ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบการย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิต ~ !!

    ลำดับตอนที่ #2 : การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิด

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 52


    การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิด

    สัตว์บางชนิด
      เช่น  ฟองน้ำไม่มีระบบทางเดินอาหาร  แต่จะมีเซลล์พิเศษทำหน้าที่จับอาหารเข้าสู่เซลล์แล้วทำการย่อยภายในเซลล์สัตว์บางชนิดมีระบบทางเดินอาหารไม่สมบูรณ์  เนื่องจากมีช่องเปิดทางเดียว เช่น ไฮดรา พลานาเรีย

    สัตว์บางชนิดเช่น ไส้เดือนดิน แมลงและสัตว์มีกระดูกสันหลังมีระบบทางเดินอาหารสมบูรณ์ คือมีปากและทวารหนัก  ระบบทางเดินอาหารของสัตว์เหล่านี้จะมีโครงสร้างรายละเอียดบางอย่างแตกต่างกัน  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารและพฤติกรรมการกิน

    1.  การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิดที่ไม่มีกระดูกสันหลัง

    1.1  การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิดที่ไม่มีทางเดินอาหาร
    ฟองน้ำ
    (Sponge) เป็นสัตว์ในไฟลัมพอริเฟอรา  ไม่มีปากและทวารหนักที่แท้จริง  ทางเดินอาหารเป็นแบบร่างแห (Channel network)  ซึ่งไม่ใช่ทางเดินอาหารที่แท้จริง  เป็นเพียงรูเปิดเล็กๆ ข้างลำตัว  เรียกว่า ออสเทีย (Ostia)  ทำหน้าที่เป็นทางน้ำไหลเข้าสู่ลำตัวฟองน้ำเป็นการนำอาหารเข้าสู่ลำตัว  ส่วนรูเปิดด้านบนลำตัว เรียกว่า ออสคิวลัม (Osculum) ทำหน้าที่เป็นทางน้ำออก ผนังด้านในมีเซลล์พิเศษ เรียกว่า เซลล์โคแอนโนไซต์ (Choanocyte) โบกพัดเซลล์อยู่ตลอดเวลา  ทำให้เกิดการไหลเวียนของอาหาร ตัวเซลล์โคแอนโนไซต์นำอาหารเข้าสู่เซลล์โดยฟาโกไซโทซีส (Phagocytosis)เกิดเป็นฟูดแวคิวโอลและมีการย่อยอาหารภายในฟูดแวคิวโอลนอกจากนี้ยังพบเซลล์ บริเวณใกล้กับเซลล์โคแอโนไซต์มีลักษณะคล้ายอะมีบา เรียกว่า อะมีโบไซต์ (Amoebocyte)  สามารถนำสารอินทรีย์ขนาดเล็กเข้าสู่เซลล์และย่อยอาหารภายในเซลล์แล้วส่งอาหารที่ย่อยแล้วไปยังเซลล์อื่นได้



    ภาพที่  2.1  แสดงโครงสร้างภายในของฟองน้ำ  เซลล์โคแอโนไซด์ในการจับ

               อาหารแบบฟาโกไซโทซีสย่อย  แล้วส่งอาหารต่ออะมีโบไซต์

    ที่มา : www.mun.ca/biology/scarr/Porifera.htm

    1.2  การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิดที่มีทางเดินอาหารไม่สมบูรณ์ (Incomplete  digestive  tract)

    เป็นทางเดินอาหารที่มีทางเปิดทางเดียว  คือ มีปากแต่ไม่มีทวารหนัก  ปากทำหน้าที่เป็นทางเข้าของอาหารและทางออกของกากอาหาร  ระบบทางเดินอาหารยังไม่พัฒนามากนัก

    ไฮดรา  เป็นสัตว์ในไฟลัมไนดาเรีย  มีทางเดินอาหารเป็นแบบปากถุง (One hole sac)  ไฮดราใช้อวัยวะคล้ายหนวด  เรียกว่าหนวดจับ (Tentacle)  ซึ่งมีอยู่รอบปาก อาหารของไฮดราคือ   ตัวอ่อนของกุ้ง  ปู  และไรน้ำเล็กๆ  และใช้เซลล์ที่มีเนมาโทซิสต์ (Nematocyst)  หรือเข็มพิษที่อยู่ที่ปลายหนวดจับในการล่าเหยื่อ  ต่อจากนั้นจึงส่งเหยื่อเข้าปาก  ทางเดินอาหารของไฮดราอยู่กลางลำตัวเป็นท่อกลวงเรียกว่า ช่องแกสโตรวาสคิวลาร์ (Gastrovascular cavity)  ซึ่งบุด้วยเซลล์ทรงสูง   เรียกว่าชั้นแกสโตรโดรมิส (Gastrodermis) เป็นเยื่อชั้นในบุช่องว่างของลำตัวซึ่งประกอบด้วย

    1. นิวทริทิพ เซลล์ (Nutritive cell) บางเซลล์มีแซ่ 2 เส้น เรียกว่า แฟลเจลเลตเซลล์ (Flagellate cell) บางเซลล์คล้ายอะมีบา เรียกว่าอะมีบอยด์เซลล์ (Amoebiol cell) ทำหน้าที่ยื่นเท้าเทียมออกมาล้อมจับอาหาร ส่วนแฟลเจลเลตเซลล์ มีหน้าที่โบกพัดให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำภายในช่องแกสโทรวาสคิวลาร์ และโบกพัดให้กากอาหารเคลื่อนที่ออกทางปากต่อไป

    2. เซลล์ต่อมหรือเซลล์ย่อยอาหาร (Gland cell or digestive cell) เป็นเซลล์ที่สร้างน้ำย่อยและปล่อยออกมา ซึ่งการย่อยอาหารโดยเซลล์ต่อม จัดเป็นการย่อยอาหารแบบนอกเซลล์ ส่วนการย่อยโดยอะมีบอยด์เซลล์จัดเป็นการย่อยอาหารแบบภายในเซลล์



                                    ภาพที่  2.2  แสดงช่องว่างกลางลำตัวของไฮดรา(Gastrovascular  cavity) เซลล์จับอาหารกิน

                                                      (Nematosis )และเซลล์พิเศษที่สร้างน้ำย่อยของไฮดรา

                                                      ที่มา : www.baanlast.th.gs/web-b/aanlastle.htm

    หนอนตัวแบน   เป็นสัตว์ที่อยู่ในไฟลัมแพลทีเฮลมินทิส (Platyhelminthes)  ได้แก่ พลานาเรีย  พยาธิใบไม้ และพยาธิตัวตืด

    1.
    พลานาเรีย ทางเดินอาหารของพลานาเรียเป็นแบบ 3 แฉก แต่ละแฉกจะมีแขนงของทางเดินอาหารแตกแขนงย่อยออกไปอีกเรียกว่า ไดเวอร์ทิคิวลัม (Diverticulum) ปากอยู่บริเวณกลางลำตัว  ต่อจากปากเป็นคอหอย (Pharynx) มีลักษณะคล้ายงวงยาวหรือโพเบอซิส (Probosis)  มีกล้ามเนื้อแข็งแรง  มีหน้าที่จับอาหารเข้าสู่ปาก กากอาหารที่เหลือจากการย่อยและดูดซึมแล้วจะถูกขับออกทางช่องปากเช่นเดิม  การย่อยอาหารของพลานาเรียเป็นการย่อยภายนอกเซลล์  นอกจากนี้เซลล์บุผนังช่องทางเดินอาหารยังสามารถฟาโกไซโทซิสจับอาหารเข้ามาย่อยภายในเซลล์ได้ด้วย



    ภาพที่  2.3  ภาพซ้ายแสดงคอหอยที่ใช้จับอาหารและปาก  และภาพขวาแสดงทางเดินอาหารของพลานาเรีย

                  ที่มา :  รูปซ้าย  www. johnson.emcs.net        รูปขวา www.geocities.com

    2. พยาธิใบไม้ มีทางเดินอาหารคล้ายพลานาเรีย แต่ทางเดินอาหารส่วนลำไส้ไม่แตกกิ่งก้านสาขา  มีลักษณะคล้ายอักษรรูปตัววาย (Y–shape) ทางเดินอาหารของพยาธิใบไม้ประกอบด้วยปากปุ่มดูด (Oral  sucker) ที่มีปากดูดกินอาหารจากโฮสต์ ต่อจากปากเป็นคอหอย (Pharynx) ต่อจากคอหอยเป็นหลอดอาหารสั้น ๆซึ่งจะต่อกับลำไส้ (Intestine)



      ภาพที่ 2.4  แสดงทางเดินอาหารของพยาธิใบไม้และอวัยวะภายในบางชนิด

     ที่มา : geocities.com

    3. พยาธิตัวตืด  ไม่มีระบบทางเดินอาหาร เพราะอาหารที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายส่วนใหญ่ถูกแปรสภาพเรียบร้อยแล้วโดยผู้ถูกอาศัย   ใช้กระบวนการแพร่ของสารอาหารที่ย่อยแล้วเข้าสู่ร่างกาย



                                                                                ภาพที่ 2.5  ลักษณะของพยาธิตัวตืด

                                                                                ที่มา : www.kateteneyck.com



    ภาพที่ 2.6  ภาพตัวโตเต็มวัยของพยาธิตัวตืดที่เน้นให้เห็นส่วนหัว โดยเฉพาะส่วนที่ใช้เกาะดูด (Sucker)

                  ที่มา : www.thailabonline.com/bacteria/tenia1.jpg

    1.3 การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิดที่มีทางเดินอาหารสมบูรณ์ (Complete  digestive  tract)

    หนอนตัวกลม เป็นสัตว์ที่อยู่ในไฟลัมเนมาโทดา (Nematoda) มีทางเดินอาหารเป็นแบบช่องเปิด 2 ทาง หรือท่อกลวง (Two hole tube)  มีคอหอยเป็นกล้ามเนื้อหนาช่วยในการดูดอาหาร  มีลำไส้ยาวตลอดลำตัว อาหารที่หนอนตัวกลมกินเข้าไปจะถูกย่อยและดูดซึมโดยลำไส้
    ทางเดินอาหารของหนอนตัวกลมเรียงตามลำดับต่อไปนี้



    ภาพที่ 2.7  แสดงทางเดินอาหารของหนอนตัวกลม มีปากและทาวารหนัก

                                 ที่มา : www.uic.edu/classes/bios/bios100/labs/animaldiversity.htm

    ไส้เดือนดิน เป็นสัตว์ที่อยู่ในไฟลัมแอนนิลิดา มีระบบทางเดินอาหารเป็นแบบช่องเปิด 2 ทาง (Two hole tube) ทางเดินอาหารของไส้เดือนดินประกอบด้วยปาก ซึ่งเป็นรูเปิดทางด้านหน้าของปล้องที่หนึ่ง ต่อจากปากก็จะเป็นช่องปาก (Buccal cavity) คอหอยมีกล้ามเนื้อหนาช่วยในการฮุบกิน มีกระเพาะพักอาหารและมีกึ๋นช่วยในการบดอาหาร ลำไส้สร้างน้ำย่อยปล่อยออกมาย่อยอาหาร สารอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบเลือด เพื่อลำเลียงไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายส่วนสารที่ย่อยไม่ได้ก็จะถูกขับออกทางช่องทวารหนักที่อยู่ทางส่วนท้ายของลำตัวเป็นกากอาหาร 

    ทางเดินอาหารของไส้เดือนดินเรียงตามลำดับต่อไปนี้

     



    ภาพที่  2.8 แสดงส่วนประกอบของทางเดินอาหารของไส้เดือนดิน

     ที่มา : www.anatomy.th

    กุ้ง เป็นสัตว์ขาปล้องจัดอยู่ในไฟลัมอาร์โทโพดา ทางเดินอาหารเป็นแบบช่องเปิด 2 ทาง(Two hole tube) แบ่งเป็น 3 ตอน คือ

    1. ทางเดินอาหารตอนหน้า(Stomodaeum) ใช้ปากซึ่งมีรยางค์รอบปาก 3 คู่ ช่วยในการกินเคี้ยวอาหารและมีต่อมน้ำลาย (Salivary gland) ทำหน้าที่สร้างน้ำย่อย มีหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ซึ่งกระเพาะอาหารของกุ้ง ทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ เป็นที่พักและบดอาหาร

    2. ทางเดินอาหารตอนกลาง(Mesenteron) เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากกระเพาะอาหาร และมีช่องรับน้ำย่อย   ทางเดินอาหารส่วนนี้จึงทำหน้าที่ในการย่อยอาหาร

    3. ทางเดินอาหารตอนปลาย(Protodaeum) เป็นส่วนที่เรียกว่าลำไส้ เป็นท่อเล็ก ๆ พาดไปทางด้านหลังของลำตัว และไปเปิดออกที่ส่วนท้ายของส่วนท้องเรียกว่า ทวารหนัก

    ทางเดินอาหารของกุ้งเรียงตามลำดับดังนี้




                                              ภาพที่ 2.9  แสดงทางเดินอาหารของกุ้ง

                                              ที่มา : www.infovisual.info/02/img_en/025%20Internal%...

    แมลง เป็นสัตว์ในกลุ่มขาปล้องจัดอยู่ในไฟลัมอาร์โทโพดา ทางเดินอาหารเป็นแบบช่องเปิด 2 ทาง (Two hole tube) ปากของแมลงมีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างออกไป ให้มีความเหมาะสมกับสภาพของอาหารที่แมลงแต่ละชนิดกิน แต่แมลงมีลักษณะพื้นฐานของทางเดินอาหารที่เหมือนกัน คือ ปาก คอหอย หลอดอาหาร กระเพาะพักอาหารขนาดใหญ่ อยู่บริเวณทรวงอก และกระเพาะบดอาหาร(Gizzard)  ช่วยในการกรองและบดอาหาร มีต่อมสร้างน้ำย่อย (Digestive  gland) มีลักษณะคล้ายนิ้วมือ  อัน ยื่นออกมาจากทางเดินอาหารระหว่างกึ๋นและกระเพาะอาหาร 

    ทางเดินอาหารของแมลงเรียงตามลำดับได้ดังนี้




                                                             ภาพที่  2.10   แสดงทางเดินอาหารของตั๊กแตน

                                                             ที่มา : kentsimmons.uwinnipeg

    หอยกาบ เป็นสัตว์ที่อยู่ในไฟลัมมอลลัสกา มีทางเดินอาหารเป็นแบบช่องเปิด 2 ทาง (Two hole tube) หอยกาบมีทางเดินอาหารแบ่งออกเป็นส่วน ๆ คือ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ไส้ตรงและทวารหนัก การกินอาหารของหอยกาบ จะใช้เลเบียลพัลพ์ (Labial palp)  ข้างละ 1 คู่ ของปาก ช่วยพัดโบกให้อาหารตกลงไปในปาก

    ทางเดินอาหารของหอยกาบเรียงตามลำดับต่อไปนี้



     ภาพที่ 2.11  แสดงทางเดินอาหารของหอย

     ที่มา : www.cnsweb.org/digestvertebrates

    2. การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิดที่มีกระดูกสันหลัง

    2.1 การย่อยอาหารของปลา ปลาเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในไฟลัมคอร์ดาตา(Chordata) ปลามีทั้งปลาปากกลมซึ่งเป็นปลาที่ไม่มีขากรรไกรขอบของปากและลิ้นมีฟันใช้ขูดเนื้อและดูดกินเลือดสัตว์อื่น   ปลาฉลามมีปากอยู่ทางด้านล่างและมีฟันจำนวนมาก  ฉลามมีลำไส้สั้นและภายในมีลิ้นซึ่งมีลักษณะเหมือนบันไดเวียน (Spiral valve) ช่วยในการถ่วงเวลาไม่ให้อาหารเคลื่อนตัวไปเร็ว   และพวกปลากระดูกแข็งมีปากซึ่งภายในมีฟันรูปกรวย  มีลิ้นขนาดเล็กยื่นออกมาจากปากทำหน้าที่รับสัมผัส  พวกปลากินเนื้อ เช่น ปลาช่อน ปลาน้ำดอกไม้ ปลาพวกนี้จะมีลำไส้สั้น ส่วนปลากินพืช เช่น  ปลาทู ปลาสลิด จะมีลำไส้ยาว 


    ทางเดินอาหารของปลาเรียงตามลำดับต่อไปนี้
    ปาก     คอหอย       หลอดอาหาร       กระเพาะอาหาร     ลำไส้      ทวารหนัก


                                                ภาพที่ 2.12  ภาพแสดงทางเดินอาหารของปลา

                                                ที่มา : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2544.



    ภาพที่ 2.13 แสดงลิ้นซึ่งมีลักษณะเหมือนบันไดเวียน (Spiral valve) ของปลาฉลาม

       ที่มา : library.think.org

    2.2  การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิดปีก  ได้แก่ นก เป็ด ไก่  ซึ่งเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังจัดอยู่ในไฟลัมคอร์ดาตา(Chordata)  ทางเดินอาหารประกอบด้วยปากซึ่งไม่มีฟัน  ต่อมน้ำลายเจริญไม่ดี  แต่สร้างเมือกสำหรับคลุกเคล้าอาหารและหล่อลื่นได้  มีคอหอยสั้น  หลอดอาหารยาว  มีถุงพักอาหาร(Crop) ซึ่งทำหน้าที่เก็บอาหารสำรองไว้ย่อยภายหลัง  กระเพาะอาหารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน  คือ  กระเพาะตอนหน้าหรือกระเพาะย่อย (Proventriculus)  ทำหน้าที่สร้างน้ำย่อย  และกระเพาะอาหารตอนท้ายหรือกระเพาะบด (Gizzard)  ต่อจากกระเพาะบดเป็นลำไส้เล็ก  ลำไส้ใหญ่  ส่วนท้ายเป็นโคลเอกา (Cloaca)  ที่มีท่อไตและท่อของระบบสืบพันธุ์มาเปิดเข้าด้วยกัน  และทวารหนักซึ่งเป็นส่วนท้ายสุด

    ทางเดินอาหารของสัตว์ปีกเรียงตามลำดับต่อไปนี้



      ภาพที่ 2.14  แสดงทางเดินอาหารของนก

      ที่มา :  www.kidwings.com



    ภาพที่ 2.15  แสดงทางเดินอาหารของไก่

                                  ที่มา : www.dpi.qld.gov.au/images/AnimalIndustries_Po...

    2.3 การย่อยอาหารของสัตว์บางชนิดกินพืช  ได้แก่ วัว ควาย จะมีโครงสร้างของทางเดินอาหารแตกต่างจากคนและสัตว์กินเนื้ออื่นๆ อยู่ 2 ประการ คือ

    1. การมีทางเดินอาหารที่ยาวมากๆ ยาวถึง 40 เมตร  ทำให้ระยะเวลาในการย่อยและการดูดซึมสารอาหารนานยิ่งขึ้น  กระเพาะอาหารของวัวและควายแบ่งออกเป็น 4 ส่วน มีชื่อและลักษณะเฉพาะ  ได้แก่    

    1.กระเพาะผ้าขี้ริ้วหรือรูเมน (Rumen)  เป็นกระเพาะอาหารที่มีจุลินทรีย์ พวก

    แบคทีเรียและ  โพรโทซัวจำนวนมาก  จุลินทรีย์พวกนี้สร้างน้ำย่อยเซลลูเลส  ย่อย สลายเซลลูโลสจากพืชที่กินเข้าไปและสามารถสำรอกอาหารออกมาเคี้ยวเอื้องเป็น ครั้งคราวเพื่อบดเส้นใยให้ละเอียดจึงเรียกสัตว์พวกนี้ว่าสัตว์เคี้ยวเอื้อง

    1.กระเพาะรังผึ้งหรือเรติคิวลัม (Reticulum)  ทำหน้าที่ย่อยนม เมื่อโค กระบือยัง

    เล็กอยู่  และมีจุลินทรีย์เช่นเดียวกับกระเพาะอาหารส่วนรูเมน

    1.กระเพาะสามสิบกลีบหรือโอมาซัม (Omasum)  ทำหน้าที่ผสมและบดอาหาร

    นอกจากนี้ยังดูดซึมและซับน้ำจากรูเมนอีกด้วย

    1.4 กระเพาะจริงหรืออะโบมาซัม (Abomasum)  มีการย่อยอาหารและจุลินทรีย์ไป

    พร้อมๆกัน  แล้วจึงส่งต่อไปยังลำไส้เล็กเพื่อย่อยให้สมบูรณ์

    เมื่ออาหารผ่านเข้าสู่ลำไส้เล็กตอนต้น  จะมีการย่อยโปรตีน  ไขมันและแป้งจากน้ำย่อยจากตับอ่อนและน้ำดีจากตับ  จากนั้นก็ดูดซึมเข้าสู่ระบบหมุนเวียนต่อไป


                                                                ภาพที่ 2.16  แสดงทางเดินอาหารของวัว

                                                               ที่มา : www.nicksnowden.net/images/cow_cutaway_rumina



    ภาพที่  2.17  แสดงกระเพาะอาหารของวัวซึ่งแบ่งได้เป็น  4  ส่วน Rumen ,Reticulum , Omasum และ Abomasum

        ที่มา : www.sheep101.info/Images/rumen.gif

    ในปัจจุบันมีการนำเอาแบคทีเรียและโพรโทซัวมาผสมในอาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยและการดูดซึมอาหารของสัตว์

    2. การมีไส้ติ่งใหญ่  ไส้ติ่งของสัตว์กินพืชจะมีขนาดใหญ่ และเป็นบริเวณที่มีการย่อยอาหารโดยจุลินทรีย์ด้วย  สำหรับไส้ติ่งของสัตว์กินเนื้อจะมีขนาดเล็กและไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการย่อยอาหาร

    ....................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×