คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ปาร์ตี้ส่งท้ายวันสอบ
1
ปาร์ตี้ส่งท้ายวันสอบ
เช้าวันใหม่ของนักเรียนโรงเรียนหนึ่งในย่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งในวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ทุกคน ซึ่งทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาท่องอ่านหนังสือจดจำอย่างหนักเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ
“อุนว่าไงจ๊ะ อ่านหนังสือมาเยอะรึเปล่า” สาวน้อยผมยาวสวมแว่นกรอบเล็กเดินเข้ามาทักทายอุนที่เพิ่งจะเดินผ่านเข้ามาในประตูโรงเรียน
“ไม่รู้สิ แต่ว่าหนังสือเรียนอะนะ ฉันอ่านซ้ำหลายครั้งแล้ว เมื่อคืนไม่รู้จะอ่านไรเลยต้องเอาของเก่าๆ มาอ่านอีก” เธอตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริงแต่ใบหน้าของเธอสิ ช่างม่นหมองซะเหลือเกิน คงเป็นเพราะอาการจากการอ่านหนังสืออย่างหนักจนดึก
“ทำอย่างนี้เธอไม่ได้ที่ 1 แทนฉันหรอเนี่ย” พริ้งบ่นอุบอิบอย่างงอนก่อนจะคลี่ยิ้มให้อุน
“ไม่หรอก...อย่าลืมสิ เธอน่ะ เก่งกว่าฉันตั้งเยอะ”
“จ้าๆ อย่าอ่านให้เก่งกว่าฉันละกัน ไม่งั้นฉันงอนนะ”
ทั้ง 2 มองหน้ากันก่อนที่จะหลุดหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง แล้วเดินไปหาเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวสอบอยู่ในห้องเรียนกัน
“โห~ แม่อุนกว่าเธอจะมาได้ นี่เขาเข้าแถวกันไปนานเป็นชาติแล้วนะ” ฝ้ายพูดขึ้นแล้วรีบลุกจากเก้าอี้ไปหลีตัวไปหาอุนทันที
“ใช่ๆ ทำอย่างนี้เธอเก่งกว่าฉันแน่เลย” พริ้งยังคงบ่นเรื่องเดิม
“อาๆ ไม่ต้องมาพูดกับฉันตอนนี้เลย ฉันจะไปอ่านหนังสือ”
อุนพูดขึ้นก่อนจะผละตัวออกมาจากเพื่อนสาวสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ อุนมุ่งหน้าออกมานอกห้องก่อนจะเอากระเป๋านักเรียนวางไว้บนระเบียงที่พาดยาวไปตามทางเดินของชั้นเรียน
ในเวลานี้นักเรียนชั้น ม.3/1 ต่างก็พากันอ่านหนังสือบ้างเล่นบ้างตามประสาเด็กวัยโต แต่ในขณะนี้หัวหน้าห้องสาวกลับเรียกเพื่อนที่อยู่ข้างนอกห้องสอบ ให้เข้ามาในห้องสอบ ซึ่งทำให้อุนไม่พอใจอย่างรุนแรง
“ที่เรียกตัวมานี้ไม่มีอะไรมากหรอก” เพรียวพูดเสียงดังที่หน้ากระดานดำ เมื่อเห็นเพื่อนๆ เดินเข้ามาให้ห้องหมดแล้ว
“...”
“ก็อย่างที่เห็นละ ในวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายใช่ไหมล่ะ ฉันก็อยากให้ทุกคนได้สนุกและผ่อนคลายในวันนี้ ฉันเลยอยากขอเสนอให้มีปาร์ตี้ในวันนี้ มีใครเห็นด้วยบ้าง”
“ฉัน!!!” บิว วิว แอนนี่ และลูกตาล พูดขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ได้ยกมือ
“คนอื่นละว่าไง” เพียวถามคนอื่นๆ บ้างแล้วละสายตาจาก บิว วิว แอนนี่ และลูกตาล
“ว่าไงดีละโฟร์” เอวาสาวตาโตแสนน่ารักหันมาถามเพื่อนหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะทำตาปริบๆ แบบสงสัย
“ไม่รู้สิ ...แล้วแกละว่าไง” โฟร์หันหน้าไปถามดิวเพื่อนสนิทชายของตนเอง ซึ่งดิวเองก็ถึงกับตกใจทำหน้าเหลอหลาพูดไม่ออกเพราะตัวเองก็กำลังคิดอะไรเรื่อยเปลือยอยู่
“เอ้าจะไปรู้หรอวะ เอาเป็นว่ายกๆ ไปเถอะ นานๆ ทีมีนะโว้ย!” ดิวตอบกลับก่อนจะยกมือเป็นสัญญาณว่าเขาเห็นด้วยกับความคิดนี้
“เอางั้นก็เอาวะ” โฟร์สบถเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วบอกให้เอาวายกมือเออออไปกับเขาเถอะ
“ฮีตเอาไงดีละ” ในอีกมุมหนึ่งของห้องยังคงมีเพื่อนสนิทที่รักกันมาก แต่ที่น่าแปลกทั้งสองกลับเป็นเพื่อนที่ต่างเพศกัน
“นั่นสิ? แต่ว่า...แม่ฉันยิ่งป่วยอยู่ด้วย ต้องรีบกลับด้วยอะ”
“เหมือนกันเลย บอสก็มีงานพิเศษที่ต้องทำหลังเรียนด้วย เอาไงดี จะเห็นดีเห็นงามกับเขาไหมเนี่ย” บอสพูดด้วยเสียหน้าที่ครุ่นคิดอย่างหนักก่อนจะกวดสายตาไปรอบๆ ห้อง ก็พบว่าเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ต่างเห็นดีเห็นงามกันไปเกือบหมดห้องแล้ว
“นานๆ ทีจะมีครั้งนะบอส ฮีตเองก็จะไม่เรียนแล้วพอจบ ม.3 แล้ว มันจะได้เป็นการอำลาเพื่อนๆ ในวันสุดท้ายนะ”
“สิ่งที่ฮีตพูดบอสว่าก็ถูกนะ บอสเองพอขึ้น ม.4 ก็ไม่ได้เรียนแล้วคงต้องออกไปทำงานหาเงินส่งน้องเรียนอีก”
“เห็นไหมล่ะ นานๆ ทีเอง วันนี้ค่อยโทรไปลางานที่ร้านก็ได้นี่ นานะ...วันเดียวเองนะบอส จะได้อยุ่เป็นเพื่อนฮีต” ฮีตพูดด้วยเสียงออดอ้อนก่อนจจสายตาขอร้องอันน่าสงสารไปบอสเพื่อนสนิท
“เอางั้นหรอ~” บอสทวนถามอีกครั้ง
“นานะ...ครั้งเดียวเองที่จะได้มีเวลาสนุกๆ แบบนี้”
“เอ้า! เอาก็เอาวะ” บอสพูดด้วยเสียงหนักแน่นก่อนจะยกมือขึ้นก่อนฮีต ซึ่งฮีตเองก็ส่งยิ้มหวานๆ บวกน่ารักให้บอส ทำให้บอสถึงกับหน้าแดงจนแทบหลบหน้าไม่ทัน
“วิว” อาเน่สาวลูดครึ่งจีนเรียกชื่อวิวเบาๆ
จริงๆ แล้วเธอไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกับวิวหรอก แต่ตัวเธอเองมีข้อสงสัยเหลือเกินจึงเดินเข้าไปหา เพื่อสอบถามอะไรบางอย่างจากวิว
“อะไร” เธอถามด้วยสีหน้างุนงง วิวเองก็รู้สึกแปลกใจมากที่อาเน่มาเรียกชื่อเธอ ทำไมนะหรอ? เพราะอาเน่ไม่เคยมาชวนเธอคุยเลย มีแต่เธอเท่านั้นแหละ ที่มักจะไปถามเรื่องอะไรต่างๆ ก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนและเรื่องกีฬา เธอจึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยมราอาเน่มาคุยกับเธอ
“ฉันมีเรื่องจะถาม” อาเน่เปิดประเด็น
“เรื่องอะไร?”
“มันน่าแปลกใจนะ! ที่เธอไม่รีบกลับบ้าน ฉันเห็นทุกครั้งเธอจะกระวนกระวายใจมากเหลือเกิน ก่อนที่จะกลับบ้าน แต่หลังๆ นี่สิ! เธอกลับเออระเหยลอยชายอยู่โรงเรียนเป็นชั่วโมงก่อนจะกลับบ้าน”
“แล้วทำไมหรอ” วิวพูดโดยที่เธอไม่ได้ตกใจเลยแม้แต่น้อย
“ก็มันน่าแปลกนะสิ”
“ช่างมันเถอะ...อะนั่นโซริเรียกเธอนี่นาอาเน่” อาเน่หันไปมองด้านที่วิวชี้ ก็พบว่าโซรินั้นได้เรียกเธอจริงๆ แต่เธอก็ยังคงสงสัยที่วิวกลับบ้านช้าทั้งๆ ที่เธอมีน้าที่แสนใจร้ายคอยบังคับให้วิวทำนู่นทำนี่แทบบวิวจะตายกลายเป็นผีซอมบี้อยู่แล้ว
อาเน่ออกจากผวังความคิดก่อนจะมุ่งหน้าไปหาโซริเพื่อนสนิทของเธอทันที
ตอนนี้ในห้องเรียน นักเรียนชั้น ม.3 รู้สึกปวดแขนที่ต้องคอยยกแขนนานๆ เพื่อรอความคิดของเพื่อนๆ คนอื่นๆ เมื่อเวลาผ่านไปได้สัก 5 นาที คุณหัวหน้าห้องจึงรีบพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเวลาใกล้สอบไดไล่จี้เข้าหาเธอทุกวินาที
“เอาละทุกคน!! จะขอถามเป็นครั้งสุดท้ายนะว่าจะให้จัดปาร์ตี้นี่หรือเปล่า? ถ้าเห็นด้วยให้ยกมือ!!”
ทันใดนั้นเองมือหลายข้างพุ่งทยานขึ้นสู่ห้วงอากาสอย่างรวดเร็วมีเพียงคนไม่กี่คนที่ไม่ได้ยกมือกับความคิดเห็นนี้
“เอาละมีแค่ 2 คนที่ไม่ได้ยกมือ ส่วนคนที่ยกมือให้เอามือลงได้” เพรียวสั่งก่อนจะใช้สายตามองไปที่เพื่อนร่วมห้อง 2 คนที่ไม่ได้ยกมือ
“...”
“เริ่มจากนายน่ะ...แซม ทำไมนายไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้” เธอถามก่อนจะใช้สายตานิ่งๆ ที่ไม่ได้บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น มองไปยังแซม ทำให้แซมหลับตาพริ้มก่อนจะลืมตาพูดขึ้นสั้น
“เสียเวลา!!”
“ทำไม” เพรียวยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“มันปัญญาอ่อน”
“ปัญญาอ่อน?”
“ใช่!! ปัญญาอ่อน ปัญญาอ่อนมาก ฉันว่าฉันเอาเวลานี้ไปนั่งจีบหญิงยังดีกว่าอีก”
“แล้วเธอละ...ฟ้า” เธอหันหน้าไปถามเพื่อนสาวร่างเล็กบ้าง ด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์เช่นกันกับถามแซม
“ฉันหรอ...อืม...คงเพราะ มันนอกคอกเกินไป” เธอคิดก่อนจะตอบออมา
“หรอ”
“ใช่แล้วละ...ฉันว่าเราเอาเวลาบ้าๆ กับการจัดปาร์ตี้ห่วยๆ นี่กลับไปที่บ้านไปนั่งเงียบๆ ไม่ดีกว่าหรือไง”
“พวกเธอสองคนฟังนะ ในวันนี้เป็นวันเดียวและวันสุดท้ายที่เราอาจจะได้พบหน้ากันเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับใครหลายๆ คน ทำไมนะหรอ เพราะบางคนต้องลาออกจากโรงเรียนไปเรียนที่อื่นบ้างและลาออกไม่เรียนบ้าง อย่างน้อยเธอก็น่าจะเห็นแก่เพื่อนๆ ที่กำลังจะจากไปในวันนี้บ้างสิ ฉันรู้ว่าพวกเธอเห็นมันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ แต่อย่างน้อยพวกเธอก็น่าจะมาร่วมส่งท้ายพวกเพื่อนๆ และอีกอย่างปาร์ตี้นี้ไม่ได้มีตลอดทุกวินาทีหรอกนะ อย่างน้อยๆ พวกเราก็ควรมาสร้างความทรงจำดีๆ ให้แก่กันสิ นี่พวกเราอยู่มาด้วยกันตั้ง 3 ปีสิเชียวนะ แล้วพวกเธอ 2 คนจะปล่อยให้มันเป็นธาตูบริสุทธิ์ลอยไปตามอากาศกันหรือไง” คุณหัวหน้าห้องพูดอย่างเป็นงานเป็นการ ซึ่งทำให้หลายคนถึงกับจะร้องไห้ แต่...
“แหวะจะอ้วก!!” แอนนี่พูดเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้คนทั้งห้องได้ยิน
“คนเขากำลังซึ้งนะ! แกอย่าทำให้เสียบรรยากาศได้ไหม” ลูกตาลตักเตือนก่อนจะหันมาปล่อยโฮต่อ
“ตอแหละนะสิ! ที่แท้ก็อยากจะสนุกกับเพื่อนๆ เฉยๆ ทำมาพูดดี!”
“เอาละใครจะคิดยังไงก็ช่าง!! แต่พวกเธอ 2 คนต้องมานะ” เพรียวมองไปที่แซมกับฟ้าอีกครั้ง
“ก็ได้!! สักครั้งก็ได้!!” ทั้ง 2 พูดพร้อมกันก่อนจะเบี่ยงเบนหน้ามองไปยังที่อื่นๆ
“ดี! งั้น!!...พอสอบเสร็จให้ทุกคนโทรไปบอกพ่อแม่หรือผู้ปกครองของพวกเธอทุกคนนะ ส่วนเรื่องงานฉันจะจัดการกับอั๋นเอง ใครอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็มาบอกฉัน ฉันจะจัดการให้!! ทุกคนไม่ต้องออกเงินช่วยหรอกนะ ฉันจะออกให้เองทั้งหมด อา...อั๋นก็ออกด้วยนะ อ๋อ!! อีกอย่างนะ บอกผู้ปกครองที่อยู่ทางบ้านด้วยนะว่าจะกลับกันดึกหน่อย เพราะงานนี้เราต้องอยู่ให้ดึกๆ กันไปเลย แล้วความประทับใจก็จะได้มาอย่างที่เราจะไม่ลืมเลยละ เอาละมีใครจะถามอะไรไหม”
“ฉัน!!” เรียวยกมือทันทีที่ได้ยิน มือของเรียวค่อยๆ ขึ้นสู่อากาศทำให้ทุกคนต่างหันไปมองเขาเป็นสายตาเดียว
“ว่ามา...เรียว”
“ฉันอยากรู้ว่าไอ้งานปาร์ตี้ส่งท้ายที่ว่านี่จัดที่ไหนหรอ?”
“ก็โรงเรียนไง ที่ห้อง 3/1 ...ตอนนี้ฉันขออนุญาต ผอ. จัดการปาร์ตี้ถึงรุ่งเช้าได้แล้ว ตอนนี้เลยให้คนที่บ้านฉันมาจัดงานให้”
“...”
ทั้งห้องเงียบฟังที่เพรียวพูด แต่เมื่อเพรียวหยุดพูดกลับไม่มีคำถามใดๆ ออกมาจากปากใครเลย เธอจึงพูดต่อทันที
“ส่วนเวลาเริ่มปาร์ตี้จบการศึกษาชั้น ม.3/1 ก็ช่วงเวลาเลิกสอบที่แหละ ส่วนคนที่จะบอกผู้ปกครอง ...เวลาพักบ่ายตอนสอบให้ผู้ประสงค์โทรไปบอกเลยนะ ส่วนโทรศัพท์ใครตังค์หมดก็มาขอฉันโทรได้ แล้วอีกอย่างที่บ้านใครไม่มีใครอยู่หรือว่าที่บ้านไม่มีโทรศัพท์ให้มาบอกฉัน ฉันจะใช้คนที่บ้านไปของฉันไปเฝ้าให้และไปบอกผู้ปกครองเธอให้นะ ไม่ต้องเกรงใจ”
คุณหัวหน้ายิ้มให้กับทุกคนแล้วเดินออกไปนอกห้องทันที ซึ่งทำให้ทุกคนในห้องต่างจับเจ่าคุยกันเสียงดังเรื่องงานปาร์ตี้ที่จะถึงในไม่กี่ชั่วโมงนี้
ทำไมคุณหัวหน้าห้องถึงทำเพื่อเพื่อนขนาดนี้หรือ? คำตอบง่ายๆ เลยเพราะเธอรวยมาก ถึงขนาดติด 1-10 ของผู้ที่รวยมากที่สุดในโลกเลยละ เช่นเดียวกับอาเน่ที่รวยไม่แพ้กับกับคุณหัวหน้าห้องเลยแม้แต่น้อง
ไม่มีกี่นาทีต่อมาการสนทนาของพวกเขาทั้งห้องก็ต้องจบลงเมื่ออาจารย์คุมสอบได้เดินเข้ามาในห้อง ทั้งหมดจึงแยกตัวกันแล้วเตรียมตัวที่จะสอบทันที
ความคิดเห็น