ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องวุ่นๆ ของเจ้าหญิง

    ลำดับตอนที่ #1 : ภารกิจ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 48


    ตอนที่ 1 ภารกิจ



    “นอนพักให้มากๆ นะ ลูกรัก แล้วพ่อจะมาหาเจ้าอีก ตอนนี้คงต้องกลับก่อน” เสียงชายรูปร่างหน้าตาภูมิฐาน ผมสีดอกเลาแซมที่เหนือหู กษัตริย์เมืองโทเรอา ก้มลงจูบหน้าผากลูกสาวขี้โรคผู้อ่อนแอเหมือนพระมารดา



    เจ้าหญิงเยริน่า พยักหน้ารับ ยิ้มน้อยๆ ให้พระบิดา

    “ถ้าไม่ว่างก็ไม่ต้องเสด็จมาก็ได้เพคะ หญิงไม่เป็นอะไร หญิงแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมมากเพคะ”



    กษัตริย์ยาฟามองพระธิดาแล้วให้เศร้าพระทัยยิ่งนัก เนื่องจากพระมารดา ราชินียูเรียน่ามีพระวรกายที่อ่อนแอ แต่ยังคงยืนยันที่จะมอบรัชทายาทให้พระองค์ พระนางให้กำเนิด บุตรชายที่แข็งแรงและสง่างาม เจ้าชายยูจีน ผู้เป็นเสมือนแสงสว่างของโทเรอา หลังจากนั้นพระนางก็เจ็บออดๆแอดๆ มาตลอด เมื่อทรงให้กำเนิดเจ้าหญิงเยริน่าแล้วพระนางก็ทรงสิ้นพระชนม์จากไปทิ้งให้พระองค์อยู่เพียงลำพังกับพระโอรสและพระธิดาทั้งสอง แต่โชคร้ายยิ่งนักที่พระธิดาก็มีร่างกายที่อ่อนแอเหมือนพระมารดา พระองค์จึงมีพระประสงค์ให้เจ้าหญิงเยริน่าประทับที่ฝั่งทิศใต้ของพระราชวังเพื่อให้อยู่ในบรรยากาศที่สงบ และไม่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน ส่วนพระองค์และเจ้าชายยูจีนทรงประทับอยู่ที่ฝั่งทิศเหนือ เนื่องจากต้องต้อนรับแขกบ้าน แขกเมือง และมีการปรึกษาราชการกันตลอดเวลา



    ตลอดเวลาที่ผ่านมา พระองค์จะทรงมาเยี่ยมเจ้าหญิงอาทิตย์ละครั้ง เนื่องจากทรงมีพระราชกิจมากมาย และให้ชีล่าเป็นแม่นมและพี่เลี้ยงของเจ้าหญิง ชีล่าเป็นนางกำนัลของราชินียูเรียน่าเมื่อครั้งยังเด็ก เพราะแม่นมของราชินีก็คือแม่แท้ๆ ของชีล่านั่นเอง เมื่อราชินียูเรียน่าทรงอภิเษกสมรสกับกษัตริย์ยาฟา จึงตามมารับใช้



    และบุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งช่วยชีล่าดูแลเจ้าหญิงเยริน่าก็คือ แพทย์ประจำพระองค์ราชินี เชส ซึ่งได้ถวายการรักษามาแต่ครั้งยังเด็กเช่นกัน และตอนนี้ เชสและชีล่าได้แต่งงานกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีบุตรด้วยกันจึงรักและเทิดทูนเจ้าหญิงเยริน่ามาก



    “ปัง!” เสียงปิดประตูห้องเจ้าหญิงดังขึ้นหลังจากกษัตริย์ยาฟาทรงเสด็จกลับไปทรงงานตามเดิม



    “ร้อน!  ร้อนเป็นที่สุด เพราะอย่างนี้ข้าถึงได้เกลียดหน้าร้อนนัก” เสียงใสมีชีวิตชีวาบ่นคล้อยหลังประตูทันที



    “ก็ทรงทำองค์เองนี่เพคะ ไปหลอกเสด็จพ่อ” ชีล่ามองตามด้วยความเอ็นดู ชีล่าเป็นหญิงรูปร่างสูงโปร่ง ผมยาวสีน้ำตาล ดวงตาสีเขียว ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าอายุเข้าวัยกลางคนแล้ว



    “ก็เสด็จพ่อเป็นห่วง ข้าก็ไม่อยากให้ต้องทรงผิดหวัง”  



    “นี่ถ้าเสด็จพ่อทรงทราบว่าท่านไม่ได้เป็นอะไร แถมแข็งแรงเกินเด็กผู้หญิงทั่วไป ท่านจะว่าอย่างไรนะ หน้าตารึก็ถอดแบบพระมารดาออกมาอย่างนั้น แต่แก่นแก้วเหลือเกิน”



    “ก็น้าชีล่าเป็นคนสอนข้าเองนะ ถ้าอ่อนแอ จะมีแต่คนรังแก แล้วถ้าไม่ออกกำลังกาย จะไม่แข็งแรง”



    ชีล่าจ้องหญิงสาวที่เถียงคำไม่ตกฟากแล้วก็ถอนใจ ตาสีฟ้าใสกระจ่าง ผมหยิกเป็นลอนสลวยสีน้ำตาลอ่อนจนเกือบจะเป็นสีทอง ล้อมกรอบใบหน้าที่อ่อนหวาน ผิวขาวอมชมพูบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของหญิงสาวมีผลมาจากการฝึกดาบและศิลปะการต่อสู้ที่เธอและสามี เชส สอนเจ้าหญิงแต่เล็ก ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการให้หญิงสาวได้ออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี



    ทั้งชีล่าและเชสเป็นนักรบที่แข็งแกร่งของเมืองเซรอน เพราะต้องทำหน้าที่คุ้มครองเจ้าหญิงรัชทายาท รวมถึงเจ้าชายบียาร์ ผู้น้องชาย ซึ่งตอนนี้ก็คือกษัตริย์เมืองเซรอน และเมื่อเจ้าหญิงยูเรียน่าต้องมาอยู่ที่โทเรอา ทั้งสองก็ขอติดตามเจ้าหญิงมาด้วย แต่ปกปิดฐานะที่แท้จริงไว้เป็นแค่นางกำนัลและแพทย์ประจำพระองค์เท่านั้น



    “น้าชีล่า ท่านน้าเชสไปไหนแล้วล่ะ ข้าจะไปแล้วนะ ช่วยแต่งตัวเร็ว เดี๋ยวไปรายงานตัวสาย จะโดนทำโทษ”



    “เพคะ ท่านหญิงไม่น่าหาเรื่องเลยนะเพคะ ถ้าบาดเจ็บมาจะทำอย่างไร”



    “ถ้าบาดเจ็บมา น้าเชสก็จะได้มีงานทำไง จะได้ไม่เหงา”



    “เยีย!! ข้ามีอะไรมาฝาก นี่ได้มาจากในเมืองเลยนะสวยถูกใจมั้ย” เสียงของชายหนุ่มผู้มาใหม่ เจ้าของหน้าตาใจดี ผมสีดำ ดวงตาสีดำว่าพลางส่งถุงหนังให้เยริน่า



    “น้าเชส เป็นมีดที่สวยที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาเลยล่ะ ด้ามก็สลักลวดลายที่เรียบแต่ดูมีระดับ เหมาะมือมาก”



    “ใชสิ คมเป็นวาวเชียวล่ะ เบาและก็เหมาะกับท่านมาก จะทดสอบดูมั้ยล่ะ”



    “แน่ล่ะ แต่ขอไปทดสอบที่สนามประลองแล้วกันนะ”



    “ท่านพี่ เอาอะไรมาให้เยียน่ะ อันตรายแทนที่จะช่วยกันห้าม กลับส่งเสริมกันซะนี่”



    “อาวุธป้องกันตัวเล็กๆ น้อยๆ น่า”



    ชีล่าเอาวิกผมสีดำที่ทำจากผมของเชส ซึ่งนางทอเองเป็นพิเศษ ปกปิดผมสีน้ำตาลสวยของเจ้าหญิง แล้วช่วยสวมชุดองรักษ์ของผู้ชาย เมื่อสำรวจความเรียบร้อยแล้ว เจ้าหญิงเยีย หรือเยริน่า ก็เหน็บถุงหนังที่ใส่มีดสั้นไว้ที่เอว แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว



    “ข้าคงกลับดึก ไม่ต้องรอนะ”



    “ระมัดระวังตัวให้มากๆ นะเพคะ” ชีล่ายังคงเป็นห่วงในความปลอดภัยของหญิงสาวเสมอ



    “อย่ากลับให้ดึกนักนะพะยะค่ะ อย่างไรท่านก็เป็นผู้หญิงนะ” เชสเตือน



    ร่างทะมัดทะแมงเดินเข้าไปในลานฝึกฝีมือของเหล่าองครักษ์ประจำราชวงศ์พร้อมส่งสายตาหาที่เหมาะๆ เพื่อหาที่ทดสอบศักยภาพมีดสั้นที่เชสเพิ่งมอบให้



    “ท่านเยีย!! ท่านจะไปไหนน่ะ ท่านยูจีนตามหาท่านอยู่”  



    “ขอบใจมาก ท่านเปอร์โต้ ตอนนี้ท่านยูจีนอยู่ที่ไหนล่ะ” เยริน่าตอบหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ล่ำสัน หัวหน้าราชองครักษ์ บุตรชายท่านเสนาบดีกระทรวงการคลัง ท่านปาร์เซีย



    “ตอนนี้ท่านอยู่ที่ห้องทรงพระอักษร กำลังทรงงานอยู่ เจ้ารีบไปเถอะ ท่าทางมีเรื่องร้อนใจอยู่ เอ๋...หรือว่าเจ้าไปทำให้หญิงสาวที่ไหนต้องเสียใจแล้วเก็บมาฟ้องเจ้าชายรัชทายาทของเราหรือเปล่าพ่อหนุ่มน้อย” ด้วยความที่มีรูปร่างอรชรและหน้าตาที่สลักเสลาราวอิสตรี ถ้าเป็นผู้ชายก็นับว่ามีหน้าตาเป็นทรัพย์ จึงทำให้เพื่อนๆ ล้อเป็นหนุ่มน้อยทรมานใจสาวทั้งในและนอกพระราชฐาน หากแต่มีฝีมือเป็นที่ประจักษ์ว่าไม่เป็นสองรองใครในอาณาจักร



    “ข้าไม่ใช่ท่านนะเปอร์โต้ ถึงได้มีเรื่องแบบนั้นน่ะ แล้วเลิกเรียกข้าว่าหนุ่มน้อยเสียทีเถอะท่าน” พลางยิ้มตอบ แต่ประกายจากดวงตาสีฟ้าคู่นั้นไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย



    “ข้าเป็นที่รักของสาวๆ นะท่าน แล้วสาวๆของข้าทุกคนก็อยู่ในระเบียบวินัยที่ดีทุกคนด้วย แล้วเจ้าก็เป็นหนุ่มน้อยจริงๆ เจ้าอายุน้อยกว่าข้า ตัวก็เล็กกว่าข้าทำไมข้าจะเรียกเจ้าอย่างนั้นไม่ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” เปอร์โต้หัวเราะด้วยความชอบใจ



    เปอร์โต้นับเป็นคนหนุ่มที่มีอนาคตไกลด้วยฝีมือที่เยี่ยมจะเป็นรองก็แค่เยริน่า ยังมีทรัพย์ศฤงคารมากมาย หน้าตาก็คมคายสมเป็นชายชาติทหาร ถ้าไม่รวมนิสัยเจ้าชู้ที่ดูจะไม่มีใครเกลียดลงแล้ว ก็คงจะเป็นชายที่สาวๆทั่วราชอาณาจักรหมายปองเป็นที่สองรองจากเจ้าชายรัชทายาท แต่ถ้ารวมเยริน่าตอนนี้คงจะเป็นที่สาม เยริน่าส่ายหัวอย่างเซ็งแล้วเดินจากไป นางไม่เคยเถียงชนะเปอร์โต้เลย ‘คงต้องเว้นไว้สักคนล่ะน่า’



    เจ้าหญิงเยริน่าได้เข้ามาเป็นราชองครักษ์เนื่องจากทรงชนะการประลองคัดเลือกราชองครักษ์เมื่อปีที่แล้ว และในรอบชิงชนะเลิศยังได้มีโอกาสประลองกับเปอร์โต้ ซึ่งเป็นหัวหน้าราชองครักษ์ และมีฝีมือที่สุดในอาณาจักรและแน่นอนเจ้าหญิงเป็นผู้ได้รับชัยชนะที่ได้มาด้วยไหวพริบและฝีมือ หาใช่ด้วยแรงไม่ จึงเป็นที่ยำเกรงแก่ทหารและราชองครักษ์ทั้งหลาย แต่เธอไม่ยอมรับตำแหน่งหัวหน้าราชองครักษ์โดยอ้างว่าประสบการณ์ยังน้อยอยู่ แต่จริงๆ แล้ว เจ้าหญิงไม่อยากเป็นที่สนใจของคนทั่วไปมากกว่า โดยกลัวว่าความลับที่เป็นผู้หญิงจะถูกเปิดเผย



    ในการประลองครั้งนั้น ทั้งกษัตริย์ยาฟา และเจ้าชายรัชทายาทยูจีน รวมถึงเชื้อพระวงศ์ต่างๆ ก็ทรงเข้าร่วมชมการประลองครั้งนี้ด้วย แน่นอนเจ้าหญิงรัชทายาทเยริน่าไม่ได้มา เนื่องจากมีพระวรกายที่อ่อนแอ แต่นี่เป็นความคิดของกษัตริย์และเชื้อพระวงค์ทั้งหมด เจ้าหญิงเยริน่าต้องการมาชมการประลองจึงปลอมตัวมาเป็นชาย โดยสวมวิกผมทอมือของชีล่าที่ทำจากผมของเชสตัดเมื่อครั้งราชินียูเรียน่า พระมารดาของเจ้าสิ้นพระชนม์เ พื่อเป็นการไว้อาลัยพระมารดาของเจ้าหญิง ราชินียูเรียน่า แต่งกายด้วยชุดเด็กรับใช้ในปราสาท ไม่มีใครจำเธอได้ ทุกคนรู้จักเจ้าหญิงเยริน่าในลักษณะของเด็กผู้หญิงขี้โรค นอนอยู่ในห้องมีผ้าห่มถึงคอตลอดเวลา ผิดขาวซีด ไม่เคยมีใครจินตนาการถึงตอนที่เธอแข็งแรง หรืออยู่ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นในตอนอายุ 19 อย่างเช่นตอนนี้



    หญิงสาวเดินไปตามทางเดินในพระราชวังสู่ห้องทรงพระอักษร เพื่อพบพี่ชายที่จำเธอไม่ได้ หรืออาจจะเป็นเพราะ เจ้าชายรัชทายาทเป็นความหวังของประชาชนทุกคน จึงได้รับการปลูกฝังให้เรียนรู้หลักการบริหารประเทศและวิธีการต่อสู้ รวมถึงศาสตร์สงครามต่างๆ ถึงแม้ว่าจะไม่มีสงครามมาเป็นระยะเวลานานๆ แล้วก็ตาม กอปรกับน้องสาวเพียงคนเดียวที่มีอยู่ก็ไม่สามารถมาเล่นด้วยกันได้ด้วยเหตุผลของร่างกายที่อ่อนแอ พระองค์จึงไม่ค่อยได้พบพระขนิษฐามากนัก ยิ่งตอนนี้เจ้าหญิงอยู่ในคราบของเด็กหนุ่มผู้เฉลียวฉลาด ร่าเริงและแข็งแรงตลอดเวลาแล้วด้วย



    เยริน่าหยุดที่หน้าประตูไม้บานใหญ่สีน้ำตาลเข้มสลักด้วยลวดลายที่วิจิตรบานหนึ่ง “ก๊อก ก๊อก... ท่านยูจีนพะย่ะค่ะ”



    “เยียใช่มั้ย เข้ามาสิ กำลังรออยู่ทีเดียว” ยูจีนตอบออกไป



    “เจ้าชายให้ตามข้ามา มีธุระด่วนอะไรหรือพะย่ะค่ะ” เยียถามชายหนุ่มหน้าตาละม้ายคล้ายกษัตริย์ยาฟา เพียงแต่มีดวงตาสีฟ้ากระจ่างใส และผมสีน้ำตาลทองเช่นเดียวกับของเธอ ซึ่งเป็นมรดกทางร่างกายที่ตกทอดมาจากพระมารดา พระวรกายสูงโปร่งทะมัดทะแมง ผิวขาวแบบคนที่มีสุขภาพดี ผู้นั่งอยู่หลังโต๊ะไม้โอ๊คตัวใหญ่



    “เสด็จพ่อแจ้งมาว่าพรุ่งนี้แขกเมืองที่มาจาก แองการ์ จะมาถึงชายป่านอกเมืองพรุ่งนี้ เป็นแขกสำคัญ ข้าอยากให้เจ้าไปอารักขา” ยูจีนมองหนุ่มน้อยราชองครักษ์ที่หน้าตางดงามราวอิสตรีแต่ฝีมือไม่เป็นรองใครอย่างชื่นชมและเชื่อถือ เจ้าชายรู้สึกถูกชะตากับหนุ่มน้อยผู้นี้แต่แรก ครั้งพบในงานประลองเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นถ้าเยียไม่ได้เป็นองครักษ์ ก็ยังให้มาช่วยงานราชการฝ่ายใน และอีกเหตุผลหนึ่งคือ รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็นึกไม่ออกเสียที จนเยียเป็นองครักษ์มาได้เกือบปีแล้ว ก็เลยเลิกล้มความคิดที่จะนึกถึงอีกต่อไป เท่าที่ท่านทราบก็คือ ครอบครัวของเยียมีพ่อและพี่ชาย ส่วนแม่นั้นได้ตายไปเมื่อตอนให้กำเนิดเยียเท่านั้น ส่วนฝีมือที่เก่งกาจก็ได้รับการฝึกมาจากท่านน้าสามีภรรยาทั้งสอง เนื่องจากพ่อมีงานมากไม่สามารถให้การดูแลเยียได้ จึงมอบเยียให้อยู่ในความดูแลของท่านทั้งสองจนปัจจุบัน



    “ใครมา แล้วเขามาเพื่ออะไรพะย่ะค่ะ” เยริน่าถามด้วยความสงสัยเพราะปรกติ เมื่อมีแขกเมืองมาจะให้ทหารประจำชายแดนอารักขามาจนถึงชายป่านอกเมือง หลังจากนั้นทหารประจำพระราชวังจะอารักขามาจนถึงพระราชวัง นี่ก็คงจะเป็นคนสำคัญทีเดียว



    “ข้าก็ยังไม่แน่ใจ เสด็จพ่อแจ้งว่าทางแองการ์จะส่งคนมาเจริญสัมพันธไมตรี ให้ต้อนรับอย่างดี รวมถึงให้ระวังการอารักขาให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าตอนนี้บ้านเมืองจะสงบเรียบร้อย แต่ข้าก็ไม่อยากประมาท และเรื่องอย่างนี้ข้าก็คงไว้ใจเจ้าได้เพียงคนเดียว”



    “พะย่ะค่ะ หม่อมฉันจะทำให้ดีที่สุด จะขอเอาชีวิตเป็นประกัน เพื่อไม่ให้ท่านผิดหวัง” ว่าพลางคำนับลาเจ้าชายรัชทายาท



    “เอ้อ! เยีย”



    “มีอะไรอีกเหรอพะย่ะค่ะ”



    “วันนี้ เจ้ามีธุระอะไรด่วนที่ต้องไปทำหรือเปล่า”



    ‘ก็จะไปทดสอบมีดใหม่นะสิ เมื่อไรจะให้ข้าไปสักทีนะ เสด็จพี่’ “ไม่มีอะไรพะย่ะค่ะ ทรงมีอะไรให้หม่อมฉันรับใช้หรือพะย่ะค่ะ”



    “เอ้อ... ข้าเพียงแต่อยากถามเจ้าว่า เจ้าเคยเห็นเจ้าหญิงมีเรียมมั้ย”



    ทันใดนั้นเยริน่าก็สังเกตุเห็นสีเลือดฝาดที่พวงแก้มของชายหนุ่ม

    “ทะ... ท่านว่าอะไรนะพะย่ะค่ะ!!!” เยริน่าตกใจที่เห็นพี่ชายเขินอายเป็นที่น่าแปลกใจยิ่งนัก

    “เจ้าหญิงมีเรียมแห่งเซนกัสหรือพะย่ะค่ะ”



    “ก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ เจ้าเคยเห็นมั้ยล่ะ”



    เยริน่าลอบยิ้มเมื่อเห็นพี่ชายเขินมากขึ้น คงมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเจ้าหญิงองค์นี้แน่นอน อย่าบอกนะว่าเสด็จพี่หลงรักนางน่ะ โธ่เอ้ย! แล้วน้องจะช่วยได้อย่างไรเพคะ น้าชีล่ากับน้าเชส เคยให้ข้าไปเที่ยวต่างเมืองซะที่ไหน อย่างมากข้าก็ได้ไปเดินตลาดในเมืองกับฝึกฝีมือการยิงธนู ขี่ม้ากับน้าเชสในป่าเท่านั้น



    “ยังไม่เคยเห็นเลยพะย่ะค่ะ มีข่าวว่านางจะเป็นผู้นำทัพมารุกรานโทเรอาหรือพะย่ะค่ะ” เยริน่าแหย่พี่ชาย



    “บ้าน่ะสิ!!! ไม่ใช่อย่างนั้น” ยูจีนตกใจที่องครักษ์คนสนิทสงสัย



    “ก็แต่เสด็จพ่อน่ะสิ บอกข้าว่า ข้าควรอภิเษกได้แล้ว แล้วเจ้าหญิงมีเรียมนี่แหละเหมาะสมที่สุด”



    อ๋อ! เสด็จพ่อทรงเป็นห่วงเสด็จพี่จะขี้นคานนี่เอง ปีนี้เสด็จพี่อายุเท่าไรนะ 24 ปีแล้วสิ อืม เสด็จพ่อทรงคิดการณ์ไกลจริงๆ เอาไว้ว่างๆ ต้องขอแวบไปเซนกัสบ้างซะแล้ว



    “อ๋อ! เป็นอย่างนั้นเอง แล้วเจ้าชายเคยเห็นหรือยังพะย่ะค่ะ ทรงสิริโฉมงดงามมากหรือเปล่าพะย่ะค่ะ”



    “ข้าไม่แน่ใจ ตอนข้าเจอนางครั้งล่าสุดในงานฉลององค์รัชทายาทเจ้าชายมาร์ค น้องชายของนางเมื่อปีที่แล้ว นางก็สวยดีนะ” ว่าแล้วก็หน้าแดงอีกครา “ถ้าเจ้าไม่เคยเห็นก็ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรแล้ว เจ้าจะไปไหนก็ไปเถอะ”



    ถึงตอนนี้เจ้าหญิงก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้แล้วจึงรีบถวายบังคมลาทันที “งั้นหม่อมฉันขอตัวก่อนพะย่ะค่ะ”



    ...................................................................



    “ท่านเยีย!!! จะไปไหนขอรับท่าน” ชัค หนึ่งในทหารองครักษ์ที่ชื่นชมและศรัทธาเยริน่ามาก ชัคได้สถาปนาตนเป็นลูกน้องหรือลิ่วล้อผู้ซื่อสัตย์เบอร์หนึ่งของเยริน่าทันทีหลังจากได้ดูการประลองเมื่อปีที่แล้วร้องเรียก



    “ทำไมวันนี้มันจะมีพายุหรือไงน้า ทำไมข้าจะมีชีวิตที่สงบในวันนี้ไม่ได้หรือไง” เยริน่าบ่นเบาๆอย่างระอาใจ พลางหันไปหาต้นเสียง



    “ข้ากำลังหาที่เงียบๆ เหมาะๆ เพื่อผึกซ้อมปามีด เจ้ามีสถานที่ที่เงียบๆ ให้ข้ามั้ยล่ะ”



    “ปามีด โธ่! ท่านมันจะไปสนุกอาไร้ วันนี้อย่าเลย เราเข้าไปในเมืองกันดีกว่า เขาว่าที่หอนางฟ้ามีสาวใหม่ๆ มาเพียบเลย ไปดูกันเถอะท่าน”



    “เฮ้ย! ไม่เอา ข้าจะซ้อมปามีด เจ้าจะไปเจ้าก็ไปเถอะ ผู้หญิงก็เหมือนๆกันหมดนั่นแหละ ข้าไปล่ะ” เยริน่าปฏิเสธพร้อมหันหลังเดินหนีทันที



    แต่นี่เธอกำลังสนทนาอยู่กับชัคจอมตื้ออยู่ จึงไม่ง่ายนักที่จะเดินจากไปโดยที่ชัคยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์



    “ไปเถอะลูกพี่ ไปเป็นเพื่อนข้าหน่อย ลูกน้องคนนี้เครียดอยู่นะท่าน อยากไปผ่อนคลายบ้าง ท่านจะไม่เห็นใจข้าบ้างเลยหรือ พรุ่งนี้ก็ต้องไปรับแขกเมืองด้วย วันนี้ขอไปพักผ่อนหน่อยนะ” ชัคพยายามตี้อ



    ‘มาร มันเป็นมารจริงๆ’  “เอางั้นก็ได้ เจ้าเข้าไปในหอ แล้วข้าไปรอในเมือง ข้าก็อยากไปเดินดูของในตลาดสักหน่อย” เยริน่ารับปากตัดความรำคาญ คิดไว้ว่าพอชัคเข้าไปในหอแล้ว เธอจะหลบไปในป่าหาที่ซ้อมมือให้ได้



    “ท่านเยียขอรับ ก็เข้าไปด้วยกันกับข้าสิ แล้วข้าจะให้ไอร่าเลือกเด็กใหม่ๆ มาให้ท่านสักคน”



    “ไม่ต้องเลย เจ้าจะไปก็เข้าไปคนเดียวแล้วกัน ข้ารออยู่ข้างนอกนั่นแหละดีแล้ว”



    “แต่ท่านขอรับ ท่านไม่เข้าไปจริงๆ เหรอ ท่านนี่แปลกนะ ตั้งแต่ข้ารู้จักท่านมา ไม่เคยเห็นท่านติดเนื้อต้องตาสาวคนไหนเลย เอ๋... หรือว่าท่านเป็น......”



    “ชัค!!!  หยุดคิดในสิ่งที่เจ้ากำลังคิดอยู่ แล้วรีบไปทำธุระของเจ้าซะ ถ้าออกมาแล้วไม่เจอข้าก็กลับไปเลย แล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้าที่กำแพงเมืองทางด้านตะวันออก” เยริน่ารำคาญจนถึงที่สุด ทั้งชัคกำลังคิดพิเรนทร์เกี่ยวกับตัวเธอ จึงตัดบทพร้อมจ้องชัคด้วยสายตาที่ถ้าคนรู้จักมักจี่กับเยริน่าดีจะรู้ว่าถ้าเซ้าซี้เธออีกเรื่องจะไม่จบอย่างสงบแน่นอน



    ชัคเมื่อเห็นสายตาดังนั้นก็รีบหลบสายตาแล้วเดินไปทางหอนางฟ้า หอนางโลมขึ้นชื่อของเมืองโทเรอาทันที



    “ทำไม วันนี้มันมีคนมากวนไม่ได้หยุดได้หย่อนเลยนะ ขออยู่อย่างปรกติสุขบ้างไม่ได้หรือไงกัน”



    “ปึ๊ก”



    “โอ้ย!” เยริน่าล้มลงทันที



    “เจ้าหนู เป็นอะไรหรือเปล่า ข้าขอโทษ ข้าไม่ทันมอง” ผู้มาใหม่ขอโทษพลางยื่นมือให้เยริน่าจับเพื่อยืนขึ้น



    ถ้าเป็นระเบิดเวลา ตอนนี้คงหมดเวลาพอดี ลูกระเบิดเยริน่าทำงาน......



    “อย่ามาเรียกข้าว่าเจ้าหนูนะ!!! แล้วเจ้าเดินยังไง ทางออกกว้าง ไม่ดูตาม้าตาเรือ ยังเดินชนข้ามาได้” เยริน่าตวาดกลับทันทีแล้วยื่นมาไปจับมือกับคนที่ชนตนจนล้มกลิ้งลงไป แล้วส่งสายตาอาฆาตไปทางคนที่ยืนอยู่



    ผู้มาใหม่ผู้เป็นเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลเข้มดุ วางอยู่บนใบหน้าที่เรียวดั่งรูปสลักล้อมกรอบด้วยผมที่ดำสนิทดุจราตรีกาล ปากเจือสีแดงนิดๆ เหมือนลูกเชอร์รี่ แต่ตอนนี้กำลังเม้มจัดด้วยความโกรธ รูปร่างสูงโปร่ง แข็งแรงซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีดำเข้มแบบนักเดินทาง ถ้าเสด็จพี่ยูจีนเป็นเทวดา นายคนนี้คงเป็นปีศาจแน่นอน



    “ก็ข้าขอโทษแล้วไง ข้ายอมรับผิดทุกอย่าง ข้าไม่ได้มองทางเอง และที่เรียกเจ้าว่า เจ้าหนู ก็เพราะข้าไม่รู้ว่าเจ้าชื่ออะไรแล้วข้าจะเรียกเจ้าว่าอะไร เรียกหนูน้อยงั้นรึ หรือจะให้เรียกว่าสาวน้อย ทำไมเจ้าไม่เป็นลูกผู้ชาย แล้วรับคำขอโทษจากข้าหล่ะ”



    เยริน่าจ้องหน้าคนพูดด้วยความงง ดูหน้าตาไม่น่าจะบ่นอะไรได้ยาวขนาดนี้เลย พลางบ่นอุบอิบ ‘ก็ข้าไม่ได้เป็นลูกผู้ชายนี่นา’



    “เจ้าว่าอะไรนะ!!!”



    “เปล่า ข้าไม่ได้พูดอะไร ข้าก็แค่ยกโทษให้เท่านั้นเอง” ‘วันนี้มันเป็นอะไรกันนะ หรือพระเจ้าลงโทษที่ข้าหลอกลวงเสด็จพ่อ’



    บุรุษปริศนามองเยริน่าอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด คนที่ปรากฏต่อหน้าเขาตอนนี้คือ ชายหนุ่มผู้มีรูปร่างอรชรอ่อนแอ้นหน้าตางดงามราวอิสตรี ดวงตาสีฟ้าใสกระจ่างที่ฉายแววฉลาดทันคน ปากสีแดงเชิดนิดๆ บ่งบอกนิสัยว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์พอสมควร น่าเสียดายนักที่เป็นผู้ชาย



    “แล้วเจ้าชื่ออะไรล่ะ ข้าจะได้เรียกถูก ส่วนข้าชื่อเจอิล” ชายหนุ่มปริศนาแนะนำตัว



    “ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็ผิดเองด้วยที่ทำกิริยาไม่ดีออกไป ข้าขอโทษท่านด้วยแล้วกัน ข้าขอตัวก่อนล่ะ” เยริน่าไม่ต้องการที่จะคุยกับชายหนุ่มผู้นี้อีกต่อไป ด้วยเกรงสายตาดุที่ดูเหมือนจะทะลุไปทุกส่วนของร่างกาย จึงเลือกที่จะเสียมารยาทเดินจากไปทางป่าด้านตะวันตก และตัดสินใจกลับไปพักผ่อนที่ปราสาทดีกว่า เพราะว่าวันนี้ท่าจะไม่ไช่วันที่ดีของเธอซะแล้ว อย่างนี้มันต้องโทษเจ้าชัค ที่ชักชวนมาในเมือง พรุ่งนี้เถอะได้เห็นดีกัน



    เจอิลมองตามหนุ่มน้อยปริศนาเจ้าอารมณ์แล้วก็มีความรู้สึกแปลกๆ ขึ้น แต่แค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ความรู้สึกก็จางหายไป  แล้วเดินชมเมืองต่อไปตามความตั้งใจเดิม



    .......................................................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×