คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนำแห่งความตาย
บทนำ
ติ๊ง...ต๊อง...
เสียงสัญญาณระฆังโรงเรียนที่บ่งบอกถึงเวลาเรียนได้หมดคาบเรียนลงแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงครึ่ง ซึ่งอากาศเองก็ยังคงร้อนออกเย็นเล็กน้อย ในเวลานี้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ห้อง ๑ ทุกคน ต่างก็กำลังเก็บข้าวของกันอย่างวุ่นวาย เพื่อเตรียมตัวกลับบ้านของตนเอง
แต่ในเวลานี้เอง กลับมีหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอไม่ได้สนใจเก็บข้าวของของเธอเลย แต่กลับเดินก้าวขายาวๆ ออกมามาหน้าห้องเรียน เธอหยุดอยู่หน้ากระดานดำก่อนจะมองห้องเรียนอย่างพินิจพิจรณาเพื่อนๆ ของตนเองที่กำลังง่วนกับการเก็บข้าวของกันอยู่ บางคนก็เก็บเสร็จแล้ว แต่ยังรอเพื่อนสนิทของตนเอง เธอใช้สายตากวดมองไปเรื่อยๆ ก่อนจะพูดขึ้น
“ทุกคน!!” เธอพูดด้วยเสียงอันแข็งกร้าว ที่ไม่เข้ากับการแสดงใบหน้าของเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอยิ้มอย่างสดใสร่าเริงเหลือเกิน
“อะไรหรอโมมาย...” ‘อุน’ หญิงสาวสวมแว่นหนาเตอะ ที่กำลังจ้องมองหนังสืออย่างเคร่งเครียด แต่...กลับเงยหน้ามองหญิงสาวที่ชื่อ ‘โมมาย’ แล้วตอบอย่างเป็นพิธี
“ฮือ...” เพื่อนๆ ทั้งหมดที่เตรียมตัวจะกลับบ้าน ต้องชะงักกันทุกคนก่อนที่จะใช้สายตาจ้องมองไปที่โมมาย
“ฉันมี...เรื่องจะบอกน่ะ” โมมายพูดเว้นน้อยๆ ก่อนจะพูดต่อให้ประโยคนั้นจบลง
“แต่!!... ฉันไม่ฟังคนจนพูดยะ!!” แอนนี่ เพื่อนสาวร่วมห้องของเด็ก ๓/๑ พูดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะเชิดหน้าไปหาเพื่อนคนอื่นๆ
“ฉันก็ด้วย รังเกียจที่จะฟัง!!” โดมพูดขึ้นด้วยอีกคน
“ก็แล้วแต่พวกแกสิยะ! ใครใช้ให้พวกแกเอาหูมารับฟังคำพูดของฉันเล่า!!” โมมายพูดอย่างเดือดดานก่อนที่จะทุบเข้าที่โต๊ะของอุนที่นั่งอยู่แถวหน้าสุด อุนถึงกับสะดุ้งเวลาโมมายเอามือมาทุบที่โต๊ะเธอ
“นี่! โดม แอนนี่...พวกเธอ 2 คนหัดรู้จักมีมารยาทมั้งสิ เป็นถึงลูกผู้ดี แต่ทำไมพูดเหมือนหมาอย่างนี้ห๊ะ!! พ่อแม่ไม่ได้สั่งไม่ได้สอนมาหรือไง!! มารยาทผู้ดีน่ะ” ลูกตาลพูดขึ้นอย่างโมโห ทำไมน่ะหรอ เพราะเธอเกลียด 2 คนนี้มาก มากถึงมากที่สุด! เนื่องจากมีอะไร 2 คนนี้มักดูถูกคนจนเสมอ
“อีลูกตาล!! อย่าว่าแต่ฉันไม่มีมารยาทเลย!! แกเองมันดีกว่าฉันตรงไหนยะ!! อย่าว่าฉันไม่รู้นะว่าแกชอบไปเที่ยวตอนกลางคืน!!”
“แก!! พูดงี้มาตบกับฉันไหม!!”
“หยุด!! หยุดเดี๋ยวนี้!! นี่คือคำสั่ง!! พวกเธอจะทะเลาะหาสวรรค์อะไรกันนักหนาห๊ะ!! เห็นด่ากันได้ด่ากันดีไม่มีวันไหนเล๊ย!! ที่จะไม่หาเรื่องกัน!!”
‘อั๋น’ หนุ่มหล่อหัวหน้าห้องประจำชั้นพูดขึ้น เพื่อสงบศึกสงครามระหว่างลูกตาลกับแอนนี่
“ชิ!!” ทั้ง 2 คนพูดพร้อมกันก่อนจะหันหน้าไปมองโมมายที่ยืนหน้าห้องต่อ
“โมมายเธอมีอะไรก็รีบพูดซะ”
“ขอบใจมากอั๋น” เธอพูดขอบใจหนุ่มหัวหน้าห้องสุดหล่อก่อนจะกวดสายตามองไปรอบๆ ห้อง ซึ่งในเวลานี้เอง เพื่อนๆ ทั้งห้องต่างก็มองมาที่โมมายกันทั้งนั้น
“นี่โมมาย!! เธอมีอะไรก็รีบพูดเร็วๆ เข้าซิ ฉันมีซ้อมทีมเชียร์อยู่น่ะ!” ฝ้ายพูดอย่างกระวนกระวายใจ เพราะที่ทีมเชียร์ประจำโรงเรียนมักจะมีบทลงโทษเสมอสำหรับผู้มาซ้อมลีดสาย
“ใช่! ฉันก็รีบกลับบ้านไปดูแลแม่ต่อนะ” ฮีตพูดขึ้นอีกคน ด้วยสีหน้าที่สู้ไม่ดีนัก
“ทำไมฉันต้องมาฟังอีบ้านี่ด้วยนะ!!” แอนนี่สบถคำด่าเบาๆ เพื่อระบายความในใจออกมา
“ฉันได้ยินนะแอนนี่!! ...เอาละ! เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา พูดกันตรงๆ นะ ห้องเราทุกคนนะ จะมีปัญหากันมากเหลือเกิน โดยเฉพาะการขาดแคลนเครื่องอุปโภคต่างๆ ฉันอยาก...ที่จะ...ช่วยน่ะ”
“หมายความว่าไง?” วิวพูดขึ้นด้วยความสงสัย
“ยังจะมาถามอีก ฉันหมายถึงอยากที่จะช่วยเหลือพวกเธอน่ะ”
“ด้วยวิธีไหรละ?” บอสที่มีฐานะยากจนพูดขึ้นด้วยความสงสัยเหมือนกับทุกคนในห้อง แต่ไม่มีใครพูดเลย คงจะรู้กันถ้วนหน้าว่าต้องมีใครสักคนพูดขึ้นมาอยู่แล้ว
“เงินไงละ!!”
“เงินหรอ?” ทุกคนในห้องต่างพูดดังขึ้น บ้างก็หันไปคุยกับเพื่อนข้างๆ
“ใช่เงิน!” โมมายตอบด้วยความมั่นใจ ก่อนจะยิ้มให้เพื่อนๆ
“เธอเนี่ยนะจะเอาเงินมาให้ หึๆๆ บ้านเป็นสุสานแท้ๆ ยังจะเอาเงินอันน้อยนิดมาให้อีก” แอนนี่หัวเราะในลำคอก่อนจะมองโมมายด้วยสายตาเหยียดหยาม
“บ้านฉันเป็นศาลเจ้าคนทรงและสำนักหมอผียะ!! ไม่ใช่สุสาน!! ถึงฉันจะจนแต่ตอนนี้ฉันมีเงินแล้ว!! ฉันอยากจะเอาเงินให้ทุกคน!!”
“แล้วเธอจะเอาคืนรึเปล่า” ฮีตรีบถามขึ้นทันควัน
“ไม่ !! ฉันไม่เอาคืนสักบาทเลยละ!!”
“แล้วเธอจะเอาอะไรละ? เธอคงไม่ให้พวกเราเอากะโหลกผีในป่าช้ามาให้หรอกนะ เพราะเธอน่ะเป็นผู้มีอาคมนิ!” บอสโพลงขึ้นอีกครั้ง
“เปล่าเลย~ ฉันแค่อยากจะช่วย อยากจะช่วยจริงๆ นะ ...แต่ว่า...ในวันสอบวันสุดท้ายฉันจะบอกทุกคนเองว่าอยากได้อะไร แต่ไม่ใช่เงินแน่นอน! เอาละ ใครอยากได้เงินมาหาฉันได้ทุกเมื่อทุกเวลานะ!! แล้วฉันจะรอ!”
ความคิดเห็น