ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #1 : [KAI x D.O] It's only U & Me

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 55


     

     

    คุณเคยโดนล้อว่าชอบใครบ้างไหมครับ...

    ...บางครั้งการโดนล้อนั้น อาจทำให้เรา...

    เจอคนที่รักที่สุดก็เป็นได้นะ...

     

     

                    “นายชอบจงอินใช่ไหมละ โดคยองซู~~

     

     

                    เสียงทุ้มของเพื่อนร่วมห้องร่างสูงใหญ่ที่เป็นเพื่อนสนิทของผมดังขึ้น ทำให้กลุ่มเพื่อนสนิทเริ่มจะเริ่มล้อผมอีกครั้งเรื่องรุ่นน้องที่เป็นที่โด่งดั่งของโรงเรียนตอนนี้...

     

     

                    ...แต่ผมน่ะ... ไม่ได้ชอบหรอกนะ

     

     

                    “จะเป็นงั้นได้ไงเล่า ฉันยังไม่เคยเห็นหน้ามันเลยด้วยซ้ำ จะไปชอบได้ไง” ผมตอบมันกลับไปพร้อมกับส่ายหน้ากับความปัญญาอ่อนของเพื่อนในกลุ่ม...

     

     

                    ว่าตามตรง... ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องบ้าๆนี่มันมีจุดเริ่มต้นมาจากตรงไหน เอาจริงๆก็ยังงงอยู่เลยด้วยซ้ำ...

     

     

    ...แต่มันก็คงไม่พ้นเรื่องที่ผมคุยกับพี่ชายข้างบ้านนั่นแหละ...

     

     

    “นายจะไม่เคยเห็นหน้ามันได้ไง ?! เมื่อห้านาทีก่อนนายยังเดินสวนกับมันแล้วยังส่งยิ้มให้มันอยู่เลย อีกทั้งเมื่อสามวันก่อนนายก็เดินกลับบ้านกับจงอินแบบนั้นไม่เรียกว่าเห็นหน้าก็ต้องเรียกว่า รู้จักน่ะสิ” เพื่อนตัวสูงของผมร่ายยาว จนผมเริ่มขมวดคิ้ว ผมมั่นใจมากว่าตอนนี้สมองของผมกำลังประมวลผลจากคำพูดของปาร์คชานยอลอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อหาคำตอบให้กับมัน และเพื่อนสนิทอีกสองคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆกัน...

     

     

    มันคือคิมจงอิน ?

    จงอินเดียวกันกับที่เป็นคนดังของโรงเรียนตอนนี้ ?

    ถ้าแบบนั้น.....

     

     

    “มันจงอินคนเดียวกัน ?”

    “คนเดียวกันอะไรของแกวะ คยองซู” ชานยอลถามผมอีกครั้ง หลังจากที่ผมเผลอหลุดปากออกไปเมื่อสักครู่...

     

     

    บางทีโลกก็กลมเกินไป.....

     

     

    เพราะถ้าจงอินคนนั้นที่ผมรู้จักกับจงอินที่ทุกคนรู้จักเป็นคนคนเดียวกันละก็...... ผมคงหาข้อแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้ง่ายๆแน่!!!

     

     

     

    “เปล่า... ไอ้เด็กที่พึ่งเดินผ่านไปเมื่อกี้คือคิมจงอินที่เป็นนักเต้นเท้าไฟของโรงเรียนที่คนกว่าครึ่งชอบมันอ่านะ?” ผมย้อนถามมันอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เพื่อนตัวเล็กของผมที่พยอนแพคฮยอนเป็นคนตอบแทนชานยอลที่ยืนตาโตกับคำถามของผมเมื่อครู่

     

     

    “เออ นั่นแหละ แล้วนายชอบมันใช่ไหม”

     

     

    “ใครมันจะไปชอบไอ้เด็กตัวดำนั่นกัน ไม่เว้ย ไม่ๆ ถามจริงนี่ติดใจเรื่องนี้มานานแล้วป่ะเนี่ย” ผมปฏิเสธอีกครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกร้อนๆที่หน้าด้วยก็ไม่รู้...

     

     

    ผมรู้จักกับน้องมันจริง แต่มันก็แค่น้องชายข้างบ้านที่พี่ชายมันฝากให้ผมดูแลมันด้วยก็แค่นั้น ไม่เห็นจะแปลกเลยถ้าจะกลับบ้านพร้อมกันน่ะ

     

     

    “เออ นานแล้ว”

     

     

    “คิดอะไรบ้าๆแบบนี้ได้นานสมกับเป็นพวกนายเลยจริงๆ” ผมว่าพร้อมกับทำหน้าเซ็งสุดขีด...

     

     

    “ไม่ต้องมาทำเซ็งเนียน ไม่ชอบแต่รักเลยใช่ป่ะละ” ชานยอลยังคงไม่เลิกล้อมความคิดที่จะซักคำตอบจากผมที่ตอบออกไปหมดแล้ว.... ก็คงไม่ได้ชอบจะให้รักได้ไงวะไอ้เอ๋อ

     

     

    “รักบ้ารักบอไรเล่า ก็แค่เด็กข้างบ้าน”

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

    “รักบ้ารักบอไรเล่า ก็แค่เด็กข้างบ้าน”

     

     

    คำพูดของรุ่นพี่ที่อาศัยอยู่บ้านข้างๆกันนั้นทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไร... การที่เพื่อนๆของรุ่นพี่ร่างบางซักเรื่องแบบนี้กับพี่เขาก็น่าสนุกอยู่ไม่น้อยเลยเลือกที่จะเดินตามห่างๆเพื่อแอบฟัง แต่คำตอบที่ได้ยินนี่ทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ...

     

     

     

    ร่างสูงก้าวยาวๆเดินไปทางกลุ่มของรุ่นพี่ข้างหน้าก่อนจะคว้าข้อมือบางของคนต้นเรื่องและออกแรงลากให้เดินตามมาโดยไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ... ซึ่งนั่นเรียกสายตาสงสัยให้กับรุ่นพี่อีกสองคนที่ยืนมองงงๆได้เป็นอย่างดี...

     

     

    “ไอ้บ้า! ทำไรเนี่ย ปล่อยนะเว้ย!” เสียงหวานตวาดดังลั่นทำให้รุ่นพี่และรุ่นน้องทั้งหลายที่อยู่บริเวณนั้นหันมามอง ก่อนจะจับกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว

     

     

    มันเกิดอะไรขึ้น...

     

     

    ร่างสูงลากคยองซูมาที่หลังโรงยิมที่เป็นสวนพักผ่อนของทางโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไร จงอินกดไหล่ร่างบางลงกับกำแพงโรงยิมก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นจะซบลงที่ไหล่บางของคนตรงหน้า

     

     

    “พี่ใจร้ายนะ” เสียงทุ้มพูดขึ้นในที่สุดหลังจากที่ความเงียบปกคลุมไปสักพัก

     

     

    “ใจร้ายอะไร... ปล่อยเลยนะ นี่มันที่โรงเรียนนะ” คยองซูว่าพร้อมกับพยายามดันไหล่ร่างสูงให้ออกห่าง... จงอินยอมผละจากไหล่บางนั้นอย่างโดยดี มือหนาจับไหล่บางทั้งสองไว้แน่นก่อนที่ดวงตาคมจะจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมของคนตรงหน้า...

     

     

    “ถ้าไม่ใช่ที่โรงเรียน... ก็ไม่เป็นไรงั้นเหรอ” ร่างสูงเอ่ยด้วยรอยยิ้มร้ายที่มุมปาก ซึ่งเรียกใบหน้าระเรื่อของคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

     

     

    “ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น... เป็นอะไร” เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมกับมือบางที่ยกขึ้นแนบแก้มของรุ่นน้องตรงหน้า

     

     

    “โมโห” คำตอบสั้นๆทำให้ใบหน้าหวานซีดลง ก่อนจะก้มหน้าลงแทบจะชิดอกของตัวเอง เมื่อเห็นดังนั้นคนโมโหก็ใช้มือหน้าข้างหนึ่งเชยคางคนตรงหน้าขึ้นให้สบตาเขา

     

     

    “จะไม่ถามหน่อยเหรอ.... ว่าโมโหเรื่องอะไร” คยองซูสะบัดหน้าหนีสายตาคมกริบของคนตรงหน้าที่ทำนิสัยเสียเสมอเมื่ออยู่กับเขาสองคน...

     

     

     

    ...เพราะแบบนั้นถึงไม่รู้ไงว่ามันเป็นคนเดียวกันกับที่คนดังของโรงเรียนน่ะ...

     

     

     

    “นิสัยเสียแบบนี้คิมจงอิน ตัวจริงเลย” เสียงหวานว่าพร้อมกับดันไหล่คนตรงหน้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหมือนจงอินจะไม่ยอมถอยง่ายๆเหมือนครั้งที่แล้ว...

     

     

    “พี่ยังมีคดีติดตัวนะ”

     

     

    “คดีอะไร”

     

     

    “ใครกันนะ... บอกว่าไม่ได้ชอบหรอก” เมื่อคนตรงหน้าเริ่มแจ้งข้อหาเขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่จงอินบอก

     

     

    “....”

     

     

    “ไม่เคยเห็นหน้าด้วยซ้ำ...”

     

     

    “....”

     

     

    “เป็นแค่เด็กข้างบ้าน”

     

     

    “อันต่อไปห้ามนะ!!!” คยองซูว่าขึ้นเสียงดังพร้อมกับมือบางที่ยกขึ้นปิดปากคนตรงหน้าเมื่อบอกจะเดาได้

     

     

    “ไม่พูดก็ไม่พูด.... แล้วพี่พูดทำไมละครับ”

     

     

    “ก็มัน....ไม่รู้นี่นา... ว่าจะได้ยินน่ะ”

     

     

    “ใจร้ายจริงด้วย..” จงอินกล่าวหาเขาอีกครั้ง ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาจูบเขาเบาๆ และผละออก ก่อนจะเลื่อนใบหน้ามากระซิบถ้อยคำหวานที่ข้างใบหูขาว

     

     

    “แต่ผมก็รักคนใจร้ายอย่างพี่ไปแล้วจริงๆ”

     

     

    “พูดมันได้ทุกวันเลยนะ” ดวงหน้าหวานแดงซ่านเอ่ยขึ้นอย่างแก้เขิน... ดวงตากลมเสมองไปทางอื่น อีกทั้งมือบางทั้งสองข้างก็ยังคงพยายามดันไหล่หนาให้ออกห่างจากตัวอีกด้วย ซึ่งก็ยังไม่เป็นผลเหมือนเดิม

     

     

    “แต่ใครบางคนก็ไม่เคยพูดเลย”

     

     

    “ใครจะไปกล้าเหมือนนาย... ปล่อยได้แล้วนะ” เสียงหวานว่าอีกครั้ง แต่อีกคนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยจนกระทั่งจงอินเลื่อนใบหน้าคมเข้ามาใกล้จนคนตัวเล็กหดคอหลับตาปี๋... ภาพที่คยองซูเป็นแบบนั้นทำให้ร่างสูงเผลอยิ้มออกมาก่อนจะฟัดแก้มขาวไปทีและผละออก

     

     

    “ทำตัวน่ารักแบบนี้ไม่บอกทุกวัน กลัวว่าจะลืมว่ามีแฟนแล้ว”

     

     

    “ใครจะไปลืมเด็กตัวดำนิสัยเสียกันละ” เสียงหวานว่าพร้อมกับนิ้วชี้ที่จิ้มหน้าผากเด็กดำอย่างแรง คนโดนจิ้มนิ่วหน้าอย่างเอ็นดูก่อนจะรวบคนตัวเล็กมากอดอีกครั้ง

     

     

    “เจ็บนะพี่... แบบนี้ต้องโดนลงโทษรู้ไหม” ไม่ว่าเปล่า ใบหน้าหล่อเหลานั้นยื่นเข้ามาใกล้อีกครั้ง มือบางยกขึ้นดันหน้าของจงอินให้ออกห่างก่อนจะหัวเราะร่าเมื่อเห็นคนอายุน้อยกว่าหงุดหงิดเล็กน้อย

     

     

    “นายก็เล่นแรงไปแล้วนะ.... แล้วคิดบ้างไหมเนี่ยว่า ถ้าเรื่องนี้คนอื่นรู้แล้วพี่จะเป็นไง”

     

     

    “เป็นแฟนผมไง ไม่เห็นจะยาก” ตอบได้สิ้นคิดมาก... แต่มันก็เป็นเรื่องจริง คยองซูคิดในใจก่อนจะยิ้มกว้างอีกครั้ง...

     

     

    “ไอ้เด็กดำเอ้ย!! ไปหาไรกินกัน พี่หิว”

     

     

    “กินผมไง จะได้หายหิว” จงอินตอบขึ้นทันทีที่เขาพูดจบ... คำตอบนั้นทำให้ร่างบางแทบอยากจะวิ่งเอาหัวไปทิ่มกับดินที่ไหนสักที่ให้มันหายร้อน..

     

     

    ...ไอ้เด็กดำนิสัยไม่ดีชอบแกล้ง...

     

     

    “ล้อเล่นครับ... ไปสิผมจะได้พาพี่ไปส่งคืนเพื่อนๆด้วย”

     

     

    “หมายความว่าจะไม่ไปกินด้วยกัน ?”

     

     

    “เดี๋ยวผมต้องไปชมรม... ขอโทษด้วยนะครับ” จงอินว่าพร้อมกับยื่นมือมาไล้แก้มนิ่มเบาๆ ดวงหน้าหวานพยักหน้ารับ ก่อนจะปัดมือหนานั้นทิ้งและพูดขึ้น

     

     

    “เอาเถอะ ยังไงเย็นนี้นายก็ต้องมากินข้าวที่บ้านพี่อยู่แล้วนี่เนอะ” รอยยิ้มน่ารักถูกส่งให้กับคนตรงหน้า จงอินยิ้มตามแฟนตัวเองก่อนที่มือหนาจะเอื้อมมากุมมือบางไว้แล้วเดินไปที่โรงอาหารด้วยกัน

     

     

    .

    .

     

     

     

    หลังจากส่งคนตัวบางเสร็จจงอินก็เดินไปชมรมต่อ ซึ่งคนที่พึ่งถูกคืนตัวมานั้นกำลังนั่งก้มหน้ามองจานข้าวพร้อมกับพยายามหลบเลี่ยงสายตาเพื่อนสนิทอย่างชานยอลกับแพคฮยอนที่จ้องอย่างสงสัย รวมไปถึงรุ่นพี่รุ่นน้องทั้งหลายที่นั่งอยู่ในโรงอาหารนี้ด้วย

     

     

    “ไหนว่าไม่รู้จักไงวะ... กลับมาหน้าแดงคอเป็นรอยนี่คืออะไร” ชานยอลเอ่ยขึ้นในที่สุด ซึ่งมันยิ่งทำให้คยองซูอยากเอาหน้าซุกจานข้าวแล้วบึ้มกลายเป็นลมพัดหายไปจริงๆ

     

     

    “ไม่ใช่แบบนั้น....”

     

     

    “มันมากกว่านั้นใช่ป่ะล่ะ!!?” แพคฮยอนเสริม... มันยิ่งทำให้เขาอยากหายตัวไปตอนนี้จริงๆนะ.... ทำไมทุกคนอย่างรู้ขนาดนั้นละ ไอ้เด็กดำนั่นมันก็ยังทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้เขาอีก เย็นนี้นายตายแน่คิมจงอิน!!

     

     

    “ใครจะไปเป็นอะไรกับไอ้เด็กดำนั่นกันละ!! ไม่เอาน่า... รีบกินข้าวกันเถอะ จะได้เวลาเข้าเรียนแล้วนะ” เขาว่าพร้อมกับรีบตักข้าวใส่ปากอย่างรวดเร็ว และลุกขึ้นไปเก็บจานอย่างมีพิรุธ

     

     

    ชานยอลกับแพคฮยอนเห็นแล้วก็ต้องส่ายหน้าไปอย่างอย่างเอือมๆกับคนที่โกหกไม่เนียนเลยสักครั้ง... ถ้าไม่มีอะไรน่ะ เขาไม่หน้าแดงกันหรอกนะ โดคยองซู….

     

     

    .

    .

    .

     

     

    “ไอ้เด็กดำ!! ไอ้เด็กบ้า!! ไอ้เด็กทำไรไม่คิด!!” เสียงหวานตะโกนลั่นในสวนหลังโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีคน... ยิ่งเป็นเวลาหลังเลิกเรียนแล้วแบบนี้ยิ่งเงียบเข้าไปใหญ่... มันเหมาะมากที่จะระบายอารมณ์เสียๆที่เจอมาตลอดทั้งบ่ายเพราะใครบางคน...

     

     

    ทำอะไรไม่คิดหรือตั้งใจให้มันเป็นแบบกันแน่นะ...

     

     

    “คนใจร้ายว่าผมอีกแล้วนะ” เสียงทุ้มดังขึ้นที่ด้านหลังทำให้คนตัวบางหันขวับไปทันที คิมจงอินยืนกอดอกพิงต้นไม้ใหญ่อยู่พร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก

     

     

    “เด็กอย่างนายมันสมควรถูกว่าแล้วละ!!”  จงอินถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเดินตรงมาคว้าร่างบางเข้ามากอดแน่น...

     

     

    “เป็นแฟนกับผมมันน่าอายขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยที่ข้างใบหูขาวทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดนั้นเริ่มเย็นลง พร้อมกับความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้น

     

     

    “มะ...ไม่ใช่นะ...คือ....”

     

     

    “ถ้ามันน่าอายแล้วทำให้พี่ลำบากใจขนาดนั้น.....”

     

     

    “ฉัน – ไม่ – เลิก” ยังไม่ทันที่จงอินจะพูดจบ เสียงหวานก็โวยวายขึ้นมาก่อนดวงตากลมเงยสบดวงตาคมที่อยู่ห่างไม่มากนั้นด้วยสายตาจริงจังมากกว่าครั้งไหนๆที่ผ่านมา

     

     

    “แล้วพี่หงุดหงิดอะไรละเนี่ย”

     

     

    “หงุดหงิดดิ... โยนปัญหาให้พี่แก้คนเดียว ใครมันจะไม่หงุดหงิดบ้างวะ นายมันเป็นคนขอฉันคบนะเว้ย ทำไมไม่มาช่วยกันรับผิดชอบละ ไม่เห็นในโรงอาหารรึไง ฉันแทบเป็นบ้าตายนายรู้ใช่ไหม แต่นายจงใจทำใช่ไหมละ!!” คนที่ยังไม่หายหงุดหงิดนั้นก็ยังคงโวยวายต่อไป...

     

     

     

    ใครจะเชื่อว่าคนนิ่งๆที่ดูเหมือนจะตามใครไม่ทันพอโวยวายขึ้นมาก็แสบใช่ย่อยแบบนี้ละ... แต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาเห็นมานานแล้ว... ตั้งแต่ที่พี่คยองซูย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านข้างๆตั้งแต่เขายังเป็นเด็กตัวเล็กๆอยู่เลย

     

     

    “ขอโทษนะครับ..”

     

     

    “ไม่ยกโทษให้”

     

     

    “ใจร้าย....”

     

     

    “ใจร้ายอยู่แล้ว...”

     

     

    “นั่นสินะ...”

     

     

    “แล้วจะอยู่อย่างนี้อีกนานไหม?”

     

     

    “อยากกลับบ้านแล้วเหรอ”

     

     

    “ใช่... หิวข้าวแล้วด้วย...”

     

     

    “บอกรักผมก่อนแล้วจะปล่อย” คยองซูค้อนขวับให้คนที่ทำตัวเหมือนจะดีเมื่อครู่ ก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหูของจงอินและกระซิบถ้อยคำที่คนตัวสูงนั้นได้อยากได้ยิน ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะเลื่อนเข้ามากดจูบที่ปากบางเบาๆ

     

     

    “ฉันรักนาย...คิมจงอิน”

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    เช้าวันต่อมาร่างบอบบางเดินเข้ามาที่ห้องเรียนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนทุกวัน แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อสายตาของเพื่อนทั้งห้องนั้นจ้องมาที่เขาเพียงคนเดียว ก่อนที่ทุกคนจะกลับไปนั่งที่ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

     

    “ปาร์คชานยอลนี่มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ” เสียงหวานเอ่ยกับไอ้เพื่อนตัวสูงที่ดูท่าทางมีพิรุธสุดก่อนเป็นคนแรก ก่อนจะกวาดสายตาไปยังเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆที่นั่งหน้าตาตื่นกันเต็มที่...

     

     

    “เปล๊า!! ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่งก่อนสินั่งๆๆๆ” พิรุธเต็มที่เลยเถอะไอ้โตแต่ตัว!! ก่อนที่เขาจะอ้าปากซักเพื่อนตัวสูงของเขามากกว่าเดิม ร่างเล็กของเพื่อนสนิทอีกคนก็วิ่งเข้ามาพร้อมข้อมูลใหม่...

     

     

     

    “เฮ้ยชานยอล!! รูปฮยองซูกับน้องจงอินขายดีมากเลยวะ ชม....รม.......... ฮยองซู!!!”

     

     

     

    ดวงตากลมหันไปสบตาเพื่อนรักพร้อมกับยิ้มกว้างรอยยิ้มหวานๆที่เพื่อนเห็นแล้วรู้สึกขนลุกตามไม่ได้... ชานยอลมองหน้าแพคฮยอนที่โผล่เข้ามาอย่างผิดจังหวะด้วยใบหน้าที่สะพรึงเต็มที่....

     

     

    “ไอ้หมา!! เข้ามาไม่ดูเลยนะ!!”

     

     

    “แล้วทำไมแกไม่โทรบอกละวะ!!”

     

     

     

    “พอทั้งคู่นั่นแหละ!!!! ไหนบอกมาสิ..... ถ้าบอกตรงๆจะไม่ว่าอะไร” ชานยอลตาโตก่อนจะหยิบรูปที่เป็นประเด็นส่งให้คนตัวเล็กกว่า... ซึ่งแพคฮยอนที่ยืนอยู่นั้นรีบวิ่งเข้ามาจะคว้าไว้ แต่ก็ไม่ทันเพราะคยองซูคว้าไปก่อน...

     

     

     

     

    รูปเขากับจงอินจูบกันในสวนหลังโรงเรียนเมื่อวานนั้นปรากฏอยู่ตรงหน้า ดวงหน้าหวานแดงซ่านขึ้นพร้อมกับความเขินอายที่กำลังเพิ่มขึ้น มือบางขย้ำรูปนั้นทิ้งพร้อมกับชี้หน้าเพื่อนสนิททั้งสองและเอ่ยประโยคที่ทั้งสองคนได้ยินแล้วแทบอยากจะหายไปเดี๋ยวนั้น...

     

     

     

     

    “รูปหลุดพวกนายสองคนลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์โรงเรียนแน่ไอ้เพื่อนบ้า!!!!!”

     

     

     

     

    END…


    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Let's a little talK :: TAT... จริงจังว่าเป็นฟิคชั่ววูบ แบบหน้ามืดวูบพร้อมจะเป็นลม และเป็นฟิคที่เขียนเร็วมาก และมากที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา = = เอาจริงจัง.... โบ้ไม่ได้ตามเอกโซ TOT แต่ไทม์ไลน์ทวิตเตอร์โบ้มีแต่เอกโซ.... 

    และ
    ฟิคเรื่องนี้ก็เป็นของขวัญปีใหม่ล่วงหน้าให้กับเพื่อนๆในเอกทุกคนกันนะคะ เลยลองเขียนเอกโซดู...


    ก็... เป็นอย่างไรก็แวะเวียนไปพูดคุยกันผ่านทวิตเตอร์นะคะ... ---> 
    http://twitter.com/narasis
     


    แล้วพบกันเรื่องหน้าจ้าา 


    ปล. คู่ที่พวกเธออยากอ่านฉันเขียนให้ไม่ได้จริงๆขอโทษด้วย
    ปล๒. ถึงเขียนได้ฉันก็ไม่เขียน เพราะมันไม่ปลอดภัยกับชีวิตฉัน 
    ปล๓. ยังจะมีเรื่องหน้าอีกเหรอ  TAT 

    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×