คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : มัธยมปลายเซงาคุ และ หอพักเซชุน 100%
Story: $_Fic.The Prince of Tennis [Unlimited]_$
Step1: มัธยมปลายเซงาคุ และ หอพักเซชุน 100%
เรื่องนี้ว่าด้วย เด็กสาวแสนบริสุทธิ์ ริวซากิ ซากุโนะ (17) ม.ปลายปี 1 เด็กสาวจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าริวซากิ ตัดสินใจที่จะช่วยหาเงินโดยการมาสมัครเรียนที่ ‘โรงเรียนเซงาคุ’ (ซึ่งเคยเป็นโรงเรียนชายล้วนมาจนกระทั่งปีที่แล้ว) เป็นแม่บ้านประจำหอพักชื่อ ‘เซชุน’ ที่มาเริ่มจากเมื่อฤดูหนาวเทอมที่ 1 เรื่องการในอนาคต
...ริวซากิ ซานุโนะ อายุ 15 ปี...
“แม่ค่ะ ให้หนูเลิกเรียนม.ปลายได้หรือเปล่าค่ะ”ซากุโนะ เอ่ยปากขอกับแม่ของเธอคือ ริวซากิ สุมิเระ (ปัจจุบัน อายุ 30 ปี เป็นเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าริวซากิ และเป็นแม่แท้ๆของซากุโนะ)
“ทำไมถึงจะไม่เรียนต่อ ม.ปลายล่ะ ซากุโนะ”เธอรู้สึกตกใจมากที่จู่ๆเด็กที่ชอบเรียนอย่างซากุโนะ ขอไม่เรียนต่อม.ปลายทั้งๆที่ตอนเด็กบอกว่าจะเรียนให้สูงๆ เพราะมันเป็นความฝันของซากุโนะ
“ก็เพราะ...ถ้าหนูยังคงเรียนต่อม.ปลายล่ะก็ แม่ก็ต้องรับภาระหน้าที่เยอะขึ้นน่ะสิ ไหนจะค่าเล่าเรียนที่แพงขึ้นตามระดับการเรียน แล้วไหนจะเรื่องค่าดูแลน้องๆ (บุญธรรม) ที่สถานเลี้ยงเด็ก”เด็กสาวเริ่มมีการน้ำตาคลอ
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก แม่น่ะไม่ได้อยู่คนเดียวน้องๆของลูกที่นี่ ถึงจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆก็ยังอยู่เป็นเพื่อนแม่ บางคนก็โตพอที่จะรู้อะไรเป็นอะไร”เธอพอจะรู้เหตุผลบางอย่างออกซากุโนะคงไม่อยากให้เธอต้องรับภาระหนักจึงพูดออกมา “แล้วไหนจะเงินที่มาจากคนรู้จักของแม่ที่ยังคอยช่วยเหลือแม่อีกล่ะ แค่ก...แค่ก”หญิงสาวผู้เป็นแม่ยังว่าไม่ทันจบ เสียงไอแค่กๆของเธอ (ที่มาจากอาการเป็นโรคหัวใจ) ทำให้เด็กสาวรีบเข้าดูอาการของผู้เป็นแม่ทันที
“แม่เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ...แม่ค่ะ!!”เด็กสาวดูแตกตื่น เนื่องจากโรคหัวใจของแม่เธอนั้นทำให้ต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลตลอดเวลา ตามหมอนัด
“ไม่เป็นไรๆ...ไม่ต้องแตกตื่นขนาดนั้นหรอก มันเรื่องปกตินะ”ผู้เป็นแม่ปรามซากุโนะ ขณะที่ซากุโนะเข้ามาพยุงร่างบอบบางของผู้เป็นแม่
“จะไม่ให้แตกตื่นได้ไงล่ะค่ะ ก็แม่น่ะเป็นแบบนี้ แล้วจะให้หนูเรียนต่อม.ปลายอย่างสบายใจอย่างนั้นหรือค่ะ”ซากุโนะตอบผู้เป็นแม่ที่ใบหน้าตอนนี้เต็มไปด้วยสายน้ำใสใสไหลรินอาบแก้ม ซุกลงไปบนตักของผู้เป็นแม่“แล้วถ้าแม่เป็นอะไรไปล่ะ หนูจะทำไง”
ผู้เป็นแม่ได้แต่ ถอนหายใจ พร้อมกับมองหน้าลูกสาวของตนอย่างอ่อนโยน“เฮ้อ...หนู อย่าร้องไห้เหมือนเด็กๆแบบนี้สิ หนูไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เรื่องแม่น่ะไม่เป็นไรหรอก ยังอยู่ได้อีกนาน เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรหรอกนะ เรียนต่อม.ปลายเพื่อแม่แล้วเรื่องเรียนต่อให้จนจบน่ะก็เป็นความฝันของลูกนี่นา เงยหน้าขึ้นสิซากุโนะ”ซากุโนะเงยหน้าขึ้นตามคำบอกของผู้เป็นแม่ แม่ของเธอยกมือขึ้นลูบศีรษะเธออย่างแผ่วเบา
“แม่รู้ดีและเข้าใจ ว่าลูกน่ะคงจะเป็นห่วงเรื่องโรคหัวใจของแม่ แล้วก็เรื่องเงินสินะ ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ แม่น่ะไม่อยากให้ลูกทิ้งความฝันของตัวเอง เพื่อแม่หรือทุกคนที่นี่หรอกนะ”แม่ของเธอพูดค้าง ใช้มือปาดคาบน้ำตาที่รินไหล “ความฝันของลูกน่ะ คือการเรียนให้จบมหาลัยไม่ใช่หรอ แม่อยากจะให้ลูกทำความฝันของตัวเองให้ดีที่สุดนะ แล้วถ้าสักวันแม่ต้องการความช่วยเหลือจากลูกเมื่อไหร่ แม่จะบอกซากุโนะแล้วกันตกลงมั๊ย”
“สัญญานะค่ะ ว่าแม่จะบอกหนู”ซากุโนะตอบ
“แน่นอนจ๊ะ...เพราะฉะนั้น...ช่วยยิ้มให้แม่ดูหน่อยนะ”แม่ของเธอว่าแบบนั้น ซากุโนะจึงค่อยๆคลีรอยยิ้มที่เปรียบเหมือนรอยยิ้มของเทพธิดา (ขัดหน่อย เว่อร์ไปมั๊ย : ผู้แต่ง) แม่ของเธอจึงเข้าสวมกอด“รอยยิ้มของลูกน่ะคือทุกสิ่งของแม่เชียวนะ รักษามันเอาไว้ดีๆล่ะ แล้วก็หันยิ้มบ่อยๆด้วย”
“ค่ะ หนูจะพยายามทำตามที่บอก...แต่ว่า หนูขออะไรสักอย่างนะ”ซากุโนะพูด
“หวังว่าคงไม่ได้ขอเลิกเรียนม.ปลายแล้วหรอกนะ”ผู้เป็นแม่พูดอย่างหยอกล้อ“ถ้าไม่ใช่ก็ดีนะ เพราะเพิ่งพูดกันไปเมื่อสักครู่”
“ไม่ใช่แล้วค่ะ โธ่แม่ก็...”แม่ของเธอหัวเราะออกมา“หนูก็แค่ อยากจะขอเลือกเรียนโรงเรียนม.ปลายเองจะได้มั๊ยค่ะ”และนั้นก็คือจุดเริ่มต้น
“ก็ได้จ๊ะ”แม่ตบปากรับคำ แต่ขณะนั้นเธอคิดที่จะเรียนต่อม.ปลายซึ่งได้เงิน และที่ที่เธอได้ก็คือโรงเรียนเซงาคุ หอพักเซชุน ในฐานะแม่บ้าน แต่แม่ของเธอไม่รู้ว่าโรงเรียนเซชุนเป็นโรงเรียนชายล้วนจึงปล่อยไป
“ขอบคุณค่ะ”ซากุโนะกล่าวคำขอบคุณ
...นั้นคือเรื่องในอดีตของ ริวซากิ ซากุโนะ...
***************************************************************** วันนี้จะเป็นวันที่ ริวซากิ ซากุโนะ อายุ 17 ปี (เหตุที่อายุ17 ทั้งที่อยู่ม.ปลายปี 1 เพราะว่า เรียนช้าไป 1 ปี) ม.ปลายปี 1 นักเรียนโรงเรียนเซงาคุ นักเรียนประจำหอพักเซชุน (แม่บ้าน) เธอกำลังจะเดินทางไปโรงเรียนเซงาคุซึ่งใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง แต่ตอนนี้เธอกำลังบอกลาแม่
“หนูไปก่อนนะค่ะ แม่”ซากุโนะกล่าว พลางกระชับกระเป๋าเป้สีน้ำเงินที่เป็นของขวัญจากแม่ของเธอตอนที่เธออายุ 14 แต่เธอเก็บรักษาไว้อย่างดีจนกระทั่งวันนี้ถึงเวลานี้เธอเอาออกมาใช้
“จ๊ะ...ไปที่นู้นแล้วก็รักษาสุภาพด้วยนะจ๊ะ...แล้ววางก็มาเยี่ยมที่นี่บ้างล่ะ”ผู้เป็นแม่กล่าวกับลูกสาวที่ตอนนี้เธอสูง 164 ซม.แล้ว
“เข้าใจแล้วค่ะ...ถ้างั้นทุกคนฝากดูแลแม่ด้วยนะ พี่ไปก่อนล่ะ”ซากุโนะกล่าวบอกลาน้องๆที่แม่ของเธอช่วยอุปการะเอาไว้ฝากให้ดูแลแม่ของเธอ
“แล้วอย่าลืมมาเยี่ยมพวกเราบ้างนะ พี่ซากุโนะ”เด็กๆบอกลาด้วยน้ำตาคลอ ซากุโนะยิ้มด้วยรอยยิ้มที่แสนหาดูได้อยาก ทำให้เด็กๆไม่กล้าที่จะห้ามพี่สาว
ซากุโนะ เดินออกนอกบ้านสถานเลี้ยงเด็กกำลังพร้าตรงไปยังถนนใหญ่เรียกรถแท็กซี่แทบขาวแดง ชุดที่เธอแต่งเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น กางเกงสีดำ 3 ส่วนขาผูก รองเท้าผ้าใบแทบสีน้ำเงิน ทรงผมแบบเปียกที่ชอบทัก
“ขอโทษนะค่ะ...คุณลุงช่วยไปส่งที่โรงเรียนเซชุนหน่อยได้มั๊ยค่ะ”ซากุโนะเอ่ยถามอย่างสุภาพถามมารยาท
“โอ้...ได้สิครับคุณหนู...ว่าแต่จะไปทำไมล่ะครับ”ขณะที่ลุงคนขับรถถาม ซากุโนะก็เดินเข้ามาในรถเรียบร้อยแล้ว
“ก็จะไปเป็นแม่บ้านที่นั่นน่ะค่ะ”ซากุโนะตอบ ลุงคนขับรถมีท่าทางตกใจเล็กน้อยเธอจึงถามต่อ“มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”
“มันก็...ถ้าคุณหนูอยากจะฟัง ผมจะเล่าให้ฟัง”ลุงคนขับรถว่าแบบนั้น แน่นอนซากุโนะพยักหน้าเพราะเธอน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับหอพักเซชุนไว้บ้างหน้าจะดีกว่า
“ก็เมื่อ 2-3 อาทิตย์ มีเด็กสาวนหน้าตาน่ารักและสวยกว่าคุณหนู 2-3 คนก็บอกผมให้ไปส่งที่หอพักเซชุนเหมือนกับคุณหนูนี่แหละ พอไปส่งได้ 2 วันหลังจากนั้นพวกเธอแต่ละคนก็ค่อยๆลาออกมาและเรียกแท็กซี่กลับไปซึ่งก็คือรถของผมนี่ล่ะ แต่ไอ้ที่น่ากลัวคงเพราะเด็กสาวที่ออกมาแต่คน มีสภาพที่น่าสงสารบางคนก็ร้องไห้ บางคนก็ออกมาทั้งๆที่ตัวเปียก บางคนก็มีรอยคล้ำใต้เมื่อคนอดหลับอดนอน และที่ร้ายที่สุดมีสภาพเมื่อกับคนประสาทหลอน...”ยังไม่ทันที่ลุงคนขับรถพูดจบ ซากุโนะโผงขึ้น
“ตอนเด็กๆน่ะ หนูก็เคยเป็นโดนแบบนี้ค่ะ”เธอว่าอย่างนิ่มๆสายตาดูอ่อนโยน
“แต่ว่าคุณหนูครับ คุณมีเหตุผลอะไรถึงยอมทำงานที่มันเสี่ยงแบบนั้น”ลุงคนขับรถถาม
“เหตุผล...เพื่อแม่ กับน้องๆ ของหนูค่ะ”ซากุโนะตอบเป็นอันทำให้ลุงคนขับรถอึ้งไปสักพักกับคำตอบของเธอก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นอารมณ์ขัน
“หึ...หึ...เมื่อก่อนก็เคยมีคนแบบคุณหนู เหมือนกันเหตุผลไม่เมื่อกับคุณหนู แต่ว่าน่าเศร้าที่เธอตายไปแล้ว”ลุงคนขับรถว่าอย่างสลด ซากุโนะจึงถามต่อเพราะน้ำเสียงของลุงคนขับรถดูเศร้า
“เธอเป็นอะไรตายค่ะ”ซากุโนะถาม
“เธอฆ่าตัวตายครับ”คำตอบที่เธอได้รับทำให้เธอตกใจไปช่วงครู่ก่อนจะทำใจได้ “เหตุผลที่เธอฆ่าตัวตายผมไม่ทราบหรอกแต่ว่าเธอเป็นคนที่น่ารักและสวย รอยยิ้มของเธอเหมือนกับเทพธิดา เธอมอบรอยยิ้มนี้ให้กับทุกคนที่นั่น ทุกคนรักเธอ แต่...”
“พอแล้วล่ะค่ะ ขอทราบชื่อของเธอได้มั๊ยค่ะ”ซากุโนะไม่ต้องการให้ชายคนขับรถพูดแล้ว เพราะเธอสังเกตุเห็นว่ามีน้ำใสเริ่มคลอ
“เธอชื่อ นานาโกะ ครับ เอาล่ะ คุณหนูเราคุยกันมาก็สมควรแล้ว เชิญคุณหนูนอนพักผ่อนดีกว่าอีก 4 ชั่วโมงกว่าจะถึง”ชายคนขับรถกล่าว
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้นก็ขอความกรุณาด้วยนะค่ะ”เธอว่าแบบนั้นแล้วก็ฟุ่บหลับไป
เหลือเพียงลุงคนขับรถ ซึ่งความจริงแล้วเขาเป็นถึงผอ.ของโรงเรียนเซงาคุ (แต่มีงานอดิเรกแปลกๆชอบขับรถ, คนขับรถแท็กซี่) และนานาโกะที่กล่าวถึงก็เป็นหลานสาวของเขานั้นเองแต่นั้นนานาโกะนั้นตายไปตั้งแต่ครึ่งปีแล้ว ตอนนี้ ที่โรงเรียนจึงต้องหาแม่บ้านไปดูแลแต่ก็ถูกขับออกมา
โดยเด็กหัวโจกที่อยู่ปี 1 อดีตคนรักของนานาโกะนั้นเอง เพราะเด็กคนนั้นไม่ยอมรับ ไม่ต้องการให้ใครมาแทนนานาโกะ และขนาดเขา ขอร้องให้หยุดเด็กคนนั้นก็พูดว่า
“ผมไม่ต้องการให้ใครมาแทนที่ของนานาโกะทั้งนั้น และไม่ว่าคุณจะพาใครมา ผมก็จะทำให้ออกไปเอง!!”เด็กคนนั้นกล่าวและเดินออกไปจากห้องไปเขาหวังว่าเด็กสาวคนนี้คงจะอยู่ได้นาน
...เวลา ผ่านไป 4 รถแท๊กซี่ก็มาถึงหน้าโรงเรียน...
“คุณหนูครับ ถึงแล้วล่ะครับ”ผอ.ในคาบลุงคนขับรถเรียก ซากุโนะ
“หา...ค่ะ...หลับสบายไปหน่อยโทษนะค่ะ ค่าโดยสารเท่าไรค่ะ”ซากุโนะว่า
“ฟรีครับ เอาล่ะแล้วหลังจากนี้ อีก 3 วันผมจะมาดูว่าคุณหนูจะยังอยู่ได้หรือเปล่านะครับ”ลุงคนขับรถว่าอย่างขำๆ ซากุโนะจึงตอบด้วยรอยยิ้มของเธอ
“ถ้าอย่างนั้น อีก 3 วันหนูจะกลับไปเยี่ยมคุณแม่สักหน่อยคุณลุงช่วยมารับหน่อยนะค่ะ”ลุงคนขับรถรู้สึกดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเทพธิดาซึ่งเหมือนกับหลานสาวเขา เขาหวังว่าเด็กคนนี้จะสามารถทำลายกำแพงของเด็กคนนั้นได้ “โชคดีนะค่ะ” แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอก็แอบนึกหวั่นๆอยู่
“เช่นกันครับ”แล้วลุงคนขับรถก็จากไป ซากุโนะจึงเดินเข้าหอพักเซชุน
บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ว่างๆซึ่งกว้างพอสมควร มีโต๊ะม้าหินตั่งอยู่เรียงรายเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ขึ้นเพื่อความชุมชื่นเป็นอย่างดี และแถวๆนั้นมีผู้ชายอยู่เต็มไปหมด(ก็อดีตโรงเรียนชายล้วยนี่นะ)
“เฮ้อ...พ่อนี่เอาอีกแล้ว อุตส่าห์บอกแล้ว ว่าไม่ต้องการคนอื่นนอกจากนานาโกะ ยังจะเอาใครมาอีกล่ะนั้น พวกนายไปต้อนรับยัยแม่บ้านใหม่หน่อยสิ”เด็กหนุ่มผู้เป็นหัวโจก กล่าวสั่งลูกน้อง ลูกน้อง 3 คนจึงตรงเข้าไปหาซากุโนะทันที
“ไงจ๊ะ...จะมาเป็นแม่บ้านใหม่ที่หอพักเซชุนหรอ”เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าว ขณะที่พวกเขารอบซากุโนะ
“อะ
เอ่อ ใช่ค่ะ แล้วพวกคุณมีอะไรหรือเปล่าค่ะ”ซากุโนะตอบอย่างนึกหวาดๆในใจ
ตายแล้ว..ไม่ทันทีไร็โดนแล้ว
.
“แหม...มีหลายคนแล้วล่ะที่ถามแบบนี้ พวกเราไม่ได้มีปัญหาหรอกเจ้านายของเราต่างหากที่ไม่ต้องการให้เธอมาอยู่”ชายอีกคนว่าพร้อมกับจับแขนของเธอ “เอาล่ะ เพราะฉะนั้นไปได้แล้วไป”
“ปะ
ไปไหนค่ะ”ซากุโนะตอบพลางนึกในใจ
นี่เรา จะตายตั้งแต่วันแรกเลยหรอ ไม่ได้เด็ดขาดเรามีเหตุผลที่ต้องอยู่ที่นี่ เพื่อน้องๆ แล้วก็คุณแม่ด้วย
เมื่อคิดได้แบบนั้น“ไม่ไปไหน ทั้งนั้นแหละค่ะ ฉันมีเหตุผลที่ต้องอยู่ที่นี่ปล่อยฉันนะ”เธอตอบอย่างเสียงดัง
“เธอ
พูดอะไรของเธอน่ะ ไปได้แล้ว อย่าให้ต้องเสียเวลา”ทันทีที่เธอกำลังจะถูกดึงไป ก็มีมือของใครคนหนึ่งยื่นมาจับ
“เฮ้ย พวกนาย...ข้อหาแตะต้องเพศตรงข้ามโดยอีกฝ่ายไม่สมยอมน่ะ มันหนักนะเว้ย”เสียงที่กล่าวออกมาเป็นเสียงของผู้ชายซากุโนะลืมตาขึ้นมอง พบผู้ชายคนหนึ่งตัวสูงมากทีเดียว แต่เขาดูดีแบบนักกีฬา ดูเหมือนผู้ชายคนนั้นจะรู้ตัวเขาจึงยิ้มอย่างอ่อนโยน ประมาณว่า ‘ไม่เป็นไรแล้วนะ’
“ระ
รุ่นพี่โมโมะ”เด็กหนุ่ม 3 คนพูดพร้อมกัน พร้อมกับใบหน้าซีดโดยเฉพาะคนที่จับแขนซากุโนะอยู่จึงรีบปล่อยทันที และวิ่งเผ่นออกมา
“ชิ!
รุ่นพี่โมโมะ ยุ่งไม่เข้าเรื่องอีกแล้ว”เด็กหนุ่มกล่าวสถบ แล้วก็เดินกลับหอพักไป เมื่อย้อนกลับไปที่ซากุโนะ กับ โมโมชิโระ
“เฮ้อ
ให้ตายซี่
เจ้าเอจิเซนนิ
ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผอ.จริงๆด้วยแฮะ”โมโมชิโระว่าออกมาหลังจากที่เจ้าสามคนนั้นไปแล้ว และเขาจึงนึกออกว่ามีคนอยู่ข้างหลังเขา“ว่าแต่เธอ
ไม่เป็นอะไร ใช่มั๊ย”โมโมะ(เรียกแบบนี้แหละขี้เกียจพิมพ์)เอ่ยกับซากุโนะที่ก้มหน้าอยู่
“มะ
ไม่เป็นไรค่ะ”ซากุโนะกล่าวตอบและเงยหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้ม(แบบเหนื่อยๆ) โมโมะมีสีหน้าตกใจไปชั่วครู “เอจิเซน คือใครกันค่ะ”ปากของโมโมะพึมพำว่า
“
นานาโกะ..จัง
”โมโมะยังคงอึ้งด้วยเพราะใบหน้าของซากุโนะซ้อนเข้ากับใบหน้าของนานาโกะหญิงสาวที่เขาเคยแอบรัก ตอนนี้ได้จากไปแล้ว
“เอ่อ
คุณโมโมะ
คุณ
“หะ
หา เอ่อไม่เป็นไร ทำไมเธอถึงรู้ชื่อ ฉันล่ะ”โมโมะถามซากุโนะกลับ
“เอ่อ
ก็..ฉันได้ยินที่คนพวกนั้นพูดน่ะค่ะ ฉันก็เลยเรียก..นึกว่าเป็นชื่อคุณ ถะ
ถ้าไม่ใช่ก็ขอโทษนะค่ะ”ซากุโนะพูดอย่างตื่นๆ โมโมะจึงรีบพูด
“ถะ
ถูกแล้วล่ะ แต่ถ้าจะให้ดีเรียก โมโมะจัง ก็ได้นะ”โมโมะพูดอย่างใจเย็นและยิ้มให้กับซากุโนะ ทำให้เธอมีความมั่นใจ เสียงหัวใจของเธอเต้นแรงอย่างประหลาด ใบหนาของเธอขึ้นเป็นสีระรื่นเล็กน้อยอาจจะเป็นเพราะเธอเพิ่งจะเคยคุยกับผู้ชายใกล้ๆแบบนี้เป็นครั้งแรกก็ได้”เป็นอะไรหรือเปล่า
เงียบไปเลย หน้าแดงด้วย”โมโมะถามแต่ไม่ได้ถามเปล่าเขาใช้มือใหญ่ยกขึ้นจับหน้าผากมนของซากุโนะ
ทำให้เธอตกใจมาก เสียงหัวใจของเธอจึงเต้นแรงขึ้น ใบหน้าก็ขึ้นสีกว่าเดิมเธอจึงรีบพูดปฏิเสธ“มะ
ไม่เป็นไรค่ะ”ด้วยเพราะซากุโนะรีบปฏิเสธ โมโมะจึงคิดว่าเธอคงจะไม่สบายจริงๆก็รีบคว้าข้อมือเล็ก“จะพาฉันไปไหนค่ะ โมโมะ
คุง”
“อ๊ะ...เรียก ‘คุง’ ก็ได้แล้วแต่เธอแล้วกัน อย่าคิดมากเลยฉันไม่ทำอะไร
ไปหาชูสึจังจะได้เอายามากิน”โมโมะว่าพลางดึงข้อมือของซากุโนะให้ตามไปด้วย ซากุโนะที่ตั้งใจจะไม่ตามไปก็แพ้แรงของโมโมะเลยต้องจำยอม(?) เดินตาม“คุยกันมาตั้งนานแล้ว...เธอชื่ออะไรงั้นหรอ?...” (อย่าโทษโมโมะเลยผู้แต่งเพิ่งนึกได้)
“เอ๊ะ...ฉันชื่อริวซากิค่ะ ริวซากิ ซากุโนะ”ซากุโนะแนะนำตัวอย่างเนิบๆ หน้าของเธอยังคงเป็นสีแดงอยู่มันจะมาจากอากาศที่ร้อนแบบนี้หรือว่า...จะมาจากความร้อนของฝามือโมโมะกันนะ... เธอคิดพร้อมกับยิ้มออกมาอายๆด้วยความคิดของตน โมโมะแอบเหลือบมองซากุโนะยิ้มจึงเอ่ยถาม
“อะไรกัน...ซากุจัง...แอบยิ้มอะไรน่ะ”
“ปะ...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่..ซากุจัง...น่ะ ชื่อของฉันหรอค่ะ”ซากุโนะถามอายๆ
“อืม...ฉันจะเรียกเธอว่า...ซากุจังนี่ล่ะ น่ารักดีใช่มั๊ยล่ะ ^^”โมโมะพูดอย่างอารมณ์ดี พลางกระชับมือเล็กๆของซากุโนะให้ตามไปด้วย มันทำให้หัวใจของซากุโนะรู้สึกดีไปด้วย...หรือว่าเราจะแอบชอบโมโมะคุงเข้าซะแล้ว...แต่ขณะนี้ 2 คนนี้หารู้ไม่เลยว่า...การกระทำของพวกเขาอยู่ในสายตาของทุกคน (เฉพาะตัวละครสำคัญบางตัว) แล้ว...
ระหว่างทางไปหาคนชื่อ ‘ชูสึจัง’ หรืออีกชื่อเต็มๆก็คือ ‘ฟูจิ ชูสึเกะ’ ที่ซากุโนะนึกในทีแรกว่าเป็นผู้หญิงเพราะชื่อที่เหมือนกับเด็กผู้หญิงแถมยังลงท้ายด้วย ‘จัง’ อีก เธอแอบคิดในใจว่า
ทุกคนที่นี่ ท่าทางจะสนิทสนมกันดีจังเลย ถ้างั้นเราก็คงจะไม่เป็นไรสินะ
(มองโลกในแง่ดีไปแล้วโยม : ผู้แต่ง) แต่ความคิดของเธอก็ต้องหวาดหวั่น เมื่อได้ยินโมโมะพูดว่า
“นี่..แต่อย่าคิดว่า...ที่นี่สนิทกันดีล่ะ”โมโมะกล่าวนั้นทำให้ ความคิดของซากุโนะต้องมีรอยราว “เพราะอะไรเธอน่าจะพอเดาๆได้ เป็นเพราะที่นี่น่ะ มีเด็กมีปัญหา”
“เด็กมีปัญหา? หมายถึง คนชื่อเอจิเซน ที่โมโมะคุงพูดถึงตอนนั้นสินะ”ซากุโนะทวงอย่างสงสัย
“อืม...ใช่ แต่ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ...อย่าเผลอไปว่าหมอนั้นว่าเป็น ‘เด็กมีปัญหา?’เชียวล่ะ ”โมโมะตอบ
“เอ๊ะ...ถ้างั้นแล้วทำไมฉันต้องไปว่าเขาด้วยล่ะค่ะ”
“อ้าว...นี่ซากุจัง ไม่รู้หรอกหรอ เจ้าเอจิเซนน่ะ คือหัวหน้าของหอพักเซชุน ส่วนคนที่เป็นแม่บ้านน่ะจะต้องอยู่ห้องเดียวกับหัวหน้าหอน่ะสิ”โมโมะตอบ พร้อมกับหยุดเดินหันหน้าเข้าหาซากุโนะ
“ไม่ทราบเลยล่ะค่ะ”ซากุโนะตอบ
“ถ้างั้นก็แย่เลย...หมอนั้นน่ะ ยิ่งเป็นคนอารมณ์ขึ้นลง...แบบเดาใจยากอีกต่างหาก”โมโมะทำสีหน้าครุ่นคิด “เอาแบบนี้ล่ะกัน...เดี๋ยวลองไปขอเปลี่ยนห้องกับคุณเทสึกะดูดีกว่า เพราะยังไงซากุจังต้องไปรายงานตัวกับผู้คุมด้วยนี่นา”
“คุณเทะสึกะ? ใครรึค่ะ”ซากุโนะทำหน้าสงสัย
“เป็นผู้คุ้มหอพักที่นี่กับชูสึจังน่ะ เอาล่ะอย่ามัวแต่พูดเลย เรารีบวิ่งไปกันเลยดีกว่า”ว่าจบโมโมะก็รีบพาซากุโนะวิ่งทันที
************************************************************************************
*** ภายในตึกของผู้คุม (อิอิ จะขอวายล่ะนะ เล็กๆน้อยๆ) ***
“นี่เทสึกะ...คิดว่าแม่บ้านใหม่คราวนี้จะอยู่ถึงเมื่อไร่”ชายหนุ่มร่างบางหรือ ชูสึจัง นั้นเองเอ่ยปากถามกับเทะสึกะผู้เป็นทั้งเพื่อน/คนรัก
“แล้วนายจะสนใจไปทำไมล่ะ”หนุ่มร่างสูงบุคลิกที่ขรึมเกินอายุพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ“ที่สำคัญ ชูสึเกะ ฉันบอกให้เลิกเรียกเทสึกะแต่ให้เรียก คุนิมิสึ แทนนายก็ยังมะ...”ร่างสูงถูกนิ้วชี้เรียวยาวสวยชี้หยุดที่ริมฝีปากเพื่อ
“ฉันรู้น่า เทสึกะน่ะ อยากให้ฉันเรียกว่า คุนิมิสึ แต่ว่านะ ฉันเรียกนายว่าเทสึกะมาตลอดตั้งแต่ม.1นะ จู่ๆจะให้เปลี่ยนการเรียกเลย ฉันก็ลำบากนะ”ร่างบางว่าอย่างอ่อนโยน ทำให้คนอย่างร่างสูงแสนเย็นชาก็ยอมให้ (ทุกที) ร่างสูงใช้มือข้างหนึ่งจับมือของร่างบางที่ปิดริมฝีปากตนออกและจูบลงไปอย่างแผ่วเบา
“เข้าใจแล้ว”ร่างสูงตอบร่างบาง ร่างบางยิ้มให้กับกับคำตอบของร่างสูงผู้เป็นคนรัก
“อย่างนี้ค่อยโอเคหน่อย...”ว่าแล้วร่างบางก็ใช้มือดึงใบหน้าของร่างสูงมาจูบไปที่ข้างแก้มเบาเบา ร่างสูงแสดงสีหน้าตกใจนิดหน่อย แต่ก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน (ไม่เชื่ออ่ะดิ๊) ให้กับร่างบาง
มือใหญ่แสนอบอุ่นยื่นเข้าจับสัมผัสใบหน้าหน้าของร่างบาง ใบหน้าของร่างสูงเลื่อนเข้าใกล้ริมฝีปากได้รูปสีชมพูของร่างบางอย่างช้าๆ ทันทีจะได้สัมผัสริมฝีปากแสนสวยน่าจุมพิต เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัด ร่างสูงและร่างบางผละออกจากกันอย่างตกใจ คนร่างสูงหลังจากที่หายตกใจก็กลับมาตีหน้าขรึมส่วนคนร่างบางยังคงมีสีแดงอยู่ที่ใบหน้า ค่อยๆเดินไปเปิดประตู
...(การขอแอบวายก็ขอจบยกแรก[ย้ำยกแรกค่ะ]กันเพียงเท่านี้ล่ะนะ ขัดใจผู้อ่านที่คิดจะอ่านวายไปสักหน่อย)...
************************************************************************************* ก็อกๆ
“คุณเทสึกะ...ชูสึจัง...ขออนุญาติคร้าบ”โมโมะว่าพลางเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่เห็นคือคุนิมิสึนั่งอ่านนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โซฟา ชูสึเกะที่เดินมาหาพวกโมโมะ
“สวัสดิ์ดี...โมโมะคุง เข้ามาก่อนสิ อ๋อ...แล้วก็แฟนของโมโมะคุงด้วยนะ น่ารักดีนิ...”ชูสึเกะพูดเชิญและยิ้มให้กับซากุโนะที่ยืนหน้าแดง (ตะลึงกับความสวยของชูสึอยู่)
“อะไรกันชูสึจัง...ซากุจังไม่ใช่แฟนผมซะหน่อย”โมโมะว่ากล่าวปฏิเสธ และพาซากุโนะเดิน
“ทั้งๆที่ยังจับมือกันอยู่เนี่ย”ชูสึเกะแกล้งแซวโมโมะ เพราะที่จริงหลักฐานมันก็เห็นคาตา (?) ทั้งสองคนจึงมองไปที่มือและก็รีบล่อยกันทันที ซากุโนะหน้าแดงหนักกว่าเก่าด้วยความอาย ส่วนโมโมะก็ทำหน้าไม่พอใจที่โดนแหย่“โอเคๆ...ถ้างั้นก็ไปนั่งอยู่ที่โซฟากับเทสึกะเถอะ...เดี๋ยวฉันจะเอาน้ำชามาให้”
“ค่ะ/ครับ”ซากุโนะและโมโมะจึงตรงไปนั่งที่โซฟา ซึ่งมีคุนิมิสึนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อย่างไม่ใส่ใจ ซากุโนะที่นั่งข้างๆกับโมโมะจึงเอ่ยถาม (แบบกระซิบ) “เอ่อ...นี่โมโมะคุง คนนี้น่ะคือ คุณ
“ก็แบบนี้แหละ...อย่าคิดมากเลย...เห็นอย่างนี้ก็เถอะ คุณเทสึกะน่ะถึงจะดูน่ากลัวแต่จริงๆเขาก็ใจดีนะ (เวลาที่อารมณ์ดี)”โมโมะตอบ ซากุโนะที่ได้ฟังคำตอบจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
“อ๊ะ...นี่น้ำชานะ”เสียงของชูสึเกะเรียกคนทั้ง2กอ่นจะส่งชาให้และไปนั่งข้างเทสึกะ“เธอคงจะเป็นแม่บ้านคนใหม่สินะ รู้จักกับโมโมะคุงไปแล้วสิ ฉันชื่อฟูจิ ชูสึเกะ เรียกอย่างที่โมโมะคุงเรียกก็ได้ นี่ก็เทะสึ คุนิมิสึ”
“คะ...ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันริวซากิ ซากุโนะค่ะ”ซากุโนะตอบ
“ว่าแต่เอาเอกสารมาหรือเปล่า”ชูสึเกะถาม ซากุโนะยื่นซองสีน้ำตาลขนาดที่พอใส่กราะดาษA4ให้กับชูสึเกะ เขารับมันมาเปิดซองออกดูพิจารณาเล็กน้อย “งั้นหรอ เพื่อน้องๆกับแม่สินะ ขอให้พยายามเข้าแล้วกัน”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”ซากุโนะตอบก่อนจะยื่นมือรับซองเอกสารสีน้ำตาล
“นี่ชูสึจัง เปลี่ยนห้องของซากุจังได้หรืเปล่าครับ”โมโมะกล่าวขึ้น
“ไม่ได้...เด็ดขาด”เสียงที่กล่าวเป็นเสียงของเทสึกะซึ่งดังกลบเสียงของชูสึเกะที่กำลังจะเอ่ยว่า ‘ได้’ ออกไป โมโมะจึงก้มหน้าก่อนจะยิ้มออกมา
“นึกแล้วเชียว ถ้างั้นชูสึจังสิ่งสุดท้ายที่จะขอ ขอยาแก้ไข้หน่อย...จะให้ซากุจังน่ะครับ”ชูสึเกะแอบมองหน้าคุนิมิสึอย่างเคืองๆเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหยิบยาและแก้วใส่น้ำให้กับโมโมะ ซากุโนะก็กลัวที่จะเสียมารยาทจึงรีบกินยาดื่มน้ำ
“ถ้างั้นโมโมะคุง...ก็พาซากุจัง...ไปห้อง 204 ด้วยนะ อยู่ห้อง 205นี่นาแล้วก็ในฐานะรองหัวหน้าหอด้วย”ชูสึเกะว่าสั่งลา พวกซากุโนะจึงขอตัวลาสิ้นเสียงปิดประตูบรรยากาศในห้องเงียบงัน ทำให้ร่างสูงรู้ทันทีว่าทำคนร่างบางโกรธซะแล้ว ปฏิบัติการง้อเริ่มขึ้น
...[ เอาเป็นว่าเราปล่อย 2 คนนี้เขาไปง้อกันเองแล้วกัน...ไปดูซากุโนะกับโมโมะคุงดีกว่า (มั้ง) ]
******************************************************************...บรรยากาศระหว่างการเดินทางเงียบสงบไม่มีใครเปิดปากพูด...
“นี่..ซากุจัง ไม่เป็นไรนะที่ไม่ได้เปลี่ยนห้องน่ะ”โมโมะเริ่มเปิดปากพูดก่อน จากที่บรรยากาศเงียบไปนาน เขาไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้นักหรอก
“เอ๊ะ...ไม่เป็นไรค่ะ อีกอย่างถ้าฉันมีอะไร โมโมะคุงก็คงจะช่วยฉันใช่รึเปล่าค่ะ”ซากุโนะตอบ
“แน่นอนสิ...แล้ว ไม่ใช่ ‘ก็คงช่วย’หรือคำว่า‘ใช่รึเปล่า’ ยังไงในฐานะ รองหัวหน้าหอก็มีสิทธิ์อยู่แล้ว แต่ฉันกังวลว่า ตอนเรียนฉันคงช่วยอะไรเธอไม่ได้น่ะสิ เพราตึกเรียนปี 1 กับปี 2 มันอยู่คนละฝั่ง”โมโมะว่าแบบนั้นและทำสีหน้าเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่ในหอพักฉันเกรงใจจะแย่แล้ว ที่โรงเรียนฉันคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ”ซากุโนะรีบตอบในทันที
“ถ้าซากุจังว่าแบบนั้น ก็ตามใจแต่ถ้ามีอะไรปรึกษาฉันล่ะ”โมโมะว่าด้วยรอยยิ้มแสนอารมณ์ดี
“ค่ะ แน่นอนเลย”ซากุโนะตอบด้วยความดีใจแล้วพวกเขาทั้งสองเดินกันไปเรื่อยๆจนถึงที่หน้าประตูของหัวหน้าหอ ด้านหน้าเขียนชื่อผู้อาศัย
...204 เอจิเซน เรียวมะ [หัวหน้าหอ] ริวซากิ ซากุโนะ [แม่บ้าน]
The end step 1 To be continue in step 2
*****************************************************************คุยกันนิดนะค่ะ
หลังจากที่ทุกท่านอ่านจนจบแล้วคงทราบแล้วว่าเนื้อเรื่องเปลี่ยน และด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อนฉันมันบอกว่า ถ้าซากุโนะแข็งแรงเกินไปคงไม่ดีเลยเปลี่ยนใหม่ซะเลย มันก็เลยออกมาเป็นอีแบบนี้
..Step 2 เกมส์แห่งการกลั่นแกล้งจะเริ่มขึ้นแล้ว มาดู(อ่าน)สิว่า
..
พระเอกของทุกท่านจะแกล้งนางเอกของเราหนักขนาดไหน 3 วันแห่งการตัดสิน(แต่มันคงไม่จบอยู่เพียง 1 ตอนหรอกนะ) ความพยายาม+อดทน จะเอาชนะ ได้หรือไม่...
_@#นักเขียนขี้โรค#@_
17 / October / 2006
*****************************************************************
ความคิดเห็น