ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอน 3(หลังจากหายเข้าป่าช้าไปนาน...)
โครม! เพล้ง!!!
เสียงความวินาศสันตะโรดังผ่านลำโพงโทรศัพท์ข้างหูเหมือนอย่างที่กะไว้ มือปืนหนุ่มดูไม่แปลกใจกับสิ่งที่ได้รับรู้นัก ขณะที่เสียงจากปลายสายร้องกลับมาเหมือนตะคอก\"แกว่าไงนะ มันออกจากประเทศแล้วอย่างงั้นเหรอ!!!\"
\"ครับท่าน \"บรั้คตอนกลับน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขา\"ตอนนี้พวกมันอยู่ในน่านน้ำสากล เป็นครั้งที่สองที่คุณคาวิลเดาใจศัตรูพลาด โดยเฉพาะผมเพิ่งสืบทราบว่าบอดี้การ์ดคนใหม่ที่คุณหนูรีน่ามีตอนนี้ ยังเป็นทีมเดียวกัน กับมิคาอิลอยู่ \"
\"แกมีสิทธิ์มาสอนชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? บรั๊ค\"
เจ้าของชื่อชะงักไปนิดหนึ่ง เพิ่งรู้ตัวว่าปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวแสดงออกมามากไปหน่อย โดยเฉพาะกับคนที่เหมือนเป็นเจ้านายกลายๆ
\"ขอโทษครับ \"
ปลายสายเงียบไปอีกอึดใจใหญ่ จากเสียงลมหายใจทำให้พอจะรู้ว่าคาวิลกำลังสงบสติตัวเองอย่างหนัก\" แกจะเอายังไง?\"
\"ไม่ต้องห่วงครับ\"เขาตอบแทบไม่ต้องคิด\"คุณคาวิลบินมารอกับบอสชางที่ฮ่องกงได้เลย ภายในหนึ่งหรือสองวันนี้ทีมของผมจะพาเป้าหมายเข้าไปหาในตึกเอง\"
\"แกมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ?\"อีกฝ่ายยังคงถามน้ำเสียงคลางแคลง
ผู้มีศักดิ์ต่ำกว่าหรี่ตาลงเล็กน้อย\"ครับผม \"
\"ให้มันได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน\"อดีตหัวหน้าราชิตกรุ๊ปโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทิ้งประโยคสุดท้ายไว้เป็นคำลาก่อนจะวางสายไป ปล่อยให้คู่สนทนาลดโทรศัพท์ลงกดปิดเหมือนไม่ใส่ใจกับนิสัยดูถูกคนของเขานัก
ถ้าเทียบกับความท้าทายในสายตาและชื่อเสียงของคนในความสนใจ นิสัยน่ารำคาญของคนอยากเป็นใหญ่ไม่ดูตัวเองอย่างคาวิลกระจอกไปเลย
คนที่มักใหญ่ใฝ่สูงจนออกนอกหน้าเป็นเรื่องปกติ แต่คนที่ก้าวลงมาจากบันไดทองสูงลิบลิ่วโดยไม่แยแสต่างหาก ที่น่าสงสัย
ว่าเอาอะไรมาจองหองในตัวเองขนาดนั้น
บรั๊คหันเงยมองย้อนแสงไปยังห้องพักสองสามชั้นเบื้องหลังพลางยิ้มมุมปากในความโชคดีของตัวเอง คราวนี้ล่ะ รอให้ทุกอย่างมันเข้าเป้าก่อน สิ่งที่ค้างคาใจมาตลอดห้าปี จะได้พิสูจน์ให้เห็นชาติกันไป
\"คุณทำอย่างงั้นกับเขาทำไม?\"
\"คนตายเล่านิทานไม่ได้ \"ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่ทรุดลงนั่งแล้วกางเลปท็อปประจำตัวตรงหน้า\"เคยได้ยินรึเปล่า?\"
\"แต่คุณก็ไม่น่าจะทำขนาดนั้น\"คู่สนทนายังคงดื้อรั้งตามนิสัย แต่อีกฝ่ายก็นิ่งเฉยพอกันจนดูไม่เหมือนลูกจ้างเข้าไปทุกที
\"คุณทำอย่างนั้นชั้นว่ามันจะน่าสงสัยมากกว่านะ\"
บริตวาถอนหายใจเฮือกอย่างเบื่อหน่าย\"คุณผู้หญิง \"บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยเต็มยศ หากคนที่รู้จักเขาดีจะสำเหนียกได้ไม่ยากว่าเริ่มอารมย์ไม่ปรกติ แต่น่าเสียดาย ที่เธอไม่ใช่หนึ่งในนั้น-_-\"
\"ลองคิดดูแล้วกัน ว่าระหว่างคนทั้งล็อบบี้ตรงนั้นสงสัยแต่ไม่มีหลักฐาน กับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วสามนาทีต่อมาลิ่วล้อของคาวิลเดินมาเอาปืนจี้แสกหน้าโอเปอเรเตอร์คนนั้นแล้วตะคอกถามว่าเราอยู่ที่ไหน แววบรรลัยของเหตุการณ์ไหนฉายชัดกว่ากัน?\"
รีน่าชะงักนิ่งคิด เป็นแค่ไม่กี่ครั้งในชีวิตที่คำพูดของคนอื่นทำให้ผู้ใช้วาทะเพื่อความสำเร็จอย่างเธอสะอึกนิ่งเงียบไปได้ ฝั่งผู้คุ้มกันหนุ่มแค่นหัวเราะเบาๆ
\"ความจริงผมเป็นคนขี้เกียจอธิบาย เข้าใจล่ะ ว่าทำไมคุณถึงแงะขากรรไกรของอาเดียโร่ให้พ่นออกมาเป็นชุดขนาดนั้นได้ \"
หญิงสาวระบายลมหายใจออกมาเบาๆ แววตาหรี่ลงด้วยประกายประหลาด น่าเสียดายที่คนนั่งหันหลังให้มิได้รับรู้แม้แต่น้อย\"คุณนี่ยิ่งกว่าที่ชั้นคิดไว้อีก \"
ปลายนิ้วที่พรมอยู่บนแป้นพิมพ์เกือบชะงัก แต่ก็แค่เกือบ เขาก็ยังสามารถกลบความรู้สึก ทำราวกับไม่สนใจกับน้ำเสียงจากด้านหลังแม้เศษเสี้ยว
\"มิคาอิลเค้าเล่าแค่ว่าคุณ เย็นชาไปหน่อย แต่เค้าไม่เห็นบอกเลยว่าคุณเป็นคนไม่มีหัวใจ \"
มิคาอิล อย่างนั้นหรือ
แววตาสะท้องแสงจากมอนิเตอร์ตรงหน้าฉายประกายอะไรบางอย่างที่แม้แต่เขาเองยังไม่เข้าใจ มุมหนึ่งหัวใจพลุกพล่านขึ้นมาไม่ทราบสาเหตุ แต่อีกมุมหนึ่ง อดสงสัยตัวเองไม่ได้
แกโมโหอะไรบริตวา?
\"เหรอ\"น้ำเสียงที่ออกมาจากลำคอนั้นเรียบเฉย เสมอต้นเสมอปลายจนคู่สนทนามิอาจจับสังเกตใดๆได้\"คุณคงสนิทกับเขามากสินะ กฎพื้นฐานของมือปืนคือไม่เปิดเผยข้อมูลเพื่อนร่วมทีม มิชชั่น หรือความลับอื่นๆโดยไม่จำเป็น แต่เขาบอกคุณ ปกติมิคาอิลเป็นคนรักษากฎพอสมควร \"
\"เขาเคยบอกชั้นว่ากฎไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต เราเกิดก่อน กฎตามเรามาทีหลัง \"
ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ หันไปมองร่างบางด้วยสีหน้าและแววตาไร้ความรู้สึกแบบที่เป็นอยู่ แต่เธอรู้ว่าไม่ใช่อุปทาน ความรู้สึก ที่เหมือนมีอะไรบางอย่างรายล้อมตัว และทำให้แววตาคู่เดิมนั้น น่ากลัวขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
\"รู้สึกว่ามิคาอิลจะมีอิทธิพลกับคุณมากเหลือเกินนะ!\"
พรึ่บ! เขากระชากข้อมือของอีกฝ่ายรั้งเข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ร่างสูง โปร่งถลันขึ้นยืนชิดใกล้จนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากกายของกันและกันได้ชัดเจน แววตาสีน้ำตาลเข้มที่ก้มลงมาสะกดให้หญิงสาวหยุดการดิ้นรนขัดขืนไปเสียเฉยๆ ทั้งๆที่สัญชาติญาณการเองตัวรอดและความประหวั่นในใจยังคงเต้นระริกไปทุกอณูเส้นประสาท แต่ดูเหมือนกล้ามเนื้อทุกส่วนจะไม่รับคำสั่งแล้วตอนนี้
แสงยามทิวากาลสว่างจ้า สาดส่องผ่านแผ่นกระจกใสสะอาดกระทบร่างทั้งสองจนดูเหมือนมีกรอบแสงอาทิตย์บางๆคลุมกายอยู่ ลมทะเลพัดพาไอมหาสมุทรกระทบชายม่านสีเดียวกับผืนน้ำภายนอกปลิวสะบัดแผ่วเบา สายตาที่เคยว่างเปล่าเหมือนไม่มีอะไรอยู่รอบข้างมีร่องรอบของอารมย์ที่เก็บไว้ภายในค่อยๆเผยออกมาเหมือนน้ำซึมบ่อทราย ทั้งอดีต ความทรงจำ ความเจ็บปวด
เธอเพิ่งจะได้พบมันเป็นครั้งแรก และถ้าเธอรู้จักเขามากกว่านี้
ผู้รับหน้าที่เป็นผู้อารักขาเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมออกจากหน้าอย่างแผ่วเบา ราวกับมือทั้งสองข้างนั้นไม่เคยกระชับอาวุธใดๆมาก่อน ก่อนจะวางหลังมือไว้บนหน้าผาก กิริยาทุกอย่างสุภาพไม่บุ่มบ่าม แล้วค่อยลดมือลงมาพร้อมกับคลายแขนอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ
\"ไม่มีไข้แล้ว แต่อย่าเพิ่งออกไปเดินตากลมข้างนอกเลยถ้าไม่จำเป็น เข้าไปในห้องเถอะ ผมไม่ได้ปิดม่าน ยืนตรงนี้นานๆล่อเป้าไปหน่อย \"บริตวาเตือนน้ำเสียงเรียบ เบา ไม่ห้วนสั้น ความอาทรเข้ามาแทนที่รังสีอำมหิตรอบกายที่เคยมีเสียหมดสิ้น รีน่ามองเขาเหมือนแปลกใจนิดๆกับการเปลี่ยนแปลงอารมย์อย่างฉับพลันของคนตรงหน้า แต่ที่มากกว่านั้นคือความเสียดาย
เธอกำลังจะเห็นอยู่แล้ว สิ่งที่อยู่ข้างในแววตาคู่นั้น
\"นะครับ\"
สุดท้าย เธอก็ต้องยอมแพ้กับคำขอร้องของเขาอยู่ดี หญิงสาวเดินผละไปท่าทางไม่แน่ใจเท่าใดนัก แต่เธอก็ปิดประตูมิดชิดเมื่อถึงที่หมาย ปล่อยให้เขาจมอยู่กับความรู้สึกตัวเอง
ความรู้สึกที่เป็นแค่ภาพเลือนรางในความทรงจำ
แต่เจ็บร้าวลึกชัดเจนในหัวใจ
ชายหนุ่มเดินโซเซทรุดลงกับเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์ที่เปิดค้างไว้ด้วยอาการเหม่อลอยคล้ายกับกำลังไร้สติ แอร์ในห้องเปิดไว้ไม่ต่ำกว่า25องศา แต่กลับรู้สึกหนาวเหน็บ ราวกับถูกฝังอยู่ในปอยหิมะละเอียดขาวโพลน
หิมะเปื้อนเลือดสีแดง
อาการเจ็บแปลบปวดลึกลงไปถึงกระดูกพุ่งขึ้นมาจากไหล่ด้ายซ้าย บอดี้การ์ดหนุ่มเอื้อมมือไปบีบผ่อนคลายมันพลางสะบัดหัวไล่ภาพหลอนทั้งหมดออกไป รู้ดีว่าทั้งหมดเป็นแค่อุปทาน อุปทานชัดเจนจากจิตใต้สำนึกที่บันทึกความรู้สึกนี้ไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาไม่รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอจากไป
ให้ตายสิ! ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรกับเขา!
ร่างโปร่งค่อยๆสูดหายใจลึกๆสองสามครั้ง หวังจะให้อ็อกซิเจนจากรอบข้างเข้าไปละลายความรู้สึกเหล่านั้นออกไป ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าช้าๆ ปรับจิตใจตัวเองเข้าสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว เหลือบตามองจอแอลซีดีตรงหน้าแล้วชะงักนิดหนึ่งเมื่อพบว่ามีอีเมลล์ฉบับใหม่ถูกส่งเข้ามา
ที่สำคัญคือ เขียนหัวจดหมายด้วยภาษารัสเซีย อันมีน้อยคนนักที่จะรู้ ว่าเขาใช้ภาษารัสเซียได้ดี
ชายหนุ่มกลอกตาอ่านเนื้อความทั้งหมดอย่างรวดเร็วด้วยความช่ำชองที่มีติดตัว ก่อนจะเอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้ ใคร่ครวนสิ่งที่เพิ่งรับรู้มาด้วยแววตาประหลาด ก่อนจะเหลือบตามองนาฬิกานิดหนึ่ง
ยังเหลือเวลาอีกหน่อย
บริตวาลบจดหมายฉบับนั้นออกจากตู้โดยไม่ต้องคิด ก่อนจะเปิดหน้าต่างใหม่ พิมพ์อะไรบางอย่างลงไปด้วยความหนักใจที่เพิ่มเท่าทวีคูณ จนคิดว่าตัวเองเข้าใจแล้ว ว่าทำไม เพื่อนของเขาจึงตัดสินใจส่งเธอมาให้พวกเขา
มหานครโตเกียว
ปี๊บ! ชายหนุ่มปิดมือถือตนเองลงเมื่อเช็คเมลด่วนที่เข้ามาเสร็จสิ้น ก่อนจะหย่อนลงกระเป๋าเสื้อด้วยสีหน้าครุ่นคิดชัดเจน จนคนที่ยืนอยู่ข้างกายถามฝ่าสายลมของดาดฟ้าตึกสามสิบชั้นอย่างสุภาพ
\"มีอะไรสั่งการหรือเปล่าครับท่าน?\"
ผู้มีศักดิ์สูงกว่าพยักหน้า\"ซากิ แกไปคัดลูกน้องฝีมือดีๆซักสองสามโหลนะ แกด้วย ขึ้นเครื่องไปฮ่องกงภายในคืนนี้ พยายามไปให้เงียบที่สุด อย่าให้อริหรือใครหน้าไหนเห็นเราได้ ถ้าถึงเมื่อไหร่ติดต่อมา แล้วชั้นจะบอกมิชชั่นไปอีกที \"
ซากิพยักหน้าอย่างไร้ความสงสัย เขาทำงานกับชายหนุ่มคนนี้มานานพอจะรู้ว่าทุกคำสั่งของสำคัญและชัดเจนพอที่จะไม่ต้องซักถามเพิ่มเติม
มิฉะนั้นมิสเตอร์เคคงไม่แลให้มาร่วมงานด้วย
หน้าหน้าโซนคาบสมุทรเกาหลีของราชิตกรุ๊ป โทยะ เรย์
***
สั้นจัง-_-\"ทะมายเราแบ่งตอนสั้นขนาดนี้เนี่ย...
ตอนหน้าเอายาวๆดีฝ่า สอบก็สอบแล้ว งานค้างก็เสร็จแล้ว ดองไว้กี่เรื่องๆจะได้ไปสางให้เสร็จซะที...
ขอโทษที่มันสั้นไปน้า ขอโทษจริงๆพอดีกะทิ้งท้ายไว้ให้ลุ้น กลายเป็นอย่างนี้ไปได้...
เสียงความวินาศสันตะโรดังผ่านลำโพงโทรศัพท์ข้างหูเหมือนอย่างที่กะไว้ มือปืนหนุ่มดูไม่แปลกใจกับสิ่งที่ได้รับรู้นัก ขณะที่เสียงจากปลายสายร้องกลับมาเหมือนตะคอก\"แกว่าไงนะ มันออกจากประเทศแล้วอย่างงั้นเหรอ!!!\"
\"ครับท่าน \"บรั้คตอนกลับน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขา\"ตอนนี้พวกมันอยู่ในน่านน้ำสากล เป็นครั้งที่สองที่คุณคาวิลเดาใจศัตรูพลาด โดยเฉพาะผมเพิ่งสืบทราบว่าบอดี้การ์ดคนใหม่ที่คุณหนูรีน่ามีตอนนี้ ยังเป็นทีมเดียวกัน กับมิคาอิลอยู่ \"
\"แกมีสิทธิ์มาสอนชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? บรั๊ค\"
เจ้าของชื่อชะงักไปนิดหนึ่ง เพิ่งรู้ตัวว่าปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวแสดงออกมามากไปหน่อย โดยเฉพาะกับคนที่เหมือนเป็นเจ้านายกลายๆ
\"ขอโทษครับ \"
ปลายสายเงียบไปอีกอึดใจใหญ่ จากเสียงลมหายใจทำให้พอจะรู้ว่าคาวิลกำลังสงบสติตัวเองอย่างหนัก\" แกจะเอายังไง?\"
\"ไม่ต้องห่วงครับ\"เขาตอบแทบไม่ต้องคิด\"คุณคาวิลบินมารอกับบอสชางที่ฮ่องกงได้เลย ภายในหนึ่งหรือสองวันนี้ทีมของผมจะพาเป้าหมายเข้าไปหาในตึกเอง\"
\"แกมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ?\"อีกฝ่ายยังคงถามน้ำเสียงคลางแคลง
ผู้มีศักดิ์ต่ำกว่าหรี่ตาลงเล็กน้อย\"ครับผม \"
\"ให้มันได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน\"อดีตหัวหน้าราชิตกรุ๊ปโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทิ้งประโยคสุดท้ายไว้เป็นคำลาก่อนจะวางสายไป ปล่อยให้คู่สนทนาลดโทรศัพท์ลงกดปิดเหมือนไม่ใส่ใจกับนิสัยดูถูกคนของเขานัก
ถ้าเทียบกับความท้าทายในสายตาและชื่อเสียงของคนในความสนใจ นิสัยน่ารำคาญของคนอยากเป็นใหญ่ไม่ดูตัวเองอย่างคาวิลกระจอกไปเลย
คนที่มักใหญ่ใฝ่สูงจนออกนอกหน้าเป็นเรื่องปกติ แต่คนที่ก้าวลงมาจากบันไดทองสูงลิบลิ่วโดยไม่แยแสต่างหาก ที่น่าสงสัย
ว่าเอาอะไรมาจองหองในตัวเองขนาดนั้น
บรั๊คหันเงยมองย้อนแสงไปยังห้องพักสองสามชั้นเบื้องหลังพลางยิ้มมุมปากในความโชคดีของตัวเอง คราวนี้ล่ะ รอให้ทุกอย่างมันเข้าเป้าก่อน สิ่งที่ค้างคาใจมาตลอดห้าปี จะได้พิสูจน์ให้เห็นชาติกันไป
\"คุณทำอย่างงั้นกับเขาทำไม?\"
\"คนตายเล่านิทานไม่ได้ \"ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ใส่ใจ ขณะที่ทรุดลงนั่งแล้วกางเลปท็อปประจำตัวตรงหน้า\"เคยได้ยินรึเปล่า?\"
\"แต่คุณก็ไม่น่าจะทำขนาดนั้น\"คู่สนทนายังคงดื้อรั้งตามนิสัย แต่อีกฝ่ายก็นิ่งเฉยพอกันจนดูไม่เหมือนลูกจ้างเข้าไปทุกที
\"คุณทำอย่างนั้นชั้นว่ามันจะน่าสงสัยมากกว่านะ\"
บริตวาถอนหายใจเฮือกอย่างเบื่อหน่าย\"คุณผู้หญิง \"บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยเต็มยศ หากคนที่รู้จักเขาดีจะสำเหนียกได้ไม่ยากว่าเริ่มอารมย์ไม่ปรกติ แต่น่าเสียดาย ที่เธอไม่ใช่หนึ่งในนั้น-_-\"
\"ลองคิดดูแล้วกัน ว่าระหว่างคนทั้งล็อบบี้ตรงนั้นสงสัยแต่ไม่มีหลักฐาน กับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วสามนาทีต่อมาลิ่วล้อของคาวิลเดินมาเอาปืนจี้แสกหน้าโอเปอเรเตอร์คนนั้นแล้วตะคอกถามว่าเราอยู่ที่ไหน แววบรรลัยของเหตุการณ์ไหนฉายชัดกว่ากัน?\"
รีน่าชะงักนิ่งคิด เป็นแค่ไม่กี่ครั้งในชีวิตที่คำพูดของคนอื่นทำให้ผู้ใช้วาทะเพื่อความสำเร็จอย่างเธอสะอึกนิ่งเงียบไปได้ ฝั่งผู้คุ้มกันหนุ่มแค่นหัวเราะเบาๆ
\"ความจริงผมเป็นคนขี้เกียจอธิบาย เข้าใจล่ะ ว่าทำไมคุณถึงแงะขากรรไกรของอาเดียโร่ให้พ่นออกมาเป็นชุดขนาดนั้นได้ \"
หญิงสาวระบายลมหายใจออกมาเบาๆ แววตาหรี่ลงด้วยประกายประหลาด น่าเสียดายที่คนนั่งหันหลังให้มิได้รับรู้แม้แต่น้อย\"คุณนี่ยิ่งกว่าที่ชั้นคิดไว้อีก \"
ปลายนิ้วที่พรมอยู่บนแป้นพิมพ์เกือบชะงัก แต่ก็แค่เกือบ เขาก็ยังสามารถกลบความรู้สึก ทำราวกับไม่สนใจกับน้ำเสียงจากด้านหลังแม้เศษเสี้ยว
\"มิคาอิลเค้าเล่าแค่ว่าคุณ เย็นชาไปหน่อย แต่เค้าไม่เห็นบอกเลยว่าคุณเป็นคนไม่มีหัวใจ \"
มิคาอิล อย่างนั้นหรือ
แววตาสะท้องแสงจากมอนิเตอร์ตรงหน้าฉายประกายอะไรบางอย่างที่แม้แต่เขาเองยังไม่เข้าใจ มุมหนึ่งหัวใจพลุกพล่านขึ้นมาไม่ทราบสาเหตุ แต่อีกมุมหนึ่ง อดสงสัยตัวเองไม่ได้
แกโมโหอะไรบริตวา?
\"เหรอ\"น้ำเสียงที่ออกมาจากลำคอนั้นเรียบเฉย เสมอต้นเสมอปลายจนคู่สนทนามิอาจจับสังเกตใดๆได้\"คุณคงสนิทกับเขามากสินะ กฎพื้นฐานของมือปืนคือไม่เปิดเผยข้อมูลเพื่อนร่วมทีม มิชชั่น หรือความลับอื่นๆโดยไม่จำเป็น แต่เขาบอกคุณ ปกติมิคาอิลเป็นคนรักษากฎพอสมควร \"
\"เขาเคยบอกชั้นว่ากฎไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต เราเกิดก่อน กฎตามเรามาทีหลัง \"
ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ หันไปมองร่างบางด้วยสีหน้าและแววตาไร้ความรู้สึกแบบที่เป็นอยู่ แต่เธอรู้ว่าไม่ใช่อุปทาน ความรู้สึก ที่เหมือนมีอะไรบางอย่างรายล้อมตัว และทำให้แววตาคู่เดิมนั้น น่ากลัวขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
\"รู้สึกว่ามิคาอิลจะมีอิทธิพลกับคุณมากเหลือเกินนะ!\"
พรึ่บ! เขากระชากข้อมือของอีกฝ่ายรั้งเข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ร่างสูง โปร่งถลันขึ้นยืนชิดใกล้จนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากกายของกันและกันได้ชัดเจน แววตาสีน้ำตาลเข้มที่ก้มลงมาสะกดให้หญิงสาวหยุดการดิ้นรนขัดขืนไปเสียเฉยๆ ทั้งๆที่สัญชาติญาณการเองตัวรอดและความประหวั่นในใจยังคงเต้นระริกไปทุกอณูเส้นประสาท แต่ดูเหมือนกล้ามเนื้อทุกส่วนจะไม่รับคำสั่งแล้วตอนนี้
แสงยามทิวากาลสว่างจ้า สาดส่องผ่านแผ่นกระจกใสสะอาดกระทบร่างทั้งสองจนดูเหมือนมีกรอบแสงอาทิตย์บางๆคลุมกายอยู่ ลมทะเลพัดพาไอมหาสมุทรกระทบชายม่านสีเดียวกับผืนน้ำภายนอกปลิวสะบัดแผ่วเบา สายตาที่เคยว่างเปล่าเหมือนไม่มีอะไรอยู่รอบข้างมีร่องรอบของอารมย์ที่เก็บไว้ภายในค่อยๆเผยออกมาเหมือนน้ำซึมบ่อทราย ทั้งอดีต ความทรงจำ ความเจ็บปวด
เธอเพิ่งจะได้พบมันเป็นครั้งแรก และถ้าเธอรู้จักเขามากกว่านี้
ผู้รับหน้าที่เป็นผู้อารักขาเอื้อมมือไปเกลี่ยปอยผมออกจากหน้าอย่างแผ่วเบา ราวกับมือทั้งสองข้างนั้นไม่เคยกระชับอาวุธใดๆมาก่อน ก่อนจะวางหลังมือไว้บนหน้าผาก กิริยาทุกอย่างสุภาพไม่บุ่มบ่าม แล้วค่อยลดมือลงมาพร้อมกับคลายแขนอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ
\"ไม่มีไข้แล้ว แต่อย่าเพิ่งออกไปเดินตากลมข้างนอกเลยถ้าไม่จำเป็น เข้าไปในห้องเถอะ ผมไม่ได้ปิดม่าน ยืนตรงนี้นานๆล่อเป้าไปหน่อย \"บริตวาเตือนน้ำเสียงเรียบ เบา ไม่ห้วนสั้น ความอาทรเข้ามาแทนที่รังสีอำมหิตรอบกายที่เคยมีเสียหมดสิ้น รีน่ามองเขาเหมือนแปลกใจนิดๆกับการเปลี่ยนแปลงอารมย์อย่างฉับพลันของคนตรงหน้า แต่ที่มากกว่านั้นคือความเสียดาย
เธอกำลังจะเห็นอยู่แล้ว สิ่งที่อยู่ข้างในแววตาคู่นั้น
\"นะครับ\"
สุดท้าย เธอก็ต้องยอมแพ้กับคำขอร้องของเขาอยู่ดี หญิงสาวเดินผละไปท่าทางไม่แน่ใจเท่าใดนัก แต่เธอก็ปิดประตูมิดชิดเมื่อถึงที่หมาย ปล่อยให้เขาจมอยู่กับความรู้สึกตัวเอง
ความรู้สึกที่เป็นแค่ภาพเลือนรางในความทรงจำ
แต่เจ็บร้าวลึกชัดเจนในหัวใจ
ชายหนุ่มเดินโซเซทรุดลงกับเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์ที่เปิดค้างไว้ด้วยอาการเหม่อลอยคล้ายกับกำลังไร้สติ แอร์ในห้องเปิดไว้ไม่ต่ำกว่า25องศา แต่กลับรู้สึกหนาวเหน็บ ราวกับถูกฝังอยู่ในปอยหิมะละเอียดขาวโพลน
หิมะเปื้อนเลือดสีแดง
อาการเจ็บแปลบปวดลึกลงไปถึงกระดูกพุ่งขึ้นมาจากไหล่ด้ายซ้าย บอดี้การ์ดหนุ่มเอื้อมมือไปบีบผ่อนคลายมันพลางสะบัดหัวไล่ภาพหลอนทั้งหมดออกไป รู้ดีว่าทั้งหมดเป็นแค่อุปทาน อุปทานชัดเจนจากจิตใต้สำนึกที่บันทึกความรู้สึกนี้ไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาไม่รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอจากไป
ให้ตายสิ! ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรกับเขา!
ร่างโปร่งค่อยๆสูดหายใจลึกๆสองสามครั้ง หวังจะให้อ็อกซิเจนจากรอบข้างเข้าไปละลายความรู้สึกเหล่านั้นออกไป ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าช้าๆ ปรับจิตใจตัวเองเข้าสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว เหลือบตามองจอแอลซีดีตรงหน้าแล้วชะงักนิดหนึ่งเมื่อพบว่ามีอีเมลล์ฉบับใหม่ถูกส่งเข้ามา
ที่สำคัญคือ เขียนหัวจดหมายด้วยภาษารัสเซีย อันมีน้อยคนนักที่จะรู้ ว่าเขาใช้ภาษารัสเซียได้ดี
ชายหนุ่มกลอกตาอ่านเนื้อความทั้งหมดอย่างรวดเร็วด้วยความช่ำชองที่มีติดตัว ก่อนจะเอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้ ใคร่ครวนสิ่งที่เพิ่งรับรู้มาด้วยแววตาประหลาด ก่อนจะเหลือบตามองนาฬิกานิดหนึ่ง
ยังเหลือเวลาอีกหน่อย
บริตวาลบจดหมายฉบับนั้นออกจากตู้โดยไม่ต้องคิด ก่อนจะเปิดหน้าต่างใหม่ พิมพ์อะไรบางอย่างลงไปด้วยความหนักใจที่เพิ่มเท่าทวีคูณ จนคิดว่าตัวเองเข้าใจแล้ว ว่าทำไม เพื่อนของเขาจึงตัดสินใจส่งเธอมาให้พวกเขา
มหานครโตเกียว
ปี๊บ! ชายหนุ่มปิดมือถือตนเองลงเมื่อเช็คเมลด่วนที่เข้ามาเสร็จสิ้น ก่อนจะหย่อนลงกระเป๋าเสื้อด้วยสีหน้าครุ่นคิดชัดเจน จนคนที่ยืนอยู่ข้างกายถามฝ่าสายลมของดาดฟ้าตึกสามสิบชั้นอย่างสุภาพ
\"มีอะไรสั่งการหรือเปล่าครับท่าน?\"
ผู้มีศักดิ์สูงกว่าพยักหน้า\"ซากิ แกไปคัดลูกน้องฝีมือดีๆซักสองสามโหลนะ แกด้วย ขึ้นเครื่องไปฮ่องกงภายในคืนนี้ พยายามไปให้เงียบที่สุด อย่าให้อริหรือใครหน้าไหนเห็นเราได้ ถ้าถึงเมื่อไหร่ติดต่อมา แล้วชั้นจะบอกมิชชั่นไปอีกที \"
ซากิพยักหน้าอย่างไร้ความสงสัย เขาทำงานกับชายหนุ่มคนนี้มานานพอจะรู้ว่าทุกคำสั่งของสำคัญและชัดเจนพอที่จะไม่ต้องซักถามเพิ่มเติม
มิฉะนั้นมิสเตอร์เคคงไม่แลให้มาร่วมงานด้วย
หน้าหน้าโซนคาบสมุทรเกาหลีของราชิตกรุ๊ป โทยะ เรย์
***
สั้นจัง-_-\"ทะมายเราแบ่งตอนสั้นขนาดนี้เนี่ย...
ตอนหน้าเอายาวๆดีฝ่า สอบก็สอบแล้ว งานค้างก็เสร็จแล้ว ดองไว้กี่เรื่องๆจะได้ไปสางให้เสร็จซะที...
ขอโทษที่มันสั้นไปน้า ขอโทษจริงๆพอดีกะทิ้งท้ายไว้ให้ลุ้น กลายเป็นอย่างนี้ไปได้...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น