ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DANGEROUS AREA (HUNHAN)

    ลำดับตอนที่ #18 : ▲ DANGEROUS AREA ✗ : 15th

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.66K
      11
      7 พ.ค. 56




     



                    เซฮุนเบาหน่อย

     

     

                ลู่ฮานต้องเอ่ยปากปรามน้องเมื่อรู้สึกว่าวิญญาณอีลูกช่างเดินได้ประทับเข้าร่างน้องชายของเขาแล้วโดยสมบูรณ์ เซฮุนจ้ำหน้าตั้ง ไม่ได้สนใจสายตามนุษย์มนาที่มองมาทางตัวเองเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดสีชา เซฮุนเซฟตัวเองเสมอเมื่ออยู่นอกบ้าน แม้เครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ อาจไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย เพราะที่นี่ยังมีแฟนๆ บางส่วนจำเซฮุนได้อยู่ พวกหล่อนเดินตามเขาและคอยยกโทรศัพท์ถ่ายรูป ร่างสูงจิ๊ปากหลายครั้ง ลู่ฮานรู้น้องหงุดหงิดกับการที่โดนแฟนคลับตามมากๆ แต่การเดินลากเขาหนีมันไม่ใช่ทางแก้ปัญหา มันกลับเป็นการดึงให้ผู้คนมองเราทั้งคู่และก็กลายเป็นจุดสนใจโดยปริยาย

     

     

                เอาเถอะ ถือว่าลู่ฮานไม่ได้พูด เซฮุนจองโต๊ะที่ห้องอาหารไว้ตอนบ่ายโมงตรงและตอนนี้เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงกว่าๆ ส่วนเครื่องแต่งตัวและเสื้อผ้าบุรุษคือเป้าหมายฆ่าเวลาที่แรก ร่างสูงเดินหลบซ้ายที ขวาที จนสุดท้ายแล้วภาพของกลุ่มแฟนคลับก็หายไปจากสายตาเรดาห์อันเฉียบคมของเซฮุน ลู่ฮานยังโดนลากให้รีบซอยเท้าตามไปติดๆ ห้องลองเสื้อเป็นสิบๆ ห้องตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า ที่นี่ปลอดพนักงาน ส่วนใหญ่ทุกคนจะยืนอยู่ที่ตามร้านของแบรนด์นั้นๆ ป้ายสีขาวสะอาดตาที่แขวนอยู่ถูกกลับด้านให้กลายเป็นคำว่าปิดปรับปรุงด้วยมือของเซฮุน ก่อนที่ลู่ฮานจะโดนดันเข้าไปในห้องแต่งตัวดังกล่าว พร้อมๆ กับร่างน้องชายที่ตามเข้ามาติดๆ มือใหญ่ส่งไปดันกลอนอันเล็กให้ลงล็อค เป็นอันว่าเท่ากับตอนนี้ทั้งเซฮุนและลู่ฮานถูกขังอยู่ในห้องแต่งตัว

     

     

                เซฮุน มาทำไมที่นี่... เราไม่ควรทำแบบนี้นะ เผื่อว่าคนอื่นเขาจะใช้ห้อง

     

     

                พูดได้เท่านั้นร่างเล็กๆ ก็ลอยปลิวไปกระแทกผนังห้องดังปึง ลู่ฮานชาไปทั่วแผ่นหลัง หลับตาปี๋เพราะความเจ็บที่กำลังแผ่กระจายไปทั่ว ริมฝีปากร้อนของอีกคนทาบลงลงบนริมฝีปากเล็กที่สั่นระริก ปิดกั้นทุกคำพูดทันทานของอีกฝ่าย เซฮุนบ้ามาก เขาขาดสติ บดจูบลงไปแรงๆ โดยที่ไม่ได้สนใจว่ามือน้อยของพี่ชายจะทุบจะตีไหล่กว้างของตัวเองยังไง มือใหญ่กระชับหลังคอของอีกฝ่ายให้แน่นขึ้น ลู่ฮานจำใจเงยหน้าเพื่อรับสัมผัสของคนเอาแต่ใจ โดนเอาเปรียบไปไม่รู้กี่รอบแล้ววันนี้ แต่ถึงเวลาทีไรร่างกายกลับไม่สั่งให้ตัวเองขัดขืนทุกที

     

     

                ผมหึงนะ

     

     

                 ใช่ เขาหึง และหึงมาก หึงตั้งแต่ไอ้หน้าจืดนั่นแล้ว แถมยังมาหึงไอ้คุณคยองซูตาโตอะไรนั่นอีก ทั้งๆ ที่ย้ำเสียดิบดีแล้วว่าอาหารมื้อนี้ตั้งใจจองโต๊ะเอาไว้เป็นพิเศษสำหรับสองคน ไม่อยากจะให้ใครมารบกวนเพราะจะได้เทคแคร์ลู่ฮานให้ดีที่สุดชดเชยกับสิ่งที่แล้วๆ มา แต่นี่มันอะไร ใครก็ได้อธิบายให้ฟังหน่อย คุณโอ ลู่ฮานแนะนำตัวเอง ชวนคนอื่นไปทานข้าวด้วยเสร็จสรรพ ไม่คิดแม้แต่จะเอ่ยปากถามเขาสักคำว่ายอมให้ไปไหม ถ้าคยองซูไม่ติดธุระนั่นแสดงว่าเขาต้องกินมื้อนี้ร่วมกับคนนอกงั้นสิ ? มันใช่เรื่องที่เซฮุนต้องยอมไหม ? มื้ออื่นน่ะได้ไม่คิดจะขัดขืนหรอก ตามใจอยู่แล้ว แต่มันไม่ใช่สำหรับมื้อนี้ มื้อที่นายแบบความอดทนต่ำอย่างเขาต้องคอยอยู่เกือบอาทิตย์กว่าจะจองโต๊ะในร้านนี้ได้ !

     

     

                หึงอะไร อ่ะ ..เซฮุน มือ

     

     

                ไม่รู้ ไม่สน ไม่เห็น มือใหญ่ของเซฮุนยังจงใจสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตตัวบางของลู่ฮาน ลูบไล้หน้าท้องแบนราบและเลื่อนเลยขึ้นมาถึงตุ่มไตบนแผ่นอก กดย้ำลงไปราวกับจะกลั่นแกล้งร่างเล็กให้เสียวสะท้าน ใจจริงอยากจะขบกัดผ่านเนื้อผ้า แต่ก็เกรงว่าเสื้อตัวนี้จะเปียกชื้น เซฮุนจึงไม่ทำอะไรนอกจากคลึงเนื้อนิ่มบริเวณเอว ไล่นิ้วไปตามกระดูกชายโครงที่เรียงตัวสวยซุกซ่อนอยู่ภายใต้อาภรณ์ที่พี่ชายตัวเล็กสวมใส่อยู่

     

     

                พี่ป้อนซุปไอ้หน้าจืด แถมยังชวนคยองซูมากินข้าว... มันคือมื้อพิเศษของเรา ทำไมพี่กล้า ? ผมหึง ผมบอกแล้ว ผมหวง พี่ก็รู้ อย่ายั่วให้ผมโมโหได้ไหม ผมไม่อยากร้ายใส่พี่นะ

     

     

                ลู่ฮานซ่อนยิ้มเขินของตัวเองเอาไว้ไม่มิด มือเล็กเลื่อนขึ้นประคองแก้มกร้านของน้องชายขึ้นมาให้อยู่ในระดับที่สายตาของทั้งสองสบกันพอดี ใบหน้าน่ารักเคลื่อนคล้อยไปใกล้ใบหน้าหล่อเหลาของอีกคน มอบจูบสำหรับเด็กขี้หวงเบาๆ หนึ่งครั้งเป็นการออดอ้อน ก้านนิ้วเรียวไต่เตาะแตะไปตามแนวจอน ไล้วนอยู่ตรงกกหู ช้อนสายตาสอบกับน้องชายอย่างคนไม่กลัวอะไร

     

     

                อย่าคิดมากได้ไหมเซฮุน พี่ขอนะ

                จะไม่ให้คิดมากได้ยังไง พี่ลู่ฮานเป็นของเซฮุนนะ

     

     

                เซฮุนยกมือเล็กขึ้นมากดจูบตามข้อนิ้วอย่างรักใคร่ อารมณ์อยากจะรักคนตรงหน้าเริ่มจางหายไปแล้วเมื่อเห็นว่าลู่ฮานดูไม่ค่อยชอบกับสัมผัสจาบจ้วงแบบนี้นัก เขาก็เป็นอีกคนนั่นล่ะที่อยากจะประกาศตัวว่าอ่านสายตาลู่ฮานออก แม้ไม่ได้ปริปากปฏิเสธจูบ แต่นั่นก็มากพอสำหรับเซฮุนแล้ว เขารู้ว่าความประทับใจครั้งแรกสำคัญขนาดไหน ครั้งนั้นมันแย่มาก แย่ทุกๆ อย่าง คงไม่ผิดอะไรที่ลู่ฮานจะรู้สึกไม่ดีกับสัมผัสแบบนี้ เซฮุนจึงเลือกที่จะรู้จักข่มอารมณ์ตน ไม่อยากจะตีตรารักประทับบนร่างพี่ชายโดยที่อีกคนไม่พอใจ เขาอยากให้ทุกสัมผัสต่อจากนี้มีแต่ความเต็มใจ ทุกสัมผัสที่จะมอบให้กันจะต้องเห็นพ้องต้องกันทั้งสองฝ่าย จะไม่เอาแต่ใจตัวเองอีกต่อไปแล้ว ( ถ้าทำได้น่ะนะ )

     

     

                อย่าคิดมากไง นะ...

     

     

                ลู่ฮานส่งแววตาออดอ้อน ไอคำว่า นะ หลังประโยคช่วยทำให้หัวใจคนฟังอ่อนยวบไปแล้วเรียบร้อย เซฮุนใช้ปลายจมูกดันแก้มใสสลับกันไปมาทั้งซ้ายทั้งขวา สูดดมกลิ่นหอมนั้นราวกับว่ามันคือกลิ่นของดอกไม้โปรด แต่ไม่ เซฮุนจะบอกอะไรเอาไว้ ต่อให้เอาดอกไม้ทุกพันธุ์บนโลกมาตั้งไว้ด้านหน้า มันจะส่งกลิ่นเย้ายวนใจเขาขนาดไหนเขาก็จะไม่เลือกมัน หากมีลู่ฮานอยู่ข้างๆ ลู่ฮานหอม อ่อนโยน นุ่มนวลน่าสัมผัส ทั้งยังเย้ายวนเขาได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมหรือโคโลญจ์ ของพวกนั้นลู่ฮานไม่ใช่ มันคือกลิ่นกายธรรมชาติ กลิ่นกายที่ติดมาตั้งแต่เด็ก กลิ่นที่เซฮุนสูดดมทีไรก็รู้สึกสดชื่นเสียทุกที

     

     

                อือ ไม่คิดมากก็ไม่คิดมาก มานี่ ผมจัดปกเสื้อให้

     

     

                มือใหญ่ยกขึ้นจักปกเสื้อสีอ่อนให้เรียบร้อย ปัดตามตัวเล็กน้อยเพื่อไล่รอยยับที่ตัวเองสร้างขึ้น ลดมือลงกลัดกระดุมเม็ดเล็กที่หลุดลุ่ยให้กลับมาเข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม ลู่ฮานเองก็เช่นกัน เขาไล้มือไล่รอยยับบนเสื้อราคาแพงของน้อง จัดปกเสื้อและตรวจตราความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผม ย่อตัวลงไปหยิบแว่นกันแดดสีชาที่ตกลงพื้นไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ขึ้นมาใส่ให้เซฮุนเหมือนเดิม

     

     

                หล่อเหมือนเดิมแล้ว น้องชายของพี่

                เรียกสามีสิครับ ไม่ก็ผัว จะได้ชินปาก

     

     

                เผียะ !

     

     

                เซฮุนโดนมือเล็กฟาดเข้าให้ที่หัวไหล่ ร้องโอดโอยราวกับว่ามันเจ็บปวดหนักหนาทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วมันเบาราวกับโดนสะกิด ลู่ฮานเดินกระแทกเท้าปึงปังออกไปจากห้องลองเสื้อผ้า สนามรักที่ไฟเพิ่งมอดลงไปเมื่อครู่ด้วยถังน้ำเล็กๆ ในมือเขาเอง ใครจะไปรู้ลู่ฮานก็แสบ เห็นเขาใสแต่ใช่จะแปลว่าร้ายไม่ได้ รู้สึกดีใจเหมือนกันที่น้องอ่านสายตาเขาออก เพราะความทรงจำครั้งแรกยังแจ่มชัด ตัวตนของเซฮุนใหญ่โตขนาดไหนทำไมลู่ฮานจะไม่รู้ ( อ่า... นี่มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาพูดกันใช่ไหม ? งั้นผมขอโทษทีนะ ) เขาไม่อยากโดนบังคับ น้องต้องรู้จักเคารพและเห็นใจคนอื่นบ้าง ไม่ใช่จะเอาแต่อารมณ์ตัวเองเหนือความรู้สึกของคนอื่น

     

     

                พี่ลู่ฮาน รอเซฮุนด้วยสิครับ ! ”

     

     

    ---

     

     

                พี่ลู่ฮานอยากกินอะไร สั่งได้เลยนะครับ มื้อนี้เซฮุนเลี้ยง

     

     

                ภัตตาคารจีนชื่อดังในห้างย่านคังนัมคือที่ที่เซฮุนเลือกจะพาเขามา มันใหญ่มากและมีชื่อเสียงโด่งดัง แม้จะซ่อนตัวอยู่ในชั้นสำนักงานของห้างสรรพสินค้า แต่ผู้คนที่ไม่เคยเงียบเหงาเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าที่นี่มีดีในหลายๆ เรื่อง ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ลู่ฮานเห็นคือพวกกระเป๋าหนัก ดาราและไฮโซ  โต๊ะแบบธรรมดาในฮอลกระจกใหญ่ๆ ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่าสองหมื่นวอนในการจอง ส่วนล็อคส่วนตัวที่ซอยติดๆ กัน ดูแล้วเป็นส่วนตัวมากกว่าแบบแรกก็ต้องใช้เงินเพิ่มจากเดิมในอัตราห้าพันถึงหนึ่งหมื่นห้าพันวอน ราคาเพิ่มขึ้น—ลงแล้วแต่วิวของล็อคนั้นๆ และส่วนสุดท้ายคือห้องอาหารส่วนตัว แพงที่สุด ดีที่สุด บรรยากาศภายในถูกแต่งให้คล้ายคลึงกับบรรยากาศในหอนางโลมสมัยก่อน กระจกใสบานใหญ่บานเดียวในห้องให้ทิวทัศน์ทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา ตึกน้อยใหญ่เบียดตัวกันกลางกรุงไม่ใช่ภาพที่สวยงามนักในเวลากลางวัน แต่ถ้าหากเป็นเวลากลางคืน ลู่ฮานเชื่อว่าแสงสีจากบรรดาตึกพวกนี้จะทำให้กรุงโซลคล้ายสวรรค์บนดินขนาดย่อมไปเลยทีเดียว

     

     

                ราคาอาหารบนเมนูทำให้ลู่ฮานกลืนน้ำลายเอื้อก ไม่ใช่เพราะหิวแต่อย่างใด ราคาของมันทำเอากระเป๋าของเขาหนักอึ้ง ลำพังพาร์ทิซิเย่ร์ทำงานงกๆ อยู่ในร้านกาแฟอย่างเขา เชื่อเถอะจนตายก็ไม่มีปัญญาพาตัวเองเข้าภัตาคารหรูหราขนาดนี้แน่ๆ ถึงจะใช้สร้อยสกุลโออยู่ แต่ลู่ฮานก็ไม่เคยพาตัวเองเข้าร้านอาหารราคาแพงระยับเช่นคนเป็นพ่อแม่และน้อง เขาคิดอยู่เสมอว่าพ่อครัวร้านอาหารข้างทางก็สามารถทำอาหารให้อร่อยเหมือนในภัตาคารได้ ลู่ฮานจึงไม่ยึดติด ยอมให้คนมองว่าเขากินอาหารถูกดีกว่ากินอาหารแพงแล้วไม่มีเงินเก็บ

     

     

                แพงไปไหมเนี่ยเซฮุน... พี่ให้เราสั่งดีกว่า

     

     

                ลู่ฮานพรูลมหายใจ ปิดเมนูเล่มใหญ่ลงและส่งคืนบริกรชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ยกน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มเล็กน้อยพอให้ตนเองหายกระหาย พยักเพยิดโยนภาระให้น้องชายตัวโตเลือกเมนูอาหารเอง พื้นฐานของนิสัยลู่ฮานเองก็ไม่ใช่คนเลือกมากอยู่แล้ว ยามไปทานข้าวกับใครๆ ทีไรก็มักจะให้คนอื่นตัดสินใจให้เสมออยู่แล้ว เซฮุนพยักหน้ารับ กวาดสายตามองเมนูอยู่ครู่เดียวเท่านั้นก็ออกเสียงสั่งมันยาวพรืดจนลู่ฮานกล่าวปรามไม่ทัน เหวี่ยงค้อนใหญ่ๆ ไปให้น้องชายหนึ่งทีแต่เจ้าตัวก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเกรง บริกรชายที่ยืนรับออร์เดอร์อยู่ยิ้มน้อยๆ ให้กับภาพดังกล่าว ลู่ฮานจึงหันไปยิ้มตอบให้ด้วยความเป็นมิตร ทำเอาเซฮุนที่นั่งข้างๆ อยู่ไม่สุข อยากจะลุกขี้นมาเสยหมัดใส่ให้รู้แล้วรู้รอด หากไม่ติดที่ว่าบริกรคนนั้นเดินออกไปจากห้องอาหารก่อน ก็คงจะโดนแบบที่เซฮุนเขาว่านั่นล่ะ

     

     

                ยิ้มให้มันทำไม

     

     

                หอกแหลมๆ ปักหัวลู่ฮานไปดอกแรก ใบหน้าน่ารักส่ายไปมาจนกลุ่มผมปลิวสะบัด ก็เขายิ้มมาให้ ยิ้มกลับไปก็ไม่เห็นจะเสียหายนี่นา เราน่ะก็ด้วยนะ ยิ้มเสียบ้าง เก๊กหน้าหล่อทั้งวันไม่เมื่อยหน้าหรือไง พูดจบก็ผินสายตาเหม่อมองออกไปที่วิวด้านนอก

     

     

                ผมบอกแล้วไงผมหึง อยากให้ผมจับพี่ถอดเสื้อผ้าแล้วสอดมันเข้าไปตอนนี้เลยไหมถึงจะพอใจ อีกอย่างหน้าผมก็เป็นแบบนี้ ไม่โปรยยิ้มพร่ำเพรื่อให้คนอื่นแบบพี่หรอก

     

     

                ตัวโตเสียเปล่าแต่ขี้งอนชะมัดยาก น้ำเสียงทุ้มๆ ของเซฮุนเจือแววเอาแต่ใจอย่างเห็นได้ชัด แถมใบหน้าหล่อเหลาก็หันหนีไปทางอื่นอีกด้วย ลู่ฮานพรูลมหายใจยาว เลื่อนปลายนิ้วไปลูบที่หลังมือของน้องชายเบาๆ สบสายตาของอีกคนด้วยความอ่อนใจ แต่ไหนแต่ไรแล้ว ลู่ฮานไม่ใช่คนพูดเก่ง ไม่ช่างพูด ไม่ช่างเจรจาเหมือนใครๆ เขา ส่วนมากจะเก็บตัวเงียบๆ อยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองคนเดียว ที่เห็นว่าพูดเยอะๆ แบบทุกวันนี้นี่ก็ดีมากแล้ว น้องเองก็น่าจะรู้ ลู่ฮานแสดงความรู้สึกไม่เก่งแต่ใช่ว่าจะไม่มีความรู้สึก หากน้องเข้าใจกันสักนิดก็คงจะรู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับคนอื่นเลยแม้แต่น้อย ที่ยิ้ม ที่เจรจาด้วยก็ทำไปตามมารยาทที่ถูกคุณพ่อคุณแม่สั่งสอนมาอย่างเคร่งครัดต่างหาก

     

     

                ดูเหมือนเซฮุนจะไม่เข้าใจ ร่างสูงเลื่อนมือออกจากรัศมีนิ้วเรียวของคนเป็นพี่ชาย ยกน้ำขึ้นมาจิบเรื่อยๆ พลางหยิบเอาสมาร์ทโฟนของตัวเองมาไถนิ้วเล่นไปเรื่อย ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรหรอก เซฮุนไม่ชอบเล่นเกมส์เท่าไหร่แถมยังไม่ชอบแต่งรูปภาพ แอปพลิเคชั่นในเครื่องจึงมีอยู่ไม่มากนัก ( ซึ่งไม่คุ้มกับความจุเครื่องและเงินที่เสียไปเลยสักนิดเดียว ) ส่วนมากจะเป็นแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับโซเชียลเน็ตเวิร์คเท่านั้น แฟนๆ มากมายกดติดตามเขาในทวิตเตอร์ ทั้งๆ ที่มันมีแค่ข้อความไม่กี่ข้อความที่เขาตัดสินใจพิมพ์ลงไป อย่างเช่นแจ้งว่าตัวเองอยู่ที่กองถ่ายบ้าง อัพเซลคาบ้างตามอารมณ์คุณจุนมยอนเขา และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เซฮุนไม่เคยตอบเมนชั่นที่แฟนๆ ส่งมาให้เลยสักครั้ง เขามองว่ามันน่ารำคาญ อีกทั้งยังไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมากรี้ดกร้าดอะไรในตัวเขาขนาดนั้น ทำไมจะต้องมาตามให้ของขวัญต้องมาตามถ่ายรูป อยากจะพูดให้เข้าใจใหม่จริงๆ ว่าเซฮุนไม่ใช่นักร้องไอดอลหรือสิ่งมีชีวิตเทือกๆ นั้น เขาเป็นนายแบบ ไม่จำเป็นต้องมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้ให้หรอก บอกไว้เลยว่าไม่ชอบตัวโตๆ

     

     

                ขออนุญาตนะครับ

     

     

                บริกรชายพร้อมรถเข็นสีเงินที่เต็มไปด้วยจานอาหารเดินเข้ามาในห้อง ลู่ฮานจึงผละออกจากเซฮุนโดยอัตโนมัติ เป็ดย่างตัวโต ติ่มซ่ำมากมาย รวมทั้งอาหารจีนอื่นๆ ถูกทยอยเข้ามาวางบนโต๊ะจนตอนนี้มันไม่มีพื้นที่ว่างใดๆ เหลือ น้ำส้มแก้วโตถูกวางลงข้างๆ จานอาหารของลู่ฮาน คงจะเป็นเซฮุนนี่แหละที่สั่งให้อยู่เสมอ เมื่อนึกย้อนไปแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ทุกครั้งที่ออกมาทานข้าวด้วยกัน รวมทั้งตอนที่เซฮุนร้ายด้วยนั้น น้ำส้มก็ยังเป็นสิ่งเดียวที่น้องสั่งให้เขาดื่มอยู่ประจำ แม้ในคราแรกร่างเล็กจะไม่ชอบรสเปรี้ยวอมหวานของมันเลยสักนิด แต่การที่ถูกสั่งให้ดื่มบ่อยๆ มันก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ จนสุดท้ายแล้วก็กลายเป็นน้ำผลไม้ที่ลู่ฮานดื่มบ่อยที่สุดเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น

     

     

                ทำไมสั่งมาเยอะขนาดนี้ จะกินหมดหรอเซฮุน

     

     

                ร่างสูงคว่ำปาก กวาดสายตามองจานอาหารมากมายบนโต๊ะแล้วก็ไม่ได้มีทีท่าจะสนใจในคำพูด เซฮุนคีบเนื้อเป็ดย่างเข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ ทำหน้าเอร็ดอร่อยอยู่คนเดียว ลู่ฮานวางตะเกียบ กดกริ่งเรียกบริกรชายให้เข้ามาในห้องอีกครั้ง จานฮะเก๋ากุ้งลูกโตถูกส่งให้บริกร ตามด้วยขนมจีบกุ้งและขนมจีบปูอีกสองสามจาน รบกวนเอาอาหารพวกนี้ใส่กล่องให้ผมด้วยนะครับ แยกเป็นสัดส่วนด้วยก็ดี ขอบคุณครับ เซฮุนมองลู่ฮานด้วยความไม่เข้าใจ อาหารมาเสริฟยังไม่ถึงสิบนาที พี่ชายตัวเล็กก็สั่งให้เด็กเอาไปใส่กล่องเสียแล้ว

     

     

                พี่จะเอาไปไหน ?

                ไปให้เด็กกำพร้าที่โบสถ์แถวโดบงน่ะ ไปด้วยกันนะ พี่อยากให้เราเจอเด็กๆ

     

     

                แค่ได้ยินเซฮุนก็แทบร้องยี้ เขาเกลียดเด็กยิ่งกว่าอะไรดี ทั้งเสียง ทั้งกริยาท่าทาง แล้วแถมยังเป็นพวกเด็กกำพร้า ภาพเด็กๆ ที่เล่นกันเป็นลิงทโมนก็ไหลเข้าสมองทันที มีครั้งหนึ่งตอนที่พี่สไตล์ลิสเอาลูกชายฝาแฝดมาที่กองถ่าย ไอตอนแรกเขาก็เฉยๆ อยู่หรอก ถ้าไม่ติดที่ว่าไอ้เด็กสองคนนั้นมันกวนประสาทของเขาจนหัวแทบจะระเบิด อยากจะเตะโด่งมันออกไปจากกองถ่ายไปเสียเลยเดี๋ยวนั้น ทั้งร้องเสียงดัง วิ่งเล่นกันให้พล่าน แทบชนไฟสตูล้มจนแตก แถมยังทำเสื้อผ้าที่เขาต้องใส่เลอะน้ำหวานไปตั้งสองตัว มันก็เลยเป็นเรื่องจำฝังใจของเซฮุนไปแล้วว่าเด็กทุกคนบนโลกล้วนน่ารำคาญ

     

                ไม่เอาด้วยหรอก เซฮุนไม่ชอบเด็ก

                แต่เด็กๆ น่ารักมากนะเซฮุน ไปกับพี่เถอะ จะได้ไปทำบุญด้วย นะ

                ไม่เอา

                เซฮุนนา... ไปกับพี่นะ

                ไม่

                เซฮุนนา...

                ไม่

                ฮุนนา...

                ไม่

                ฮุนนาของพี่...

                ไปก็ไป

     

     

                ใครไม่ใจอ่อนก็บ้า มาทำหน้าตาน่ารักๆ ใส่แล้วอ้อนเสียงหวานแบบนี้เซฮุนก็ไม่ทนเหมือนกัน พอผินสายตาไปมองคนตัวเล็กก็ได้รอยยิ้มกว้างๆ ที่ตัวเองชอบมอบกลับมาให้ ลู่ฮานจะรู้ตัวไหมว่าเซฮุนจะทนไม่ไหวแล้วหากเจ้าตัวยังทำตัวน่ารักแบบนี้ มือน้อยหยิบตะเกียบคล่องแคล่ว คีบนู่นคีบนี่ลงจานตัวเองและจานเขาจนมันเต็มไปหมด ริมฝีปากเล็กกล่าวชมนู่นชมนี่ไปเรื่อย อันนั้นอร่อยบ้างล่ะ อันนี้อร่อยบ้างล่ะ แต่พอได้ยินราคาอาหารแล้วก็ทำหน้ายุ่งๆ ใส่ บ่นต่อเสียยืดยาวว่าเขาใช้เงินเปลือง จะไม่มากินร้านนี้อีกแล้ว

     

     

                เซฮุนตบะแตกจนได้หลังจากอนรนทนมาเกือบสิบนาที แก้มกลมๆ ของลู่ฮานเต็มที่ไปด้วยขนมจีบช่างเย้ายวนใจ ริมฝีปากสีชมพูที่เคลือบไปด้วยน้ำส้มหวานๆ ดวงตากลมโตที่ฉาบแววสดใสตลอดเวลาก็มองมาที่เข้าโดยที่ไม่รู้ประสีประสา และยังไม่ทันจะมีใครได้รู้ตัว เซฮุนก็พาตัวเองเข้าชาร์จร่างน้อยๆ ร่างนั้นเสียแล้ว ปลายจมูกโด่งกดลงบนแก้มเนียน มือใหญ่ละจากตะเกียบมาโอบประคองใบหน้าน่ารักนั้นไว้ให้มั่น ลู่ฮานเบิกตาโพลง อยากกล่าวปรามแต่ก็ติดที่ว่าตัวเองเพิ่งรับขนมจีบกุ้งเข้าไปในปาก ยังไม่ทันจะบดเคี้ยวเซฮุนก็เข้ามาเอาเปรียบเสียก่อน  ริมฝีปากร้อนทาบลงมาบดคลึงริมฝีปากเล็กทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้ใครได้พูดทัดทาน เซฮุนสอดลิ้นเข้ามาเกี่ยวเอาขนมจีบลูกเล็กออกไปลิ้มรสเองเพียงครึ่งลูก จากนั้นก็ดันมันกลับมาให้ลู่ฮานได้ลิ้มรสมันเหมือนเดิม

     

     

                เซฮุน ! ”

                ไม่ใช่ว่าโกรธ ไม่ใช่ว่าไม่พอใจ แต่ที่นี่มันข้างนอกบ้านและเซฮุนยังเป็นคนของสังคมแบบนี้ หากใครเข้ามาเห็นเดี๋ยวก็พาลเป็นข่าวเดือดร้อนให้พี่จุนมยอนเครียดจนหัวแทบแตกอีก ลู่ฮานเหวี่ยงวงค้อนวงใหญ่ให้น้องชายตัวดีที่นั่งทำหน้าระรื่น เคี้ยวขนมจีบที่เพิ่งแย่งเขาไปหมาดๆ

     

                อร่อยอะ

                ขนมจีบน่ะหรอ ? อือ พี่ก็ว่างั้นนะ

                เปล่า ปากพี่ลู่ฮานน่ะครับ อร่อย อยากกินอีก โอ๊ยยยย....

     

     

                บทลงโทษสำหรับเด็กปากเปราะคือการที่ลู่ฮานบิดเนื้อที่ต้นแขนแรงๆ จนขึ้นรอยแดง แดงพอๆ กับแก้มลู่ฮานคนนี้นี่ล่ะ อย่ามาทำรุ่มร่ามนอกบ้านได้ไหม เดี๋ยวพ่อจะหยิกให้เนื้อเขียวเลยเด็กนิสัยไม่ดี วันนี้พี่จะนอนนอกห้อง ไม่นอนกับเราแล้ว ! ลู่ฮานไม่เคยงอนน้อง แต่ตอนนี้มั่นใจมากว่าตัวเองงอนจริงๆ งอนที่น้องมือไวแล้วก็มาทำรุ่มร่าม ไม่เห็นแก่ใจเขาก็เห็นแก่หน้าตาในสังคมตัวเองบ้างจะเป็นไรไหม มือเล็กยกน้ำส้มมาดื่มดับความร้อนที่ใบหน้า มองนู่นมองนี่ไปเรื่อยเพราะความจุกเริ่มเข้าเล่นงานในช่องท้อง ปกติเขาก็ไม่ใช่คนกินเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นเจอขนมจีบลูกโตๆ กับเป็ดย่างไปยังไม่เกินสิบคำก็อิ่มตื้อไปหมด

     

     

                มื้อกลางวันที่ภัตาคารจีนจบลงหลังจากหนึ่งชั่วโมงถัดมา ลู่ฮานต้องสั่งให้บริกรมาเอาอาหารไปใส่กล่องหลายต่อหลายรอบ ค่าอาหารราคาแพงระยับทำให้ลู่ฮานอดจะสวดน้องชายตัวดีไม่ได้ มือไม้ของคนทั้งคู่พะรุงพะรังเต็มไปด้วยถุงกล่องอาหาร มากขนาดที่ว่าเด็กๆ ที่โบสถ์คงอิ่มกันไปหลายวันกันเลยทีเดียว ร่างเล็กเดินนำหน้าเซฮุนอยู่หลายก้าว เผลอหันไปมองน้องชายเพียงครู่เดียวก็เดินไปชนใครเอาเข้าไม่รู้ ลู่ฮานไม่ทันมองหน้า รีบก้มหัวปะหลกๆ ก่อนเป็นอย่างแรก กล่าวขอโทษขอโพยอีกคนจนลิ้นพันกันยุ่งไปหมด

     

     

                ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ นะครับที่ชน

                เอ่อ... คุณลู่ฮานใช่ไหมครับนั่น

                ประโยคสร้างความประหลาดใจทำให้ลู่ฮานต้องเงยหน้ามองคนตรงหน้าโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มร่างเล็กที่เพิ่งเจอกันเมื่อครู่นี้ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

     

                อ้าว คุณคยองซู มาทำอะไรที่นี่หรือครับ

                มาทำธุระน่ะครับ ไม่ยักรู้ว่าคุณลู่ฮานก็มาที่นี่เหมือนกัน เป็นไงครับ อาหารอร่อยไหม ?

                รสชาติดีทีเดียวเลยครับ

                ลู่ฮานตอบพร้อมยิ้มน้อยๆ ด้วยความเคยชิน

     

                ครับ ภัตตาคารที่นี่อาหารอร่อยจริงๆ อ่า... แล้วจะไปไหนกันต่อครับเนี่ย ถือของพะรุงพะรังมาแยะเชียว

     

     

                คยองซูก็ถามไปตามมารยาท หากแต่มีปัญหาที่เด็กเอาแต่ใจไม่ชอบ เซฮุนมองหน้าอีกฝ่ายเป็นเชิงหาเรื่อง ดึงพี่ชายให้ไปอยู่ด้านหลังตัวเองแล้วอาสาตอบคำถามนั้น กำลังจะไปธุระน่ะครับ แล้วก็รีบมากด้วย ขอตัวก่อนเลยนะครับ ไปเร็วพี่ลู่ฮาน เด็กๆ รอแล้ว ! ”

     

     

                ลู่ฮานยิ้มแห้งให้คยองซู ส่งสายตาสื่อความว่าขอโทษเป็นนัยๆ ยอมโดนน้องชายฉุดกระชากลากถูไปตามทางอีกครั้ง ลู่ฮานรู้เซฮุนหึง เขาเองก็รู้สึกดีที่น้องรู้สึกเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่ชอบสักเท่าไหร่ที่เวลาน้องหึงทีไรเขาก็ต้องเปลืองตัวตลอด แตะนู่นจับนี่ไปทั่ว คนทำเขาคงไม่คิดอะไรหรอก ( นอกจากคิดหื่น ) แต่คนถูกกระทำน่ะเขินจะตายอยู่แล้ว

     

                อย่าทำให้ใจเต้นแรงไปมากกว่านี้ได้ไหมเด็กบ้า. . .

     

     

    ---

     

     

                นี่พี่เซฮุนจริงๆ หรอฮะ

                พี่เซฮุน...หล่อกว่าในหนังสือพิมพ์อีกค่ะ

                พี่เซฮุนมาหาพวกเราหรือคะ

                พี่เซฮุนเหมือนเจ้าชายเลยฮะ ! ”

     

     

                เด็กหญิงเด็กชายจำนวนไม่น้อยรุมล้อมหน้าล้อมหลังนายแบบหนุ่มอย่างปฏิเสธไม่ได้ หลังจากที่ลู่ฮานขอตัวไปเตรียมอาหารมื้อเล็กๆ ให้เด็กๆ พร้อมกับบาทหลวงชรา เซฮุนก็ถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเด็กกำพร้าที่มีไม่ต่ำกว่าสิบคนโดยปริยาย เขาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ ได้แต่นั่งเหงื่อตกส่งยิ้มไปให้เด็กเหล่านี้ทีละคน มีบ้างที่เซฮุนยื่นมือไปสัมผัสมือน้อยๆ นั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ด้วยที่ตัวเองไม่ชอบเด็กเอาเสียเลยจึงไม่มีประสบการณ์ในการดูแลพวกเขาเหล่านี้เลยสักนิดเดียว

     

     

                หนูน้อยกายูน เด็กหญิงผิวขาวหน้าตาน่ารักน่าชังสอดคล้องกับชื่อ ความสูงยังไม่เลยบั้นเอวของร่างสูงเลยด้วยซ้ำ มือเล็กๆ ยามที่แตะลงมาบนมือใหญ่ก็มีขนาดแตกต่างกันราวกับว่าเซฮุนเป็นยักษ์ตัวใหญ่ ใบหน้าเรียบเฉยของนายแบบหนุ่มไม่อาจทำให้เด็กน้อยคลายความมั่นใจของตัวเองลงเลยแม้แต่น้อย กายูนเอ่ยปากขอนั่งตักเซฮุนเองด้วยท่าทางเหมือนเด็กสาวแรกรุ่นกำลังเขินอายที่จะสารภาพรักกับชายหนุ่ม ดวงตากลมโตของเด็กๆ รอบตัวกำลังกดดันให้เขาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำที่สุด แต่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน หลังจากที่เซฮุนตริตรองไต่ถามตัวเองซ้ำอีกครั้ง ปากของตัวเองก็ตอบตกลงไปเสียดื้อๆ

     

     

                พี่เซฮุนใจดีจังฮะ ! ”

                กายูน ! ให้เรานั่งตักพี่เซฮุนบ้างสิ

                กายูน ลงมาเลยนะ ! ”

     

     

                สงครามเล็กๆ เริ่มก่อเค้ากลายเป็นสงครามอันใหญ่โตรอบตัวเซฮุน เด็กๆ เริ่มจะงอแงอยากนั่งตัก พี่เซฮุน ของพวกเขาอย่างไม่มีใครยอมใคร ลำบากก็แต่หนูกายูนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่บนหน้าตักเขานี่แหละ

     

     

                เด็กๆ ใจเย็นๆ ก่อนนะ อย่าทะเลาะกันนะครับ พี่จะให้ทุกคนนั่งตักนะถ้าทุกคนเป็นเด็กดีและเชื่อฟังพี่

     

     

                ได้ผล เด็กๆ ทุกคนหยุดชะงักทันทีที่เซฮุนกล่าวจบ พอเหมาะพอดีกับจังหวะที่ลู่ฮานเดินออกมาจากโรงครัวพร้อมกับถาดอาหารสำหรับเด็กๆ ร่างเล็กยิ้มขำ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นเซฮุนเล่นกับเด็กเลยสักครั้ง ไหงมาวันนี้ยอมให้กายูนนั่งตักได้ก็ไม่รู้  เซฮุนเองก็ทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นพี่ชายตัวเองออกมาเห็นภาพอันน่าอายแบบนี้ เขาจึงทำทีแก้เก้อ อุ้มหนูกายูนเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แม้จะดูเก้ๆ กังๆ ในคราแรก แต่ก็ถือว่าเซฮุนทำได้ดีทีเดียว เด็กๆ ลุกฮือ วิ่งตามพี่เซฮุน นายแบบในดวงใจเข้าไปยังส่วนม้านั่งตัวเล็ก ที่พักผ่อนหย่อนใจของเด็กๆ และบางทีก็รวมถึงเป็นที่ทานของว่างของพวกเขาเหล่านี้อีกด้วย ติ่มซำและเป็ดย่างบางส่วนถูกนำมาถูกจัดวางลงบนจานใบเล็กในสัดส่วนที่เท่ากัน

     

     

                กายูน หาพี่ลู่ฮานก่อนไหม เรามากินเป็ดนี่ก่อนมา

     

     

                ลู่ฮานเดินตรงเข้าไปหาเด็กหญิงที่อยู่ในอ้อมกอดน้องชาย อ้าแขนกว้างหวังจะให้กายูนตัวน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองบ้าง แต่คำตอบที่ได้กลับมาทำให้ลู่ฮานต้องคว่ำปากทำหน้าบึ้ง เมื่อเด็กหญิงส่ายหน้ายิก ซุกใบหน้าเล็กๆ ลงกับแผ่นอกอุ่นของน้องชายเสียอย่างนั้น เซฮุนหัวเราะร่า ย่อตัวลงไปหยิบอาหารส่วนของกายูนมาถือเอาไว้ด้วยมืออีกข้างที่ว่างอยู่ ผมดูแลกายูนเองครับ พี่ลู่ฮานดูแลเด็กคนอื่นเถอะนะ ร่างเล็กมีสีหน้าหนักใจอย่างเห็นได้ชัด คงจะเป็นเพราะกังวลที่เขาไม่เคยดูแลเด็กจึงไม่ค่อยมั่นใจนักว่าจะดูแลเด็กได้ แต่เมื่อเซฮุนพยักหน้าให้ ลู่ฮานก็เหมือนจะมีความมั่นใจมากขึ้น จึงปล่อยให้เซฮุนดูแลกายูนเอง

     

     

                กายูนเป็นเด็กน่ารัก เซฮุนรู้สึกเช่นนั้น ช่างพูดช่างเจรจา และมีเสน่ห์เหลือล้นอย่างไม่น่าเชื่อ ผิวขาวราวกับเจ้าหญิงหิมะ แก้มกลมๆ ระเรื่อสีเลือดฝาด ริมฝีปากเล็กๆ สีชมพูที่ยามขยับเอ่ยเอื้อนวาจาเจื้อยแจ้วก็ไม่ได้ดูน่าเกลียด เซฮุนหลงรักเด็กคนนี้ไปเสียแล้ว ไม่สิ... ต้องพูดว่าหลงรักเด็กพวกนี้ไปเสียแล้ว คงจะต้องขอบคุณทั้งคุณพ่อบาทหลวง ผู้ใจบุญหลายๆ คน รวมทั้งลู่ฮานด้วยกระมัง ที่หมั่นอบรมสั่งสอนให้เด็กเหล่านี้เป็นคนดี แม้จะขาดอะไรไปหลายๆ เรื่อง แต่พวกเขาก็ยังเป็นต้นกล้าต้นเล็กๆ ของสังคม ที่วันนึงเซฮุนเชื่อว่าจะต้องเติบโตไปเป็นต้นไม้ใหญ่ช่วยเป็นฐานให้สังคมในอนาคต

     

     

                กายูน รู้จักพี่เซฮุนได้ยังไงหรือครับ ? บอกพี่ได้ไหม ?

     

     

                เพราะเป็นคำถามในใจที่ถูกปั้นขึ้นตั้งแต่เด็กๆ เอ่ยปากถาม เซฮุนเป็นนายแบบชื่อดังมันก็จริงอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ไปออกรายการวาไรตี้อะไรมากนักด้วยเหตุผลส่วนตัวของตัวเอง ส่วนมากก็จะโลดแล่นอยู่บนปกหนังสือ หน้าหนังสือพิมพ์หรือสื่อโฆษณาบางตัวเท่านั้น การที่เด็กๆ รู้จักเขา แสดงว่าเด็กๆ คงต้องเห็นหนังสือนิตยาสารที่เขาลงบ้างล่ะ ไม่มากเล่มก็น้อยเล่ม

     

     

                พี่ลู่ฮานชอบซื้อหนังสือเข้ามาให้บ่อยๆ ค่ะ หนังสือนิทานก็มี หนังสือเรียนก็มี แล้วก็มีหนังสือภาพพี่เซฮุนด้วย พี่ลู่ฮานเล่าให้ฟังว่าพี่เซฮุนคือน้องชายพี่ลู่ฮาน หล่อ เท่ นิสัยดีแล้วก็น่ารัก

     

     

    ร่างสูงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ที่แท้คนปล่อยข่าวก็ไม่พ้นพี่ชายตัวเล็กของเขานั่นเอง เซฮุนไม่เคยรู้ว่าลู่ฮานดีกับเขาขนาดนี้ พี่ชายที่ถูกเขาทำร้ายมาตลอดเลือกที่จะบอกใครต่อใครว่าเขาดีขนาดไหน แม้จะถูกทำเลวใส่แต่พี่ชายก็ยังเลือกจะปกป้องเขา น่ารักแบบนี้เซฮุนไม่รักได้ไงไหว จริงไหมครับ ?

     

     

    พี่เซฮุนคะ...

    เหม่อๆ อยู่พักหนึ่งเด็กน้อยกายูนก็ปลุกเขาขึ้นจากภวังค์ เซฮุนหันมาสนใจเด็กหญิงตัวเล็ก คีบขนมจีบที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ป้อนเธอก่อนจะหันกลับมาสนใจกายูนอย่างจริงจัง

     

     

    พี่เซฮุนรักพี่ลู่ฮานไหมคะ... กายูนเคยเห็นในทีวี พี่เซฮุนทำเหมือนไม่รักพี่ลู่ฮานเลย พี่เซฮุนรักพี่ลู่ฮานไหมคะ

    เซฮุนยกมือตบหน้าผากแปะ โธ่ เผลอทำตัวไม่ดีให้เด็กดูแล้วไหมล่ะ จริงอยู่ที่วันนั้นทำตัวไม่ดี แต่ใครจะรู้เล่าเซฮุนทำไปเพราะสุดวิสัย เด็กอย่างกายูนจะรู้ไหมว่าความรักมันซับซ้อนกว่าที่แกคิด ทุกอย่างต้องบิดเบือนไปเพียงเพราะคำพูดของคนคนหนึ่ง วงการมายาทำได้ทุกอย่างจริงๆ เซฮุนเพิ่งรับรู้พิษร้ายของมันก็วันนี้ มันทำให้เด็กไร้เดียงสาคนหนึ่งต้องเข้าใจเขาผิดไปเพียงเพราะคำพูดไร้ความคิดอ่านของเขา ยังดีที่กายูนเด็กเกินกว่าจะปักใจเชื่อ นายแบบหนุ่มอย่างเขาจึงมีสิทธ์จะได้แก้ตัว

     

     

    รักสิครับกายูน พี่เซฮุนรักพี่ลู่ฮานมาก... มากที่สุดในโลกเลยล่ะครับ

     

     

     

    อาหารว่างมื้อหนักของเด็กๆ จบลงตอนสี่โมงเย็นโดยประมาณ สนามหญ้าโล่งกว้างเต็มไปด้วยกลุ่มเด็กๆ ที่กำลังวิงไล่จับกันอยู่อย่างสนุกสนาน ร่างสูงโอบประคองร่างเล็กของคนเป็นพี่ชายมายืนอยู่หน้าโบสถ์ ทอดสายตามองไปยังพระอาทิตย์ดวงใหญ่ที่กำลังจะคล้อยลับขอบฟ้าไปในอีกไม่กี่ชั่วโมง ลู่ฮานเหมือนจมอยู่ในภวังค์ ดวงตากลมโตจดจ้องอยู่ที่ทิวทัศน์ตรงหน้า แพขนตายาวสะท้อนแสงแดดทำให้ลู่ฮานดูสวยขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว แม้วิวตรงหน้าจะน่าดูเพียงใด แต่เซฮุนกลับคิดว่าคนตัวเล็กข้างกายนี้น่ามองกว่าหลายเท่านัก ปลายจมูกโด่งก้มลงไปจรดที่แก้มเนียนใส สูดดมกลิ่นหอมประจำกายเข้าปอดจนชุ่มชื่นดีแล้ว จึงเคลื่อนตัวไปยืนซ้อนหลังคนเป็นพี่ชายเอาไว้ สอดท่อนแขนมาโอบรัดร่างเล็กๆ นั้นให้แนบชิดกับแผ่นอกของตัวเอง ก่อนวางคางไว้บนหัวไหล่มน กดเปลือกตาลงปิดสนิท ปล่อยให้ใบหูรับรู้ทุกสรรพสิ่งแทนดวงตา

     

     

    เหนื่อยหรือเซฮุน ลำบากหรือเปล่า... ขอโทษนะที่พาเราออกมา ทั้งๆ ที่เราไม่ชอบแท้ๆ

     

     

    เซฮุนพรูลมหายใจยาว ส่ายหน้าเพียงเล็กน้อยก่อนกระชับอ้อมกอดนั้นให้แน่นขึ้น เสียงลมหวีดหวิวที่ข้างใบหู เคล้าคลอเสียงนกน้อยพากันส่งเสียงร้องขานรับกันทั่วบริเวณ รองเท้าผ้าใบของเด็กๆ ย่ำหนักๆ ลงบนพื้นหญ้าก็เป็นเสียงที่น่าฟังไม่น้อย แต่คงไม่มีเสียงอะไรดังไปกว่าเสียงหัวใจของเขาอีกแล้ว ลู่ฮานคือคนที่ทำทุกๆ อย่างให้ดีขึ้น ลู่ฮานเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนตัวเขาให้เป็นคนละคนเมื่ออยู่ด้วยกัน

     

     

    ไม่ลำบากหรอกครับ ตราบใดที่พี่ลู่ฮานยังอยู่ข้างเซฮุนแบบนี้ จะให้บุกน้ำหรือลุยไฟยังไง เซฮุนก็ยอม




     




     
      Ms.9  
    ตอนนี้ดักอีกละป่ะ 5555555555555555555
    แบบมันยาวมาก เพราะตั้งสิบสองหน้าแน่ะ มีคนบอกไม่ให้แบ่งเลยไม่แบ่งเนอะ
    หลังจากตอนนี้ก็คงไม่ได้มาอัพบ่อยๆ แล้วน้า ไม่มีฟิคดองในคลังแล้ว คงต้องปั่นตอนต่อตอนแล้วน้าา
    ฮือ ดีใจนะคะที่ยังมีคนแคร์เรื่องนี้อยู่ แบบคิดว่าอ๋อนอยด้วย
    ความจริงอ๋อไม่ได้นอยนะ อ๋อแค่กังวลว่าทุกคนอาจจะเบื่อ เพราะตอนกลางเรื่องมันจะไม่ค่อยมีอะไรเลย
    ตัวหนังสือมันเยอะมากจริงๆ อ๋อยังตกใจเลยว่าตัวเองแต่งไปได้ยังไง
    ถึงยังไงก็เถอะ ขอบคุณที่แคร์กันนะคะ <3 รักที่สุดเลย จูบสองที
    เห็นคนบ่นว่าพี่จุนจะไม่มีคู่ นี่ไงคะหาคู่ให้พี่จุนแล้ว ถถถ ล้อเล่นอิอิ
    ขอบคุณพี่มิวที่สละเวลาท่องจีนมาอ่านฟิคอ๋อนะคะ จุ้บๆ <3
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×