fighting of the world

ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 โลกใบใหม่

10ปีผ่านไป

โลกยุคโลกาภิวัฒน์สมัยใหม่อันเปี่ยมเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร การคมนาคม การแพทย์ทุกๆด้านเอื้อประโยชน์ต่อความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์อย่างยิ่งยวด สงครามการต่อสู้จบสิ้นลงเหลือเพียงสงครามเย็นทางจิตวิทยาอันชาญฉลาดหลักแหลม เชาว์ปัญญาภูมิมนุษย์ได้สร้างความมหัศจรรยย์ต่อโลกสำเร็จเมื่อพวกเขาค้นพบวิธีต่อคลื่นสมองส่วนประสาทสัมผ้สและการควบคุมเข้ากับแผงวงจรคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ทำให้ผู้เล่นสามารถรับรู้รส กลิ่น เสียง การดมกลิ่น และการมองเห็นเสมือนโลกแห่งความเป็นจริงได้ทุกประการ นานวันเข้า เทคโนโลยีนี้ได้พัฒนาจนสามารถลดขนาดเครื่องเหลือเพียงเท่าเตียงนอน ผู้ผลิตเกมหลายค่ายเริ่มซื้อต้นแบบจากนักวิทยาศาสตร์ จ่ายแพงแค่ไหนก็คุ้มค่า ใช้ทั้งเพื่อความเพลิดเพลิน เพื่อการพนัน หนีความซ้ำซากจำเจจากโลกแห่งความเป็นจริงได้ดีเชียว

fighting of the world ก็ถูกสร้างขึ้นทำนองนั้น แต่หาใช่เพื่อความเพลิดเพลินไม่ จุดมุ่งหมายที่แท้จริงคือการประลองใต้ดิน เงินเดิมพันสกปรกของพวนักการเมืองทั้งหลายใหลหลากปานสายน้ำเพื่อแทงคนแทนม้า เมืองบ้าสงครามการต่อสู้ทุกรูปแบบ จัดตั้งแก็งค์ยกพวกตีกันแย่งเขตแดนของอีกฝ่ายใช้สัญลักษณ์สติ๊กเกอร์แปะไว้ตามฝาผนังที่คนภายนอกสามารถมองเห็นได้ประกาศยืนยันว่านั่นเป็นเขตตน ช่วงการพัฒนาเกม7ปีเต็มจนทางบริษัทยืนยันได้ว่าปลอดภัยต่อผู้ร่วมแข่งขันแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ผู้ชนะติดหนึ่งในสามจะได้รับเงินก้อนโตพร้อมชื่อเสียงเกียรติยศ เป็นอะไรที่ท้าทายดึงดูดใจผู้สมัครมาก แลกกับการเสียเงินค่าเข้าร่วมเล่นเกมครั้งแรกหมื่นบาท ยอดฝีมือศาสตร์การต่อสู้แขนงต่างๆ นักเลง กลุ่มคนเบื่อความจำเจจะไปรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ใช้นิยามของการเรียกว่าไม่ไช่เกม แต่เป็นโลกแดนเถื่อนดงดิบไร้กฎหมายล้วนๆ นั่นคือเบื้อหลังแท้ของโลกใบนั้น
เป็นการยืนยันได้ดีตามหลักจิตวิทยาที่ว่ามนุษย์เราชอบสงครามทุกคน เหมือนลิงชิมแปนซีแต่อารมณ์และลักษณะพฤติกรรมที่แสดงออกมา รุนแรงกว่าอย่างชัดเจน สงครามการสู้รบ สงครามโต้วาที สงครามความคิด ล้วนแล้วเกิดจากความริษยาไร้เหตุผลของมนุษย์ทั้งสิ้น


"เชิญค่ะ เชิญ การต่อสู้รูปแบบใหม่ ที่มีสนามกว้างสุดลูกหูลูกตา ในโลกแห่งนั้นทุกท่านจะทำตัวอย่างไรก็ได้ ไม่มีกฎหมายอีกต่อไป อยากปล้นอยากฆ่าอยากฟันหญิงก็ไม่มีไครห้าม  เว้นการใช้ปืน เพราะนั่นคือ fighting of the worldโลกของพวกเราชาวใต้ดิน"
เสียงของพริ๊ตตี้สาวสองคนตะโกนใส่ไมค์ดังกึกก้องไปทั่วห้องโถงใหญ่ที่จุคนได้มากกว่าห้าพันคน พวกเธอแต่งกายกระโปรงสั้นมากและเสื้อสีแดงฉูดฉาดตัวตัวบาง ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

ทุกคนในห้องพูดจ๊อกแจ๊กจอแจกัน มีที่นั่งตั้งแต่แบบอยาบๆใช้ล้อรถทำ จนกระทั่งระดับvipของพวกนักธุรกิจหน้าบาน โต๊ะสนุกเกอร์ โต๊ะไพ่ ตู้แทงม้า โคโยตี้ แสงสีวูบวาบมันเป็นแดนเสื่อมของแท้ ตำรวจไม่จับที่นี่เพราะละแวกนี้พวกเดียวกันหมด เงินสะพัดขึ้นเลขเจ็ดหลักในแต่ละวัน

"ทุกท่านจะเข้าสู่โลกออนไลน์เสมือนจริงด้วยจำนวนเงินเริ่มต้นเพียงหนึ่งหมื่นบาทแลกกับความสุขใส่ตัวที่จะได้รับ โดยทุกท่านต้องแย่งชิงเขตแดนที่มีสติ๊กเกอร์ของฝ่ายตรงข้ามติดอยู่ สู้รบกัน หากเกิดมีไครได้รับบาดเจ็บจนเสียชีวิตจะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงทันที ต้องรอเวลาหกชั่วโมงเพิ่มเงินอีกหมื่น เข้าไปใหม่ หนึ่งชั่วโมงเท่ากับสิบสองชั่วโมงภายในเกมจึงเป็นเวลาสามวัน ฉะนั้นเท่ากับโลกนั้นสามวัน ผู้ที่ครองดินแดนได้มากที่สุดจะได้รับเงินรางวัลหมื่นล้านบาท"

เสียงฮือฮาดังกระหึ่ม ทุกสายตาหันความสนใจมาตรงหน้าเวทีทันที ด้วยเพราะคำว่าเงินรางวัลหมื่นล้านนั้นมีมากขนาดว่าใช้ทั้งชาติก็ยังไม่หมด

"หากใครสนใจเชิญตรงทางแยกด้านซ้ายมือของทุกท่านนะคะ จะมีพนักงานให้คำแนะนำ วิธีการเล่นอยู่ห้องอีกห้องหนึ่ง ขอให้ทุกท่านสนุกกับนวัตกรรมชิ้นใหม่ล่าสุดของเราค่ะ และบัดนี้เราจะประกาศผล...."
พวกเธอสาธยายต่อ กลุ่มคนเกือบครึ่งวิ่งกรูกันไปตามทางที่บอกหลังจากที่เธอสีซอให้ฟังเสร็จ โลกไร้เกณฑ์ใช่จะมีกันง่ายๆ อีกอย่างคืออัตราส่วนของเวลาอันคุ้มค่าดึงดูด ไม่ลองไม่รู้

พริ๊ตตี้สาวหันมาสบตากัน เป็นไปตามแผนของบริษัท
"คิกๆๆ ค่าคอมมิชชั่นอื่อซ่าแน่" หญิงสาวเอ่ย หมายความว่าพวกเธอจะได้รับส่วนแบ่งเปอเซนต์อันน้อยนิดครั้งนี้ด้วย


ตึกๆๆๆๆๆ ฝีเท้าของใครบางคงอายุยี่สิบปลายๆกระทบพื้นหลังจากคนใต้ดินหายเข้าไปในเกม5นาที ร่างฉกรรจ์อกสามศอกสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวสีน้ำตาลเก่าๆขาดๆวิ่งหน้าตื่นไปห้องเล่นเกม เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดคือเชือกแดงพันตรงแขนคล้ายคนสมัยโบราณ ถือเป็นเครื่องรางของขลังจำพวกหนึ่ง ทางเดินยาวมืดสลัวปรากฎแสงสว่างจากหลอดไฟเป็นระยะ เหงื่ออาบบนใบหน้าคมเข้มตามแบบฉบับคนไทยด้วยเพราะเกรงว่าจะไม่ทันเวลาทดลอง เขาคือนเรนทร์นั่นเอง

ในที่สุดเขาก็มาถึง เปิดประตูหรูเข้าไป พบผู้คนมากมายเบืยดเสียดยัดเยียดกันเป็นตังเม
ต่อเข้าแถวกันละลานตา เขาค่อยๆแทรกตัวเคลื่อนผ่านฝูงชนเพื่อหาโอกาสเนียนๆลัดเข้าแถว สุดท้ายได้จริงๆ เป็นสิ่งไม่ถูกต้องนักแต่เป้าหมายตนเองสำคัญกว่าและเพื่อการนั้นเขาจึงเข้าร่วมเล่นในแดนเถื่อนครั้งนี้

พนักงานขายตั๋วยังไม่เปิดให้มีการซื้อขายจนกว่าเจ้าหน้าที่สาวอีกคนหนึ่งจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับเกมอย่างละเอียดเสร็จเรียบร้อย
"สวัสดีค่ะทุกท่าน ขอต้อนรับสู่โลกใบใหม่"เสียงผ่านลำโพงดังขึ้น มันไพเราะเพราะพริ้งมากเสียจนสะกดผู้คนให้เงียบไปได้ชั่วขณะ

"ดิฉันเป็นผู้แนะนำกฎกติกาต่างๆให้แก่ผู้เล่นนะคะ โปรดอย่าส่งเสียงดังเพราะลำพังดิฉันต่อให้มีลำโพงขนาดยักษ์มาตั้งก็สู้เสียงพวกคุณๆไม่ไหวหรอกค่ะ"เหมือนเธอไม่ค่อยเต็มใจนักกับการทำหน้าที่ในครั้งนี้ กระแฮ่มครั้งหนึ่งแล้วกล่าวต่อ นเรนทร์ในวัยโตตั้งใจฟัง

"กฎกตืกาคือผู้สมัครจะต้องจ่ายเงินคนละหนึ่งหมื่นบาท หากตายจะถูกบังคับห้ามออนไลน์เป็นเวลา6ชั่วโมงและต้องเพิ่มเงินอีกหนึ่งหมื่นบาทในการรับสิทธิ์เข้าเล่นอีกครั้ง เกมนี้คือการแย่งชิงพื้นที่หรือแอเรีย มีการต่อสู้อยู่สามประเภทคือ

-การดวลระหว่างหัวหน้ากลุ่มแบบตัวต่อตัว
-การดวลโดยการใช้กำลังเล่นงานศัตรู ต่างฝ่ายต่างไม่ใช้อาวุธ
 -การดวลโดยการใช้กำลังเล่นงานศัตรู ต่างฝ่ายต่างใช้อาวุธ

 ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่ได้ทำเอาไว้ โดยเมื่อเกิดการต่อสู้ ผู้ที่ฆ่าชีวิตฝ่ายตรงข้ามได้ จะได้รับเงินรางวัล1หมื่นบาทเมื่อออกจากเกม หากฆ่าได้สี่คนจะได้2หมื่นบาท ฆ่าได้แปดคนจะได้4หมื่นบาท เพราะทางเราจะหักจำนวนเงินครึ่งหนึ่งเป็นค่าคอมมิชชั่น กลับกันกับผู้ที่แพ้จะเสียทีละหมื่นตลอดไม่หักค่าใดๆเพิ่มเติมทั้งสิ้น  เราจะมีเซิฟร์เวอร์อยู่สี่เซิฟร์เวอร์ด้วยกัน จะออนกับสถานที่ใต้ดินแห่งอื่นมากมายทั่วโลก เซิฟร์เวอร์มีชื่อเรียกต่างกันดังต่อไปนี้

-เซิฟร์เวอร์มังกรฟ้าพิโรธ
-เซิฟร์เวอร์หงส์อัคนี
-เซิฟรเวอร์พยัคฆ์สลาตัน
-เซิฟร์เวอร์เต่าธารา

ซึ่งทั้ง4จะถูกแยกตัวเป็นเอกเทศกัน ผู้เล่นต้องรู้จักใช้กลยุทธ์ สภาพภูมิประเทศของเมือง
คารม ทักษะฝีมือด้านการต่อสู้ กำลังพล และข่าวสารกิจกรรมต่างๆที่พวกเราได้ประกาศทางกล่องข้อความ พวกท่านต้องเรียนรู้จากโลกใบนั้นด้วยประสบการณ์จริง หากมั่นใจว่าตัวท่านแน่พอ เราขอท้าให้คุณลองค่ะ"เธอนิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัดว่า
"เริ่มการซื้อขายบัตรผ่านตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป"ผู้คนวิ่งแห่มุ่งตรงไปที่เคาน์เตอร์คล้ายกับอยู่ในตลาดซื้อขายหุ้น แต่นี่มีเป็นพันๆคน

นเรนทร์เองก็เช่นเดียวกัน เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าเขาจะได้ตั๋วก็ปาเข้าไปสี่โมงครึ่ง ชายหนุ่มพูดขึ้นกับคนจำหน่ายตั๋ว
"บัตรเข้าเล่นหนึ่งที่ครับ"
"ค่ะ" เธอพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในคอมพิวเตอร์ เสียงตู๊ดๆและบัตรสีทองค่อยๆลอยออกมาจากเครื่อง เขาจ่ายเงินให้
"ได้แล้วค่ะ" นเรนทร์รับบัตรสีทองคลับไว้ มีหมายเลขกำกับอยู่สิบหลัก คงเป็นรหัสที่ใช้เพื่อตรวจสอบข้อมูลกระมัง

เขาเดินเข้าไปยังห้องเล่นอีกห้องหนึ่ง ความรู้สึกอันแรงกล้าปัจจุบันไม่ไช่มาเพื่อความสนุก แต่มาเพื่อตามหาบุคคลเก่งกาจ ที่สามารถชนะเขาได้ และเพื่อการล้างแค้นใครบางคน ต้นเหตุทำให้ครูแก้วที่เขานับถือต้องตายจาก อดีตเมื่อสิบปีก่อนถูกซ่อนไว้ภายใต้แววตาสีนิล
มันพาลจะเผาผลาญทุกสิ่งให้เป็นเถ้าถ่านด้วยเพลิงแห่งการล้างแค้น