ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DANGEROUS AREA (HUNHAN)

    ลำดับตอนที่ #3 : ▲ DANGEROUS AREA ✗ : 2nd

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.62K
      30
      9 เม.ย. 56







             

    หน้าไปโดนอะไรมา

     

     

    นั่นคือคำถามซักไซ้รอบที่ยี่สิบของวันนี้ โดยเพื่อนสนิทของลู่ฮาน อัน แจฮโย ร่างเล็กโดนถามแบบนี้ตั้งแต่แบกหน้ามาทำงานที่ร้านตอนเช้า โดยผู้จัดการสาขา ถัดมาเป็นพาร์ทิซิเย่ร์รุ่นน้องที่ทำงานอยู่ร่วมกัน จากนั้นก็เป็นสาวเสิร์ฟที่กรูกันเข้ามาซักเอาความจริงกันยกใหญ่ ตามด้วยคุณป้าแม่บ้านอีกสามสี่คน ที่เข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใยตามประสาคนคุ้นเคย


     

    ลู่ฮานคิดว่าเขาจะรอดจากคำถามนี้ คนที่เขาไม่อยากตอบที่สุด ก็ไม่เว้นแจฮโย แจฮโยมักทำเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขาให้เป็นเรื่องใหญ่เสมอ ลู่ฮานไม่ชอบ เพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เขาหลบหน้าแจฮโยตลอดทั้งช่วงเช้า โชคดีที่พระเจ้าบันดาลให้วันนี้ร้านกาแฟมีคนมากจนแจฮโยขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่โชคร้าย เฮดีสมาเก็บลูกค้าเหล่านั้นไปในช่วงบ่ายแก่ๆ

     

     

    ควรจะโกหกไหม ลู่ฮานถามตัวเองอีกครั้ง แจฮโยส่งสีหน้าคาดโทษมาให้ และมันทำให้ลู่ฮานรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กชายตัวเล็ก ที่แอบหนีไปเที่ยวมาในช่วงกลางดึก พอคราวนี้ พี่ชายของเขาเข้ามาในห้องแล้วไม่เจอตัว จึงไปยืนรอคาดโทษอยู่ในห้องนั่งเล่น เด็กชายหลบหลีก ย่องกลับมาและเข้าบ้านอย่างปลอดภัย แต่อนิจจา จู่ๆ ไฟก็เปิด พี่ชายของลู่ฮานยืนอยู่ตรงนั้น และไม่ต้องพูดอะไร ลู่ฮานก็รู้ว่า คำแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ใช้ไม่ได้ในสถานการณ์นี้

     

     

    วิ่งชนตู้เย็นน่ะ... สลิปเปอร์ลื่นไปนิด

    เด็กน้อยลู่ฮาน ( ที่แจฮโยทำให้รู้สึกแบบนั้น ) เลือกที่จะโกหก

     

     

    มีช้อยส์ข้ออื่นที่มันฟังขึ้นกว่านี้ไหม

     

     

    ความจริงแล้วลื่นในห้องน้ำน่ะ...พื้นห้องน้ำมันแฉะไปหน่อย

    โกหกอีกประโยคเผื่อว่าจะฟลุค

     

     

    ไม่มีที่เป็นความจริงกว่านี้ ?

     

     

    อันที่จริงมากๆ ...เราตีไข่ด้วยตะกร้ออยู่ สนุกไปหน่อย มือเลยกระแทกหน้าตัวเอง

    อีกสักประโยคเผื่อปาฏิหาริย์มีจริง

     

     

    ลู่ฮาน

    พี่ชายของคุณกดเสียงต่ำแล้ว ถ้าคราวนี้โกหก ... คุณต้องโดนชุดใหญ่แน่ๆ !

     

     

    คือ... เรากับเซฮุนทะเลาะกันนิดหน่อย แล้ว...เซฮุนบีบคางเรา เราเจ็บ เราก็ดิ้น.. เซฮุนก็ผลักหน้าเรา มันไปชนกับตู้เย็น

    สุดท้ายลู่ฮานก็แพ้ เขาเดาทางออกอยู่แล้ว เพราะใช่ว่าจะไม่เคยโดนเค้นความจริงแบบนี้ ถามเพื่อนสนิทของตัวเอง ก็ฉลาดเป็นกรดมากขึ้นทุกวัน จับจุดโกหกลู่ฮานได้เป๊ะอยู่ร่ำไป

     

     

    แล้วทำไมไม่รู้จักสู้ อายุอานามเข้าใกล้เลขสามเข้าไปทุกที ปล่อยให้น้องมันทำร้ายร่างกายอยู่ได้ รู้หรอกนะว่าหน้าตาเหมือนผู้หญิง แต่ยังไงก็เป็นผู้ชายไม่ใช่หรอกหรอลู่ฮาน ทีตีแขนฉัน หยิกแขนฉันนี่ทำจัง ถึงเวลาเซฮุนทำร้ายร่างกายเอาบ้างกับนิ่งเฉย นี่ฉันถามจริงๆเถอะ นายกลัวน้องมากหรือ หน้าตาเซฮุนไม่ได้น่ากลัวเลยนะลู่ฮาน สู้เสียบ้าง

     

     

                โดนแจฮโยดุแบบนี้ทุกที ลู่ฮานก็ชักเบื่อ ชอบทำเหมือนเขาเป็นเด็กเล็กๆ กันอยู่นั่น ทั้งๆ ที่โตมากแล้ว

     

     

     

    ถึงแม้เซฮุนจะทำร้ายร่างกายลู่ฮานก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงจนกระทั่งเลือดตกยางออก ครั้งนี้ก็เป็นเพียงรอยช้ำเขียวๆ ข้างแก้มเท่านั้น อีกอย่าง เซฮุนก็เป็นน้องชายของเขา มันคงจะไม่สมควรนักที่คนอายุจะสามสิบอย่างเขา ( ความจริงแล้วแค่ยี่สิบหก แต่แจฮโยชอบพูดให้เวอร์ ) จะมีเรื่องชกต่อยกับน้องชายตัวเอง


     

    บ่นอีกแล้ว บ่นจนจะกลายเป็นป้าแก่ๆ แล้วแจฮโย ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า นี่ก็แค่ช้ำ สองสามวันเดี๋ยวก็หายแล้ว

     

     

    ไปหาหมอกับฉันเถอะ

     

     

    ไปทำไม นี่ทายานวดเดี๋ยวก็หายแล้ว โถ่ แจฮโย เราไม่ได้กระดูกกระเดี้ยวหักนะ จะไปหาหมอแล้วบอกเขาว่าอะไร ? ผมซุ่มซ่ามเอาหน้าไปชนตู้เย็นครับ ช่วยเอ็กซ์เรย์แก้มผมให้ดูหน่อยว่ามันโอเคอยู่ไหม แบบนี้หรอกหรือ ?

    ลู่ฮานว่าเสียงเนือย

     

     

    ใครจะไปรู้ กระดูกโหนมแก้มนายอาจจะยุบไปก็ได้ ไม่รู้ล่ะ ถ้าแก้มนายยุบแล้วไม่มีให้ฉันดึงเล่น ฉันเลิกคบแน่ๆ

    ร่างเล็กค้อนขวับ เหวี่ยงหมัดไปที่ต้นแขนของเพื่อนสนิท แค่ไม่มีแก้มให้หยิกนี่ถึงกับเลิกคบเลยหรือยังไง ความจริงมันน่าจะต่อยให้เลือดกบปาก ! แต่ยังไม่ทันจะเงื้อมือดี บาร์ริสต้าอีกคนก็วิ่งเข้ามาขัดจังหวะบทสนทนาของทั้งคู่เสียก่อนด้วยหน้าตาตื่นๆ

     

     

     

     

     

    พี่ลู่ฮานครับ ! ออกไปข้างนอกหน่อยครับ มีลูกค้ามาบอกว่าอยากพบพี่

     

     

    แจฮโยหันมามองหน้าลู่ฮานด้วยสายตายากที่จะทำความเข้าใจ ก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปยังเคาต์เตอร์ กลัวว่าจะมีเรื่องเกี่ยวกับขนมที่เขาทำ หรืออาจจะมีเส้นผมตกลงไปในขนม แต่ลู่ฮานก็มั่นใจว่าตัวเองแต่งตัวเรียบร้อยทุกครั้งที่ทำอาหาร เคาต์เตอร์ส่วนที่บาริต้าทำงานปรากฏชายร่างเล็กผิวขาวสะอาดคนหนึ่ง ใบหน้าของเขาช่างคุ้นเคยเหลือเกินสำหรับลู่ฮาน มือเล็กๆ ถือแผ่นโพทส์อิท เอาไว้ และเมื่อลูกค้าคนนั้นได้เห็นลู่ฮาน รอยยิ้มสดใสก็ปรากฏบนใบหน้าขาวทันที

     

     

    อ้าว พี่จุนมยอน... สวัสดีครับ มาแวะทานขนมหรอ ?

     

     

    ลู่ฮานส่งเสียงทักทายเป็นกันเอง ลูกค้าตรงหน้านี่ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน พี่จุนมยอนคือผู้จัดการส่วนตัวของเซฮุน น้องชายของเขา บางครั้งก็จะแวะมาค้างที่คอนโดบ้างหากเซฮุนมีงานติดกันเยอะๆ เพื่อเซฟเวลาเดินทาง ดังนั้นลู่ฮานจึงคุ้นเคยกับจุนมยอนดี บางครั้งก็คิดว่าตัวเองรู้จักพี่จุนมยอนดีกว่าน้องชายตัวเองอีก

     

     

    จุนมยอนส่ายหน้าน้อยๆ ส่งแผ่นโพสท์อิทนั้นมาให้ร่างเล็ก เซฮุนฝากมาให้แน่ะ งอแงไม่ยอมกินชานมแถวสตูเลย บอกว่ายังไงๆ ก็จะกินที่เราชง พี่เลยต้องแบกหน้ามานี่

    ลู่ฮานฟังแล้วก็โมโห น้องชายตัวดีเอาแต่ใจอีกแล้ว

     


     

    เอาชานมไข่มุกรสชาติเหมือนเมื่อคืน เป๊ะๆ ห้ามเพี้ยน

    ชงด้วยมือตัวเอง ไม่ต้องยืมมือใครชง เข้าใจนะ ?

    แล้วเย็นนี้ฉันจะมารับไปกินข้าว เรามีเรื่องต้องคุยกัน



     

    เซฮุนเขียนมาหรอครับพี่จุนมยอน ลู่ฮานยกโพสท์อิทด้วยมือข้างขวา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

     

     

    อื้ม เขียนเองเลยตอนรอช่างเซ็ตไฟ เอาชานมให้พี่สองแก้วนะ ฝีมือเราแก้วนึง แล้วก็แบบที่คนปกติธรรมดาเขากินให้พี่แก้วนึง

     

     

    ครับ , แจฮโย ชงชานมไข่มุกแบบปกติให้พี่จุนมยอนแก้วนึง อีกแก้วของเซฮุนเราชงเอง

     

     

    แจฮโยไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเดินไปทำหน้าที่ของตัวเอง ตามไปด้วยลู่ฮานที่เอื้อมมือหยิบแก้วมาชงชานมรสขมนิดๆ ของตัวเองให้น้องชายด้วยท่าทีงกๆ เงิ่นๆ เมื่อเทียบกับแจฮโยแล้ว เขายังเป็นเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งหัดชงชากาแฟเท่านั้น แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ลู่ฮานก็รินชาใส่แก้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว มือบางเลื่อนแก้วใสๆ เข้าเครื่องปิดฝา ไม่ลืมที่จะกดให้เครื่องทำงาน

     

     

    หัดดุน้องนายบ้าง ลำบากชาวบ้านเขาลู่ฮาน แจฮโยค้อมตัวลงมากระซิบกระซาบข้างหูร่างเล็ก

    ถ้าดุแล้วฟังก็ดีน่ะสิ

     

     

    นี่ครับพี่จุนมยอน ลู่ฮานแสร้งทำเป็นไม่สนใจแจฮโย ยกชานมทั้งสองแก้วใส่ถุงกระดาษประทับตราร้าน ยื่นให้คนเป็นพี่ตัวเองสองปีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อ้อ ฝากบอกเซฮุนด้วยนะครับพี่ คือ.. พอดีวันนี้ผมติดนัดกับแจฮโยแล้ว พอดีว่าเพิ่งนึกได้น่ะครับ ฝากขอโทษน้องให้ผมด้วยนะครับพี่

     

     

    อ้าว.. งั้นโอเค แล้วพี่จะบอกให้

     

     

    จุนมยอนพยักหน้ารับ ส่งเงินมาให้ลู่ฮานและเดินออกจากร้านไปเงียบๆ แจฮโยที่ยืนอยู่ข้างๆ ยกท่อนแขนมากอดอก พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ

     

     

    ฉันจะทำให้นายมีปัญหาหรือเปล่าลู่ฮาน ? สำหรับนัดคืนนี้อะ

     

    คงไม่หรอก...

     

    ---

     

     

     

    พี่ว่าอะไรนะ ?

    เซฮุนแทบพ่นชานมไข่มุกออกจากปากทันทีที่ได้ฟังคำจากปากของผู้จัดการส่วนตัว ร่างสูงอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนพร้อมกางเกงยีนส์สีซีดที่กลัดกระดุมหมิ่นเหม่ ใบหน้าดูไม่พอใจเท่าไหร่นักเมื่อคำตอบที่ได้รับมาไม่น่ายินดีเท่าที่ควร

     

     

    ลู่ฮานบอกพี่ว่าวันนี้เขามีนัดกับแจฮโย เพื่อนเขาน่ะ คงจะไปกับเราไม่ได้หรอกเซฮุน

    จุนมยอนตอบย้ำทั้งๆ ที่สายตายังไม่ละไปจากสมุดจดตารางงานของเซฮุน น้ำเสียงนุ่มๆ นั้นดูไม่ใส่ใจนัก

     

     

    แล้วพี่ปล่อยให้เขาปฏิเสธผมได้ยังไง ! ”

    แก้วชานมถูกกระแทกลงกับโต๊ะ เซฮุนตะโกนเสียงลั่น สาวเท้ายาวๆ ไปหาผู้จัดการของตัวเองแล้วยืนค้ำหัวอยู่อย่างนั้น โดยไม่ได้คำนึงเลยว่าคนที่นั่งอยู่นี่ อายุมากกว่าเขาถึงหกปี

     

     

    เซฮุน เราบอกให้พี่เอาโพสท์อิทให้ลู่ฮาน พี่ก็ทำให้แล้ว แถมยังสั่งพี่ให้เอาชานมมาให้เราให้เร็วที่สุดด้วย คิดว่ามันไม่ไกลหรอจากคังนัมมาสตูนี่ พี่จะไปขัดเขาได้ยังไง พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะ

    เซฮุนชะงัก ก็จริงอยู่ที่เขาสั่งไปแบบนั้น และที่นี่ไป – กลับ คังนัมก็ใช่จะใช้เวลาน้อยเสียที่ไหนในการเดินทาง คนเป็นเด็กจึงพยายามคุมอารณ์ตัวเองให้เย็นลง และหันกลับไปนั่งที่โซฟาได้ในที่สุด

     

     

    เราน่ะ อย่าเอาแต่ใจมากนักสิ พี่เตือนด้วยความหวังดีนะเซฮุน ยังไง ถ้าจะนัดกับลู่ฮาน ก็โทรไปบอกเจ้าตัวเขาก่อนล่ะ อย่าให้พี่เห็นว่าเราขับรถไปกระชากเขาออกมาจากร้านนะ นั่นพี่ชายเราทั้งคน ให้เกียรติด้วย

     

     

    แต่เขาปฏิเสธผมนะ เขาเห็นไอ้บาริสต้านั่นดีกว่าผม พี่จุนมยอน ! โถ่ พี่ก็รู้

     

     

    พี่รู้ไงเซฮุน พี่พูดได้แค่นั้นนะ เหลือถ่ายอีกสองสามชุด เสร็จแล้วเราค่อยโทรไปบอกลู่ฮาน พี่ว่ามันคงไม่เย็นมาก ซักสี่โมงห้าโมงน่าจะได้

    เซฮุนไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับการถ่ายแบบเซ็ตต่อไป ใบหน้าเรียบเฉยเบือนไปมองสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของตน คิ้วได้รูปถูกดันเข้ามาชนกันเมื่อคิดนู่นนี่ไปเรื่อย

     

     

    เซฮุนยอมรับ เขาไม่ใช่น้องชายที่ดีเท่าไรนัก ออกจะเป็นน้องชายปีศาจด้วยซ้ำไปถ้าเทียบกับน้องชายคนอื่นเขา แต่มันก็อดโมโหไม่ได้เมื่อพี่ชายของตัวเองเลือกที่จะปฏิเสธนัดของเขาและไปกับคนอื่น ทั้งๆ ที่มันไม่บ่อยนักที่เขาจะชวนลู่ฮานออกไปทานข้าวนอกบ้าน ดังนั้นลู่ฮานควรจะรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ ไม่ใช่หรือยังไง ?

     

     

     

    เซฮุนคะ ~

    ยังไม่ทันจะขยับตัวไปไหน ตัวน่ารำคาญประจำกองถ่ายประจำวันมาแล้ว เซฮุนห่อไหล่ทันทีที่เสียงแหลมๆ ของเธอดังขึ้นภายในห้องแต่งตัวของเขา ไม่รู้พี่สไตล์ลิสปล่อยมาให้ป้วนเปี้ยนในพื้นที่ส่วนตัวของเขาได้ยังไง
     

     

    มีอะไร เยจิน

    เขายกไหล่ขึ้นเล็กน้อย แสร้งเบือนหน้าไปมองเจ้าหล่อน ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะเสียสายตาไปมองสักนิด

     

     

    วันนี้เสร็จงานแล้วไปดินเนอร์กับเยจินได้ไหมคะเซฮุน เยจินยากไปทานข้าว

    เจ้าของร่างเพรียวเดินเข้ามาเบียดตัวอยู่ข้างเขา หน้าอกหน้าใจของเธอแทบจะกองขึ้นมาบนแขนของเขา

     

     

    ออกไปจากฉัน เยจิน หน้าอกเธอเบียดแขนฉัน เซฮุนพูดหน้าตาย สายตาดูไม่พอใจนัก อีกอย่างพี่จุนมยอนนั่งหัวโด่อยู่นู่น

     

     

    เซฮุนนี่แปลกคน ! ตกลงจะไปทานข้าวกับเยจินได้ไหมคะ นะเซฮุนนะ.. วันนี้เยจินว่างม๊ากมาก ไปกับเยจินเถอะนะคะ เยจินเหงา

    สีหน้าและสายตาที่ลี เยจินส่งมาให้ร่างสูงนั้น ให้เด็กอนุบาลดูยังดูออกเลยว่ามันจงใจยั่วยวนกันชัดๆ เสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธออาจทำให้ผู้ชายหลายคนน้ำลายหกได้ ( แต่ไม่ใช่เซฮุน ) กางเกงขาสั้นที่อวดขาเรียวสวย เสื้อกล้ามครึ่งตัวรัดรูปนั่นทำให้เซฮุนเห็นรูปร่างของเยจินชัดเจนขึ้นไปอีก

     

     

    ถ้าเหงาก็กลับไปหาผู้ชายในฮาเร็มเธอสิเยจิน ฉันไม่ว่าง มีนัด อีกอย่างเธอน่าจะเอาเวลาไปหาเสื้อผ้าดีๆ ใส่นะ เธอไม่มีคิวถ่ายแบบกับฉันแล้ว ชุดกลับบ้านเธอก็ไม่ควรเป็นแบบนี้ มันโป๊

    เซฮุนยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉย

     

     

    เซฮุนเป็นห่วงเยจินหรอคะ ? สีหน้าของหล่อนดูดีใจขึ้นมาก

     

     

    เปล่า มันอุจาดตาฉัน

    เซฮุนทิ้งระเบิดไว้ตูมใหญ่ก่อนจะเดินออกมาคุยกับช่างกล้อง เป็นอย่างที่เขาคิด เยจินแผดเสียงกรี้ดลั่นห้องแต่งตัวจนจุนมยอนยังต้องเบ้หน้า บรรดาพี่สาวสไตล์ลิสก็พากันซุบซิบนินทาเธอกันให้ควั่ก

     

     

    ลี เยจิน คือดาราและนางแบบสาวไฟแรงของยุค หากมีโพลไหนจัดอันดับเธอก็มักจะติดอยู่ในระดับต้นๆ เสมอ เช่นเดียวกับเซฮุน เขาเป็นนายแบบชายที่กำลังรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ติดอยู่ในระดับต้นๆ ของโพลเสมอ ทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เซฮุนรู้ว่ามันเหนื่อย แต่ในเมื่อเขาทำอย่างนี้แล้วมันส่งผลดีต่อความคิดเขา เขาก็พร้อมจะทำ

     

     

    ---

     

     

    การถ่ายแบบเริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากเยจินออกไปจากสตูดิโอ และเหลือเชื่อ เซฮุนสวมเพียงแค่กางเกงยีนส์ที่ดูธรรมดาเหลือเกิน แต่มันก็ทำให้เขาดูดีราวกับภาพวาด แผ่นอกและหน้าท้องแบนราบไม่ได้มีมัดกล้ามเข้ามาเสริมอย่างใครเขา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้ชายที่มีผิวขาวและดูสุขภาพดีแบบนี้ ก็มีความเซ็กซี่อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

     

     

    ใบหน้านิ่งราวกับปูนปั้นเจือสีเครื่องสำอางเบาบาง ท่วงท่าการขยับตัวถูกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามคำสั่งของตากล้อง โซฟาสีดำสนิทตั้งอยู่กลางฉากสีขาวทำให้ร่างกายของเซฮุนดูโดดเด่นมากขึ้น แววตาเซ็กซี่ละลายสาวๆ ในสตู จนแทบจะหลอมลงไปกองกับพื้น

     

     

    โอเค เลิกกองได้ ! ”

    เสียงตากล้องประกาศกร้าว เซฮุนจึงยันตัวขึ้นมาจากโซฟาและเดินปัดๆ เข้าห้องแต่งตัวไป ทันทีที่ถึง เซฮุนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนหาเบอร์ลู่ฮานและกดโทรออกด้วยความร้อนใจ วันนี้เขาจะต้องได้ไปกินข้าวกับลู่ฮาน และไอ้หน้าจืดนั่นต้องแพ้เขาด้วย !

     

     

     ( มีอะไรกับพี่หรอเซฮุน ) ปลายสายตอบรับเสียงใส

     

     

    ได้ข่าววันนี้มีนัดกับบาริสต้าหน้าจืด

     

     

    ( อ้อ อื้ม พี่เลยไปกับเราไม่ได้น่ะ... คงไปแป๊ปเดียว เราค่อยคุยกันที่บ้านก็ได้นะเซฮุน เราหาอะไรกินก่อนได้เลย )

     

     

    ไม่

     

     

    ( เซฮุน... )

     

     

    คำตอบของฉันคือไม่ ยังไงๆ วันนี้นายก็ต้องไปกินข้าวกับฉัน ไม่งั้นกลับบ้าน นายตาย ! ”

     

     

    ( เซฮุนฟังพี่บ้าง... มันสำคัญมากจริงๆ )

     

     

    เรื่องของฉันก็สำคัญ นายไม่คิดหรอว่าฉันอยากจะไปคุยธุระกับนาย นายกลับปฏิเสธฉันเนี่ยนะ ? เมื่อคืนฉันพูดชัดแล้วด้วย อีกสามสิบนาทีฉันจะถึงร้าน ถ้าฉันไม่เห็นนายที่ร้านนะลู่ฮาน...

     

     

    ( เซฮุน แต่แจฮโยเขานัดพี่นานแล้วนะ... )

     

     

    ฉันไม่สนใจ ! หมาตัวไหนจะนัดก่อนฉันก็ช่างหัวมัน วันนี้นายต้องไปกับฉัน ชัดนะลู่ฮาน ! ”

     

     

    มือใหญ่กดตัดสายโทรศัพท์และเขวี้ยงมันลงกับโซฟา เซฮุนโมโหมากที่ลู่ฮานขัดใจเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งๆ ที่รู้ว่าทำไปแล้วจะโดนอะไร มันไม่เป็นผลดีกับลู่ฮานนะ เขาคิดว่าแบบนั้น และเช่นเดียวกันมันก็ทำให้ระดับอารมณ์ของเซฮุนไม่คงที่ด้วย  

     

     

    ทำไมไม่หัดพูดดีๆ กับลู่ฮานบ้างล่ะเซฮุน ?

    จุนมยอนที่นั่งฟังบทสนทนาเงียบๆ มานานโพล่งขึ้น คนหน้าขาวหันมากอดอกใส่นายจ้างตัวเองและมองหน้าหาคำตอบ

     

     

    พี่ไม่เป็นผมพี่ไม่รู้หรอก... เหอะ ถ้าฉันไปที่ร้านแล้วไม่เจอนายนะลู่ฮาน ! ”

     

     

    จุนมยอนได้แต่มองเซฮุนพลางส่ายหน้าน้อยๆ เด็กคนนี้เอาแต่ใจจริงๆ แถมยังอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อีกด้วย แค่เขามาอยู่กับเซฮุนแค่เกือบจะปีนี่ก็เหนื่อยใจแทบขาด นึกไปถึงลู่ฮานที่อดทนมาตลอด 23 ปีเต็มแล้วก็ต้องถอนหายใจ...

     

     

     

     

    เห้อ.. คนที่ดูบอบบางอย่างลู่ฮานทนเซฮุนได้ยังไงกันนะ ?...




     







       MS.9 talk  
    เอ้อออออออออออ นั่นสิ ทนได้ไงกัน ?
    เซฮุนนี่นอกจากร้ายแล้วยังปากห.มาอีกเนอะ . . .
    อ๋อลองปรับตัวหนังสือ โอเคขึ้นไหมคะ ? เดี๋ยวจะไปแก้ตอนก่อนๆ ให้ด้วย
    เยจินยังไม่ใช่ตัวร้ายของเรา ฮิฮิ มองข้ามเธอไปค่ะ
    มีความสุขกับการอ่านนะคะ !
    ปล้ำลู่. เม้นท์ขยับ อัพเร็ว เช่นเคยค่ะ :)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×