คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : L E V I A R A ♦ CHAPTER I
CHAPTER I
♦ LYA GUZTAUF ♦
เด็กหญิงตัวเล็กยืนอยู่กลางโถงกลางของวิหารศักดิ์สิทธิ์ประจำตระกูลกุสต็อฟ
หนึ่งในขุนนางแห่งอาณาจักรบัคโซ่ ข้างนอกมีหิมะโปรยปราย
ภายในเองก็หนาวเหน็บแทบจะไร้ซึ่งไออุ่น ทว่าเด็กหญิงซึ่งสวมเพียงวันพีซสีขาวยาวเสมอเข่าซึ่งเป็นเสื้อตัวในกลับไร้ซึ่งอาการสะทกสะท้านต่อความหนาว
คทาโลหะสีเงินขาวสลักเสลางดงามในมือของเด็กหญิงซึ่งสูงกว่าตัวเธอเกือบสองฟุตส่องแสงสีขาวสว่างนวลตา
วงเวทหลายวงปรากฏขึ้นบนพื้นเป็นสีขาวแบบเดียวกัน กลิ่นอายแห่งความบริสุทธิ์คละคลุ้ง
เสียงร่ายเวทลื่นไหลจากริมฝีปากเล็กบางของเด็กหญิงตัวน้อยยามสดับฟังแล้วไพเราะราวกับบทเพลงจากสรวงสวรรค์
เค้าร่างของทวยเทพปรากฏกายเหนือวงเวทวงใหญ่เบื้องหน้าเด็กหญิง บุคคลร่างสูงใหญ่หกคนซึ่งสวมชุดคลุมสีเงินแบบเดียวกันมีท่าทีตื่นตระหนกต่อภาพตรงหน้า ก่อนที่เด็กหญิงจะกระแทกคทาลงที่พื้น แล้วทุกอย่างก็สลายหายไปเป็นเพียงละอองแสง
ห้องที่เย็นเยียบพลันเกิดกระแสอุ่นวาบขึ้นแทนที่อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
เด็กหญิงร่างเล็กค้อมตัวลงให้บุคคลทั้งหก มือข้างขวาที่มิได้ถือคทาแตะแผ่วเบาที่เหนืออกซ้ายเป็นการแสดงความเคารพ
“อย่างที่คิด ไลอา กุสต็อฟ เป็นอัจฉริยะ” หญิงชราผู้เป็นหนึ่งในบุคคลหกคนซึ่งมีศักดิ์และสิทธิในการประเมินความสามารถของเด็ก
ๆ ในตระกูลเอ่ยขณะละเมียดรสของชา
ณ เวลานี้บุคคลทั้งหกผู้มีฐานะอันเป็นที่เคารพในตระกูลกุสต็อฟ
ต่างมารวมตัวกันในงานเลี้ยงน้ำชาที่บ้านหลักของตระกูลกุสต็อฟ หนึ่งวันก่อนมีการเรียกรวมตัวเด็กรุ่นใหม่ของตระกูลเพื่อประเมินความสามารถ
โดยผู้ที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดคือไลอา กุสต็อฟ
ดังเช่นที่เคยเป็นมาตลอดการทดสอบทุกปี
หิมะยังคงตกอยู่
ทิวทัศน์นอกหน้าต่างถูกย้อมเป็นสีขาวโพลนเช่นนี้เกือบตลอดเวลาจนชินตาสำหรับอาณาจักรบัคโซ่แห่งนี้
“ท่านลอร่าผู้เป็นมารดาของนางเองก็มีความสามารถในระดับสูง
เราคงไม่อาจคาดหวังในตัวนางน้อยกว่านี้ได้” ชายผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประเมินเช่นกันกล่าวขณะส่งยิ้มให้แก่ชายอีกคนตรงหน้าซึ่งอยู่ในวัยชรา
“ท่านว่าไหม ท่านเมซิโอ”
เมซิโอ กุสต็อฟ
ผู้เปรียบเสมือนผู้ครองอำนาจสูงสุดในตระกูลทั้งที่ลาจากตำแหน่งมาเกือบสิบปีแล้วเพียงตอบกลับด้วยความเงียบงัน
“ผู้มีพรสวรรค์แต่ไร้ซึ่งพรแสวง
เพียงไม่นานก็จะพ่ายให้แก่ผู้ซึ่งเพียรพยายามอย่างมีมานะ”
หญิงชราอีกคนหนึ่งเอ่ยตอบกลับแทน นางมองชายวัยกลางคนซึ่งอาวุโสน้อยที่สุด ณ ที่นี้ด้วยสายตาคมกริบ
“ข้าไม่แน่ใจว่าที่ท่านกล่าวมานั้นถูกต้อง ไลอา
กุสต็อฟเพียรฝึกเวทแห่งแสงและทบทวนบทเรียนอย่างจริงจัง นางมิได้เพียงแค่มีพรสวรรค์แต่ไร้พรแสวงแต่อย่างใด”
ชายวัยกลางคนกล่าวแย้ง
“ทักษะความสามารถของไลอา
กุสต็อฟอาจจะสูง”
“แต่ลักษณะนิสัยของนางนับว่าเป็นปัญหา”
“นักบวชหญิงเซนิทรายงานแก่ข้าว่าเมื่อสองวันก่อนนางไม่เข้ารับการฝึก”
“นับเป็นครั้งที่สิบเจ็ด”
ชายชราสองคนซึ่งมีใบหน้าคล้ายคลึงกันอย่างมากสลับกันพูดคนละประโยค
“นางมีภาวะการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ อีกทั้งมารดาของนางเคยบวชเป็นนางชีที่ต้องถือครองพรหมจารีย์ จะเป็นที่ครหาแก่ผู้อื่นได้ โปรดพิจารณาเรื่องการวางตำแหน่งผู้สืบทอดอีกครั้งด้วยเถิด ท่านเมซิโอ”
เจ้าของนามวางถ้วยชาลงก่อนประสานมือไว้บนตัก
“ด้วยความสามารถของนาง ข้าไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา”
เมซิโอ กุสต็อฟเอ่ยปากในที่สุด ชายชรามีท่าทีอ่อนล้า
“สงครามใกล้เข้ามาแล้ว ไม่ว่านางจะเป็นผู้สืบทอดหรือไม่ จะได้ครอบครอง ‘โล่และคทาแห่งสติปัญญา’ หรืออย่างไรก็ตาม ในฐานะคนของกุสต็อฟ ขุนนางแห่งบัคโซ่ นางก็ต้องเข้าร่วมอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง”
ตลอดชีวิตของไลอา กุสต็อฟ มักรู้สึกแปลกแยกอยู่เสมอ
คนรอบข้างไม่ชอบเธอ ผู้ใหญ่ในตระกูลรังเกียจครึ่งหนึ่งในตัวเธอ
เด็ก ๆ วัยเดียวกันอิจฉาเธอที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์
เธอเข้าใจเวทมนต์ได้ไวกว่าคนอื่น ทำได้ก่อนคนอื่น
และยังโดดเด่นด้วยเวทสายศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกนักบวช
นอกจากนี้ตัวเธอยังเล็กมาก
เมื่อเทียบกับเพื่อนวัยเดียวกัน
ชาวบัคโซนมักมีรูปร่างสันทัดถึงสูงใหญ่ ร่างกายแข็งแรง
ทั้งที่เธอมีผิวขาวซีด ดวงตาสีฟ้าหม่น และผมสีเงินขาว
ไม่ได้ต่างไปจากพวกเขาเท่าใดนัก แต่ร่างกายกลับเล็กจ้อยและดูบอบบาง
ไลอาผู้ที่ไม่มีใครชอบหน้าอยู่เป็นทุนเดิม
ถูกล้อว่าเป็นคนอาณาจักรอื่น เป็นเด็กเก็บมาเลี้ยงของกุสต็อฟเพราะเห็นว่าเธอมีพรสวรรค์จะเชิดหน้าชูตาได้
แต่พวกเขาไม่มีทางเป็นครอบครัวเดียวกันกับเธอ เธอไม่มีใคร เธอต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต
พวกเขาจะไม่ยอมรับเธอ
บิดาและมารดาผู้อ่อนโยนบอกเธอเสมอว่าที่เธอได้ยินมามิใช่เรื่องจริง
แต่เธอก็ยังหยุดคิดไม่ได้
ใช้เวลาจนอายุได้ 11 ปี ไลอาถึงมีเพื่อน
เอมิลี เรนนิส เด็กสาวอายุมากกว่าจากตระกูลสายรองเป็นคนสดใสร่าเริง
เข้ากับคนง่าย และไม่เคยมองไลอาอย่างอคติ ทำให้ชีวิตของไลอามีสีสัน
สนุกสนานเกือบทุกวัน
ณ คฤหาสน์ตระกูลเรนนิส อาณาจักรบัคโซ่
“ไลอาเนี่ยเป็นที่รักของสัตว์สินะ?”
เอมิลีพูดขึ้นขณะมองไลอาถูกกองทัพแมวเกาะก่ายเต็มตัว
“แมวน่ารัก ไม่สองหน้าเหมือนมนุษย์” เสียงเรียบเรื่อยเหมือนไม่สนใจสิ่งใดในโลก
เอมิลียิ้มกว้าง
“มนุษย์มีมากกว่าสองหน้านะ นี่ไง!”
ไลอาใช้ดวงตาปลาตายจับจ้องเอมิลีที่ทำสีหน้าหลากหลาย
ทั้งยิ้ม โกรธขึ้ง เศร้าสร้อย รวมไปถึงหน้าตาประหลาด ๆ แววตาของไลอาแฝงความสงสารอันปิดไม่มิด
“ว่าแล้วทำไมท่านหญิงแห่งเรนนิสถึงฝากฝังให้ไลอาดูแลเอมิลี
ที่แท้เอมิลีก็ไม่สมประกอบ”
“ไหงเป็นงั้นไปได้เล่า!”
เอมิลีหัวเราะร่า
“ฟังคำวิจารณ์เชิงลบแล้วหัวเราะ
เอมิลีเป็นพวกพิศวาสทารุณสินะ”
เสียงหัวเราะชะงักกลายเป็นเสียงคนสำลัก
เอมิลีไอจนหน้าแดง ไลอาค่อยๆลูบแผ่นหลังของเด็กสาว
เมื่อหายสำลักเอมิลีจึงรีบหันมาเค้นถามเด็กหญิงด้วยทีท่าตื่นตระหนก
“ไลอา ไปเอาคำพูดพรรค์นั้นมาจากไหน บอกพี่สาวมานะ
พี่สาวจะจัดการตบปากคนพวกนั้นเอง!”
“....เอมิลีพูดแบบนั้นไลอาจะบอกความจริงทำไม
เอมิลีโง่หรือเปล่า”
“งั้นไม่ตบปาก แต่จะจับแก้ผ้ากลางทุ่งหิมะ!”
ไลอารู้สึกปลงตก
หรือว่าพี่สาวต่างสายเลือดของเธอคนนี้จะเป็นบ้า?
แต่สุดท้ายไลอาก็ยอมตอบไปตามตรง
“หนังสือน่ะ จากห้องสมุด
เห็นปกสีขาวไม่มีชื่อแปลกตาดีเลยลองหยิบมาอ่าน”
เอมิลีรู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางศีรษะ
หนังสือสิบแปดบวกที่เธอฝากคนรับใช้ของคฤหาสน์เก็บในห้องสมุด
ทั้งที่กำชับเป็นอย่างดีว่าให้ซ่อนอย่างมิดชิดแท้ๆ กลับตกมาอยู่ในเงื้อมมือของนางฟ้าน้อยๆของเธอเสียได้
ไลอามองสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาของเอมิลีอย่างสนเท่ห์
ค่อนข้างน่าสนใจ แต่เธอง่วงแล้ว
เด็กหญิงร่างเล็กพาตัวเองไปที่โซฟา
ก่อนจะหลับตาเข้าสู่นิทราพร้อมกับแมวน้อยใหญ่นับสิบตัวล้อมรอบเกาะก่ายรอบตัวเธอ
เอมิลียิ้มบางนั่งลงที่โซฟาด้านข้าง
มือลูบผมหยักศกธรรมชาติสีเงินขาวของเด็กหญิงอย่างเอ็นดู
ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร ไม่ว่าฐานะของเธอทั้งคู่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
แม้ว่าไลอาจะมาหาเธอเพียงเพื่อโดดเรียนหรือตั้งใจโดดเรียนมาหาเธอก็ตามแต่ พี่สาวคนนี้ก็จะยังอยู่เคียงข้างน้องสาวเสมอ
“ฝันดีนะไลอา”
ความคิดเห็น