ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องวุ่นๆ ของเจ้าหญิง

    ลำดับตอนที่ #6 : ครอบครัว

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 48


    ตอนที่ 6  ครอบครัว                            



    “โอย... โอ๊ย... โอ๊ย!”



    เสียงร้องนั้นแกมประชดอย่างไม่สบอารมณ์เลยสักนิด ยามที่เจอิลเจ้าชายรัชทายาทแห่งแองการ์ โยนตำราการปกครองในมือผลุงลงไปบนพื้นและผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มบนดวงหน้าบูดบึ้งบอกอารมณ์ของเจ้าของได้ดียิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น เมื่อเขายักไหล่ เอ่ยขึ้นลอยๆ



    “พอกันที ข้าไม่สนอะไรอีกแล้ว”



    คำคำเดียวทำให้ลูอิส นายทหารกึ่งเพื่อนสนิท ถอนใจเฮือกแล้วเฮือกเล่าด้วยหน้าซีดเหมือนจะลมจับในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง



    เจ้าชายของข้า.... เจ้าชายรัชทายาทแห่งแองการ์ ราชวงศ์คงใกล้พินาศกันคราวนี้แน่... ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์มีเจ้าชายผู้เพียบพร้อมกับเขาอยู่คนหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นว่า.............



    เมื่อวานไปติดอกติดใจองครักษ์หนุ่มหน้าหวานของเจ้าชายยูจีน ตกเย็นไปเจอหญิงสาวปริศนา วันนี้ตอนเช้าไม่รู้เสด็จไปไหน กลับมาก็เงียบงันอ่านแต่หนังสือ แล้วก็สุดท้ายปาหนังสือเจ้ากรรมเล่มนั้นทิ้งอย่างไม่แยแส แล้วยังพร่ำอะไรออกมาว่าไม่สนอะไรอีก!!! ท่านคงต้องไปโดนเวทมนตร์ประหลาดมาแน่ๆ



    “มองอะไร ลูอิส!!!”



    “เอ้อ... ฝ่าบาท หม่อมฉันขอทูลอะไรหน่อยนะพะย่ะค่ะ”



    เจอิลไม่ตอบอะไร มีแต่สายตาที่แสดงความสงสัย



    “ฝ่าบาทไปโดนเวทมนตร์ที่ไหนมาหรือเปล่า พะย่ะค่ะ”



    “เจ้า! เจ้าว่าอะไรนะ! ข้าน่ะหรือ โดนเวทมนตร์ เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง ลูอิส” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มวาวโรจน์ด้วยความโกรธ



    “ฝาบาท ตั้งแต่ท่านเหยียบย่างเข้าโทเรอา ท่านก็เป็นเหมือนไม่ใช่ตัวตนของท่านเลย” ลูอิสพยายามเตือนสติให้รัชทายาทผู้เคร่งขรึมเอาการเอางานของประชาชนแองการ์กลับมา



    เจอิลไม่ตอบอะไร พลางคิดตาม “วันนี้มีคนพูดว่าข้าแปลกไปสองคน หนึ่งคือเจ้า อีกหนึ่งคือเจ้าชายยูจีน”



    “เจ้าชายยูจีนหรือพะย่ะค่ะ”



    เจอิลพยักหน้า “เมื่อเช้า เขาเตือนข้าเรื่องการกระทำของข้าต่อเยีย”



    ลูอิสแทบจะเป็นลม เป็นทหารมาตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยเลยที่จะมีความรู้สึกแบบนี้



    “ข้ารู้แล้ว ว่าเขาเป็นผู้ชาย แต่... ข้าอยากให้เขามาอยู่ใกล้ๆ ข้ายืนยันกับเจ้าได้นะลูอิสว่าข้าชอบผู้หญิง โดยเฉพาะ....” พลางนึกไปถึงหญิงสาวปริศนาที่ทะเลสาปที่พบเมื่อวานนี้



    “โดยเฉพาะอะไรพะย่ะค่ะ” ลูอิสถามต่อ



    “ช่างเถอะ เอาเป็นว่าข้ายังชอบผู้หญิงอยู่ก็แล้วกัน และข้าก็ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับผู้ชายคนไหนด้วยนอกจาก....เยีย”



    พอฟังจนจบประโยค ลูอิสก็ไม่เห็นว่าจะเปลี่ยนไปตรงไหน สรุปแล้วเจ้าชายก็ยังชอบเจ้าหนุ่มน้อยหน้ามนนั่นอยู่ดี เฮ้อ!

    ................................................................................



    เมื่อเจ้าชายยูจีนเดินเข้าไปในห้องเสวย ก็พบบุคคลที่มารอทานอาหารอยู่แล้ว หนึ่งคือกษัตริย์ยาฟา เสด็จพ่อของเจ้าชายเอง และทางซ้ายมือของพระองค์บุคคลอีกคนหนึ่ง หญิงสาวผมสีน้ำตาลทอง???



    “เสด็จพ่อ ขอประทานอภัย กระหม่อมมาสาย ทำให้ต้องรอต้องขอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”



    “ไม่เป็นไร นั่งเถอะ ยูจีน” กษัตริย์ยาฟาผายมือให้พระโอรสนั่งทางขวามือของพระองค์ หรือตรงข้ามกับเยริน่านั่นเอง



    เยริน่านั่งก้มหน้าอยู่ เจ้าชายยูจีนจึงยังไม่เห็นหน้าชัดๆ ของบุคคลปริศนาที่มาร่วมโต๊ะด้วย จึงมองพระบิดาด้วยแววตาสงสัย



    “ยูจีน พ่อคงไม่ต้องแนะนำให้รู้จักกระมัง เจ้าคงจะรู้จักเค้าดีกว่าพ่อซะอีก”



    เจ้าชายยูจีนยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ตอนนี้แค่งานราชการอย่างเดียวก็เต็มไปหมด พระองค์จะเอาเวลาที่ไหนไปพบปะหญิงสาวที่ไหน ขนาดเจ้าหญิงมีเรียมแห่งเซนกัสที่พระบิดาเคยแย้มให้ฟัง ยังไม่ได้แวบไปเยี่ยมเลย



    จบคำของพระบิดา เยริน่าก็เงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับลุกขึ้นเพื่อถวายความเคารพแก่พี่ชาย



    “???” เจ้าชายยูจีนตอนนี้จับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว หญิงสาวตรงหน้านี่ไม่เคยทรงเห็นมาก่อน แต่คุ้นตาเหลือเกิน รอยยิ้มแบบนั้น วิธีการทำความเคารพแบบนั้น เอ๊ะ! วิธีการทำความเคารพแบบนั้นเป็นขององครักษ์ประจำพระองค์นี่นา???



    “ขอจงทรงพระเจริญเพคะ เจ้าชายยูจีน” เสียงหวานๆ ของเยริน่าดังขึ้นมา



    “เยีย!!!” เจ้าชายยูจีน จำเสียงได้แน่นอน แต่เยียเป็นผู้ชายถึงแม้ว่าจะมีหน้าตาที่หวานเกินชายก็เถอะ แต่บุคคลที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้เป็นหญิง และจัดว่าเป็นหญิงสาวที่สวยมากทีเดียว รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ผมสีน้ำตาลทองล้อมกรอบอยู่บนใบหน้ารูปไข่หวาน ดวงตาสีฟ้ากระจ่างสดใส ปากสีแดงเป็นรูปกระจับ ผิวขาวสดใส พวงแก้มสีชมพูดั่งคนสุขภาพดี หรือว่า เสด็จพ่อจะใช้ให้เยียไปทำภารกิจอะไรโดยให้ปลอมตัวเป็นผู้หญิง!!!



    “เพคะ หม่อมฉันเยียเองเพคะ”



    “ทำไมเจ้าแต่งตัวแบบนี้ เสด็จพ่อพะย่ะค่ะมีภารกิจอะไรให้เยียไปทำหรือพะย่ะค่ะ”



    กษัตริย์ยาฟา ทรงสรวลเสียงกังวานด้วยความพอพระทัย “ภารกิจหลักคือเป็นตัวตนซะที”



    “อะไรพะย่ะค่ะ ที่ว่าเป็นตัวตน”



    “เป็นตัวตนก็คือเป็นตัวตนนะสิเพคะ จะเป็นอะไรไปได้มากกว่านี้หรือเพคะ” เยริน่าหันมาตอบพี่ชายซะเอง แต่กลับได้รับคำตอบเป็นสายตาตำหนิจากทั้งพระบิดา และเจ้าชายยูจีนพร้อมกัน



    “เยริน่า ยูจีนเป็นพี่ชายและเจ้าชายรัชทายาท อย่างไรก็ห้ามต่อล้อต่อเถียง ต้องให้เกียรติเสมอไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง”



    “เพคะ” เยริน่าตอบรับเสียงอ่อย



    “อะ... อะไรนะ พะย่ะค่ะ... เยียเป็นใครนะพะย่ะค่ะ เมื่อสักครู่เสด็จพ่อตรัสเรียกว่าอย่างไรนะพะย่ะค่ะ” เจ้าชายยูจีนตกใจจนลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ที่ทรงประทับอยู่



    “นั่งลง! ยูจีน แล้วสำรวมกิริยาให้สมเป็นองค์รัชทายาทด้วย ลาปิสข้าหิวแล้วอาหารยังไม่เสร็จหรือไง” หันไปสั่งมหาดเล็กคนสนิท “เดี๋ยวเรากินไป คุยกันไปก็ได้ ยูจีน เยริน่า”



    ระหว่างที่นางกำนัล มหาดเล็กทั้งหลายนำอาหารมานั้น ไม่มีเสียงสนทนาจากผู้เป็นบุตรทั้งสองเลย มีแต่เสียงของพระบิดาที่ชวนคุยโน่นคุยนี่กับเจ้าชายเจ้าหญิงทั้งสองพระองค์



    “กินนี่หน่อยสิ อร่อยนะ”



    “เอ้า! ยูจีนตัดเนื้อนั่นให้เยริน่าหน่อยสิ”



    “เยริน่า ส่งขนมปังนั่นให้ยูจีนด้วย ของโปรดของเขา”



    เจ้าชายยูจีนเป็นคนแทรกบทสนทนาเป็นคนแรก “เสด็จพ่อพะย่ะค่ะ หญิงตรงหน้าข้าคือเยีย”



    “ใช่ และก็คือเยริน่า น้องสาวของเจ้าด้วย”



    “แต่น้องหญิงเยริน่าร่างกายอ่อนแอมากนี่พะย่ะค่ะ แต่นี่เยียเป็นองครักษ์ของข้า เขาแข็งแกร่งมาก มีฝีมือทางการต่อสู้ด้วย เสด็จพ่อก็ทรงทราบด้วย”



    เยริน่าเฝ้ามองการสนทนาของทั้งสอง โดยไม่ให้เหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะพระบิดาบอกไว้ก่อนแล้วว่า ท่านจะเป็นผู้อธิบายทั้งหมดเอง



    “ใช่ แต่ตอนนี้ นางหายแล้ว แข็งแรงอย่างที่เจ้าเห็น”



    “แต่นางจะแข็งแรงชั่วข้ามคืนได้อย่างไร ในเมื่อเมื่อวานข้าเพิ่งได้ทราบว่าน้องหญิงเยริน่ามีไข้เพียงเพราะไปนั่งตากลมที่ระเบียงในตอนพลบค่ำ”



    “นางคงได้ยาดีมาน่ะสิ” กษัตริย์ยาฟาตอบยิ้มๆ รอยยิ้มแบบนี้เป็นการยิ้มเยาะให้สถานการณ์ที่สมองของเจ้าชายยูจีนผู้ชาญฉลาดไม่น่าจะประมวลผลได้ช้าขนาดนี้



    “แปลว่า... เยีย! ข้าโดนเจ้าหลอกมาตลอดใช่มั้ย ข้าควรเรียกเจ้าว่าอะไรดีล่ะตอนนี้” เมื่อคิดได้แล้ว เจ้าชายยูจีนก็มาไล่เบี้ยกับเยริน่าทันที



    “ครั้งนี้ทำไมเจ้าคิดไม่ออกไปได้นะ ยูจีน หน้าของนางกับเจ้าแทบจะถอดแบบกันออกมาขนาดนี้” กษัตริย์ยาฟาหัวเราะให้กับอาการตกตะลึงของพระโอรส



    “เสด็จพ่อ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะพะย่ะค่ะ นางไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่มาแกล้งว่าไม่สบาย แล้วยังปลอมตัวมาเป็นองครักษ์ของข้าอีก ถ้าเป็นอันตรายไปจะทำอย่างไร ข้าจะมีหน้าไปพบเสด็จแม่ได้อย่างไร” ยูจีนโกรธจัด ดวงตาสีฟ้าวาวโรจน์ขึ้นมาทันที  ผิวหน้าที่ปรกติเป็นสีขาว ตอนนี้แดงไปด้วยอารมณ์โกรธ



    “เสด็จพ่อ ทราบเรื่องมานานแค่ไหนแล้วพะย่ะค่ะ”



    “จริงๆ แล้ว พ่อก็อายที่จะบอกเจ้านะ ยูจีน เพิ่งเมื่อเช้านี้เอง”



    “หา! นี่เจ้าหลอกกระทั่งเสด็จพ่อด้วยรึเนี่ย เยีย เฮ้ย! เยริน่า โว้ย! ข้าจะเรียกเจ้าว่าอย่างไรดีนะ” ดวงตาสีฟ้าของยูจีนจ้องไปยังดวงตาสีฟ้าอีกคู่หนึ่งของเยริน่า



    “ยูจีน ให้เกียรติน้องหญิงของเจ้าด้วย นางก็มีศักดิ์เป็นเจ้าหญิงรัชทายาทแห่งโทเรอาเช่นกัน ต่อไปนี้เจ้าเรียกนางว่าเยริน่าก็แล้วกัน”



    “ขออภัยพะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ เอ้า! เยริน่าเจ้ามีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบังข้าด้วย”



    เยริน่าหันไปทางพระบิดา กษัตริย์ยาฟาทรงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้พระธิดาพูดได้



    “หม่อมฉันอยากอยู่ใกล้ชิดเสด็จพ่อกับเสด็จพี่ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยมาลองสมัครเป็นองครักษ์เพคะ”



    “มันอันตรายมาก เจ้าคิดได้อย่างไรเนี่ย! เจ้าต้องมาอยู่ท่ามกลางผู้ชายทั้งนั้น และอันตรายรอบด้านตลอดเวลา แล้วที่ผ่านๆ มาข้าใช้ให้เจ้าไปทำงานเสี่ยงๆ ตั้งหลายครั้ง อ้อ! แล้วอีกอย่าง ตอนนี้ เจ้าชายเจอิล!”



    กษัตริย์ยาฟาแน่ใจแล้วว่าพระองค์คงไม่ต้องห้ามเรื่องการเป็นองครักษ์ของเยริน่าอีก ในเมื่อเจ้าชายยูจีนก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มีพระประสงค์ที่จะให้เยริน่าเป็นองครักษ์ให้อีกต่อไป และเจ้าชายยูจีนก็ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าชายที่รักและสงสารน้องสาวเป็นที่สุด นอกจากนั้นยังต้องการให้ทั้งสองได้คุยกันมากกว่านี้จึงตัดสินใจออกจากการสนทนาไปก่อน



    “พ่อว่านะ ตอนนี้ลูกทั้งสองคนคงมีเรื่องต้องคุยกันมาก พ่อขอตัวก่อนล่ะ คุยกันให้สบายนะ เอ้อ.. เยริน่าคืนนี้พักซะที่นี่แล้วกัน ไม่ต้องกลับไปปราสาททิศใต้หรอก ลาปิสคงจัดห้องไว้ให้แล้ว”



    “เพคะ”  



    “พะย่ะค่ะ”



    “เยริน่าตามข้าไปที่ห้องอักษร...ตอนนี้” เยริน่าพยักหน้ารับแล้วเดินตามเจ้าชายยูจีนไป



    “น้องยังมีอะไรปิดบังพี่อีกหรือเปล่า เจ้าชายเจอิลรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของน้องใช่มั้ย เจ้าชายถึงได้ตามตอแยน้องอย่างนี้”



    “ไม่มีอะไรที่ข้าปิดบังเสด็จพี่อีกแล้ว และเจ้าปีศาจตาดุคนนั้นก็ไม่รู้ด้วยว่าข้าเป็นผู้หญิง นอกจากว่าเขาจะได้เห็นข้าในชุดอิสตรีแล้วครั้งหนึ่ง”



    “เมื่อไร!!” เจ้าชายยูจีนคว้าไหล่ทั้งสองของน้องสาวให้หันมาประจันหน้าทันที



    “เบามือหน่อย เสด็จพี่ ข้าเจ็บ” เยริน่านิ่วหน้าด้วยความเจ็บจากแรงบีบของเจ้าชายยูจีนที่ต้นแขน



    ยูจีนปล่อยมือทันที “เอ่อ... พี่ขอโทษ”



    “ในป่าทิศใต้ เมื่อวานนี้” ตอบเบาๆ พลางบีบนวดต้นแขนของตนเอง



    “น้องแน่ใจหรือว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นน้องแน่ๆ”



    “แน่สิ หลังจากที่ข้าซัดมีดใส่เขาแล้ว ข้าก็วิ่งหนีไป”



    “น้องซัดมีดใส่เขา!!! ดีแล้วที่เจ้าชายไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นคงเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ” เจ้าชายยูจีนส่ายหัวให้กับความใจร้อนของน้องสาว



    “ก็ข้าไม่รู้นี่ ว่าเป็นใครมาแอบดูข้าในเขตของข้าก็ต้องระวังตัวไว้ก่อนนะสิ”



    “แล้วอย่างนี้ น้องมีแผนจะทำอะไรต่อไปล่ะ” ยูจีนถามน้องสาวตัวดีที่เพิ่งรู้จักกันมากขึ้นเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง



    “หม่อมฉันจะขอหยุดงานจนกว่าเจ้าชายเจอิลจะกลับบ้านเมืองของเขา และจะกลับมาถวยการรับใช้เสด็จพี่เหมือนเดิมเพคะ”



    เจ้าชายยูจีนหันขวับมาทันที “น้องยังคิดกลับมาเป็นองครักษ์อีกหรือนี่ โธ่เอ๋ย!”



    “ทำไมจะไม่ได้ล่ะเพคะ เสด็จพี่ก็ทรงเห็นฝีมือหม่อมฉันแล้วนี่ หม่อมฉันดูแลตัวเองได้”



    “น้องไม่ต้องพูดอีกแล้ว พี่และเสด็จพ่อไม่มีทางยอมให้น้องมาเป็นองครักษ์อีกแน่นอน แค่เจ้าชายเจอิลคนเดียว น้องยังรับมือเขาไม่ได้เลย”



    เยริน่าหน้าเง้าหน้างอนทันที เป็นความจริงที่ว่าทำอย่างไรเธอก็ไม่สามารถต่อกรกับปีศาจตาดุคนนี้ได้ ตั้งแต่พบกันครั้งแรกในตลาดมันก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ เมื่อถูกเขาจ้องมองด้วยสายตาแบบนั้นก็เหมือนจะถูกมองให้ทะลุ เมื่อเขาเข้ามาใกล้ก็เหมือนมีไฟมาแผดเผา ยิ่งตอนสัมผัสด้วยแล้วเหมือนตัวจะละลาย อ่อนแรงไปทันที



    “และไม่ต้องคิดจะปลอมเป็นใครอีกนะ ถ้าน้องต้องการมาอยู่ใกล้พี่หรือเสด็จพ่อ ตอนนี้ก็ได้ใกล้แล้ว ไม่ต้องหาเรื่องที่จะทำอะไรแผลงๆ อีก” เจ้าชายยูจีนดักคอน้องสาวไว้ก่อน เพราะอยู่ใกล้ชิดกันมาเป็นปี พอรู้นิสัยองครักษ์คนนี้อยู่ ว่าดี้อและรั้นเพียงใด



    “ตอนนี้ น้องก็พำนักที่ปราสาททิศใต้ก่อน แล้วพอเจ้าชายเจอิลกลับไปแล้วค่อยย้ายเข้ามาอยู่ที่ปราสาททิศเหนือ พี่จะให้นางกำนัลเตรียมห้องไว้ให้ ตอนนี้คงไม่สะดวกเพราะเจ้าชายเจอิลมาที่นี่บ่อย”



    “แล้วเมื่อไร เจ้าชายจะกลับไปเพคะ”



    “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน คงอีกสักพักกระมัง”



    ยูจีนกำลังวางแผนแยกเจ้าชายเจอิลให้ห่างไกลน้องสาวสุดที่รักให้มากที่สุด เพราะขนาดอยู่ในคราบผู้ชาย สัญชาตญาณของเจ้าชายเจอิลยังแรงขนาดเห็นเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในตัวของเยริน่าตอนเป็นผู้ชาย แล้วยังที่พบโดยบังเอิญในป่าก็มาตอแยถามอีก แล้วถ้ามาพบเห็นตอนนี้ต้องไม่ยอมเลิกราแน่นอน แล้วใครจะให้คำมั่นได้ว่าเจอิลจะรักและดูแลนางเป็นอย่างดี แล้วอีกอย่างยูจีนเพิ่งจะได้พบกับน้องสาวในลักษณะที่เป็นน้องสาวจริงๆ คงตัดใจยกให้ผู้ชายคนอื่นไม่ได้ง่ายๆ หรอก



    “ไปเถอะ พี่จะไปส่งที่ปราสาททิศใต้ ระยะนี้อย่ามาที่นี่เลย เสด็จพ่อกับพี่จะไปหาเอง”



    “เพคะ แต่เสด็จพ่อให้ท่านลาปิสจัดห้องให้น้องคืนนี้” เยริน่าย้ำให้พี่ชายถึงพระประสงค์ของเสด็จพ่อ



    “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้พี่จะอธิบายกับเสด็จพ่อเอง”



    บุรุษรูปร่างกำยำนายหนึ่งเดินมาตามทางที่มาจากลานต่อสู้จุดประสงค์เพื่อขอพบเจ้าชายรัชทายาท เนื่องจากวันนี้ไม่เห็นหน้าเยียเลยทั้งวัน จึงตั้งใจจะมาสอบถามเพราะเมื่อเช้าเจ้าชายเรียกพบเยีย แต่กลับพบเห็นองค์รัชทายาทของตนเองเดินมากับหญิงสาวนางหนึ่ง มองจากข้างหลังคงเป็นหญิงสาวที่มีความสำคัญมากเพราะเจ้าชายยูจีนทรงประคองให้เดินไปด้วยกัน ผมสีน้ำตาลทองยาวสลายลงมาช่างเข้ากับชุดสีฟ้าที่สวมใส่อยู่ เปอร์โต้รีบสาวเท้าให้ทันองค์รัชทายาทด้วยความอยากรู้ตามประสา ว่าคนสำคัญที่อยู่ในอ้อมแขนของเจ้าชายยูจีนคือใครกัน ลูกสาวขุนนางที่ไหนหรือไม่????



    “เจ้าชายพะย่ะค่ะ ทรงเสด็จไหนหรือพะย่ะค่ะ” เปอร์โต้ส่งเสียงเรียกไว้ก่อน



    เจ้าชายและเจ้าหญิงรัชทายาทชะงักทันที เพราะไม่คิดว่าเวลานี้คงไม่มีใครแล้วนอกจากทหารรักษาการณ์ และคงไม่สนใจถ้าเจ้าชายรัชทายาทของพวกเขาจะเดินอยู่กับใคร ต่างมองหน้ากันและกันพลางคิดอยู่ว่าสมควรบอกเปอร์โต้หรือไม่ แล้วเจ้าชายยูจีนก็ตัดสินใจหันกลับมายังผู้ที่ทักตน



    “อ้าว! ท่านเปอร์โต้ ยามนี้แล้วท่านจะไปไหนหรือ” เจ้าชายยูจีนยืนบังหลังให้เยริน่า ด้วยความสูงและรูปร่างกำยำสมชายชาตรีของเจ้าชายก็สามารถปกป้องเยริน่าได้จากสายตาอยากรู้อยากเห็นของเปอร์โต้ไว้หมด



    “กระหม่อมจะมาถามเจ้าชายเรื่องท่านเยียน่ะพะย่ะค่ะ”



    ทั้งเยริน่าและยูจีนสะดุ้งพร้อมกัน



    “มีอะไรหรือ เยียทำอะไรไว้หรือท่านเปอร์โต้”



    “ไม่มีอะไรหรอกพะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมสงสัยว่าวันนี้ท่านเยียไม่ได้เข้าไปในลานฝึก ไม่ทราบว่าพระองค์ใช้ให้ไปทำภารกิจใดหรือไม่พะย่ะค่ะ ไม่เห็นมาบอกกระหม่อมก่อน เมื่อเช้ากระหม่อมก็พบเขาตอนที่จะเข้าไปเฝ้าพระองค์ที่ห้องทรงพระอักษร” เปอร์โต้พยายามสอดส่ายสายตาดูหญิงสาวที่อยู่เบื้องหลังของเจ้าชายรัชทายาท



    “เอ้อ! เยียลาออกแล้วน่ะ ต้องไปดูแลพ่อและพี่ชายก็เลยขอมาลาออกกับข้าเองเมื่อเช้านี้”



    “หา! ท่านเยียลาออกแล้วหรือนี่ แล้วกระหม่อมจะหาใครที่มีฝีมือมาทดแทนล่ะที่นี้” เปอร์โต้ตกใจกับข่าวกะทันหันที่เพิ่งได้ยิน



    “เห็นไหม เสด็จพี่ ว่าหม่อมฉันมีค่าแค่ไหนในสายตาของหัวหน้าราชองครักษ์ ฝีมือของหม่อมฉันเป็นที่ต้องการนะเพคะ” เยริน่ากระซิบหูพี่ชาย



    “เจ้าไม่ต้องพูดเลย หลบหลังพี่ให้ดีๆ ก็แล้วกัน พี่ไม่เปลี่ยนใจแน่”



    อาการกระซิบกระซาบของทั้งสองยิ่งเพิ่มความสงสัยให้เปอร์โต้เป็นอย่างยิ่ง จึงอดถามไปไม่ได้ว่า



    “เจ้าชาย แม่หญิงที่อยู่หลังเจ้าชายเป็นใครหรือพะย่ะค่ะ ไม่ทราบว่าจะเป็นการเสียมารยาทเกินไปหรือเปล่า ถ้าจะแนะนำให้หม่อมฉันได้รู้จัก”



    “เอ่อ... อ๋อ... ได้สิ ไม่เป็นไรหรอก”



    “เฮ้ย! เสด็จพี่ เดี๋ยวความก็แตกหรอก” เยริน่ายังคงกระซิบอยู่เบื้องหลัง



    “ไม่เป็นไรหรอก สักวันหนึ่งเขาก็ต้องรู้อยู่ดี รู้ตอนนี้เลยก็ดีจะได้มีคนคอยปกป้องเจ้าอีกคน”



    “แต่หม่อมฉันไม่ต้องการให้ใครมาปกป้องนะ หม่อมฉันดูแลตัวเองได้เพคะ”



    “เจ้าอย่ารั้นกับพี่ไปหน่อยเลย เป็นหน้าที่ขององครักษ์หลวงอยู่แล้วที่ต้องคอยดูแลปกป้องเชื้อพระวงศ์ทุกคนโดยเฉพาะกษัตริย์และองค์รัชทายาท



    เปอร์โต้เห็นยังไม่มีการแนะนำกัน ก็เลยเรียกเจ้าชายยูจีนอีกครั้ง “เจ้าชายพะย่ะค่ะ”



    “เอ้อ... ท่านเปอร์โต้ นี่คือ เจ้าหญิงเยริน่า น้องสาวของเราเอง” พลางหมุนตัวเยริน่าให้มาประจันหน้ากับเปอร์โต้



    เปอร์โต้ตะลึงงันไปชั่วขณะ ที่ได้พบเห็นหญิงที่งามขนาดนี้ ตัวเขาเองก็ได้พบเห็นผู้หญิงมามาก แต่ไม่มีใครเลยที่จะมีความงามเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ ดวงตาสีฟ้ากระจ่างสดใส บนใบหน้ารูปไข่หวาน ล้อมกรอบด้วยผมสีน้ำตาลทองเป็นลอนสลวย อยู่ในชุดสีฟ้าขับผิวขาวให้ดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น โดยเฉพาะปากสีแดงรูปกระจับเล็กๆ นั่นช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน รูปร่างอรชรอ่อนแอ้น ให้ความรู้สึกน่าปกป้องคุ้มครอง



    “ท่านเปอร์โต้ ท่านเปอร์โต้ ท่าน... เป็นอะไรไปน่ะ” เจ้าชายยูจีนเรียกหัวหน้าองครักษ์เมื่อเห็นอาการตะลึงงันของเปอร์โต้ ด้วยเสียงกลั้นหัวเราะ



    “เอ้อ... ไม่มีอะไรพะย่ะค่ะ เพียงแต่...กระหม่อมไม่เคยเห็นเจ้าหญิงเยริน่ามาก่อน ได้ข่าวว่าท่านไม่ค่อยแข็งแรงจึงไม่ค่อยออกมาพบปะราษฎร แต่จริงๆ แล้วทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากจนกระหม่อมตะลึงน่ะพะย่ะค่ะ” เปอร์โต้ก็ยังคงเป็นเปอร์โต้เหมือนเดิม ไม่เคยประหยัดคำพูดกับผู้หญิงไม่ว่าคนใดก็ตาม สายตาที่ทอดมาให้เยริน่าเต็มไปด้วยความชื่นชม แต่คนมองกลับคิดไปในแง่สายตาของความเจ้าชู้เสียมากกว่า



    “ขอบใจมากนะท่านเปอร์โต้ ข้าพำนักอยู่ที่ปราสาททิศใต้ เพียงแต่ไม่ค่อยสบายบ่อยๆ ก็เลยไม่ค่อยได้ออกไปไหน วันนี้รู้สึกค่อยยังชั่วก็เลยมาเยี่ยมเสด็จพ่อกับเสด็จพี่ ยินดีนะที่ได้พบท่าน ข้าคงต้องขอตัวก่อน เพราะเพลียมาก ไปเถอะเพคะ เสด็จพี่” เยริน่าตัดบททันที เพราะเกรงสายตาของเปอร์โต้ ที่มองเธอแบบผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่เจ้านายยั่วเย้าลูกน้องอย่างแต่ก่อน



    “เดี๋ยวพะย่ะค่ะ ให้กระหม่อมถวายการอารักขาส่งเสด็จพระองค์ที่ปราสาททิศใต้ด้วยนะพะย่ะค่ะ” เปอร์โต้ต้องการยืดเวลาอยู่กับเจ้าหญิงผู้งดงามเจ้าของเสียงหวานไพเราะเสนาะหูไปอีกนิด



    เจ้าชายยูจีนเห็นท่าไม่ดีแล้ว เปอร์โต้ต้องคิดไม่ซื่อกับเยริน่าแน่นอน พระองค์ทรงลืมไปว่าถึงแม้ว่าเปอร์โต้จะเป็นองครักษ์ที่ดี แต่เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้ไปหน่อย คงจะยังไม่เจอผู้หญิงที่รักจริง และเจ้าชายก็ไม่คิดว่าเปอร์โต้จะรักเยริน่าจริงด้วย ต้องกันไว้ก่อน



    “เปอร์โต้ ไม่ต้องรบกวนท่านหรอก ข้าไปส่งน้องหญิงเองได้ ปราสาททางทิศใต้ก็ไม่อยากให้มีคนพลุกพล่านด้วย น้องหญิงต้องการความสงบเพื่อพักผ่อน”



    สายตาวาววับของเจ้าชายยูจีนแสดงให้เห็นถึงการหวงน้องจนเปอร์โต้รู้สีกได้ทันที แต่นี่คือเปอร์โต้ ผู้ชายจอมเจ้าชู้แห่งโทเรอา ไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่นอน



    “พะย่ะค่ะ แล้วโอกาสหน้ากระหม่อมขอไปเยี่ยมเจ้าหญิงที่ปราสาททิศใต้บ้างได้หรือไม่พะย่ะค่ะ”



    “คงไม่สะดวกหรอกท่านเปอร์โต้ ข้าไม่ชอบรับแขก และไม่ปรารถนาจะรับแขกด้วย ขอบใจมากที่ท่านคิดมีใจจะไปเยื่ยมเยือนข้า ข้าขอรับด้วยใจก็แล้วกัน” เยริน่ากล่าวตัดบทห้วนแบบมะนาวไม่มีน้ำ



    เจ้าชายยูจีนคิดว่าคงไม่ต้องให้พระองค์ช่วยแล้วกระมัง น้องหญิงของพระองค์ก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เวลามีคนมาก้อร่อก้อติก แต่ทำไม เยริน่าไม่สามารถรับมือกับเจ้าชายเจอิลได้ ทั้งๆ ที่ดูแล้วเปอร์โต้จะยิ่งน่ากลัวกว่าเจ้าชายเสียอีก



    “เสด็จพี่ ไปเถิดเพคะ น้องเพลียมาก อยากจะพักผ่อนแล้วเพคะ” เยริน่าแสร้งทำท่าเหนื่อยอ่อนพลางฉุดกระชากแขนของเจ้าชายยูจีนให้ออกเดิน



    “ได้สิ ไปก่อนนะท่านเปอร์โต้ ท่านก็กลับไปพักผ่อนได้แล้ว แล้วพรุ่งนี้ค่อยพบกัน”  



    แล้วเจ้าชายยูจีนก็ประคองเจ้าหญิงเยริน่าเดินจากไป ทิ้งให้เปอร์โต้มองตามหลังอย่างละห้อย



    “ข้าเคยพบผู้หญิงมามาก แต่ไม่มีใครเหมือนท่านเลยเจ้าหญิงเยริน่า ข้ารู้สึกคุ้นเคยกับท่านมาก่อน คงเป็นเพราะเราเป็นเนื้อคู่กันแต่ชาติปางก่อน ผู้ชายเจ้าชู้อย่างข้าคงต้องมาสยบอยู่แทบเท้าของท่าน นางฟ้าของข้า ต่อไปนี้เพื่อให้ได้ท่านมาอยู่เคียงข้าง อย่างไรข้าก็จะพยายาม!!!” เปอร์โต้ให้ปฏิญาณแก่ตนเอง

    ................................................................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×