ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อมูลตัวละครTouhou

    ลำดับตอนที่ #80 : [TD] โทโยซาโตะมิมิ โนะ มิโกะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.26K
      17
      26 ม.ค. 56

    [C]http://sabre.exteen.com/20110816/td-allcharacter
    http://sabre.exteen.com/20121221/sop-miko


    โทโยซาโตะมิมิ โนะ มิโกะ
    Toyosatomimi no Miko

    ความสามารถ : ฟังเรื่องราวของสิบคนได้ในเวลาเดียวกัน
    ความอันตราย : ต่ำ
    ความเป็นมิตรต่อมนุษย์ : สูงมาก
    สถานที่หลักในการทำกิจกรรม : ผลุบๆโผล่ๆ

    อัจฉริยะผู้ถือกำเนิดในคอกม้า ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็ก

    ตัวเธอซึ่งถือกำเนิดมาอย่างสูงศักดิ์นั้นได้ยินได้ฟังคำร้องทุกข์มากมายมาตั้งแต่เด็ก
    เหล่าข้าราชบริพารคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางฟังรู้เรื่อง, เธอจึงตกเป็นเรื่องพูดเล่นสนุกปากของเหล่าข้าราชบริพารอยู่บ่อยครั้ง
    แต่ว่ามิโกะเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง, และสามารถชี้แนะได้อย่างถูกต้องแม่นยำในทันที
    ข่าวลือดังกล่าวแพร่สะพัดไปในสังคม ทำให้เธอได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในฐานะนักบุญ

    แต่เธอก็มีเรื่องข้องใจที่พบได้เฉพาะในพวกอัจฉริยะอยู่เหมือนกัน
     「ผืนปฐพีไม่เคยแปรเปลี่ยนไปจากยุคของเหล่าเทพ, ท้องทะเลยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำ
      แล้วเหตุใด, มนุษย์จักต้องยอมรับความตายด้วยเล่า」
    เธอรู้สึกไม่พอใจโชคชะตาที่จะต้องตายของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ



    เซย์กะได้ยินคำเล่าลือเกี่ยวกับมิโกะ จึงคิดว่าต้องเป็นคนนี้ไม่ผิดแน่ และมาแนะนำลัทธิเต๋าให้แก่มิโกะ

    เซย์กะเล่าว่า, ลัทธิเต๋าบูชาธรรมชาติ, และสามารถทำให้ความไม่แก่ไม่ตายเป็นจริงได้ด้วยการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

    มิโกะรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
    แต่ในเวลาเดียวกัน, เธอบอกแก่เซย์กะว่า, แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใดก็มิอาจทำให้ประเทศสงบสุขได้ด้วยศาสนาที่ว่านั้น
    เซย์กะคิดว่าถ้าเพื่อให้ความปรารถนาของตนเป็นจริงแล้ว เรื่องการเมืองของประเทศจะเป็นยังไงก็ช่าง, แต่มิโกะไม่คิดแบบนั้น

    เซย์กะจึงพูดว่า, ถ้าเช่นนั้นก็เอาแบบนี้สิ, จากนั้นเธอก็เสนอเรื่องการใช้ศาสนาพุทธเป็นฉากหน้า
    เธอเล่าว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิตและต้องถือศีลอย่างเคร่งครัด
    มิโกะจึงยอมรับว่า หากเป็นแบบนั้นประเทศก็คงจะสงบสุขได้


    มิโกะเผยแผ่ศาสนาพุทธไปทั่ว
    ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนคนธรรมดาไม่มีพลังใดๆ
    และทำการวิจัยลัทธิเต๋าอยู่เบื้องหลัง

    ผลที่ได้คือ การแสดงความสามารถเหนือมนุษย์และกลายเป็นตำนานมากมาย จนเป็นที่รู้จักไปทั่ว


    จากนั้นก็ทำการวิจัยเรื่องความไม่แก่ไม่ตายอันเป็นเป้าหมายสุดท้ายต่อโดยไม่รั้งรอ
    เธอเคยใช้สารหายากหลายๆอย่าง เช่น ชาด (เกิดจากกำมะถันและปรอท = เป็นพิษร้ายแรง)
    มันกัดกร่อนร่างกายของเธอไปทีละน้อย
    ร่างกายของเธอจึงถูกทำลายลงด้วยวิชาเต๋าที่น่าจะนำความไม่แก่ชราและอายุยืนมาให้แก่เธอ

    มิโกะไม่คิดจะรออีกต่อไปด้วยร่างกายนี้แล้ว, จึงตัดสินใจที่จะเป็นเซียนถอดวิญญาณ
    เซียนถอดวิญญาณคือวิชาลับที่จะต้องตาย(หรือทำให้เห็นว่าตายไปแล้ว)หนึ่งครั้ง แล้วคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

    แต่เธอกลัวที่จะต้องทำคนเดียว, จึงเอาไปเล่าให้ฟุโตะฟัง, และพยายามให้ฟุโตะเข้าสู่การหลับใหลก่อน
    ฟุโตะเชื่อในพลังของมิโกะ จึงยอมเป็นเข้ารับการทดลอง
    หลังจากที่ตายไปแล้ว, ฟุโตะก็หลับใหลเรื่อยมาโดยไม่เน่าเปื่อย, เมื่อมิโกะตรวจสอบยืนยันเสร็จก็เข้าสู่นิทราบ้าง



    ตามแผนของมิโกะ, เธอกำหนดให้ตัวเองคืนชีพขึ้นในเวลาที่ประเทศรู้สึกถึงขีดจำกัดของศาสนาพุทธ และแสวงหานักบุญ
    แต่สิ่งที่คาดไว้กลับผิดพลาด, เพราะศาสนาพุทธปกครองประเทศนี้อย่างยาวนานเกินกว่าพันปี

    แผนการของมิโกะรั่วไหลออกไป
    เหล่านักบวชแห่งศาสนาพุทธผู้มากด้วยพลังจึงผนึกฮวงซุ้ยของมิโกะมาอย่างต่อเนื่อง, ทำให้เธอไม่สามารถคืนชีพได้

    มิโกะจึงไม่รีบร้อน และคิดว่าจะคืนชีพเมื่อไหร่ก็ได้ จึงหลับใหลเรื่อยมา
    และเวลาแห่งการคืนชีพก็มาถึงในที่สุด

    สาเหตุก็คือ, ผู้คนเริ่มเล่าขานว่าตำนานทั้งหมดของเธอล้วนเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น
    ปัจจุบันไม่มีมนุษย์ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์แล้ว
    ผลงานอันยิ่งใหญ่ทั้งหมดของเธอจึงถูกเชื่อว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

    ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งตัวเธอและฮวงซุ้ยจึงย้ายเข้ามาสู่เกนโซวเคียว
    ซึ่งในเวลานั้น, เกนโซวเคียวไม่มีวัดอยู่เลย, เธอจึงพร้อมแก่การคืนชีพขึ้นมาเมื่อไรก็ได้

    แต่ ณ ตอนนั้นเอง กลับมีการสร้างวัดแห่งใหม่ขึ้น
    แถมยังอยู่เหนือฮวงซุ้ยอย่างพอดิบพอดีอย่างกับเล็งเอาไว้

    มันคือ วัดเมียวเรนจิ นั่นเอง

    มิโกะจะถูกกดขี่อีกครั้งโดยนักบวชแห่งศาสนาพุทธงั้นหรือ
    หรือจะต้องต่อสู้กับนักบวชงั้นหรือ

    เฉกเช่นเดียวกับการสู้ตายระหว่างโมโนโนเบะ(เหล่าเทพโบราณ)กับโซะกะ(ศาสนาพุทธ)เหมือนในอดีต


    ปัจจุบันเธอกลายเป็นเซียนที่เหนือล้ำกว่ามนุษย์ไปแล้ว
    แต่ยังไม่อาจตัดขาดความผูกพันธ์ที่มีต่อทางโลกได้ จึงมักจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสังคมมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง
    คงเป็นความอาลัยอาวรณ์ในสมัยที่ตนยังเป็นนักปกครองอยู่กระมัง

    ลักษณะนิสัยจัดว่าผิดคาด เพราะเธอเป็นคนสบายๆ ไม่เคร่งขรึม
    แต่เมื่อได้เผชิญหน้ากันโดยตรง กลับรู้สึกว่าไม่มีช่องว่างให้เห็นเลย หรือจะเรียกว่าถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งดีก็ไม่รู้ จึงรู้สึกยำเกรงขึ้นมา



    {ความสามารถ}

    เป็นความสามารถที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน
    แต่เชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด และจริงๆแล้วเธอยังมีความสามารถเหนือมนุษย์อย่างอื่นอยู่อีก
    จะเรียกว่าเป็นยอดมนุษย์มาตั้งแต่เกิดก็คงได้ล่ะมั้ง

    การทำความเข้าใจเรื่องราวหลากหลายในเวลาเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
    ข้าพเจ้ามีความสามารถในการไม่ลืมเรื่องที่เคยได้ยินก็จริง แต่ก็สามารถจดจำได้ทีละเรื่องตามลำดับเท่านั้น
    หากมีคนสองคนมาพูดให้ฟังในเวลาเดียวกัน ส่วนมากจะจำได้เพียงว่าใครเป็นคนพูดเท่านั้น

    และต่อให้จำได้ว่าใครพูดก็ไม่สามารถเข้าใจและตอบกลับไปได้
    จึงไม่คิดว่าจะมีมนุษย์คนใดที่สามารถทำได้

    แต่การที่หูดีเกินไปก็เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตตามปกติ
    เธอจึงสวมที่ครอบหูเอาไว้ มันเป็นไอเทมสำหรับตัดเสียงของผู้คนเพื่อทำให้จิตใจสงบ
    นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกแบบ คือได้ยินเฉพาะเสียงที่เบาบางราวกับจะเลือนหายไปเพราะมีระดับเสียงตรงข้ามกับเสียงผู้คนเหล่านั้น
    เรียกว่ามี หู เป็นเครื่องมือทำมาหากินก็ยังได้เลยล่ะมั้ง

    ปกติแล้วต่อให้ไม่พูดออกมาโดยตรง มนุษย์เราก็สามารถรู้สิ่งที่ผู้อื่นต้องการได้จากวิธีการพูด สีหน้า และท่าทาง
    แต่เชื่อกันว่าเธอมีความสามารถในด้านนี้สูงล้ำกว่ามนุษย์ธรรมดาเป็นอย่างมาก
    เธอสามารถรู้ว่าต้องการอะไร และรู้ว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ความต้องการดังกล่าวก่อตัวเป็นคนผู้นั้นขึ้น
    ความสามารถของเธอเป็นความสามารถที่ใกล้เคียงกับการอ่านใจ
    แต่ต่างกันตรงที่ การอ่านใจคือการอ่านอดีตและความคิดในปัจจุบัน ส่วนตัวเธอจะอ่านจากนิสัยใจคอและอนาคตของบุคคลนั้น



    {ศาสนาพุทธกับลัทธิเต๋า}

    ผู้คนเคยเชื่อกันว่าเธอมีศรัทธาอย่างแรงกล้าในศาสนาพุทธ แต่จริงๆแล้วศาสนาพุทธเป็นแค่เครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น

    เป้าหมายของศาสนาพุทธคือการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
    จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งต่อโลกแห่งการเมืองที่จำเป็นต้องมุ่งหวังความสงบสุข
    เธอคิดว่าเมื่อประชาชนเลื่อมใสในศาสนาพุทธ ก็จะไม่ต่อต้านผู้มีอิทธิพลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

    ความเชื่อที่ถูกเผยแผ่ในเวลาเดียวกับศาสนาพุทธก็คือ ลัทธิเต๋า
    แนวคิดพื้นฐานของลัทธิเต๋าคือการทำความเข้าใจในธรรมชาติและจักรวาล แล้วทำให้มันกลายเป็นสมบัติส่วนตน
    จึงเป็นความเชื่อที่น่าหลงใหลสำหรับมนุษย์ที่หมายปองความเป็นใหญ่
    ความต่างจากศาสนาพุทธเช่นนี้เอง ทำให้จินตนาการได้ง่ายว่าหากแพร่หลายออกไปแล้วจะทำให้สังคมยุ่งเหยิงปั่นป่วน
    เพราะว่าการโค่นล้มผู้มีอิทธิพลซึ่งมีพลังติดตัว จำเป็นต้องมีพลังที่เหนือกว่า

    ตัวเธอหมายปองพลังเหนือธรรมชาติ ในขณะที่ใช้ศาสนาพุทธเป็นเครื่องมือทางการเมือง
    พลังที่เธอต้องการมากที่สุดในบรรดาพลังทั้งหมด ก็ไม่ได้แตกต่างจากความต้องการของผู้มีอิทธิพลคนอื่น นั่นคือความไม่แก่ไม่ตาย
    ดูเหมือนเธอจะเลื่อมใสในลัทธิเต๋าเพราะเหตุผลดังกล่าว เพราะจริงๆแล้วเป้าหมายสูงสุดของลัทธิเต๋าก็คือ ความไม่แก่ไม่ตาย นั่นเอง



    {มาตรการรับมือ}

    ได้ยินมาว่ามีมนุษย์ในหมู่บ้านจำนวนมากต้องการเป็นลูกศิษย์ของเธอ
    มันก็จริงที่ว่าถ้าได้วิชาเซียนมาติดตัวคงทำให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ

    แต่เธอคงคิดว่าลูกศิษย์พวกนั้นเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น
    คงเพราะแบบนั้นล่ะมั้ง ลูกศิษย์ของเซียนจึงเป็นเพียงเด็กวิ่งส่งของเท่านั้น(*2)
    *2 [เซียนจะใช้พลังเพื่อตัวเองเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องสอนให้ผู้อื่นเลย]

    ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อกันว่า ถ้าแค่อยากได้พลังเหนือมนุษย์มาประดับกายล่ะก็
    เลิกคิดจะเป็นลูกศิษย์ของเซียนด้วยความคิดตื้นๆแบบนั้นจะดีกว่า

    อีกอย่าง หากได้พลังแบบเซียนมาติดตัว อาจทำให้ถูกยมทูตจ้องเอาชีวิตก็เป็นได้
    และนั่นต้องไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ

    จะว่าไปแล้วตัวเธอเองก็ให้ความร่วมมือกับมนุษย์เป็นอย่างดี จึงไม่น่าจะต้องหวาดกลัวอะไร
    ถ้าเกิดเรื่องไม่ดี เช่น โดนโยวไคไล่ตาม ลองหนีไปหาเธอก็น่าจะได้รับความช่วยเหลือ
    ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทางเข้าบ้านของเธอถูกซ่อนไว้ที่ไหนก็เถอะ......(*3)
    *3 [ถ้าตะโกนว่า "ช่วยด้วย--- มิโกะเอม่อน---" เธออาจจะได้ยินเพราะหูดีก็เป็นได้]
    (ล้อโนบิตะตอนวิ่งมาขอให้โดราเอม่อนช่วยเหลือ......ว่าแต่เธอเคยอ่านด้วยเหรอ อาคิว = _=)"......)
    Tips :
    - ต้นแบบของเธอคือ มกุฎราชกุมาร โชวโทะคุ บุตรแห่งจักรพรรดิโยวเมย์ (โชวโทะคุ = ทรงธรรม, ราชธรรม) และเป็นที่มาของฉายาของเธอ
    - มกุฎราชกุมาร โชวโทะคุ ถือกำเนิดที่หน้าประตูคอกม้า จึงเป็นที่มาของเนื้อหาบทแนะนำมิโกะข้างต้น
    - มกุฎราชกุมาร โชวโทะคุ มีอีกชื่อหนึ่งว่า โทโยซาโตะมิมิ จึงเป็นที่มาของนามสกุลของมิโกะ
    - เล่ากันว่า มกุฎราชกุมาร โชวโทะคุ เคยรับฟังคำร้องทุกข์ของสิบคนในเวลาเดียวกัน และสามารถให้คำตอบได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
      จึงเป็นที่มาของความสามารถของมิโกะ และเป็นที่มาของชื่อภาค Ten Desires (ความปรารถนาทั้งสิบ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×