คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : ▲ DANGEROUS AREA ✗ : 26th
“ ฉันต้องการคำอธิบายว่ามันเกิดอะไรขึ้น ! ”
“ … ”
พระเจ้าไม่เคยเข้าข้างคนผิด ท่านไม่เคยคิดเมตตากันฝ่าฝืนกฎธรรมชาติที่ท่านเป็นคนคิดริเริ่มขึ้นด้วยตัวเอง เซฮุนนั่งคุกเข่าแทบเท้าคนเป็นพ่อ ดวงตาเรียวที่ฉาดฉายแวววาวเมื่อครู่ทึบแสง มือใหญ่จับเอามือเล็กนุ่มนิ่มมากุมไว้ทั้งๆ ที่ในใจนั้นหวั่นหวาดเหลือเกิน
ข้างกายเยื้องซ้ายคือลู่ฮาน ผู้ชายหน้าหวานที่เปรียบเสมือนลมหายใจและทุกๆ สิ่งกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ด้วย ร่างเล็กนั้นสั่นเทิ้ม เสียงสะอึกสะอื้นดังเป็นระรอกคลื่นชวนให้คนฟังใจหาย หากเป็นเวลาปกติแล้วไซร้ เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เคยเกิดขึ้น เซฮุนอยากเข้าไปกอดปลอบ อยากจะคว้าเอาคนตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมแขน อยากกางปีกปกป้องอย่างที่เคยเอ่ยสัตย์ลั่นวาจาไว้แต่ก็ทำไม่ได้ เขาอ่อนแอ อ่อนแอเกินกว่าจะรับลู่ฮานมากอดไว้ กลัว กลัวเหลือเกินว่าหากได้เห็นน้ำตาลู่ฮานมากไปกว่านี้ หัวใจจะบีบรัดจนหยุดหายใจไปเลยก็ได้
“ ฉันถาม ไม่ได้ยินหรือยังไง ! ”
ฉาด !
“ เซฮุน ! ฮือ.. ”
หัวใจของลู่ฮานปวดราวกับว่ามีคนจับมันโยนลงในสระน้ำกรด เขาแทบจะลงไปดิ้นพล่านเมื่อเห็นว่าคุณพ่อไม่ราแรงในการตบแก้มของน้องเลย น้ำร้อนเม็ดใสไหลอาบทั่วทุกพื้นที่ของใบหน้า ยิ่งเห็นร่างกายกำยำแข็งแรงของน้องล้มลงไปนอนกองบนพื้นยิ่งทรมาน ร่างเล็กโผเข้ากอดปกป้องคนรักของตัวเอง สองมือน้อยประคองใบหน้าหล่อเหลาอย่างหวงแหน เกลี่ยนิ้วตามรอยแดงข้างแก้มพร้อมกระซิบเสียงแผ่วเบาว่าเขาห่วงน้องเหลือเกิน
“ คุณคะ.. ใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม ลูกกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว ”
ซอนมีวางมืออุ่นลงบนท่อนแขนภายใต้สูทราคาแพงของคนเป็นสามี เบือนหน้าหนีภาพอันน่าสลดในกรอบสายตาด้วยหัวใจอันเจ็บปวด นางอยากกล้าและมีอำนาจมากพอที่จะสั่งให้สามีหยุดทำเช่นนี้ หากแต่ในความเป็นจริงนั้นไซร้ ประมุขคนเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในตระกูลโอ คือจีฮุนคนนี้ ซอนมีรู้ว่าสามีของตนเองมีความเผด็จการมากเพียงใด ยามโหดร้ายขึ้นมาทีไรลูกน้องในบริษัทก็พาดันตะพัดตะพือหนี เช่นเดียวกัน ในความเลวร้ายเหล่านั้นจีฮุนก็เป็นคนใจดี มีเมตตา เกื้อหนุนจุนเจือให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรแถบอเมริกาและเอเชียจนทั่วไปหมด ก่อนหน้านี้เมื่อสองสามวัน นางคิดว่านางแต่งงานกับคนไม่ผิด จีฮุนเป็นคนดี เพียบพร้อม คุณสมบัติผู้นำเต็มเปี่ยม ยอดเยี่ยมทางด้านหัวการค้า แต่น่าเสียดายที่จีฮุนนั้นแสนเผด็จการ ทั้งยังใจไม่กว้างพอจะเปิดรับความรักในรูปแบบใหม่ที่สมัยนี้ใครเขาก็ทำกัน
แน่นอน ซอนมีรับได้ นางมีสังคมใหญ่ที่กลุ่มเพื่อนพากันตั้งวงสนทนากันให้แซด มิสเคทก็มีลูกชาย ใช่ ลูกหล่อนเป็นชายรักชาย จุดนี้ไม่ผิดอะไรเพราะไม่ได้พากันไปเสียหาย ส่วนมิสบอนด์ รายนั้นมีลูกสาว เขาเรียกว่าเลสเบี้ยน แต่เช่นกันก็ไม่ได้พากันไปเสียหาย นางไม่ได้ใส่ใจกับปัญหาตรงนี้มากนัก ลูกจะรักจะชังอะไรนางก็พร้อมคล้อยตามและคอยสนับสนุน เว้นไว้เสียแต่บางเรื่องที่จีฮุนไม่เห็นด้วยกับลูกคนเล็ก นางก็จะไม่ขัดให้พาลเสียความรู้สึกต่อกัน
ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนคือจีฮุนรักลู่ฮานมากกว่าเซฮุน แต่จะเรียกเซฮุนว่าลูกชังก็คงเรียกได้ไม่เต็มปาก ด้วยที่ชินชอบกับความอ่อนช้อยคล้อยตามมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ยึดเอาโอวาสของตนเองเป็นใหญ่ผลสุดท้ายจึงออกมาเป็นเช่นนี้ ลูกบุญธรรมของคุณจีฮุนจึงเป็นทั้งที่รักรวมทั้งเป็นความหวังหลัก แม้ไม่อาจบังคับให้ลูกสืบทอดรับเอาธุรกิจที่ตนเองสานต่อเจตนารมณ์มาหลายต่อหลายรุ่นได้ เขาก็ยังภูมิใจที่ลู่ฮานนำพาเอาชื่อเสียงมาให้ครอบครัววงตระกูลบ่อยๆ
แน่นอนว่ามันช่างขัดกับเซฮุน ลูกชายแท้ๆ ที่ท่านตั้งใจทำให้เกิดมาด้วยความรักและความหวัง เส้นทางเดินชีวิตสวยหรูที่คนเป็นพ่อวางทอดยาวเอาไว้ให้ถูกรื้อพังไม่เหลือชิ้นดีจากฝีมือลูกคนเล็ก เซฮุนเกลียดการถูกตีกรอบ เขาไม่ชอบเดินตามทางที่ใครขีดเส้นไว้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือผู้มีบุญคุณล้นพ้นเท่าไหร่เซฮุนก็ไม่สน เขาเชื่อเสมอว่า ชีวิตหนึ่งหากเกิดมาก็ต้องใช้ให้คุ้ม ชอบอะไรก็เริ่มทำ เกลียดอย่างไหนก็เมินมันเสีย นิสัยดังกล่าวจึงติดตัวจนมลายกลายเป็นสันดานจนจวบกระทั่งทุกวันนี้
“ เซฮุน.. ฉันจะนับหนึ่ง ”
ความอดทนของคนเป็นพ่อกำลังจะขาดสะบั้น
“ … ”
“ แกก็รู้ว่าความอดทนฉันมีไม่มากนัก เซฮุน ..สอง ”
มันกำลังจะขาด..
“ ฉันจะนับ... ส... ”
“ ผมกับลู่ฮาน เรารักกันครับพ่อ ”
และมันก็ขาด...
ฉาด!
“ ฉันจะให้แกพูดใหม่เซฮุน ...พูด ให้เข้าหู ”
ประมุขตระกูลโอกำลังเปิดระบบหล่อเย็นภายในกาย แต่ดูเหมือนมันจะช่วยได้ไม่มากนักเพราะเจ้าลูกชายคนดีนี้เอาแต่พูดหาเรื่อง เขากดอารมณ์ลงต่ำ เก็บซ่อนอาการโมโหร้ายไว้ส่วนในสุดของความนึกคิด
“ ผมกับลู่ฮาน เรารักกันครับพ่อ ”
“ โอ เซฮุน !!! ”
ชายวัยกลางคนเงื้อมือจนสุด หมายจะเหวี่ยงฟาดลงไปที่ใบหน้าของลูกแท้ๆ ของตนเองอีกครั้ง หากแต่ว่าสถานการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนตัวเล็กที่มีศักดิ์เป็นคนรักของลูกชายไม่อาจทนมองภาพที่ชวนให้เจ็บปวดใจได้อีก ลู่ฮานถลาเอาตัวเองเข้าบังใบหน้าน้องชายอันเป็นที่รัก ส่งผลให้ดวงหน้าสวยหวานที่ใครๆ ก็พาลพากันหวงแหนสะบัดสั่นไปตามแรงตบ ริมฝีปากเล็กกลบทับเต็มไปด้วยเลือดสดกลิ่นคาวชวนสะอิดสะเอียน ดวงตากลมโตคลอฉ่ำไปด้วยน้ำอุ่นใส สมองกับหัวใจทำงานสอดประสานกันไม่ติดขัด อดีตลูกบุญธรรมถูกความน้อยใจตีตื้นจนล้นออก แววตาตัดพ้อส่งสบกับคนเป็นพ่อชวนให้ใจหาย ฝ่ามือเหี่ยวย่นสั่นระริก คิดจะปริปากขอโทษแต่บุคคลที่สามที่ทนยืนนิ่งอยู่นานก็สืบเท้ามาประชิดตัวพร้อมกับอาวุธปืนสีดำสนิทที่ยกขึ้นจ่อศรีษะของตนเอาไว้เสียแล้ว
“ ถ้าคุณทำร้ายพี่ชายผมแม้แต่ปลายก้อย หรือแม้แต่อีกทีเดียวล่ะก็.. ผมไม่เอาคุณไว้แน่ ผมสาบาน ! ”
“ หะ...หนาน.. หนาน พี่ไม่เป็นอะไร เอาปืนลงนะ อย่าเอาปืนจ่อหัวคุณพ่อ ”
แม้เรี่ยวแรงที่เคยมีอยู่จะหดหายไปจนเกือบหมดสิ้น แต่ลู่ฮานก็ไม่อาจเนรคุณคนที่เปรียบเสมือนกับพ่อแท้ๆ ของตนเองได้ เขาคลานเข้าไปใกล้เรียวขาของน้องชายฝาแฝด โอบรัดมันไว้พร้อมกับแนบปรางค์แก้มลงไปบนสกินนี่ยีนส์สีเข้ม ปล่อยให้น้ำตาไหลพร้อมอ้อนวอนเสียงแผ่ว ว่าขออย่าให้เรื่องราวมันแย่ไปมากกว่านี้เลย
“ ผมเป็นพ่อของเขา ! ”
“ ในทางนิตินัยคุณพ้นจากสถานภาพนั้นตั้งแต่เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว อีกทั้งทางพฤตินัยคุณก็ทำตัวไม่เหมาะสมกับคำว่าพ่อบุญธรรมที่คุณได้รับ พี่ชายผมเป็นเด็กในอุปการะคุณก็จริง แต่ที่จริงกว่าคือคุณไม่มีสิทธิ์ลงไม้ลงมือกับใครโดยใช้แรงโทษะเป็นใหญ่ ยิ่งกับคนที่เป็นถึงลูกชายของคุณ คุณยิ่งไม่ควร ! ”
จงอินถอนหายใจเฮือก เมื่อครู่ปืนพกสองกระบอกที่ถูกเหน็บไว้ที่เอวโดนยึดคืนไปเสียหนึ่ง อยากจะเข้าไปห้ามแต่ก็แสนอ่อนใจ คำว่าครอบครัวเป็นสิ่งเปราะบางเสียยิ่งกว่าแผ่นแก้ว เห็นลู่หนานตั้งตัวเป็นศัตรูกับเซฮุนเช่นนั้นหากความจริงใครเล่าจะมาล่วงรู้ ความประทับใจแรกเป็นไปได้ไม่ดีนักแต่ความใจเด็ดและความมั่นคงของเซฮุนก็ยึดเอาพื้นที่เกือบครึ่งหัวใจของเพื่อนตัวเล็กคนนี้ไปได้แล้วแบบง่ายๆ เพียงได้ยินว่าเซฮุนจะเป็นจะตาย ร้องไห้จนน้ำตาคล้ายจะเป็นสายเลือดเพียงเพราะคิดถึงลู่ฮาน กำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ก็ค่อยๆ มลายกลายเป็นหยดน้ำ นิสัยขี้สงสารที่ถูกเก็บลึกไว้ในอกลอยขึ้นมาอีกครั้ง
“ แล้วคุณจะมายุ่งอะไรกับครอบครัวของผม ! ”
“ คนที่คุณบอกว่าเป็นครอบครัวของคุณ เขาก็คือครอบครัวของผมเหมือนกัน ! ”
แต่ผู้พิทักษ์สันติราชอย่างเขาก็ไม่อาจปล่อยให้มีใครยืนเอาปืนจ่อหัวกันเช่นนี้ได้ ชายหนุ่มสืบเท้าเข้าใกล้ร่างเพรียวของเพื่อนรัก กอดรัดและบิดข้อมือเล็กให้อาวุธปืนหล่นลงแทบเท้า เขาเตะมันไปไกล เร่งลากคนดื้อถูลู่ถูกังออกไปจากห้องเพราะเกรงว่าเดี๋ยวจะมีการฆาตกรรมกันเกิดขึ้น จงอินส่งสายตาฝากฝังลู่ฮานไว้กับเซฮุนแทนลู่หนานที่ดิ้นเป็นปลาทูโดนน้ำมันลวกอยู่ในอ้อมแขน ได้รับการพยักหน้ากลับมาจากผู้รับสารแล้วก็โล่งใจไปหลายเปราะ ก่อนที่จะดันตัวหมาบ้าที่ตั้งแต่มาอยู่ที่เกาหลีก็ดูเหมือนว่าเชื้อมันจะแตกตัวง่ายเหลือเกินออกไปจากห้อง ปล่อยให้เรื่องราวในครอบครัวถูกคลายปมด้วยบุคคลที่เป็นต้นเรื่องต้นราวทั้งหมดเสียดีกว่า
“ จ..เจ็บไหมครับคนดี ”
เซฮุนยกมือคู่ใหญ่อันสั่นเทาของตัวเองประคองปรางค์แก้มขึ้นรอยแดงนั้นไว้ด้วยความหวงแหน น้ำร้อนเม็ดอุ่นไหลอาบใบหน้าหล่อเหลา กล่าวปลอบประโยนคนตัวเล็กทั้งๆ ที่มุมปากของตัวเองเริ่มฉีกและมีเลือดไหลออกมามากขึ้น แรงตบของพ่อร้ายแรงกว่าที่ใครคิด มันทำให้ปากของเขาแตก เกิดอาการแสบไปหมด แต่ถึงกระนั้นเอง เซฮุนก็ยังไม่หยุดพูด ไม่หยุดพร่ำบอกถ้อยวจีต่างๆ นาๆ ที่มันอาจทำให้คนรักของเขาสบายใจได้ เจ็บเท่านี้มันเล็กน้อยเหลือเกินหากเทียบกับสภาพหัวใจอันยับเยิน และสภาวะตื่นกลัวที่ร่างเล็กกำลังเผชิญอยู่
โอ จีฮุนหาได้หยุดแค่นั้นไม่ ทันทีที่คล้อยหลังส่วนเกินทั้งสองไปเขาก็ทำท่าจะเข้ามากระชากเอาคู่รักทั้งสองออกจากกันอีกครั้ง สัญชาติญาณคนเป็นแม่สั่งให้ซอนมีทำอะไรบางอย่าง ตอนนี้มันไม่ถูกเสียแล้วหากนางยังยืนกรานจะเข้าข้างสามีของตัวเองเหมือนเช่นกระต่ายยืนขาเดียว ร่างเพรียวบางของผู้ที่ได้ชื่อว่าแม่จึงถลาเข้าไปตระกองกอดลูกทั้งสองเอาไว้ด้วยแรงทั้งหมดที่มี ความห่วงใยและความรักส่งต่อกันทางผิวเนื้อ แม้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันทั้งหมดแต่ความสัมพันธ์ที่เชื่อมประสานครอบครัวเล็กๆ นี้เอาไว้ด้วยกันก็ไม่อาจจะตัดให้ขาดได้เพียงเพราะลูกชายคนหนึ่งของนางมีพ่อแม่ที่แท้จริง
“ ถ้าคุณจะตบลูกอีก คุณก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน จีฮุน ! ”
ซอนมีไม่เคยมีปฏิกิริยาก้าวร้าว ตระกูลขุนนางเก่าล้วนเลี้ยงลูกสาวทุกคนให้ยืนอยู่บนบรรทัดฐานสังคมที่ดีทั้งนั้น ดวงตาอ่อนโยมีประกายของความแข็งกร้าวส่งสบกับผู้เป็นสามีไม่ลดละ แม้มันจะแดงช้ำเนื่องจากนางเลือกที่จะยืนร้องไห้เงียบๆ มาสักครู่แล้ว
“ ลูกผิดอะไรคะจีฮุน ตอบฉันหน่อย ! ลูกไปทำอะไรผิดคุณถึงโกรธเกลียดลูกจนถึงขั้นลงไม้ลงมือไม่ฟังอะไรแบบนี้ ! ” นางกล่าวทั้งๆ ที่ยังกระชับอ้อมกอดเล็กๆ นั้นแน่น “ ลูกไม่ได้ทำผิดอะไรเลยจีฮุน ลูกไม่เคยพากันไปเสียหาย พวกเขาเป็นเด็กดีและเป็นมาโดยตลอด ลู่ฮานเรียนจบ มีงานทำ นำชื่อเสียงมาให้พวกเราไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แถมลูกยังไม่เคยพึ่งเงินในบัญชีที่เราโอนให้ทุกเดือนเลย ! ” อ้อมกอดของแม่อุ่นเสมอ.. ยามนี้ แม่นกตัวเล็กพร้อมกางปีกปกป้องลูกนกที่กำลังตื่นกลัวสุดขีดด้วยใจรัก มันยอมเสียสละทุกอย่าง.. หากพระเจ้าสาบานว่าลูกของมันจะปลอดภัย “ เซฮุนก็เหมือนกัน ! ลูกเป็นนายแบบ ลูกทำงานที่ลูกรัก ตระกูลโอไม่ได้โด่งดังแค่เพียงเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เรายังมีลูกเป็นนายแบบที่ไม่ว่าจะสำนักพิมพ์ไหนก็ให้ความสนใจและให้ความไว้วางใจที่จะอยากร่วมงานด้วย ตอบฉันสิคะจีฮุน ลูกของเราผิดอะไร ! ”
“ คุณมองแค่ส่วนนั้น ซอนมี ! ให้ตายเถอะ คุณรู้ไหมใครจะมองยังไงหากรู้ว่าลูกเราเป็นพวกชายรักชายน่ารังเกียจ ! ”
“ พอเถอะพ่อ !!!!!! ”
เซฮุนไม่อาจทนฟังวาจาทำร้ายจิตใจได้อีกต่อไปแล้ว ร่างสูงผละตัวออกจากอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ยันตัวลุกขึ้นยืนสุดความสูงประจันหน้ากับบิดาไม่ได้ลดราความดุร้าย
“ พ่อพังชีวิตผมมาแปดปีเต็ม ! ไม่สิ ยี่สิบสี่ปีที่ผมโตมาในตระกูลโอ พ่อทำลาย พ่อทำมันพังทั้งหมด ! ”
“ โอ เซฮุน ! หยุดเดี๋ยวนี้ ! ”
“ ผมไม่หยุด และไม่มีทางหยุดแน่ถ้าแม่กับพี่ยังไม่รู้ถึงความเลวร้ายที่พ่อทำไว้กับชีวิตผม ! ”
“ เซฮุน ! ”
“ ทำไม ! ยอมรับความจริงไม่ได้หรอพ่อ ! ตั้งแต่ผมเกิดมาพ่อก็ขีดเส้นทางเดินชีวิตให้ผมตลอด พ่อสั่งซ้าย ผมก็ต้องไปซ้าย พ่อสั่งขวาผมก็ต้องไปขวา ผมไม่ใช่หมานะพ่อ ผมเป็นลูกพ่อ ! ” เซฮุนตัวสั่นไปหมด ทั้งโกรธทั้งเสียใจ เรื่องมันจะไม่บานปลายไปมากกว่านี้อีกต่อไปแล้ว “ พ่อไม่เคยทำหน้าที่พ่อเลยนอกจากวันงานรับปริญญา พ่อไม่เคยไปงานโรงเรียนผมไม่ว่าจะประถมจวบจนกระทั่งมัธยมปลาย ผมลงแข่งอเมริกันฟุตบอล ปวดหนึบไปทั้งตัวเพียงเพราะอยากให้พ่อลุกออกจากเก้าอี้บริหารโง่เง่านั่นมาดูผมแข่ง มาดูผมรับถ้วยรางวัลสีทองที่มันน่าภูมิใจมากกว่าสิ่งใดทั้งสิ้น.. แล้วยังไง สุดท้ายก็มีแต่แม่ มีแต่ลู่ฮานแล้วก็มีแต่นมที่สละเวลามาดูผม ! ”
หัวใจของเซฮุนเจ็บปวดเหลือเกิน นี่กระมังคงเป็นเหตุผลที่ลูกชายอย่างเขาเลือกที่จะกบฏใส่คนเป็นพ่อ พ่อไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยมีเวลา และเห็นงานสำคัญเหนือกว่าสิ่งอื่นใดในโลก “ พ่อคิดว่าสิ่งที่พ่อทำมันดีกับทุกคนแต่มันไม่ ! พ่อบ้างาน ทุกวันพ่อขลุกอยู่กับมัน เงินมากมายที่ถูกโอนเข้าบัญชีบ้านสะพรัดแพร่พูนยิ่งกว่าดอกเห็ด มันเพียงพอที่จะเลี้ยงพวกเราทั้งบ้านไปได้จนตาย แต่พ่อไม่เคยรู้จักพอ ! ”
“ สมัยที่บริษัทยังไม่มีรายได้มากเท่านี้พ่อเปล่าเป็นแบบนี้ พ่อยังมีเวลาให้แม่ ยังมีเวลาให้ผมและมีเวลาให้ลู่ฮาน เราได้กินข้าวนอกบ้านกันอาทิตย์ละสองสามครั้งซึ่งนั้นเป็นเรื่องดี แถมทุกเย็นเรายังได้กินข้าวกันพร้อมหน้า พ่อยังจำมันได้ไหม ยังจำช่วงเวลาก่อนที่พ่อจะบ้างานได้หรือเปล่า ! ”
ฉาด !
มืออันสั่นเทาของจีฮุนสะบัดฟาดลงบนใบหน้าของบุตรชายอีกครั้ง จำได้ดีเลยว่าตนไม่เคยสั่งสอนลูกให้มีนิสัยก้าวร้าวเช่นนี้ หากแต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไรมากมายเฉกเช่นที่ทำกับลู่ฮาน ความผิดครั้งนี้คงจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากเขา
“ ตบผมเลยพ่อ ! ตามที่พ่อต้องการเลย ! แต่ข้อตกลงของผมคือพ่อต้องฟังทุกอย่างที่พ่อทำเอาไว้กับผม ! ”
ทิฐิไม่ใช่สิ่งที่ถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม หากแต่สำหรับกรณีของสองพ่อลูกคู่นี้นั้นคงจะบอกได้คำเดียวว่ามันเป็นไปได้ เซฮุนนิสัยถอดแบบคล้ายกับพ่อ เจ้าเล่ห์ ดุดัน โมโหร้าย ยึดตัวเองเป็นใหญ่ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือทิฐิที่เป็นนามธรรม พวกเขามีมันเหมือนกันทั้งคู่ อีกทั้งยังมีมากพอที่จะส่งผลร้ายหากไม่ยั้งคิดยามจะเจรจาพาธีกับบุคคลอื่นอีกด้วย
โบราณว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ และก็ใช่เพราะตอนนี้สถานการณ์นั้นมันกำลังเกิดขึ้นอยู่ คนที่มีนิสัยคล้ายกันเกือบเก้าสิบประการกำลังจะฟาดฟันกันทางสายตาและคำพูด วุฒิภาวะ อายุ หัวหงอกหัวดำเสมือนไม่เคยมีอยู่ในจิตใต้สำนึก
“ ตลอดเวลาพ่อเอาแต่พูดกับผมว่าพ่อห่วงผมและรักผมเหนือสิ่งอื่นใด ใช่.. ผมมันโง่จริงๆ ที่หลงเชื่อคำลวงที่ไม่มีแม้แต่น้ำหนักของพ่อ ผมคิดมาตลอดว่าพ่อรักผม พ่อห่วงผม พ่อถึงทำเพื่อผมเสียมากมาย แต่สุดท้ายสิ่งที่ทำคัญที่สุดของพ่อก็คือบริษัทกับปึกกระดาษที่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะสูญเสียมูลค่าไปเมื่อไหร่ ! ”
“ ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อแก ! ”
“ พ่อ หยุด พูด คำนั้นออกมาสักที ! พ่อปิดกั้นผมจากความรัก ปิดกั้นและหลอกลวงผมเพียงเพราะไม่อยากให้ใครเขาครหาว่าท่านประธานของโอคอเปอเรชั่นมีลูกเป็นพวกชายรักชาย ! พ่อรังเกียจผม ไม่อยากให้สังคมรับรู้ บอกให้ผมเลิกรักลู่ฮานทั้งๆ ที่หัวใจของผมมันมีแต่ลู่ฮานเพียงคนเดียว พ่อบีบบังคับผมให้เกลียดเขา ให้ผมทำเลวใส่เขาสารพัดเพื่อให้ลู่ฮานตัดใจ แล้วสุดท้ายพ่อได้อะไรรู้ไหม ! พ่อกำลังจะได้ลู่ฮานเป็นลูกสะใภ้เพราะหลังจากเราจบเรื่องห่าบ้านี้ ผมจะขอเขาแต่งงาน ! ”
ปมสุดท้ายของเรื่องราววุ่นวายได้คลี่คลายออกท่ามกลางความตกใจของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ ท้ายแล้วที่แท้ คนที่เป็นผู้ออกคำสั่งให้เซฮุนเกลียดลู่ฮานไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากผู้เป็นบิดาคนนี้ ย้อนไปเมื่อสมัยเซฮุนแตกเนื้อหนุ่ม เด็กชายในวันนั้นโหยหาความรักหากแต่ก็ไม่มีผู้ใดจะเข้าตาพอที่จะเสียเวลานำมาพิจารณาให้เป็นแฟน เว้นไว้เสียแต่พี่ชายตัวเล็กที่มีใบหน้าน่ารักราวกับผู้หญิง กลิ่นกายหอมกรุ่นชวนให้ฮอร์โมนเพศชายนั้นพุ่งพล่านยากจะหาอะไรมาดับ เซฮุนสารภาพให้ได้ทราบทั่วกันตรงนี้ว่าเขาเคยแอบหอมแก้มและดีปคิสกับลู่ฮานไปไม่รู้ตั้งกี่หนต่อกี่หน แต่แน่นอนว่าคนตัวเล็กไม่เคยล่วงรู้ เพราะเขาทำแต่ตอนหลับน่ะสิ..
ในสายตาของบิดาผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างเจนจัด มองแววตาและท่าทางเพียงครู่ก็พอจะรู้ว่าปฏิกิริยาทางเคมีเริ่มเกิดขึ้นภายในบ้านแล้ว จีฮุนเชื่อว่าซอนมีก็รู้ แต่นางเลือกที่จะไม่ปริปากบอกให้ไก่ตื่น มารดาเลือกจะหนุนหลังลูกชายเงียบๆ โดยที่ไม่รู้อะไรเสียเลยว่าการกระทำเหล่านั้นตกอยู่ในสายตาของผู้เป็นสามีตลอด
วันหนึ่งในฤดูหนาว ในตอนที่ลูกบุญธรรมของเขาและภรรยาออกไปหาซื้อของกินของใช้พร้อมกับแม่นมที่อยู่คู่บ้านมานานแสนนาน จีฮุนเรียกลูกชายแท้ๆ เข้ามาพบในห้องทำงานส่วนตัว ถามไถ่เรื่องชีวิตประจำวันเล็กน้อยพอไม่ให้เกิดพิรุทธ์ให้ลูกจับได้ ก่อนจะเปิดประเด็นคุยกับเซฮุนอย่างที่ผู้ชายเขานิยัมทำกัน จีฮุนตรงไปตรงมา เขาถามบุตรตรงๆ ว่ารู้สึกชอบพอกันกับลู่ฮานหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่คาดคะเนไว้ก็ถูกต้องตามนั้นไม่มีเพี้ยน
ถึงจะเป็นเด็ก แต่นั่นคือคำว่ารัก เซฮุนมั่นใจว่ามันใช่รักเพราะเขาไม่เคยรู้สึกว่าหัวใจตัวเองทำงานหนักเท่านี้มาก่อนในชีวิต อึนจี มีนัม นาอึน จียอน หรือเด็กหญิงคนใดก็ตามที่คอยเทียวไปมาหาสู่ไม่เคยทำให้หัวใจดวงนี้เกิดปฏิกิริยาได้ เว้นไว้เสียแต่ลู่ฮานที่แม้ไม่ได้ทำอะไรก็ทำให้หัวใจเซฮุนเต้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ รู้แล้วว่ารักอยู่เต็มอก แต่เด็กหนุ่มก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะสารภาพมันออกไปให้อีกคนได้รับรู้ ทุกคืน..เขาเอาแต่เฝ้ามองพี่ชายตัวเล็กอยู่ในมุมของตัวเอง ห้องนอนขนาดใหญ่ถูกแบ่งใช้สอยเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งถูกแปะทับด้วยวอลเปเปอร์สีหวานน่ารัก วางประดับด้วยเครื่องเรือนสีพาสเทลสดใส อีกครึ่งที่เหลือจึงปล่อยไว้ให้เป็นพื้นที่สีทะมึนของเด็กชายโอเซฮุน
ลู่ฮานมักจับจ่ายเวลาจำนวนมากไปกับการอ่านวรรณกรรมหรือหนังสือสูตรทำขนมสักเล่มบนเตียง ดวงตากลมโตคู่นั้นจะวาวแสงขึ้นมาทันทีหลังจากตนเองได้พบเจอเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นเข้าให้ บางครั้งก็อ่อนแสงลงยามอ่านถึงฉากอารมณ์ชวนสลดหดหู่ รอยยิ้มน้อยๆ ติดมุมปากเล็กช่วยหล่อเลี้ยงให้หัวใจของเด็กหนุ่มชุ่มชื้น ยามกลับมาจากโรงเรียนเหนื่อยๆ ปวดเนื้อปวดตัวไปหมดเพราะโดนนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลอีกฝ่ายหนึ่งอัดจนน่วม เพียงได้เห็นดวงหน้าสวยหวานของอีกคนก็เสมือนกับได้ยาวิเศษ อาการทุกอย่างหายเป็นปลิดทิ้ง ราวกับไม่เคยรู้สึกถึงความเหนื่อย
มันเป็นอย่างนั้นเรื่อยมาจวบจนกระทั่งวันเกิดตอนอายุสิบหกของเขาและสิบเก้าของพี่ชายตัวเล็ก เหมือนเคยที่ปีนี้คุณพ่อและคุณแม่ก็พยายามหาเวลามาจัดปาร์ตี้ให้จนได้ กล่องของขวัญหลากสีถูกกองพะเนินเทินทึกเอาไว้บริเวณโถงใหญ่ เพื่อนทั้งหญิงทั้งชายมากมายเดินขวักไขว่ไปทั่งบ้าน เจ้าของงานได้เดินตามไปตามแรงฉุดแรงลาก แน่นอนว่าแค่ลู่ฮานเท่านั้นที่โดนเช่นนั้น ส่วนอีกคนก็นั่งตั้งวงคุยกันเรื่องแพลนอเมริกันฟุตบอลอยู่กับกลุ่มเพื่อนฝูง มันจะเป็นงานวันเกิดที่ทสมบูรณ์แบบที่สุด หากเซฮุนไม่ถูกจีฮุนเรียกตัวเข้าไปพบในห้องก่อน
ลู่ฮานไม่รู้เหตุการณ์นั้นเพราะเขามัวแต่คุยกับเดวิด นักเรียนแลกเปลี่ยนจากแคนาดาอย่างออกรส ภายในห้องทำงานเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่บิดาสร้างขึ้น ฝ่ายลูกชายที่เพิ่งเข้าไป หาได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าวไม่ เด็กหนุ่มวาดยิ้มกว้างให้ผู้เป็นพ่อ ในใจหวังจะได้รับของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อเป็นกำลังใจในการแข่งในฤดูกาลหน้า หากแต่ว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเมื่อโอจีฮุนหันมาเจรจากับเซฮุนด้วยน้ำเสียงประกาสิต สั่งด้วยอำนาจของคนเป็นพ่อ ให้หยุดคิด หยุดหวัง หรือหยุดทำอะไรก็ตามที่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงวงตระกูล
น่าเสียดายที่สังคมของเด็กหนุ่มเล็กเหลือเกินในสมัยนั้น เมื่อบิดาบอกว่ามันเป็นเรื่องผิดสมองก็เริ่มฉุกคิดถึงความเหมาะสม หลายอย่างที่จีฮุนปั้นแต่งขึ้นมาทำให้เซฮุนเชื่อเสียสนิท ความรักจึงถูกซ่อนไว้ในส่วนลึก ความถูกต้องและความเห็นแก่ตัวของผู้เป็นพ่อถูกทดแทนที่ในส่วนนั้นจนกลายเป็นสีดำใหญ่ เซฮุนถูกสั่งให้เกลียดลู่ฮาน หรือไม่ก็ทำอะไรสักอย่างให้ลู่ฮานรู้สึกรังเกียจที่จะอยู่ใกล้ด้วย โศกอนาถกรรมแห่งการทรยศหัวใจตัวเองจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่คราวนั้น
เซฮุนออกมาจากห้องด้วยหัวใจอันหม่นหมอง เขาไม่อยากทำแต่พ่อบอกว่ามันจะเป็นผลดีกับทุกๆ ฝ่าย พี่ลู่ฮานของเขาจะไม่อาย จะไม่มีใครครหาว่าพี่เป็นพวกผิดปกติ เช่นเดียวกันกับเขาที่จะไม่มีใครมองด้วยสายตาเช่นนั้น เด็กหนุ่มปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่ออย่างเคร่งครัด ทั้งสร้างความอึดอัดใจให้แผ่กระจายกลายเป็นวงกว้าง ห้องนอนห้องเก่าถูกปล่อยทิ้งร้างและตัวเขาก็ปลีกตัวออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างเหมาะสมในพื้นที่ของตัวเอง ดูเหมือนว่าการอยู่ร่วมกันในบ้านต่างเป็นปัญหาหนักใจแค่ผู้ใหญ่ทั้งคู่ ซอนมีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น นางรู้แต่เพียงอย่างเดียวว่าเซฮุนนั้นเปลี่ยนไป จากเคยเป็นเด็กที่มีแต่รอยยิ้ม บัดนี้ลูกรักกลับกายเป็นเด็กที่ดูเหมือนจะตึงเครียดกับทุกย่างก้าวของชีวิต ไม่รักตัวเอง ไร้ความเคารพ กบฏหนักขึ้นทุกปีจนนางเองก็เหนื่อยใจ อับจนหนทางจะเดินออก
วันเวลาผ่านไป เซฮุนโตขึ้น เขาเริ่มรับรู้ได้ว่าสิ่งเหล่านั้นที่พ่อทำคือความเห็นแก่ตัวทั้งสิ้น หากแต่มันก็ยากเหลือเกินที่เราจะเดินกลับไปแก้ไขปัญหาเก่าๆ ที่เราสร้างมันคาไว้ เซฮุนชินกับการทำตัวร้าย ชินกับการตวัดสายตาใส่ลู่ฮานและรู้สึกดีใจที่พี่ชายยอมตกเป็นเบื้องล่างอยู่ทุกครา แน่นอน ในส่วนลึกของความรู้สึกยังคงมีคำว่ารักอย่างเต็มเปี่ยม ยิ่งรักมากเท่าไหร่เซฮุนก็ยิ่งร้ายมากขึ้นไปเท่านั้น จีฮุนเห็นเหตุการณ์เป็นไปตามที่ตัวเองคะเนเอาไว้ก็ชอบใจใหญ่เพราะนึกเหมาเอาไปว่าลูกเกลียดกันเองตามแผนที่ตนวางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
หากแต่มันยังไม่พอ เขาต้องสุมไฟต่อเพื่อให้ตนเองแน่ใจว่าลูกทั้งสองจะไม่กลับมามีความรู้สึกใดๆ ให้กันอีก คอนโดหรูราคาแพงระยับคือสนามรบต่อไปที่ผู้เป็นบิดาเลือกที่จะมอบให้ เซฮุนกับลู่ฮานถูกสั่งย้ายเข้าไปในตัวเมืองใหญ่ ลูกทั้งสองจะได้ใกล้ชิดกัน ยิ่งเพิ่มรู้สึกอึดอัดต่อกันมากขึ้น ช่องว่างขนาดใหญ่จะเกิดแม้คนทั้งคู่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาราวกับว่าเป็นคู่รัก และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปหากความรักของเซฮุนไม่เอ่อล้นใจออกมาในปีที่แปด
“ ฉันไม่มีทางให้มันเป็นแบบนั้นโอเซฮุน ! แกจะแต่งกับใครก็ได้แต่ไม่ใช่ลู่ฮาน ! ”
“ ผมจะแต่ง ! ”
“ ฉันไม่ยอม ! ”
อีกครั้งที่จีฮุนเงื้อมือขึ้นสุด หมายจะตบสั่งสอนลูกไม่รักดีของตัวเองให้หลาบจำ แต่ก่อนที่อะไรมันจะเป็นเช่นนั้น แรงกอดที่ช่วงขาก็ฉุดรั้งทุกอย่าง
“ คุณพ่ออย่าทำน้องอีกเลยนะครับ..ฮึก... เรื่องนี้ผมเองก็ผิด ผมรักน้อง มะ..มีอะไร ก็มาลงที่ผมเถอะครับ ”
ลู่ฮานเอ่ยขอร้องด้วยสภาพที่ยังมีคราบน้ำตานองหน้า หัวใจดวงน้อยถูกฉีกเป็นร้อยชิ้นด้วยน้ำมือของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณที่ลู่ฮานทั้งรักและเคารพนับถือ คุณพ่อรังเกียจเขากับน้อง รังเกียจที่เขาเป็นเช่นนี้ หากแต่มันก็ไม่ถูกเสมอไปเมื่อคนที่เขารักไม่ใช่ผู้ชายทั้งโลก ร่างเล็กไม่ได้รู้สึกรักแจฮโย ไม่ได้รู้สึกพิเศษกับใครคนอื่นที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อะไรหลายต่อหลายอย่างพิสูจน์แล้วว่าหัวใจดวงนี้ยอมเปิดรับแต่โอ เซฮุนคนเดียว และมันก็เป็นเช่นนั้นตลอดมา
พวกเขาผ่านอะไรมาด้วยกันหลายต่อหลายอย่าง ทั้งวันที่ทุกข์ที่สุด วันที่ระทมที่สุด วันที่ขมขื่นที่สุดในชีวิต รวมถึงวันที่สุขที่สุดในชีวิต ณ ขณะนั้น พันธสัญญาทั้งทางกายและทางใจผู้มัดกันเป็นปมแน่นซึ่งยากจะคลายออก
“ ไม่สงสารน้องก็สงสารผมเถอะครับคุณพ่อ... แค่เห็นน้องเจ็บ ผมก็เจ็บจนจะตายอยู่แล้ว ”
ลูกสะอื้นดังติดกันหลายระรอกใหญ่ ลู่ฮานร้องไห้คล้ายจะขาดใจตายไปเสียให้ได้ มือเล็กคู่นั้นจิกแน่นจนกางเกงแสล็คสีเข้มของจีฮุนยับยู่ยี่ ใช้แรงทั้งหมดที่มีขืนตัวเองไว้ไม่ให้ลอยไปตามแรงต้านของผู้เป็นพ่อ น้องจะเป็นอันตรายหากเวลานี้ลู่ฮานมัวแต่นิ่งเฉย ดวงตากลมโตช้อนมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาอันเป็นที่รัก แม้ภาพที่เห็นมันจะหนักหนาเกินกว่าจะรับได้ไหว เซฮุนถูกตบจบข้างแก้มขึ้นรอยมือแดงเถือก ข้างมุมปากมีเลือดไหลซิบและรอยแตกเป็นทางยาว
“ ผมไม่เป็นไรครับคนดี ให้พ่อตบเถอะ เรื่องนี้จะได้จบเสียที ”
ร่างเล็กส่ายหัวจนเส้นผมกระจาย ยิ่มร้องไห้หนักเมื่อเห็นว่าคนรักส่งยิ้มมาให้ ทำไมกันนะ ทำไมกัน.. ในช่วงเวลาอันเลวร้ายแบบนี้น้องถึงยังต้องทำตัวเข้มแข็งให้เขาสบายใจ ทำไมต้องทำเหมือนไม่มีอะไรทั้งๆ ที่ในใจแบกรับอะไรมาตลอดแปดปี
“ แกก็รู้สันดานฉันดี เซฮุน ฉันกัดไม่ปล่อยแน่ถ้าแกยังทำอะไรขัดใจฉันอยู่ ”
จีฮุนประกาศกร้าว ไม่มีการลดราความแรงที่สาดใส่ต่อกันเลยแม้แต่น้อย เขายกมืออันสั่นเทาขึ้นชี้หน้าลูกชายคนเล็กด้วยใบหน้าอันบิดเบี้ยวและหัวใจอันโหดร้าย ในเมื่อรักกันมากนัก ในเมื่อเจ็บแทนกันจบแทบจะตายแทนกันได้ การเดิมพันครั้งสุดท้ายที่มีอิสระทางความรักเป็นปลายทางจึงเริ่มขึ้น
“ พ่อหมายความว่ายังไง ”
“ ฉันรู้แกเกลียดงานบริหารแค่ไหน รู้ว่าแกเกลียดงานที่ต้องใช้แรงกายในการทำให้งานสำเร็จยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น เกลียดกฏเกณฑ์ ไม่ชอบการเป็นลูกจ้าง และไม่ชอบที่จะเดินตามทางที่ฉันวางเอาไว้ให้ ”
ร่างสูงกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ลงคอ แม้จะลำบากใจไม่น้อยกับคำพูดดังกล่าว พ่อต้องบังคับให้เขาไปดูแลบริษัทแน่ หรือไม่ก็ต้องให้ไปทำอะไรที่มันฝืนใจมากๆ แต่เรื่องอะไรแค่นี้จะยอมแพ้ ? เซฮุนรู้ว่ามันอาจจะเหนื่อย อาจจะหนักหนาจนทนไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ยอมแพ้ เขาจะทำเพื่อลู่ฮาน ทำเพื่อรอยยิ้มของคนที่เขารักที่สุด
“ แกคงรู้แล้วว่าฉันอยากจะให้แกทำอะไร ตำแหน่งผู้บริหารของโอคอเปอเรชั่นฐานที่เกาหลีถูกปล่อยว่างไว้นานแล้ว ถึงเวลาเสียทีที่มันจะมีผู้บริหารจริงๆ ที่มาจากตระกูลเรา จริงไหม ? ”
มันง่าย ง่ายเกินกว่าที่คิด หากทุกคนไม่เคยรู้เซฮุนก็อยากจะบอกให้รู้ว่าผู้ชายที่ปัจจุบันมีอาชีพเป็นนายแบบคนนี้เรียนจบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เรื่องตัวเลขโง่ๆ เท่านี้มันง่าย ไม่คิดว่าพ่อจะให้ทำอะไรแบบนี้
“ แต่ฉันคงไม่ให้แกทำอะไรง่ายๆ แบบนั้นหรอกเซฮุน ฉันรู้แกยิ้มอยู่แล้วในใจ แกคงคิดว่าฉันโง่ที่ให้คนเรียนบริหารมาทำงานบริหาร รู้ไว้เลยว่าถ้าฉันโง่ฉันคงเป็นพ่อแกไม่ได้ ” ประมุขตระกูลโอสูดลมหายใจเข้าใจปอด กดยิ้มร้ายที่มุมปาก... ยิ้ม ที่ทั้งซอนมี เซฮุนและลู่ฮานไม่ได้เห็นมันมานานแสนนานแล้ว “ ตั้งแต่สมัยทวดของแก บริษัทของเราทำงานเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด พวกเราขยายกิจการไปทั่วเอเชีย ยุโรป อเมริกา ได้รับความไว้วางใจจากคนทุกเชื้อชาติ รายได้ของพวกเราดีมาโดยตลอดและแต่ละเดือนไม่เคยต่ำกว่าสองพันล้านในแต่ละสาขา ซึ่งสาขาเกาหลีแม้จะเป็นสาขาเล็กๆ แต่กรุ๊ปทัวร์ชั้นนำที่มาลงเลือกใช้บริการกับเรา ก็ทำรายได้ให้สาขานี้ไม่ต่ำกว่าเดือนละสองพันล้านเช่นกัน ”
“ อย่าคิดว่ามันจะง่าย เพราะมันต้องใช้ประสบการณ์ในการตัดรอนคู่แข่ง แกต้องรู้จักลงทุนและมีกลยุทธิ์ในการเอาใจลูกค้า ไม่ใช่ว่าทำแบบโง่ๆ แล้วจะเอาแผนงานมารายงานฉันแบบพวกงั่งเขาทำกัน
แกมีลูกน้องในบริษัทจะต้องดูแล มีรายรับรายจ่ายและเงินในบัญชีที่ต้องตรวจสอบให้ทะลุปรุโปร่ง ฉันหวังว่าภายในสามเดือนถัดไปนับจากนี้ ตัวเลขรายรับในบัญชีแต่ละเดือนจะมีไม่ต่ำกว่าสามพันห้าร้อยล้าน และถ้าแกทำได้ ฉันจะเป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอลู่ฮานให้กับแกเอง ”
---
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาคนไร้ประสบการณ์มาดูแลธุรกิจใหญ่ยักษ์เช่นนี้ให้มีรายได้อย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นเพียงแค่หนึ่งสาขา หนึ่งสาขาที่เล็กหากเทียบกับสาขาย่อยที่ไต้หวัน กวางโจว และปักกิ่ง แต่ถึงกระนั้นมันก็คือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของตระกูลโอ เป็นจุดๆ หนึ่งที่ทำให้คนในตระกูลของเขาทรงอำนาจตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ เซฮุนไม่โทษว่าพ่อทำเกินไปเพราะเชื่อเถอะ หากคุณรู้จักโอจีฮุนดีนี่เป็นเพียงแค่บททดสอบเริ่มต้นที่ผู้ชายคนนั้นเลือก อุปนิสัยเลือดเย็นเป็นสิ่งที่ประมุขพึงมี พ่อต้องเยือกเย็น สุขุม เด็ดขาดและรอบคอบราวกับแมงมุมตัวโตที่ควบคุมแผงใยขนาดใหญ่ที่ตัวเองสร้างเอาไว้ให้ดีที่สุด
ตลอดทางกลับบ้าน บนรถยนต์คันหรูของจีฮุนเต็มไปด้วยความเงียบงัน ลู่ฮานหลับไปแล้ว ด้วยเพราะคงอ่อนเพลียกับเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นวันนี้ ดวงหน้าสวยหวานยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตาเกรอะกรัง ลมหายใจอ่อนๆ ผ่อนเข้าออกเป็นจังหวะ ศรีษะเล็กวางไว้บนช่วงไหล่กว้าง เซฮุนเกลี่ยนิ้วไปบนแก้มใส กดจูบแผ่วเบาลงบนกลุ่มผมนุ่มหอม กระซิบราตรีสวัสดิ์ให้คนน่ารักฝันดีและไม่ต้องคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว ตลอดชีวิต ลู่ฮานเจออะไรมาหลายต่อหลายอย่าง ซึ่งบางอย่างมันก็ยากเกินกว่าที่คนคนนึงจะก้าวข้ามมันมาได้ด้วยความสามารถของตัวเอง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ลู่ฮานสามารถทำมันได้ พี่ชายตัวเล็กกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันโดยไม่มีความเกรงกลัวใดๆ เพียงเพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นผลดีต่อตัวโอเซฮุน
เพียงครู่เดียวเท่านั้นที่จีฮุนเหลือบสายตากลับมามองลูกทั้งสองที่นั่งอยู่บริเวณเบาหลังรถ ชายวัยกลางคนหมุนพวงมาลัยให้ได้องศา นำรถยนต์เข้าใต้ชายคาเพื่อกันแดดกันฝน ปลดเอากุญแจกับรีโมทออก ก่อนจะรีบผละกายออกไปจากห้องโดยสาร ซอนมีเร่งรุดตามผู้เป็นสามีไปด้วยวันนี้ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่นางไม่ได้สะสาง เซฮุนผินใบหน้ากลับมามองคนตัวเล็กที่ยังคงหลับใหลไม่รู้เรื่องราวอยู่บนเบาะกำมะหยี่ เกี่ยวปอยผมน่ารำคาญขึ้นไปทัดข้างใบหูเล็ก วาดยิ้มบางเบาติดมุมปาก เคลื่อนกายเข้าประชิด สอดแขนเข้ายกเรือนกายเล็กขึ้นมาแนบอก ก่อนจะสืบเท้าเป็นก้าวใหญ่เข้าสู่ตัวบ้าน
หาใช่ห้องนอนของลู่ฮานที่เป็นที่นอนหลับพักกายในคืนนี้ เซฮุนเลือกที่จะพาคนตัวเล็กไปยังห้องนอนของเขา ห้องนอนที่เต็มไปด้วยความลับนับร้อยที่ไม่มีใครเคยได้ล่วงรู้ พื้นที่รอบตัวของร่างสูงลึกลับและอันตรายเสมอ ยากเหลือเกินที่จะมีใครได้ผ่านพ้นเข้ามาในจุดๆ นี้ หนึ่งคนในนั้นคือลู่ฮาน หากมีคนที่สองสามก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกๆ อันเป็นที่รักของเขา ดังเซฮุนได้ประกาศกร้าวใส่หน้าคนเป็นพ่อไปข้างต้น เขาแอบวางแพลนไว้เงียบๆ มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ซึ่งถ้าไม่มีเรื่องบ้าๆ นี่มาสอดมาแทรก ป่านนี้เขากับลู่ฮานอาจจะพากันวิ่งหาร้านของชำร่วยอยู่ก็เป็นได้
ร่างสูงลดระดับอ้อมแขนลงให้ขนานกับฟูกเตียงนุ่มนิ่ม ค่อยๆ เคลื่อนกายตัวเองออกมาช้าๆ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนตัวเล็กที่กำลังละล่องลอยอยู่ในห้วงนิทราแสนหวาน แม้ฟ้าจะยังไม่มืดดีแต่ลู่ฮานก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะตื่นขึ้นมารับรู้เรื่องราวใดๆ ในตอนนี้ และตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจะปลุกคนตัวเล็กขึ้นมาทำอะไรในตอนนี้ กวางน้อยจึงได้รับอนุญาตให้ได้พักผ่อนต่อ ตราบนานเท่านานที่เจ้าตัวจะต้องการ
หลังจากที่เซฮุนจัดการอุณภูมิห้อง ระบบไฟ ผ้าม่าน และทำการห่มผ้าห่มให้คนรักเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ฤกษ์จะต้องไปพบประทานเครือข่ายใหญ่ของโอคอเปอเรชั่นเพื่อเรียนรู้งานเบื้องต้นอย่างคร่าวๆ ที่ทุกคนได้รู้กันคือเซฮุนจบบริหาร แต่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานใดๆ ทั้งสิ้น ใบปริญญาตรีหาได้การันตรีความสามารถของเขาได้ไม่ เพราะทางเดินที่ผ่านมาเซฮุนก็อยู่ในวงการบันเทิงมาโดยตลอด เขาทำงานหามรุ่งหามค่ำ อยู่กับเครื่องสำอาง เสื้อผ้า ผู้คน ไฟแฟลช และช่างกล้อง กินอาหารกองไม่ค่อยเปิดบทสนทนากับชาวบ้าน หากแต่อาชีพนักบริหารจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิต จากที่เคยได้อยู่เงียบๆ เซฮุนก็ต้องสังสรรค์บ่อยมากยิ่งขึ้น จากที่เคยเจอแค่เงินในบัญชีตัวก็ต้องเจอกับตัวเลขมากมายในบริษัท หัวสมองเขาไม่มีความพร้อม หากแต่เสียงหัวใจมันเรียกร้องให้ต้องตัดสินใจทำ
“ ขออนุญาตครับ ”
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เซฮุนไม่ได้เข้ามาในห้องทำงานของพ่อ ห้องทำงานที่เคยมีแต่เสียงหัวเราะของครอบครัวที่มีความสุขเพียบพร้อมจนใครๆ ก็ต้องอิจฉา แม่ซอนมีชอบนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมตัวโต มันถูกตั้งไว้ตรงมุมห้องซึ่งเป็นจุดสังเกตุการณ์การเล่นซนของพวกเขาได้อย่างทั่วถึง ส่วนพ่อจีฮุนมักจะชอบนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ที่ไม่มีอะไรมากนอกจากแฟ้มงานเพียงสองถึงสามแฟ้ม พ่อบอกกับเขาเองว่าพ่อไม่ชอบเอางานกลับมาทำที่บ้าน มันริดรอนเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตกับลูกๆ หากแต่วันนี้ นาทีนี้ และอาจจะตลอดไป พ่อไม่อาจจะรักษาคำสัญญาที่พ่อเคยให้ไว้ได้อีกต่อไปแล้ว
เจ้าของแผ่นหลังอันคุ้นตายืนอยู่ที่หน้าต่างกระจกบานใหญ่ จีฮุนมองออกไปคล้ายจะชื่นชมธรรมชาติด้านนอก ทั้งๆ ที่มันก็มีแค่สีฟ้าอย่างผีตากผ้าอ้อมให้เห็น
“ อยากดื่มอะไรหรือเปล่... ”
“ พูดธุระของพ่อมาเถอะครับ ผมมีเวลาไม่มากนัก แล้วก็ไม่อยากปล่อยให้คนรักของผมนอนอยู่คนเดียวด้วย ”
ไม่มีใครรู้ว่าแววตาคู่นั้นหม่นแสงลงจนมืดมนขนาดไหน โอ จีฮุนผ่อนลมหายใจแผ่วเบา หมุนเอาตัวเองกลับมาประจันหน้ากับลูกชายก่อนจะเริ่มแผ่ขยายรังสีที่แสดงถึงอำนาจออกมาอีกครั้ง
“ หึ... มั่นใจเสียจริงนะว่าจะทำสำเร็จ แกยังไม่เคยได้ลองทำงานเลย ฉันไม่อยากเห็นแกกลืนน้ำลายสำลักคำพูดของตัวเองหรอกนะ ”
เซฮุนแสร้งทำเป็นหูทวนลม ถ้อยคำบาดหัวใจเหล่านั้นหาได้ทำให้กำลังใจของเขาน้อยลงไม่ พ่อก็ดีแต่ทำให้เขาท้อแท้ ดีแต่พูดให้ใครต่อใครร้องไห้โดยไม่เห็นความสำคัญของความรู้สึกของคนเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย พ่อแลกความรักให้ปีศาจแห่งความเคารพ ทุกคนหวาดกลัวพ่อแต่หาได้รักพ่อไม่
“ ชีวิตแบบนั้นมันไม่ยั่งยืน ฉันเป็นห่วงแกนะเซฮุน ”
“ พ่อห่วงตัวพ่อเองดีกว่าครับ ไม่ต้องทำมาเป็นห่วงเพื่อเรียกคืนความรู้สึกที่มันไม่มีวันหวนคืนได้จากผมหรอก เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เป็นแค่เศษขยะ ที่ไม่ว่าจะถูกรีไซเคิลกี่ครั้ง จุดจบของมันก็ยังคงเป็นเศษขยะเช่นเคย ”
ร่างสูงสืบเท้าเข้าไปพินิจพิจารนาแฟ้มต่างๆ บนโต๊ะ มันเป็นรายงานรายได้อย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด เซฮุนยอมรับว่าพ่อเก่งมาก โอคอเปอเรชั่นมีสาขาย่อยหลายต่อหลายสาขาในหลายต่อหลายทวีป พ่อบริหารมันทั้งหมดด้วยความสามรถของพ่อเพียงผู้เดียว แม้บางครั้งจะมีแม่ หรือผู้จัดการในสาขาช่วยประสานงานให้ แต่เรื่องการเซ็นอนุมัติเอกสาร การตัดสินใจล้วนเป็นหน้าที่ของพ่อทั้งหมด พวกมันจะถูกส่งแฟ็กซ์ทางไกลไปที่สำนักงานใหญ่ในแอลเอ ถูกพ่อตรวจสอบรายละเอียดครั้งแล้วครั้งเล่า ถูกประเมินรายรับที่จะได้หลังจากตัดสินใจสร้างหรือลงทุน ถูกประเมินรายจ่ายเบื้องต้น แล้วจึงถูกเซ็นอนุมัติ
“ แกเข้าใจตัวเลขในนั้นหรือเปล่าว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน ”
จีฮุนเคลื่อนกายเข้าใกล้คนเป็นลูกชาย หวังจะได้อธิบายงานให้ได้ผลกระจ่างดั่งตนหวังไว้ หากแต่เซฮุนไม่ใช่ผู้ให้ความร่วมมือที่ดีนัก เขาเบี่ยงตัวหลบ ก้าวเท้ายาวๆ หนีจากพ่อตนเองไปทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวโปรดของแม่ ไม่แม้แต่ส่งเสียงตอบอะไรให้ท่านประมุขใจชื้น ดวงตาอันตรายคู่นั้นไล่ดูตัวเลขต่างๆ ทุกตัวอย่างรอบคอบ การทำงานสอดคล้องกับมันสมองอันเฉียบแหลม เซฮุนคิดภาพการทำงานบริหารได้เป็นฉากๆ เขาจะทำได้ทุกอย่างแม้มันจะยากเย็นถึงเพียงไหน เขาจะลบคำสบประมาทของพ่อ ลบคำครหานินทาของสังคมภายนอก จะพาลู่ฮานเชิดหน้าชูตา และทำให้ตนเองกับคนรักกลับไปยืนในสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง
“ เซฮุน...คือ พ่อ.. ”
แต่ผู้เป็นบิดาก็หาได้ยอมแพ้ไม่ ด้วยเพราะมั่นใจว่าสายใยสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกมันไม่มีวันขาดออกจากกันเป็นอันขาด แม้เขาจะไม่ได้อยู่ดูแลลูก แต่จีฮุนก็ยังเชื่อว่าของขวัญวันเกิดมากมายที่เขาส่งมาให้จะเป็นเสมือนกาวเชื่อมใจระหว่างกันได้
“ ? ”
“ พ่ออยากบอกว่าพ่อทำทุกอย่างไปก็เพื่อแกกับลู่ฮานนะ ถึงแกจะไม่เชื่อพ่อ.. ”
“ หึ ” เซฮุนหัวเราะเยาะในลำคอ “ เก่งนี่ครับ...เก่งจังเลยที่พ่อรู้ว่าผมจะไม่เชื่อพ่อ ” เขายันตัวลุกขึ้นยืนจนสุดความสูง เคลื่อนกายกลับมาพร้อมกับแฟ้มในมืออีกครั้ง “ แล้วก็เลิกพูดสักทีว่าทำเพื่อผม เพราะพ่อทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น ” ช่วงขายาวก้าวเข้าประชิดชายวัยกลางคน ไม่มีอีกแล้วความเคารพที่เคยมอบให้สำหรับผู้ชายคนนี้ มันไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปหลังจากที่ทั้งสองได้ทำพันธสัญญาต่อกันและกัน “ พ่อมันเห็นแก่ตัว คำพูดจากปากพ่อมันไม่น่าเชื่อสักคำ อย่าพยายามเลยครับ พอสักที ” เซฮุนก็แสนเสียใจที่พูดไปเช่นนั้น... แต่เส้นความสัมพันธ์อันเบาบางที่ใกล้จะขาดมันไม่อาจถูกซ่อมแซมได้ในวันนี้วันพรุ่ง “ ปล่อยให้ความรู้สึกระหว่างมันเป็นแบบนี้ล่ะครับพ่อ ไม่ต้องรังทำให้มันแย่กว่าเดิมอีก ผมเหนื่อยที่จะรู้สึกผิดบาปแล้ว ขอตัวนะครับ ” ท่อนแขนแกร่งรับเอาแฟ้มอีกสี่ห้าอันเข้ามาไว้ในอ้อมกอด หมายจะเอาไปศึกษาเพิ่มเติมที่ห้อง แต่ก็ไม่วายจะหันกลับมาหยดน้ำกรดลงบนหัวใจคนเป็นพ่อให้เจ็บแสบยิ่งกว่าเดิม “ เสร็จจากนี่แล้วกลับไปเลยก็ได้นะครับ ไม่ต้องอยู่ใส่ไฟให้ผมยอมแพ้ เพราะไม่มีทางแน่ๆ ที่ผมจะยอมพ่อ ”
ปัง!!
แม้เซฮุนจะอยากสำนึกผิดมากเท่าไหร่ แต่แรงโทสะก็สั่งให้เขาเลิกทำเช่นนั้นเสีย เขาไม่อยากสนใจอีกแล้ว ไม่อยากจะสนใจว่าผู้ชายคนนั้นจะพูดอะไรอีก ไม่อยากรับรู้คำว่ารักจอมปลอมที่พ่อพร้อมจะมอบให้ อยากจะสลัดความห่วงใยนั้นทิ้งไปเสีย เซฮุนเสียใจมามากแล้ว และแน่นอนว่าเขาไม่อยากเสียใจอีก ความเชื่อใจที่พระเจ้าท่านทรงประทานมาให้หาได้เอาไว้จับจ่ายใช้สอยอย่างไร้ค่า เซฮุนจะยอมจ่ายมันแค่เพียงครั้งเดียว เสียใจครั้งเดียว จากนั้นจะไม่มีอีก
เพราะห้องนอนของเขาและห้องทำงานของพ่ออยู่ห่างกันไม่มากนัก เซฮุนจึงไม่ต้องเสียแรงเดินให้เมื่อยเท้าเท่าไหร่ เขาสละมือข้างหนึ่งเลื่อนผลักบานประตูเลื่อน แทรกตัวเข้าไปและไม่ลืมที่จะหันกลับมาลงกลอนกันผู้คนสอดรู้สอดเห็น แฟ้มงานหลายเล่มถูกวางลงบนโซฟาตัวนุ่ม โซฟาที่เซฮุนรู้สึกอยากจะยกมันเข้าไปไว้ในคอนโดแทนโซฟาปัญญาอ่อนนั่นเสีย แต่ก็ช่างเถิด มันไม่ได้สำคัญนักในเมื่ออย่างไรหากวันหนึ่งเขามีลูก ลู่ฮานก็ต้องงอแงขอกลับมาอยู่บ้านใหญ่อยู่ดี คิดขึ้นได้เช่นนั้นเซฮุนจึงไม่รอช้า พาตัวเองไปด้อมๆ มองๆ คนตัวเล็กที่ยังคงอยู่ในนิทราอันแสนหวาน เสี้ยวหน้าน่ารักฝั่งหนึ่งจมหายลงไปในหมอนใบโต ปลายจมูกเล็กโด่งรั้นผ่อนลมหายใจแผ่วเบาเป็นจังหวะ เส้นผมสีอ่อนกระจายตัวทั่วหมอน แผงขนตาโค้งงอนสะท้อนแสงไฟโคมสีส้ม
เซฮุนประทับจุมพิตเบาๆ ลงบนริมฝีปากอิ่มที่เผยอออก ไล้จมูกโด่งเป็นสันไปตามพวงแก้มใส ตัดใจไม่ทำอะไรเพราะคนตัวเล็กเริ่มขยับตัวครางงึมๆ งำๆ จับความไม่ได้ในลำคอแล้ว ร่างสูงผละออกมาด้วยความเสียดายเล็กน้อย เขายังมีรายรับรายจ่ายอีกมากต้องอ่านและจัดการ แถมพรุ่งนี้ยังต้องเตรียมตัวไปทำงานอีก คงจะไม่ยอมให้กิเลสเล็กๆ ( อันที่จริงไม่เล็กเท่าไหร่ ) มาทำให้อะไรตรงนี้ไขว้เขวได้ แฟ้มงานสองถึงสามเล่มถูกยกมากองไว้บริเวณโต๊ะหัวเตียง ถึงจะพูดแบบนั้นไปเซฮุนก็ยังไม่อยากจะห่างจากลู่ฮานสักวินาที คนมันห่างกันไปนาน จะว่าใจหายก็คงใช่ที่สุดกระมัง
เขาหย่อนกายลงนั่งบนฟูกเตียง เอี้ยวตัวไปหยิบเอาแฟ้มรายรับรายจ่ายและรายงานมาอ่านทำความเข้าใจอีกครั้ง เมื่อครู่อยู่ในบรรยากาศอึมครึมจึงทำสมองให้โล่งจนรับเอาความรู้เข้ามาทั้งหมดไม่ได้ ตัวหนังสือมากมายเรียงรายฟ้องรายจ่ายให้เขาได้รับรู้ จากที่ลองมองดูคร่าวๆ บริษัทจะเสียเงินไปกับค่าอาหาร ค่าบริการ ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำเสียมาก นอกนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเหนื่อยใจนอกจากตัวเลขติดลบสองสามแสนในแต่ละเดือน เดาว่าก็น่าจะเป็นค่าทำงานล่วงเวลา หรือค่าสวัสดิการของพนักงานก็ได้
สิบนาที ยี่สิบนาที สามสิบนาที หนึ่งชั่วโมง ไม่รู้นานเท่าไหร่แล้วที่เซฮุนจมจ่อมอยู่กับงานตรงหน้าจนเผลอหลับไปทั้งๆ ที่ในมือยังมีแฟ้มเล่มหนาคาอยู่ เปลือกตาสีอ่อนปิดสนิท ศรีษะพิงทับกับหัวเตียงบุกำมะหยี่นุ่ม ริมฝีปากสีชมพูธรรมชาติเผยอผ่อนลมหายใจเล็กน้อย
นาฬิกาหน้ากว้างบอกเวลาเที่ยงคืนครึ่ง ถึงเวลาแล้วที่คนน่ารักจะตื่นจากนิทราอันแสนหวาน ห้องทั้งห้องมีเพียงไฟโคมสลัวให้ความสว่าง แต่ทว่าลู่ฮานก็สามารถมองเห็นอะไรต่อมิอะไรได้ถนัดถนี่ ดวงตากลมโตปรือปรอยถี่ คลอฉ่ำไปด้วยน้ำเลี้ยงที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อไม่ให้รู้สึกระคายเคือง มือเล็กยันกายขึ้นนั่ง สอดส่ายสายตามองไปรอบๆ ห้อง ฤทธิ์ของความง่วงงุนยังคงครอบงำทำให้ไม่ค่อยได้สติสักเท่าไหร่ หากยังพอจะรู้ได้ว่าคนนั่งคอพับหลับอยู่ข้างๆ นี่คือคนรักที่เพิ่งผ่านศึกหนักมาด้วยกันเมื่อบ่าย
ความรู้สึกมากมายไม่อาจถ่ายทอดออกมาได้ในรูปแบบคำพูด ลู่ฮานจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่พระเจ้าทรงปั้นด้วยสีหน้ายากที่จะอธิบายให้ผู้อื่นได้รับทราบ
“ เหนื่อยไหม เซฮุนนา... ? ”
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงต้องถามไปทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าคนที่นอนหลับอยู่นั้นไม่มีทางจะได้รับรู้ ลู่ฮานแค่รู้สึกว่าเซฮุนอาจจะเหนื่อยหรือเปล่ากับสิ่งที่น้องกำลังฝืนใจทำอยู่เช่นนี้ น้องเกลียดงานบริหาร แต่ต้องมาทำงานบริหาร เกลียดการอยู่ในกรอบ แต่ก็ต้องมาทำงานในกรอบที่คุณพ่อวาดวางเอาไว้ให้ เขาไม่อยากเป็นตัวถ่วง ไม่อยากให้น้องลำบาก บางทีความรักนิจรันดร์อาจจะยังไม่ใช่จุดจบของทุกๆ อย่างอย่างที่ใครๆ เคยลั่นวาจาเอาไว้ เซฮุนเหนื่อยมามากแล้ว เหนื่อยกับการตามใจคนเห็นแก่ตัวอย่างเขา คนเห็นแก่ตัวที่หนีไปอยู่อเมริกากับครอบครัวใหม่โดยที่ไม่นึกถึงใจน้อง เหนื่อยกับการร้องไห้ เหนื่อยกับการเจ็บปวดที่ต้องรอคอยให้คนอย่างเขากลับมา ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาจริงหรือไม่
น้ำร้อนเม็ดกลมกลิ้งหล่นตามแรงโน้มถ่วงของโลก อดไม่ได้จริงๆ ที่จะร้องไห้เมื่อคิดถึงคำพูดอันแสนทำร้ายจิตใจของคุณพ่อ เรื่องราวทุกอย่างปะติดปะต่อกันเป็นม้วนฟิล์มหนา หนังชีวิตตั้งแต่ฉากแรกยันฉากปัจจุบันต่างมีความสัมพันธ์กันในทุกๆ ส่วน ซึ่งตัวต้นเหตุของเรื่องก็ไม่ใช่ใครหากไม่ใช่ตัวเขาเอง ถ้าสมมุติว่าคนเราย้อนเวลากลับไปได้ ลู่ฮานจะอยู่ห่างจากเซฮุนให้มากที่สุด จะไม่ห่วงใย จะทำเป็นไม่สนใจน้องก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ไขดั่งเช่นวันนี้
ร่างเล็กไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่าความรักแบบที่กำลังเป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด บางทีมันอาจจะเป็นตอนอายุสิบสาม ตอนอายุสิบห้า หรือตอนอายุยี่สิบ ลู่ฮานรู้เพียงว่าตลอดชีวิตของเขามีเซฮุนเป็นสิ่งสำคัญมาโดยตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าน้อง ได้สัมผัสมือน้อยๆ ของน้อง ก็ราวกับว่าพระเจ้าสร้างเส้นพันธสัญญาระหว่างใจให้กลายเป็นด้ายสีแดงผูกมัดพวกเขาทั้งสองเอาไว้ด้วยกัน ไม่อาจหลบหนี ไม่อาจหลุดพ้น ไม่อาจฝืนโชคชะตาที่ท่านกำหนดมาให้เป็นไปเช่นนั้น หากแต่ก็ต้องเอากลับมานั่งถามตัวเองอีกครั้งว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันใช่จริงๆ หรือ ? มันคือสิ่งที่พวกเขาทั้งคู่ต้องการจริงหรือไม่ ? ลู่ฮานจะยอมได้ไหมหากเห็นน้องชายที่ตนเองไม่เคยแม้แต่จะให้สัมผัสคำว่าลำบากลำบนต้องนอนจมอยู่บนกองเอกสารการเงินเช่นนี้
ท่อนแขนเล็กทั้งสองข้างเคลื่อนรัดรับเอาร่างใหญ่มาไว้ในอ้อมกอด ซบใบหน้าน่ารักชื้นน้ำตาลงบนช่วงไหล่กว้าง ร่ำไห้ให้กับความน่าสมเพชของตัวเองเสียจนลมหายใจขาดห้วง บางที..หากไม่มีลู่ฮานอยู่ในตระกูลโอทั้งแต่แรก ทุกอย่างมันคงไม่เกิดขึ้น คุณพ่อจีฮุนจะไม่ตั้งแง่กับเซฮุนจนพาลพาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวเสียหาย คุณแม่ซอนมีจะไม่ร้องไห้เพราะสงสารพวกเขาทั้งคู่ เซฮุนจะยังคงเป็นนายแบบมือหนึ่งของวงการที่ใครๆ ต่างก็ให้ความไว้วางใจ น้องจะเป็นเด็กชายที่มีความสุขที่สุดในโลกหากตนไม่ได้เข้ามาเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลนี้
“ พี่ขอโทษเซฮุน...พี่ขอโทษ ”
ต่อให้ร้องไห้จนขาดใจ ลู่ฮานก็ไม่อาจเข้าใจความรู้สึกโหยหาของน้องได้ เขามีครอบครัว มีคุณพ่อคุณแม่ มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ไม่ถูกบังคับหรือตีกรอบ ไม่เคยรู้สึกขาดความรัก ไม่เคยประจักษ์ถึงคำว่าเจ็บปวด แต่น้องไม่มี และยังคงไม่มีมันมาโดยตลอด เซฮุนเผชิญกับความเจ็บปวดตั้งแต่ยังเล็ก ต่อสู้กับความรู้สึกโหยหาความรักด้วยความกล้าหาญ มีคุณพ่อคุณแม่ หากก็เลือนรางเต็มทีเต็มทน ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กันกับท่านแท้ๆ แต่มันก็ไกลเกินกว่าช่วงขาเล็กๆ คู่นั้นจะเดินไปคว้ามือของท่านเอาไว้ได้ ผลสุดท้าย เด็กชายที่ควรจะเติบโตมาด้วยความบริสุทธิ์กลับกลายเป็นเด็กชายที่มีแต่ความดื้อรั้น ดื้อด้าน เย็นชา และกบฏต่อทุกสิ่งบนโลก
“ พี่ขอโทษที่เห็นแก่ตัว...ขอโทษที่แย่งทุกๆ อย่างมาจากเรา ขอโทษ..ฮึก ขอโทษ ”
เกลียดตัวเองเหลือเกินที่อ่อนแอ เกลียดตัวเองที่ยอมแพ้ตั้งแต่ไม่ได้เริ่ม
“ เราพยายามกับพี่มามากแล้ว เหนื่อยใช่ไหมเซฮุน.. ? เหนื่อยใช่ไหม ”
สะอึกสะอื้นจนใครได้ฟังก็ต้องใจหาย...
“ หยุดเถอะนะ..หยุดสักที..ฮึก อย่าฝื... ”
“ ผมไม่หยุด!!!!!! ”
เสียงตะโกนก้องทำเอาคนที่นั่งร่ำไห้อยู่สะดุ้งเฮือก ลู่ฮานเจ็บจี๊ดที่ช่วงแขน ก่อนจะถูกกระชากและเหวี่ยงลงบนเตียงด้วยความรุนแรง เงาของร่างใหญ่เคลื่อนทับ สีหน้าเซฮุนดูไม่สบอารมณ์นักซึ่งไม่ต้องเดาเราๆ ก็น่าจะรู้ว่ามันเกิดขึ้นจากสาเหตุอันใดกันแน่ คนตัวเล็กชาดิกไปทั้งร่าง ข้อมือบางถูกกดตรึงจมหายไปในฟูกเตียง เรียวขาทั้งสองข้างถูกคนที่แข็งแรงกว่าพันธนาการเอาไว้ด้วยอวัยวะชนิดเดียวกัน ดวงตาเรียวคมเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจเคล้าโมโหร้ายเต็มหลอด ลมหายใจร้อนพ่นสลับเข้าออกราวกับกระทิงแข่ง
จ้องอยู่นานไม่กี่วินาที ริมฝีปากร้อนก็เร่งเร้าเข้ามาทาบทับ จาบจ้วงแต่ก็อ่อนหวานละมุนเกินกว่าจะคาดถึง ลู่ฮานโอนอ่อน ยอมให้คนตัวโตชักนำทางไปโดยไม่ได้คิดจะขัดขืน เปลือกตาปรือถี่ก่อนจะปิดลง ยอมรับเอาสัมผัสนุ่มหยุ่นชวนให้ใจเต้นมาครอบครองอีกครั้ง หัวใจดวงน้อยเต้นดังจนร่างเล็กถึงกับเจ็บอก หากแต่ว่าหน้าที่คนรักที่ดีก็ย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ใบหน้ารูปไข่เอียงทำองศา เปิดเริมฝีปากเพรียกหาสิ่งเติมเต็มจากเซฮุนไม่ได้หยุดหย่อน
“ พี่จะพูดอะไรก็ได้ แต่ห้ามพูดว่าให้ผมหยุด ”
เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าเอ่ย มันไม่ใช้คำขอร้อง หากแต่ว่ามันเป็นคำสั่ง คำสั่งที่ลู่ฮานต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น
“ ผมไม่เคยใช้คำว่าพยายามกับพี่ เพราะทุกสิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้มันคือความเต็มใจ ผมไม่ต้องบังคับตัวเอง ไม่ได้ฝืนใจถึงกระทั่งต้องใช้คำๆ นั้น ” จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันและกัน “ ผมรักพี่มาแปดปี ลู่ฮาน แล้วพี่ก็อยู่กับผมมายี่สิบสี่ปี พี่รู้ดีว่าผมไม่ใช่คนมีความอดทนอะไรมากนัก อย่างคราวนั้นที่พี่หนีไปกับไอ้หน้าจืดผมก็ไปลากพี่กลับแถมยังอัดมันเสียปางตายนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในโรง’ บาลนู่น ” แรงบีบแน่นบริเวณข้อมือค่อยๆ คลาย ความเจ็บปวดถูกรักษาให้หายด้วยสัมผัสแผ่วเบาจากปลายนิ้ว “ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพี่ พี่ก็รู้ใช่ไหมว่าผมไม่เคยปล่อยมันไปง่ายๆ ? ไม่เคยมีความอดทนกับมันได้สักที แค่นี้มันยังไม่พออีกหรือครับ ? ”
เซฮุนไม่ได้โกหก สำหรับลู่ฮานแล้วทุกสิ่งล้วนสำคัญกับตัวเขาเสมอ สมัยตอนอยู่มัธยมปลายเกรดสิบเอ็ด มีพวกลูกกะจ๊อกท้ายแถวของโรงเรียนเด็กเดนข้างๆ ชอบมาด้อมๆ มองๆ พี่ชายเขาเวลารอลุงขับรถมารับกลับบ้าน เฝ้าสังเกตการณ์อยู่นานก็พอจะรู้มาว่าลูกพี่ของพวกมันแอบชอบลู่ฮานมาได้สักพักแล้ว แต่ให้ฟ้าถล่มเถอะนะ เซฮุนไม่ยอมให้ไอ้ลูกหมานั่นมันมายุ่งกับพี่ชายที่แสนน่ารักของเขาหรอก เย็นนั้นก็เลยขนพวกไปต่อยหน้ามันเสียยับ โชคยังช่วยที่ฝั่งเขาไม่ได้แผลกลับมา เลยไม่ได้ถูกซักไซ้ให้มากความจากผู้ปกครองและคุณครู ( แน่นอนว่าลู่ฮานไม่รู้ )
“ เซฮุนจะเหนื่อย... ”
ร่างสูงพลิกตัวเองกลับลงมานอนข้างล่าง ส่วนด้านบนนั้นก็ยกเอาเรือนกายบางขึ้นไปแทนที่ ลู่ฮานหน้าหงิกหน้างอ ดวงตากลมโตก็แวววาวฉ่ำน้ำ ริมฝีปากเล็กบดเบียดกันราวกับว่าเจ้าตัวกำลังชั่งใจจะทำอะไรสักอย่าง
“ พี่ก็คอยดูแลเซฮุนสิครับ ”
มือใหญ่เคลื่อนไปกอบกุมมือคู่เล็กไว้ได้จนหมด กดจูบพรมไปตามข้อนิ้วเล็กอย่างทนุถนอม มันไม่มีอะไรต้องกลัวหากปัญหาครั้งนี้จะมีคนอยู่เคียงข้าง ตลอดชีวิตเขามีแต่ลู่ฮาน ไม่มีพ่อแม่คอยปลอบ คอยดูแลหรือให้กำลังใจเหมือนใครอื่นเขา มีเพียงพี่ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่พร้อมจะทำทุกอย่างหากมีชื่อของโอ เซฮุนอยู่ในนั้น
“ คนอื่นจะมองยังไงล่ะเซฮุน... เราเพิ่งมีข่าวมานะ ”
ปลายคางมนวางเกยบนแผ่นอกหนา สอดสายตาสบกับคนใต้ร่างเป็นเชิงถามเอาคำตอบ
“ ผมสนแค่พี่เท่านั้นล่ะคนดี อย่ากังวลอะไรไปเลย ”
นิ้วยาวยกเกลี่ยข้างแก้มใส ลบล้างเอาคราบน้ำตาออกไปให้หมดสิ้น มันไม่ใช่เครื่องสำอางที่ดีเลยสำหรับคนตัวเล็กที่นอนทำตัวน่ารักอยู่ตรงหน้านี้ ลู่ฮานเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าสิ่งใด เขาการันตรีได้จากที่เคยเห็นมาทั้งชีวิต
“ ขอบคุณนะ... ”
“ ? ”
“ ขอบคุณที่รัก.. ที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ ขอบคุณที่คอยอยู่ข้างๆ กันเวลาไม่มีพ่อกับแม่ ขอบคุณที่อดทนรอ ขอบคุณที่มั่นคง ขอบคุณ... ”
แรงบดขยี้ที่กลีบปากหยุดยั้งทุกสิ่ง เซฮุนไม่อยากได้ยินคำว่าขอบคุณเพราะเขารู้สึกละอายใจเหลือเกินในตอนนี้ ทำไมหรือ ? ทำไมลู่ฮานต้องทำเหมือนว่าเขามีบุญคุณกับตัวเองหนักหนา ? ทำไมต้องขอบคุณเสมือนกับว่าเขาเคยทำดีมาให้ตลอดชีวิต ทั้งๆ ที่ผ่านมา ซุนเอาแต่ทำตัวร้ายใส่ เอาแต่ใจ ปากหมา พูดจาแย่ ไม่คิดจะแคร์ความรู้สึกอีกคนเลยแม้แต่น้อย ลงไม้ลงมือทุกครั้งที่โมโห ไม่ฟังเหตุผลและตั้งตัวเองเป็นใหญ่ จิกหัวใช้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นฝ่ายที่จะต้องเอ่ยขอบคุณควรจะต้องเป็นเขาไม่ใช่หรอกหรือ ?
“ ผมก็ขอบคุณนะ... ”
เซฮุนกดยิ้มข้างมุมปาก ไล้ปลายจมูกโด่งไปตามพวงแก้มใส รั้งรัดเอวบางให้แนบชิดกับมัดกล้ามหน้าท้องของตัวเองคนคู่รักไม่มีช่องว่างระหว่างกันและกัน ทั้งทางร่างกาย ความรู้สึก หัวใจ
“ ขอบคุณที่เลือกผม ขอบคุณที่หัวใจตรงกันตั้งแต่แรก ขอบคุณที่กลับมา ขอบคุณที่ไม่โกรธไม่เกลียดกัน ขอบคุณจริงๆ นะครับ ”
ลู่ฮานยิ้ม ยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมา ยิ้มจนดวงตากลายสภาพเป็นเส้นขีดเล็กๆ เกิดเป็นภาพน่ารักจนคนที่ถูกทับอดใจไม่ไหว ต้องใช้กำลังเหวี่ยงเอาร่างเล็กบางนั้นลงไปอยู่ใต้การกักขังของตัวเองอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาทุกไซ้หนักที่ซอกคอ นาบริมฝีปากร้อนดูดดึงทำรอยจ้ำแดงไปจนทั่ว หากลู่ฮานเป็นเฟรมผ้าใบ เซฮุนก็คงเป็นสีน้ำมันที่พร้อมจะทำให้ผ้าใบผืนนั้นเต็มไปด้วยงานศิลปะแสนเลอค่า ฟันซี่คมครูดขบแนวไหปลาร้าสวยได้รูป ชิวหาเปียกชื้นคอยทาบเรียกให้อุณหภูมิภายในกายพุ่งพล่าน
คนใต้ร่างหวีดร้องหัวเราะลมหายใจขาดห้วง กลุ่มผมสีอ่อนปลิวกระจายทั่วหมอน ลู่ฮานสูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อคนขี้แกล้งเลิกทรมานให้เขาขำจนขาดใจตาย มือเล็กที่เคยว่างเปล่าถูกแทนที่ด้วยมือใหญ่ทั้งสองข้าง ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งกาย ราวกับว่าเซฮุนจะถ่ายทอดทุกความรู้สึกผ่านสัมผัสนั้น รัก ห่วงใย ใส่ใจ หวงแหน อยากดูแลและอยากจะเทคแคร์ไปตลอดชีวิต...
“ ผ่านมันไปด้วยกันนะ... เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ”
ลู่ฮานยิ้ม ยิ้มอีกครั้ง...
.
.
.
.
“ อื้อ.. เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ”
ไม่รู้จะทอล์คอะไร
ยืดฟิคอีกละ - - ไม่จบตอนหน้าละนะคะ 55555555555555555555555
จะยืดทำไมก็มิรู้ ไม่มีเวลาแล้วเนี่ย เดี๋ยวต้องเรียนพิเศษหกวันเลยอะ 555555555555555
5555555ไม่รู้จะขำทำไมแต่ก็ขำ โว้ะ
ต่อจากนี้ใครเอาหอยทากมาหลอกจะให้พ่อใส่สนับมือต่อยปากเซฮุนนะ
ของต้องห้ามเลย ห้าม ห้าม !!!!
โอเค อะไรต่อทีนี้ อ๋ออออ รู้ละ
ไม่ส่งNCแล้วนะคะ ไม่มีเวลาละ คนมาอ่านทีหลังตามในเล่มรวดเดียวเลยค่ะ
ไปดีกว่า รักทุกคนน้า
ปล. ไม่เม้นท์เล่นแท็ก รักนะฉึกๆ
ความคิดเห็น