คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [KAI x D.O] It's only U & Me
คุณเคยโดนล้อว่าชอบใครบ้างไหมครับ...
...บางครั้งการโดนล้อนั้น อาจทำให้เรา...
เจอคนที่รักที่สุดก็เป็นได้นะ...
“นายชอบจงอินใช่ไหมละ โดคยองซู~~”
เสียงทุ้มของเพื่อนร่วมห้องร่างสูงใหญ่ที่เป็นเพื่อนสนิทของผมดังขึ้น ทำให้กลุ่มเพื่อนสนิทเริ่มจะเริ่มล้อผมอีกครั้งเรื่องรุ่นน้องที่เป็นที่โด่งดั่งของโรงเรียนตอนนี้...
...แต่ผมน่ะ... ไม่ได้ชอบหรอกนะ
“จะเป็นงั้นได้ไงเล่า ฉันยังไม่เคยเห็นหน้ามันเลยด้วยซ้ำ จะไปชอบได้ไง” ผมตอบมันกลับไปพร้อมกับส่ายหน้ากับความปัญญาอ่อนของเพื่อนในกลุ่ม...
ว่าตามตรง... ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องบ้าๆนี่มันมีจุดเริ่มต้นมาจากตรงไหน เอาจริงๆก็ยังงงอยู่เลยด้วยซ้ำ...
...แต่มันก็คงไม่พ้นเรื่องที่ผมคุยกับพี่ชายข้างบ้านนั่นแหละ...
“นายจะไม่เคยเห็นหน้ามันได้ไง ?! เมื่อห้านาทีก่อนนายยังเดินสวนกับมันแล้วยังส่งยิ้มให้มันอยู่เลย อีกทั้งเมื่อสามวันก่อนนายก็เดินกลับบ้านกับจงอินแบบนั้นไม่เรียกว่าเห็นหน้าก็ต้องเรียกว่า รู้จักน่ะสิ” เพื่อนตัวสูงของผมร่ายยาว จนผมเริ่มขมวดคิ้ว ผมมั่นใจมากว่าตอนนี้สมองของผมกำลังประมวลผลจากคำพูดของปาร์คชานยอลอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อหาคำตอบให้กับมัน และเพื่อนสนิทอีกสองคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆกัน...
มันคือคิมจงอิน ?
จงอินเดียวกันกับที่เป็นคนดังของโรงเรียนตอนนี้ ?
ถ้าแบบนั้น.....
“มันจงอินคนเดียวกัน ?”
“คนเดียวกันอะไรของแกวะ คยองซู” ชานยอลถามผมอีกครั้ง หลังจากที่ผมเผลอหลุดปากออกไปเมื่อสักครู่...
บางทีโลกก็กลมเกินไป.....
เพราะถ้าจงอินคนนั้นที่ผมรู้จักกับจงอินที่ทุกคนรู้จักเป็นคนคนเดียวกันละก็...... ผมคงหาข้อแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ง่ายๆแน่!!!
“เปล่า... ไอ้เด็กที่พึ่งเดินผ่านไปเมื่อกี้คือคิมจงอินที่เป็นนักเต้นเท้าไฟของโรงเรียนที่คนกว่าครึ่งชอบมันอ่านะ?” ผมย้อนถามมันอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เพื่อนตัวเล็กของผมที่พยอนแพคฮยอนเป็นคนตอบแทนชานยอลที่ยืนตาโตกับคำถามของผมเมื่อครู่
“เออ นั่นแหละ แล้วนายชอบมันใช่ไหม”
“ใครมันจะไปชอบไอ้เด็กตัวดำนั่นกัน ไม่เว้ย ไม่ๆ ถามจริงนี่ติดใจเรื่องนี้มานานแล้วป่ะเนี่ย” ผมปฏิเสธอีกครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกร้อนๆที่หน้าด้วยก็ไม่รู้...
ผมรู้จักกับน้องมันจริง แต่มันก็แค่น้องชายข้างบ้านที่พี่ชายมันฝากให้ผมดูแลมันด้วยก็แค่นั้น ไม่เห็นจะแปลกเลยถ้าจะกลับบ้านพร้อมกันน่ะ
“เออ นานแล้ว”
“คิดอะไรบ้าๆแบบนี้ได้นานสมกับเป็นพวกนายเลยจริงๆ” ผมว่าพร้อมกับทำหน้าเซ็งสุดขีด...
“ไม่ต้องมาทำเซ็งเนียน ไม่ชอบแต่รักเลยใช่ป่ะละ” ชานยอลยังคงไม่เลิกล้อมความคิดที่จะซักคำตอบจากผมที่ตอบออกไปหมดแล้ว.... ก็คงไม่ได้ชอบจะให้รักได้ไงวะไอ้เอ๋อ
“รักบ้ารักบอไรเล่า ก็แค่เด็กข้างบ้าน”
.
.
.
“รักบ้ารักบอไรเล่า ก็แค่เด็กข้างบ้าน”
คำพูดของรุ่นพี่ที่อาศัยอยู่บ้านข้างๆกันนั้นทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไร... การที่เพื่อนๆของรุ่นพี่ร่างบางซักเรื่องแบบนี้กับพี่เขาก็น่าสนุกอยู่ไม่น้อยเลยเลือกที่จะเดินตามห่างๆเพื่อแอบฟัง แต่คำตอบที่ได้ยินนี่ทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ...
ร่างสูงก้าวยาวๆเดินไปทางกลุ่มของรุ่นพี่ข้างหน้าก่อนจะคว้าข้อมือบางของคนต้นเรื่องและออกแรงลากให้เดินตามมาโดยไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ... ซึ่งนั่นเรียกสายตาสงสัยให้กับรุ่นพี่อีกสองคนที่ยืนมองงงๆได้เป็นอย่างดี...
“ไอ้บ้า! ทำไรเนี่ย ปล่อยนะเว้ย!” เสียงหวานตวาดดังลั่นทำให้รุ่นพี่และรุ่นน้องทั้งหลายที่อยู่บริเวณนั้นหันมามอง ก่อนจะจับกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว
มันเกิดอะไรขึ้น...
ร่างสูงลากคยองซูมาที่หลังโรงยิมที่เป็นสวนพักผ่อนของทางโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไร จงอินกดไหล่ร่างบางลงกับกำแพงโรงยิมก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะซบลงที่ไหล่บางของคนตรงหน้า
“พี่ใจร้ายนะ” เสียงทุ้มพูดขึ้นในที่สุดหลังจากที่ความเงียบปกคลุมไปสักพัก
“ใจร้ายอะไร... ปล่อยเลยนะ นี่มันที่โรงเรียนนะ” คยองซูว่าพร้อมกับพยายามดันไหล่ร่างสูงให้ออกห่าง... จงอินยอมผละจากไหล่บางนั้นอย่างโดยดี มือหนาจับไหล่บางทั้งสองไว้แน่นก่อนที่ดวงตาคมจะจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมของคนตรงหน้า...
“ถ้าไม่ใช่ที่โรงเรียน... ก็ไม่เป็นไรงั้นเหรอ” ร่างสูงเอ่ยด้วยรอยยิ้มร้ายที่มุมปาก ซึ่งเรียกใบหน้าระเรื่อของคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น... เป็นอะไร” เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมกับมือบางที่ยกขึ้นแนบแก้มของรุ่นน้องตรงหน้า
“โมโห” คำตอบสั้นๆทำให้ใบหน้าหวานซีดลง ก่อนจะก้มหน้าลงแทบจะชิดอกของตัวเอง เมื่อเห็นดังนั้นคนโมโหก็ใช้มือหน้าข้างหนึ่งเชยคางคนตรงหน้าขึ้นให้สบตาเขา
“จะไม่ถามหน่อยเหรอ.... ว่าโมโหเรื่องอะไร” คยองซูสะบัดหน้าหนีสายตาคมกริบของคนตรงหน้าที่ทำนิสัยเสียเสมอเมื่ออยู่กับเขาสองคน...
...เพราะแบบนั้นถึงไม่รู้ไงว่ามันเป็นคนเดียวกันกับที่คนดังของโรงเรียนน่ะ...
“นิสัยเสียแบบนี้คิมจงอิน ตัวจริงเลย” เสียงหวานว่าพร้อมกับดันไหล่คนตรงหน้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหมือนจงอินจะไม่ยอมถอยง่ายๆเหมือนครั้งที่แล้ว...
“พี่ยังมีคดีติดตัวนะ”
“คดีอะไร”
“ใครกันนะ... บอกว่าไม่ได้ชอบหรอก” เมื่อคนตรงหน้าเริ่มแจ้งข้อหาเขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่จงอินบอก
“....”
“ไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ...”
“....”
“เป็นแค่เด็กข้างบ้าน”
“อันต่อไปห้ามนะ!!!” คยองซูว่าขึ้นเสียงดังพร้อมกับมือบางที่ยกขึ้นปิดปากคนตรงหน้าเมื่อบอกจะเดาได้
“ไม่พูดก็ไม่พูด.... แล้วพี่พูดทำไมละครับ”
“ก็มัน....ไม่รู้นี่นา... ว่าจะได้ยินน่ะ”
“ใจร้ายจริงด้วย..” จงอินกล่าวหาเขาอีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาจูบเขาเบาๆ และผละออก ก่อนจะเลื่อนใบหน้ามากระซิบถ้อยคำหวานที่ข้างใบหูขาว
“แต่ผมก็รักคนใจร้ายอย่างพี่ไปแล้วจริงๆ”
“พูดมันได้ทุกวันเลยนะ” ดวงหน้าหวานแดงซ่านเอ่ยขึ้นอย่างแก้เขิน... ดวงตากลมเสมองไปทางอื่น อีกทั้งมือบางทั้งสองข้างก็ยังคงพยายามดันไหล่หนาให้ออกห่างจากตัวอีกด้วย ซึ่งก็ยังไม่เป็นผลเหมือนเดิม
“แต่ใครบางคนก็ไม่เคยพูดเลย”
“ใครจะไปกล้าเหมือนนาย... ปล่อยได้แล้วนะ” เสียงหวานว่าอีกครั้ง แต่อีกคนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยจนกระทั่งจงอินเลื่อนใบหน้าคมเข้ามาใกล้จนคนตัวเล็กหดคอหลับตาปี๋... ภาพที่คยองซูเป็นแบบนั้นทำให้ร่างสูงเผลอยิ้มออกมาก่อนจะฟัดแก้มขาวไปทีและผละออก
“ทำตัวน่ารักแบบนี้ไม่บอกทุกวัน กลัวว่าจะลืมว่ามีแฟนแล้ว”
“ใครจะไปลืมเด็กตัวดำนิสัยเสียกันละ” เสียงหวานว่าพร้อมกับนิ้วชี้ที่จิ้มหน้าผากเด็กดำอย่างแรง คนโดนจิ้มนิ่วหน้าอย่างเอ็นดูก่อนจะรวบคนตัวเล็กมากอดอีกครั้ง
“เจ็บนะพี่... แบบนี้ต้องโดนลงโทษรู้ไหม” ไม่ว่าเปล่า ใบหน้าหล่อเหลานั้นยื่นเข้ามาใกล้อีกครั้ง มือบางยกขึ้นดันหน้าของจงอินให้ออกห่างก่อนจะหัวเราะร่าเมื่อเห็นคนอายุน้อยกว่าหงุดหงิดเล็กน้อย
“นายก็เล่นแรงไปแล้วนะ.... แล้วคิดบ้างไหมเนี่ยว่า ถ้าเรื่องนี้คนอื่นรู้แล้วพี่จะเป็นไง”
“เป็นแฟนผมไง ไม่เห็นจะยาก” ตอบได้สิ้นคิดมาก... แต่มันก็เป็นเรื่องจริง คยองซูคิดในใจก่อนจะยิ้มกว้างอีกครั้ง...
“ไอ้เด็กดำเอ้ย!! ไปหาไรกินกัน พี่หิว”
“กินผมไง จะได้หายหิว” จงอินตอบขึ้นทันทีที่เขาพูดจบ... คำตอบนั้นทำให้ร่างบางแทบอยากจะวิ่งเอาหัวไปทิ่มกับดินที่ไหนสักที่ให้มันหายร้อน..
...ไอ้เด็กดำนิสัยไม่ดีชอบแกล้ง...
“ล้อเล่นครับ... ไปสิผมจะได้พาพี่ไปส่งคืนเพื่อนๆด้วย”
“หมายความว่าจะไม่ไปกินด้วยกัน ?”
“เดี๋ยวผมต้องไปชมรม... ขอโทษด้วยนะครับ” จงอินว่าพร้อมกับยื่นมือมาไล้แก้มนิ่มเบาๆ ดวงหน้าหวานพยักหน้ารับ ก่อนจะปัดมือหนานั้นทิ้งและพูดขึ้น
“เอาเถอะ ยังไงเย็นนี้นายก็ต้องมากินข้าวที่บ้านพี่อยู่แล้วนี่เนอะ” รอยยิ้มน่ารักถูกส่งให้กับคนตรงหน้า จงอินยิ้มตามแฟนตัวเองก่อนที่มือหนาจะเอื้อมมากุมมือบางไว้แล้วเดินไปที่โรงอาหารด้วยกัน
.
.
หลังจากส่งคนตัวบางเสร็จจงอินก็เดินไปชมรมต่อ ซึ่งคนที่พึ่งถูกคืนตัวมานั้นกำลังนั่งก้มหน้ามองจานข้าวพร้อมกับพยายามหลบเลี่ยงสายตาเพื่อนสนิทอย่างชานยอลกับแพคฮยอนที่จ้องอย่างสงสัย รวมไปถึงรุ่นพี่รุ่นน้องทั้งหลายที่นั่งอยู่ในโรงอาหารนี้ด้วย
“ไหนว่าไม่รู้จักไงวะ... กลับมาหน้าแดงคอเป็นรอยนี่คืออะไร” ชานยอลเอ่ยขึ้นในที่สุด ซึ่งมันยิ่งทำให้คยองซูอยากเอาหน้าซุกจานข้าวแล้วบึ้มกลายเป็นลมพัดหายไปจริงๆ
“ไม่ใช่แบบนั้น....”
“มันมากกว่านั้นใช่ป่ะล่ะ!!?” แพคฮยอนเสริม... มันยิ่งทำให้เขาอยากหายตัวไปตอนนี้จริงๆนะ.... ทำไมทุกคนอย่างรู้ขนาดนั้นละ ไอ้เด็กดำนั่นมันก็ยังทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้เขาอีก เย็นนี้นายตายแน่คิมจงอิน!!
“ใครจะไปเป็นอะไรกับไอ้เด็กดำนั่นกันละ!! ไม่เอาน่า... รีบกินข้าวกันเถอะ จะได้เวลาเข้าเรียนแล้วนะ” เขาว่าพร้อมกับรีบตักข้าวใส่ปากอย่างรวดเร็ว และลุกขึ้นไปเก็บจานอย่างมีพิรุธ
ชานยอลกับแพคฮยอนเห็นแล้วก็ต้องส่ายหน้าไปอย่างอย่างเอือมๆกับคนที่โกหกไม่เนียนเลยสักครั้ง... ถ้าไม่มีอะไรน่ะ เขาไม่หน้าแดงกันหรอกนะ โดคยองซู….
.
.
.
“ไอ้เด็กดำ!! ไอ้เด็กบ้า!! ไอ้เด็กทำไรไม่คิด!!” เสียงหวานตะโกนลั่นในสวนหลังโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีคน... ยิ่งเป็นเวลาหลังเลิกเรียนแล้วแบบนี้ยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่... มันเหมาะมากที่จะระบายอารมณ์เสียๆที่เจอมาตลอดทั้งบ่ายเพราะใครบางคน...
ทำอะไรไม่คิดหรือตั้งใจให้มันเป็นแบบกันแน่นะ...
“คนใจร้ายว่าผมอีกแล้วนะ” เสียงทุ้มดังขึ้นที่ด้านหลังทำให้คนตัวบางหันขวับไปทันที คิมจงอินยืนกอดอกพิงต้นไม้ใหญ่อยู่พร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก
“เด็กอย่างนายมันสมควรถูกว่าแล้วละ!!” จงอินถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเดินตรงมาคว้าร่างบางเข้ามากอดแน่น...
“เป็นแฟนกับผมมันน่าอายขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยที่ข้างใบหูขาวทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดนั้นเริ่มเย็นลง พร้อมกับความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้น
“มะ...ไม่ใช่นะ...คือ....”
“ถ้ามันน่าอายแล้วทำให้พี่ลำบากใจขนาดนั้น.....”
“ฉัน – ไม่ – เลิก” ยังไม่ทันที่จงอินจะพูดจบ เสียงหวานก็โวยวายขึ้นมาก่อนดวงตากลมเงยสบดวงตาคมที่อยู่ห่างไม่มากนั้นด้วยสายตาจริงจังมากกว่าครั้งไหนๆที่ผ่านมา
“แล้วพี่หงุดหงิดอะไรละเนี่ย”
“หงุดหงิดดิ... โยนปัญหาให้พี่แก้คนเดียว ใครมันจะไม่หงุดหงิดบ้างวะ นายมันเป็นคนขอฉันคบนะเว้ย ทำไมไม่มาช่วยกันรับผิดชอบละ ไม่เห็นในโรงอาหารรึไง ฉันแทบเป็นบ้าตายนายรู้ใช่ไหม แต่นายจงใจทำใช่ไหมละ!!” คนที่ยังไม่หายหงุดหงิดนั้นก็ยังคงโวยวายต่อไป...
ใครจะเชื่อว่าคนนิ่งๆที่ดูเหมือนจะตามใครไม่ทันพอโวยวายขึ้นมาก็แสบใช่ย่อยแบบนี้ละ... แต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาเห็นมานานแล้ว... ตั้งแต่ที่พี่คยองซูย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านข้างๆตั้งแต่เขายังเป็นเด็กตัวเล็กๆอยู่เลย
“ขอโทษนะครับ..”
“ไม่ยกโทษให้”
“ใจร้าย....”
“ใจร้ายอยู่แล้ว...”
“นั่นสินะ...”
“แล้วจะอยู่อย่างนี้อีกนานไหม?”
“อยากกลับบ้านแล้วเหรอ”
“ใช่... หิวข้าวแล้วด้วย...”
“บอกรักผมก่อนแล้วจะปล่อย” คยองซูค้อนขวับให้คนที่ทำตัวเหมือนจะดีเมื่อครู่ ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของจงอินและกระซิบถ้อยคำที่คนตัวสูงนั้นได้อยากได้ยิน ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะเลื่อนเข้ามากดจูบที่ปากบางเบาๆ
“ฉันรักนาย...คิมจงอิน”
.
.
.
เช้าวันต่อมาร่างบอบบางเดินเข้ามาที่ห้องเรียนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนทุกวัน แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อสายตาของเพื่อนทั้งห้องนั้นจ้องมาที่เขาเพียงคนเดียว ก่อนที่ทุกคนจะกลับไปนั่งที่ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ปาร์คชานยอลนี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ” เสียงหวานเอ่ยกับไอ้เพื่อนตัวสูงที่ดูท่าทางมีพิรุธสุดก่อนเป็นคนแรก ก่อนจะกวาดสายตาไปยังเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆที่นั่งหน้าตาตื่นกันเต็มที่...
“เปล๊า!! ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่งก่อนสินั่งๆๆๆ” พิรุธเต็มที่เลยเถอะไอ้โตแต่ตัว!! ก่อนที่เขาจะอ้าปากซักเพื่อนตัวสูงของเขามากกว่าเดิม ร่างเล็กของเพื่อนสนิทอีกคนก็วิ่งเข้ามาพร้อมข้อมูลใหม่...
“เฮ้ยชานยอล!! รูปฮยองซูกับน้องจงอินขายดีมากเลยวะ ชม....รม.......... ฮยองซู!!!”
ดวงตากลมหันไปสบตาเพื่อนรักพร้อมกับยิ้มกว้างรอยยิ้มหวานๆที่เพื่อนเห็นแล้วรู้สึกขนลุกตามไม่ได้... ชานยอลมองหน้าแพคฮยอนที่โผล่เข้ามาอย่างผิดจังหวะด้วยใบหน้าที่สะพรึงเต็มที่....
“ไอ้หมา!! เข้ามาไม่ดูเลยนะ!!”
“แล้วทำไมแกไม่โทรบอกละวะ!!”
“พอทั้งคู่นั่นแหละ!!!! ไหนบอกมาสิ..... ถ้าบอกตรงๆจะไม่ว่าอะไร” ชานยอลตาโตก่อนจะหยิบรูปที่เป็นประเด็นส่งให้คนตัวเล็กกว่า... ซึ่งแพคฮยอนที่ยืนอยู่นั้นรีบวิ่งเข้ามาจะคว้าไว้ แต่ก็ไม่ทันเพราะคยองซูคว้าไปก่อน...
รูปเขากับจงอินจูบกันในสวนหลังโรงเรียนเมื่อวานนั้นปรากฏอยู่ตรงหน้า ดวงหน้าหวานแดงซ่านขึ้นพร้อมกับความเขินอายที่กำลังเพิ่มขึ้น มือบางขย้ำรูปนั้นทิ้งพร้อมกับชี้หน้าเพื่อนสนิททั้งสองและเอ่ยประโยคที่ทั้งสองคนได้ยินแล้วแทบอยากจะหายไปเดี๋ยวนั้น...
“รูปหลุดพวกนายสองคนลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์โรงเรียนแน่ไอ้เพื่อนบ้า!!!!!”
END…
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Let's a little talK :: TAT... จริงจังว่าเป็นฟิคชั่ววูบ แบบหน้ามืดวูบพร้อมจะเป็นลม และเป็นฟิคที่เขียนเร็วมาก และมากที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา = = เอาจริงจัง.... โบ้ไม่ได้ตามเอกโซ TOT แต่ไทม์ไลน์ทวิตเตอร์โบ้มีแต่เอกโซ....
และฟิคเรื่องนี้ก็เป็นของขวัญปีใหม่ล่วงหน้าให้กับเพื่อนๆในเอกทุกคนกันนะคะ เลยลองเขียนเอกโซดู...
ก็... เป็นอย่างไรก็แวะเวียนไปพูดคุยกันผ่านทวิตเตอร์นะคะ... ---> http://twitter.com/narasis
แล้วพบกันเรื่องหน้าจ้าา
ปล. คู่ที่พวกเธออยากอ่านฉันเขียนให้ไม่ได้จริงๆขอโทษด้วย
ปล๒. ถึงเขียนได้ฉันก็ไม่เขียน เพราะมันไม่ปลอดภัยกับชีวิตฉัน
ปล๓. ยังจะมีเรื่องหน้าอีกเหรอ TAT
ความคิดเห็น