ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อโยธยา เด็กซ่า ออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #7 : เข้าใจผิด

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 58


    “"ฮ่าๆๆๆไอ้หนุ่มเนี้ยนะจะเป็นผู้ปลดปล่อย โอย ขำว่ะ"เสียงหัวเราะอย่างไม่เกรงใจของผู้นั่งหัวโต๊ะที่ราวกับเป็นเรื่องตลกขบขันสุดๆส่งผลให้หญิงสาวที่นั่งข้างๆถึงกับหน้าง่ำหน้าง้อ ส่วนชายหนุ่มที่นั่งตรงกันข้ามก็ได้แต่ลูบหัวตัวเองไปมาหัวเราะแห้งๆผสมโรง


    “"หนูก็น่าจะเห็นนี่ ว่าไอ้หนุ่ม ยังไม่ได้เปลี่ยนอาชีพขั้นหนึ่งเลย แล้วจะไปเป็นผู้ปลดปล่อยที่เป็นคลาสแห่งตำนานของจอมเวทย์ได้ไง ถ้าได้จริงนะ แค่ข่าววิธีเปลี่ยนคลาสขายได้เป็นล้าน ฮ่าๆ”" คำพูดนี้ทำให้ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งมองหน้าผู้อาวุโส แล้วคิดในใจ เป็นล้านเลยหรอ ถ้าเราจะบอกว่าไอ้วิธีเปลี่ยนคลาสอาชีพในตำนานนี่มีในบทสรุปตามแผงหนังสือบ้านเราราคาเล่มล่ะ 199 บาทจะเชื่อไหมเนี้ย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเนื่องจากไม่มีหลักฐานสนับสนุนยืนยันและก็ไม่มั่นใจว่าจะใช้ได้จริง

     

    “"ท่านพ่ออ่ะ ก็มันตกใจนี้ อยู่ๆก็บอกว่าได้ดาบผนึกวิญญาณ ไอ้อาวุธแบบนี้ก็มีแต่อาชีพผู้ปลดปล่อยเท่านั้นที่จะมีได้ไม่ใช่หรือ" เสียงหัวเราะของคนเป็นพ่อเงียบไปทันทีก่อนจะหันไปทำหน้าจิงจังใส่ชายหนุ่มที่ยังทำหน้าไม่รู้เรื่อง


    “"เจ้าได้อาวุธที่ผนึกวิญญาณได้อย่างนั้นรึ ขอข้าดูหน่อยซิ”"


    เทพหยิบดาบศิลาออกมาจากหน้าจอไอเท็มแล้วยืนไปให้ ผู้เฒ่าถึงกับหน้าแปรเปลี่ยนเมื่อได้จับดาบ ก่อนจะลุกยืนแล้วทดสอบกวัดแกว่งดู เป็นดาบที่น่ากลัวมาก นอกจากจะตรวจสอบไม่ได้ เวลาใช้ยังมีความรู้สึกว่ากินแรงแบบประหลาดด้วย


    “"แน่นอน ก็เจ้าไม่ใช้เจ้าของข้านี้"  


    เสียงที่ดังออกมาจากอาวุธแทบทำให้คนถือโยนดาบทิ้ง ดีแต่ด้วยเป็นพรานเก่ามีประสบการณ์เรื่องลี้ลับมามากจึงพอมีสติอยู่บ้าง ผิดกับลูกสาวที่ร้องกรี๊ดหงายหลังไปแล้ว ร้อนถึงชายหนุ่มต้องรีบไปดูอาการ


    “"เป็นลูกพรานดันกลัวผี น่าขายหน้าจริงๆ"


    คนเป็นพ่อได้แต่ส่ายหน้ายิ้มกับท่าทางถอยหนีของคนเป็นลูกก่อนจะจ้องทำตาดุใส่คนปลอบไม่ให้ถือโอกาสทำอะไรมากว่านั้น


    “"เฮ้ย เรียกดีๆหน่อยซิว่ะ อย่างข้าเรียกวิญญาณ ไม่ใช่ผี เข้าใจด้วย”"


    “"แล้วผีกับวิญาณมันต่างกันตรงไหนล่ะ"


    ครั้งนี้กับกลายเป็นเสียงถามของเจ้านายมันที่มีหญิงสาวนั่งขดเอาตัวชายหนุ่มบังไว้เหมือนกลัวว่าดาบจะแลบลิ้นปลิ้นตาหลอก

    "ผีคือผู้ที่ตายไปแล้วแต่ยังหาทางไปเกิดไม่ได้จึงวนเวียนอยู่ในที่ ๆ ไม่ควรอยู่ แต่วิญญาณคือปราณธาตุแห่งอารมณ์ ความรู้สึก ความทรงจำ เข้าใจรึยัง"


    "ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่าเจ้าไม่จกตับเรากินแบบปอบหยิบใช่ปล่าว" 


    เสียงหญิงสาวที่ถามขึ้นมาอย่างสั่นๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง เรียกเสียงหัวเราะแบบท้องคดท้องแข็งจากคนเป็นพ่อ ส่วนเจ้าดาบก็ทำเสียงจิจ๊ะประมาณแบบคิดได้ยังไง

    "เอาเถอะ ๆ เจ้าจะเป็นอะไรก็ช่าง ว่าแต่กลายมาเป็นผี เฮ้ย วิญญาณสิงในดาบนี้ได้ยังไง"

     เงียบไปชั่วขณะหนึ่ง เหมือนกับกำลังเรียบเรียงความคิด ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า

    "ในอดีตกาลนานมาแล้ว ยังมีเมืองอยู่เมืองหนึ่งชื่อ มนตรานคร เป็นเมืองแห่งสรรพวิชาเวทมนตร์ที่รุ่งเรืองเป็นอย่างมาก หากแต่วันหนึ่งก็เหมือนฝันร้ายปรากฎ เหล่าอสูรปีศาจจากที่ไหนก็ไม่รู้ บุกเข้าถล่มเมืองจนย่อยยับ มันรวดเร็วมากจนพวกข้าตั้งตัวไม่ทัน ข้ากับเหล่าขุนพลอีก 5 คนถูกอสูรตนหนึ่งดูดวิญญาณออกจากร่าง แต่ท่านราชาสังหารอสูรตนนั้นได้ทันก่อนจะร่ายเวทย์ส่งวิญญาณข้ากับเพื่อนออกนอกเมือง ตัวข้าติดอยู่ในร่างหมาป่าตัวหนึ่ง มันได้พลังวิญญาณจากข้าทำให้มันไม่มีวันแก่ไม่มีวันชรา โชคดีตรงที่มันไม่สามารถเพิ่มเลเวลได้ไม่งั้นข้าคงรู้สึกผิดยิ่งกว่านี้"
     
    "หมายความว่ายังไงไม่แก่อย่างนั้นหรอ งั้นมันก็เหมือนอมตะเลยซิ" พรานใหญ่สายตาเป็นประกาย ใครบ้างจะไม่อยากมีชีวิตนิรันดิ์

    "ไม่หรอก ถึงไม่แก่แต่ก็ตายได้ ไม่งั้นจะมาอยู่ที่ดาบนี้รึ"

    "หมายความว่าเพื่อนท่านอีก 5 คนก็กระจายกันออกไปซินะ" เทพขบคิดพยายามนึกให้ออกว่ามีเควสแบบนี้รึปล่าว


    "ใช่ครับนายท่าน แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนข้าอยู่ที่ไหน บ้านเมืองข้าจะเป้นอย่างไรแล้วตอนนี้ ข้าคิดถึงบ้านยิ่งนัก" นำเสียงเศร้าลอยออกมาอย่างอดไม่ได้ แม้จะเป็นชายชาติทหาร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไร้หัวใจ ยังคงมีความรู้สึกนึกคิดเฉกเช่นคนทั่วไป  เทพฟังแล้วก็อดคิดถึงบ้านไม่ได้เช่นกัน


    "เอาเถอะ ๆ " พรานตัดบทด้วยไม่อยากเจอบรรยากาศแบบนี้ "ข้าเองก็พอรู้จักนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง เอาเป็นว่าจะช่วยเจ้าหาก็แล้วกัน นี้ก็เย็นมากแล้ว ค่อยคุยรายละเอียดตอนเช้าละกัน ฮ้าวววว " พูดจบก็โยนดาบให้เทพก่อนจะเดินไป หาวไปโดยไม่สนใจใครอีก

    "ก็อย่างที่พ่อว่ามันดึกแล้ว งั้นไปก่อนนะ" นี้ก็อีกคน พูดยังไม่ทันจบด้วยซำก็เผ่นแนบไปทันที (ท่าทางจะกลัวเป็นเอามาก) 

    เทพได้แต่สายหัวกับอาการของกริยา ก่อนจะเก็บดาบเข้าหน้าจอแล้วกลับเข้าห้องนอน ระหว่างทางก็เหมือนนึกอะไรได้บางอย่างก่อนจะหันขวับไปทางห้องของกริยา

    "ในโลกนี้ มีปอบหยิบด้วยหรอ" 






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×