ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Under Lie [Fic : Hunter x Hunter]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 02

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.88K
      43
      4 พ.ย. 50







    Fanfiction

    Project : Hunter x Hunter

    Under Lie

    Chapter 02

     

     

    เวลา  2  ทุ่ม  ห้องเช่าในโรงแรม

    เด็กชายอายุประมาณ 12  ปีที่มีผมตั้งสีดำและสวมเสื้อสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงพลางมองมือถือรูปทรงตัวด้วงในมืออย่างกระในกระวายใจ  เพราะเพื่อนของเขาสัญญาเอาไว้ว่าจะติดต่อมาหลังจากแยกกันเมื่อตอนเย็น  แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณโทรเข้าหรือแมสเซสอะไรเลย

    กอร์น  ถ้านายเป็นห่วงขนาดนั้นล่ะก็  โทรไปหาก็ได้นี่  ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำที่นั่งอยู่บนเตียงข้างๆ พูดขึ้นหลังจากมองเพื่อนของเขาอยู่นาน

    แต่ชั้นกลัวว่าจะโทรไปขัดจังหวะอะไรคิรัวร์แล้วทำให้เขาเดือดร้อนน่ะสิ  อีกอย่างคิรัวร์ก็เป็นคนบอกเองว่าจะเป็นคนโทรมา

    ถ้างั้นนายก็ใจเย็นๆ แล้วเชื่อใจคิรัวร์สิ

    ชั้นรู้  แต่มันก็อดห่วงไม่ได้นี่นา  เลโอลีโอไม่ห่วงเหรอ?

    ห่วงดิ  แต่นายบอกว่าน้องสาวไม่ใช่เหรอ  เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอกน่าถ้าเป็นเจ้าพี่ชายผมยาวนั่นสิถึงน่าห่วง  ยังไงก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นพี่ชาย  เขาว่าพลางล้มตัวลงนอน  และรู้สึกเหนื่อยเต็มทีหลังจากเดินทางที่ค่อนข้างยากลำบาก

    อืม...ขอบใจนะเลโอลีโอ  อีกฝ่ายก็โบกมือเป็นเชิงรับคำขอบคุณและกำลังจะหลับ  แต่โทรศัพท์ของกอร์นก็ดึงให้ตื่นซะก่อน

    ฮัลโหล  เป็นไงบ้างคิรัวร์?  เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?เจ้าของรีบรับสายด้วยท่าทางที่ดีใจสุด ๆ

     

    อืม...ก็ไม่มีอะไรนี่  ทำไมถามแบบนั้นล่ะ?

     

    ก็ตอนนั้นนาย.....

     

    อ้อ  นั่นน่ะเหรอ  คัลโตเขาโกหกเพราะหนีออกจากบ้านมาน่ะ  แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดีก็เลยลองสืบดูว่าชั้นอยู่ที่ไหน  แล้วก็มาเจอเนี่ยแหละ

     

    งั้นเหรอ  ค่อยยังชั่ว  ชั้นก็นึกว่ามีเรื่องอะไรกันซะอีก  งี้ให้คัลโตจังมาอยู่กับพวกเราก็ได้นี่  อยู่กันหลายๆ คนน่าสนุกออก

     

    เฮ้อ....กอร์น  นายนี่ความจำสั้นรึไง  ลืมไปแล้วเรอะว่าเธอไม่ชอบนายน่ะ

     

    อืม....ก็จริง  แต่ถ้าลองอยู่ด้วยกันจริงๆ อาจจะ.....

     

    อย่าเลยน่ากอร์น  เดี๋ยวน้องสาวชั้นก็ฆ่านายตายซะก่อนหรอก  ฝีมือเขาไม่เก่งเท่าพวกเราก็จริง  แต่ชั้นรู้ว่ายังไงเขาก็ต้องหาวิธีจนได้นั่นแหละ

     

    อืม...เธอเกลียดชั้นขนาดนั้นเลยเหรอ......?  เขาอดไม่ได้ที่จะถามอย่างมีความหวังเล็กๆ ว่าเธอคงจะไม่

     

    ........เอาน่า  ไม่ต้องห่วง  อีกฝ่ายตัดบทเพราะไม่อยากจะทำให้เขาเสียใจ  คัลโตบอกว่าจะอยู่ซัก 3-4  วันถึงจะยอมกลับบ้านน่ะ  แต่อยู่คนเดียวก็น่าเป็นห่วง  ชั้นเลยว่าจะอยู่ด้วยจนกว่าจะถึงวันกลับ  นายคง....ไม่ว่าใช่มั้ย ?

     

    ทำไมต้องว่าด้วยล่ะ !?  ดีออก !!   การที่เขามาหานายก็แสดงว่าเขาคงคิดถึงนายน่าดู  ดีจังน้า  ชั้นเองก็อยากมีน้องน่ารักๆ แบบนายบ้างจัง  แต่สัญญานะว่าจะไม่หนีกลับบ้านไปคนเดียวเหมือนตอนสอบฮันเตอร์คราวที่แล้วน่ะ 

    กอร์นแอบพูดเล่นตอนท้าย  แต่น้ำเสียงฟังดูจริงจังพอสมควร  เขาเองยังคงมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับคนในครอบครัวเพื่อนสนิท  และกลัวว่าหากคิรัวร์เหยียบเข้าไปในบ้านแล้วจะไม่ได้ออกมาอีก

     

    ไม่หรอกน่า  ถ้าจะกลับไปล่ะก็  คราวนี้สัญญาเลยว่าจะพานายไปด้วย  ขอบใจนะกอร์น  แล้วเจอกัน  อ่อ  ฝากความคิดถึงให้ เลโอลีโอด้วย  บาย

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตึกร้าง  ที่กบดานของแก๊งโจรเงามายา

    เมื่อบทสนทนาจบลง  และมือถือถูกเก็บเข้ากระเป๋า  เด็กชายผู้มีผมสั้นสีเงินและดวงตาสีเขียวกลมโตก็ถอนหายใจ  เขารู้สึกโชคดีจริงๆ ที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนซื่อแล้วก็เชื่อคนง่าย  เพราะถ้าขืนเขามีไหวพริบแพรวพราวในเรื่องการพูดหลอกลวงเหมือนเขาและเจ้ามายากรนั่น  คงต้องหาข้ออ้างมาใช้ได้ยากเย็นกว่านี้แน่นอน

    ท่านพี่นี่ยังหลอกคนอื่นเก่งเหมือนเดิมเลยนะค่ะ  อย่างที่ท่านพี่อิรุมิว่าจริงๆ ว่าท่านพี่ต้องจัดการได้

    ชมหรือประชดน่ะคัลโต

    ต้องชมสิค่ะ

    ถึงผู้เป็นพี่ชายจะไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  เขาหาวหนึ่งทีเป็นสัญญาณบอกว่าตอนนี้รู้สึกง่วงและพร้อมที่จะหลับแล้ว  ก่อนจะขยับตัวนั่งในท่าที่รู้สึกสบาย  แต่สำหรับคนอื่นมันคงดูไม่สบายเท่าไหร่นัก  เพราะขอบหน้าต่างกว้าง  4  นิ้ว   และยาวแค่  35  นิ้ว  เท่านั้น  ทำให้ต้องชันขาขึ้นข้างหนึ่งในขณะที่อีกข้างปล่อยให้เหยียดลงเหยียบพื้นเป็นการรักษาสมดุล  ส่วนมือทั้งสองข้างประสานเอาไว้หลังศีรษะเพื่อใช้แทนหมอน

    ราตรีสวัสดิ์นะคัลโตเขาว่าสั้นๆ และหลับไปอย่างรวดเร็ว  แต่เท็นของเขายังคงแผ่ออกมาบางๆ รอบตัวอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับการหายใจและเป็นสัญญาณเตือนภัยเผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น

    ราตรีสวัสดิ์ค่ะท่านพี่คิรัวร์ 

    น้องสาวเดินเข้าไปลูบผมสีเงินพลางยิ้มอย่างมีความสุข  และมองใบหน้าผ่อนคลายของพี่ชาย  ภาพแมวสีเงินน่ารักผุดขึ้นมาในหัวทันที

    เพราะอย่างเนี้ย  คัลโตกับท่านพี่อิรุมิถึงได้ชอบมองท่านพี่คิรัวร์เวลาหลับ  น่าเสียดายที่คัลโตจะมีโอกาสได้เห็นอีกแค่  2  คืนเท่านั้น

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    วันที่  2 

    เที่ยงวันช่างสว่างเจิดจ้า  แสงอาทิตย์แผดเผา  สายลมร้อนและเสียงยานยนต์พาหนะวิ่งเต็มท้องถนนผลักให้ทุกคนรีบเร่งกันทำเวลาในช่วงที่ยุ่งที่สุดของวัน  แต่พวกมันกลับไม่มีความหมายสำหรับร่างที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนต้นไม้  และเขาก็คงจะไม่ตื่นถ้าไม่ใช่เพราะคนสองคนที่ยืนมองเขาอยู่ตรงโคนต้นไม้  เขาเพียงแต่แกล้งหลับและแอบฟังว่าพวกข้างล่างกำลังคุยอะไรกันอยู่

    นั่น....จำได้ว่าไม่ใช่ตรงนี้นะคัลโตจัง  นั่นเป็นเสียงของหัวหน้าแก๊งแมงมุม

    ท่านพี่ชอบนอนบนต้นไม้ค่ะ  แต่เมื่อคืนท่านพี่หลับบนขอบหน้าต่าง  ก็เลยไม่รู้ว่าท่านพี่ลงมาตอนไหน

    จากที่ดูแล้ว  นอนบนขอบหน้าต่างมันจะไม่ดูสบายกว่าเหรอ?

    ไม่ยักกะรู้ว่าหัวหน้าแก๊งแมงมุมก็ชอบนินทาชาวบ้านขณะหลับด้วย

    เด็กชายในหัวข้อการสนทนาขัดขึ้นพร้อมกับหาวหนึ่งที  บิดขี้เกียจ  แล้วพลิกตัวกลับมานอนคว่ำบนกิ่งไม้ใหญ่  นัยน์ตากลมโตสีเขียวมองคนบนพื้นอย่างเกียจคร้าน

    ชั้นไม่ได้พูดลับหลังนายนี่  พูดให้เจ้าตัวได้ยินต่อหน้าแบบนี้เขาเรียกว่า  พูดถึง  ต่างหาก  หัวหน้าแก๊งก็เล่นลิ้นกลับไป

    ยังไงก็ช่าง  แล้วการที่ชั้นมานอนตรงนี้มันน่าแปลกใจอะไรนักหนา  นายบอกเองว่าชั้นอยู่ที่นี่ได้

    ที่นี่น่ะหมายถึงชั้น  3  บนตึกและบนขอบหน้าต่าง  ไม่ใช่บนต้นไม้   อยู่ดีๆ คนก็หายแล้วอยู่ๆ ก็มาโผล่ในที่แปลกๆ  โดยที่ไม่มีใครในแก๊งหรือแม้แต่ชั้นรู้ตัวซักคน  ก็ต้องคิดว่ามีอะไรผิดปกติอยู่แล้ว

    โฮ่....แสดงว่าฝีมือและฝีเท้าชั้นก็ไม่เบาเลยสินะ  ขนาดหัวหน้าแก๊งโจรเงามายาผู้เก่งกาจยังไม่รู้ไม่เห็น  น่าดีใจจัง

    เด็กชายตระกูลนักฆ่าแกล้งพูดเสียงหวานแกมยืดนิดๆ กับความสามารถของตัวเอง  เขารู้ดีว่าท่านหัวหน้าไม่ได้ถือสาอะไรกับคำพูดของเขาและยิ้มอย่างขำๆ  เหมือนกับน้องสาวที่หัวเราะคิก

    แล้วมาปลุกชั้นแต่เช้าด้วยตัวเองเนี่ยมีอะไร ?

    ใกล้เที่ยงแบบนี้ไม่เรียกว่าเช้าหรอกนะ

    เฮ้ !  ก็ชั้นยังเป็นเด็กกำลังกินกำลังนอนกำลังโตนี่นา  ก็ต้องนอนเยอะ ๆ สิ !”  

    เด็กชายเถียงและกลับตัวขึ้นมานั่งบนกิ่งไม้อย่างคล่องแคล่ว  แถมยังเอนพิงบนกิ่งไม้ทางด้านหลังเหมือนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟา ทำให้คนข้างล่างรู้สึกแปลกใจและประทับใจในความคุ้นเคยของเขาที่มีกับต้นไม้

    ไม่คิดเหรอว่าการลงมาคุยกันในระดับเดียวกันเป็นมารยาทที่ดีน่ะ?

    เข้าเรื่องเถอะน่า  นายจะแกล้งพูดอ้อมเรื่องนู้นเรื่องนี้อยู่ทำไมในเมื่อนายก็ไม่ถืออยู่แล้ว  ไม่งั้นนายคงทำชั้นร่วงจากต้นไม้ลงไปคุยนานแล้ว

    รู้ดีจังนะ  ก็จริงอย่างที่ว่า  ชั้นก็แค่จะมาบอกว่า  คืนนี้พวกชั้นจะวางแผนก่อนลงมือคืนพรุ่งนี้ซะหน่อย  ถ้านายสนใจจะเข้าฟังด้วยก็ได้  จะได้ไม่มาชนกันเปะปะวุ่นวายตอนลงมือ

    ทำเป็นพูดดี  แต่จริงๆ อยากจับตาดูชั้นใช่มั้ยล่ะชั้นว่ามันไม่จำเป็นหรอกนะ  เป้าหมายคนละอย่างอยู่แล้วนี่

    ก็ไหนบอกว่าสนใจเป้าหมายของพวกเราไงล่ะ

    แล้วนายจะบอกชั้นง่ายๆ รึไง?  เดี๋ยวชั้นนึกอยากชุบมือเปิบขึ้นมา  นายสิจะแย่วางแผนอะไรเอาไว้ดักชั้นอีกล่ะสิ  ถึงได้เอาของมาล่อแบบนี้

    ชั้นไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกน่าก็เล่นเดาทางออกก่อนแบบนี้  แผนชั้นก็ใช้ไม่ได้น่ะสิ  เด็กนี่เล่นด้วยยากจริงๆ  แต่ก็ใช่ว่าจะเล่นไม่ได้  เขาพูดเมื่ออ่านความคิดจากสีหน้าและรอยยิ้มของเด็กตระกูลนักฆ่าออก

    ขอให้จริงเหอะถ้ามันน่าเบื่อก็ขอบายล่ะ  ชั้นไม่ชอบนั่งฟังอยู่เฉยๆ ซะด้วย  อีกอย่างในเมื่อชั้นไม่ได้เป็นสมาชิกแก๊ง  ก็ไม่มีหน้าที่ที่ต้องทำตามที่นายสั่ง  ชั้นมันพวกฉายเดี่ยวอยู่แล้ว

    ก็ไม่ได้บังคับอะไรนี่  เพียงแค่คิดว่าถ้านายรู้เอาไว้บ้างก็คงจะดี  ยังไงเราก็เป็นหุ้นส่วนกันอยู่แล้ว

    แหม  รู้สึกท่านหัวหน้าจะใจดีเป็นพิเศษเลยนะ  แบบนี้มีอะไรรึเปล่าเนี่ย?  เด็กชายแกล้งถามเสียงหวาน

    บางทีนายแกล้งทำเป็นไม่รู้บ้างก็ดีนะ  เอาไว้ตอนประชุมจะเฉลยให้ฟังก็แล้วกันถึงจะจับผิดกับคำพูดได้ตลอด  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านายจะไม่เดินตามที่ชั้นต้องการหรอกนะ

    เล่นพูดแบบนี้  ขี้โกงชะมัด 

    คิรัวร์รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่คำพูดง่ายๆ นั่นกลับจับเขาเอาไว้อยู่หมัด  ก็เล่นพูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้สงสัยแบบนี้  ใครกันจะไม่อยากรู้ว่ามันคืออะไร  เพราะสิ่งที่คนระดับหัวหน้าคิดเอาไว้ในใจมันก็เป็นได้ทั้งดีและไม่ดีเหมือนกับสิ่งที่เขาซ่อนเอาไว้เบื้องหลัง แบบนี้ขืนไม่ระวังเรื่องแผนเรื่องข้อมูลดีๆ มีหวังได้ถูกตลบหลังแบบเจ็บแสบเรื่องข้อตกลงแน่ๆ

    จะจับแมวให้อยู่  ก็ต้องให้มันอยากรู้อยากเห็นเดินเข้ามาหาก่อนสิและแมวบนต้นไม้ตัวนี้ก็น่าจับซะด้วย    ท่านหัวหน้าหัวเราะเบาๆ และแสยะยิ้มก่อนจะเดินจากไป

    ให้ตายชั้นก็ไม่เดินเข้าไปให้โดนเชือดหรอกเฟ้ยชั้นชักไม่ชอบหัวหน้าเธอแล้วสิคัลโต

    น้องสาวหัวเราะคิกกับท่าทางของพี่ชายที่ขยับมานั่งขัดสมาธิท้าวคางและทำหน้ามุ่ยนิดหน่อย  ไม่ว่าจะยังไงพี่ชายของเธอก็ยังคงเหมือนเมื่อสมัยก่อน  และเธอรู้สึกดีใจจริงๆ

    ช่วงบ่ายของวันผ่านไปเรื่อยๆ  อย่างไม่น่าเบื่อ  เพราะสมาชิกในแก๊งที่อยู่โยงเฝ้าที่ซ่อน 3-4  คนนั้นชวนแขกของพวกเขาทำนู่นทำนี่ฆ่าเวลาไปได้เรื่อยๆ จนเหมือนกับว่าไม่มีเวลาให้นั่งอยู่เฉยๆ  เพราะทันทีที่สบโอกาส  โนบุนางะช่างตื้อก็มาลากออกไปท้าดวลฝีมือกันข้างนอก  พอการต่อสู้เริ่มจะดุเดือดเกินไป  ฟิงค์กับเฟย์ก็จะมาลากเข้าไปเล่นเกมส์ออกใหม่ล่าสุดที่เพิ่งไปขโมยมาได้  แต่พอเล่นจนเบื่อก็ไปเจอมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของชาร์แน๊คเข้า  ทำให้ต้องเข้าไปดูด้วยความสนใจและนั่งคุยยาวไปเรื่อยถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีออกใหม่ต่างๆ ในตลาด  และเมื่อคัลโตผู้เป็นน้องสาวเห็นว่าชักจะคุยกระหนุงกระหนิงกันนานเกินไปแล้ว  ก็จะเดินเข้ามาพาเขาไปนั่งคุยกันอยู่สองคน  แต่เพราะเรื่องเล่าของนักฆ่าวัยเด็กนั้นสนุก เลยทำให้คนอื่นๆ เข้ามาร่วมวงด้วย 

    ไม่คิดว่านายจะสนิทกับทุกคนได้เร็วขนาดนี้  มีอะไรกันรึเปล่าเนี่ย?  เขาถามด้วยความสงสัยกับภาพของสมาชิกแก๊งที่นั่งจับกลุ่มคุยกับแขกอย่างสนุกสนาน

    ไงหัวหน้า  กลับมาซะค่ำเลยนะ  มีของฝากมั่งเปล่า?  คิรัวร์ทักทายเล่นๆ ก่อนจะตอบ ก็ไม่มีอะไรหรอก  แค่ชั้นกำลังแสดงกลของคนรู้จักให้ดูแค่นั้นเอง  พวกของนายน่ะแย่ชะมัด  เล่นดูทริกชั้นออกกันหมดเลยแบบนี้ก็หมดสนุกน่ะสิ  ลงท้ายนี่เหมือนเจ้าตัวหันไปแอบค้อนเหล่าผู้ชมที่พากันยิ้มและหัวเราะ

    ก็พวกเขาเก่งกว่านายนี่

    เออ โทษทีนะที่เด็กแล้วก็ด้อยประสบการณ์น่ะ  ยิ่งเขาประชดก็ยิ่งทำให้คนอื่นขำกันใหญ่  เจ้าตัวเลยตัดสินใจหยุดพูดแล้วหันมานั่งเจ็บใจเงียบๆ แทน

    พักเรื่องเล่นเอาไว้ก่อน  เรามาเริ่มวางแผนเรื่องคืนพรุ่งนี้กันดีกว่า 

    ท่านหัวหน้าเริ่มเปิดการประชุมเมื่อสมาชิกคนอื่นๆ กลับมาครบ  ยกเว้นหมายเลข 4  ที่ไม่เป็นที่แปลกใจว่าโดดอีกแล้ว  แต่หัวหน้าก็ไม่ได้ว่าอะไร  เพราะเป้าหมายคราวนี้ถือความสมัครใจของสมาชิกในการเข้าร่วมเป็นหลัก

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    อีกครั้งที่ค่ำคืนนี้นั้นแดงฉานไปด้วยแสงสีแดงของพระจันทรงกรดที่ส่องลงบนพื้นดิน  อากาศรอบตัวนั้นเย็นเฉียบ  ไม่มีทั้งผู้คนและแสงสีเหมือนดั่งเช่นคืนอื่นๆ   ทุกอย่างต่างนิ่งเงียบและหลับใหล  ไม่เหมือนกับร่างเล็กๆ ในเสื้อสีม่วงที่สวมทับด้วยเสื้อคอวีสีขาว  กางเกงขาสั้นสีดำ  และรองเท้าผ้าใบสีขาวดำ  ที่กลับวิ่งไปตามทางเดินที่มืดสลัว  และแฝงตัวหายเข้าไปในเงาสีดำ  ดวงตากลมโตสีเขียวเบิกกว้างและมองเห็นทุกอย่างรอบตัวเหมือนกับในเวลากลางวัน  เล็บงอกยาวแหลมและเตรียมพร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ

    ยามและบอดี้การ์ดเฝ้าตึกตั้งแต่ชั้นหนึ่งจนถึงชั้น  100  กับระบบรักษาความปลอดภัยนั้นมีนับไม่ถ้วนและยากที่ใครจะผ่านไปได้  แต่สำหรับผู้บุกรุกร่างเล็กถือว่าเล็กน้อย  เขาซ่อนตัวในเงามืดหลบกล้องวงจรปิดได้อย่างง่ายดาย   และค่อยๆ เก็บยามเฝ้าในแต่ละจุดอย่างเงียบเชียบ  ฝีเท้าที่เบายิ่งกว่าแมวก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ชั้น  50   ก่อนจะติดต่อไปยังคนที่รออยู่ข้างนอกผ่านเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กที่ซ่อนเอาไว้ใต้ปกคอเสื้อ

     

    นี่....ชั้นจัดการยามกับระบบรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ชั้น  1  ถึง  49  ให้แล้วนะ  พอใจยัง  ชั้นจะได้ไปทำธุระของชั้นซะที

     

    ไม่อยากจะยอมรับเลยให้ตายสิ  ว่ายอมร่วมด้วยเพราะกลัวมัน  ถึงเน็นมันจะไม่เหมือนของพี่อิรุมิแต่น่ากลัวโคตร  บ้าชิบ

    หนึ่งในทายาทตระกูลโซลดิกว่าพลางคิดอย่างหงุดหงิด  เพราะเขาถูกขอให้มาทำงานที่น่าเบื่อหน่ายในขณะที่เหตุผลที่แท้จริงของคนขอยังคงเป็นปริศนา  เพราะใช่ว่างานมันจะยากเย็นอะไรแต่เจ้าหัวหน้าตัวดีนั่นจงใจที่จะให้เขาทำแทนต่างหาก

     

    ยัง  เหตุผลที่พวกเราต้องให้นายเข้าไปก่อนน่ะมันอยู่ชั้นนั้นแหละ  ถ้าจัดการกับมันแล้วนายก็ไปได้   แต่อย่าแอบชุบมือเปิบล่ะ  เสียงจากปลายสายเรียกให้เขากลับมาจากห้วงความคิด

     

    รู้แล้วล่ะน่า  เอาไงก็เอา  ยอมมาขนาดนี้แล้วนี่

     

    เด็กชายว่าพลางขยี้ผมสั้นสีเงินของเขาเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด   ก่อนจะแฝงเข้าไปในเงามืดอีกครั้งเพื่อดูว่าไอ้ระบบความปลอดภัยที่ท่านหัวหน้าแก๊งว่ามันเป็นยังไงเจ้าตัวถึงไม่ยอมเข้ามาจัดการเอง

    อย่างแรกที่ขวางทางเดินของเขาก็คือ  รังสีอินฟราเรด  ถึงเขาจะมองมันตาเปล่าไม่เห็น  เขาก็ยังสามารถรู้ได้ว่ามันอยู่ตรงไหน  โดยอาศัยความร้อนของรังสีและพลังเน็นเข้าช่วย  หลังจากแน่ใจแล้วว่าจับรังสีได้ทุกเส้น  เขาก็ค่อยๆ ก้าวข้ามและลอดผ่านพวกมันไปอย่างคล่องแคล่ว  และเมื่อมายืนอยู่ตรงสุดทางเดิน  ก็เจอบานประตูของตู้เซฟขนาดใหญ่เท่าห้องนิรภัยของธนาคาร

    ดูท่าของข้างในจะราคาดีสุดๆ เลยนะเนี่ย?  เขาคิดพลางผิวปาก และรู้สึกประทับใจกับวิธีการเก็บรักษาขณะยืนมอง    โชคดีที่เขาเห็นประกายไฟตรงหน้าและเครื่องควบคุมข้างบานประตูก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้

    นั่นมัน.....เครื่องสร้างม่านไฟฟ้า  ที่บ้านพ่อก็เคยเอามาให้ดู  เห็นพ่อบอกว่าแพงสุดๆ หายากด้วย  แล้วก็ปล่อยกระแสไฟฟ้าสูงสุดได้เท่าโรงงาน  เวอร์เปล่าเนี่ย?

     

    นี่....ชั้นเจอของที่นายให้จัดการแล้วล่ะ  นายเห็นชั้นเป็นอะไร?  ปลาไหลไฟฟ้ารึไงฟะ  นี่มันเครื่องสร้างม่านไฟฟ้านะเฟ้ย !!  มาจัดการเองดิ่ !!  เน็นนายก็มี !!

     

    เด็กชายนักฆ่าแหวใส่หัวหน้าแก๊งตัวดีอย่างไม่มีเกรงใจ  เพราะจริงอยู่ที่เขาสามารถทนรับกระแสไฟฟ้าได้ทีหลายร้อยโวล์ต  และถึงขั้นสามารถเก็บเอาไว้ในตัว  ควบคุมและเอาออกมาใช้ได้ตามต้องการ  แต่ถ้ากระแสไฟมันมากเกินไป  เขาก็ตายได้เหมือนกัน 

     

    นายทำได้อยู่แล้ว  ถ้าจัดการเจ้าเครื่องนั่นได้  ระบบความปลอดภัยชั้นบนทั้งหมดจะหยุดทำงาน

     

    หาเรื่องให้ชั้นเหนื่อยโดยใช่เหตุนะเนี่ย  ถามจริงเหอะ  บังคับขู่เข็ญชั้นมาเนี่ยเพื่ออะไรกันแน่

     

    ก็แค่สงสัยน่ะ  เพราะชั้นรู้สึกได้ว่านายมีเน็นและประจุไฟฟ้ารอบตัวมากกว่าคนปกติ   อีกอย่างวิธีดิบๆ โดยที่ไม่ต้องใช้พลังเน็นเพื่อการจู่โจมแบบนี้น่ะ  ไม่อึกทึกครึกโครมดี  และสัญญาณเตื่อนภัยก็จะได้ไม่ดังด้วย

     

    แค่นั้นน่ะนะ  ใช่ว่าชั้นจะทนกระแสไฟฟ้าระดับโรงงานผลิตได้นะเฟ้ย !! ‘ถึงจะไม่รู้ว่ามันตั้งไว้ที่ระดับนั้นรึเปล่าก็เหอะ    เขาตอกกลับทันควัน  ความหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นจนชักจะอยากจะไปต่อยหน้าเจ้าหัวหน้านั่นซักเปรี้ยง

     

    เอาน่า  ทำซะ  พูดมากเสียเวลา

     

    นี่แก  ถีบส่งชั้นตกเหวแล้วยังจะมีหน้ามาเร่งอีก  ชิ !

     

    คิรัวร์ประชดกลับไปอย่างไม่กลัวเกรงแทนที่จะคิดอยู่ในใจเงียบๆ  เหมือนคนมารยาทดี  แต่ก็ยังยอมทำตามเพราะรู้ดีว่าถึงจะต่อล้อต่อเถียงไปก็เท่านั้น

    เขาผ่อนลมหายใจ  ทำใจให้สงบ  และรวบรวมสมาธิให้มากที่สุด  แล้วปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าที่เขาเก็บสะสมเอาไว้ในตัวออกไปจนหมด  ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ม่านไฟฟ้า   ทันทีที่มือสัมผัสมันเขาก็รู้สึกเหมือนถูกเขย่าในเครื่องเชค  และภายในร่างร้อนจนเหมือนถูกแผดเผาให้ตายทั้งเป็นอย่างรวดเร็ว  แต่เขาก็ยังคงกัดฟันแน่นและไม่ยอมร้องออกมาในขณะที่ยังคงค่อยๆ เดินเข้าไป  ได้เพียงไม่กี่ก้าว  ก่อนจะทรุดลงนั่งเพราะร่างกายไม่สามารถขยับไปได้มากกว่านั้น

    มือทั้งสองข้างแบออกและเหยียดออกข้างตัวเพื่อปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าที่มีมากเกินไปออก  ดวงตาสีเขียวลืมขึ้นมองกระแสไฟฟ้าที่กำลังเต้นไปมาอย่างสนุกสนานเหมือนกับดีใจที่มีเหยื่อมาให้มันทรมานเล่น

    ชิ ! ถึงจะโชคดีที่ไม่ใช่ระดับโรงงานก็เหอะ  แต่ต้อง.....เอาออกไปอีก ไม่งั้น......  แม้แต่คำพูดก็คิดขึ้นมาในหัวได้อย่างยากลำบากท่ามกลางเส้นประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกายทั้งหมดที่เขม็งตึงจนแทบจะฉีกขาด

    กระแสไฟฟ้าถูกปลดปล่อยและไหลผ่านร่างออกไปมากขึ้นและเร็วขึ้นเหมือนกับน้ำที่ไหลผ่านภาชนะที่ว่างกลวง  ถึงแม้การขยับเพียงนิ้วเดียวก็ทำให้รู้สึกไม่ต่างกับการถูกเผาไหม้อยู่ในเพลิงนรก  แต่เขายังคงกระเสือกกระสนที่จะชี้ไปทางเครื่องควบคุมและปล่อยกระแสไฟฟ้าไปทำลายมัน

    เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับเศษเครื่องจักรร่วงลงพื้น    ริมฝีปากเหยียดออกแสยะยิ้มกับเสียงระเบิดแผ่วเบาที่ได้ยินตามมาอีกหลายครั้ง  ก่อนที่ร่างที่สั่นเทาจะล้มลงนอนแผ่อยู่กับพื้น  ดวงตาสีเขียวปรือขึ้นมองความมืดเบื้องหน้าหลังจากแสงไฟในตึกรอบตัวดับลง  

    แม้เสียงฝีเท้าและเสียงโวยวายจะได้ยินแว่วๆ มาจากทั้งชั้นบนและชั้นล่าง  แต่ร่างที่ร้อนผ่าวไปด้วยการแผดเผาจนควันขึ้นกลับไม่ขยับและค่อยๆ ใช้เวลาทุกๆ วินาทีในการรอให้ความเจ็บปวดทั้งหมดจางหายไป   ในขณะที่ภายในใจกลับรู้สึกร้อนรนและเร่งให้ร่างกายขยับอยู่ทุกวินาที  นัยน์ตาสีเขียวค่อยๆ หม่นซีดจนกลายเป็นสีเขียวเข้มเกือบดำและเหม่อมองเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย    ริมฝีปากเหยียดยิ้มเย็นๆ กับความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวที่เริ่มว่างเปล่า

    นี่สินะคือสิ่งที่มันเรียกเป็นค่าตอบแทนสำหรับส่วนแบ่งนั่น  งั้นก็ได้   ถ้าอยากเห็นชั้นฆ่านักล่ะก็......  

    ร่างค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและหลบหายเข้าไปในเงามืดอีกครั้ง   มือเล็กๆ ที่งองุ้มเหมือนกับกรงเล็บของสัตว์ป่าปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าที่ได้มาจนเกินพอออกไปอย่างรุนแรง   ในขณะที่หัวสมองไม่คิดอะไรและไม่สนใจว่าการกระทำต่อจากนี้ไปจะทำให้เพื่อนร่วมงานที่รออยู่ข้างล่างเดือดร้อน  เพราะมันถือเป็นการเอาคืนเล็กๆ น้อยๆ สำหรับคำขอร้องที่หนักหนาสาหัสของหัวหน้าแก๊งโจรเงามายาเท่านั้น 

     

     

    …End Chapter 02…

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×