำลังบูดบึ้งนั้นเลยสักนิด... แต่คนตัวบางก็ยอมทำตามแต่โดยดี...
มือบางรับผ้าขนหนูสีขาวจากมือหนามาก่อนจะกดซับเบาๆที่ข้างแก้ม ในขณะที่แก้มของตนนั้นกำลังแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ...
จงอินมองอากัปกิริยาของพี่ชายข้างบ้านแล้วก็อดยิ้มขำไม่ได้... ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่คยองซูจะรู้ไหม แต่หน้าตาและท่าทางของพี่เขาตอนนี้มันน่ารักมากจริงๆ
“เหงื่อเยอะมาก.... ซ้อมนานแล้วรึไง” คยองซูว่าพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างชื้นเหงื่อ ที่เสไปมองที่อื่น ก่อนที่จะเนียนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้างตามแบบฉบับ..
“ก็ตั้งแต่เจ็ดโมง... พี่มาหาผมเพราะแค่เรื่องหนังสือพิมพ์นี่เหรอ?”
“ใช่... นายไม่ได้เป็นคนทำใช่ไหม?”
“ถ้าผมเป็นคนทำละ?”
“พี่จะไม่ทำข้าวเย็นให้นายเป็นเวลาหนึ่งเดือน...ถือเป็นการลงโทษ” คนจะโดนงดข้าวเย็นกลับยิ้มร่าขึ้นพร้อมกับเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้คยองซูมากกว่าเดิม ดวงตาทรงเสน่ห์จ้องเข้าไปในดวงตากลมก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างดูดี
“แลกกับการได้กินพี่ทุกวัน ผมก็โอเค”
“ไอ้เด็กบ้า!! ตอบมาเร็วเลย!!”
“ถ้าผมตอบแล้วผมจะได้อะไรละ”
“อะไรก็เอาไป ตอบมา!!” ดวงตาวิ้บวับของคนตรงหน้านั้นตอกย้ำให้คนตัวเล็กกว่าเริ่มคิดถึงสิ่งที่พูดไป... คยองซูหน้าแดงตาโตถอยห่างคนตรงหน้า ก่อนที่จะได้โวยวายอะไร จงอินก็รวบตัวคนตรงหน้าเข้ามากอด
“พูดแล้วอย่าคืนคำนะ... ผมเองนี่แหละคนทำ” จงอินว่าพร้อมกับจ้องดูปฏิกิริยาจากคนตรงหน้าที่ได้ยินประโยคด้านหลัง... ใบหน้าขาวระเรื่อขึ้นก่อนจะดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่งทีไม่มีที่ท่าว่าจะปล่อยเลย
“ปล่อยเลยนะไอ้เด็กนิสัยไม่ดี ไอ้ตัวดำ ไอ้เหม็นเหงื่อ ไอ้…!!!” จงอินกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นในขณะที่คนตัวบางยังพูดไม่จบ ทำให้ใบหน้าของเขากับของคยองซูห่างกันไม่มาก ซึ่งก็ทำให้คนที่กำลังโวยวายอยู่นั้นเงียบลงทันที
“ถ้ายังโวยวายผมกอดแนบเนื้อจนเสื้อพี่ได้ซับเหงื่อผมทั้งตัวแน่....” ได้ยินดังนั้นร่างบางก็หยุดดิ้นอีกทั้งยังพยายามเอียงหน้าให้ออกห่างมากที่สุดเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย “เป็นการแลกเปลี่ยนเพราะเขายืนยันว่ายังไงก็จะลงให้ได้ทั้งรูปของเราแล้วก็รูปของเพื่อนพี่ ผมก็เลยบอกไปว่าถ้าจะลงก็ช่วยลงเท่าที่เห็นอย่าใส่สีตีความด้วย ก็แค่นั้นละครับ...”
“เท่าที่เห็นนั่นคืออะไรละ”
“ก็เราเป็นแฟนกันก็แค่นั้นแหละครับ” รอยยิ้มพราวปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้ดวงหน้าหวานก้มหน้าลงทันที
“ทำไมบอกไปแบบนี้ละ” ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังฉีกยิ้มกว้างอยู่นั้นหุบลงและแทนที่ด้วยความไม่พอใจทันที
“ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่...”
“แต่ก็ไม่ควรบอกไปไม่ใช่เหรอ”
“เป็นแฟนกับผมมันน่าอายขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือว่ามันทำให้พี่รู้สึกแย่?”
คำถามนี้อีกแล้ว... คยองซูคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาเพียงแค่ส่ายหน้าและบอกไปว่าไม่ใช่แบบนั้นเหมือนทุกที แต่ดูเหมือนครั้งนี้คนตรงหน้าจะไม่ยอมเหมือนทุกที...
ดวงตาคนแน่วแน่และจริงจังจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโต ก่อนที่คยองซูจะเป็นฝ่ายหลบตา และพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของคนตัวสูง....
“ถ้าอย่างนั้น.... มันยังไง....”
“เรา...ห่างกันจนกว่าเรื่องนี้จะซาลงก่อนได้ไหม... คือ... พี่ไม่ได้รู้สึกแย่นะ... แต่ว่า........” จงอินปล่อยอ้อมแขนที่กอดเขาอยู่ ก่อนจะถอยห่างเล็กน้อย... ใบหน้านิ่งกับดวงตาว่างเปล่ามองมาที่เขา... ดวงตาที่เขาไม่เคยรู้จัก...
“แล้วแต่ละกันครับ... ถ้าอย่างนั้นระหว่างนี้... ผมก็ไม่มีแฟนละกัน” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ร่างบางยืนนิ่งตกใจกับถ้อยคำที่จงอินพูด...
ไม่มีแฟน....
นายเอาจริงๆเหรอคิมจงอิน....
คยองซูเดินเข้ามาในห้องเรียนอย่างเหม่อลอย.... เขาไม่เข้าใจ... ทำไมเด็กคนนั้นต้องพูดแบบนั้นด้วย... แค่เขาเขินอายกับเรื่องนี้มันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ....
“แก...แกไหวนะ” แพคฮยอนเอ่ยเรียกพร้อมกับสะกิดแขนบางของคนที่นั่งนิ่งไม่โวยวายอะไรทั้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น... คยองซูพยักหน้าก่อนจะก้มหน้าซุกแขนตัวเองและนิ่งไป....
แพคฮยอนหันไปสบตากับเพื่อนร่างสูงที่ตกใจตาค้างจนแทบหลุดจากเบ้าแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมายาวเหยียด...
อีกคนก็อยากจะเปิดเผย... อีกคนก็อยากเก็บเงียบ...
แล้วความพอดีมันอยู่ที่ตรงไหนกันละเนี่ย
“เป็นไรวะ...” ชานยอลเอ่ยขึ้นพร้อมกับสะกิดอีกคน... ร่างเล็กของเพื่อนที่กำลังสั่นเทาอยู่นั้นชัดเจนเลยว่ากำลังร้องไห้อยู่แต่ที่พวกเขาอยากรู้น่ะคือมันเกิดอะไรขึ้นต่างหาก....
หลังเลิกเรียน คยองซูเก็บของอย่างรวดเร็วและเดินออกจากห้องไปทำให้เพื่อนสนิททั้งสองคนนั้นต้องรีบเก็บของและวิ่งตามไปอย่างรวดเร็วทันที... ในหัวของเขาตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมด... ไม่มีอะไรให้คิด... และไม่อยากคิดอะไร... แค่อยากจะรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด ไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรอีกแล้ว...
“นี่ๆ คยองซูยา... ไปกินไอติมกันไหม” แพคฮยอนเกาะแขนเล็กเขย่าไปมา ในขณะที่คำตอบที่ได้รับนั้นก็แค่ส่ายหน้าไปมาเท่านั้น
“แล้วนี่นายไม่รอจงอินเหรอคยองซู” ชานยอลเอ่ยถามขึ้นซึ่งนั่นทำให้เรียวขาบางที่กำลังเดินอยู่นั้นหยุดลงทันที... ก่อนจะหันไปตอบพร้อมกับเพื่อนตัวสูงที่อยู่ข้างหลัง
“จงอินคือใครเหรอชานยอล... จำไม่เห็นได้เลยว่าเคยรู้จักคนชื่อนี้” โดคยองซูว่าจบก็เดินต่อไป... คำตอบนั้นทำเอาแพคฮยอนกับชานยอลมองหน้ากันและตาโตขึ้นทันที..
...ชัดเลย...
มันงอนกันครับ
ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ร่างบางก็จัดแจงล็อกประตูให้เรียบร้อยก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง คยองซูเปิดหน้าต่างพร้อมผ้าม่านที่ระเบียงข้างที่ติดกับบ้านของจงอินทันทีที่เข้ามาถึงห้องก่อนนอนคว่ำลงจากเตียงและปล่อยให้น้ำตาที่เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อเช้าไหลออกมาให้หมด...
...เด็กคนนั้นทำอย่างที่พูดจริงๆ....
เมื่อตอนกลางวัน ในขณะที่เขากำลังจะไปหาเด็กคนนั้นที่ชมรม ก็พบกับจงอินกับกำลังเดินจูงมือกับเด็กห้องเดียวกันเดินผ่านไปต่อหน้าต่อตา... ไม่มีแม้สายตาหรือคำพูดหรือแม้กระทั่งอาการตกใจที่เขาเห็นสักนิด...
...ถ้านายอยากเล่นแบบนี้พี่ก็ไม่ว่า...
ถ้านายแน่ใจแบบนี้...พี่ก็จะไม่สนใจเหมือนกัน...
50% ----------------------------------------------------------------------
มาอัพก่อนห้าสิบเปอร์ไม่ว่าอะไรหนูนะ TvT/ คือช่วงนี้เค้าสอบนะ เลยไม่ค่อยมีเวลสเท่าไร แต่ก็อยากจะอัพนะ
ไว้เสร็จร้อยเมื่อไร จะมาอัพอีกทีจ้าา
ปล. ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยจริงๆค่ะ TOT โบ้จะพยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุดเลย ฮืออออออออ ขอบคุณจริงๆค่า ; v ;
ความคิดเห็น