คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : [Kris x Suho] แอบชอบ เดอะ ซีรี่ย์ - 5 - สายฝน [100%!!]
กาลเวลาผ่านไปเร็วเสมอ...
...โดยเฉพาะช่วงเวลาอันแสนสุข...
ร่างเล็กหอบหิ้วหนังสือกองโตออกจากหออย่างเร่งรีบหลังจากเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่หน้าประตู... เป็นอีกวันที่คิมจุนมยอนตื่นสาย... เพราะรายงานกองโตที่ถล่มเขามาเป็นคืนที่สามแล้ว... เหนื่อย...
แต่ก็ต้องทน...
ก็ถ้าไม่ทนทำมันก็ไม่จบกันพอดีนี่...
ขาเรียวก้าวเร็วกว่าเดิมเมื่อยกนาฬิกาขึ้นดูอีกที... ดูท่าทางวันนี้เขาจะสายแน่... เพราะความเพลียอ่อนล้าสะสมมาถึงสามวันนั้น ทำให้เขาไม่สามารถเดินเร็วไปมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ได้เท่าไร...
แค่นี้ก็แทบจะเอาหัวไถพื้นไปเรียนอยู่แล้ว
ปี๊น
เสียงแตรรถยนต์ดังขึ้นข้างตัวทำให้ดวงตากลมโตตวัดไปมองทันที... ความหงุดหงิดที่เจืออยู่บนดวงหน้าหวานนั้นหลายไปทันที ก่อนที่จะขมวดคิ้วแทบจะเป็นปมแทน
“ไม่ต้องงง รีบขึ้นมาสิตัวเล็ก อยากไปเรียนสายเหรอ?” เสียงทุ้มเร่งพร้อมกับพร้อมละไมบนใบหน้าหล่อเหลา... คริสนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ ใบหน้าหล่อเหลานั้นถูกปกปิดด้วยแว่นตาสีชานั้นกำลังนั่งจับพวกมาลัยข้างนึงเอามือท้าวกระจกข้างหนึ่ง... บางทีก็ดูดีเกินไป...
ร่างเล็กรีบเดินขึ้นมารถของคนตัวสูงไปอย่างรวดเร็วหลังจากได้สติ ไม่มีเวลามาคิดอีกแล้วว่าจะดีไม่ดี หรือว่าจะต้องอยู่กับคนตัวสูงนั้นแค่สองคนหรืออะไรมากมายที่จุนมยอนมักจะคิดเสมอเมื่อต้องอยู่ใกล้คริส...
...เพราะมันสายแล้วจริงนี่นา!!!...
ทันทีที่รถคันหรูจอดเทียบหน้าคณะ คนตัวเล็กเหลือบมองนาฬิกาที่อยู่ตรงคอนโซลรถก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียดอย่างโล่งอก... เพราะคริสหรอก ถึงทำให้เขาไม่สาย..
“ขอบคุณนะ” เสียงหวานเอ่ยขอบคุณพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้อย่างน่ารัก จุนมยอนหันไปตั้งใจจะเปิดประตูลงไป แต่ก็ถูกมือหนาของเจ้าของรถนั้นคว้าหมับที่ข้อมือ พร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่ยื่นเข้ามาฉกฉวยโอกาสจากพวงแก้มขาวแล้วก็เลื่อนไปเอ่ยกระซิบที่ข้างหู
“เย็นนี้รอนะ... จะมารับ”
“อะ...อื้อ” ใบหน้าขาวนวลแดงซ่านก่อนจะก้มหน้าก้มตาใช้มือสั่นๆนั้นเปิดประตูรถลงไป และวิ่งดุ๊กดิ๊กไปต่อแถวขึ้นลิฟต์ทันที...
ดวงตาคู่คมของคริสนั้นมองแผ่นหลังเล็กบอบบางจนกระทั่งหายเข้าไปในฝูงชน ก่อนที่เจ้าตัวจะขับรถไปหาที่จอดแล้วตั้งใจจะขึ้นห้องเรียนไปเรียนอย่างอารมณ์ดี...
เพราะเช้าวันนี้ ไม่ว่ามองยังไง เขาก็ได้กำไรจากคนที่เรียกว่า”แฟน” นั้นไปแล้วเต็มๆ
ร่างเล็กเดินกอดหนังสือเข้ามานั่งที่นั่งประจำพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่... เหลือเวลาอีกห้านาทีกว่าอาจารย์ประจำวิชาจะมา นี่ถ้าคริสไม่มารับเขาวันนี้ บางทีเขาอาจจะมาสายแล้วก็ถูกทำโทษไปแล้วก็ได้....
โดยไม่รู้ตัว... เมื่อคิดถึงคนที่มาส่งเมื่อเช้า ใบหน้าขาวนวลก็ระเรื่อขึ้นทันที แพคฮยอนที่นั่งข้างๆหันมาเจอพอดีก็อดที่จะแกล้งไม่ได้...
“คนมีแฟนนี่ดีจังเลยน้า ~” เสียงใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับดวงตาเรียวรีที่เหลือบมองมายังคนตัวเล็กที่กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่
“ใครมีแฟนเหรอแพคฮยอน?!!” แล้วก็ได้รับการตอบรับจากเพื่อนร่วมห้องอีกคน โดคยองซูตาโตชะเง้อหน้าถามด้วยเสียงที่ดังไม่มากนัก แต่ก็ทำให้คนมีแฟนนั้นสะดุ้งตัวทันที
“ไม่ใช่ฉันนะ” จุนมยอนตอบปฏิเสธทันควัน ซึ่งทำให้สายตาของเพื่อนในกลุ่มนั้นหันมาที่ตนทันที... ดวงหน้าขาวแดงระเรื่อขึ้นอย่างที่เจ้าตัวไม่อาจห้ามได้นั้นยิ่งเป็นหลักฐานแสดงอย่างดีเลยว่า คนมีแฟนนั้นเป็นใคร
“โหว... จุนมยอนนี่เอง นี่ก็คิดว่าแพคฮยอนซะอีก เห็นตีกับน้องจงอินคนนั้นมานานสองนานแล้วก็นึกว่าคบกันแล้ว” คนจะแกล้งเขากลับโดนแกล้งเสียเอง... แพคฮยอนมุ่ยหน้าลงอย่างหงุดหงิดทันทีก่อนจะหันไปโวยวายใส่คยองซูที่ไม่เคยไม่รู้เรื่องนั้นเลยแม้แต่เรื่องเดียว
“จุนมยอนคบกับคริสแล้วเหรอ?” และหลังจากตีกับแพคฮยอนเสร็จแล้ว เพื่อนตาโตก็หันมาถามเขา... จุนมยอนพยักหน้าขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะค่อยๆเหลือบตามองเพื่อนในกลุ่มตัวเล็กที่มีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด
“มีอะไรเหรอ?” แพคฮยอนเอ่ยถามขึ้น ในขณะที่คยองซูหันไปสบตาผู้ถาม ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเขา
“ระวังไว้หน่อยก็ไม่เสียหายนะ.. ฉันรู้ว่าจุนมยอนชอบหมอนั่น แต่อย่าลืมว่าถ่านไฟเก่ามันพร้อมจะปะทุทุกเมื่อ” จุนมยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แต่เมื่อจะอ้าปากพูดอะไร อาจารย์ประจำวิชาภาคเช้านี้ก็เข้ามาเสียก่อน
คยองซูยิ้มให้กับเขา พร้อมกับเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง...
...บางทีเรื่องที่คยองซูพูดอาจเป็นเรื่องที่เขากลัวที่สุดก็เป็นได้...
“จุนมยอน... อย่าคิดมากนะ” แพคฮยอนเอ่ยกระซิบให้กำลังก่อนที่เจ้าตัวจะชูสองนิ้วให้เขาเป็นเชิงบอกว่าสู้ๆนะ จุนมยอนยิ้มตอบพร้อมกับหันกลับไปสนใจบทเรื่องเบื้องหน้า...
...ถึงคยองซูไม่พูด...
เขาก็กลัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว...
ทั้งๆที่เขากับคริสคบกันมาได้จะสองเดือนแล้ว...แต่เขาก็ยังกลัว...
ร่างเล็กเหยียดแขนขึ้นพร้อมกับบิดตัวไปมาหลังจากจบคาบเรียนช่วงเช้า... จุนมยอนอ้าปากหาววอดๆก่อนจะส่งยิ้มให้กับเพื่อนๆที่กำลังคุยกันว่าจะไปกินข้าวกลางวันที่ไหนดี... ถ้าตามที่เขาคิดก็คงไม่พ้นแถวๆนี้หรอก เพราะยังไงตอนบ่ายก็มีเรียนต่ออยู่แล้วนี่นา...
และก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ มติเอกฉันท์ของเพื่อนในกลุ่มคือกินข้าวที่โรงอาหารของคณะ... ใบหน้าเปื้อนยิ้มมองตามกลุ่มเพื่อนที่คุยกันอย่างออกรสเหมือนทุกครั้งที่ได้คุยและเล่นกัน... ถึงเขาจะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ก็มักจะมีส่วนร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆในการแฉเรื่องของแพคฮยอนเสมอ และนั่นก็ทำให้เขาและแพคฮยอนสนิทกันมาก... เพราะแพคฮยอนรู้ว่า ความลับที่ลึกที่สุดที่ไม่ควรพูดเขาจะไม่พูดมันออกไป..
“จุนมยอน...” คยองซูเอ่ยเรียกเขาแหวกเสียงโวยวายของแพคฮยอนที่ถูกเพื่อนสนิทตาโตนี้เมินมาคุยกับเขา
“อะไรเหรอ?” นิ้วเล็กของคยองซูชี้ไปทางหนึ่ง ซึ่งมักจะเป็นโต๊ะประจำของคริส ดวงตากลมมองตามไปก่อนที่ร่างเล็กจะหยุดเดินไปเฉยๆ ความเจ็บหน่วงๆที่อกเกิดขึ้นทันทีที่เห็นมัน เขาพยายามสูดหายใจเข้าปอดให้ได้มากที่สุด แต่กว่าจะรู้สึกตัว แพคฮยอนก็ดึงเขาเข้าไปกอดแล้ว... เพราะแพคฮยอนคงไม่อยากให้เขาเห็นภาพนั้น...
..ภาพที่คริสกำลังนั่งกินข้าวและคุยกับ...แฟนเก่า...อย่างมีความสุข…
50%
(มาต่แย้วน้าาา)
The course of true love never runs smooth.
ในวิธีถีทางของรักแท้นั้น...ไม่ราบลื่นเลยสักนิด
ร่างเล็กกอดแพคฮยอนตอบ พร้อมกับซบใบหน้าลงบนบ่าเล็กๆของเพื่อนสนิท ปล่อยน้ำตาออกไปสักพัก ก่อนที่เจ้าตัวจะผละออกพร้อมกับใช้หลังมือปาดน้ำตาทิ้งอย่างลวกๆ
“สาบานได้ว่าฉันจะฆ่ามัน” แพคฮยอนเอ่ยเสียงเบาก่อนจะหันไปมองทางทิศที่คริสนั่งอยู่.. ก่อนจะเลยไปยังอีกคนที่เหมือนจะรู้เรื่องแล้ว และกำลังหน้าเสียเต็มที่...
หรือบางทีทั้งคู่อาจไม่ได้มีความสุขกันอย่างที่เห็น ?
แพคฮยอนสะบัดหน้ากลับมาเมื่อเห็นคนที่กำลังเล่นสงครามกับตนทางสายตานั้นกำลังลุกขึ้นแล้วเดินมาทางนี้ มือเรียวบางยกขึ้นประคองใบหน้าของจุนมยอนขึ้นสำรวจดูก่อนจะหันไปค้อนให้กับไอ้เด็กตัวสูงที่เดินตรงมาแล้ว
“พี่จุนมยอน...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อเขา ก่อนที่จุนมยอนจะได้ตอบอะไร แพคฮยอนก็ผลักอกคนตัวสูงนั้นออกไปก่อน
“ใครมันเป็นคนผูก คนนั้นมันก็ต้องเป็นคนแก้... ไสหัวไปเรียกพี่นายมาดีกว่าจงอิน” จงอินมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของแพคฮยอนด้วยดวงตาที่อ่านอยากก่อนจะมองเลยมาหาเขาที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยสายตาที่อ่อนลง...
“เป็นเพื่อนที่ดีจังเลยนะครับ... แต่เพราะมันเป็นเรื่องของเพื่อนพี่กับพี่ของผม... แล้วทำไมเราต้องทะเลาะกันด้วยละพี่แพคฮยอน?” จงอินเอ่ยจบพร้อมกับคว้าข้อมือเล็กของแพคฮยอนแล้วกระชากให้เดินตาม... พร้อมกับโค้งหัวให้กับจุนมยอนเล็กน้อยเป็นเชิงขออนุญาตแล้วลากคนตัวเล็กออกไปจากตรงนั้น
“จุนมยอน... ขอโทษ....” คยองซูเอ่ยเสียงเบาพร้อมกับเดินเข้ามากอดเขาแน่น... เขาเค้นยิ้มกว้างตอบกลับพร้อมกับบอกไปว่าไม่เป็นไร... อย่างที่แพคฮยอนกับเด็กตัวสูงนั้นพูดก็ไม่ผิด.... มันเป็นเรื่องของเขา...กับคริส ที่ต้องเคลียร์กันเอง...
...อย่างน้อยที่สุด...
แค่เขาเดินออกไป... ง่ายจะตาย
ถึงจะเป็นวิชาที่ชอบแค่ไหนแต่เพราะข้าวกลางวันก็ไม่ได้กินแถมยังมีเรื่องรบกวนจิตใจอีก ไม่แปลกเลยที่จุนมยอนจะเรียนไม่รู้เรื่องเอามากๆ หลังจากที่แพคฮยอนโดนจงอินลากออกไป เขาก็บอกคยองซูกับเพื่อนๆที่เหลือว่าขอขึ้นห้องก่อนเพราะไม่ค่อยหิวทั้งๆที่ตอนนั้นต้องการอาหารอย่างเต็มที่ก็เถอะ... แต่ถ้าต้องนั่งมองอะไรแบบนั้นไปตลอด...
...บางทียอมทนหิวข้าวคงดีกว่า...
แพคฮยอนมีท่าทีแปลกไปเล็กน้อยหลังจากที่กลับเข้ามาในห้อง... ริมฝีปากเรียวเล็กของเพื่อนเขานั้นแดงช้ำอย่างเห็นได้ชัด... บางทีระหว่างแพคฮยอนกับจงอินก็อาจจะมีเรื่องมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก...
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาจะมาห่วงแพคฮยอนเลยสักนิด... ตัวเขาเองนี่แหละ... สมควรทำยังไงเหรอ...
แกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้เรื่องรอคริสเย็นนี้อย่างที่เจ้าตัวบอก หรือหนีกลับหอแล้วหายไปจากชีวิตของคนคนนั้นเลยดีละ...
ทั้งๆที่ลึกๆเขาอยากจะเชื่อคริส อยากจะฟังคำอธิบายว่ามันคืออะไร...
...แต่จะฟังไปทำไมในเมื่อทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้...
ชัดเจนว่าเขาเป็นคนเข้าไปแทรกกลางระหว่างคริสกับ....ลู่หาน
ท้องฟ้าสีครามในตอนเช้าเริ่มเปลี่ยนไป.... เมฆฝนสีดำเคลื่อนมาปิดกั้นท้องฟ้าสีสวยนั้นเสียแล้ว... ดวงตากลมโตของจุนมยอนเหลือบขึ้นมองด้านบนก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด....
...นี่ก็เย็นมากแล้ว...
ฝนก็กำลังจะตก...
...แต่คนที่บอกให้รอ...ก็ยังไม่มา...
เกิดอะไรขึ้นกับคริสที่แสนดีคนนั้นเหรอ... ทำไมถึงกลายเป็นคนใจร้ายแบบนี้กันนะ...
ในขณะที่กำลังปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปเรื่อยๆ เม็ดฝนก็ตกลงมาพอดี... เรือนร่างขาวในชุดนักศึกษานั้นกำลังเปียกฝนอย่างช้าๆ ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น... จุนมยอนก็ยังไม่ยอมลุกไปจากม้านั่งตัวเดิมที่เคยนั่งรอคริสเลยสักนิด....
ดีที่เขาฝากให้แพคฮยอนเอาหนังสือกลับหอไปก่อน... ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงเปียกไปหมด
แล้ว... จะให้ฉันรอไปจนถึงเมื่อไรเหรอ...
...คริส...
ท้องฟ้ามืดมิด... ฝนฟ้า...ที่ตกกระหนำ
ช่างแสน...หนาวเหน็บ...
ร่างสูงนั่งถอนหายออกเป็นรอบที่เท่าไรแล้วเขาก็ไม่รู้เหมือน.... ภายในร้านกาแฟร้านเดิมบนเนินเขานี้มีผู้คนหนาตาเป็นพิเศษ...เพราะข้างนอกฝนกำลังตก...
สายฝน...ที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ และไม่ค่อยดีเท่าไร
ทำไมเขาเหมือนจะลืมอะไรไปบางอย่างนะ... บางอย่างที่สำคัญมากๆ
“คริส... คริสไม่ดีใจเหรอที่ฉันกลับมาหาคริสน่ะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับใบหน้าน่ารักยื่นเข้ามาใกล้ พร้อมกับดวงตากลมโตสุกใสนั้นกำลังสั่นระริก... คริสถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มนั้นอย่างอ่อนโยน...
...ถามว่าดีใจไหม...
ดีใจสิ... ดีใจมาก
...แต่มันไม่ถูกต้อง...
เพราะเขามีจุนมยอนอยู่แล้ว...
ใช่...จุนมยอน!!
มือหนาเอื้อมหยิบข้าวของตนอย่างรีบร้อนทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าตนที่มัวแต่ดีใจกับการกลับมาของลู่หานนั้น... ได้เผลอทำร้ายใครอีกคนที่รักมากไปเสียแล้ว... ใบหน้าแสนเคร่งเครียดของคริสนั้นทำให้ลู่หานวางมือจากเค้กสีสวยที่กำลังกินอยู่ทันที...
“อย่างที่คิดเลย... คงช้าไปแล้วสินะ” เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นนั้นทำให้คนที่กำลังจะเดินออกไปนั้นชะงักเล็กน้อย... มือหนาเผลอกำแน่นอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะเอ่ยเพียงสั้นๆ แล้วเดินออกไป
“ขอโทษนะลู่หาน...แต่ฉันรักจุนมยอนไปแล้ว”
ขอโทษนะตัวเล็ก... ขอโทษจริงๆ
คริสรีบขับรถมาที่คณะทั้งๆที่ฝนกำลังเทกระหน่ำอย่างรุนแรง... ภายในใจนั้นภาวนาเหลือเกินว่าให้คนคนนั้นกลับไปแล้ว... แต่ร่างเล็กที่กำลังนั่งตากฝนอยู่บนม้านั่งตัวเดิมนั้นกลับยิ่งทำให้คริสรู้สึกวูบโหวงในช่องท้องอย่างประหลาด... ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปเข้าสู่ก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ที่อกซ้ายทันที...
คริสจอดรถที่หน้าตึกก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กที่นั่งก้มหน้ากอดตัวเองที่กำลังสั่นเทานั้นอย่างช้าๆ เหมือนโลกหยุดหมุนเหมือนหัวใจของเขากำลังหยุดเต้น... ความดีใจที่ลู่หานกลับมานั้นมลายหายไปสิ้น...
...ไม่มีลู่หานคริสคนนี้ยังหายใจได้...
แต่เมื่อรู้สึกว่ากำลังจะเสียร่างเล็กตรงหน้านี้ไป... ทำไมเหมือนโลกใบนี้กำลังจะจบสิ้นกันนะ...
จุนมยอนมีอิทธิพลกับเขามากขนาดนี้เชียวหรือ....
“ตัวเล็ก...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอย่างแผ่วเบา... คนตัวเล็กค่อยๆเงยหน้ามองเขาอย่างช้าๆ ดวงตากลมโตคู่นั้นที่เคยสดใสและเปล่งประกายนั้นกลับว่างเปล่าและแสนเจ็บปวด...น้ำตาเม็ดโตที่ไหลปะปนกับสายฝนนั้นยิ่งทำให้คริสรู้สึกเจ็บมากกว่าเดิม...
...ไม่ใช่ที่ร่างกาย...
หากเป็นที่จิตใจ...
“คิดว่าจะไม่มา...ซะอีก” เสียงหวานแหบพร่าเพราะร่างกายที่หนาวสั่นเอ่ยอย่างช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ “หรือฉันจะตาฝาดไปนะ... คริสจะมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง... ก็ในเมื่อกลับไปกับลู่หานแล้วนี่นา”
คริสรีบรวบคนตัวเล็กที่กำลังร้องไห้นั้นเข้ามากอดแน่นหวังจะให้หัวใจที่กำลังสั่นกลัวนี้หายกลัว... กลัวเหลือเกินว่าจะเสียจุนมยอนไป...
“ฉัน...อยู่ตรงนี้...” น้ำเสียงที่สั่นไม่แพ้กันนั้นเอ่ยกลับพร้อมกับกอดคนตัวเล็กแน่นกว่าเดิม... มือเล็กของจุนมยอนยกขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะทิ้งลงข้างลำตัวเหมือนเดิมอย่างหมดแรง...
กอด...ที่ไม่ได้รับการกอดตอบ
หนาวเหน็บยิ่งกว่าการกอดตัวเอง
“แล้วลู่หานละ... นายจะปล่อยให้แฟนนายตากฝนกลับห้องไม่ได้หรอกนะคริส” เหมือนมีเข็มนับพันเล่มกำลังเสียบลงที่ก้อนเนื้อที่อกซ้ายของเขาอย่างช้าๆ... ให้จุนมยอนทุบตีหรือตบเขาคงจะมีกว่า... การที่คนตัวเล็กพูดแบบนี้...
...เพราะยิ่งจุนมยอนพูดแบบนี้...
เขายิ่งกลัวว่าจะเสียจุนมยอนไป...
“ฉันรักจุนมยอนนะ... เชื่อฉันได้ไหมตัวเล็ก...”
สายลมและสายฝนกำลังพัดกระหน่ำ... ในขณะที่จุนมยอนยังคงเงียบ...
...จะให้ฉัน...เชื่ออะไรอีกเหรอคริส...เชื่อว่านายที่ใจดีคนนั้นไม่ใช่ของฉัน...
...หรือเชื่อว่าคำรักของนายนั้นเป็นสิ่งลวงตา...
“ฉันอยากกลับห้อง...” คนตัวเล็กเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้นพร้อมกับเอ่ยตัดหนทางเขา...
“ตอบคำถามฉันก่อน...ตัวเล็กเชื่อฉันได้ไหม?” จุนมยอนยกมือขึ้นดันไหล่หนาออกช้าๆ ใบหน้าขาวที่แสนราบเรียบนั้นค่อยๆไล่สายตาไปทุกส่วนของใบหน้าของคริส ก่อนจะเอ่ยออกมาช้าๆ
ราวกับพยายามจดจำทุกรายละเอียดบนใบหน้านี้ให้ได้มากที่สุด...
“ขอโทษนะ... แต่ฉัน...กลัวแล้วจริงๆ เรา....เรา...” ก่อนที่ประโยคที่คริสแสนกลัวนั้นจะถูกเอ่ยออกมาจากริมฝีปากที่เริ่มไร้สีเลือด...
...ไม่นะตัวเล็ก...
“เรา...เลิกกันเถอะ...”
TBC.
-----------------------------------------------------------------------------------
โอเคค่ะ.... ครบร้อยเปอร์แล้ว.... ร้องไห้กัน T ^ T ไม่มีรักแท้ใดที่ไร้อุปสรรคนะะะ
ให้โอกาสพี่คริสกันหน่อย โอเคนะคะ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าค่าา
ปล.อีกสองตอนจบแล้ว ; w ;
ปล๒. ติดแทก #แอบชอบKH ตอนสครีมในทวิตได้นะคะ จะตามไปอ่าน TT w TT
ความคิดเห็น