คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 1 : ดวงตาฉันมันไม่เหมือนคนอื่น
7 : 50 น. วันต่อมา
“ว่าไงนะ!!” เสียงทุ้มเข้มในวัยชราดังขึ้นด้วยเสียงที่สูงแหลม เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าสิ่งที่เขาได้ยินมันคือความจริง!
“ค่ะ” หญิงวัยชราตอบด้วยอาการสั่นเทาก่อนจะเลื่อนมือสองข้างมาจับเข้าด้วยกันแล้วพูดต่อว่า “ตำราบลายได้ถูกขุดไปจากใต้ต้นโพธิ์พันปีแล้วค่ะ เราเพิ่งไปพบเมื่อเช้านี้เอง”
“เป็นไปไม่ได้! ในเมื่อเรื่องนี้รู้เพียงไม่กี่คนไม่ใช่หรือไง ! แล้วทำไม! ทำไมมันถูกเจอได้ละ!” เสียงเข้มชายวัยชราพูดต่อจากผู้จัดการของตนเอง เขาเริ่มหวั่นวิตกกลัวว่ามันจะเกิดเหตุร้ายที่คาดไม่ถึงขึ้น เขาเดินออกมาจากโต๊ะทำงานก่อนจะมาหยุดที่หน้าผู้จัดการของตนเอง
“แต่ท่าน ผอ. ค่ะ เราไม่รู้นี้จริงๆ ค่ะ” หญิงวัยชราเริ่มไม่สบตายผู้เป็นเจ้านาย
“เอางี้ละกัน!! อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเด็ดขาด แม้แต่อาจารย์คนเดียวก็อย่าให้รู้เข้าใจไหม!!” ผู้เป็นเจ้านายสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งขัน
“ค่ะ!” หญิงวัยชราตอบรับก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานของ ผอ.
1
ดวงตาฉันมันไม่เหมือนคนอื่น
ในห้องที่เงียบสงบ ณ บ้านหลังหนึ่งที่ตั้งตระง่ายอยู่ภายใต้เขตแดนกรุงเทพมหานครฯ ฉันกำลังหวีผมสีดำอมน้ำตาลของตัวเองที่ยาวไปถึงกลางหลัง มันยาวมากๆ เลยนะ แถมยังสวยด้วยละ นี่ฉันก็หวีผมมาได้สัก 5 นาทีแล้วนะ แต่ก็ยังไม่สวยตามใจฉันสักที ทำไมนะหรอ? หึๆๆ คำตอบง่ายๆ เลยคือ...
...มีผีบ้านผีเรือนกำลังเล่นเส้นผมฉันอยู่นะสิ!!
อย่าคิดว่าเรื่องอย่างนี้ฉันจะไม่รู้และฉันไม่เคยสนใจนะ! ก็ฉันมันเป็นพวกสายตาไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขานิ ดวงตาฉันมันสามารถมองเห็นอะไรที่ไม่สมควรเห็นได้มานานแล้ว ตั้งแต่จำความได้เลยทีเดียว อีกอย่างนะ...ฉันยังสามารถมองเห็นอนาคตที่กำลังจะเกิดอันใกล้นี้ได้ด้วย!!!
“ลันลาลูก!! เสร็จรึยังจ้ะ!”
“ค่า~ ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวลงไปนะแม่” ฉันตะโกนตอบกลับผู้เป็นมารดาก่อนจะหยุดนิ่งแล้วรวบรวมสมาธิของฉันให้เป็นหนึ่งเดียวกับจิตใจ ต่อจากนั้นก็ค่อยๆ พ่นลมหายใจออกมาทางปาก แล้วพูดต่อว่า...
“หนูขอความเป็นส่วนตัวสักพักได้ไหมค่ะ!!!” ฉันพูดอย่างมีน้ำโหน้อยๆ ก่อนจะพบว่าร่างหญิงสาวงามที่ปรากฏอยู่ด้านหลังฉันสะดุ้งตกใจก่อนจะหายวับไปในพริบตา
...ก็เท่านี้แหละ...
ฉันพึมพำกับตัวเองแล้วรีบจัดการทรงผมให้เข้าที่เข้าทางด้วยการหวีผมให้ยาวสลวยแล้วม้วนเป็นลอนน้อยๆ ที่ปลายผม ก่อนจะเช็คความเรียบร้อยของตัวเอง พอพบว่าไม่มีอะไรที่ต้องแก้ไขแล้วจึงเรียบคว้ากระเป๋าเตรียมตัวที่จะวิ่งลงไปด้านล่างข้างบ้าน แต่...
เมื่อสายตาไปปะทะเข้ากับสมุดดำสนิทที่หน้าปกทำจากผ้ากำมะหยี่ มันดูแปลกๆ นะกับไอ้หนังสือบ้าๆ ที่ฉันได้มากจากปู่ของฉัน ทั้งๆ ที่พ่อแม่ฉันได้ข้าวของทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก และพี่ชายฉันก็ได้ข้าวของทุกอย่างที่อยู่ในห้องใต้ดิน ส่วนย่าฉันไม่ต้องพูดถึง ท่านได้ที่ดินบ้านหลังนี้ แต่ดูฉันสิกลับได้หนังสือเพียงเล่มเดียวที่ขาวโพลนไม่มีอะไรขีดเขียนไว้ในนั้นเลย มันคุ้มกันรึเปล่านะ อ๊ะ! ฉันคงได้รับสายตาบ้าๆ ที่มองเห็นอะไรแปลกๆ จากคุณปู่สินะ ใครเขาอยากได้กันละค่ะปู่ไอ้ดวงตาแบบเนี่ย ปู่ไม่น่ามองเห็นแบบนี้เลย
ฉันเดินไปโต๊ะหนังสือก่อนจะค่อยๆ บรรจงหยิบหนังสือสีดำคลับขึ้นมามองอย่างพินิจ พิจารณา อา~ ลืมบอกอะไรไปไอ้สมุดหนังสือบ้านี่มันมีอะไรเขียนแปลกๆ ไว้อยู่ด้านหลังหนังสือด้วยละ มันน่าขำซะจริงๆ กับไอ้ประโยคว่า
‘ความลับจะเปิดเมื่อเลือดคนตายหยด’
ฮ่าๆ คิดแล้วก็ขำทำยังกะเป็นหนังสือผียังไงยังงั้นเลยเนอะ
“ลันลา! เสร็จรึยังระวังจะไปโรงเรียนสายนะลูก!!!!” เสียงตะโกนจากแม่ฉันคราวนี้ดังกว่าปกติแหะ สงสัยแม่ฉันเริ่มหงุดหงิดเข้าแล้วสิ ถ้าไม่ลงไปมีหวังโดนด่าเละแน่เลย
ว่าแล้วฉันจึงรีบลงไปข้างล่างของบ้านทันทีแต่ก็มิวายหยิบสมุดที่ได้จากคุณปู่ที่รักใส่เข้ากระเป๋าไปด้วย
“จอดตรงนี้แหละพี่เลลัน” ฉันบอกให้พี่ฉันหยุดรถตรงหน้าบ้านยัยซีนัสที่อยู่ตรงกันข้ามกับโรงเรียน หึๆๆ สบายนักนะแกยัยเพื่อนบ้า ก็บ้านหล่อนเล่นอยู่ตรงข้ามโรงเรียนเลยที่นา แต่หล่อนสิเล่นตื่นสายซะเขาจะเข้าแถวเคารพธงชาติกันจะเสร็จอยู่แล้ว
“อืมๆ” พี่ชายฉันจอดหน้าบ้านยัยซีนัสก่อนที่ฉันจะผลักประตูรถให้เหวี่ยงเปิดออก แต่พี่ชายฉันกลับพูดขัดจังหวะกันซะงั้น “ไม่รู้ว่าแกคบเพื่อนบ้าๆ อย่างนี้ไปได้ยังไง ตื่นสายเป็นบ้าเลย”
“นั่นสิเนอะ” ฉันตอบเป็นพิธีก่อนจะผละตัวออกมาจากรถแล้วปิดประตูรถไว้ดังเดิม
ว่าแล้วพี่ฉันก็ยิ้มให้ก่อนจะขับรถข้ามถนนเพื่อเข้าไปตัวโรงเรียน แหวะ! ทำเป็นพูดดีไปนะพี่เลลันทีแท้พี่ก็ชอบยัยซีนัสนะสิ น้องสาวคนนี้รู้น้า...
แล้ววันนี้ฉันต้องนั่งรอยัยซีนัสกี่ชั่วโมงเนี่ย คนสวยยิ่งเบื่อง่ายซะด้วยสิ ฮะๆๆ
“ว่าไงลันลามาช้าจังนะวันนี้” เสียงใสเล็กอันคุ้นเคยดังมาจากในตัวบ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวสะอาดที่ดูมีฐานะดังแว่วเข้ามาในระบบประสาทฉัน
“เออ...คุณเป็นใครกันค่ะ” ฉันหันหน้าไปยังต้นเสียง อา...ยัยซีนัสจริงๆ ด้วย ตามที่คิดไว้เลยแหะ แต่ว่าทำไมวันนี่ยัยนี่ตื่นเช้าผิดปกติแหะแกล้งสักหน่อยดีกว่าหวังคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“อ้อ! คนสวยนะค่ะ แล้วคุณมายืนทำอะไรหน้าบ้านฉันค่ะ”
น่าน! หล่อนมีการเล่นมุขตามน้ำด้วย
“อ้อหรอค่ะ! คือฉันมาหาคนที่สวยอยู่บ้านหลังนี้นะค่ะ สงสัยคงจะไม่มี เสียดายจังเลยนะค่ะ” ฉันพูดจบยัยซีนัสก็เริ่มขยับตัวเข้ามาใกล้ตัวฉัน
“คนสวยที่คุณว่ากำลังยืนคุยกับคุณนี่ไงค่ะ” เธอว่าพลางยักคิ้วข้างขวาให้
“ไม่มีนี่ค่ะ ฉันเห็นแต่กิ้งกือเน่ายืนอยู่ค่ะ”
“แง~ ยัยลันลาแกเล่นแรงไปมั้ย” ซีนัสพูดก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าฉันพลางทำสีหน้าน้อยใจ
“แหม~ ดูเข้าสิย่ะ ก็วันนี้แกตื่นเร็วผิดปกตินี่นา ไอ้ฉันก็นึกว่าไม่ใช่แก ดีไม่ดีคิดฉันคิดด้วยซ้ำว่าที่ฉันยืนคุยอยู่นี่คือคนหน้าเหมือนคนชื่อซีนัสละ” ฉันร่ายยาวก่อนจะก้าวขึ้นสะพานลอยที่ทอดยาวอยู่สูงไปถึงอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งจะมีโรงเรียนที่ฉันเรียนอยู่โดยมียัยซีนัสเดินอยู่ข้างๆ กาย
“แกก็พูดเข้าไปนั่น ก็เมื่อวานอะดี้... ลมแรงเป็นบ้าแถมฟ้าก็ดังลั่นสนั่นบ้าน ฉันก็กลัวมากเลย เลยรีบเข้านอน” ซีนัสผงกหัวไปด้านข้างเล็กน้อยพลางมองไปด้านหน้า เหมือนคนที่กำลังคิดอะไรอยู่
“...”
“แต่เมื่อวานนี้มันน่ากลัวจริงๆ นะพอได้มองเข้าไปในโรงเรียนอะ แถมบรรยากาศเมื่อคืนก็ดูแปลกตาไปด้วย... เอ๊ะ! ลันลาแกหยุดเดินทำไม” ซีนัสหยุดเดินเมื่อเห็นฉันหยุดเดินก่อนหน้านี้ เธอค่อยๆ เอี้ยวตัวกลับแล้วเดินตรงเข้ามาหาฉัน
“...”
“ซีนัสทำไมแกเงียบละ”
“...”
“นี่แกทำให้ฉันกำลังกลัวนะ!!” ซีนัสร้องลั่นทันที แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ภายใต้สะพานลอยจะมีรถมากมายแล่นไปมาเพื่อไปยังที่หมายของแต่ละคนในตอนเช้า แต่นี่ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอีกเช่นกัน แต่ในสายตาฉัน ภาพที่ฉันได้เห็นตรงหน้าคือภาพที่มีคนมากมายกำลังกระโดดเล่นอยู่นบสะพานลอยเหมือนอยากจะให้สะพานลอยพังถล่มลงไปให้ได้ยังไงยังงั้น ที่สำคัญแต่ละคนจะมีเลือดกระโชกเต็มร่างกาย บ้างก็มีรอยแผลกรีดอยู่ตามใบหน้า บ้างก็หน้าเน่าเละเปื่อยยุ่ยเหมือนถูกครูดกับพื้นซีเมนมาก็ไม่ปาน!
อยู่ดีๆ ก็มีภาพซ้อนขึ้นมาอีกภาพมันยิ่งทำให้ตัวฉันสั่นมากขึ้น!! ภาพที่ฉันเห็นคือสะพานลอยที่ฉันกับซีนัสและนักเรียนคนอื่นๆ กำลังยืนอยู่นี้ จู่ๆ มันก็ได้พังทลายลงไปทับถนนและรถยนต์จนได้รับความเสียหาย มีคนมากมายที่ต้องล้มตายกับเหตุการณ์นี้! ฉันเห็นมัน! ฉันเห็นมันแล้ว!!!!
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!” ฉันกรีดร้องออกมาเบาๆ ตาเริ่มโบกโพลงมากขึ้นกับภาพที่ได้เห็น ภาพมันน่ากลัวเกินกว่าที่เด็ก ม.4 อย่างฉันจะเห็นมากนัก!
“แกเป็นอะไรรึเปล่าลันลา! แกทำให้ฉันประสาทเสียนะ! แกหยุดได้แล้ว! ฉันกลัวแล้วนะ!” ยัยซีนัสเริ่มเข้ามายืนชิดกับตัวฉัน เธอเริ่มมีสีหน้าหวาดกลัวพลางเอามือมาเกาะที่ไหล่ฉัน เธอค่อยๆ ใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ กาย ก่อนจะพบว่านักเรียนที่กำลังเดินข้ามสะพานลอยเริ่มหันมามองที่ฉันกับยัยซีนัสด้วยสีหน้าแปลกใจปนตลก
“เราต้องรีบลงจากสะพานลอยนี้ซะ!” ฉันตวาดลั่นใส่ยัยซีนัส
“อะ...อะไรของแก!!” ซีนัสถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“บอกให้รีบลงไปจากที่นี้ไงเล่าไม่ได้ยินหรือไง!!”
“!!!” ซีนัสตกใจงงกับเหตุการณ์ก่อนจะถูกฉันคว้าข้อมือลงมาจากสะพานลอยได้สำเร็จ เธอเริ่มมีสีหน้าที่ดีขึ้น เธอกลืนน้ำลายตัวเองก่อนจะตั้งคำถามมาที่ฉัน
“เธอเป็นอะไร
ลันลา”
“ช่างมันเถอะ” ฉันตอบแบบปัดๆ
“มันไม่ตลกนะลันลา! แกบอกฉันเองไม่ใช่หรอว่า ...แก! มีดวงตาที่ไม่เหมือนใคร! แกสามารถมองเห็นวิญญาณและอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นได้! มันต้องมีเกิดขึ้นอะไรแน่ๆ แกบอกฉันมาเถอะ! เราเป็นเพื่อนกันนะ!”
“แกสัญญากับฉันได้ไหม”
“เอ๋? หมายความว่าไง สัญญาอะไร?” ซีนัสเริ่มสงสัยมากขึ้น
“ว่าวันนี้ทั้งวันแกจะไม่ใช้สะพานลอยข้ามกลับบ้าน!”
“แกจะบ้ารึไงลันลา! แล้วจะให้ฉันกลับบ้านยังไงถ้าไม่...”
“แกสัญญากับฉันสิซีนัส แกเป็นเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุดนะ”
“...”
“สัญญากับฉันสิ”
“ก็ได้! โอเค...วันนี้ฉันจะไม่ใช้สะพานลอยอย่างแน่นอน พอใจยังรึยัง”
“...” ฉันไม่ว่าอะไรได้แต่ยิ้มให้ให้ซีนัสเพื่อสาวที่ฉันสนิทมากที่สุด พวกเราสองคนมีความลับอะไรมักจะเปิดเผยให้กันรู้เสมอ เรารักกันเหมือนเป็นญาติกันจริงๆ
“แกสัญญากับฉันแล้วนะ” ฉันถามถึงสัญญาที่ให้กันไว้ที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง
“อื้ม” เธอตอบรับด้วยสีหน้าสดใส
ดีแล้วละ ฉันยังไม่อยากให้แกต้องจากฉันไปด้วยเหตุการณ์สะพานลอยถล่มลงมา แกต้องอยู่เป็นเพื่อนสนิทของฉันนะซีนัส แต่ตัวฉันไม่อาจรู้ได้หรอกว่าสะพานมันจะถล่มเวลาไหน แต่สิ่งเดียวที่ฉันและมั่นใจมากๆ เลยคือมันจะต้องเกิดขึ้นวันนี้อย่างแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว!!!
ความคิดเห็น