ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องวุ่นๆ ของเจ้าหญิง

    ลำดับตอนที่ #7 : คิดถึง

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 48


    ตอนที่ 7 คิดถึง                              



    “ลาปิส เจ้าเห็นอย่างไร ระหว่างเยริน่าและเจอิล” กษัตริย์ยาฟาโพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยกับมหาดเล็กคนสนิท



    “ท่านยาฟ ท่านว่าอะไรนะ เจ้าหญิงเยริน่ากับเจ้าชายเจอิลรึท่าน”



    “นั่นล่ะเจ้าคิดอย่างไร”



    “ท่านยาฟ ท่านคิดจะเป็นกามเทพจับคู่ทั้งสองพระองค์หรือ? ท่านเบื่อที่จะเล่นบทบิดาแล้วหรือไง” ลาปิสถามกลับยิ้มๆ



    ท่านยาฟหรือกษัตริย์ยาฟาหันมามองมหาดเล็กคู่ใจด้วยสายตาเคืองๆ



    “ลาปิส เจ้าไม่เห็นรึว่า ลูกหญิงของข้าเติบโตเป็นสาวงามที่เพียบพร้อม ปีนี้นางอายุสิบเก้าแล้วนะ สมัยก่อนที่ข้าแต่งงานกับยูเรียน่าตอนนั้นนางเพิ่งจะสิบแปดเท่านั้นเอง เวลามันช่างผ่านไปเร็วเหมือนติดปีกยิ่งนัก”



    “ท่านตรัสเหมือนตอนนี้ท่านชรามากแล้วอย่างไรอย่างนั้นเลย อย่าคิดเช่นนั้น ท่านจะทำให้ลาปิสผู้งามสง่าชราไปด้วยแล้ว”



    กษัตริย์ยาฟากล่าวยิ้มๆ “ข้าก็ยังไม่คิดว่าข้าชรามากหรอก ท่านลาปิสผู้งามสง่า แต่ความสุขของพ่อก็คือการได้เห็นลูกมีอนาคตที่ดี ลาปิส เจ้าก็รู้ดีนี่ เจ้าคิดอย่างไรล่ะ ตอนที่เรเชลบุตรสาวเจ้าแต่งงานไปกับลูกชายของข้าหลวงเซอร์เบียนั่นน่ะ ข้าเห็นเจ้าร้องไห้ด้วยนะ หรือเจ้าลืมไปแล้ว ตอนนั้นเจ้าบอกว่าเจ้ามีความสุขที่สุดในชีวิต หรือตอนนี้เจ้าจะบอกข้าว่าที่มีความสุขนั่นเพราะ เจ้าไม่อยากเล่นบทพ่อกับนางแล้วอย่างนั้นรึ?”



    ลาปิสหันมาค้อนเพื่อนผู้สูงศักดิ์ที่จะอุตส่าห์จำเหตุการณ์ที่ผ่านไปนานแล้วได้



    “ข้ากับเจ้าก็เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ ไม่มีเมีย และไม่คิดมี เอ๋! หรือเจ้าคิดแต่ผู้หญิงไม่คิดกับเจ้าด้วย” กษัตริย์ยาฟาได้ทีจึงยั่วลาปิสต่ออีก



    “พอเลยท่านยาฟ ท่านต้องการปรึกษาข้าเรื่องเจ้าหญิงเยริน่าและเจ้าชายเจอิลใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นเข้าเรื่องได้แล้ว”



    เรียกเสียงหัวเราะดังลั่นให้กับกษัตริย์ยาฟาทันทีที่เพื่อนสนิท เปลี่ยนเรื่องทันทีแบบกำปั้นทุบดิน



    “ถ้าเจ้าเป็นผู้หญิงนะ ลาปิส ข้าคงแต่งงานกับเจ้าไปแล้ว” แต่เมื่อเห็นสายตาเอาจริงเอาจังจากดวงตาสีเทาคู่นั้น กษัตริย์ยาฟาก็เลิกล้อเลียนทันที



    “ข้าขอโทษนะ ลาปิส”



    “ท่านไม่ควรขอโทษข้า ข้าเป็นเพียงผู้น้อยเท่านั้น”



    “ลาปิส ไม่เอาน่า เราอายุมากกันแล้วอย่างอนข้าเหมือนเป็นเด็กเลย” สุ้มเสียงตักเตือนจากกษัตริย์ผู้สูงส่งสู่มหาดเล็กคนสนิท



    “ท่านต้องการความเห็นของข้า ระหว่างเจ้าหญิงเยริน่ากับเจ้าชายเจอิล ข้าว่าท่านไม่ควรถามข้านะ ท่านควรไปถามทั้งสองพระองค์มากกว่า”



    “ข้าขอความเห็นเจ้า ในสายตาของผู้ใหญ่ต่างหาก ตัวข้าเองเห็นว่าลูกหญิงข้าเพียบพร้อม ข้าคงไม่ได้คิดเข้าข้างตนเองจนเกินไปนะ ส่วนเจอิล ข้าก็เห็นเขาแต่เด็ก ชาติตระกูลดี และที่สำคัญข้าชอบความรู้สึกที่แสดงออกทางสายตาของเขา ภายภาคหน้าเขาจะได้เป็นกษัตริย์ผู้เกรียงไกรคนหนึ่ง”



    ลาปิสพยักหน้าเห็นด้วยกับคำกล่าวทั้งหมด



    “เจ้าชายเจอิลเป็นผู้เพียบพร้อม และเจ้าหญิงแน่นอน ข้าก็ต้องเข้าข้างเจ้าหญิงของข้าอยู่แล้ว ทั้งสองคนไม่เคยพบกันมาก่อน แต่มีเรื่องหนึ่งที่เหมือนกันแน่นอน คือความดื้อรั้นและความหยิ่งในเลือดขัตติยะ ท่านแน่ใจหรือว่าสองคนนี้จะไปกันรอด”



    “เจ้าจะว่าทั้งสองไม่เคยพบกันมาก่อนได้อย่างไร เจ้าจำไม่ได้รึ ยูจีนใช้ให้ใครไปรับเจอิล” กษัตริย์ยาฟาหวนคิดไปถีงวันแรกที่เจ้าชายเจอิลมาถึงโทเรอาและเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง



    “แล้วยังสาวน้อยปริศนาที่เจอิลพบในป่าอีกล่ะ เจอิลดูท่าจะหลงเสน่ห์นางแต่แรกเห็นเลยทีเดียว”



    “เจ้าชายเจอิลยังไม่เคยบอกท่านนะว่าหลงเสน่ห์หญิงสาวนางนั้น เจ้าชายเพียงแค่สอบถามถึงเท่านั้น” ลาปิสแย้งเสียงเรียบ



    “คนอย่างเจอิล ถ้าไม่สนใจคงไม่ถามถึงหรอก เท่าที่มาร์คัสเคยบอกข้าว่าจะหาคู่อภิเษกให้เจอิล เพราะเจ้าตัวไม่ยอมสนใจผู้หญิงคนไหนสักที”



    กษัตริย์ยาฟานึกไปถึงตอนที่กษัตริย์มาร์คัสแห่งแองการ์ พระบิดาของเจ้าชายเจอิลเคยปรารภกับตนเมื่อครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกันว่าจะหาคู่อภิเษกให้ลูกชายตนเอง เนื่องจากเจ้าชายเองไม่มีที่ท่าว่าจะสนใจหรือชอบลูกสาวขุนนางหรือแม่ทัพนายทหารที่ไหน รวมถึงเจ้าหญิงจากเมืองอื่นด้วย ทำให้พระองค์เองก็ฉุกคิดถึงเจ้าชายยูจีน บุตรชายของพระองค์เช่นกัน แต่พระองค์ได้ทรงมองเจ้าหญิงมีเรียมแห่งเซนกัสให้พระโอรสแล้ว ซึ่งท่าทางพระโอรสของพระองค์ก็ไม่ขัดข้องด้วย



    “แล้วที่เจ้าชายเจอิลมาทำตัวรุ่มร่ามกับเจ้าหญิงในคราบของท่านเยีย ท่านจะว่าอย่างไร?” ลาปิสย้อนถาม เพราะได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดมาจากข่าวลือที่แพร่เร็วยิ่งกว่าสายลมในปราสาทระหว่างเจ้าชายเจอิลรัชทายาทแห่งแองการ์ กับราชองครักษ์หน้ามนเมื่อวานนี้หน้าห้องทรงพระอักษรของเจ้าชายยูจีน และแน่นอนกษัตริย์ยาฟาก็ทราบเรื่องนี้ด้วยแต่จะเจ้าหญิงเอง



    “เจอิลคงเห็นเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในตัวลูกสาวของข้าน่ะสิ ก็เพราะเป็นลูกสาวของข้ากับยูเรียน่า เหมือนเมื่อครั้งแรกที่ข้าพบยูเรียน่าในสวนของปราสาทที่เซรอน ข้าก็เป็นทาสของนางเสียแล้ว”



    จนใจที่ลาปิสจะถามต่อเพราะตอนนี้กษัตริย์ยาฟาคงตัดสินพระทัยแล้วว่าต้องการจับคู่ให้คนทั้งสอง ‘ก็ตอนนั้นท่านกับท่านยูเรียน่าพบกันแบบหญิงกับชาย แต่ตอนนี้เขาทั้งสองพบกับแบบชายกับชาย’ ได้แต่คิดในใจ แล้วโคลงศีรษะเบาๆ กับความดื้อรั้น



    “พ่อลูก นิสัยเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ดื้อรั้นกันทั้งสองคน ไม่ใช่สิ สามคน รวมเจ้าชายยูจีนด้วย เฮ้อ!” ลาปิสได้แต่ถอนหายใจ



    “ลาปิส เจ้าเอาเครื่องเขียนกับกระดาษมา ข้าจะเขียนจดหมาย” กษัตริย์ยาฟาร้องสั่งลาปิสทันที เมื่อตนหลุดจากภวังค์ความหลังและความสุขระหว่างตนและราชินีแล้ว



    “เอามาทำอะไรพะย่ะค่ะ”



    “ข้าจะเขียนสาส์นถึงมาร์คัส เรื่องของลูกของพวกเรา”

    ……………………………………..



    “เจ้าหญิง....ไหนทรงบอกว่าจะทรงอยู่ในปราสาทสักพักไงล่ะเพคะ แล้วนี่จะไปไหนเพคะ” ชีล่าร้องถามเมื่อเห็นเยริน่าแต่งกายเป็นชายแล้วสวมวิกผมสีดำด้วย



    “ข้าจะเข้าไปในเมืองหน่อย แล้วจะเลยไปตลาดด้วย น้าชีล่าต้องการอะไรมั้ย?”



    “ท่านจะไปตลาดซื้ออะไรคะ ให้นางกำนัลไปซื้อให้ดีกว่า จะได้ไม่เป็นที่สังเกตุด้วย” ชีล่าแย้งและไม่ต้องการให้เยริน่าภาคเด็กผู้ชายออกมาอีก



    “ไม่เอา ข้าอยากไปสูดอากาศภายนอกบ้าง อยู่แต่ในปราสาทอึดอัดจะแย่ คนออกเยอะ ไม่มีใครสนใจข้าหรอกน่า” เยริน่าปฏิเสธทันที เพราะตลอดเกือบปีที่ผ่านมาต้องออกไปรับใช้เจ้าชายยูจีนทุกวัน แล้วตอนนี้มาเก็บตัวอยู่เฉยๆ ก็รู้สึกอึดอัด จะเข้าป่าฝึกฝีมือเองก็กลัวเจ้าชายเจอิลจะมาพบอีก เลยขอไปสูดอากาศในตลาดดีกว่า คนเยอะๆ คงไม่มีใครทันสังเกตุว่าหนุ่มในชุดชาวบ้านธรรมดาๆ คนนี้เป็นถึงราของครักษ์ส่วนพระองค์อันดับหนึ่งนามว่าเยีย แล้วรีบผละไปทันที



    “ไม่เป็นที่สังเกตุได้อย่างไร ไม่มีชายหนุ่มที่ไหน หน้าตาสวยอย่างท่านหรอก” ชีล่าบ่นเบาๆ ตามหลังเจ้าตัวไป



    ตลาดนัดชานเมืองของโทเรอาพลุกพล่านไปด้วยผู้คนสีสันลอดลายหลากหลายนับไม่ถ้วนของสินค้าและผ้าที่ขึงเป็นร่มเงาแต่งเติมให้บรรยากาศดูคึกคักตลอดเวลา ในหมู่คนที่เดินสวนกันไปมานั้น เยริน่าเดินทอดน่องเอื่อยๆ อย่างคนที่ไม่มีเรื่องรีบเร่งอะไรในโลก สายตาสำรวจดูสินค้า ขณะที่ปากสีแดงเล็กๆกำลังกัดผลไม้ลูกย่อมในมือที่เพิ่งซื้อมา  เสียงพ่อค้าแม่ค้าส่งเสียงเรียกลูกค้าที่เดินผ่านไปมาให้มาชมสินค้าของตนดังไปทั่วทุกสถานที่ แล้วในที่สุดดวงตาสีฟ้าสุกใสก็เปล่งประกายขึ้นเมื่อได้พบของสิ่งหนึ่ง



    “แม่ค้า ผ้าผืนนี้ขายอย่างไร” เยริน่าจับผ้าไหมสีเขียวอ่อนขึ้นมา



    “พับละสามสิบเซนนี เท่านั้น ไม่แพงนะท่าน ท่านตาถึงมากทีเดียว ผ้าไหมพับนี้ข้าได้มาจากต่างเมืองมีแค่พับเดียวในโทเรอาเท่านั้น ถ้าท่านคิดจะซื้อให้ภรรยาต้องคุ้มแน่นอน ภรรยาท่านต้องดีใจมาก”



    “เออ... ข้ายังไม่มีภรรยาหรอก” เยริน่ากล่าวตอบหน้าแดง พลางพิจารณาเนื้อผ้าไปพร้อมกัน



    แม่ค้าสาวเห็นชายหนุ่มมาซื้อผ้าสีหวาน คนซื้อก็หน้าหวาน ถ้าไม่ใช่ภรรยาคงเป็นคู่รัก ช่างน่าอิจฉาเสียจริง มีคู่รักเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาดีขนาดนี้และฐานะก็คงดีด้วย เพราะผ้าพับที่เลือกอยู่มีเนื้อผ้าที่ดีมาก แต่เธอต้องทำใจแข็งห้ามลดราคาเด็ดขาด ผ้าพับนี้ได้มาจากต่างเมืองต้องเดินทางหลายวันทีเดียว



    “ลดให้ข้าได้อีกหรือไม่ ข้าต้องการซื้อไปให้คนที่ข้ารัก” เยริน่าต้องการผ้าชิ้นนี้ไปให้ชีล่า ผ้าพับนี้ต้องเข้ากับดวงตาสีเขียวของชีล่าแน่นอน



    “ผ้าพับนี้ ข้าซื้อแล้ว” เสียงเรียบแต่ทรงอำนาจไม่บอกอารมณ์ใดๆ ของผู้พูดแทรกขึ้นมาระหว่างการสนทนาระหว่างเยริน่าและแม่ค้าผ้าสาว ถุงเงินจำนวนสามสิบเซนนี ถูกโยนลงมาที่แผงขายผ้าของแม่ค้าทันทีที่พูดจบ



    เยริน่าหันไปมองต้นเสียง ผ้าไหมเนื้อนุ่มในมือถูกดึงไปโดยมือใหญ่ทันที



    “เจ้าปีศาจตาดุ” เยริน่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธทันทีที่เห็นเจ้าของมือใหญ่เป็นใคร



    “ท่านพูดว่าอย่างไรนะ ท่านเยีย” เจอิลเห็นเยริน่ามาตั้งแต่นางซื้อผลไม้แล้ว ความรู้สึกเมื่อเห็นพบเยริน่าอีกครั้งรู้สึกเหมือนพบสิ่งที่สำคัญมาก แม้ไม่ได้เจอเพียงแค่หนึ่งวันก็รู้สึกเหมือนบางสิ่งที่สำคัญมากได้หายไป จึงค่อยๆ เดินตามมา เพราะอยากรู้ว่าเยริน่ากำลังจะไปไหน และทำอะไร ดังที่เจ้าชายยูจีนใช้ให้ไปทำธุระอะไรหรือไม่ ความตั้งใจเดิมคือสะกดรอยตามไปเรื่อยๆ แต่มาฟิวส์ขาดตอนที่ได้ยินว่าจะซื้อผ้าสีเขียวนี่ไปให้คนรัก ความรู้สึกแปลกๆ ก็เกิดขึ้นในหัวใจทันที



    “ผ้าพับนั้นข้ากำลังจะซื้อ ท่านกำลังแย่งของของข้า” เยริน่าถามเสียงเขียว



    “ท่านกำลังจะซื้อ หมายความว่ายังไม่ซื้อ มันจะเป็นของท่านไปได้อย่างไร แล้วข้าซื้อแล้ว มันต้องเป็นของข้าสิ” เจอิลจงใจยั่ว



    แม่ค้าสาวจ้องมองการสนทนาของบุรุษหน้าตาดีทั้งสอง คนหนึ่งตัวเล็กกว่าลูกค้าคนแรก ผมสีดำ ตาสีฟ้า ส่วนคนที่สองตัวใหญ่กว่า ผมสีดำ ตาสีน้ำตาลเข้ม ท่าทางจะคนตัวเล็กจะไม่ชอบอีกคนหนึ่งดวงตาสีฟ้าจ้องอีกฝ่ายอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ในขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของคนที่โตกว่าเปล่งประกายและมีรอยยิ้มพรายที่ริมฝีปากเมื่อได้ปะทะคารมกับอีกคน



    “งั้นข้าขอซื้อต่อจากท่าน ท่านจะขายเท่าไร” เยริน่าไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยจึงเสนอขอซื้อ



    “ข้าไม่ขาย ข้าจะเก็บไว้เอง” เจอิลลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้



    “เออ... ท่านคะ ข้าพอมีเหลืออีกพับ คุณภาพใกล้เคียง แต่เป็นสีฟ้า ไม่ทราบว่าท่านสนใจหรือไม่” แม่ค้าสาวรู้สึกสงสารเยริน่าที่ถูกแย่งผ้าที่ถูกตาต้องใจไปต่อหน้าต่อตา จึงเสนออีกพับให้



    “ไม่!!!”



    “สน!!!”



    สองคำตอบจากต่างคนแต่เป็นเวลาเดียวกันดังขึ้นมาทันที แม่ค้าสาวไม่รู้จะทำอย่างไร แต่สัญชาตญาณต้องมาก่อน นางนำผ้าสีฟ้าขึ้นมาให้ทั้งสองดูทันที



    เยริน่านั้นเห็นผ้าสีฟ้าก็นึกชมในใจว่าสวย แต่ผ้าพับนี้ไม่เหมาะกับชีล่า และเธอนั้นไม่ต้องการผ้าให้ตนเองในเวลานี้ด้วย จึงไม่สนใจ



    “ข้าซื้อ เท่าไร? แม่หญิง” เจอิลถามแล้วส่งเงินให้แม่ค้าสาวทันที



    เจอิลโยนผ้าสีฟ้าพับนั้นให้ เยริน่ารับไว้ด้วยความตกใจ



    “ข้าให้ มันเข้ากับสีดวงตาของเจ้า รับไปสิ” รอยยิ้มสดใสของเจอิลทำให้เยริน่ารู้สึกร้อนวูบในอก หายใจติดขัดไปชั่วขณะ



    “ช้าไม่ใช่ผู้หญิงจะได้มาใส่ผ้าสีฟ้าแบบนี้ ถ้าท่านจะให้ข้าขอเป็นสีเขียวพับนั้นดีกว่า” เยริน่าหลบสายตาสีน้ำตาลเข้มที่จ้องมองมา



    “สีเขียวนี่ไม่เหมาะกับเจ้าหรอก สีฟ้านั่นแหละเหมาะแล้ว” เจอิลยังคงยืนยัน สายตาที่จ้องมองมามีแววตาเว้าวอน



    “งั้นข้าก็ต้องขอขอบคุณท่านมาก ข้าไปล่ะ” เยริน่าไม่ปรารถนาจะอยู่ใกล้เจอิลอีกแล้ว จึงรีบเดินไปอีกทาง



    “ท่านจะไปไหนน่ะ ข้าไปด้วยคนสิ” แต่เจอิลไม่ยอม รีบเดินตามทันที ทิ้งให้แม่ค้าสาวสงสัยในการกระทำของผู้ชายตัวโตต่อผู้ชายตัวเล็ก



    “สงสัยพ่อคนตาดุจะวิปริต โธ่! สงสารพ่อหนุ่มน้อย”



    เยริน่าลอบมองมาด้านหลังตนเองก็พบว่าเจอิลเดินตามตนมาติดๆ จึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น อาศัยคนที่พลุกพล่านในตลาดเป็นเกราะกำบังตนเอง แต่เจอิลไม่ใช่เจ้าชายรัชทายาทธรรมดา เป็นเจ้าชายนักรบด้วย การกระทำแบบนี้จึงเหมือนการเล่นไล่จับมากกว่า



    “เจ้าจะไปไหน ทำไมไม่เลี้ยงอะไรตอบแทนข้าหน่อยหรือ ที่ซื้อผ้าให้ท่านน่ะ”



    “ขอโทษด้วยข้ามีธุระ และข้าก็ขอบคุณท่านไปแล้ว คงไม่จำเป็นต้องเลี้ยงอะไรท่านหรอก” เยริน่าตอบโดยไม่หันมามองหน้าเจ้าชาย ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินอย่างรวดเร็ว



    “ปึ๊ก”



    “โอ้ย!”



    แรงปะทะกับวัตถุเบื้องหน้าทำให้เยริน่าล้มไปทางด้านหลัง แต่เจอิลที่ตามมาพอดีรับเอาไว้ได้ทัน ทำให้เยริน่าอยู่ในอ้อมกอดของเจอิลทันที



    “เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนหรือไม่ ทำไมเจ้าชอบชนคนนักนะ” น้ำเสียงแสดงความห่วงใยของเจอิลดังขึ้นที่ข้างหูเยริน่า



    เลือดสาวสูบฉีดขึ้นที่พวงแก้มทั้งสองของหญิงสาวทันที ความรู้สึกร้อนวูบเกิดขี้นที่ร่างกายทางด้านหลังที่ได้สัมผัสกับเจอิล เยริน่าพยายามผละตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม “ข้าไม่เป็นไร ขอบคุณท่านมาก ปล่อย... ปล่อยข้าได้แล้ว”



    “อ้าว! ท่านเยีย ท่านมาทำอะไรที่นี่ขอรับ ท่านเปอร์โต้บอกว่าท่านลาออกแล้วนี่ขอรับ” ชัค องครักษ์หลวงที่สถาปนาตนเป็นลูกน้องเบอร์หนึ่งของเยริน่านั่นเองที่เป็นวัตถุที่ทำให้เยริน่าต้องมาอยู่ในอ้อมกอดของเจอิลในตอนนี้



    “แล้วข้างหลังนั่น เอ๊ะ! ถวายบังคมเจ้าชายพะย่ะค่ะ” ชัครีบทำความเคารพเจ้าชายเจอิลทันที พร้อมส่งสายตาสงสัยไปที่บุคคลเบื้องหน้าทั้งสอง



    คำทักของชัคที่ว่าเยริน่าลาออกแล้วทำให้เจ้าชายเจอิลสวนคำถามมายังเยริน่าทันทีโดยไม่สนใจชัคที่กำลังทำความเคารพตนอยู่ “หมายความว่าอย่างไร ที่ว่าเจ้าลาออกแล้ว” โดยที่คนถูกถามยังคงอยู่ในอ้อมกอดคนถาม



    คนที่กำลังเดินอยู่ในตลาดเริ่มมุงกันมากขึ้น ทำให้เยริน่าพยายามสลัดตัวให้หลุดออกจากอ้อมแขนแข็งแรงของเจอิล แต่ยังคงไม่เป็นผล และเยริน่าก็ไม่ตอบคำถามของเจอิลด้วย เจอิลเพิ่มแรงจับที่ต้นแขนเยริน่ามากขึ้น “เจ้าลาออกจริงๆ รึ เหตุใดจึงลาออก”



    “เออ... เจ้าชายเจอิลพะย่ะค่ะ ปล่อยท่านเยียก่อนเถิดพะย่ะค่ะ คนมองกันทั้งเมืองแล้ว แล้วผู้ชายกอดผู้ชายอยู่ก็ไม่เหมาะสมเท่าใดนักหรอกพะย่ะค่ะ” ชัคขัดขึ้น เป็นผลให้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหันมาจ้องแบบดุๆ ชัคหลบสายตารู้สึกขนลุกชันขึ้นมาทันที



    “กรุณาปล่อยเถิดพะย่ะค่ะ เจ้าชายเจอิล และช่วยกรุณารักษามารยาทด้วย ตอนนี้กระหม่อมสามารถยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว” เยริน่ารีบปรับอารมณ์ตนเองแล้วพูดกับเจอิลโดยที่ตายังคงจ้องมองไปที่ชัคด้วยความรู้สึกขอบคุณ และตำหนิในเวลาเดียวกันที่บอกเหตุผลตรงๆ แบบนั้น



    เจอิลปล่อยแขนเยริน่าด้วยความเสียดาย พลางมองเยริน่าที่ก้มลงไปเก็บผ้าที่ตกอยู่ทั้งสองพับที่ตกอยู่เมื่อตอนที่ทั้งสองล้อม เจอิลรับผ้าสีเขียวที่เยริน่าส่งคืนให้โดยไม่ละสายตาไปจากใบหน้าหวานเกินชายของเยริน่า



    “ทำไมเจ้าถึงลาออก เจ้ายังไม่ตอบข้าเลย” เสียงทรงอำนาจเริ่มเปลี่ยนเป็นเว้าวอนมากขึ้น



    แต่เยริน่าก็ยังคงไม่ตอบและไม่มองเจอิล แต่กลับเดินไปหาชัคแทน พร้อมกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง



    ชัคพยักหน้าแล้วหันไปไล่ประชาชนที่มามุงดูเหตุการณ์ “เอ้า!!! ท่านทั้งหลายแถวนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว ขอเชิญท่านทั้งหลายไปจับจ่ายใช้สอยกันตามสะดวก ใครมีอะไรไปทำก็ไปทำซะ ไม่ต้องมาออกันอยู่ที่นี่แล้ว สลายตัว สลายตัวได้แล้ว” แล้วหันมาพูดกับเจอิลแบบเป็นทางการ “เจ้าชายเจอิล เชิญเสด็จกลับปราสาทเถิดพะย่ะค่ะ ทรงเสด็จออกมาเพียงลำพังโดยไม่มีองครักษ์คอยอารักขา ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ทางโทเรอาจะลำบากได้พะย่ะค่ะ”



    เยริน่ายังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ มือทั้งสองประคองผ้าพับที่เจอิลซื้อให้ คอยดูชัคไล่ต้อนให้เจอิลกลับปราสาทไป เพื่อกันไม่ให้มาตอแยกับเธอไปมากกว่านี้



    “อย่ามายุ่งกับข้า อย่างข้าไม่ต้องมีองครักษ์ก็ได้ เจ้าจะไปไหนก็ไปเถอะ ข้าอยากคุยกับเยียอีกหน่อย” เจอิลไม่ยอมซ้ำยังตวาดใส่ชัคเสียอีก จนเจ้าตัวนิ่วหน้าด้วยกลัวทั้งสายตาที่ดุเกินมนุษย์ และเสียงที่ทรงอำนาจ แต่ก็จะยอมแพ้ไม่ได้ชัคจึงพยายามขอร้องต่อ



    เยริน่าฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ชัคเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าว่าชัคคงต้องพยายามตื้อเจ้าปีศาจตาดุนี้อีกนาน เนื่องจากเธอสั่งไว้ให้พากลับไปให้ได้ ถ้าไม่อยากถูกเจ้าชายยูจีนลงโทษ ฐานปล่อยแขกเมืองคนสำคัญออกมาเพ่นพ่านในตลาดโดยไม่มีองครักษ์คุ้มกัน ส่วนตัวเธอเองค่อยๆ ถอยหลังออกไปอาศัยคนที่กำลังมุงดูเหตุการณ์ต่อไปเป็นเกราะกำบัง



    “เจ้านี่ ยุ่งวุ่นวายชะมัด!!! ไปให้พ้นๆ หน้าข้าก่อนที่ข้าจะโมโหไปมากกว่านี้!!!” เจอิลสะบัดมือออกจากการจับกุมของชัค



    “เจ้าชาย เสด็จกลับเถิดพะย่ะค่ะ” ชัคทั้งตื้อ ทั้งอ้อนวอน “ถ้าเจ้าชายยูจีนทรงทราบ พวกกระหม่อมมีกี่หัวก็ไม่พอให้ตัดหรอกพะย่ะค่ะ”



    “โธ่เว้ย! ไปให้พ้นเดี๋ยวนี้!!!” เจอิลทนไม่ไหว ผลักชัคออกไปให้พ้นทาง แล้วมองมาตรงที่เยริน่ายืนอยู่เมื่อกี้ กลับพบแต่ความว่างเปล่า ความรู้สึกใจหายผสมความโกรธประทุขึ้นมาทันที จึงหันไปกระชากคอชัคขึ้นมา กัดฟันเพื่อระงับความโกรธที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะพยายามควบคุมอยู่ แต่ไม่ได้ผล “เยียไปไหน?”



    ชัคห่อตัวด้วยสัญชาตญาณว่าตอนนี้ถ้าตอบอะไรผิดไปคงไม่รอดแน่ ไอความโกรธของเจ้าชายแผ่ออกมาทุกขุมขนของร่างกาย โดยเฉพาะดวงตาที่น้ำตาลเข้มที่ตอนนี้กลายเป็นสีทองแดงไปแล้ว “กระหม่อม... กระหม่อมไม่.... ไม่ทราบ...พะ...พะย่ะค่ะ”



    เจอิลโกรธจนตัวสั่น จ้องคนที่อยู่ในมือ ถ้าสายตาสามารถสังหารคนได้ ตอนนี้ชัคก็คงถูกเปลวไปสีทองแดงเผาผลาญจนเหลือแต่เถ้าถ่านไปแล้ว “เขาอยู่ที่ไหน เจ้าว่าเขาลาออกแล้วใช่ไหม อย่ามาปิดบังข้าถ้าเจ้าฉลาดพอ!!!”



    “กระ....กระหม่อม...ไม่ทราบ...ว่าท่านเยียอาศัย..อยู่ที่ไหน พะ..พะย่ะค่ะ กระหม่อมทราบ...ทราบเพียงว่าท่านเยียลา..ลาออกแล้ว เพื่อ...”



    “เพื่ออะไร!!!” เจอิลตวาดซ้ำ



    “เพื่อไปดูแลคนที่บ้านพะย่ะค่ะ”  ชัคพูดรวดเดียวจบ เจอิลเหวี่ยงชัคลงไปที่พื้น กันไม่ให้ตนเองต้องเปลี่ยนจากจับคอเป็นบีบคอคนที่อยู่ในอุ้งมือเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน



    “บ้านเขาอยู่ที่ไหน!!!” ถามโดยไม่มองหน้าชัคอีก



    ชัคที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่พื้นสูดลมหายใจเข้าแรงขึ้น เพื่อเรียกลมเข้าปอด มือทั้งสองบีบนวดส่วนที่ถูกเจอิลบีบเมื่อสักครู่ด้วยมือเพียงข้างเดียว ตัวเขาเองก็ไม่เชิงว่าเล็กจนคนธรรมดาจะสามารถเหวี่ยงได้อย่างนี้ “กระหม่อม ไม่ทราบพะย่ะค่ะ ไม่เคยมีใครรู้จักบ้านท่านเยีย”



    เจอิลมองชัคเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่กำลังออกจากปากองครักษ์หลวงช่างตื้อจนทำให้เขาคลาดกับเยียไปได้ “อย่ามาล้อข้าเล่น ตอนนี้ข้าไม่มีอารมณ์มาเล่นกับใคร”



    “กระหม่อมไม่กล้าปิดบังหรอกพะย่ะค่ะ แต่ไม่รู้จริงๆ ท่านเยียไม่เคยอนุญาตให้ใครติดตามไปถึงบ้าน และไม่เคยเล่าถึงเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังด้วย นอกจากเจ้าชายยูจีนและกษัตริย์ยาฟาเท่านั้น” ชัคประจักษ์แน่ชัดแล้วว่ากิตติศัพท์เกี่ยวกับเจ้าชายรัชทายาทแห่งแองการ์ที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง ทั้งอารมณ์โกรธที่รุนแรง สายตาที่น่ากลัวชนิดที่เด็กร้องไห้เห็นยังหยุดร้อง และคลื่นอารมณ์ที่รุนแรงถูกซ่อนไว้ด้วยบุคคลิกที่เงียบสงบภายนอกเท่านั้น



    “ใช่! ทำไมข้าไม่ไปถามเสด็จลุงนะ ส่วนท่านยูจีนไม่มีทางให้คำตอบแก่ข้าได้แน่นอน” เจอิลพึมพำกับตนเอง แล้วมุ่งหน้ากลับไปที่ปราสาททันที ทิ้งให้ชัคตกใจรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไปอย่างงงๆ ที่อยู่ดีๆ เจ้าชายรัชทายาทแห่งแองการ์คนนี้ก็กลับปราสาทไปเอง ทั้งๆที่เมื่อกี้อ้อนวอนแทบตายก็ไม่กลับ

    ................................................................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×