คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : [CHAN x KAI] ...MY REASON... [100%]
...MY REASON...
ChanKai SHOT FICTION BY SOLINA
...คุณเคยหาเหตุผลที่ไม่อยากมองหน้าหรือเข้าใกล้ใครสักคนไม่ได้ไหม...
ร่างโปร่งในชุดนักเรียนยืนพิงกำแพงในขณะที่มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง.. อีกข้างหนึ่งนั้นถือจับมือถือไอพอดเครื่องบางที่เชื่อมต่อกับเฮดโฟนอย่างไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง... ใบหน้าได้รูปรับกับผิวสีแทนนั้นยิ่งทำให้เขาดูโดดเด่นเสมอ ยามที่เขาแวะมายังโรงเรียนเอกชนชื่อดังแบบนี้...
...ก็แค่แวะมาหาเพื่อนสมัยเด็ก...
“ไค~~~~~~~~” เสียงดังโวยวายของใครสักคนดังมาแต่ไกล พร้อมกับเรือนร่างผ่ายผอมที่กระโดดกอดคอเขา... ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนข้างๆเล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนหูฟังออกจากหูและห้อยมันไว้ที่คอ มือเรียวข้างหนึ่งยกแขนเล็กของเพื่อนสนิทออกและหันมาทำหน้าเหวี่ยงใส่เต็มที่
“ช้าไปสิบนาทีนะแทมิน” เจ้าของชื่อแทมินยกยิ้มร่าเริงก่อนจะคว้าคอเพื่อนสนิทมาใกล้ๆเพื่อกระซิบอะไรบางอย่าง... บางอย่างที่ทำให้เขาผลักแทมินออกไปด้วยความหงุดหงิด...
...วันนี้พี่แพคฮยอนบอกว่าอยากเจอไคอีกแล้วนะ...
ถ้าแค่พี่แพคฮยอนเขาก็คงไม่มีปัญหาหรอก... แต่เพื่อนสนิทของพี่แพคฮยอนนั่นแหละที่เขาไม่อยากจะเจอ...
...ใครบางคนที่เห็นทีไรก็อยากจะต่อยให้หน้าหงายเพราะความถือดี...
...ใครบางคนที่หลงตัวเองยิ่งกว่าอะไร...
...ใครคนนั้นที่ชื่อว่าปาร์คชานยอล...
ร่างโปร่งเดินตามเพื่อนตัวบางที่บอกเขาให้มาหาที่โรงเรียนอย่างกะทันหันนั้นอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก... เขาไม่เชื่อหรอกว่าแทมินจะไม่รู้ว่า พี่แพคฮยอนเพิ่งจะบอก... แทมินต้องรู้มาก่อนหน้านี้แล้วแน่ๆ
อยู่ๆไคก็หยุดเดินเสียดื้อๆทำให้คนที่เดินลากแขนอยู่นั้นหันมาทำหน้ามุ่ยใส่ทันที...
แทมินต่างจากเขามาก... จะเรียกได้ว่าคนละโลกก็คงไม่แปลก... เขาชอบที่จะมองดูทุกสิ่งและปล่อยผ่านทุกอย่างไปอย่างเงียบสงบ... แต่แทมินนั้นสนใจกับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาและผ่านไป... เพื่อนสมัยเด็กของเขานั้นเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆของสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไม่มีตกลง... ต่างจากเขาที่ชอบโลกในด้านที่ต่างจากแทมินโดยสิ้นเชิง...
...และที่สำคัญ...
แทมินนั้นมีรอยยิ้มที่สดใสเสมอ... ต่างจากเขา
“ฉันจะกลับบ้าน” ไคเอ่ยไปในที่สุด หลังจากคิดมาได้สักพัก... เขาไม่ได้หนี... แค่เขาไม่อยากไปมันก็เท่านั้น
“ไม่เอาน่าไค... แปปเดียวเอง”
“ฉันอารมณ์ไม่ดีแทมิน... ขอโทษนะ แล้วเจอกัน...” ว่าจบร่างโปร่งก็แกะมือเล็กของแทมินออกจากข้อมือ และหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับออกไปตามที่พูด... แต่เมื่อหันมาก็เจอคนตัวสูงในชุดนักเรียนนั้นยืนอยู่พร้อมกับรุ่นพี่ตัวเล็กที่แทมินบอกว่าอยากเจอเขา...
ไคสบถออกมาเบาๆอย่างหัวเสีย ก่อนจะเอ่ยทักรุ่นพี่ตัวเล็กตรงหน้า “สวัสดีครับพี่แพคฮยอน”
“ไคจะกลับแล้วเหรอ.. แทมินไม่ได้บอกเหรอ ว่าพี่อยากเจอน่ะ” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นรุ่นน้องกำลังจะก้าวเดิน... ไคถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายอีกครั้ง แต่เมื่อหันมาสบสายตาที่เฉียบคมของรุ่นพี่ร่างเล็กแล้วก็อดสงสารแทมินที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างหลังไม่ได้...
พยอนแพคฮยอนเป็นพี่รหัสของแทมินที่เป็นประธานนักเรียนในโรงเรียนนี้แน่นอนว่า ถ้าแทมินพาเขาไปหาแพคฮยอนไม่ได้ แทมินจะโดนอะไรบ้างเขาก็ไม่อยากจะเดา...
“บอกครับ... แต่ผมแค่มีธุระ”
“งั้นพี่ขอแค่สิบนาทีได้ไหม... เดี๋ยวพี่ให้เลขาพี่ไปส่ง” เสียงเล็กว่าพร้อมกับเหลือบไปยังคนตัวสูงที่ยืนทำหน้านิ่งมองเขาด้วยสายตาที่อ่านยาก
“แค่สิบนาที... แต่ผมขอกลับเอง”
“เดี๋ยวฉันไปส่ง... ไปที่ศาลาเถอะพยอน” เสียงทุ้มต่ำของคนที่เป็นเลขาของแพคฮยอนเอ่ยตัดบทสนทนานั้นหมด แพคฮยอนพยักหน้าและเดินนำไปที่ศาลากลางสวนดอกไม้ที่ยามนี้บานสะพรั่งต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือน...
ไคเดินตามมาอย่างเสียไม่ได้ตามมาด้วยแทมินที่กระโดดเกาะแขนเขาทันที... ใบหน้าที่เคยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มนั้นเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด จนไคต้องเลื่อนไปกุมมือเล็กนั้นอย่างเสียไม่ได้...
“พี่มีเรื่องอยากขอร้องไคเสียหน่อย...” ทันทีที่ทั้งหมดนั่งลงแล้ว รุ่นพี่ร่างเล็กก็เอ่ยขึ้นทันทีอย่าง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ ในขณะที่ใบหน้าได้รูปนั้นไม่ได้แสดงอารมณ์มากกว่านั้น...
“ถ้าผมอยากทำ”
“ถือว่าพี่ขอร้อง...”
“ถ้าผมอยากทำ... บอกเรื่องที่อยากจะขอร้องมาสิครับ” ไคว่าอย่างไม่สนใจสายตาของใครบางคนที่มองมาโดยตลอด... เขาไม่ได้เกลียดพี่แพคฮยอน แต่เขาแค่ไม่ถูกชะตากับเลขาของพี่แพคฮยอนมันก็เท่านั้น
“พี่อยากให้เราช่วยงานชานยอลเกี่ยวกับงานแสดงดนตรีที่จะมีขึ้นในอีกสองอาทิตย์”
“พยอน!! / ไม่!!” ไคกับชานยอลเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน จนคนที่นั่งอยู่ระหว่างกลางอย่างแทมินสะดุ้งจนตัวโยน... แต่คนที่เอ่ยขอร้องอย่างแพคฮยอนนั้นกลับนั่งนิ่งไม่สนใจโทสะของทั้งสองคนที่กำลังห้ำหั่นกันทางสายตาเลยสักนิด
“แค่ช่วยงานในวันก่อนหน้าวันแสดง... แค่นั้น...”
“ผมไม่รู้ว่าพี่คิดจะทำอะไร... แต่ถ้าจะให้ผมทำงานกับเขา... ผมขอปฏิเสธ... สิบนาทีแล้ว ขอตัวนะครับ” ร่างโปร่งลุกขึ้นเต็มความสูงทันที ไคตวัดสายตามองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเดินออกไปจากศาลา...
ขายาวภายใต้กางเกงนักเรียนสีเข้มเนื้อดีก้าวแรงๆอย่างหงุดหงิดกับสิ่งที่เขาเสียเวลามาในวันนี้ เหตุผลงี่เง่า ระบบงี่เง่า... งานงี่เง่า เขาไม่ชอบสักอย่างของโรงเรียนนี้ ถึงมันจะมีชื่อเสียงขนาดไหน แต่สำหรับเขามันก็ไม่ต่างจากแหล่งรวมเหล่าคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นนั่นแหละ...
ไคเดินมาจนเกือบถึงหน้าประตูโรงเรียน แต่ก็ต้องหยุดเดินเมื่อหัวไหล่ของคนถูกกระชากอย่างแรก... ใบหน้านิ่งตวัดมองเจ้าของมือใหญ่อย่างเอาเรื่อง ก่อนจะยกมือขึ้นปัดที่ไหล่สองสามชั้นและมองหน้าเจ้าของมือใหญ่นั้นด้วยใบหน้ากวนๆ
“คุณประธานของนายขอแค่สิบนาที...”
“และเขาบอกให้ฉันไปส่งนาย”
“ไม่จำเป็น ฉันมีปัญญากลับเอง” ไคยกยิ้มที่มุมปาก และยกมือขึ้นปัดไหล่ข้างที่ชานยอลจับเมื่อครู่นั้นอีกครั้งและหันกายเดินไป...
ชานยอลกลอกตาไปมาอย่างพยายามระงับอารมณ์โกรธที่พุ่งพล่าน... เขากับเจ้าเด็กรุ่นน้องนั่นเจอกันนับครั้งได้ก็จริงอยู่ แต่หนึ่งในไอ้นับครั้งได้นั่น ไม่มีครั้งไหนเลยที่ไอ้เด็กคนนี้จะไม่ทำตัวกวนเท้าเลยสักครั้ง
“มีปัญญากลับเอง แต่คงไม่มีปัญญาทำอะไรให้ชาวบ้านสินะ” เสียงทุ้มเอ่ยไล่หลัง ทำให้ขาเรียวที่กำลังจะก้าวต่อไปนั้นหยุดลงทันที... ไคหันมามองคนตรงหน้าที่เริ่มหาเรื่องเขาก่อนด้วยสายตาท้าทาย ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากอย่างกวนประสาท
“ถ้าชาวบ้านคนนั้นเป็นนาย... ถึงมีปัญญาฉันก็ไม่ช่วย”
“เหตุผลละ?”
“ไม่ถูกชะตา... ขอตัวนะครับ รุ่นพี่”
ชานยอลมองรุ่นน้องต่างโรงเรียนที่เดินต่อไปอย่างไม่โกรธหรืออะไรมากไปกว่านั้น... กลับกันเขากำลังรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งมันด้วยซ้ำ คิมจงอินเป็นเด็กที่ฮอตมากในหมู่สาวๆ หน้าตาคมคายผิวเข้ม และใบหน้าที่นิ่งสนิทที่เรียกได้ว่า น่าหลงใหล...
...แต่สำหรับปาร์คชานยอล...
มันไม่เห็นหน้าหลงใหลเลยสักนิด...
แต่บางอย่าง... มันก็ทำให้เขาอยากเห็นหน้าเจ้าเด็กกวนประสาทบ่อยๆเหมือนกัน
บางอย่างที่เรียกได้ว่า....ความรัก
ร่างสูงเดินกลับไปหาเพื่อนร่างเล็กที่นั่งจิบน้ำชากับน้องรหัสอยู่อย่างสบายใจ... พยอนแพคฮยอนเหลือบมองคนที่เดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มแล้วก็ต้องส่ายหัวไปมาอย่างอ่อนใจ... งานเขาคงล่มอีกแหง เพราะดูท่าเจ้าเพื่อนบ้าคนนี้คงไม่ได้คุยงานให้แหงๆ
“กูบอกให้มึงไปส่งน้องนะชานยอล” แพคฮยอนเอ่ยปากทันทีที่เพื่อนสนิทร่างสูงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ตาคมเหลือบมองเพื่อนรักแวบหนึ่งก่อนจะยกแก้วชาขึ้นจิบอย่างอารมณ์ดี...
“ก็น้องไคของมึงไม่ยอมให้กูไปส่ง กูจะทำไงได้”
“มึงก็รวบหัวรวบหางพาไปส่งสิวะ ไอ้เอ๋อ... ทีงี้ทำมาเป็นสุภาพบุรุษ... ถามจริง มึงชอบน้องเขาใช่ไหม?” แพคฮยอนยกมือขึ้นตีไหล่หนาของเพื่อนอย่างแรง
“รวบหัวรวบหาง ? มึงกลัวกูไม่ตายหรอพยอน... ขาก็ยาวแขนก็ยาวแบบนั้นลองรวบสิ ตายห่าแน่ๆ ทำไงดีวะ น้องจงอินแม่งเกลียดกูแหงๆ”
“มึงไปกวนตีนเขาแบบนั้น ใครไม่เกลียดมึงบ้างละ... ไปกันเถอะแทมิน เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านนะ... ขอบใจมากที่พาเพื่อนมาให้ไอ้เอ๋อมันกวนตีนทุกวัน”
“มะ... ไม่เป็นไรครับ... ทีแรกผมคิดว่าพี่แพคฮยอนชอบไคซะอีก...”
“และทุกคนก็คิดว่าชานยอลชอบพี่ด้วยใช่ไหมละ... ปัญญาอ่อนกันจริงๆ ใครจะไปชอบเพื่อนเอ๋อๆอย่างมันได้วะ... กลับกันๆ เดี๋ยวดึกแล้วพี่จินกิจะหาว่าพี่กักตัวน้องแทมินอีกนะ... ส่วนแก... หาทางที่ทำให้งานฉันสำเร็จให้ได้ด้วย!!!”
พยอนแพคฮยอนเดินจากไปพร้อมกับร่างผอมบางของน้องรหัสมัน... ชานยอลยกยิ้มกับคำสั่งทิ้งท้ายของเพื่อนสนิท ก่อนจะเก็บถ้วยชาทั้งหมดไปล้างและวางคว่ำไว้ข้างอ่าง... ร่างสูงเดินไปยังลานจอดรถหน้าโรงเรียน ที่ทางบ้านของเขาส่งคนมารับเช่นทุกวัน...
ทันทีที่ถึงบ้านร่างสูงก็รีบขึ้นไปบนห้องของตนทันที... งานแสดงดนตรีที่พยอนแพคฮยอนพูดถึงนั้น มันเป็นงานแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆของชมรมดนตรีที่มีเขาเป็นตัวเอก... เขาจึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อไม่ให้ทุกคนที่คาดหวังในตัวเขา ต้องผิดหวัง...
มือหนาวางหนังสือเรียนลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะปลดกระดุมเม็ดบนของชุดนักเรียนออก และตรงไปหยิบกีตาร์ซึ่งเป็นของสำคัญอีกอย่างในชีวิตของเขา...
...กีตาร์ที่พ่อเป็นคนสอนให้...
แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ใบหน้าผ่อนคลายยิ้มแย้มยามนี้นั้นกำลังคิดแผนแกล้งให้คนที่ปฏิเสธการทำงานกับเขาทันทีนั้น ยอมตอบตกลงให้ได้อยู่...
...ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่...
หากเป็นสิ่งที่เขาต้องการ...
ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้...
ไคกำลังหัวเสียอย่างหนัก เมื่อได้รับเมลจากคนที่ไม่อยากเจอหน้ามากที่สุดว่าเดี๋ยวเย็นนี้จะมารับหน้าโรงเรียน... ปาร์คชานยอลเป็นบ้าไปแล้วรึไง ถึงคิดจะบังคับให้เขาทำงานด้วยวิธีนี้น่ะ...
“เป็นไรวะไค... หน้าเครียดเชียว” เสียงเพื่อนสนิทอย่างโอเซฮุนเอ่ยถามขึ้น ในขณะที่ดวงตาคมของไคตวัดมองทันที... มือเรียวยื่นเครื่องมือสื่อสารเครื่องบางให้เพื่อนสนิทอ่านก่อนจะฟุ่บหน้าลงกับแขนตัวเองอย่างแสนหงุดหงิด...
...เย็นนี้จะไปรับ ถ้าไม่เจอแสดงว่าปอด...พี่ชานยอล...
...ก็สมควรที่ไคมันจะหงุดหงิด...
เซฮุนคิดในใจก่อนจะส่งมือถือคืนให้กับเพื่อนสนิท.... “ถ้ามึงไม่ไปกูไปให้ป่ะละ... กะพี่ชานยอลกูโอเคมากนะ”
“ฝัน!!”
“อ้าว... พูดงี้หมายความว่าไงวะ... แกชอบพี่ชานยอลรึไง”
“เปล่า... ถ้าแกได้เป็นแฟนกับมัน ฉันก็ต้องเจอหน้ามันบ่อยๆ บอกตรงๆ ไม่อยากเห็นหน้ามัน”
“เหตุผลละไค?”
“.............” ความเงียบคือสิ่งที่เซฮุนได้รับ... มือบางเลื่อนไปตบหัวที่ปกคลุมด้วยกลุ่มผมนุ่มเบาๆก่อนจะเหล่มองด้วยสายตาที่เขาเห็นแล้วไม่รู้สึกผลอดภัยสักนิด...
“แกชอบพี่ชานยอลใช่ไหม”
“โลกแตกรึไง ถามอะไรแบบนี้”
“ตอบไม่ตรงคำถาม... ว่าไงคุณเพื่อนคนเก่ง.... แกชอบพี่เขาไหม” เซฮุนยังคงซักเขาด้วยคำถามเดิม... จงอินยกมือขึ้นตบหัวเพื่อนรักคืนไปที ก่อนจะหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายไหล่ข้างหนึ่งและเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว จนเซฮุนวิ่งตามแทบไม่ทัน...
และทันทีที่เดินตามเพื่อนตัวดีทัน เซฮุนก็เอ่ยถามอีกครั้ง “มึงชอบเขาใช่ไหม?”
“แค่ไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากเข้าใกล้ไม่อยากคุย รวมๆแล้วก็ ไม่อยากเสวนาด้วย”
“งั้นแปลว่ามึงกลัวจะชอบเขา”
“แกเป็นบ้าอะไรมานั่งเค้นวะ... กูเป็นผู้ชาย”
“กูก็เป็นผู้ชาย... ยังชอบจื่อเทาได้เลย ของแบบนี้มันอยู่ที่ความรู้สึก... ถามตัวมึงเองเถอะไอ้ไค” เซฮุนว่าจบก็เดินผ่านเพื่อนสนิทไปหาร่างสูงของเด็กแลกเปลี่ยนชาวจีนที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนทันที... ตาคมกลอกไปมาอย่างเบื่อหน่าย เมื่อเห็นร่างสูงของคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดนั้นกำลังยืนกอดอกพิงรถคันหรูของเจ้าตัวอยู่... ใบหน้าหล่อเหลาสวมปกปิดด้วยแว่นตากรอบดำที่ไม่มีเลนส์ยิ่งทำให้ดูดีเข้าไปอีก... อีกทั้งชุดนักเรียนโรงเรียนดังที่สวมใส่อยู่นั้นยิ่งทำให้ปาร์คชานยอลดูดีขึ้นไปอีก...
...แต่มันก็ไม่ใช่สำหรับเขาหรอก!!...
“ไค!!” เสียงทุ้มต่ำตะโกนพร้อมกับโบกมือไปมา... อากัปกริยาที่แปลกประหลาดนั้นยิ่งทำให้เขาอดระแวงไม่ได้... และเมื่อเสียงเพื่อนสนิทดังขึ้นในหัว มันยิ่งทำให้เขาเผลอปั้นหน้าเครียดกว่าเดิม...
“เสียงดังน่ารำคาญ... มีธุระอะไร”
“ก็มารับอย่างที่บอกไง... ไปๆขึ้นรถนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“เล่นบ้าอะไรของนาย... ฉันไม่เคยเรียกนายว่าพี่ และฉันก็ไม่นับว่านายเป็นพี่ด้วย ว่าธุระมาแล้วรีบไปซะ” ไคปัดมือหนาที่เอื้อมมาจะจับแขนของตนออก ก่อนจะว่ายาวเหยียดด้วยน้ำเสียงจริงจังและเอาเรื่อง.. ชานยอลถอนหายใจออกมายาวเหยียด ก่อนจะสบดวงตาคู่สวยของไคอย่างตรงไปตรงมา... แต่คนอายุน้อยกว่าก็เป็นคนหลบตาก่อน...
ไคถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะก้มหน้ามองลงพื้น “อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก...” ว่าจบก็เดินเบี่ยงหลบไปเพื่อเดินกลับบ้านตามปกติ..
แต่แล้วแขนเรียวก็ถูกรั้งด้วยมือหนา คนตัวสูงกว่าเปิดประตูรถก่อนจะผลักร่างของไคเข้าไปในรถอย่างรุนแรง และแทรกตัวขึ้นนั่งข้างๆก่อนจะสั่งให้คนรถออกรถไปทันที...
“ทำบ้าไร!!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดตะโกนลั่นรถ ก่อนจะตรงเข้ากระชากคอเสื้อของคนอายุมากกว่าอย่างไม่กลัวเกรง
“ฉันอุตส่าห์พูดดีๆกับนาย แต่นายกลับไม่ชอบ... คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการคุยกันด้วยกำลังจริงไหม... คิมจงอิน”
“จะดวลอะไรก็ว่ามาดีกว่า..”
“ไม่ละ... เสียเวลา...”
“ปอดแหกรึไง.. สุดท้ายก็เป็นคุณชายดีแต่ปากสินะ”
“เลิกกวนตีนสักที... คิดว่าพี่อยากทำร้ายคนที่ชอบรึไง”
...เหมือนมีฟ้าผ่าลงมาท่ามกลางสภาพอากาศที่แจ่มใส... ร่างโปร่งเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน..มือเรียวที่กำคอเสื้อของคนอายุมากกว่าข้างๆนั้นปล่อยออกอย่างตกใจก่อนจะถอยห่างอย่างรวดเร็ว ส่วนคนพูดเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป ก็ยกมือขึ้นปิดปาก และเสมองออกไปยังวิวเบื้องนอก
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งตัวรถทันที... ไคขยับตัวให้ห่างจากรุ่นพี่ต่างโรงเรียนเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าออกไปมองข้างนอก... คำถามของโอเซฮุนดังขึ้นในหัวทันทีที่ความเงียบเริ่มก่อตัวมากขึ้น...
...กูไม่รู้วะเซฮุน แต่ตอนที่เขาบอกว่าชอบกู...
กูกลับไม่รู้สึกรังเกียจ... กลับกัน มันกลับตื้นตันและดีใจมากอีกต่างหาก...
...แบบนี้คือกูชอบเขารึเปล่าวะ...
“ไค... นายรังเกียจพี่รึเปล่า?” สุดท้ายปาร์คชานยอลก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ... ไหนๆเขาก็เผลอหลุดปากไปแล้ว... ก็ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสมันเลยแล้วกัน
“นายไม่ได้ชอบพี่แพคฮยอนหรอกเหรอ”
“พี่ชอบนาย...”
“................”
“ขอโทษทีทำให้ลำบากใจ... เดี๋ยวจะไปส่งที่บ้านนะไค ลืมมันซะเถอะ”
“บ้ารึเปล่า...”
“หื้ม??”
“นายบ้ารึเปล่า... อยู่ๆก็บอกว่าชอบ... และก็บอกให้ลืม... ไม่รู้รึไงว่าทำให้คนอื่นดีใจขนาดนั้น... สมควรแล้วที่พี่แพคฮยอนจะด่าแกว่าไอ้เอ๋อน่ะ!!!!”
“มะ...หมายความว่าไง ??”
“บางที....อาจจะ....ไม่แน่ใจเหมือนกัน... ชอบเหมือนกัน....มั้ง” ไคว่าด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ ก่อนจะเสหน้าหลบสายตาของคนที่มองมาด้วยความไม่คุ้นชิน.... มือเรียวยกขึ้นดันคนที่ทำท่าจะขยับเข้ามาใกล้นั้นให้ออกห่าง แต่ก็สู้แรงไม่ได้...
ชานยอลที่มือไวขึ้นมาทันทีนั้นคว้าร่างโปร่งของรุ่นน้องมากอดหลวมๆ ในขณะเดียวกันไคที่กำลังปั้นหน้าไม่ถูกนั้นก็ใช้มือทุบลงบนหลังกว้างอย่างแรง... จนร่างสูงจำต้องปล่อยร่างโปร่งที่มีใบหน้าเรียบเฉยอย่างไม่พอใจ...
“พูดว่า “ชอบพี่ครับ” ให้ฟังหน่อยนะ”
“บ้ารึไง!!”
“ถึงจะบ้า ก็บ้าเพราะรักน้องจงอินมานานแล้วนะ”
“ไม่ขำ ไม่เขินด้วย!! อย่ามาปัญญาอ่อน!! นายมีธุระอะไรก็ว่ามาเร็วๆ!!”
“พูดได้เหรอ?”
“เออ!!”
“ช่วยงานดนตรีหน่อยได้ป่ะ?”
“เออ!!”
“ไม่มีปัญหาแน่นะ?”
“เออ!!”
“เป็นแฟนกันด้วยนะ?”
“เออ!!........เฮ้ย!! ไม่!! ไม่เป็น ถอยออกไป ไอ้บ้า!!!”
แต่สุดท้ายร่างโปร่งก็ปล่อยให้รุ่นพี่ที่ตัวโตกว่ากอดด้วยใบหน้าที่หงิกยิ่งกว่าอะไรดี... ดวงตาคู่คมของจงอินเหลือบมองคนข้างๆก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียดอย่างเนือยๆ
...นี่คงเป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากเข้าใกล้เขาละมั้ง...
เพราะเขา...ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิด...
เพราะแบบนี้ละมั้ง.. ถึงไม่อยากเห็นหน้า...
...เพราะกลัวว่าจะเผลอพูดความจริงออกไป...
...ความจริงที่ชอบคนคนนี้มากจนไม่อยากจะยอมรับ...
END…
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
OK... ร้อยเปอร์เซ็นของจริงนะคะ... ลงแล้ววว ห้ามสาปส่งโบ้แล้วน้า 55555555555
เมื่อวานไล่ตามทุกคนที่รีและกดเฟบของเราเลยย คือไม่คิดว่าชานไคจะมีคนสนใจนะ
แต่จริงๆที่เราติด และจุดไฟให้เราก็คือ "IVY CLUB" ตอนสัมภาษณ์อินเตอร์วิวอ่าค่ะะ
สายตาที่สอดประสานกันตอนพี่ชานกำลังให้สัมภาษณ์นั้นคืออะไรร
ทำไมคิมจงอินถึงสายตาหวานเชื่อมขนาดนั้นนะ แล้วก็จินตนาการไปเรื่อยๆ บ้าบอมาก เพ้อมากนะนี่เอาจริงๆ 555555555 มันก็เลยกลายเป็นฟิคเรื่องนี้แหละค่ะ . ___ .'' หวังว่าจะชอบกันน้าา งิงิงิ
ก็... ขอบคุณทุกๆคนที่กดเข้ามาอ่านกันนะคะ ขอโทษคนที่กดเข้ามาเมื่อวานด้วยย รักทุกๆคนน้าา
ขอบคุณมากๆเลยค่า >v<
ปล. สำหรับคนที่กำลังรอ AUCTION ขอให้อดใจรอหน่อยนะคะ ของหนักๆมันต้องใช้เวลานิดนึงงง
ปล๒. สำหรับคนที่รอ ONE NIGHT ก็ต้องขออภัยเช่นกันค่ะ... รอกันก่อนนะ ของเยอะๆ(?)มันก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน T/////////////T
ความคิดเห็น