ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้อมูลตัวละครTouhou

    ลำดับตอนที่ #45 : [MoF] โมริยะ สุวาโกะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.91K
      9
      19 ธ.ค. 55

    [C]http://sabre.exteen.com/20080620/mof-allcharacter
    [C]http://sabre.exteen.com/20121219/sop-suwako
     
    โมริยะ สุวะโกะ
    Moriya Suwako

    เผ่าพันธุ์ : เทพเจ้า
    ความสามารถ : สร้างสรรค์พิภพ
    ความอันตราย : ต่ำ
    ความเป็นมิตรต่อมนุษย์ : ปานกลาง
    สถานที่หลักในการทำกิจกรรม : ภูเขาโยวไค ศูนย์น้ำพุร้อน

    เทพเจ้าที่แท้จริงซึ่งอาศัยในศาลเจ้าโมริยะ (守矢)
    เทพเจ้าแห่งขุนผา อันเป็นผู้นำของเหล่าเทพเจ้าต่างๆที่อาศัยอยู่ในภูเขา

    ในยุคโบราณอันนานเนิ่น สุวะโกะเป็นเทพที่ได้รับจิตศรัทธามากมายอย่างมหัศจรรย์จากการที่ได้ควบคุม 『ท่านมิชากุจิ』
    ท่านมิชากุจิ เป็นเทพแห่งคำสาปในเรื่องต่างๆเช่น การเกิด การเกษตร การทหาร และอื่นๆ
    หากดูหมิ่นว่าร้ายเทพองค์นี้ก็จะถูกเทวทัณฑ์บันดาลใส่ในบัดดล จึงเป็นเทพเจ้าที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง
    ผู้ที่สามารถควบคุมเทพเจ้าองค์นี้ได้ มีเพียงสุวะโกะเท่านั้น
    ด้วยเหตุนี้ จิตศรัทธาที่มีต่อเธอจึงมากมายอย่างน่าตกใจ
    ในตอนนั้นเธอจึงก่อตั้งอาณาจักรขึ้นในฐานะราชาผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้า พร้อมทั้งเป็นเทพเจ้าไปด้วย

    แต่ทว่า อาณาจักรของเธอนั้นก็ถูกรุกรานโดยเหล่าเทพแห่งยามาโตะ
    เทพแห่งยามาโตะที่มาเยือนอาณาจักร ก็คือ คานาโกะ นั่นเอง
    เหล่าเทพแห่งยามาโตะนั้นกล่าวว่า พวกตนได้ยึดครองอาณาจักรเล็กๆไปทีละแห่งทีละแห่ง
    โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการรวมประเทศทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียว และสถาปนาประเทศหนึ่งเดียวนี้ในนามว่า ญี่ปุ่น


    แน่นอนว่าสุวะโกะขัดขืน
    เธอเข้าต่อสู้โดยใช้อาวุธโลหะที่ล้ำยุคที่สุดในตอนนั้น
    แต่เมื่อคานาโกะชูเถาไม้เล็กๆขึ้นเหนือศีรษะ วงแหวนเหล็กจำนวนมากที่สุวะโกะนำติดตัวมา ก็กลายเป็นสนิมและแหลกร่วงไปในทันใด
    สุวะโกะเล็งเห็นถึงความต่างของพลังและมั่นใจว่าแพ้แน่ จึงยอมจำนนอย่างสง่าผ่าเผย และยกประเทศให้คานาโกะไปในที่สุด

    ฉะนี้แล คานาโกะจึงได้อาณาจักรโมริยะ(洩矢)มาครอบครอง


    แต่ทว่า มนุษย์ในอาณาจักรโมริยะนั้นไม่สามารถลืมเลือนความหวาดกลัวที่มีต่อท่านมิชากุจิที่เป็นเทพเจ้าท้องถิ่นได้
    จึงมีทีท่าว่าจะไม่ยอมรับเทพเจ้าองค์ใหม่

    เมื่อคานาโกะไม่ได้รับจิตศรัทธา เธอก็ล้มเลิกความคิดที่จะทำให้อาณาจักรนี้เป็นของตน
    และหันไปใช้วิธีควบรวมเทพแห่งโมริยะเข้ากับตน เพื่อให้เรียกขานเป็นเทพเจ้าองค์ใหม่แทน
    เทพเจ้าองค์ใหม่นี้มีนามที่ใช้เรียกขานกันในอาณาจักรว่า 『โมริยะ (守矢)』 ส่วนนอกอาณาจักรนั้นก็มีชื่อเรียกต่างๆกันออกไป
    ด้วยวิธีการนี้ เธอก็สามารถครอบครองอาณาจักรได้สำเร็จ
    แน่นอนว่าหากกล่าวถึง โมริยะ (守矢) นั้นย่อมหมายถึง โมริยะ (洩矢) นั่นเอง
    จากนั้น คานาโกะก็ยืมพลังของสุวะโกะมาใช้ในการปกครองประเทศอย่างลับๆ ในฐานะที่ตนเป็นเทพเจ้าแห่งขุนผา


    เทพเจ้าองค์ใหม่ที่ว่ากันว่าปกครองอาณาจักรนี้อยู่นั้น เป็นเพียงเทพเจ้าแต่ในนามที่ตั้งมาเพื่อรักษาหน้าตาของตำนานเทพยามาโตะเท่านั้น
    ในความเป็นจริงแล้ว สุวะโกะก็ยังคงปกครองอาณาจักรนี้เรื่อยมา
    ทั้งๆที่ปัจจุบันนี้ เทพเจ้าของโลกภายนอกส่วนใหญ่ได้ถูกเปลี่ยนไปคล้อยตามตำนานเทพยามาโตะกันหมดแล้ว
    แต่สุวะโกะก็ยังคงได้รับศรัทธาอย่างเงียบๆ ด้วยรูปลักษณ์จากยุคเก่านั้น



    แต่กระนั้นก็ตามที ศรัทธาที่ได้รับมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ก็ค่อยๆสูญเสียไปเมื่อเข้าสู่ยุคแห่งวิทยาศาสตร์

    ถึงสุวะโกะจะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ก็เถอะ แต่คานาโกะก็รีบร้อนลงมือย้ายทั้งศาลเจ้าเข้ามาในเกนโซวเคียวซะแล้ว

    สุวะโกะเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถเข้ากับเกนโซวเคียวนี้ได้เป็นอย่างดีรึเปล่า แต่ในฐานะการละเล่นครั้งสุดท้าย เธอก็คิดจะสนุกกับมัน
    สาเหตุที่เธอไม่แสดงท่าทีไม่พอใจกับการกระทำของคานาโกะที่ทิ้งอาณาจักรมาตามอำเภอใจแล้วย้ายเข้ามาในเกนโซวเคียวนี่
    ก็เป็นเพราะเธอนั้นไม่มีสิ่งใดให้อาลัยอาวรณ์หลงเหลืออยู่ในโลกภายนอกอีกแล้ว
    มนุษย์ที่รู้จักชื่อของเธอก็แทบจะไม่มีเลย

    ขนาดมนุษย์ที่น่าจะใกล้ชิดกับเธอที่สุดอย่างซานาเอะ ก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องของเธอสักเท่าไหร่เลย

    ถึงแม้ว่าซานาเอะในตอนนี้จะมีศักดิ์เป็นเหมือนมิโกะของคานาโกะก็ตาม แต่การที่ซานาเอะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้นั้น
    แท้จริงแล้วเป็นเพราะซานาเอะคือลูกหลานห่างๆของสุวะโกะต่างหาก

    ทั้งอย่างนั้นก็ตาม, เรื่องจริงก็คือ แม้แต่สาเหตุที่ศาลเจ้าของตนมีเทพเจ้าสององค์ ซานาเอะก็ไม่เคยรู้เลย

    อย่างไรเสีย สุวะโกะก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่ตนถูกลืมเลือนหรือเรื่องใดๆแล้ว
    อันที่จริงแล้วเธอรู้สึกขอบคุณคานาโกะเสียด้วยซ้ำ เพราะดูเหมือนว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตที่สองในเกนโซวเคียวได้




    เอาล่ะ งั้นทำไมคานาโกะที่เป็นเทพแห่งสายลมถึงได้ใช้เครื่องหมายการค้าเป็นเชือกบิดที่สื่อถึงงูงั้นเหรอ ?

    เหตุผลมีอยู่สองข้อด้วยกัน

    หนึ่งคือ งูมีความหมายถึงการคืนชีพ จึงเอาไว้ใช้ต่อกรกับความน่าสะพรึงกลัวของท่านมิชากุจิ


    และอีกหนึ่งคือ... ...
    เพื่อดึงดูดให้สุวะโกะไม่รู้สึกว่าจะชนะนั่นเอง

    ทำไมเป็นอย่างนั้นน่ะหรือ ?
    เพราะสุวะโกะเป็นเทพกบ และงูเป็นสัตว์ที่กินกบเป็นอาหารน่ะสิ
    พิธีกรรมทางศาสนาของอาณาจักรใหม่ ก็มีการเพิ่มเติมพิธีเซ่นสังเวยกบลงไปด้วย
    เป็นการดึงดูดความคิดของมนุษย์อย่างต่อเนื่องให้รู้ว่า 『งูได้ปกครองอาณาจักรนี้แทนที่กบแล้ว』


    นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุวะโกะทะเลาะกับคานาโกะบ่อยๆ

    อันที่จริงก็ได้เปรียบเสียเปรียบกันไปคนละอย่าง พวกเธอจึงเข้ากันได้ดีสุดยอดเลยล่ะ

    +++++++++++++++++
    เทพเจ้าปริศนาที่อาศัยอยู่ในศาลเจ้าโมริยะ
    เธอแตกต่างกับ ยาซากะ คานาโกะ เป็นอย่างมากตรงที่เธอแทบจะไม่ออกมาจากศาลเจ้าเลย

    เผ่าพันธุ์ของเธอแตกต่างจากคานาโกะ คือเทียบได้กับ เทพแปดล้าน
    แต่เดิมวิญญาณไม่มีตัวตน แล้วค่อยก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาจากศรัทธาอันแสนบริสุทธิ์
    ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อกันว่า หากสูญเสียศรัทธาไปอย่างสมบูรณ์แล้ว คนที่เดือดร้อนจะไม่ใช่คานาโกะ แต่เป็นสุวะโกะต่างหาก

    หากแต่ผู้ที่รวบรวมศรัทธาคือคานาโกะกับ โคจิยะ ซานาเอะ ซึ่งเป็นมิโกะ ส่วนตัวเธอนั้นแทบจะไม่ออกมายังเบื้องหน้าเลย
    เป็นเพราะเธอไม่สันทัดด้านธุรกิจงั้นเหรอ หรือว่ามีเหตุผลอะไรอย่างอื่น สิ่งเหล่านี้แหละคือปริศนาของศาลเจ้าโมริยะ

    เธอมีพลังในการบงการเทพแห่งคำสาป
    ตอนที่ศาลเจ้าโมริยะย้ายจากโลกภายนอกเข้ามาสู่เกนโซวเคียว เทพแห่งคำสาปเองก็ย้ายตามเข้ามาในเวลาเดียวกัน
    ข้าพเจ้ารู้สึกเดือดร้อนลำบากใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะการควบคุมเทพแห่งคำสาปคืออานิสงส์ของเธอ
    ถ้าไม่อยากถูกสาปก็ต้องเคารพศรัทธาเธอเท่านั้น(*1)
    *1 [นี่แหละคือการบังคับให้ศรัทธาของจริง]

    ปกติแล้วเธอจะใช้รูปร่างมนุษย์เป็นประจำ เช่นเดียวกับเทพเจ้าที่มีอยู่มากมาย
    แต่รูปลักษณ์นั้นแทบจะไม่มีความหมาย เพราะคุณลักษณะพิเศษของเทพเจ้าคือการแบ่งภาค
    เมื่อได้รับการสักการบูชาในฐานะร่างแบ่งภาค เธอมักจะใช้รูปร่างของกบ
    ซึ่งในระหว่างนั้นเธอจะมีอานิสงส์ดังนี้ เดินทางปลอดภัย (กบบุจิ) มีโชคการเงิน (กบสุกุ) รูปโฉมสมประสงค์ (กบมิฉิ)
    (เป็นการเล่นคำแบบหลายชั้นโดย กบบุจิ=บุจิคาเอรุ (無事カエル) / กบสุกุ=สุกุคาเอรุ (すぐカエル) / กบมิฉิ=มิฉิกาเอรุ (見ちガエル))
    (บุจิคาเอรุ (無事帰る) = กลับอย่างปลอดภัย / สุกุคาเอรุ (すぐ買える) = ไม่นานก็ขายได้ / มิฉิกาเอรุ (見違える) = ดูผิดไปจากเดิม)

    ดูเหมือนเธอจะเป็นคนสุภาพ แต่ก็ยากที่จะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
    เชื่อกันว่าเธอนิสัยไม่ดีพอๆกับที่แกล้งทำเป็นเลอะเลือนเลยทีเดียว ซึ่งจุดนี้แตกต่างจากคานาโกะมาก



    {ความสามารถ}

    เธอร่วมมือกับคานาโกะในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศและขุดหลุมลงไปใต้ดิน
    ถึงจะบอกว่าร่วมมือกัน แต่ดูเหมือนการเปลี่ยนแปลงผืนปฐพีจะเป็นฝีมือของสุวะโกะ

    แทนที่จะพูดว่าเธอทำการปรับแต่งผืนดินด้วยตนเองโดยตรง
    ดูเหมือนว่าการปรับแต่งผืนดินจะถูกกระทำโดยเทพแห่งคำสาปที่อยู่ใต้อาณัติของเธอมากกว่า

    ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศอย่างเดียวเท่านั้น
    ทั้งการทำให้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธัญพืช ทั้งการทำให้แผ่นดินต้องคำสาปจนแม้แต่ต้นหญ้ายังงอกไม่ขึ้น ล้วนทำได้อย่างอิสระ(*2)
    *2 [ก็เลยเอามาข่มขู่เพื่อรวบรวมศรัทธา โดยผู้ทำการข่มขู่คือคานาโกะ]



    {เทพแห่งคำสาป}

    ตัวจริงของเทพแห่งคำสาปที่เธอพามาด้วยก็คือ เทพพื้นเมืองของโลกภายนอกที่ถูกขนานนามว่า ท่านมิชากุจิ
    เทพพื้นเมืองเป็นเทพเจ้าที่ได้รับศรัทธาเฉพาะในพื้นที่เล็กๆ
    เมื่อออกห่างจากดินแดนของตนก็จะสูญเสียศรัทธาไป
    แต่ด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่นี้ทำให้มีเทพพื้นเมืองจำนวนไม่น้อยเลยที่มีพลังมากกว่าเทพเจ้าที่รู้จักกันไปทั่ว
    (บางครั้งมีพลังมากกว่าเทพเจ้าระดับสูงสุดด้วยซ้ำ)

    ไม่เพียงแต่เทพแห่งคำสาปที่เป็นเทพพื้นเมือง เธอเองก็เป็นเทพพื้นเมืองเช่นกัน
    การที่เทพพื้นเมืองละทิ้งดินแดนดั้งเดิมของตนแล้วเข้ามาสู่เกนโซวเคียวแบบนี้อาจมองได้ว่าเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติเล็กน้อย
    แต่ถ้าโลกภายนอกมีศรัทธาลดน้อยถอยลงจนเกือบจะถูกลืมอยู่แล้วล่ะก็ การรวบรวมศรัทธาในดินแดนใหม่อาจเป็นวิธีที่ดีกว่าก็ได้

    จะว่าไปแล้ว เทพแห่งคำสาปที่รับใช้เธออยู่นั้นเป็นเทพที่มีปริศนามากมายยิ่งกว่าตัวเธอเสียอีก
    ว่ากันว่ามีรูปร่างคล้ายงูที่ทำจากหิน ธัญพืชงอกงามตามทางที่เลื้อยผ่าน
    แต่ภายในปากส่องแสงสีแดง ลมหายใจที่พ่นออกมาสามารถเปลี่ยนผืนดินให้แห้งแล้งได้

    แม้จะถูกเรียกว่าเทพแห่งคำสาป แต่จริงๆแล้วก็มีอีกด้านเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์
    ถ้าไม่ทำเรื่องเสียมารยาทก็คงไม่ถูกสาปล่ะมั้ง



    {มาตรการรับมือ}

    เนื่องจากเดาใจเธอได้ยากยิ่งกว่าคานาโกะ จึงควรจะระวังเอาไว้นิดหน่อย

    แต่เชื่อว่าคงไม่จับใครกินอย่างปุบปับกะทันหันเป็นแน่

    หลายคนเชื่อว่าเธอมีรูปร่างเป็นกบเลยอาจจะเข้าใจผิดได้ง่าย
    แต่ขอย้ำเตือนเลยว่าความจริงแล้วเธอไม่ใช่เทพเจ้าที่มีกบอยู่ในอาณัติ

    ถ้าไปขอร้องเธอว่า "กบในทุ่งนาส่งเสียงหนวกหูจนนอนไม่หลับเลย ช่วยทำอะไรสักอย่างทีสิ"
    เธออาจเปลี่ยนทุ่งนาให้กลายเป็นผืนดินแห้งแล้งไปเลยก็ได้

    แต่ดูเหมือนเธอจะชอบกบมากเลยนะ

    Tips :
    - อาวุธของสุวะโกะคือ วงแหวนเหล็ก ซึ่งตามตำนานเทพสุวะก็มีกล่าวถึงไว้เช่นกัน
    - กล่าวคือ ซานาเอะเองก็มีเชื้อสายของเทพเจ้าเหมือนกัน
    - สุวะโกะได้เปรียบตรงที่เป็นแหล่งให้ยืมพลังแก่คานาโกะ จะตัดทิ้งซะก็ได้ ส่วนคานาโกะได้เปรียบตรงที่เป็นงูเลยข่มกบได้ชะงัด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×