ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CLasH DimensioN Online-ท้าชนคนทะลุเกมส์

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter01 จ้าวแห่งเกมส์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 280
      0
      9 มิ.ย. 54

                            [Clash Dimention Online]

                        Chapter01-จ้าวแห่งเกมส์

     

    “ไคเซอร์!!” 

     เสียงตะโกนเรียกชื่อๆหนึ่งดังขึ้น คนที่ถูกเรียกชื่อพยายามรวบรวมสติค่อยๆยืนขึ้นมาอีกครั้ง

    “ระวังด้านหลัง!!!” ผู้ตะโกนเรียกชื่อเป็นหญิงสาวในชุดอีเนอร์จีสูทสีดำกำลังวิ่งตรงไปยังเด็กหนุ่มเพื่อทำการรักษาพยาบาล                   

    “ ตูมม!!!!” เสียงระเบิดดังกึกก้องพร้อมร่างของคนสองคนปลิวไปคนละทิศทาง ลอยละลิ่วไปอยู่คนละฝั่งของสนาม

    “ไคเซอร์ อีเทอน่า!!!!” เด็กหนุ่มใส่แว่นอีกคนตะโกนเรียกเพื่อนทั้งสองที่พึ่งถูกคลื่นพลังแสงเมื่อครู่จู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว

     

       หนุ่มใส่แว่นในชุดอีเนอร์จีสูทสีน้ำเงินเงยหน้ามองดูเอลี่ยนยักษ์ขนาดมหึมา ลำตัวที่เหมือนกับหุ้มเกราะของมันมองดูคล้ายแมลงป่องยักษ์ขนาดเท่าตึกสองชั้น....

       ขณะนี้คนสามคนยืนอยู่ท่ามกลางลานวงกลมสีขาวขนาดเท่าสนามฟุตบอล ที่อยู่ตรงหน้าเป็นอสูรกายขนาดใหญ่โตเกินพรรณนา ชื่อของมันคือวาฮาเม้น วาฮาเม้นเป็นเอเลี่ยนชนิดหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่ากลัวที่สุดด้วยความแข็งแกร่งของเกราะที่เป็นอันเดียวกับตัวของมัน ทั้งเมื่อมันอ้าปากยังสามารถยิงบอลสายฟ้าที่มีพลังทำลายล้างรุนแรงสูงออกมาจากปากของมันได้อย่างไม่จำกัด.....

    ...โฮกกก... มันร้องคำรามพร้อมเตรียมปล่อยบอลสายฟ้าลูกต่อไป กระแสไฟฟ้าค่อยๆรวบรวมขึ้นก่อเกิดเป็นลูกกลมขยายใหญ่สว่างจ้า เกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนขึ้นรอบบริเวณ แม้คนทั้งสามจะพยายามทรงตัวให้มั่นคงยังต้องก้มลงเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย

    “อัดมันเข้าไปอย่าหยุดยั้ง!!” ไคเซอร์ร้องตะโกนขึ้นขณะหลังจากลุกขึ้นมาได้ แขนของเขาเริ่มเปลี่ยนสภาพเป็นอาวุธปืนรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดเท่าปืนกลเจาะเกราะรถถัง  อาวุธนั้นค่อยๆกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับอวัยวะที่เราเรียกกันว่าแขน

    ตรึมๆๆๆๆๆ กระสุนแสงสีส้มถูกระดมยิงออกจากลำแขนของคนทั้งสามอย่างต่อเนื่อง อัดปะทะเข้าใส่เกราะของวาฮาเม้นเกิดเป็นประกายไฟแตกกระจายออก แต่เหมือนการระดมยิงนั้นไม่อาจทำให้อสูรกายระคายเคืองได้เลย

    ตูมม   มันปล่อยบอลแสงลูกที่สองออกมาจากปากของมัน คนทั้งสามรีบพุ่งตัวหลบ ปล่อยให้พลังอัดลงพื้นเป็นสะเก็ดสีขาวแตกกระจายออกมา สะเก็ดเหล่านั้นแปรสภาพเป็นตัวเลขดิจิตัลค่อยๆปลิวสลายหายไปในอากาศ

    “ วินเซน!! อีเทอน่า!! ใช้ซุปเปอร์โนวาบูลเลซเอ็กตรีม”  ไคเซอร์ร้องตะโกนบอกเพื่อนอีกสอง 

    “อ่า ว่าไงนะ อย่าบอกนะว่านายจะใช้มัน นั่นมันบ้าชัดๆ” เด็กแว่นตะโกนตอบหน้าตาตื่นตะหนก ราวกับว่านั่นเป็นคำพูดที่เขากลัวมันจะหลุดออกจากปากของไคเซอร์ที่สุด แต่เนื่องจากนั้นเป็นคำสั่งของกัปตันทีม ไม่สามารถขัดได้ คนทั้งสามเมื่อมั่นใจว่าทิ้งระยะห่างออกมาจากรัศมีการโจมตีของวาเฮมเม้นแล้วค่อยวิ่งมารวมกลุ่มกัน

    “ฟังนะ วินเซน อีเทอน่า นี่เป็นด่านสุดท้ายแล้ว อีกอย่างเราใช้เซฟหมดแล้วด้วย ถ้าไม่เสี่ยงก็ไม่มีวันชนะเกมส์นี้!!” ไคเซอร์พูดด้วยเสียงอันดัง หันไปมองตาคนทั้งสองพร้อมยิ้มอย่างเชื่อมั่น ก่อนจะพูดต่อ

    “นายทั้งสองต้องให้ชั้นยืมพลังทั้งหมด จากนั้นวินเซน ”    เขาพูดพร้อมหันไปทางเด็กแว่น    “นายยิงล่อให้มันปล่อยกระสุนไฟฟ้านั่น ขณะที่มันยังอ้าปาก ชั้นจะอัดพลังทั้งหมดเข้าไปในปากของมัน ส่วนอีเทอน่าเธอ........”

    เด็กหนุ่มมองไปที่หญิงสาวผมสั้นเหมือนกับต้องตัดใจบางอย่าง ค่อยพูดขึ้น “เธอวิ่งไปกับอินเซน....”

    “อ่า งั้นตามนี้ ยังไงซะมาถึงตรงนี้ได้ชั้นก็นอนตายตาหลับแล้ว”  วินเซนยิ้มพร้อมเอื้อมมือมาตรงหน้าคนทั้งสอง ไคเซอร์กับอีเทอน่าวางมือประกบลงพร้อมกัน ปล่อยให้พลังแสงสีขาวไหลจากเกราะของอีเทอน่าและวินเซนส่งไปยังเกราะของไคเซอร์  เมื่อสังเกตที่แขนคนทั้งสามจะเห็นว่ามีช่องพลังเป็นเส้นแสงสีแดงคล้ายนาฬิกาข้อมือพันอยู่รอบ ขีดพลังเส้นแสงสีฟ้าบนข้อมือของไคเซอร์ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งเต็มเปี่ยม ไม่นานนักชุดเกราะของไคเซอร์ค่อยๆสว่างขึ้นทีละน้อยๆ จนกระทั่งสว่างจ้า

     

    “แคลชชิ่งงงง!!! ทั้งสามตะโกนขึ้นพร้อมกัน เสียงที่ตะโกนออกมาเป็นชื่อทีมนั่นเอง

    ลุย” ทั้งสามแยกย้ายกันไปสองทาง เข้าสู่พื้นที่ระยะทำลายของวาฮาเม้น นามิกับวินเซนวิ่งไปก่อนล่อให้อสูรกายมองตาม

      เปิดฉากสงครามขึ้นอีกครั้งจากการระดมยิงพลังที่เหลืออีกไม่มากนักอัดเข้าใส่ใบหน้าของมันต่อเนื่อง แม้ว่าจะไร้ผลก็ตามอย่างน้อยก็ถ่วงเวลาให้ไคเซอร์ชาร์ตพลังได้

    “ไอ้แมลงกุดจี่ ทางนี้ครับ ฮ่าๆ สายตาสั้นอะเปล่านายหน่ะ”  วินเซนกับอีเทอน่าวิ่งไปพลางพยายามล่อให้สัตว์อสูรมองตามไป ก่อนจะกระโดดขึ้นพร้อมกัน


    ......ฮูมมม.......

       แมงป่องน่าเกลี่ยดน่ากลัวรวมพลังของมันอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ลูกบอลสายฟ้านั้นใหญ่กว่าเดิม กระแสไฟฟ้ากระจายอยู่รอบบริเวณทำลายเกราะของอีเทอน่ากับวินเซนได้รับความเสียหายเล็กน้อย ขณะที่คนทั้งสองลอยอยู่กลางอากาศระดมยิงพลังใส่ต่อเนื่อง


    ......ซูมมมมมม...........

       วาโฮเม้นคายลูกบอลไฟฟ้าลูกยักษ์บรมของมันออกมา ลูกบอลไฟฟ้าที่อัดด้วยประจุมหาศาลส่งผ่านออกมาคลอบคลุมเนื้อที่ขนาดใหญ่ คนทั้งสองเพิ่มความเร็วขึ้นอีกเพื่อหลบให้พ้นรัศมีพลัง

    ...ตูมมม....

       อีเทอน่ากับวินเซนหลบรอดการโจมตีอย่างหวุดหวิด เป็นเวลาเดียวกับที่ไคเซอร์วิ่งเข้ามาแต่ไกล สปีดของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เร็วขึ้น เร็วขึ้นจนกระทั้งมองไม่เห็นผู้ที่วิ่ง!!!

       สภาพรอบๆตัวของเด็กหนุ่มในตอนนี้ทุกอย่างดูเคลื่อนที่ช้ากว่าปกติ มองเห็นระเบิดที่ค่อยๆระเบิดขึ้นเหมือนมองดูดอกไม้กำลังเบ่งบานทีละนิด  เขาวิ่งเข้ามาใกล้สัตว์ประหลาดห่างไม่ถึงร้อยเมตรค่อยอัดพลังไปที่ข้อเท้ากระโดดขึ้น หันกระบอกปืนเล็งไปที่สัตว์ประหลาดนั้น

    “ย๊ากกกกก” ไคเซอร์กู่ร้องพร้อมปลดปล่อยพลังทั้งหมดรวมเป็นลำแสงสีฟ้าที่กระบอกปืนอัดแน่นจนเต็มกำลัง

    ......ตรึมมมมมม!!!.....

        ซุปเปอร์โนวาบูลเลซเอ็กตรีมปะทุออกจากกระบอกปืน เป็นลำแสงหมุนวนด้วยความเร็วสูง มีคลื่นพลังสีแดงเป็นสายหมุนล้อไปรอบๆ วิ่งตรงเข้าไปในปากของวาโฮเม้น

     

    ......บรึ้มมมมม......

     

       ชิ้นส่วนทั้งเกราะหุ้มตัวของมันแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นเนื้อมีคราบน้ำเมือกเหลวสาดกระจายออกทั่วทิศทางพร้อมกับของเหลวสีเขียวเปอะไปทั่วทั้งพื้น  มองกลับไปไม่ทราบว่าเป็นตัวอะไรกันแน่

    “ย้าฮู้” วินแซนกระโดดโลดเต้นขึ้น เมื่อเห็นว่าอสูรกายนั้นเหลือเพียงซาก อีเทอน่าก็เช่นกัน ถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาขณะที่มองดูไคเซอร์ทิ้งตัวลงมาจากนภากาศเบื้องบนลงมายืนอยู่บนพื้นอย่างนิ่มนวล

    .........Game Over, You Win........

    ตัวหนังสือแสงสีขาวขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนฟ้า พร้อมตัวเลขคะแนนที่วิ่งไม่หยุด

    “ยินดีด้วยค่ะ คุณชนะแล้ว” เสียงประกาศดังก้องกังวานรอบสนามเพาะวงกลม พร้อมกับตัวหนังสือวิ่งหมุนไปรอบๆ

    “ชนะแล้วววววว” วินเซนร้องตะโกนออกมาอย่างดีใจ “พ่อครับแม่ครับ ในที่สุดผมก็ทำได้แล้ว” เขาถอดแว่นออกใช้มือปาดเช็ดน้ำตา

      หญิงสาวทรุดไปนั่งกับพื้น ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสุข เพราะไม่นึกฝันว่าจะมาจนถึงเลเวลสุดท้าย

     ไคเซอร์มองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมหลับตานึกย้อนกลับไป...

    .....ในที่สุดทีมของผมก็ชนะ หลังจากที่เล่นเกมส์นี้มานานกว่าร้อยหกสิบแปดชั่วโมง กับอีกสองนาที นี่เป็นเกมส์ที่ผมใช้เวลามากที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นมา พี่ครับผมทำได้แล้ว ผมสามารถชนะเกมส์ที่ใครต่อใครก็ว่ายาก ผมทำในสิ่งที่พี่อยากให้ผมทำสำเร็จแล้ว....

     

    “ไคเซอร์” หญิงสาวเรียกเด็กหนุ่ม “เราชนะแล้วทำไมระบบยังไม่เรียกตัวกลับหล่ะ?” อีเทอน่าถาม ทำให้เด็กนุ่มค่อยสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ

    “อ่า จริงด้วย น่าจะมีประตูออกจากเกมส์แล้วนี่นา” วินเซนพูเสริมขึ้นมา พร้อมกับมองไปรอบๆ ตัวหนังสือก็ยังค้างอยู่แบบนั้น

     

    ......ขณะที่คนทั้งสามกำลังงุนงงอยู่นั้น มีบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอกเกมส์...

     

       ภายในห้องกระจกสี่เหลี่ยมจัตุรัส ร่างผอมบางนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาสีแดงขนาดใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยทีมงานในชุดสูทสีขาวทั้งหญิงชายราวเจ็ดชีวิต เบื้องหน้าของพวกเขาเป็นหน้าจอลำแสงแสดงภาพกว่าหลายสิบหน้าจอ

     

    “ชิ” เด็กหนุ่มในชุดสูทสีดำอายุสิบเจ็ดสำทับออกมาชณะมองไปที่ทีวีจอยักษ์ตรงหน้า เขายกมือทั้งสองขึ้นมาขยี้ทรงผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเองอยู่แล้วให้ยุ่งเหยิงขึ้นไปอีกค่อยวางมือลงบนเก้าอี้แดงตัวโปรด จากนั้นหันไปหาหญิงสาวหน้าสวยที่นั่งอยู่เยื้องไป

    “เช็คประวัติเจ้าเด็กนั่นดูที” เชาชี้นิ้วสั่งการบางอย่าง  หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นโชวใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ใช้ชื่อยูสเซอร์ว่าไคเซอร์

    “ค่ะท่าน” หญิงสาวเลื่อนมือแตะหน้าจอที่ลอยอยู่บนอากาศ หน้าจอนั้นเปลี่ยนเป็นรูปใบหน้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง จากนั้นหล่อนค่อยอ่านรายละเอียดออกมา

    “ไคเซอร์ เป็นชื่อยูสเซอร์ของนายชนาธิป แซ่ซ่งอายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา เคยชนะเลิศมหกรรมเกมออนไลน์ที่จัดแข่งขึ้นทั่วโลกกว่าสิบสามเกม ทั้งสิบสามเกมยังเป็นเกมที่ทำคะแนนได้สูงที่สุดในประวัติการ เขามีพี่ชายคนหนึ่งที่เคยเป็นตำนานใช้ชื่อยูสเซอร์ว่า โกเฮลค่ะ...”

    ออเปอเรเตอร์สาวสวยอ่านยังไม่ทันจบเด็กชายสวมสูทก็ยกมือขึ้นสั่งให้หยุด พร้อมมองดูหน้าจออย่างพินิจพิเคราะห์ค่อยพูดขึ้น

    “ชิ เกมของชั้นพึ่งเปิดให้ออนไลน์ไม่ถึงเดือน มันเป็นใครใช้เวลาไม่ถึงสองอาทิตย์เอาชนะเกมส์ที่ชั้นออกแบบมากว่าห้าปีได้ ทั้งๆที่ทีมอื่นยังติดอยู่ที่เลเวลสิบกว่า แต่ทีมนี้พรวดเดียวก้าวกระโดดมาถึงเลเวลเก้าๆ ให้ตายสิโรบินสันเซ็นเตอร์” เด็กในชุดสูทพูดขึ้น

    “ท่านไวด์ครับ” เสียงๆหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของเขา

    ........ที่แท้ไวด์เป็นชื่อของเด็กหนุ่มในชุดสูทสีดำ หน้าตาของเขาดูไปมาคล้ายเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น เนื่องเพราะตาชั้นเดียว ทั้งผิวที่ขาวเกือบซีดคล้ายเด็กอมโรค แต่ด้วยวัยเพียงสิบเจ็ดปีได้ขึ้นเป็นหัวหน้าทีมงานสร้างเกมส์ออนไลน์ตำแหน่งนี้จึงเป็นสิ่งที่คนต่างเกรงใจ ทั้งเมื่อได้รับตำแหน่งไม่นานความไฟแรงผลักดันให้เขาได้รับเลือกให้สร้างเกมที่บริษัททั้งหลายต่างแย่งกันประมูลเพื่อที่สร้างขึ้นมา....

     

    ........สเปซไดเมนชั่น.........

     

       เกมส์จำลองอวกาศที่เป็นที่ฮือฮากันมากในตอนนี้ เพราะความแตกต่างของเกมที่นอกจากผู้เล่นจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของการไล่ล่ามนุษย์ต่างดาวแล้ว อีกทั้งผู้เล่นจะไม่ถูกกำหนดด้วยเลเวลแต่สามารถเก็บคะแนนเป็นค่าเปอร์เซนแทน ในที่นี้เรียกว่าอีจีแอล(อีเนอร์จีไลฟ์) ถึงผู้เล่นจะออกจากเกมส์ไปเมื่อลงทะเบียนกลับมาเล่นใหม่ก็ยังสามารถใช้พลังงานเดิมได้...ดังนั้นพลังงานนี้จึงไม่จำกัด

     

    “นายหนูครับ จะให้กระผมประกาศลงในเซิฟเวอร์โลกเลยไม๊ครับว่ามีคนเอาชนะเกมส์นี้ได้แล้ว” เจ้าของเสียงเป็นชายกลางคนตัวสูงในชุดทักสิโด้สีดำ ยืนอยู่ข้างหลังไวด์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ฟังดูเหมือนเคยเป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์แด็กคิวล่ามาก่อน

    “ไม่ต้อง พวกมันยังจบเกมส์ไม่ได้ ถ้าเกมส์จบง่ายขนาดนี้ชั้นก็คงถูกคนในวงการเดียวกันมองว่าออกแบบเกมส์มาได้ให้เด็กปัญญาอ่อนเล่นสิ ชิ” ไวด์โวยวายขึ้นมา หันขวับไปทางโปรแกรมเมอร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถามขึ้น

    “เรามีพวกเอเลี่ยนเหลืออีกไม๊?” เขาถามขึ้น พร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้บัญชาการกลางอีกครั้ง ใช้มือลูบคางไปมา

    “ท่านไวด์ครับ เอเลี่ยนที่เราเขียนโปรแกรมขึ้นก่อนหน้าเราก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้แล้วครับ เพราะว่าคุณพ่อคุณหนูเป็นคนเขียนโปรแกรมพื้นฐานเอาไว้” โปรแกรมเมอร์ร่างท้วมหันหน้ามาตอบ พร้อมคอยสังเกตดูปฏิกิริยาชองนายต่อไปว่าจะให้ทำอย่างไร

    “ชิ ชิ” ไวด์สบถขึ้น เลื่อนมือไปในอากาศ หมุนแอร์มอนิเตอร์ตรงหน้าเพื่อดูว่าตนเองจะทำอะไรได้บ้าง

    “นี่ไงหล่ะ เราก็แค่รีเซ็ทระบบใหม่แล้วปล่อยมอนสเตอร์ออกมาเล่นงานพวกมันให้หมด” ไวด์พูดพร้อมยิ้มอย่างพึงพอใจกับวิธีการอันป่าเถื่อนของตน หยุดนิ่งเพื่อรอฟังคำตอบจากทีมงาน

    “แว๊กกก!!!  ไม่ได้ครับท่านไวด์ นั่นหมายถึงทุกคนที่กำลังออนไลน์อยู่ตอนนี้ก็จะหลุดออกหมดสิครับ” โปรแกรมเมอร์ทักท้วง

    “ชิ อะไรก็ไม่ได้ งั้นชั้นไม่เป็นผู้บริหงบริหารอะไรมานแล้ววว ชิ” ไวด์ยังคงดื้อดึงโวยวายอยู่อย่างเดิม

    “ใจเย็นครับคุณหนู คุณหนูก็แค่พาพวกเขาออกมาแล้วต่อยหน้าไอ้คนที่เป็นกัปตันทีม ก็คงสะใจแล้วกระมั้งครับ” ชายร่างสูงแนะนำด้วยถ้อยคำสุภาพ

    “ดีซ่าน ชั้นรู้ว่านายพยายามให้กำลังใจชั้น แต่ให้ชั้นต่อยมันก่อนที่จะมอบรางวัลให้มันเนี่ยนะ นายใช้สมองส่วนหนายยยคิด”

     

    ......ดีซ่านเป็นชื่อของพ่อบ้านที่คอยดูแลไวด์มาตลอด พ่อของไวด์ไว้ใจให้ดีซ่านมาคอยดูแลหนุ่มเอาแต่ใจคนนี้เพราะเหตุผลบางประการ.....

    “ชิ สมองชั้นไม่แล่น ดีซ่านตั้งโจทย์มาข้อหนึ่ง” เด็กหนุ่มพูดกับพ่อบ้านพร้อมเอาสมุดบันทึกเล่มเล็กสีดำที่พกพาเอาไว้ตลอดออกมาจากกระเป๋ากางเกง ค่อยๆกรีดนิ้วเปิดไปทีละหน้าจนไปหยุดอยู่หน้าหนึ่งค่อยหันมารอคำตอบจากพ่อบ้านของตน

    “หกจุดห้าบวกสามจุดสองห้าสองครั้งเท่ากับเท่าไหร่?” ดีซ่านถามขึ้นคล้ายกับว่ามันเป็นเรื่องปกติของเขา

    “สิบสามไงหล่ะ ว้าว เลขนำโชค”ไวด์ตอบขึ้นมาทันทีที่ประโยคคำถามจบลง เขามองไปที่สมุดบันทึกของเขาไล่นิ้วไปตามหัวข้อต่างๆ นิ้วชี้ไปหยุดอยู่ที่เลขสิบสามบนหน้าสมุดพอดี

    “เอเลี่ยนบอสสำรองตัวที่สิบสาม ใช่แล้ว ชั้นจะปล่อยบอสตัวนี้ออกไปจัดการพวกมัน” ไวด์อ่านออกเสียงจากนั้นพึมพำขึ้นมาก่อนยิ้มอย่างมีเลศนัย

    “ท่านครับ แต่ว่าเอเลี่ยนตัวนี้เป็นตัวที่ยังไม่สมบูรณ์นะครับ ทางทีมงานออกแบบก็รายงานมาว่ามันเป็นความผิดพลาด ถ้าพ่อคุณหนูรู้เข้า...” โปรแกรมเมอร์อีกคนพูดขึ้น

    “ชิ ชิ แล้วจะทำไม จะถอดกางเกงชั้นออกมาแล้วเอามือตีก้นงั้นเรอะ” ไวด์พูดพร้อมกวาดสายตาไปมองรอบๆ เมื่อได้ยินเสียงทีมงานผู้หญิงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ค่อยทำเคร่งขรึมขึ้นใหม่

    “ชิ ยังไงพวกมันก็ใช้พลังไปกันหมดแล้ว ยิ่งเจ้านี่คือบอสใหญ่ด้วยแม้ว่ามันจะเป็นเอเลี่ยนเวอร์ชั่นเก่าก็ตาม ส่งมันออกไป!!!”เขาพูดพร้อมออกคำสั่ง

    “แต่ท่านครับ....” โปรแกรมเมอร์ร่างท้วมยังคงพยายามคัดค้านขึ้นมา แววตาส่อแววกังวลแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้สนใจ

    “ยุ่งยากนัก มานี่ชั้นปล่อยไปเอง” ไวด์อารมณ์หงุดหงิดพร้อมวาดมือไปในอากาศสั่งแผงหน้าจอขึ้นมาปรากฏ ค่อยวางมือทาบลงไปบนคีย์บอร์ดรัวนิ้วป้อนคำสั่งบางอย่างใส่เข้าไป จากนั้นกดปุ่มตกลง

    “ กำลังดาวโหลดเอเลี่ยนบอสหมายเลขสิบสามครับ” เสียงของระบบดังขึ้นมา เด็กหนุ่มเมื่อได้ยินการยืนยันนึกกระหยิ่มอยู่ในใจค่อยเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ มองดูที่จอยักษ์ตรงหน้าราวกับว่ากำลังจะได้ชมภาพยนตร์ที่ตนโปรดปราณ

     "นี่แค่เริ่มต้น" ไวด์พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ

     

    .......บอสใหญ่อีกตัวถูกปล่อยออกไปแล้ว.........

    to be next.

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×