คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คำนำ
ตึก ตึก ตึก ................
เสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ที่ปนเสียงหอบหน่อย ๆ บ่งบอกถึงความรีบเร่งของเจ้าของฝีเท้าเล็ก ๆ คู่นี้...
“ องค์หญิงเพคะ ! ทรงหยุดเถอะเพคะ ! ” เสียงของหญิงวัยกลางคนรูปร่างท่วมคนหนึ่งกล่าวอย่างร้อนรน ในขณะที่ขาของเธอก็ยังคงวิ่งตามร่างเล็กข้างหน้าไปติด ๆ เช่นเดียวกัน...
“ ไม่ ! ฮะฮะ ตามเราให้ทันสิเวลร่า ฮะฮะ เร็วเข้า ๆ ” ร่างเล็กหันมาหัวเราะอย่างร่าเริงก่อนที่จะเลี้ยวหลบตรงหัวมุมเพื่อหลบเลี้ยงนายทหารที่กำลังกรูกำลังกันเข้ามาจับตัวเธอให้วุ่นไปหมดแต่แล้ว....
ปึกกก!!!
ร่างเล็กที่วิ่งมาโดยไม่เสมองทางข้างหน้าเลยก็วิ่งเข้าไปชนกับอะไรบางอย่างเข้าจัง ๆ .....
“ เฟรี่ ! วิ่งซนอีกแล้ว ! เรียนหนังสือกับท่านอาจารย์เสร็จแล้วเหรอ ? เดี๋ยวพ่อจะไปบอกท่านแม่ดีมั้ยเนี่ยหือ ? ” บุรุษหนุ่มผู้มีเรือนที่ดำสนิทเอ่ยขึ้นมุมปากขยับยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับร่างเล็กข้างหน้า ที่วิ่งหนีมาชนกับขาเขาเข้า...สองมือกอดอกพลางก้มหน้าลงมาหาร่างเล็กที่อยู่ข้างล่าง....
“ ท่านพ่อ ! เอ่อ...ท่านพ่อ......ทรงอย่า......ไปบอกกับท่านแม่นะเพคะ เฟริน่า......เฟริน่า.... แค่จะมาหาท่านพ่อเท่านั้นเองเพคะ แต่เวลร่าน่ะสิ! ไม่ยอมให้หม่อมฉันมา หม่อมฉันก็เลย..... ” เฟริน่ายืนก้มหน้า สองมือประสานไขว้กันอยู่ข้างหน้าเตรียมแสดงท่าไม้ตาย... ท่าทางที่กำลังสารภาพผิดของร่างเล็กอาจจะดูน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับพวกผู้คนที่ยังไม่รู้จักเธอดี แต่ตอนนี้... ต่อหน้าเสด็จพ่อของเธอนี้... ท่าไม้ตายนี้จึงจำเป็นที่จะต้องแสดงให้เนียนที่สุดและต้องสุดความสามารถไปเลย....
“ เลย เลยอะไรเฟรี่ บอกพ่อมาให้หมดนะ ! ” บุรุษหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นพ่อเอ่ยเสียงเริ่มดุ ตีหน้าเคร่ง นัยน์ตาสีน้ำเงินทอดมองลงมาที่ร่างเล็กอย่างเอ็นดู...
“ เฮ้อออ........ใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว ท่านพ่อรู้ทันเฟริน่าตามเคย ”นัตน์ตากลมโตสีมรกตใสตวัดขึ้นมองผู้เป็นพ่ออย่างบ๊องแบ๊ว แต่ก็เหมือนเคย เมื่อท่าไม้ตายที่สองใช้ไม่ได้ก็คงเหลือวิธีเดียวเท่านั้น....
บอกความจริงไปซะ !
“ เฟริน่า....แค่เอาผงนอนหลับไปเอ่อ....ใส่ในถ้วยน้ำของ....เอ่อ...ท่านอาจารย์เท่านั้นเองเพคะ ” เฟริน่าเอ่ยเสียงอ่อย
“ แล้วไงอีก ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยเสียงเรียบ รอฟังลูกสาวตัวดีที่ไม่รู้ว่าเอานิสัยของพ่อหรือแม่ไป ถึงได้ซนหนักอย่างนี้ ขนาดลิงที่ว่าซน วิ่งไปวิ่งมาไม่อยู่กับที่แล้วยังต้องหลีกทางให้เธอเลย คิดแล้วก็กลุ่มใจไม่หายกับลูกสาวคนนี้ .....
“ เอ่อ....แล้วเฟริน่าก็.....ให้ท่านอาจารย์ทานเพคะ พอท่านอาจารย์หลับ....เฟริน่าก็เลยวิ่งออกมาหาท่านพ่อ แต่เวลร่ามาเจอเข้าก่อนพอดี เลยวิ่งไล่เฟริน่ามาเพค่ะ ” เฟริน่าเอ่ยเสียงเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ
“ เฟริน่า ! ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยเสียงดังขึ้นกว่าเก่าเล็กน้อย ร่างเล็กข้างหน้าถึงกับสะดุ้งโหยง “ เฮ้อออ....... ” เสียงถอนหายใจยาวดังมาจากคนร่างสูง “ พ่อจะทำไงกับเจ้าดีนะ เนี่ยถ้าท่านแม่ของเจ้ารู้เจ้าคงโดนหนักแน่ ๆ และคงไม่วายพ้นพ่อด้วยน่ะสิ ”
แฮ่ก แฮ่ก ก ก ......
เสียงหอบอย่างแรงจากใครบางคนเรียกความสนใจให้คนทั้งสองหันไปมองยังที่มาของต้นเสียง....
“ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท” หญิงร่างท่วมที่เมื่อกี้เพิ่งวิ่งมาถึงรีบทำความเคารพบุรุษข้างหน้าทันทีที่เจอ
“ เวลร่า ท่านลุกขึ้นเถอะ ” บุรุษข้างหน้าเธอเอ่ยเสียงเรียบ
“ เอ่อ... ”
“ ส่วนเรื่องของเฟริน่า เดี๋ยวข้าจัดการเอง ท่านไปพักผ่อนเถอะ วิ่งไล่กันมาทั้งวันแล้วนี่ ”
“ เพคะ ” เวลร่าเอ่ย
“เดี๋ยว ! เวลร่า ” เสียงทุ้มดังขึ้นรั้งเวลร่าก่อนที่เธอจะเดินจากไป “ ไม่ต้องไปบอก เซลิย่า นะ ข้าจะจัดการเอง ”
“ เพคะฝ่าบาท” เวลร่าเอ่ย แล้วทำความเคารพให้บุรุษข้างหน้า ก่อนจะเดินจากไป
“ เป็นไงล่ะเรา ทำให้แม่นมเวลร่าต้องเหนื่อยอีกแล้วนะ ครั้งนี้พ่อจะไม่บอกท่านแม่ แต่ถ้ามีครั้งหน้า พ่อจะไม่ลังเลเลย เข้าใจที่พ่อพูดมั้ยเฟริน่า ! ” บุรุษหนุ่มหันมา เอ่ยกับลูกสาวเสียงดุ
“ เพคะท่านพ่อ เฟริน่าจะไม่ทำอีกแล้วเพคะ ” ร่างเล็กเอ่ยรับเสียงอ่อย พร้อมกับแอบเอานิ้วชี้และนิ้วกลางไข้วกันเอาไว้ที่ด้านหลัง
“ แล้วเจ้า มีเรื่องอะไรกับพ่อนะ ”
“เฟริน่าอยากฟังนิทานเพคะ ” ร่างเล็กเอ่ยเสียงตื่นเต้นนัยน์เนตรสีมรกตประกายวิบวับ
“ นิทาน ? หรือ เจ้าให้แม่นมเวลร่าเล่าก็ได้นี่ ”
“ เวลร่าเล่าไม่ได้หรอกเพคะ ! ” เสียงเล็กเอ่ยอย่างขัดใจเล็กน้อย
“ ทำไมล่ะเฟริน่า ? ไหนเจ้าลองบอกพ่อมาซิ ว่าทำไม เวลร่าถึงเล่านิทานให้เจ้าฟังไมได้ ” บุรุษหนุ่มเอ่ยเสียงระคนแปลกใจเล็กน้อยกับคำตอบที่ได้รับจากลูกสาวสุดที่รัก
“ ก็พอเฟริน่าไปถามเวลร่าว่า รู้จักนิทานเรื่องนี้มั้ย เวลร่าก็เอาแต่ยิ้มให้เฟริน่าอย่างเดียวเลยเพคะ แล้วเวลร่าก็บอกว่าให้มาถามท่านพ่อจะดีกว่าเพคะ ” เสียงใสเอ่ยอย่างขัดใจ
“ แล้วเจ้าถามเวลร่าว่ารู้จักนิทานเรื่องอะไรล่ะ ”
“ ก็เรื่องนั้นไงเพคะ ” เสียงใสเอ่ยอย่างตื่นเต้นพลางชูไม้ชูมือทำท่าทางอย่างหนัก
“ เรื่องอะไรล่ะหึ๊ เฟริน่า ”
“ ก็เรื่องที่ท่านพ่อชอบเล่าให้เฟริน่าฟังยังไงล่ะเพคะ ”ร่างเล็กเว้นช่วงก่อนพูดต่อ “ เรื่องของเจ้าหญิงคนนั้น กับความรักของเธอและเขาคนนั้น ”
“ เรื่องนั้นเองรึ แต่ท่านแม่ของเจ้าไม่อยากให้พ่อเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าฟังนะ ” บุรุษหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับลูกสาวที่ตอนนี้โดนอุ้มมาอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นบิดาแล้ว
“ ไม่เป็นไรหรอกเพคะ ถ้าท่านพ่อไม่พูด เฟริน่าไม่พูด ท่านแม่ก็ไม่มีทางรู้หรอกเพคะ จริงมั้ย ” ร่างเล็กในอ้อมกอดว่าพลางหอมแก้มผู้เป็นพ่อซะหนึ่งที
“ เอาล่ะ ๆ พ่อยอมแพ้เจ้าแล้วไม่ต้องอ้อนพ่อแล้ว แต่ต้องเป็นความลับของเราสองคนนะ ว่าไง ” ผู้เป็นพ่อว่าพลางหอมแก้มเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมกอดคืนบ้าง และเสียงหัวเราะคิกคักของเด็กสาวยังคงดังต่อเนื่อไปตามทางเดินตลอด........
+++++++++++++++++++
สายลมเย็น ๆ พัดผ่านดวงตะวันพลันเปลี่ยนเป็นจันทราขึ้นแทนที่ เสียงต้นไม้ใบไม้ปลิวไสวลู่ไปกับสายลม....
........แสงไฟสลัว ๆ จากตะเกียงแก้ว ถูกจุดขึ้นอย่างจงใจ ร่างเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนา นัยน์เนตรสีมรกตใสจ้องเขม็งไปที่บานประตูของเจ้าของห้อง เหมือนกับรออะไรหรือใครซักอย่าง ไม่นานเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวบุรุษหนุ่มร่างสูง แววตาของร่างเล็กที่อยู่บนเตียงนอนวาวขึ้นด้วยความดีใจจากท่านั่งเปลี่ยนเป็นนอนลงในทันที... ร่างสูงเดินเข้ามาเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดและนั่งลงข้าง ๆ ร่างของร่างเล็กรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนปรากฏขึ้น
ที่ริมฝีปากของร่างสูง มือหนาทั้งสองข้างเอื้อมไปดึงผ้าห่มผืนหนามาคลุมตัวร่างเล็กเอาไว้อย่างทนุถนอมยิ่ง....
“ เฟริน่าว่าแล้วท่านพ่อไม่เคยผิดคำพูด ” ร่างเล็กกล่าวอย่างยิ้ม ๆ
“ เอาล่ะ มาฟังนิทานกันดีกว่านะ พรุ่งนี้เจ้าต้องตื่นแต่เช้า พ่อไม่อยากเสียเวลา เดี๋ยวเจ้าจะนอนดึกซะเปล่า ๆ ” ร่างสูงพูดพลางยกมือหนาค่อย ๆ ลูบหัวลูกสาวอย่างแผ่วเบาก่อนจะเริ่มเล่านิทานให้คนตัวเล็กฟัง.....
“ ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว....................... ”
++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น