การผจญภัยของคุณพริกสามใบเถา - การผจญภัยของคุณพริกสามใบเถา นิยาย การผจญภัยของคุณพริกสามใบเถา : Dek-D.com - Writer

    การผจญภัยของคุณพริกสามใบเถา

    เมื่อทุกสิ่งในโลกมีชีวิตตามแบบที่มันเป็น!!!!! ในแบบที่มนุษย์อย่างเราไม่เคยเห็น... พริกหวาน พริกหยวก พริกขี้หนูและหนูนา อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ลองเขามาดูสิคุณจะอึ่ง และทึ่ง!!

    ผู้เข้าชมรวม

    245

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    245

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.พ. 54 / 09:22 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ..ยินดีต้อนรับเข้าสู้โลกแห่งเทพนิยาย..
    ดินแดนแ่ห่งความฝันอันมิมีที่สิ้นสุด
     
    ....
    เราไม่รู้ว่าท่านจะชอบเรื่องนี้สักเพียงใด
    เราไม่รู้ว่าท่านจะคิดอย่างไร
    เราไม่รู้ว่าสำหรับท่านแล้วเรื่องนี้จะเป็นเพียงสิ่งหนึ่งในชีวิตที่ผ่านมาแล้วผ่านไปหรือไม่
    แต่สำหรับเราแล้วมันคือเรื่องที่เราแต่ง เราภูมิใจ
    ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
    ขอบคุณ


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      การผจญภัยของคุณพริกสามใบเถา

      ในยามที่แสงจันทร์สาดส่องเข้ามายังห้องๆหนึ่ง  มีเงาดำ 3 เงาไหววูบวาบ  เงาทั้งสามนั้นกำลังนั่งล้อมวงคุยกันอยู่

      พี่หยวก พวกนั้นต้องกินเราแน่ๆเลย ทำไงดี เสียงจากร่างเงาๆหนึ่งพูดกับร่างเงาที่สองซึ่งชื่อว่า พริกหยวก

      หนูนี่ก็ พี่จะรู้ไหมละ... พริกหยวกตอบร่างเงาที่หนึ่งซึ่งชื่อว่า พริกขี้หนู

      เราหนีกันดีไหม พี่หวานคิดว่าไงค่ะ พริกขี้หนูถามร่างเงาที่สามที่ชื่อว่าพริกหวาน

      แล้วแต่พี่หยวกเถอะจ้ะ หวานให้พี่ตัดสินใจ พริกหวานพูดจบทั้งสองก็หันไปหาพริกหยวกรอการตัดสินใจ

      พี่ก็ว่าดีนะ เราไปกันเถอะ ก่อนที่พวกมนุษย์จะจับเรากิน พริกหยวกพูดจบก็รีบพาน้องๆของตนหนีออกไปทางประตูเพื่อออกสู่โลกภายนอกที่พวกเขาไม่เคยย่างออกไปโดยไม่รู้ว่าพวกตนจะพบเจออะไรอีกบ้างในกาลข้างหน้า

       

      เหล่าพริกทั้งสามหลังจากที่หนีออกมาแล้วพวกเขาก็ได้พบเจอแต่สิ่งที่ไม่เคยเห็น มันเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างมากสำหรับพวกเขา  พวกเขาเดินทางอย่างสนุกสนานตั้งแต่ออกมา แต่ตอนนี้พวกเขาเหนื่อยสุดโดยเฉพาะพริกหวานที่แทบจะเดินต่อไปไม่ไหว

      พี่หยวกพักสักนิดได้ไหมค่ะ หวานจะไม่ไหวแล้วพริกหวานร้องเรียกพี่ชายที่เดินนำหน้าไป

      อืม พักก่อนก็ได้จ้ะ นี่เราก็เดินมานานแล้ว พริกหยวกพูดก่อนจะเดินมานั่งข้างพริกหวานโดยที่พริกขี้หนูเดินสำรวจรอบๆด้วยความซุกซน

      หลังจากที่พริกขี้หนูสำรวจรอบข้างเสร็จ  เธอก็เดินกลับมาหาพี่หยวกกับพี่หวานที่ตอนนี้กำลังนั่งพิงโคนต้นไม้ใหญ่อยู่

      พี่หวานๆ หายเหนื่อยหรือยังค่ะ หนูเบื่อแล้วนะ ที่นี่ไม่เห็นมีอะไรน่าสนุกเลย พริกขี้หนูบอกอย่างเซ็งๆ

      เอ๊ะ เจ้าหนูนี่ ไม่เห็นหรือว่าหวานเขาเหนื่อยขนาดไหน ไม่ได้แข็งแรงเกินหญิงอย่างเจ้านะ พริกหยวกพูดเหน็บพริกขี้หนู

      พี่หยวก!!!  พี่หวานดูสิ  พี่หยวกว่าน้องละ พริกขี้หนูหันไปกอดพริกหวานที่นั่งอยู่อย่างออดอ้อน

      พี่หยวกค่ะ ทำไมว่าน้องหนูอย่างนี้ละ น้องหนูเขาแข็งแรงก็ดีแล้วนี่ค่ะ ขอโทษน้องหนูเดี๋ยวนี้เลยนะค่ะ พริกหวานพูด

      ขอ...โทษ..ก็ได้พริกหยวกพูดอย่างจำใจก่อนที่จะกัดฟันแน่นเมื่อเจ้าน้องตัวดีแลบลิ้นใส่อย่างเยาะเย้ย

      พี่หวานค่ะ พี่หยวกพูดไม่เห็นจริงใจเลย คนเขาต้องพูดอย่างจริงใจสิค่ะ ถึงจะเรียกว่าขอโทษนะ พริกขี้หนูเมื่อได้ทีก็เอาใหญ่

      น้องหนูนี่ น้องก็เหมือนกันนะ เอาใหญ่เชียว ที่พี่ให้พี่หยวกขอโทษก็เพราะเขาพูดไม่ดีจริงๆนะ รู้ไหม พริกขี้หนูพูดอย่างสั่งสอน แต่หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นการแลบลิ้นปลิ้นตาของพี่หยวกที่ทำใส่น้องหนูซึ่งเธอก็แสนจะเซ็งเช่นกัน

      ทีร่วมมือกันละก็ เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย แต่พอแบบนี้แล้ว...เฮ้อ ไม่ไหวๆพริกหวานแอบบ่นเบาๆโดยไม่ให้สองพี่น้องได้ยิน

      เหล่าพริกทั้งสามเมื่อพักได้ไม่นานนัก ทั้งสามก็ออกเดินทางอีกครั้ง  สองข้างทางที่เดินผ่านเริ่มมืดขึ้นเป็นสัญลักษณ์ว่าได้เวลาล่วงเข้าสู่ค่ำคืนแล้ว

      พรึบ.....

      พรึบ.....

      เมื่อกลางคืนได้ย่างเข้ามา  เสียงแปลกๆก็ดังขึ้นรอบตัวของเหล่าพริกสามใบเถา  พริกหวานค่อยๆขยับไปอยู่ข้างหลังของพริกหยวก  โดยที่ทั้งพริกหยวกและพริกขี้หนูค่อยๆขยับเข้าใกล้พริกหวานเพื่อเป็นกำบังให้สาวน้อยผู้ที่เป็นพี่และน้องของพวกเขา

      เสียงอะไรกันค่ะ พี่หยวก พริกหวานถามพริกหยวกด้วยความกลัว

      ชู่..  เงียบก่อนนะ พริกหวาน พริกหยวกพยายามเงี่ยหูฟังหาทิศทางที่เกิดเสียงเหล่านั้น แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอราวกับว่าเสียงนี้เกิดขึ้นรอบๆตัวของพวกเขา....  ก่อนที่พริกหยวกจะคิดอะไรมากกว่านี้ หมอกควันที่ไม่เคยมีก็ปรากฏขึ้น ก่อนที่เหล่าพริกจะค่อยๆล้มลงและหมดสติไป

       

       

      ฮูฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

      ก๊ากกกก   ในที่สุดเราก็ได้ยาอายุวัฒนะมาแล้ว ยาที่ร่ำลือกันว่ากินแล้วจะทำให้คงกระพัน ฮ่าๆๆๆ

      เสียงที่น่ารังเกียจดังขึ้นปลุกเหล่าพริกทั้งสามให้ลืมตาตื่น  สิ่งที่ปรากฏในสายตาอย่างแรกคือดวงตาสีแดงเรืองแสงอยู่รายรอบเต็มไปหมด  สร้างความหวาดหวั่นแก่เหล่าพริกที่ถูกจับมัดไว้ที่เสาอย่างมาก

      น้องหนู น้องหวานเป็นอย่างไรบ้าง พริกหยวกถามขึ้นด้วยเสียงอันเบาแต่...เสียงของเขาก็ยังดังพอที่จะทำให้ดวงตาสีแดงๆหลากหลายคู่หันมาจ้องพริกหยวกกันเป็นตาเดียว

                      หึหึ ตื่นแล้วรึเจ้ายาน้อยๆของข้า เสียงอันชั่วร้ายดังขึ้นก่อนที่จะมีเงาๆหนึ่งขยับเข้ามาใกล้จนกระทั่งสามารถเห็นหน้าตาได้ชัดเจน ท้งจมูกอันแหลมที่ยื่นออกมากับหนวดเส้นยาวๆที่อยู่ปลายจมูกอันเป็นลักษณะเฉพาะของมัน...ใช่แล้วมันคือ!!  หนูนั่นเอง!!!!

                      อะไรกัน!! แกจับพวกเรามาทำไม!!!” พริกขี้หนูพูดขึ้น

                      อ้อ พวกเจ้าคงไม่รู้สินะ จะบอกให้เอาบุญก็ได้ พวกเราก็แค่จะกินพวกเจ้าเท่านั้น หึหึ  ...ฮ่า ฮ่าๆๆๆ เจ้าหนูตัวนั้นพูดก่อนจะหัวเราะขึ้นโดยมีพวกมันอีกหลายตัวร่วมหัวเราะผสมกันไปด้วย

                      อ่า ลูกน้องที่น่ารักของข้าช่วยดูแลเจ้าตัวน้อยพวกนี้ด้วยนะ อีกสามวันเท่านั้น เราจะจัดงานเลี้ยงฉลองกินพวกมันกัน!!!” เจ้าหนูตัวนั้นตะโกนขึ้นมาก่อนที่เหล่าลูกน้องจะโห่ร้องด้วยความดีใจ

       

       

                      จะทำยังไงกันดี อีกสามวันเท่านั้น พริกหวานพูดด้วยความเศร้าใจโดยที่ตอนนี้มีเพียงพวกเธอเท่านั้นเพราะหนูพวกนั้นได้ออกไปกันหมดแล้ว

                      ต้องหนีสิ...แต่ว่าเราจะออกไปยังไงละ พริกหยวกพูดด้วยความจนใจ

                      แกร๊กๆ  เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นที่หน้าประตู

                      แอ๊ดดดด

                      ประตูที่เคยปิดได้ถูกเปิดขึ้นท่ามกลางความตกใจของพวกพริก  ข้างหลังประตูที่เปิดนั้นปรากฏหนูตัวหนึ่งขึ้นแต่นั่นคงไม่สร้างความยินดีให้แน่  ถ้าหนูตัวนั้นเป็นหนูบ้านที่พวกพริกทั้งสามเคยเจอในบ้านมนุษย์

                      เฮล!!”พริกทั้งสามประสานเสียงเรียกหนูเพศชายที่พวกเขารู้จักและหลงใหลในชีวิตอันอิสระของเขา...ใช่  เขาเป็นคนที่มีอิสรเสรีอย่างมาก เป็นคนที่คอยท่องเที่ยวไปตามที่ต่างอย่างที่ใจต้องการ  เป็นทั้งพี่ชายและเพื่อนของพวกเขา

                      โอ๊ะ ไงจ๊ะ เพื่อนรักบอกสิทำยังไงถึงมาอยู่นี่ เฮลค่อยๆเดินมาด้วยท่าทางที่น่าถีบเป็นอย่างมากสำหรับพริกหยวกกับพริกขี้หนู แต่สำหรับพริกหวานนั้นเธอรู้สึกราวกับวีรบุรุษผู้ช่วยชีวิต

                      เฮอะ ไม่เห็นหน้ามานานยังเหมือนเดิมนะ พริกหยวกพูดขณะที่เฮลช่วยแกะเชือกที่มัดไว้ให้

                      อ่าหะ แต่ช่วยบอกหน่อยสิ หนีออกมาทำไมกันเฮลถามอีกรอบ

                      ก็พวกมนุษย์จะจับเรากินนะสิ เราก็เลยหนีออกมา พริกหวานตอบ

                      ไม่น่าเลยนะ ทั้งๆที่นั่นปลอดภัยที่สุด

                      แล้วจะให้เราโดนกินหรอ

                      ไม่รู้สิ ต้องถามพวกเธอต่างหาก พริกอื่นๆที่ผมรู้จักนะ มีหลายคนที่ยอมให้มนุษย์กิน พวกเขาบอกว่าการเกิดมาแล้วมีประโยชน์ย่อมดีกว่ามีชีวิตและอยู่ไปวันๆเท่านั้น และมีอีกหลายคนที่เลือกหนีไปแต่ก็นะ...ชีวิตเรามันไม่ยืนอยู่แล้ว เมื่อเฮลพูดจบเขาก็แกะเชือกเสร็จพอดี

                      หรือค่ะ พริกหวานพูดด้วยสีหน้าสลดลง มันก็จริงพวกมนุษย์เลี้ยงเรามาก็สมควรทดแทนบุญคุณไม่สมควรอกตัญญู อีกทั้งเราเป็นพริก..เขาบอกกันว่าพริกมีประโยชน์หลากหลายอย่างทั้งลดอาการบาดเจ็บ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง  ช่วยเสริมสร้างสุขภาพต่างๆนานา

                      งั้นเราก็สมควรกลับไปใช่ไหมค่ะ คุณเฮล พริกหวานพูดโดยที่สองศรีพี่น้องที่คิดตามด้วยต่างก็พยักหน้า

                      แล้วแต่สิจ๊ะ เฮลพูด เอาละ เราออกจากที่นี่กันเถอะ

       

       

                      หวอๆๆๆ

                      หายไปแล้วๆๆ ตามหาเร็วเข้า

                      เร็วๆ เจอแล้วมันอยู่ทางนูน

                      แฮกๆๆ....

                      หวานวิ่งไม่ไหวแล้วค่ะ พวกพี่กับน้องหนูไปกันก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหวานตามไป พริกหวานพูดเมื่อเธอเริ่มวิ่งไม่ไหว

                      ไม่ได้นะ  ไปไหนไปกันสิหวาน พริกหยวกพูด

                      ใช่ๆ พริกขี้หนูเสริมพร้อมกับการพยักหน้าของเฮล

                      เร็วเข้า!!!”

       

       

                      หึหึ....ฮ่าๆๆๆๆๆ

                      ในที่สุดพวกเจ้าก็หนีข้าไม่พ้น เจ้าหนูตัวร้ายพูดโอ้ แล้วนี่อะไร หนูบ้านรึ เหตุใดถึงไปช่วยเจ้าพริกทั้งสามนี่เล่า

                      มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า!!!” เฮลตวาดใส่ ขณะที่พวกเขาถูกล้อมไว้ด้วยกองทัพหนูโดยที่ข้างหลังเป็นแม่น้ำสายใหญ่

                      งั้นก็ไม่เป็นไร เอาละ ลูกน้องข้าจับพวกมันเร็ว!!!”  เจ้าหนูตะโกนสั่งลูกน้อง

                      รีบโดดลงน้ำเร็ว!!!” เฮลสั่งพริกทั้งสาม

                      แต่ว่า....

                      ไม่มีแต่!! เร็ว!! กระโดดแล้วเกาะขอนไม้ไว้

                      ตูม ตูมตูม!!!!!

                      พริกทั้งสามกระโดดลงน้ำแล้วรีบว่ายไปเกาะที่ขอนไม้ใหญ่ที่ลอยมาตามน้ำ  แต่ทว่า....

                      เฮล!!!!!!!!!!!!!!!” พริกหวานตะโกนเรียกผู้ที่ยังยืนบนฝั่งโดยหันหน้าประจันกับเหล่าหนูที่วิ่งเข้าหาด้วยอาวุธครบมือ

                      เฮลคอยสกัดกั้นไม่ให้หนูพวกนี้ตามพวกพริกได้ จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่าไม่สามารถตามได้ เขาจึงกระโจนลงน้ำและว่ายไปหาท่อนไม้ที่ลอยออกไปไกลมาก ซึ่งโชคดีของเขาที่ออกท่องโลกกว้างจนสามารถว่ายน้ำได้ผิดกับหนูพวกนั้น..

                      ขณะที่ดีใจอยู่นั่นเอง บางอย่างก็แหวกอากาศมาปักเข้าที่กลางหลังเขาอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนเขาไม่สามารถว่ายน้ำได้และเกือบจะจมน้ำถ้าไม่เพราะเขาถูกน้ำพัดเข้าหาขอนไม้ที่สามพี่น้องเกาะอยู่และช่วยเขาไว้ได้

                      ส่วนพวกหนูพวกนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยิ่งธนูซึ่งไปโดนหลังเฮลแล้ว  พวกมันก็ไม่สามารถว่ายน้ำได้จนต้องไปพริกทั้งสามไปอย่างเสียดาย

       

       

                      เฮลๆๆ พริกหวานร้องเรียกเฮลอย่างใจไม่ดี เมื่อพวกเธอลอยมาจนกระทั่งขึ้นบกได้และรากเฮลขึ้นฝั่งมาโดยที่อาการของเฮลนั้นสาหัสอย่างมาก เพราะเสียเลือดไปเป็นเวลานาน

                      หวะ...หวาน เฮลพูดด้วยความเหนื่อยอ่อน

                      เฮล เป็นยังไงบ้าง หวานพูดด้วยอาการที่สั้นสะท้าน เมื่อคิดว่าเขาจะต้องตาย

      มะ...ไม่เป็นไรหรอก ผะ..ผมหนังเหนียวจะตาย เฮลพูดพร้อมทั้งปรือตาขึ้นมามองพริกทั้งสามที่นั่งล้อมรอบเข้าไว้

      อย่าพูดเล่นสิ หวานกล่าวเสียงสั่นก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลลงมา

      เด็กน้อย...แฮก.. ยะ..อย่าร้องสิ  พี่รู้ว่า..ตะ..ต้องตายแน่ๆ...มะ.. ไม่มีทางที่รอด...ระ.หรอก  แต่อย่างน้อยยะ..ยิ้มให้พี่..สะ...สักหน่อยก่อนตายได้ไหม... เฮลพูดยิ้มๆทั้งที่เขาใกล้จะตายแล้ว  แต่ทำยังไงได้เมื่อเด็กน้อยที่เขาดูแลมาตลอดร้องไห้ถึงขนาดนี้....เด็กน้อยที่พบเจอโดยบังเอิญขณะที่แอบเขาบ้านของมนุษย์  เด็กน้อยที่เขาชอบแต่แรกเห็น เด็กน้อยตาสีเขียวสดใส ผมหลากสีที่ผสมไปด้วยส้มแดงเหลืองซึ่งผสมกันอย่างลงตัวโดยที่เขาไม่เคยพบมาก่อน  เด็กน้อยที่เข้ามาทักเขาเพราะไม่เคยเจออะไรที่มีลักษณะแบบเขา  เด็กน้อยแสนน่ารักของเขา....ใช่  ของเขา

      แม้จะเป็นความรักที่ไม่มีวันสมหวัง รักที่ผิดเผ่าผิดพันธ์  รักที่ไม่น่าเป็นไปได้  แต่เมื่อเขารักแล้วจะให้เขาทำยังไงละ  ถึงแม้จะรู้ว่าเธอไม่มีวันรักเขาก็ตาม

      เฮล หวานไม่อยากให้เฮลตายนี่ หวะ หวานรักเฮลนะ หวานไม่อยากให้เฮลตาย หวานพูดด้วยน้ำตานองหน้าก่อนที่จะก้มลงกอดเฮลแน่น

      ...ให้ตายสิ  มันไม่น่าเป็นไปได้นี่ แต่ก็เป็นไปแล้ว  พระเจ้า  เขาขอบคุณจริงๆ ขอบคุณอย่างมากที่เด็กน้อยคนนี้รักเขาทั้งที่เขาไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกับเธอ...

                      พะ...พี่ก็รักเธอนะหวาน พี่รักเธอ ตั้งแต่แรกเห็น เฮลตอบก่อนที่จะโอบกอดหญิงคนรักไว้แม้จะเป็นนาทีสุดท้ายที่เขาได้รู้ใจกันแต่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าพวกเขาใจตรงกัน ดีกว่าเก็บเอาไว้จริงๆ

                      งะ...งั้นยิ้มให้พี่หน่อย...นะ ครั้ง...สะ..สุดท้ายแล้วละ..ยะ..อย่างน้อยพี่ก็จะเก็บยิ้มของเธอ..ปะ..ไปด้วย เฮลพูด โดยที่พริกหวานก็ยอมมอบยิ้มที่สวยงามที่สุดในชีวิตให้เขาไป ก่อนที่เฮลจะค่อยๆหลับตาและจากไปตลอดกาล

       

                      หวาน พริกหยวกเรียก

                      ค่ะ เขาไปแล้วละพี่ เขาไปแล้วบนฟ้านั้น หวานพูดก่อนจะชี้ไปยังฟากฟ้า ที่ๆชายคนรักของเธอไป ชายที่เธอหลงรักตั้งแต่แรกเห็น สัตว์รูปร่างแปลกตาที่เธอพบในสมัยยังเด็ก แต่เธอก็รู้สึกว่าเขาช่างเท่ห์เหลือเกิน ใบหน้าที่ออกคล้ำหน่อยๆ เส้นผมสีน้ำตาลกับตาสีดำแวววาว มีหูที่ยาวแหลมและเขาก็ใส่ชุดคาวบอย  สำหรับมนุษย์อาจจะเห็นเราเป็นอีกรูปร่างหนึ่ง แต่อย่างเราๆแล้ว เราจะเห็นเป็นรูปกายที่คล้ายมนุษย์แต่ก็ไม่คล้ายไปเสียหมด  เราจะมีรูปร่างคล้ายมนุษย์หรือรูปร่างที่มนุษย์เห็นนั้นแล้วแต่จิตของสิ่งๆนั้นเพราะเรามองคือเรามองที่จิตใจยิ่งสวยยิ่งงามเท่าไหรจิตใจก็งามตามนั้น  หมายความว่าเราจะมองก็มองที่จิตใจแต่รูปร่างที่มนุษย์เห็นนั้นเหมือนกันหมด...

                      เธอเชื่อว่าคนที่มีจิตใจอย่างเขานั้นต้องไปอยู่บนนั้นแน่นอนแล้วเราอาจจะได้พบกัน  แต่ถึงจะเชื่ออย่างนั้นมันก็...อดที่จะเจ็บไม่ได้ เจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นราวกับหัวใจไม่ได้อยู่กับร่างกายมันถูกกระชากไปซะแล้ว

                      หวานเราไปกันเถอะ พริกหยวกเรียก

                      ค่ะ ไปกัน มีคุณต้องทดแทนนี่ค่ะ อีกอย่างชีวิตหนึ่งก็ไม่ได้ยาวนานยังไงก็ขอทำประโยชน์หน่อยเถอะ ดีกว่าอยู่อย่างไร้ประโยชน์ไปวันๆ

                      หลังจากนั้นทั้งสามก็กลับไปยังบ้านเดิมบ้านของมนุษย์โดยที่มนุษย์ไม่มีวันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและพริกทั้งสามได้เคยหายไป

       

       

                      ลัลลา ~~~~~~~

                      ลัน  ลั้น ละ ลั่น ละ ลัน ละ ลันลา ~~~~

                      ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงามเด็กสาวคนหนึ่งผู้มีผมสีส้มดั่งแสงตะวัน  ตาสีเขียวสดใสดั่งมรกตเม็ดงามกำลังวิ่งและร่ายรำอย่างสนุกสนานท่ามกลางดอกไม้และเหล่าผีเสื้อแสนสวย  ชุดสีขาวพิสุทธิ์ทำให้เด็กสาวงดงามราวนางฟ้า  เสียงเพลงร่ายรำนั้นปลุกให้ผู้ที่มานอนอยู่ก่อนหน้าตื่นขึ้นและมองไปทางต้นเสียง  ก่อนที่จะก้าวเดินไปหาต้นเสียงที่กำลังร่ายรำอยู่

                      อ๊ะ เสียงเด็กสาวอุทาน เมื่อเธอเกือบหมุนชนชายหนุ่มเข้า ชายหนุ่มผู้มีผมสีน้ำตาลและดวงตาสีดำแวววาว ทำไมกันนะรู้สึกคุ้นเคยจัง

                      เธอ...ใครนะ ชายหนุ่มถาม

                      เราพึ่งมานะ ชื่อ เอ่อ จำไม่ได้นะ เด็กสาวตอบ

                      ฮิฮิ ก็เหมือนกันแหละ ทุกคนที่มาที่นี่ไม่มีใครจำอะไรได้หรอกนะ แต่เขาบอกว่าให้เลือกทางเดินของตนเอง โดยจะอยู่ที่นี่ต่อไป หรือจะลงไปข้างล่างเพราะสำหรับพวกเรานั้นได้เวลาเริ่มต้นใหม่แล้ว

                      แล้วทำไมนายไม่เลือกละ

                      ไม่รู้สิ เหมือนต้องอยู่รอก่อนนะ

                      แล้วรอใครละ

                      อาจจะรอเธอ...มั้งนะ

                      แต่เราไม่เคยเจอกันนะ

                      ก็ไม่เป็นไรนี่ เขาบอกให้เริ่มต้อนใหม่นะ   เอาเป็นว่า... ฉันเรียกเธอว่า หวาน ละกัน

                      งั้น ฉันเรียกนายว่า เฮล นะ

                      ได้สิ

                                                                                                                                                                                         

      ขอบคุณที่อ่านจนจบนะท่าน  ขอให้ท่านมีความสุข
      จำไว้เถิดทางที่เราเดินแต่ละเส้นย่อมมีความหมายเสมอ
      บางครั้งท่านอาจจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่โชคชะตามักมีความหมายของมันเอง
      อีกทั้งทางเดินของท่านที่ท่านเลือก
      ท่านอย่าได้เสียใจเลยไม่ว่าทางที่ท่านเลือกจะถูกหรือผิด
      ไม่ว่าจะเจ็บปวดสักเพียงใดในชีวิตที่ว่าทุกข์ย่อมมีความสุขมาปะปนเสมอ
      แต่อาจเป็นท่านเองที่ไม่มองมัน จนคิดว่าชีวิตนี้มีแต่ความทุกข์ไร้ความสุข

      ปล.รักษาสุขภาพด้วย  (บางทีอาจมีคนข้างกายที่ท่านมองไม่เห็นว่ากำลังแอบเป็นห่วงท่านอยู่ลึกๆนะ)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×