ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fighting of the world

    ลำดับตอนที่ #1 : บทเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 54



    เสียงกลองรัวและเครื่องดนตรปี่พาทย์บรรเลงเพลงสมัยโบราณดังระงมเพื่อเป็นการปลุกความฮึกเหิมแก่นักมวยทั้งสองมิให้ขาดกลัวต่อศัตรูที่อยู่เบื่องหน้า แววตาคมกริบประดุจเพรชฆาตมองไปที่หมัดคาดเชือก เมื่อสบโอกาสก็พร้อมออกอาววุธได้ทุกเมื่อ หากใครเผลอปล่อยการ์ดนั่นคือแพ้

    พวกเขาต้องขยับซ้ายขวาตลอดเวลาเป็นการหลอกล่อคู่ต่อสู้และหลบหลีกไปในตัว
    ฝ่ายแดงคือนเรนทร์ เด็กวัดจากอำเภอแม่สอดเจ้าถิ่น ฝ่ายน้ำเงินคือผู้ท้าชกพม่าอายุ15รุ่นราวคราวเดียวกันสมยาคงกระพันรุ่นเยาว์ ศัตรูออกหมัดซ้ายแย็บตรงหน้าหลายๆที นเรนทร์หลบเพื่อรอจังหวะน๊อกในคราวเดียว เขาร้ายกาจมาก ไม่เหลือโอกาสดีให้เกือบทุกครั้ง

    การสู้ด้วยมวยคาดเชือก ปัจจุบันได้ถูกยกเลิกไปจากประเทศไทยเกือบทั้งหมด เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จะมีเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชกจะใช้เชือกพันที่หมัดทั้งสองข้างแทนการใช้นวม การแพ้ชนะจะสู้กันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยอมแพ้หรือลุกไม่ขึ้นซึ่งในอดีตเคยมีนักชกจากพม่านามว่านายเจียร์ฉายาคงกระพันชาตรีเข้ามาท้าชกกับนายแพ ผลที่ได้คือนายแพชนะด้วยท่าหนุมานถวายแหวน ทำให้นายเจียร์ถึงแก่ชีวิต (หนุมานถวายแหวนคือท่าที่หาจังหวะจากการออกหมัดของศัตรู เมื่อได้โอกาสผู้ใช้ท่าจะย่อตัวลงหลบแล้วใช้กำปั้นทั้งสองข้างเสยเข้าที่คาง หนึ่งในแม่ไม้มวยไทย)

    เด็กวัดตอบโต้ด้วยการถีบยันไปข้างหลังให้เขาติดกับรั้วสนามที่ทำจากเชือกยาวเส้นเดียว หนาพอรับแรงกระแทกจากการต่อสู้ แล้วรีบออกหมัดซ้ายรุกใส่คางที่ไร้การตั้งรับอย่างรวดเร็ว รุนแรง ฝ่ายน้ำเงินเอี้ยวตัวหลบ โดนเพียงถากๆเท่านั้น ทั้งคู่กลับมาอยู่ในสภาวะดูชั้นเชิงกันอีกครั้งท่ามกลางเสียงคนดูป่าวโห่ร้องเชียร์ดังระงมอย่างไม่ขาดสาย

    "ไอ้เนตร เอ็งห้ามแพ้นะโว้ย ไม่งั้นไม่ต้องกินข้าวเย็น"เด็กคนหนึ่งพยายามส่งเสียงร้องบอกนเรนทร์โดยเรียกเพียงชื่อเล่น มันคืออ้ายคำเพื่อนสนิท ทุกคนชอบเรียกว่าขวานฟ้าด้วยเหตุว่าตัวดำอย่างกับนิโกรแถบแอฟริกา บวกทรงผมเงาะป่าด้วยแล้วยิ่งใช่เข้าไปใหญ่

    หากแต่สงครามไม่สงบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เขาจะไม่หันไปทางอื่นเด็ดขาดนอกจากศัตรูตรงหน้าเท่านั้น นเรนทร์หลอกล่อคู่ต่อสู้ด้วยการทำท่าจะเตะ เมื่อมีจังหวะเขาก็ใส่ไปที่สีข้างเต็มแรงดังโป๊ะ เรียกเสียงฮือฮาของผู้คนได้มากโข คูต่อสู้เริ่มแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราด ความแรงของหมัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกลับกันกับความคมหวังผลให้ศัตรูโดนจุดสำคัญค่อยๆลดลงแทนที่ นเรนทร์ยั่วะเขาจนหน้าแดงก่ำสุกเป็นลูกตำลึง ควันออกหู ศัตรูเริ่มต่อยมั่ว โดนไม่โดนไม่สน มันต้องมีสักหมัดที่โดน เด็กหนุ่มตั้งศอกทานรับการโจมตีพร้อมกับย่อตัวลง
    ซ้าย ขวา ซ้าย นับไม่ถ้วน ป่าวร้องฮือฮาอีกครั้งทางฝั่งศัตรู คิดในใจว่าตูคงไม่รอดแน่

    "ไอ้เนตร เองอย่าลืมที่ข้าพุดสิวะ เราทำเพื่อค่ายครูแก้ว เอารางวัลนี้ไปฝากคุณครูแก้วในงานวันเกิดสิ อย่ามากลัวแถวนี้ถ้าเอ็งยังอยากเป็นนักมวย"อ้ายคำกล่าวอีกครา ครั้งนี้มันแผดสุดเสียง นเรนทร์ได้ยินชัดเต็มสองหู เป้าหมายเพื่อเอาชัยชนะกลับไปฝากครูมวยอันเป็นทั้งเพื่อน อาจารย์ และพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเขามาจนเติบใหญ่ในคราวเดียวกัน นเรนทร์หลบหมัดบ้าบิ่นนั้นได้ อาศัยแววตาดั่งนกเหยี่ยวมองการเคลื่อนไหวทิศทางของมัน ไม่นานนั้นเอง ฝ่ายตรงข้ามตนเริ่มแสดงท่าทีหมดแรง พละกำลังตกลง นเรนทร์รวบรวมพลัง สวนกลับด้วยหมัดซ้ายหนึ่งหมัดหนักน๊อกคู่ต่อสู้ล้มลง ไม่ตื่นอีกเลยจนชาวบ้านต้องหาบใส่แคร่นำกลับไปรักษา อย่างมากคงหมดสติ ยังไม่ถึงกับตาย ทุกคนกู่ร้องแสดงความยินดีกับเขา นเรนทร์รำมวยเพื่อไหว้ครู เป็นอีกครั้งที่เด็กหนุ่มนำชัยชนะกลับมาสู่อำเภอแม่สอดบ้านเกิดของเขา

    "ฝีมือดีขึ้นมากนะ สมแล้วที่เป็นลูกศิษฐ์เอกของฉัน หากเมื่อตะกี้นายขาดความรอบคอบ บุกเข้าสุ่มสี่สุ่มห้าบางทีนายอาจจะไปอยู่บนแคร่แทนคู่ชกเป็นแน่"ครูแก้วเดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวชมเชย ชายรูปร่างผมตัวเล็กนี่หรือเป็นเจ้าของค่ายมวย นั่นคือเรื่องจริงของคำว่า เล็กพริกหนู นเรนทร์ตอบอาจารย์ไป
    "เป็นเพราะไอ้ขวานฟ้านี่ล่ะครับ ที่เป็นคนเตือนสติผม"ว่าแล้วก็กอดคอเจ้าเพื่อนรักซะแน่น อ้ายคำรู้สึกอายๆ โตป่านนี้ยังจะกอดคอกันเป็นเด็กไปได้
    "ครูอิจฉาพวกเธอนะ เกิดและเติบโตมาด้วยกัน ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆกันสองคนมาตลอด เพื่อนตายที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว" อ้ายคำกอดคอนเรนทร์บ้าง ทั้งคู่ยิ้ม

    "และที่สำคัญ..." มองตาคุณครูปริบๆอย่างงงๆว่าจะเอ่ยอะไรต่อไป
    "ขอให้เธอรักและยึดมั้นสรัทธาในมวยต่อไป มันมีไว้เพื่อปกป้องคนดีจากคนพาล ห้ามใช้ไปในทางผิดมิเช่นนั้นความรู้วิชาทั้งหมดที่ได้ร่ำเรียนมา มันจะกลับมาทำร้ายเจ้าของเอง"
    พูดน้ำเสียงหนักแน่นแววตาเอาจริงเอาจัง สองเกลอนิ่งอึ่งไปยังไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูดอยู่ดี จนกว่าจะโตโน่นแหละ

    "ครับ"พูดพร้อมกันเหมือนนัดแนะ
    "ดี ครูมั่นใจว่าพวกเธอต้องรักษาสัญญานี่ได้แน่ ครูจะถ่ายทอดวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาทั้งหมดให้พวกเธอ ห้ามหลงระเริงกับแสงสีโลกภายนอกและละทิ้งมันเป็นอันขาดล่ะ"
    "ครับ เราสองคนจะตั้งใจฝึก นำวิชามวยไปใช้แต่สิ่งที่ดีแน่นอนครับ"อ้ายคำตอบแทน
    ครูแก้วยิ้มแป้น ลูบหัวเขาทั้งสองด้วยความเอ็นดู

    "วันนี้ไครจะกินอะไรสั่งมาได้เต็มที่ เราจะไปเก็บของป่ามาทำกันยกค่ายเลย"
    เสียงเย้ดังๆของพวกเขาแสดงอาการดีใจอย่างที่สุด อาหารรสเด็ด เส้นทางนักมวย อดีตอนาคตอันขมขื่น ถูกเสริร์ฟลงไปในจานพวกเขาแล้วตอนนี้


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×