คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ว่าด้วยเรื่อง... บันทึกลับฉบับเจมิไน ( บทท้าวความ )
ตอนที่ 1 ว่าด้วยเรื่อง... บันทึกลับฉบับเจมิไน ( บทท้าวความ )
.
.
.
.
.
.
...ผ่านมา 4 ปีแล้วสินะ
นับจากวันนั้น... วันที่ผม กล้าที่จะบอกเธอออกไป... >////< ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่วันนั้น... วันที่ผมได้พบเธอครั้งแรก เธอช่างดู... แบบว่านะ หลายคนบอกว่าเธอสวยแต่ออกจะต๊องนิดหน่อย แต่สำหรับผม... ( อมยิ้ม ^^ แบบว่าห้ามไม่อยู่อ่ะนะ ^^ ) เธอดูน่ารัก >////< เธอเป็นคนที่สร้างสีสันให้เพื่อน ๆ ได้เสมอ รอยยิ้มของเธอดึงดูดผู้คนรอบข้างให้หลงใหลไปตาม ๆ กัน ( ข้อนี้ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลยให้ตายสิ ) วันแรกที่ผมมาสอบเข้าที่โรงเรียน s.o.s แห่งนี้ผมจับได้เบอร์แรกเลย เฮ้อ... โชคไม่ให้ผมทำใจก่อนเลยซวยชะมัด แต่ก็ยังมีข้อดีอีกน่ะแหละผมเจอเธอข้างใน ตอนแรกผมคิดดว่าเธอเป็นคนซุ่มซ่ามชะมัด ( ถึงตอนนี้จะเป็นอยู่ก็เถอะ ^^ ) นั้นก็เพราะว่าเธอเดินมาชนหลังผมตั้งหลายรอบน่ะสิ และก็ตอนที่เราเลือกทางจะไปต่อนั้น เธอคนเดียวที่ยืนยันว่าจะไปทางด้านซ้าย แต่ทำไงได้ 1 เสียงก็ย่อมแพ้อยู่แล้ว เพราะผมกับนาธานเราจะไปด้านขวากัน ผมได้ยินเธอบ่นว่าพวกเรารุมเธอชัด ๆ ด้วยเธอทำตัวเหมือนเด็กเลย ^^ ( แต่ผมชอบนะ ^^ ) หลังจากที่เราเดินมาทางด้านขวาแล้วเราก็มาเจออีกด่านหนึ่ง เธอเป็นคนแรกที่ข้ามด่านนี้ไปก่อนอย่างสบายตามมาด้วยนาธานไปติด ๆ เหลือแต่ผมแล้วล่ะสิ =^=! ผมได้ยินเสียงแว้วมาจากนาธานถามว่าผมกระโดดไกล 4 เมตรได้รึเปล่า ผมฟังที่นาธานถามและมองดูที่กระเบื้องสีขาวที่ตอนนี้เหลือไม่มากจริง ๆ ย้ำ ! ว่าเหลือเพียงน้อยนิดเท่านั้นผมจะทำยังไงดีล่ะนี่ ? เวลาก็เหลือไม่มากแล้ว ผมต้องรีบแล้ว แต่จะให้ผมทำไงดีล่ะเนี่ย ถ้าผมสอบเข้าที่นี้ไม่ได้ล่ะก็ ครอบครัวผมต้องขายหน้าแน่ ๆ เลย ทำไมผมต้องมาแบกรับทุกอย่างคนเดียวด้วยนะ ทุกอย่าง...ที่ผมไม่เคยเลยที่จะเอ่ยออกไปว่าผมอยากได้...... แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้ซะหน่อย ตอนนี้ผมคงต้องเสี่ยงแล้วสินะ ผมถอยหลังไประมาณ 3-4 ก้าวแล้วออกแรงวิ่งเต็มที่กระโดดไปที่กระเบื้องแผ่นขาวข้างหน้าแผ่นเดียวที่เหลืออยู่ใกล้ตัวมากทีสุด เมื่อเหยียบได้แล้วผมก็ไม่รอรีที่จะสปิงตัวไปที่กำแพงและอาศัยมันเป็นพื้นเพื่อจะวิ่งข้ามไปยังอีกฝั่ง... อีกฝั่งที่มีคนรอผมอยู่..... เธอไง ^^ ( อ้อ ! นาธานด้วยอีกคนนะ ) ทันทีที่เท้าผมแตะพื้นอีกฝั้งหนึ่งได้สำเร็จ ผมเห็นเอลไลย่าและนาธานมองมาที่ผมแบบอึ้ง ๆ ให้ตายสิ ผมเขินชะมัด >///< แต่ไงได้ล่ะ ผม...เจมิไน แอชเชอร์นะ จะแสดงออกอย่างนั้นได้ยังไง ผมเลยถามพวกนั้นออกไปว่า
“ มองอะไรกันเล่า ” ถึงผมจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยังอดเขินไม่ได้ ตอนนั้นผมได้แต่มองไปรอบ ๆ เพื่อแก้เขิน ( ถึงมันจะช่วยอะไรไม่ได้มากก็เถอะ แต่ก็ยังดีกว่าที่ผมจะต้องเขินเพราะมองตาพวกนั้น ) ดูสิ นี่ขนาดผมมองรอบห้องเพื่อกลบเกลื่นความเขินแล้วนะ ถึงผมไม่ได้มองไปทางนั้นผมก็รู้ ว่าสองคนนั้นกำลังหัวเราะผมอยู่ สองคนนั้นจะรู้มั้ยเนี่ย ว่าตอนนี้ผมอายสุด ๆแล้วนะ >////<
ตอนนี้เราเดินออกจากที่นั้นได้ซักพักแล้วอยู่ ๆ เอลไลย่าก็ถามขึ้นมาว่าพวกผมรู้จักกันมานานแล้วหรอเห็นดูสนิทกันอย่างกับรู้จักกันมาตั้งนานแล้วงั้นแหละ ผมยังไม่ได้พูดอะไรนาธานก็ตอบแทนผมให้แล้ว แต่หมอนี่ดันบอกไปว่า
“ คงเพราะ...ผ่านด่านมาด้วยกันเยอะมั้ง เลยสนิทกัน ฉันน่ะจับได้เบอร์ 2 ส่วนหมอนนี่จับได้เบอร์ 1 แล้วก็ดันชักช้าอืดอาด ” อ่าว มาว่าผมงี้ได้ไง มันไม่จริงนี่ ผมเลยแย้งออกไป “ อ้าวก็นายให้ฉันรอไม่ใช่เหรอ...นายนั้นแหละช้า ” นาธานหัวเราะแก้เขินนิดนึงแล้วหันมาบอกผม
“ โธ่ ! อย่ามาเผากันแถวนี้สิ ”
“ พวกนาย 2 คนไม่มีดวงด้านจับฉลากเลยจริง ๆ ” เอลไลย่าพูดขึ้นแล้วหัวเราะน้อย ๆ ผมเลยถามกลับ
“ แล้วเธอล่ะ ได้เบอร์อะไร ”
“ 3 ”
3 ? 3 เหรอ เธอได้เบอร์ 3 แล้วมาบอกว่าพวกผมไม่มีดวงด้านจับฉลากเนี่ยนะ ? ฮะๆๆๆ ตอนนั้นที่เธอตอบออกมาผมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่แหนะ ถึงผมจะอยากหัวเราะออกมาดัง ๆ แค่ไหน ก็มำได้แค่เพียงกลั้นเอาไว้เท่านั้นแต่ขนาดผมพยายามกลั้นสุด ๆ แล้วนะแต่ของงี้เป็นพวกคุณ คุณจะทำได้มั้ยล่ะ เช่นเดียวกับผมที่แอบเผลอหลุดออกไปนิดนึง แค่นิดเดียวจริง ๆ นะ ผมสาบานได้เลย ^^ ไม่ไหว ๆ เธอช่าง... ฮะ ๆๆๆ
“ หน็อย แล้วทำคุย ตัวเองก็ไม่มีดวงเหมือนกันนั้น ”
“ อย่างน้อยฉันก็ดวงดีกว่านายก็แล้วกัน...โอ๊ย !! นี่หยุดทำไมไม่จักบอกกันบ้างเล่า ” เอลไลย่าบ่น เพราะเธอเดินชนผมเป็นครั้งที่ 2 อีกแล้ว ( แต่ผมก็เต็มใจให้ชนไปตลอดชีวิตยังได้เลยนะ ^^ )
เบื้องหน้าของพวกเราเป็นห้อง ๆ หนึ่งที่ค่อนข้างมืด คบไฟถูกวางอย่างจงใจใหสาดส่องไปที่โต๊ะไม้ตัวหนึ่งกลางห้อง มันเป็นโต๊ะยาวที่มีผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินปูอยู่ และมีมีดสั้น 3 อันวางอยู่ปลายโต๊ะข้างขวา พวกเราเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาคนละเล่ม มันเป็นมีดสั้นที่สำหรับพกพา แต่ดูวิจิตรงดงามเกินกว่าที่จะนำมาพกพาจริง ที่ด้ามตรงกลางมีไพลินสีน้ำเงินอยู่เม็ดหนึ่ง ข้างใต้ไพลินมีสัญลักษณ์โรงเรียน s.o.s สีทองประดับอยู่
“ ดูนี่สิ “ ผมเรียกพวกนั้นที่กำลังพิจารณามีดพกอยู่ให้หันไปที่ประตูทางออกของห้อง แล้วชี้ให้ดูป้ายสีเงินตัวโตที่เขียนว่า ทางออกเขาวงกต คอนนี้พวกผมพบทางออกกันแล้ว แต่เรื่องที่จะสอบผ่านรึไม่นี่คงต้องคอยดูต่อไป
“ ฉันว่ามีดนี่แปลก ๆ อยู่นะ “ นาธานพูดขึ้นหลังจากที่ยิ้มอยู่นาน
“มีอยู่ 3 เล่ม อยู่ที่ปลายโต๊ะ ทำไมเขาถึงไม่วางไว้ตรงกลางโต๊ะล่ะ แล้วโต๊ะนี้เป็นโต๊ะยาวอีกต่างหาก....พวกนายว่ายังไง
“ ฉันว่า...มันต้องมีอีกประมาณ 7-8 เล่ม วางเรียงกันอยุ่บนโต๊ะ แต่โดนหยิบไปแล้ว เหลืออยู่ 3 เล่มที่พวกเราหยิบมา “ เอลไลย่าออกความคิดเห็น
“ ฉันว่า....พวกเราสอบผ่าน “
เอลไลย่ากับนาธานหันมามองผมพร้อมกันเลย อะไรล่ะ นี่ผมแค่ออกความคิดเห็นว่าพวกเราคงสอบผ่านเองนะ
“ งั้นเราจะรออยู่ทำไมล่ะ ไปกันเถอะ “ พูดจบนาธานก็เดินนำหน้าพวกผมไปเลย
หลังจากที่พวกเราเดินผ่านประตูทางออกมา และก็พบกับคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่....ศาสตราจารย์เมดิธนั้นเอง
“ ยินดีด้วยนะ พวกเธอทั้งสามคนสอบผ่านจ้ะ.....เข้ามาเป็นคนที่ 47 48 และก็ 49 พอดีเลยจ้ะ เอาล่ะส่งมีดมาให้ครู “
พอพวกผมส่งมีดให้เสร๊จ ศาสตราจารย์เมดิธที่เมื่อเห็นไพลินที่ด้ามมีดก็ยิ้มออกมา
“ พวกเธออยู่สีน้ำเงินโชคดีจริง ๆ นะ.... ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนของเราจ้ะ... “
ใช่โชคดีจริง ๆ....
โชคดีที่ได้อยู่สีน้ำเงิน....
โชคดี...ที่ได้อยู่กับเธอ.....
*************************************
เม้น ๆ คนเขียนจะได้มีกำลังใจในการจิ้วนิ้วต่อไปไงค๊าบบ ^^
* เม้นเยอะเดี๋ยวทรายจัดฉากเลิฟซีนให้ฉากหนึ่ง เม้นมากจัดฉากอย่างนั้นให้มาก หึหึ 5555 ( เอ๊ะ i นี้ เอาฉากอย่างั้นมาล่อเรอะ แต่เพื่อน ๆ ล่ะ อยากอ่านฉากอย่านั้นกันมั้ยเล่า หึหึ เม้นซะ ^^ )
ความคิดเห็น