คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กลับบ้านเรา...น้องรออยู่+คู่ต่อสู้ไร้ฝีมือ(บทนำจ้า)
ณ สนามบิน กรุงโซล อาคารผู้โดยสารขาเข้า ผู้เดินกันขวักไขว่ บางคนมารอรับญาติที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ เด็กหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-สเปนวัยสิบห้าปี เจ้าของความสูง 185ซม.และนัยตาสีฟ้าที่เกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์คนนี้ก็เช่นกันเขามารอรับพี่สาวคนเดียวของเขาที่มีกำหนดการกลับจากอิตาลีวันนี้ หลังจากเธอเดินทางไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่โน่นเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มๆ นี่ก็เลยเวลามาได้ห้านาทีเเล้วทำไมเธอยังไม่มาอีกก็ไม่รู้ ตอนนี้เขารู้แต่ว่าเขาคิดถึงพี่สาวของเขาเหลือเกิน
“ทายดิ๊ ใครเอ่ย” เสียงใสๆดังขึ้นหลังจากมือปริศนายื่นมาปิดตาเขา
เขาค่อยๆแกะมือนิ่มๆนั้นออกจากตา พลางหันไปมองเจ้าของเสียงใสๆนั้น เมื่อเขาหันกลับไปเขาก็เห็นเด็กสาววัยสิบเจ็ดปี สูงประมาณหูของเขา ผมของเธอเป็นสีน้ำตาลช็อกโกเเล็ตสีผมอย่างนั้นไม่ได้เกิดจากการทำสีแต่อย่างใด มันเป็นสีธรรมชาติที่เธอได้รับจากยีนส์ส่วนหนึ่งของพ่อเธอ ซึ่งผมของเขาก็เป็นสีอย่างนั้นเหมือนกัน
“พี่ซายา!!^O^”
“What’s up^O^
เขาโผเข้าไปกอดพี่สาวของเขาทันที เขากอดเธอแน่นมาก
“เฮ้ยๆใจเย็น เดี๋ยวพี่ก็ได้หายใจไม่ออกตายกันพอดี O-เอะ วันนี้ใส่สีน้ำทะเลเพิ่งซื้อมาใหม่ล่ะสิ“
“อืม ก็มันคิดถึงนี่นา พี่ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวมาตั้งปีแน่ะ ผมเหงาม๊ากมาก พี่นี่ใจร้ายจริงๆเลย”
เขาพูดพลางเดินนำพี่สาวของเขาไปยังรถที่มีคนขับรถนั่งรออยู่
“เอ้าบ่นๆๆๆ พี่ก็กลับมาแล้วนี่ไง พี่ก็คิดถึงเซยูนะ รู้ป่าวว่าเวลาพี่เอารูปสุดหล่อของพี่ไปให้เพื่อนที่นู่นดูนะ มีแต่คนบอกว่าหล่อทั้งน้านเลย พี่เงี้ย ปลื้มสุดๆไปเลย”
“ปลื้มที่มีน้องหล่อให้ม้า”
“ใช่ เพราะว่าเซยูได้เชื้อพี่เเรงไงเลยหล่อ ฮ่าๆๆๆ”
“ชิ คนหลงตัวเอง”
ทั้งสองเดินมาจนถึงรถ มีคุณลุงคนหนึ่งเดินมารับกระเป๋าจากฮันซายาไป
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
ซายาพูดพร้อมกับโค้งให้กับคุณลุง แม้เขาจะเป็นเพียงคนขับรถแต่ซายาและเซยูไม่เคยมองเขาป็นเพียงคนขับรถเลย พวกเขาคิดอยู่เสมอว่าเขาเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของเธอ รวมไปถึงพวกเเม่บ้านทั้งหลายในบ้านของเธอก็เช่นกัน เพราะตั้งแต่พ่อกับแม่ของเธอไปคุมบริษัทที่สเปน ทั้งแม่บ้านและคุณลุงก็เป็นคนดูแลพวกเขาทั้งสอง
“สวัสดีครับ เป็นไงบ้างครับคุณหนูไปเรียนดีไหมครับ”
“ก็ดีค่ะ เเต่ก็เกือบเเย่เหมือนกันตอนแรกๆ นี่คุณลุงหล่อขึ้นหรือเปล่าคะ”
“ฮ่าๆๆ คุณหนูอย่ามาแกล้งชมคนแก่เลยครับ ผมมันก็แก่ตัวลงทุกวันๆ แต่คุณหนูสิครับยิ่งโตยิ่งสวย “
“แหมคุณลุงปากหวานอย่างนี้ เดี๋ยวจะบอกให้คุณพ่อขึ้นเงินเดือนให้ดีไหมคะ”ซายาพูดพลางยิ้มหวานให้คุณลุง
“ถ้าได้ก็ดีครับ”
คุณลุงขับรถไปอย่างไม่รีบเร่งอะไร แต่ก็ไม่ถึงกับช้านัก รถยี่ห้อดังสีดำสนิทขับมาเรื่อยๆจนถึงบ้านหลังใหญ่ที่มีสนามหญ้าอยู่ด้านหน้าของบ้าน ตัวบ้านเป็นสีครีมอ่อนๆดูสบายตา คุณลุงขับรถไปจอดตรงหน้าบันไดทางขึ้นบ้านพอดี เพียงแค่เธอก้าวลงมาจากรถ ก็มีหญิงวัยกลางคนเดินออกมาอย่างรีบเร่ง เพียงแค่เธอเห็นหน้าฮันซายาเธอก็ยิ้มอย่างดีใจจนกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่
“ขอต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณหนู”
“สวัสดีค่ะ คุณป้ายังสวยเหมือนเดินเลยนะคะ”
“พูดชมอย่างนี้อย่างกินอะไรเป็นพิเศษอีกล่ะคะ”
“แหม รู้ทันหนูอยู่เรื่อยเลยนะคะ หนูอยากกิน
.”
แล้วซายาก็เอ่ยชื่ออาหารออกมาเพียบแต่ละอย่างล้วนเป็นอาหารเกาหลีทั้งนั้น
“ได้เลยค่ะ มินซูๆ”เธอเดินไปในครัวพลางเอ่ยปากเรียกเด็กคนหนึ่งในครัว
“แล้วพี่เอาไง พี่จะกินหรือว่าจะขึ้นไปบนห้องก่อน”เซยูถามซายาในขณะที่กำลังรับกระเป๋าเสื้อผ้าของซายามาจากคุณลุง
“พี่ขึ้นไปเก็บของก่อนดีกว่า
แล้วพี่มีของฝากให้เซยูด้วยแหละ”ซายาขยี้ผมของน้องชายตัวเองอย่างเอ็นดู
“งั้นเราไปจัดการกับของฝากก่อนดีกว่า”เซยูพูดจบก็วิ่งถือกระเป๋านำหน้าซายาขึ้นไปบนห้องของเธอ
ในที่ๆจอดรถซึ่งมืดสนิทของคลับแห่งหนึ่ง แสงรำไรจากพระจันทร์ในคืนนี้ทำให้เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ไร้ซึ่งเสื้อบนร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม น้ำเหงื่อที่ได้จากการต่อสู้เกาะไปทั่วใบหน้าอันหล่อเหลา ด้านหน้าและด้านหลังของเขาเต็มไปด้วยเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ด้านหน้าแน่นอนล่ะว่าต้องเป็นฝ่ายคู่ต่อสู้ของเขา เด็กหนุ่มด้านหน้าเขา หน้าตาเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากรอยแตกตรงบริเวณคิ้ว ส่วนด้านหลังของเขาเพื่อนๆก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อเห็นอีกฝ่ายเลือดโชก แต่แทนที่เขาจะอัดซ้ำลงไปบนร่างของคุ่ต่อสู้นั้นเขากลับหันหลังแล้วเดินไปหยิบเสื้อจากมือของเพื่อนคนหนึ่งของเขา
“เฮ้ย! ไอ้ซองแจแกเป็นอะไรของแกวะ จะชนะอยู่แล้วนะเว้ย”เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยปากถามขณะที่ก้าวออกมายืนขวางหน้าเขาไว้
“
.”แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือความเงียบและสายตาที่เย็นชา
“เเกเป็นไรหวะ มันยังไม่น็อคเลยเนี่ย ธรรมดาแกเอาจนอีกฝ่ายน็อคคาที่เลยนี่หว่า”เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อสายตาอันเย็นชาเลย เขารู้ดีว่าเพื่อนของเขาไม่มีวันทำร้ายเขาอย่างแน่นนอนแม้มันจะส่งสายตาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาก็ตาม
“แค่นี้มันก็จะตายอยู่แล้ว และฉันก็หมดอารมณ์หว่ะ คนไม่สู้มันไม่หนุก”เขาเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง เป็นจริงอย่างที่เขาว่าคู่ต่อสู้วันนี้ของเขาล้มง่ายเกินไป เพียงห้านาทีเเรกเขาก็จัดการอีกฝ่ายลงไปกองได้หลายครั้ง ซึ่งสำหรับเขาคู่ต่อสู้เช่นนี้สู้ไปก็เสียมือเปล่าไม่ได้ทำให้เขาฝึกฝีมือการต่อสู้ของเขาเลย ครั้งนี้มันก็เเค่การชกกระสอบทราย! เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามอเตอร์ไซค์สีดำสนิท
“เจอกันที่โรงเรียน”เขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คันนั้นแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น