ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4(บู๊คับบู๊^^)
ตอน 4
\"เราพลาดแล้ว!\"
ผู้เป็นนายจ้างเงยขึ้นมองเจ้าของประโยคทันควัน ขณะที่อีกหนึ่งบุรุษนั่งเงียบเหมือนไม่แปลกใจนัก
\"แปลว่าอะไร?\"หญิงสาวถามอย่างไม่เข้าใจ ท่ามกลางบรรยากาศเครียดเขม็งปกคลุมรอบด้าน อาเดียโร่ถอนหายใจเฮือก อธิบายน้ำเสียงเรียบ ต่ำภายใต้แววตาสะท้อนความหนักใจ
\"คุณไม่แปลกใจมั่งรึไง? ว่าคนที่มีอำนาจน้อยนิดเมื่อเทียบกับคุณอย่างคาวิล เอาอะไรมาอาจหาญกล้าทรยศเอาซึ่งๆหน้า ทั้งๆที่ทุกรู้ดีว่ามีสิทธิตายมากกว่าสำเร็จ? \"
คู่สนทนาชะงักคิดบ้าง\" มีเสาหลักอันใหม่ที่มั่นคงพอให้ยึดเกาะได้ \"
\"แล้วใครที่ใหญ่เทียบบารมีกับพวกคุณได้?\"
ความใจหายแทรกวูบไปถึงไขสันหลังเมื่อเธอตระหนักถึงคำตอบ\"ชาง ลี \"
อะไรกัน?
นี่เรานึกไม่ถึงเหรอนี่!
ความเงียบอันน่าอึดอัดคลี่ลงปกคลุมทุกอณูอากาศช้าๆ กลิ่นไอแห่งหายนะคุกกรุ่นอยู่ทุกลมหายใจ สามชีวิตนั่งนิ่งรวมกันอยู่กลางห้อง แม้ตอนนี้จะคิดแตกต่างกัน แต่สิ่งที่รู้อยู่คือสิ่งเดียวกัน
ตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งหน้าสู่คมเคียวมัจจุราชด้วยตัวเอง โดยไม่สามารถหยุดยั้งหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ได้ ศัตรูที่แท้จริงอยู่ตรงหน้า ชัดเจนมากกว่าสิ่งอื่น แต่ไม่เคยที่จะเฉลียวใจแม้เศษเสี้ยว
มันน่าขำก็ตรงที่ตัดสินใจมุ่งสู่รังของศัตรูแท้ๆด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่จริงคือรู้ แต่ประมาทและไม่เคยนึกถึง
ให้ตายสิ
บริตวาหัวเราะแค่นๆกับโชคชะตาที่ประสพ ก่อนจะเงยขึ้นสบตาคนในอารักขาเหมือนขอร้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำเลยตั้งแต่ร่วมทางกันมา
\"คุณผู้หญิง คราวนี้คับขันของจริงล่ะ เข้าไปในห้องล็อคประตูหน้าต่างให้แน่นหนา ปิดม่านปิดไฟให้หมด แล้วอยู่ห่างประตูหน้าต่างไว้ ข้างนอกพวกผมจัดการเอง คืนนี้มันเองแน่\"
สองบอดี้การ์ดลุกขึ้นพร้อมกันอีกครั้งราวกับนัดหมายไว้ ต่างฝ่ายต่างเช็คอาวุธในมือตัวเองเพื่อความมั่นใจ โดยไม่มีใครทันสังเกตสีหน้าผู้ถูกคุ้มกันที่นั่งคอแข็งอยู่ข้างกายแม้แต่น้อย
\"ถ้าชั้นเปิดประตูออกมาแล้วพวกคุณหายไปอีกล่ะ? \"
ทั้งคู่หันกลับไปมองหญิงสาวหนึ่งเดียวในกลุ่มเหมือนแปลกใจในน้ำเสียงอ้างว้าง ใจหายของผู้กล่าว ขณะที่แววตาของรีน่านั้นจ้องนิ่งวาดหวังราวกับรอคอยคำตอบมานานแสนนานแล้ว\"ถ้าพวกคุณหายไปในความมืด เหมือนกับมิคาอิล ชั้น ไม่ยากจะเป็นคนที่นำพาความสูญเสียเข้ามาสู่ทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของชั้นนะ คุณให้คำตอบกับชั้นได้รึเปล่า ว่าเมื่อชั้นเปิดประตูออกมา ชั้นจะต้องพบกับคุณ \"
\"ผมสัญญา\"
เร็วกว่าที่คิด อาเดียโร่ยิ้มบางๆให้กับสีหน้ากังวลใจ น้ำแข็งที่เคยกั้นระหว่างเขาและเธอละลายหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่หามีใครตอบได้ แต่ความเป็นจริงที่อยู่หลังม่านน้ำแข็งที่เธอเห็นคือแววตาอบอุ่น จริงใจมาจากส่วนลึกของหัวใจ ไม่ใช่จากหน้าที่
\"ผมบอกแล้วไง ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไร ผมอยู่ตรงนี้ \"ชายหนุ่มเอื้อมฝ่ามืออันอบอุ่น แข็งแรงข้างเดิมวางบนหลังมือคู่สนทนาอย่างอ่อนโยน พยักหน้าเบาๆยืนยันพันธะสัญญาของตนเองให้อีกฝ่ายรับรู้
\"เชื่อผม \"
ห่างจากวงสนทนาอันล้อมรอบด้วยมนต์ขลังอันยากจะเข้าใจ หนึ่งสายตาเหม่มองนิ่งด้วยแววตาไร้ซึ่งผู้หยั่งถึง ก่อนจะเปิดประตูก้าวออกไปเงียบๆ ออกไปโดยไม่มีใครรู้สึกตัว พร้อมกับอารมย์อันปั่นป่วนในหัวใจที่หาคำตอบกับตัวเองไม่ได้
สายลมเหนือผืนน้ำพัดผ่านเงาตะคุ่มบนดาดฟ้าเรือ แสงระยิบของท่าเรือเกาะฮ่องกงสว่างพราวอยู่ที่เส้นขอบฟ้า สะท้อนอยู่ในแววตาคมกริบอันส่องประกายระยับ ประกายแห่งการรอคอยและความกระหยิ่มยิ้มย่องกลายๆ
\"จะเอาไงก็ว่ามา บรั้ค\"
เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว หันไปมองต้นเสียงเหมือนไม่แปลกใจนัก\"ยังสมเป็นนายอยู่เลยนะ ไปไหนมาไหนไม่เคยมีใครรู้สึกตัว ฝีมือยังไม่ตกจากห้าปีที่แล้วแม้แต่น้อย ตอนแรกชั้นคิดว่านายจะไม่มาตามคำท้าซะอีก\"
คู่สนทนาทำสีหน้าเบื่อหน่ายใต้แสงดาวอันน้อยนิด\"อารัมภกถาอะไรยืดยาว มิสเตอร์ชางส่งนายมาทำไม?\"
\"เปล่านี่ การชำระสะสางสิ่งที่มันยังค้างอยู่ในใจนี่ไม่เห็นต้องให้ใครมาสั่ง \"
\"มีแค่นี้ใช่ไหม? ชั้นจะได้ลงไปจัดการกับลูกน้องนาย \"คู่สนทนาทำท่าจะผละไปเสียดื้อๆ ส่งผลให้ผู้นัดหมายหรี่ตามองอย่างดูแคลง ก่อนปล่อยหมัดเด็ดที่ทำให้บริตวาชะงักนิ่งได้ง่ายดาย
\"ไม่อยากรู้เรื่องเพื่อนนายรึไง?\"
ผู้คุ้มกันหนุ่มหันกลับมามองอีกฝ่ายช้าๆ แม้สายตาจะยังเฉยชาเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำกล่าว แต่บรั้ครู้อยู่แก่ใจดีว่าในใจกระตุกวูบไม่ใช่น้อย เหยี่ยวหนุ่มจากกรงทองของชาง ลีหัวเราะหึๆ เอนหลังพิงราวดาดฟ้า ยกกระบี่แบบอังกฤษในมือขึ้นมาพลิกดูพลางเล่าเรื่อยๆเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ\"บอดี้การ์ดเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่มีวิญญาณไพเรทปลีกวิเวกอย่างนายจะทำอาชีพนี้ได้นะ ก่อนอื่นก่อนใดชั้นคงต้องถามนายก่อน ว่านายรู้รึเปล่าว่าที่คุณหนูรีน่านายจ้างคนใหม่ของนายเดินสายเจรจาธุรกิจเกือบครึ่งโลกเนี่ย เรื่องอะไร? อ้อลืมไป กฎของบอดี้การ์ด คือมีหน้าที่คุ้มกันอย่างเดียวไม่ใช่ซอกแซกถามธุระนายจ้าง เข้าใจล่ะ สิ่งที่ราชิตกรุ๊ปเพิ่งคิดค้นขึ้นมาจากแล็ปสดๆร้อนๆ ยาเสพย์ติดชนิดใหม่อนุพันธ์ของฝิ่น ฤทธิ์กดประสาทแบบชะงักงัน ฉัดเข้าเส้นเลือดจะใช้เวลาแค่สิบนาทีในการออกฤทธิ์ มีประโยชน์ในการสะกดจิต เช่นสั่งให้ฆ่าใคร บอกความลับสุดยอด เดินไปนอนแผ่หราบนเตียงก็ได้ถ้าใช้กับผู้หญิง หรือแม้กระทั่งสั่งให้ฆ่าตัวตาย สันนิฐานว่าน่าจะแรงกว่าTTTTTที่CIAใช้ เป็นยาที่ยังไม่พิสูจน์ผลการทดลองชัดเจนนัก มิสเตอร์เคมอบหมายให้ลูกสาวเดินทางเผยแพร่ให้ลูกข่ายราชิตกรุ๊ปทั่วโลกได้รู้จัก เป็นก้าวกระโดดที่สำคัญ  เสียอย่างเดียวคือองค์กรของชาง ลีรู้ข่าวนี้จากหนอนบ่อนไส้ของราชิตกรุ๊ป แน่นอนไม่ใช่ใครอื่น คาวิลน่ะแหละ
เป็นเรื่องขำที่น่าเศร้าใจ เมื่อรีน่า ราชิตนำไอ้ยาตัวนี้มอบให้กับคาวิลหนึ่งหลอดเล็กๆด้วยข้ออ้างที่ตื้นๆง่ายๆ ทดลองและพิสูจน์ เธอก็คงจะไม่นึกว่าสิ่งที่มันทำคือผสมในกาแฟ ส่งให้เซอร์วิสของโรงแรมนำไปให้ถึงห้อง กลายเป็นตัวเธอเองที่เป็นหนูทดลองไป เพื่อนนายก็ฉลาดดี แต่ไม่ทั้งหมด ทำการสลับแก้วอย่างแนบเนียนเอาแก้วที่มีตัวยาผสมอยู่มากินเอง นายจ้างก็รอดไป แต่เพื่อนนายอาการออกเลยล่ะ มิคาอิลก็คงรู้ดีว่าโดนเข้าให้แล้ว จึงพาคุณผู้หญิงท่านขับรถมาส่งให้พวกนายแล้วตัวเองก็ล่อเป้าไปทั้งๆที่สติก็ไม่ค่อยเต็มร้อย แมนมากเพื่อนนายน่ะ สุดท้ายด้วยสัญชาติญาณของบอดี้การ์ด เมื่อรู้ตัวดีว่าถ้าตัวเองโดนจับไปนายจ้างก็บรรลัยซะเปล่า ตัดสินใจใช้ความคิดกามิกาเซ่กระโดดลงมาจากทางด่วนซะดื้อๆ สูงประมาณตึกสองชั้น ข้างล่างคือพื้นยางมะตอยอย่างแข็ง เป็นการฆ่าตัวตายที่สวยงามมาก \"
ควับ วัตถุสีเงินเงาวับลอยคว้างอยู่บนอากาศ ก่อนจะตกลงสู่มือของผู้คุ้มกันหนุ่มที่ยืนนิ่ง ฟังทุกสิ่งทุกอย่างด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนอย่างสวยงาน\"ของฝากเพื่อนนายน่ะ ดูต่างหน้า \"
บริตวาละสายตาจากคู่สนทนา ผลักโม่ปืนรีวอลเวอร์.357ในมือออกหมุนดูช้าๆด้วยแววตาเฉยชายากจะหยั่งอารมย์ถึง ก่อนจะยิ้มมุมปากนิดหนึ่งเมื่อพบเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า รอยยิ้มที่แม้แต่คนที่คิดว่ารู้จักบริตวาดีที่สุดแล้วอย่างบรั้คยังมิอาจเข้าใจ
กระสุนในปลอกทองเหลืองเพียงหนึ่งนัด กระทบแสงสลัวๆรอบกายชัดเจนในแววตา
\"องค์กรชาง ลีนี่ไม่เคยเปลี่ยนสโลแกนเลยนะ เคยชั่วยังไง ก็เป็นอย่างนั้นตลอด \"ชายหนุ่มเปรยเบาๆ แต่ส่งผลให้หัวคิ้วของอีกฝ่ายกระตุกเข้าหากันได้อย่างง่ายดาย เขาตบลูกโม่เข้าไปในปืน สอดเก็บใต้ปกเสื้อ ถามเข้าประเด็นที่สงสัยมาตลอดโดยไม่มีอาการผิดปรกติใดๆแสดงออกมาทั้งนั้น\"เอาเรื่องนี้มาบอกชั้นต้องการอะไร?\"
\"รู้ดีนี่ \"บรั้คกล่าวน้ำเสียงเริ่มซีเรียสขึ้น ก่อนจะยืดตัวยืนเต็มความสูง หยิบแท่งโลหะเงาวับโยนให้คู่สนทนาง่ายๆโดยไม่ละสายตาจากผู้เป็นอริแม้แต่นิดเดียว\"นายอาจจะไม่เคยจำ แต่ชั้นจำมาตลอด วันที่มิสเตอร์ชางให้เราสองคนวัดกันว่าใครจะได้เป็นมือซ้ายหรือมือขวา เรายังสู้กันไม่ชนะ แต่มิสเตอร์ชางกลับตัดสินกลางการแข่งขันว่านายได้เป็นมือขวา ชั้นไม่เข้าใจว่าชั้นแพ้นายตรงไหน! สิ่งนี้คือสิ่งที่ชั้นต้องรู้ บริตวา!!\"
หมอนี่มันดีหมดทุกอย่าง และก็ดูเหมือนจะรู้ตัวดีด้วย ไม่แปลกใจอะไรหรอกที่จะโมโห
แต่เสียอยู่อย่างเดียว ความทะเยอทะยาน ความหยิ่งทระนงลึกๆในใจ ที่ทำให้เขา ไม่ต่างจากคาวิลเท่าไหร่
อดีตมือขวาของชาง ลีหันไปถอนหายใจเฮือกสีหน้าเบื่อหน่าย โยนกระบี่ดวลสลับมือไปมาเหมือนหยั่งน้ำหนัก\"จะเอางั้นก็ได้ แต่ชั้นบอกอย่างนึงนะ \"
ควับ! ชายหนุ่มโยนอาวุธในมือข้ามไหล่ไปด้านหลัง ก่อนจะไขว้มืออีกข้างไปรับแล้วตวัดกลับมาข้างหน้าด้วยฝีมืออย่างผู้ชำนาญการ ยกกระบี่ในท่าเตรียมดวลพลางเลิกคิ้ว\"ชั้นไม่ชอบฟันดาบ\"
ผู้เป็นอริแยกเขี้ยวด้วยโทสะพุ่งเป็นริ้ว เขาจำได้ดี ทุกกิริยา ทุกคำพูด มันคือแบบเดียวกันกับที่ดวลกันเมื่อห้าปีที่แล้ว!
\"เออ!\"
เชี๊ย! ประกายไฟจากการปะทะคมดาบสว่างวาบขึ้นท่ามกล่างความมืด!!!
ตึก ตึก
รองเท้าคอมแบทกระทบพื้นพรมสีแดงเบาๆ ท่ามกลางเสียงดนตรีบรรเลงจากห้องบอลรูมเบื้องล่าง บุรุษในชุดดำสี่คนกระจายหมอบนิ่งข้างประตูคนละฝั่ง แนบหูฟังความเคลื่อนไหวในห้องตรงหน้าครู่หนึ่ง ก่อนที่คนท่าทางเหมือนเป็นหัวหน้าทีมจะสอดบัตรสีขาวเข้าไปในกลอนประตูอย่างแผ่วเบา หมุนลูกบิดประตูช้าๆก่อนกระแทกเปิดวูบเข้าไปอย่างรวดเร็ว!
เงียบ
ทั้งห้องปิดไฟมืดสนิท ได้ยินแค่เสียงลมหายใจของเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น ผู้เป็นหัวหน้าทีมพยักหน้าเป็นสัญญาณ ทุกคนพลันกระจายออกสำรวจช้าๆด้วยฝีเท้าแผ่วเบาเกือบจะเงียบกริบตามแบบฉบับผู้ฝึกฝนมาดี สายตาของอาคันตุกะค่อยๆปรับเข้าสู่ความมืดทีละน้อย
แต่โลกตรงหน้ากลับสว่างโร่ขึ้นมาเฉยๆพร้อมกับเสียงปิดประตูโครมใหญ่
ปัง!
หนึ่งในสี่ทีมลอบสังหารทรุดลงกับพื้นพร้อมเลือดจากหลังศรีษะ ไอดินปืนลอยออกจากปลายกระบอกจางๆก่อนจะสลายไปด้วยประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ พร้อมกับสีหน้าตื่นตกใจของผู้ปองร้ายที่เหลือ!
\"ยากห์!!!\"
อาเดียโร่กระโดดค้ำโซฟาถีบนักฆ่าชาวฮ่องกงที่วิ่งโร่เข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเหวี่ยงด้ามปืนใส่อีกคนที่อยู่ในระยะแขน แต่เมื่อหันมาเผชิญหน้ากับรายสุดท้าย
ผั่ว!
ออโตเมติก9มม.ถูกเตะกระเด็นไปอีกมุมห้อง ชายชุดดำกระโดดเตะกังฟูฟาดเต็มขมับบอดี้การ์ดหนุ่มจนสะบัดฟุบลงกับขอบโต๊ะแก้วกลางชุดรับแขก ความเจ็บปวดพลันกระตุกเส้นประสาททั่วกายจนชาดิก แต่เขาไม่มีเวลาจะมาใส่ใจกับมันนัก!
ตุบ! ผู้คุ้มกันหนุ่มถีบศัตรูที่พุ่งเข้ามา ก่อนจะพลิกตัวลุกขึ้นยืนตั้งหลักอย่างรวดเร็ว ฝีมือที่ได้ประจักษ์ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าเขาผู้เดียวหากจะยั้งให้อยู่เป็นเวลานานย่อมทำได้ยาก เพราะนี่ไม่ใช่ลูกกระจ๊อก แต่คือมืออาชีพ
บริตวามันอยู่ไหนของมันวะ!
เพล้ง! อาเดียโร่คว้าขวดบรั่นดีข้างๆกายมาเป็นอาวุธในเวลาคับขัน แล้วใช้ต่างดาบแทงปากฉลามที่เหลือฝังเข้าลิ้นปี่คู่ต่อสู้ ถีบกลับออกไปชนกับอีกคนที่กำลังวิ่งเข้ามา ก่อนจะกลิ้งหลบสันแข้งผู้เป็นอริออกมาอีกฝั่งห้องอย่างรวดเร็ว อาคันตุกะนิรนามหันตามเป้าหมาย ลดมือลงคว้ามีดซัดข้างเอวขว้างใส่อย่างมืออาชีพ
ฟุ่บ!
เชี้ย! เชี้ย! เชี้ย!
ควับ! บรั้คเอนหลบใบมีดของคู่ต่อสู้อย่างเฉียดฉิว ก่อนจะเหวี่ยงหมัดที่กำด้ามดามไว้ตั้งหน้าอีกฝ่ายจนสะบัดฟุบลงกับราวดาดฟ้าเรือทันควัน! ท่ามกลางความมึนงงของประสาทสัมผัส สิ่งที่บริตวาเห็นอยู่เบื้องล่างคือเรือเร็วติดตราบริษัทของชาง ลี ลอยเทียบเคียงกับเรือยอร์ชที่กำลังลดความเร็วเนื่องจากจวนเทียบท่าเต็มที และห้องที่เรือลำนั้นเทียบเหมือนรออะไรสักอย่างนั้นตรงกับ
ห้องของรีน่า!
แกร๊ง! ชายหนุ่มสะดุ้งหลบคมดาบที่ฟังลงมาตำแหน่งเดียวกับศรีษะเขาอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด เขายกอาวุธขึ้นตั้งรับพลางคิดเจ็บใจกับความโง่เขลาของตนเอง แผนล่อเสือออกจากถ้า บรั้คดึงเขาออกมาเพื่อมิให้แทคทีมกับอาเดียโร่ได้ อันจะทำให้เอาตัวคนในความคุ้มครองออกมาได้ง่ายดายกว่าเดิมเยอะ
เห็นทีคราวนี้จะอืดอาดมิได้
\"อยากรู้เหตุผลใช่ไหม!\"
อดีตคู่แข่งของบรั้คกระโจนขึ้นยืนบนราวดาดฟ้าเรือ เตะกระบี่ในมือคนอยู่ต่ำกว่ากระเด็นไป ก่อนสะบัดเท้าฟาดปลายคางคู่ต่อสู้จนผงะล้มไป มือซ้ายของมิสเตอร์ชางสะบัดหัวละทิ้งความมึนงงพลางลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับกลายเป็น
ปลายกระบอกปืนสีเงินเงาวับ จี้อยู่กลางแสกหน้า!
\"โกงอย่างไม่เห็นแก่ศักดิ์ศรีอย่างนั้นเหรอบริตวา\"
\"ก็นี่แหละเหตุผลที่หัวหน้าของนายเลือกชั้น!\"
ปัง! ศรีษะของมือปืนผู้ถึงฆาตสะบัดตามแรงอัดลูกกระสุน ก่อนจะเอนหลังล้มลงช้าๆทั้งแววตาของความผิดหวัง บริตวาสอด.357ในมือเข้าในปกเสื้อ ยืนนิ่งอยู่ข้างร่างไร้ลมหายใจของอดีตเพื่อนร่วมงานเหมือนขออโหสิกรรม ก่อนจะหันหลังให้อย่างไม่แยแส
เขาไม่ได้โกหก
ชาง ลีให้ความสำคัญกับคนที่ทำงานสำเร็จไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตาม มากกว่าคนที่ยึดถือเรื่องศักดิ์ศรีความถูกต้องเป็นหลัก ใช่ว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่หากมันทำให้การปฎิบัติภารกิจใดๆอืดอาดล่าช้าแล้วไม่เป็นตามที่ต้องการ
ละทิ้งไปได้ก็ควรทำ
บอดี้การ์ดหนุ่มก้มลงหยิบดาบอีกเล่มบนพื้น สืบเท้ากลับห้องพักตนเองอย่างรวดเร็ว ที่ร่างคู่ต่อสู้เมื่อชั่ววินาทีที่แล้วให้อาบแสงดาวและสัมผัสลมทะเลด้วยแววตาไร้ความยินดียินร้าย แต่สายตาของผู้แพ้อันนอนจมกองเลือดอยู่นั้นเต็มไปด้วยความสับสนและผิดหวัง กับคำตอบที่ประจักษ์
คำตอบ ที่น่าจะรู้เร็วกว่านี้สักหน่อย
ตุบ!
ร่างโปร่งลอยกระแทกมุมห้องจากแรงปะทะของศัตรู ผู้เป็นหัวหน้าทีมสังหารยิ้มเยาะกับท่าทางไร้กำลังของคู่ต่อสู้
\"อ่อนหัดมากน้อง\"
\"งั้นเหรอ!\"
ฉั่ว! คมมีดปริศนาฟันสะพายแล่งใส่แผ่นหลังนักฆ่าชะตาขาดอย่างรวดเร็วชนิดคนโดนไม่รู้สึก บริตวาโยนกระบี่อังกฤษที่ยึดมาให้บัดดี้ร่วมงานแล้วหันไปฟันอีกคนข้างๆ เมื่อมีอาวุธในมือ แค่เสี้ยววินาทีเหล่าผู้ปองร้ายก็กลายเป็แค่ศพกองเลือดได้อย่างง่ายดาย
\"อาเดียโร่ รีน่าล่ะ?\"
\"อยู่ข้างใน \"
ความใจหายพุ่งวูบเข้ามา\"ซวยแล้ว!\"
โครม! ประตูไม้สักทองถูกกระแทกจนเปิดอ้า สองชายหนุ่มพุ่งปราดเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องยืนชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
หน้าต่างเปิดอ้า ห้องว่างเปล่า
ไม่มีรีน่า
อาเดียโร่พุ่งเกาะขอบหน้าต่างด้วยสัญชาติญาณมากกว่าสมองสั่ง เรือเล็กสีขาวทะยานปราดออกไปอย่างรวดเร็วในสายตา และที่น่าเจ็บใจกว่านั้นคือคนในความคุ้มครอง เห็นหลัดๆว่านอนไร้สติอยู่บนนั้น!!!
\"หลบ!\"ก่อนที่เขาจะรู้เรื่องอะไร เพื่อนร่วมทีมพลันกดเขาหมอบลงก่อนที่คนในเรือเล็กที่จากไปจะหันปลายกระบอกปืนกลเบามาทางหน้าต่างแล้วกดชุดใหญ่อย่างไม่ลังเล
พรืดดดดด!!!!!
เศษไม้กระจุยกระจายเฉียดศรีษะสองบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างน่าหวาดเสียว ครู่ต่อมาอาเดียโร่ถึงสามารถหลุดจากแรงกดของอีกฝ่ายได้ ภาพที่เขาเห็นอีกครั้ง ชวนเจ็บใจและแทบทำให้เขาบ้าคลั่งไปกับความจริงที่ได้พบ
หายไปแล้ว
เรือลำนั้นหายไปแล้ว หายไปบนชายฝั่งฮ่องกงอันแสนวุ่นวายแล้ว!
\"โธ่โว้ย!!!\"
ปัง! ใบดาบคมกริบสับลึกลงไปในขอบหน้าต่างที่พรุนไปด้วยแรงอัดกระสุนอย่างแรงจากอารมย์โทสะของผู้ถือ ร่างโปร่งแบบนักกีฬาหอบฮั่ก แววตาวาวโรจน์ด้วยอารมย์หลากสิบอย่างแปรปรวนอยู่ภายใน
สัญญาไว้แล้ว แต่ทำไม ทำไมชั้นทำไม่ได้! อาเดียโร่! แกปล่อยให้เกิดขึ้นได้ยังไง!!!
ท่ามกลางคลื่นอารมย์โหมกระหน่ำของผู้เป็นสหาย บริตวากลับปล่อยเขาไว้เฉยๆ ชายหนุ่มรู้ดีว่าเพื่อนของเขามีวิธีจัดการกับอารมย์ของตนเองได้ดีเสมอ ความจริงในใจเขาเองก็พลุกพล่านมิต่างกัน แต่เขารู้ดี ว่ายังไม่หมดโอกาส
\"พอเดาได้ไหมว่าเรือลำนี้อีกนานเท่าไหร่ถึงจะเข้าเทียบฝั่ง?\"
คู่สนทนาสูดหายใจลึก กลืนอะไรบางอย่างลงคออย่างยากลำบาก\"เจ็ดถึงสิบนาที \"
\"ชั้นรู้ว่ามันจะไปไหน \"คำกล่าวของเขาทำให้อีกฝ่ายหันมามองทันควันด้วยสายตาประหลาด ขณะที่บริตวาหรี่ตาลงเล็กน้อยด้วยประกายอันยากจะหยังถึง\"เราตามมันทันแน่ \"
***
ยาวคับ ยาวย้าวยาว...สะใจมั้ยคะ? แต่คนเขียนสะใจชะมัด อย่างงี้ค่อยดูเป็นตอนหน่อย
ทิ้งไปหลายวัน หลายคนคงเจริญพรข้าบาทไปหลานกรรณแล้ว เหอๆๆ...ตอนนี้ก็ถูกใจคนรอบู๊แล้ว พูดไปจะเชื่อไหมเนี่ย ไม่ตอนหน้าก็ตอนหกล่ะจะจบแล้ว งงมะ? สั้นไหมล่ะ^o^
คนรอมิคาอิล ท่านก็จงรอต่อไป555 แต่ออกแน่นอนไม่ต้องห่วง(ออกแบบพระเอกสุดๆด้วย กรี๊ดตายกันไปข้าง...)
ตอนหน้าเรทนะ...BDSM(binding&sadism,masochism)ใครรอของโหดก็เตรียมเฮได้เลย(เตือนแล้วว่าNC-15)ตอนนี้ขอไปปั่นก่อน เหอๆๆๆๆ(ทำหน้าโรคจิตจากไป...)
\"เราพลาดแล้ว!\"
ผู้เป็นนายจ้างเงยขึ้นมองเจ้าของประโยคทันควัน ขณะที่อีกหนึ่งบุรุษนั่งเงียบเหมือนไม่แปลกใจนัก
\"แปลว่าอะไร?\"หญิงสาวถามอย่างไม่เข้าใจ ท่ามกลางบรรยากาศเครียดเขม็งปกคลุมรอบด้าน อาเดียโร่ถอนหายใจเฮือก อธิบายน้ำเสียงเรียบ ต่ำภายใต้แววตาสะท้อนความหนักใจ
\"คุณไม่แปลกใจมั่งรึไง? ว่าคนที่มีอำนาจน้อยนิดเมื่อเทียบกับคุณอย่างคาวิล เอาอะไรมาอาจหาญกล้าทรยศเอาซึ่งๆหน้า ทั้งๆที่ทุกรู้ดีว่ามีสิทธิตายมากกว่าสำเร็จ? \"
คู่สนทนาชะงักคิดบ้าง\" มีเสาหลักอันใหม่ที่มั่นคงพอให้ยึดเกาะได้ \"
\"แล้วใครที่ใหญ่เทียบบารมีกับพวกคุณได้?\"
ความใจหายแทรกวูบไปถึงไขสันหลังเมื่อเธอตระหนักถึงคำตอบ\"ชาง ลี \"
อะไรกัน?
นี่เรานึกไม่ถึงเหรอนี่!
ความเงียบอันน่าอึดอัดคลี่ลงปกคลุมทุกอณูอากาศช้าๆ กลิ่นไอแห่งหายนะคุกกรุ่นอยู่ทุกลมหายใจ สามชีวิตนั่งนิ่งรวมกันอยู่กลางห้อง แม้ตอนนี้จะคิดแตกต่างกัน แต่สิ่งที่รู้อยู่คือสิ่งเดียวกัน
ตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งหน้าสู่คมเคียวมัจจุราชด้วยตัวเอง โดยไม่สามารถหยุดยั้งหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ได้ ศัตรูที่แท้จริงอยู่ตรงหน้า ชัดเจนมากกว่าสิ่งอื่น แต่ไม่เคยที่จะเฉลียวใจแม้เศษเสี้ยว
มันน่าขำก็ตรงที่ตัดสินใจมุ่งสู่รังของศัตรูแท้ๆด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่จริงคือรู้ แต่ประมาทและไม่เคยนึกถึง
ให้ตายสิ
บริตวาหัวเราะแค่นๆกับโชคชะตาที่ประสพ ก่อนจะเงยขึ้นสบตาคนในอารักขาเหมือนขอร้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำเลยตั้งแต่ร่วมทางกันมา
\"คุณผู้หญิง คราวนี้คับขันของจริงล่ะ เข้าไปในห้องล็อคประตูหน้าต่างให้แน่นหนา ปิดม่านปิดไฟให้หมด แล้วอยู่ห่างประตูหน้าต่างไว้ ข้างนอกพวกผมจัดการเอง คืนนี้มันเองแน่\"
สองบอดี้การ์ดลุกขึ้นพร้อมกันอีกครั้งราวกับนัดหมายไว้ ต่างฝ่ายต่างเช็คอาวุธในมือตัวเองเพื่อความมั่นใจ โดยไม่มีใครทันสังเกตสีหน้าผู้ถูกคุ้มกันที่นั่งคอแข็งอยู่ข้างกายแม้แต่น้อย
\"ถ้าชั้นเปิดประตูออกมาแล้วพวกคุณหายไปอีกล่ะ? \"
ทั้งคู่หันกลับไปมองหญิงสาวหนึ่งเดียวในกลุ่มเหมือนแปลกใจในน้ำเสียงอ้างว้าง ใจหายของผู้กล่าว ขณะที่แววตาของรีน่านั้นจ้องนิ่งวาดหวังราวกับรอคอยคำตอบมานานแสนนานแล้ว\"ถ้าพวกคุณหายไปในความมืด เหมือนกับมิคาอิล ชั้น ไม่ยากจะเป็นคนที่นำพาความสูญเสียเข้ามาสู่ทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของชั้นนะ คุณให้คำตอบกับชั้นได้รึเปล่า ว่าเมื่อชั้นเปิดประตูออกมา ชั้นจะต้องพบกับคุณ \"
\"ผมสัญญา\"
เร็วกว่าที่คิด อาเดียโร่ยิ้มบางๆให้กับสีหน้ากังวลใจ น้ำแข็งที่เคยกั้นระหว่างเขาและเธอละลายหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่หามีใครตอบได้ แต่ความเป็นจริงที่อยู่หลังม่านน้ำแข็งที่เธอเห็นคือแววตาอบอุ่น จริงใจมาจากส่วนลึกของหัวใจ ไม่ใช่จากหน้าที่
\"ผมบอกแล้วไง ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไร ผมอยู่ตรงนี้ \"ชายหนุ่มเอื้อมฝ่ามืออันอบอุ่น แข็งแรงข้างเดิมวางบนหลังมือคู่สนทนาอย่างอ่อนโยน พยักหน้าเบาๆยืนยันพันธะสัญญาของตนเองให้อีกฝ่ายรับรู้
\"เชื่อผม \"
ห่างจากวงสนทนาอันล้อมรอบด้วยมนต์ขลังอันยากจะเข้าใจ หนึ่งสายตาเหม่มองนิ่งด้วยแววตาไร้ซึ่งผู้หยั่งถึง ก่อนจะเปิดประตูก้าวออกไปเงียบๆ ออกไปโดยไม่มีใครรู้สึกตัว พร้อมกับอารมย์อันปั่นป่วนในหัวใจที่หาคำตอบกับตัวเองไม่ได้
สายลมเหนือผืนน้ำพัดผ่านเงาตะคุ่มบนดาดฟ้าเรือ แสงระยิบของท่าเรือเกาะฮ่องกงสว่างพราวอยู่ที่เส้นขอบฟ้า สะท้อนอยู่ในแววตาคมกริบอันส่องประกายระยับ ประกายแห่งการรอคอยและความกระหยิ่มยิ้มย่องกลายๆ
\"จะเอาไงก็ว่ามา บรั้ค\"
เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว หันไปมองต้นเสียงเหมือนไม่แปลกใจนัก\"ยังสมเป็นนายอยู่เลยนะ ไปไหนมาไหนไม่เคยมีใครรู้สึกตัว ฝีมือยังไม่ตกจากห้าปีที่แล้วแม้แต่น้อย ตอนแรกชั้นคิดว่านายจะไม่มาตามคำท้าซะอีก\"
คู่สนทนาทำสีหน้าเบื่อหน่ายใต้แสงดาวอันน้อยนิด\"อารัมภกถาอะไรยืดยาว มิสเตอร์ชางส่งนายมาทำไม?\"
\"เปล่านี่ การชำระสะสางสิ่งที่มันยังค้างอยู่ในใจนี่ไม่เห็นต้องให้ใครมาสั่ง \"
\"มีแค่นี้ใช่ไหม? ชั้นจะได้ลงไปจัดการกับลูกน้องนาย \"คู่สนทนาทำท่าจะผละไปเสียดื้อๆ ส่งผลให้ผู้นัดหมายหรี่ตามองอย่างดูแคลง ก่อนปล่อยหมัดเด็ดที่ทำให้บริตวาชะงักนิ่งได้ง่ายดาย
\"ไม่อยากรู้เรื่องเพื่อนนายรึไง?\"
ผู้คุ้มกันหนุ่มหันกลับมามองอีกฝ่ายช้าๆ แม้สายตาจะยังเฉยชาเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำกล่าว แต่บรั้ครู้อยู่แก่ใจดีว่าในใจกระตุกวูบไม่ใช่น้อย เหยี่ยวหนุ่มจากกรงทองของชาง ลีหัวเราะหึๆ เอนหลังพิงราวดาดฟ้า ยกกระบี่แบบอังกฤษในมือขึ้นมาพลิกดูพลางเล่าเรื่อยๆเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ\"บอดี้การ์ดเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่มีวิญญาณไพเรทปลีกวิเวกอย่างนายจะทำอาชีพนี้ได้นะ ก่อนอื่นก่อนใดชั้นคงต้องถามนายก่อน ว่านายรู้รึเปล่าว่าที่คุณหนูรีน่านายจ้างคนใหม่ของนายเดินสายเจรจาธุรกิจเกือบครึ่งโลกเนี่ย เรื่องอะไร? อ้อลืมไป กฎของบอดี้การ์ด คือมีหน้าที่คุ้มกันอย่างเดียวไม่ใช่ซอกแซกถามธุระนายจ้าง เข้าใจล่ะ สิ่งที่ราชิตกรุ๊ปเพิ่งคิดค้นขึ้นมาจากแล็ปสดๆร้อนๆ ยาเสพย์ติดชนิดใหม่อนุพันธ์ของฝิ่น ฤทธิ์กดประสาทแบบชะงักงัน ฉัดเข้าเส้นเลือดจะใช้เวลาแค่สิบนาทีในการออกฤทธิ์ มีประโยชน์ในการสะกดจิต เช่นสั่งให้ฆ่าใคร บอกความลับสุดยอด เดินไปนอนแผ่หราบนเตียงก็ได้ถ้าใช้กับผู้หญิง หรือแม้กระทั่งสั่งให้ฆ่าตัวตาย สันนิฐานว่าน่าจะแรงกว่าTTTTTที่CIAใช้ เป็นยาที่ยังไม่พิสูจน์ผลการทดลองชัดเจนนัก มิสเตอร์เคมอบหมายให้ลูกสาวเดินทางเผยแพร่ให้ลูกข่ายราชิตกรุ๊ปทั่วโลกได้รู้จัก เป็นก้าวกระโดดที่สำคัญ  เสียอย่างเดียวคือองค์กรของชาง ลีรู้ข่าวนี้จากหนอนบ่อนไส้ของราชิตกรุ๊ป แน่นอนไม่ใช่ใครอื่น คาวิลน่ะแหละ
เป็นเรื่องขำที่น่าเศร้าใจ เมื่อรีน่า ราชิตนำไอ้ยาตัวนี้มอบให้กับคาวิลหนึ่งหลอดเล็กๆด้วยข้ออ้างที่ตื้นๆง่ายๆ ทดลองและพิสูจน์ เธอก็คงจะไม่นึกว่าสิ่งที่มันทำคือผสมในกาแฟ ส่งให้เซอร์วิสของโรงแรมนำไปให้ถึงห้อง กลายเป็นตัวเธอเองที่เป็นหนูทดลองไป เพื่อนนายก็ฉลาดดี แต่ไม่ทั้งหมด ทำการสลับแก้วอย่างแนบเนียนเอาแก้วที่มีตัวยาผสมอยู่มากินเอง นายจ้างก็รอดไป แต่เพื่อนนายอาการออกเลยล่ะ มิคาอิลก็คงรู้ดีว่าโดนเข้าให้แล้ว จึงพาคุณผู้หญิงท่านขับรถมาส่งให้พวกนายแล้วตัวเองก็ล่อเป้าไปทั้งๆที่สติก็ไม่ค่อยเต็มร้อย แมนมากเพื่อนนายน่ะ สุดท้ายด้วยสัญชาติญาณของบอดี้การ์ด เมื่อรู้ตัวดีว่าถ้าตัวเองโดนจับไปนายจ้างก็บรรลัยซะเปล่า ตัดสินใจใช้ความคิดกามิกาเซ่กระโดดลงมาจากทางด่วนซะดื้อๆ สูงประมาณตึกสองชั้น ข้างล่างคือพื้นยางมะตอยอย่างแข็ง เป็นการฆ่าตัวตายที่สวยงามมาก \"
ควับ วัตถุสีเงินเงาวับลอยคว้างอยู่บนอากาศ ก่อนจะตกลงสู่มือของผู้คุ้มกันหนุ่มที่ยืนนิ่ง ฟังทุกสิ่งทุกอย่างด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนอย่างสวยงาน\"ของฝากเพื่อนนายน่ะ ดูต่างหน้า \"
บริตวาละสายตาจากคู่สนทนา ผลักโม่ปืนรีวอลเวอร์.357ในมือออกหมุนดูช้าๆด้วยแววตาเฉยชายากจะหยั่งอารมย์ถึง ก่อนจะยิ้มมุมปากนิดหนึ่งเมื่อพบเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า รอยยิ้มที่แม้แต่คนที่คิดว่ารู้จักบริตวาดีที่สุดแล้วอย่างบรั้คยังมิอาจเข้าใจ
กระสุนในปลอกทองเหลืองเพียงหนึ่งนัด กระทบแสงสลัวๆรอบกายชัดเจนในแววตา
\"องค์กรชาง ลีนี่ไม่เคยเปลี่ยนสโลแกนเลยนะ เคยชั่วยังไง ก็เป็นอย่างนั้นตลอด \"ชายหนุ่มเปรยเบาๆ แต่ส่งผลให้หัวคิ้วของอีกฝ่ายกระตุกเข้าหากันได้อย่างง่ายดาย เขาตบลูกโม่เข้าไปในปืน สอดเก็บใต้ปกเสื้อ ถามเข้าประเด็นที่สงสัยมาตลอดโดยไม่มีอาการผิดปรกติใดๆแสดงออกมาทั้งนั้น\"เอาเรื่องนี้มาบอกชั้นต้องการอะไร?\"
\"รู้ดีนี่ \"บรั้คกล่าวน้ำเสียงเริ่มซีเรียสขึ้น ก่อนจะยืดตัวยืนเต็มความสูง หยิบแท่งโลหะเงาวับโยนให้คู่สนทนาง่ายๆโดยไม่ละสายตาจากผู้เป็นอริแม้แต่นิดเดียว\"นายอาจจะไม่เคยจำ แต่ชั้นจำมาตลอด วันที่มิสเตอร์ชางให้เราสองคนวัดกันว่าใครจะได้เป็นมือซ้ายหรือมือขวา เรายังสู้กันไม่ชนะ แต่มิสเตอร์ชางกลับตัดสินกลางการแข่งขันว่านายได้เป็นมือขวา ชั้นไม่เข้าใจว่าชั้นแพ้นายตรงไหน! สิ่งนี้คือสิ่งที่ชั้นต้องรู้ บริตวา!!\"
หมอนี่มันดีหมดทุกอย่าง และก็ดูเหมือนจะรู้ตัวดีด้วย ไม่แปลกใจอะไรหรอกที่จะโมโห
แต่เสียอยู่อย่างเดียว ความทะเยอทะยาน ความหยิ่งทระนงลึกๆในใจ ที่ทำให้เขา ไม่ต่างจากคาวิลเท่าไหร่
อดีตมือขวาของชาง ลีหันไปถอนหายใจเฮือกสีหน้าเบื่อหน่าย โยนกระบี่ดวลสลับมือไปมาเหมือนหยั่งน้ำหนัก\"จะเอางั้นก็ได้ แต่ชั้นบอกอย่างนึงนะ \"
ควับ! ชายหนุ่มโยนอาวุธในมือข้ามไหล่ไปด้านหลัง ก่อนจะไขว้มืออีกข้างไปรับแล้วตวัดกลับมาข้างหน้าด้วยฝีมืออย่างผู้ชำนาญการ ยกกระบี่ในท่าเตรียมดวลพลางเลิกคิ้ว\"ชั้นไม่ชอบฟันดาบ\"
ผู้เป็นอริแยกเขี้ยวด้วยโทสะพุ่งเป็นริ้ว เขาจำได้ดี ทุกกิริยา ทุกคำพูด มันคือแบบเดียวกันกับที่ดวลกันเมื่อห้าปีที่แล้ว!
\"เออ!\"
เชี๊ย! ประกายไฟจากการปะทะคมดาบสว่างวาบขึ้นท่ามกล่างความมืด!!!
ตึก ตึก
รองเท้าคอมแบทกระทบพื้นพรมสีแดงเบาๆ ท่ามกลางเสียงดนตรีบรรเลงจากห้องบอลรูมเบื้องล่าง บุรุษในชุดดำสี่คนกระจายหมอบนิ่งข้างประตูคนละฝั่ง แนบหูฟังความเคลื่อนไหวในห้องตรงหน้าครู่หนึ่ง ก่อนที่คนท่าทางเหมือนเป็นหัวหน้าทีมจะสอดบัตรสีขาวเข้าไปในกลอนประตูอย่างแผ่วเบา หมุนลูกบิดประตูช้าๆก่อนกระแทกเปิดวูบเข้าไปอย่างรวดเร็ว!
เงียบ
ทั้งห้องปิดไฟมืดสนิท ได้ยินแค่เสียงลมหายใจของเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น ผู้เป็นหัวหน้าทีมพยักหน้าเป็นสัญญาณ ทุกคนพลันกระจายออกสำรวจช้าๆด้วยฝีเท้าแผ่วเบาเกือบจะเงียบกริบตามแบบฉบับผู้ฝึกฝนมาดี สายตาของอาคันตุกะค่อยๆปรับเข้าสู่ความมืดทีละน้อย
แต่โลกตรงหน้ากลับสว่างโร่ขึ้นมาเฉยๆพร้อมกับเสียงปิดประตูโครมใหญ่
ปัง!
หนึ่งในสี่ทีมลอบสังหารทรุดลงกับพื้นพร้อมเลือดจากหลังศรีษะ ไอดินปืนลอยออกจากปลายกระบอกจางๆก่อนจะสลายไปด้วยประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศ พร้อมกับสีหน้าตื่นตกใจของผู้ปองร้ายที่เหลือ!
\"ยากห์!!!\"
อาเดียโร่กระโดดค้ำโซฟาถีบนักฆ่าชาวฮ่องกงที่วิ่งโร่เข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเหวี่ยงด้ามปืนใส่อีกคนที่อยู่ในระยะแขน แต่เมื่อหันมาเผชิญหน้ากับรายสุดท้าย
ผั่ว!
ออโตเมติก9มม.ถูกเตะกระเด็นไปอีกมุมห้อง ชายชุดดำกระโดดเตะกังฟูฟาดเต็มขมับบอดี้การ์ดหนุ่มจนสะบัดฟุบลงกับขอบโต๊ะแก้วกลางชุดรับแขก ความเจ็บปวดพลันกระตุกเส้นประสาททั่วกายจนชาดิก แต่เขาไม่มีเวลาจะมาใส่ใจกับมันนัก!
ตุบ! ผู้คุ้มกันหนุ่มถีบศัตรูที่พุ่งเข้ามา ก่อนจะพลิกตัวลุกขึ้นยืนตั้งหลักอย่างรวดเร็ว ฝีมือที่ได้ประจักษ์ทำให้ชายหนุ่มรู้ว่าเขาผู้เดียวหากจะยั้งให้อยู่เป็นเวลานานย่อมทำได้ยาก เพราะนี่ไม่ใช่ลูกกระจ๊อก แต่คือมืออาชีพ
บริตวามันอยู่ไหนของมันวะ!
เพล้ง! อาเดียโร่คว้าขวดบรั่นดีข้างๆกายมาเป็นอาวุธในเวลาคับขัน แล้วใช้ต่างดาบแทงปากฉลามที่เหลือฝังเข้าลิ้นปี่คู่ต่อสู้ ถีบกลับออกไปชนกับอีกคนที่กำลังวิ่งเข้ามา ก่อนจะกลิ้งหลบสันแข้งผู้เป็นอริออกมาอีกฝั่งห้องอย่างรวดเร็ว อาคันตุกะนิรนามหันตามเป้าหมาย ลดมือลงคว้ามีดซัดข้างเอวขว้างใส่อย่างมืออาชีพ
ฟุ่บ!
เชี้ย! เชี้ย! เชี้ย!
ควับ! บรั้คเอนหลบใบมีดของคู่ต่อสู้อย่างเฉียดฉิว ก่อนจะเหวี่ยงหมัดที่กำด้ามดามไว้ตั้งหน้าอีกฝ่ายจนสะบัดฟุบลงกับราวดาดฟ้าเรือทันควัน! ท่ามกลางความมึนงงของประสาทสัมผัส สิ่งที่บริตวาเห็นอยู่เบื้องล่างคือเรือเร็วติดตราบริษัทของชาง ลี ลอยเทียบเคียงกับเรือยอร์ชที่กำลังลดความเร็วเนื่องจากจวนเทียบท่าเต็มที และห้องที่เรือลำนั้นเทียบเหมือนรออะไรสักอย่างนั้นตรงกับ
ห้องของรีน่า!
แกร๊ง! ชายหนุ่มสะดุ้งหลบคมดาบที่ฟังลงมาตำแหน่งเดียวกับศรีษะเขาอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด เขายกอาวุธขึ้นตั้งรับพลางคิดเจ็บใจกับความโง่เขลาของตนเอง แผนล่อเสือออกจากถ้า บรั้คดึงเขาออกมาเพื่อมิให้แทคทีมกับอาเดียโร่ได้ อันจะทำให้เอาตัวคนในความคุ้มครองออกมาได้ง่ายดายกว่าเดิมเยอะ
เห็นทีคราวนี้จะอืดอาดมิได้
\"อยากรู้เหตุผลใช่ไหม!\"
อดีตคู่แข่งของบรั้คกระโจนขึ้นยืนบนราวดาดฟ้าเรือ เตะกระบี่ในมือคนอยู่ต่ำกว่ากระเด็นไป ก่อนสะบัดเท้าฟาดปลายคางคู่ต่อสู้จนผงะล้มไป มือซ้ายของมิสเตอร์ชางสะบัดหัวละทิ้งความมึนงงพลางลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับกลายเป็น
ปลายกระบอกปืนสีเงินเงาวับ จี้อยู่กลางแสกหน้า!
\"โกงอย่างไม่เห็นแก่ศักดิ์ศรีอย่างนั้นเหรอบริตวา\"
\"ก็นี่แหละเหตุผลที่หัวหน้าของนายเลือกชั้น!\"
ปัง! ศรีษะของมือปืนผู้ถึงฆาตสะบัดตามแรงอัดลูกกระสุน ก่อนจะเอนหลังล้มลงช้าๆทั้งแววตาของความผิดหวัง บริตวาสอด.357ในมือเข้าในปกเสื้อ ยืนนิ่งอยู่ข้างร่างไร้ลมหายใจของอดีตเพื่อนร่วมงานเหมือนขออโหสิกรรม ก่อนจะหันหลังให้อย่างไม่แยแส
เขาไม่ได้โกหก
ชาง ลีให้ความสำคัญกับคนที่ทำงานสำเร็จไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตาม มากกว่าคนที่ยึดถือเรื่องศักดิ์ศรีความถูกต้องเป็นหลัก ใช่ว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่หากมันทำให้การปฎิบัติภารกิจใดๆอืดอาดล่าช้าแล้วไม่เป็นตามที่ต้องการ
ละทิ้งไปได้ก็ควรทำ
บอดี้การ์ดหนุ่มก้มลงหยิบดาบอีกเล่มบนพื้น สืบเท้ากลับห้องพักตนเองอย่างรวดเร็ว ที่ร่างคู่ต่อสู้เมื่อชั่ววินาทีที่แล้วให้อาบแสงดาวและสัมผัสลมทะเลด้วยแววตาไร้ความยินดียินร้าย แต่สายตาของผู้แพ้อันนอนจมกองเลือดอยู่นั้นเต็มไปด้วยความสับสนและผิดหวัง กับคำตอบที่ประจักษ์
คำตอบ ที่น่าจะรู้เร็วกว่านี้สักหน่อย
ตุบ!
ร่างโปร่งลอยกระแทกมุมห้องจากแรงปะทะของศัตรู ผู้เป็นหัวหน้าทีมสังหารยิ้มเยาะกับท่าทางไร้กำลังของคู่ต่อสู้
\"อ่อนหัดมากน้อง\"
\"งั้นเหรอ!\"
ฉั่ว! คมมีดปริศนาฟันสะพายแล่งใส่แผ่นหลังนักฆ่าชะตาขาดอย่างรวดเร็วชนิดคนโดนไม่รู้สึก บริตวาโยนกระบี่อังกฤษที่ยึดมาให้บัดดี้ร่วมงานแล้วหันไปฟันอีกคนข้างๆ เมื่อมีอาวุธในมือ แค่เสี้ยววินาทีเหล่าผู้ปองร้ายก็กลายเป็แค่ศพกองเลือดได้อย่างง่ายดาย
\"อาเดียโร่ รีน่าล่ะ?\"
\"อยู่ข้างใน \"
ความใจหายพุ่งวูบเข้ามา\"ซวยแล้ว!\"
โครม! ประตูไม้สักทองถูกกระแทกจนเปิดอ้า สองชายหนุ่มพุ่งปราดเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องยืนชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
หน้าต่างเปิดอ้า ห้องว่างเปล่า
ไม่มีรีน่า
อาเดียโร่พุ่งเกาะขอบหน้าต่างด้วยสัญชาติญาณมากกว่าสมองสั่ง เรือเล็กสีขาวทะยานปราดออกไปอย่างรวดเร็วในสายตา และที่น่าเจ็บใจกว่านั้นคือคนในความคุ้มครอง เห็นหลัดๆว่านอนไร้สติอยู่บนนั้น!!!
\"หลบ!\"ก่อนที่เขาจะรู้เรื่องอะไร เพื่อนร่วมทีมพลันกดเขาหมอบลงก่อนที่คนในเรือเล็กที่จากไปจะหันปลายกระบอกปืนกลเบามาทางหน้าต่างแล้วกดชุดใหญ่อย่างไม่ลังเล
พรืดดดดด!!!!!
เศษไม้กระจุยกระจายเฉียดศรีษะสองบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างน่าหวาดเสียว ครู่ต่อมาอาเดียโร่ถึงสามารถหลุดจากแรงกดของอีกฝ่ายได้ ภาพที่เขาเห็นอีกครั้ง ชวนเจ็บใจและแทบทำให้เขาบ้าคลั่งไปกับความจริงที่ได้พบ
หายไปแล้ว
เรือลำนั้นหายไปแล้ว หายไปบนชายฝั่งฮ่องกงอันแสนวุ่นวายแล้ว!
\"โธ่โว้ย!!!\"
ปัง! ใบดาบคมกริบสับลึกลงไปในขอบหน้าต่างที่พรุนไปด้วยแรงอัดกระสุนอย่างแรงจากอารมย์โทสะของผู้ถือ ร่างโปร่งแบบนักกีฬาหอบฮั่ก แววตาวาวโรจน์ด้วยอารมย์หลากสิบอย่างแปรปรวนอยู่ภายใน
สัญญาไว้แล้ว แต่ทำไม ทำไมชั้นทำไม่ได้! อาเดียโร่! แกปล่อยให้เกิดขึ้นได้ยังไง!!!
ท่ามกลางคลื่นอารมย์โหมกระหน่ำของผู้เป็นสหาย บริตวากลับปล่อยเขาไว้เฉยๆ ชายหนุ่มรู้ดีว่าเพื่อนของเขามีวิธีจัดการกับอารมย์ของตนเองได้ดีเสมอ ความจริงในใจเขาเองก็พลุกพล่านมิต่างกัน แต่เขารู้ดี ว่ายังไม่หมดโอกาส
\"พอเดาได้ไหมว่าเรือลำนี้อีกนานเท่าไหร่ถึงจะเข้าเทียบฝั่ง?\"
คู่สนทนาสูดหายใจลึก กลืนอะไรบางอย่างลงคออย่างยากลำบาก\"เจ็ดถึงสิบนาที \"
\"ชั้นรู้ว่ามันจะไปไหน \"คำกล่าวของเขาทำให้อีกฝ่ายหันมามองทันควันด้วยสายตาประหลาด ขณะที่บริตวาหรี่ตาลงเล็กน้อยด้วยประกายอันยากจะหยังถึง\"เราตามมันทันแน่ \"
***
ยาวคับ ยาวย้าวยาว...สะใจมั้ยคะ? แต่คนเขียนสะใจชะมัด อย่างงี้ค่อยดูเป็นตอนหน่อย
ทิ้งไปหลายวัน หลายคนคงเจริญพรข้าบาทไปหลานกรรณแล้ว เหอๆๆ...ตอนนี้ก็ถูกใจคนรอบู๊แล้ว พูดไปจะเชื่อไหมเนี่ย ไม่ตอนหน้าก็ตอนหกล่ะจะจบแล้ว งงมะ? สั้นไหมล่ะ^o^
คนรอมิคาอิล ท่านก็จงรอต่อไป555 แต่ออกแน่นอนไม่ต้องห่วง(ออกแบบพระเอกสุดๆด้วย กรี๊ดตายกันไปข้าง...)
ตอนหน้าเรทนะ...BDSM(binding&sadism,masochism)ใครรอของโหดก็เตรียมเฮได้เลย(เตือนแล้วว่าNC-15)ตอนนี้ขอไปปั่นก่อน เหอๆๆๆๆ(ทำหน้าโรคจิตจากไป...)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น