คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : หมากรุก III : ภูธีร์ end. 100%
‘ทำไม..สียดายหรอ’
‘สุดๆอะ’
สีหน้าที่แสดงอาการเสียดายอย่างปิดไม่มิดของไอ่ธีร์เมื่อตอนบ่ายยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่ห่าง...ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าที่ไอธีร์ทำนั้นมันหมายความว่าไง แต่เพราะผมรู้ต่างหากผมถึงยอมให้มันทำ
มันคงคิดว่าผมลืมวันสำคัญสำหรับเราเมื่อสองปีที่แล้วไปแล้วมันก็เลยเตือนสติผมนิดหน่อย แต่ที่ไหนได้มันนั่นแหละที่เป็นคนลืม...ไม่ใช่วันนี้ที่เป็นวันครบรอบสองปี แต่เป็นวันพรุ่งนี้ต่างหาก ผมควรดีใจดีรึป่าวครับ
หลังจากที่มายืนรอมันซ้อมวิ่งอยู่ได้ไม่นาน...ไอ่ธีร์ก็รีบวิ่งหน้าตั้งมากอดคอผมด้วยท่าทางเหนื่อยหอบทันทีก่อนจะพูดขึ้น “ ปะ...กลับหอกัน ”
“ รีบกลับไปไหน? ” ผมพูดพร้อมยักคิ้วเป็นเชิงถาม
“ กลับไปฉลองไง ” ไอ่คนที่สูงกว่าก้มลงกระซิบข้างหูผมก่อนจะงับเบาๆ ‘ยังไม่รู้ตัวอีก...เดี๋ยวแม่งจับลงโทษซะให้เข็ด’
“ ฉลองอะไรหรอ...มีเซอร์ไพร์รึป่าวน้า ” ที่นี้เป็นผมบ้างที่เป็นคนกระซิบเข้าข้างหูของไอ่ธีร์
“ หึๆ...ของแบบนั้นมันแน่อยู่แล้ว ” มันพูดพร้อมขยิบตาให้อย่างผู้ที่เหนือกว่า...
‘ เดี๋ยวก็รู้...ว่าเซอร์ไพร์ของใครมันจะใหญ่กว่ากัน ’
หลังจากอกจากโรงเรียนมาซักพักท้องฟ้าที่เคยเป็นสีส้มแสดงเวลาเลิกเรียนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีฟ้าหม่นเพื่อตอนรับยามราตรีอย่างแท้จริง...เราสองคนเดินกันมาเรื่อยๆจนถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไอ่ธีร์หันมามองหน้าผมซักพักก่อนที่มือหนาจะพาผมเดินเข้าไปในร้าน
“ ป้าครับ..ที่นี่มีอะไรน่ากินบ้างครับ ” เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงวัยกลางคนปลายๆที่ยืนรอรับเมนูด้วยรอยยิ้มสดใส
“ ก็หลายอย่างนะลูก...ปลาคังผัดพริก ปูนิ่มผัดผงกระหรี่ และก็บลาๆๆ” จากนั้นป้าแกก็แนะนำเมนูที่เหลืออีกมากมายให้พวก
เราฟัง...ผมนี่ถึงกับกลืนน้ำลายดังเฮือก
“ มึงกินไรภู? ” ธีร์เงยหน้าขึ้นมาถาม
“ ไม่รู้ดิ..เลือกไม่ถูกอะ ”
“ งั้น..เอามาทุกอย่างเลยครับ ” มันหันไปบอกพร้อมกับปิดสมุดเมนูส่งคืนให้ป้าเขา
“ เฮ้ย!! นี่มึงกะจะสั่งมาเลี้ยงคนทั้งซอยเลยรึไง ”
“ สั่งมาเลี้ยงแค่มึงคนเดียวนั่นแหละ...เดี๋ยวเราต้องใช้พลังงานกันอีกเยอะ ” หน้าเจ้าเลห์บวกกับประโยคสองแง่สองง่ามที่ไอธีร์สื่อออกมานั่นทำให้ผมพอจะเดาได้แล้วว่าไอ่เซอร์ไพร์ของมันนั้นคืออะไร...
ไม่นานอาหารมากมายก็ถูกนำมาเสริฟเต็มโต๊ะและระหว่างกินข้าวไอ่ธีร์ก็อ้อนให้ผมป้อนข้าวอย่างกับเด็กป.3แถมไม่วายแทะโลมผมด้วยสายตาบ้าง คำพูดบ้างจนผมนี่แทบจะปาช้อนใส่หน้ามัน
“ มองหน้ากุแล้วอิ่มทิพย์หรอสัส ”
“ อืม..อิ่มอกอิ่มใจ ”
“ แหวะ...ไปจ่ายเงินได้แล้วไป๊ ”
“ ฮ่าๆๆ ก็ได้ๆ ”
ผลึบ
ผมทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มทันทีที่ถึงห้อง ปล่อยให้ความเหนื่อล้าจากการซ้อมหลีดมันซึมลงไปในเตียง ความมืดมิดยังคงปกคลุมไปทั่วห้องเพราะความขี้เกียจเปิดไฟของผมเอง..ว่าแต่ทำไมไอ่ธีร์ไม่เปิดไฟล่ะ พอคิดได้ดังนั้นผมตะโกนเรียกให้มันเปิดไฟ...
“ ไอ่ธีร์เปิดไปดิ๊ ”
“…” เงียบกริบไร้เสียงตอบรับ... ‘อะไรกันมันหายไปไหนเนี้ย’ ผมพยายามดันตัวลุกออกจากที่นอนเพื่อที่จะไปเปิดไฟ แต่ซักพักก็ต้องชะงักพรึบเพราะจู่ๆไอ่คนที่ผมเรียกให้มันไปเปิดไฟเมื่อตะกี้ก็โผล่มาตรงหน้าพร้อมดอกกุหลายสีขาวบริสุทธิ์ช่อเล็กๆ
“ สวยมั๊ย? ” ในห้องยังคงมืดสนิทมีเพียงแต่แสงของไฟกิ่งรำไรเท่านั้นที่ทำให้ผมสามารถเห็นภาพตรงหน้าได้
“ สวยดิ ” ธีร์เดินเข้ามาใกล้ผมพร้อมกดจูบลงมาแบบไม่พูดไม่จา จูบที่ไม่มีการรุกล้ำใดๆมันมันกลับซ่อนความวาบหวามไว้จน
ผมอดส่งเสียออกมาไม่ได้...
“ อื้ออ...”
“ นี่แค่ออเดริฟนะรู้ปะ ”
พอจบประโยคร่างสูงก็ออกแรงผลักให้ผมกลับลงไปนอนที่เตียงเหมือนเดิม..ลิ้นร้อนเข้าเข้ามาฉกฉวยหาความหวานภายในโพร่งอย่างโหยหา...ไม่เหลืออีกแล้วจูบที่แสนจะธรรมดา
“ อือ...ไอ่ธีร์ ” มือหนาไล่บีบเค้นยอดอกที่อยู่ภายใต้เสื้ออย่างมันมือ
ไม่นะ!! ผมกำลังจะคล้อยตามมันแล้ว...ผมรีบผลักน่าอกเพื่อหยุดการกระทำของอีกคนไว้เพียงเท่านี้ สายตาที่บ่งบอกถึงความเว้าวอนปนความไม่เข้าใจจ่องลึกเข้ามาในตาผมจนแถบใจอ่อน..แต่ผมทำอย่างนั้นไม่ได้...
‘เพราะต่อจากนี้ไป...นี่คือเซอร์ไพร์ของผม’
.....
Thee Part
“ กุไม่ได้ลืมวันสำคัญของเรานะ ” ภูพูขึ้นหลังจากที่ดันหน้าอกผมออกได้ซักพัก
แต่ยังไงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าภูมันเป็นอะไรรึป่าว ทำไมถึงทำหน้าบึ่งทั้งๆที่ยังหน้าแดงแบบนั้น...ผมคว้าเอวบางเข้ามากอดไว้อย่างหลวมๆก่อนจะถามเสียงแผ่ว
“ แล้วมึงเป็น’ไร? ”
“ หึ..ไอ่ธีร์คิดดีๆซิว่าวันนี้วันอะไร ”
“ ก็วันครบรอบสองปีไง ”
“ ผิด!!! ” ฉาดด..รู้สึกเหมือนโดนน้ำในตู้เย็นสาด
“ เฮ้ย..จะผิดได้ยังไงก็ในเมื่อกุเป็นคนขอมึงเป็นแฟนเองอะ ”
“ ใช่มึงขอวันนี้...แต่วันที่กุตอบตกลงมันคือวันพรุ่งนี้ ” ฉาดดดด...ตอนนี้ไม่ใช่รู้สึกว่าแค่โดนน้ำในตู้เย็นสาดแล้วครับ ประโยคเมื่อกี้นั้นมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนธารน้ำแข็งจากเทือกเขาหิมาลัยไหลลงมาฟาดหนาเต็มๆ
“ ปีที่แล้วมึงก็ลืมนะจำได้รึป่าว? ” ภูพูดเสริมขึ้นมาพรางใช้นิ้วแตะเบาๆตรงปลายจมูกของผม..จนผมต้องรีบคว้าโทรศัพท์มาเปิดดูวันที่และการแจ้งเตือน
(วันนี้) 9/10/2014
แจ้งเตือน : ปีนี้ห้ามจำผิด!!!
ไม่น่าสะเพร่าเลยยยไอ่ธีร์เอ๊ย!!...โอเคครับผมยอมรับว่าผมผิดเอง คือว่า..ผมตั้งแจ้งเตือนไว้ตอนเช้าแต่เวลาที่ตั้งไว้วันก็ดันไปตรงกับช่วงที่ประชุมซ้อมวิ่งจนผมต้องรีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาปิดการแจ้งเตือนไปโดยที่ไม่ได้อ่านข้อความของตัวเองที่พิมพ์ไว้
“ อะ..เอ่อคือ...” ผมไม่รู้จะสรรหาอะไรมาพูดดีมือไม้มันเก้เก้กังกังไปหมด..ทำอะไรไม่ถูเลยครับทีนี้
“ ทีนี้คุณธีร์จะรับผิดชอบยังไงดีครับ? ” เรือนหน้าขาวเอียงคอถามผม
“ งื้อ..ภูอ่า ปีนี้อย่าโกรธกุเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนปีที่แล้วเลยน้า ” ขืนเป็นแบบนั้นอีกผมต้องลงแดงตายแน่เลย..คิดดูสิครับภูมันโกรธผมแถมไม่ยอมคุยกันตั้งเกือบสองเดือน...
“ ได้สิ ”
“ หือ? ” ผมไม่ได้หูฟาดไปใช่มั๊ยครับ
“ กุไม่ทำแบบนั้นหรอก ” มือบางออกแรงดันผมให้หลายหลังลงไปกับที่นอนก่อนจะพาตัวเองขึ้นคร่อม..
“ …. ” ผมได้แต่จ่องมองดูการกระทำของอีกคนอย่างใจจดใจจ่อ
“ ขอแค่สองอาทิตย์พอ ”
“ สองอาทิตย์ ” ผมทวนคำอย่างไม่เข้าใจ
.
.
.
“ ใช่สองอาทิตย์ ห้ามล้วง ห้ามถอด ห้ามสอด ห้ามใส่ อะไรเข้ามาในตัวกูเด็ดขาด!! ”
ถ้าภูมันกำลังหมายถึงเรื่องอย่างว่าละก็...ไม่นะ!!! ไม่!!!!!! นั่นมันเลวร้ายยิ่งว่าไม่ยอมพูดกันอีกนะ!!!
“ ไม่นะภู อย่าใจร้ายใส่กันแบบนี้สิ ”
“ หึ หึ แค่สิบสี่วันเอง ” รอพูดจบร่างบางก็ลุกออกจากตัวผมแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันที..
อย่าพึ่งนะครับ..อย่าพึ่งคิดว่าผมหมกมุ่นกับเรื่องอย่างว่าจนทนรออีกแค่สิบสี่วันไม่ไหว โถ่..ทุกคนเข้าใจผมผิดกันไปหมดแล้วแน่เลย...เอาจริงๆนะ ถ้านับจากที่มีอะไรกันครั้งล่าสุดแล้วให้รออีกสิบสี่วันนั้นผมทนไหว แต่นี่มันปีกว่าแล้วที่ผมไม่ได้ล่วงเกินอะไรภูเลยมากสุดก็ได้แค่ขบๆเม้มๆนิดหน่อยถ้าบวกจำนวนวันที่โดนตัวแสบลงโทษก็คงเฉียดสองปีพอดี...
“ คนอะไรใจร้ายฉะมัด ”
หลังจากนั้นไม่นานต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องมานั่งกุมขมับแบบนี้ก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเสื้อยืดสีขาวคอแหวกกว้างจนแถบจะถึงไหล่กับกางเกงขาสั้นย้ำนะครับว่าสั้น..สั้นเสียจนผมอยากจะดึงออก
“ มองอะไรครับคุณธีร์ ทัศน์กำจร ”
“ ปะ..ป่าว ” ผมกลืนนำลายลงคอดังเฮือกก่อนที่จะหันไปอีกทาง..ไม่ไหวขืนผืนมองต่อไปผมได้แหกบทลงโทษของไอ่ภูแน่
“ หึหึ..ก็ดี ” ภูเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อไปตากผ้าเช็ดตัวก่อนที่จะเดินกลับมาพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ
“ ตัดเล็บให้หน่อยดิ ” อีกคนยื่นกรรไกรตัดเล็บมาให้ผมก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งบนปลายเตียง
ส่วนผมในฐานะผู้ที่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่บรรจงตัดเล็บมือที่เกินออกมาทีละนิ้ว ทีละนิ้วไป...แต่อุปสรรค์ครั้งนี้คือกลิ่นสบู่อ่อนๆของคนที่พึ่งจะอาบน้ำมาใหม่นั่นมันกำลังจะทำลายโซนประสาทความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของผม หลังจากที่จัดการนิ้วมือทั้งสิบเสร็จผมก็ลุกขึ้นหมายจะนำเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือไปเก็บ...แต่กลับถูกแรงของอีกคนฉุดข้อมือไว้
“ เล็บเท้ายังไม่ได้ตัดเลยอะ ” ภูว่าพลางชันขาทั้งสองข้างขึ้นเผยให้เห็นต้นขาอ่อนด้านในอย่างชัดแจนจนอารมณ์ภายในของผมเริ่มจะปะทุขึ้นมา
“ ตัดให้หน่อยนะ ” เฮ้อ..แต่ขอมาขนาดนี้แล้วใครจะไปปฏิเสธลงล่ะครับ
ผมได้ข่มอารมณ์ดิบของตัวเองไว้ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงกับพื้นตรงหว่างขาของอีกคนเพื่อที่จะได้ตัดเล็บได้ถนัดมือ...สายตาผมพยายามโฟกัสแต่นิ้วเท้าเรียว นิ้วเท้าเรียวเท่านั้น
“ คิก คิก แค่นี้ก็มือสั่นแล้วหรือ ” ภูพูดพร้อมค่อยๆแยกขาขาวทั้งสองข้างให้ออกห่างกันมากขึ้น...หมับ!! ผมคว้าข้อเท้าบางไว้ทันทีก่อนที่ท่ามันจะล่อแหลมไปมากกว่านี้
“ ภู..มึงก็รู้ว่ากุทนไม่ไหวเวลาเห็นมึงยั่วแบบนี้ ” ผมโยนกรรไกรตัดเล็บทิ้งทันทีเมื่อเงยหน้ามองภาพตรงหน้า..ไม่ตงไม่ตัดมันแล้วเล็บเนี้ย
“ ทำไมอะธีร์ ภูแค่จะทาโลชั่นเองนะ ธีร์มีหน้าที่ตักเล็บก็ตัดไปสิ ” มือบางลูบขาอ่อนตัวเองไปมาอย่างช้าช้าและนั่นมันก็ทำให้ผมถึงกับมองตาม..
หลังจากทนดูพฤติกรรมที่แสนยั่วยวนของคนตรงหน้ามานานผมก็เลยตัดสินใจดันภูลงกับเตียงก่อนที่จะตามขึ้นไปคร่อมไว้...คนนะครับไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่ได้รู้สึกอะไรเลย หึ หึเล่นกับใครไม่เล่นนะภู สงสัยผมคงต้องสั่งสอนคนช่างยั่วซักหน่อยแล้ว
“ จะแหกกฏกันหรอ...ไม่ดีมั้ง ”
“ ป่าวซักหน่อย ” ผมออกแรงผลิกใครที่อยู่ใต้ร่างให้นอนคว่ำพร้อมกับยกสะโพกมนขึ้นมาติดกับกลางลำตัวก่อนที่จะก้มลงไปกระซิบแผ่วเบา
“ ห้ามล้วง ห้ามถอด ห้ามสอด ห้ามใส่ กุยังจำได้ทุกคำเลย ”
“ อ๊ะ...ธีร์จะทำอะไรหน่ะ!!! ”
CUT
100%
ฉาก CUT หาเจอได้ที่ห้องใต้บันไดนะ
หาห้องใต้บรรไดไม่เจอแปะเมลไว้ได้เลยนะ :)
......................................................
ความคิดเห็น