คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : My Life For You : ไม่เคยต้องการใคร Part One
My Life For You : ไม่เคยต้องการใคร Part One
ท้องฟ้ามืดครึมดูจะเป็นอากาศธรรมดาๆสำหรับลอนดอน สวนสาธารณะใจกลางกรุงลอนดอนอย่างรีเจนต์ปาร์คมีประชากรชาวอังกฤษทุกเพศทุกวัยมานั่งพักเหนื่อยใต้ร่มเงาธรรมชาติของต้นไม้ใหญ่ที่ตอนนี้ใบร่วงหล่นไปหมดแล้ว หงษ์ขาวหลายตัวลอยว่ายวนอยู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ พวกมันส่งเสียงทักทายลุงแก่ๆผมสีขาวคนหนึ่งที่เดินผ่าน ราวกับว่าคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
หญิงสาวผมสีดำนัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องกับตัวหนังสือจากหนังสือนิยายที่ได้มานานแล้ว เธอทอดตัวนั่งอยู่บนเก้าอี้ม้านั่งตัวยาว ใต้ร่มไม้ใหญ่
“นางเอกงี่เง่า” เธอบ่นเบาๆ ก่อนปิดหนังสือลงอย่างขัดใจ เธอจะไม่ยอมเจ็บปวดแบบนางเอกนิยายเรื่องนี้แน่ๆ
เธออยู่มาได้อย่างมีความสุขอาจจะเหงาบ้าง แต่มันก็มีความสุขดี เธอไม่อยากเจ็บปวดเหมือนใครหลายๆคนที่รู้จักกันมา รวมทั้งแอสลี่พี่สาวของเธอด้วย
“สวัสดีค่ะ” เสียงทักเบาๆชวนให้โลกส่วนตัวที่หญิงสาวสร้างขึ้นถูกทำลายลง นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมองผู้มาใหม่ช้าๆ ก่อนจะมีรอยยิ้มบางระบายบนริมฝีปาก รอยยิ้มต้อนรับผู้มาใหม่
“นั่งด้วยกันสิค่ะ” หญิงสาวที่นั่งอยู่ก่อนเชื้อเชิญ และอีกฝ่ายก็ทำตามคำเชิญแต่โดยดี
“ทำไมวันนี้มานั่งคนเดียวล่ะคะ” หญิงสาวเจ้าของนัยน์สีเขียวเอ่ยถาม สายตามองเลยไปยังหงษ์ตัวสวยสีขาว
“วันว่างๆ อยากพักผ่อนดูบางน่ะคะ ก็เลยเอาหนังสือที่ซื้อไว้นานแล้วยังไม่ได้อ่านมาอ่านซะเลย” ชูหนังสือนิยายเล่มที่เพิ่งอ่านจบให้อีกฝ่ายได้ดู ก่อนจะยื่นให้อ่านเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากขอดู
“ออโรร่าชอบอ่านนิยายเหรอคะ” แซนดร้าถาม เปิดดูหน้านิยายไปด้วย อ่านบ้างข้ามบ้าง
“ค่ะ แต่เวลาไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่” ตอบรับสั้นๆ พลางนึกถึงบรรดานิยายหลายๆเรื่องที่ยังว่างอยู่ในชั้นหนังสือ บางเล่มถูกจับขึ้นมาก็แค่ตอนที่ซื้อมาเท่านั้น
“อ่านนิยายรักแล้วเชื่อเรื่องความรักไหมคะ” แซนดร้าเอ่ยถาม ละสายตาจากที่จังจ้องหนังสือเปลี่ยนมาจ้องหน้าอีกฝ่ายแทน ออโรร่ายิ้มบางให้คนถาม
“ไม่รู้สิค่ะ ถ้าเชื่อก็คงจะบอกว่าโกหก แต่ถ้าบอกว่าไม่เชื่อเลยก็คงไม่ใช่” ตอบเบาๆ แต่ในใจรู้ดีว่าตัวเธอนั้นไม่ได้มีความเชื่อเรื่องความรักเลย เธออ่านหนังสือหรือฟังคนพูดมามาก ความรักคือความรู้สึกของคนเรา แล้วทำไมตัวเราเองจะบังคับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ล่ะ
“แซนดร้าล่ะ คุณเชื่อไหม”
“เชื่อค่ะ” คำตอบชวนให้อยากถามต่อ แต่คนตอบเองก็รู้ดีว่าจะต้องถูกถาม เธอจึงเลือกที่จะตอบซะเอง
“ความรักสวยงามค่ะ ทำให้เรามีความสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยนะค่ะ”
“แต่ก็เจ็บเจียนตายเหมือนกัน” ออโรร่าพึมพำเบาๆ แต่อีกคนก็ได้ยินมันชัดเจน
“เจ็บค่ะ แต่ก็ยอมเพราะความสุขที่ได้มาก็มากมายไม่ต่างกัน”
“แต่เราจะเสี่ยงทำไมคะ ถ้าเราอยู่ลำพังเราก็มีความสุขได้” ออโรร่าถามอย่างสงสัย คนถูกถามมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“ก็เสี่ยงเพื่อให้มีใครสักคนมาทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้นอีกไงคะ”
งั้นนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
คำตอบที่มีให้ตัวเองในใจ เธอไม่เคยต้องการให้ใครมาเติมเต็มในชีวิตเธอ ความรักที่เธอได้รับจากครอบครัวและเพื่อน มันมีมากพอที่จะไม่ทำให้เธอคิดที่จะแสวงหาความรักจากใครอีก
ก๊อก...ก๊อก... เสียงเคาะประตูเบาๆ เรียกให้เจ้าของห้องที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบOral Tastละสายตาจากตัวหนังสือ หันไปมองที่ประตูห้องของตัวเอง เดินไปเปิดประตูแต่กลับไม่พบกับคนที่สร้างเสียงรบกวนการอ่านหนังสือของเธอ แต่ลูกบิดด้านนอกถูกแขวนด้วยถุงกระดาษรีไซเคิลสีน้ำตาล คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย แต่ก็ยื่นมือไปหยิบถุงกระดาษขึ้นมาเปิดดู ช๊อคโกแลตยี่ห้อโปรดกล่องใหญ่ถูกใส่ไว้ในถุง พร้อมกับการ์ดเล็กๆที่แนบข้อความสั้นๆมาว่า ‘ตั้งใจอ่านหนังสือนะครับ เอียน’
มุมปากถูกยกขึ้นโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัว หัวใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาโดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้สังเกต ความรู้สึกวูบวาบในใจทำเอาตัวเจ้าของเองก็แอบแปลกใจนิดๆ แต่ก็ไม่คิดจะหาคำตอบอะไรเพิ่มเติมให้กับตัวเอง ปล่อยให้ความรู้สึกพวกนี้จมหายไปในหัวใจช้าๆ เธอหยิบช๊อคโกแลตออกมาหนึ่งชิ้น ก่อนจะใส่ที่เหลือเข้าไปในตู้เย็น และเดินกลับเข้าไปอ่านหนังสือในห้องต่อ
“โอ้ย อาจารย์จะถามยากอะไรขนาดนี้” แฟรงค์หนุ่มเกือบชายเดินบ่นออกมา ขณะที่เพื่อนข้างอีกสามคนก็มีสีหน้าไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย
“คาร์เตอร์วันนี้เที่ยวกันดีไหม” ‘เที่ยว’ ของแฟรงค์ในที่นี่เป็นที่รู้กันดีว่าต้องมาแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ
“ดีเหมือนกันนะ” คาร์เตอร์บอกกลับ หลังจากที่แฟรงค์แอบลุ้นคำตอบในใจ ถึงแม้ว่าคาร์เตอร์จะไม่ตอบตกลงว่าไป เขาก็สามารถหาเพื่อนกลุ่มอื่นไปด้วยได้อยู่ดี แต่นานๆทีก็อยากเที่ยวกับเพื่อนสนิทบ้าง
“ไปด้วยกันนะออโรร่า” เมื่อเห็นมีแนวร่วมแฟรงค์ก็หันมาชวนออโรร่าทันที
“ไม่อยากไปเลย” คำตอบที่พอจะรู้อยู้แล้ว แต่ก็อดจะคะยั้นคะยอให้ไปด้วยกันไม่ได้ เพื่อนสาวคนนี้ไม่ค่อยชอบออกไปเที่ยวดูแสงสีของลอนดอนเท่าไหร่ ชอบไปเที่ยวแต่สวนสาธารณะกับร้านหนังสือ
“ออโรร่า เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันมานานมากแล้วนะ ตั้งแต่วันเกิดฉันเลยนะย่ะ” วันเกิดที่ว่าก็ผ่านมาเกือบจะสองเดือนแล้ว ออโรร่าหันไปขอความช่วยเหลือจากคาร์เตอร์ หากแต่สายตาด้านหลังกรอบแว่นกลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มองไม่เห็นถึงสัญญาณขอความช่วยเหลือของเธอ เหลือบไปหาอีกหนุ่มรายนั้นเองก็คงทำเหมือนกัน เพราะถ้าคาร์เตอร์ไม่ยอมช่วยแล้วตัวช่วยของเธอก็คงหมดจริงๆ
“ก็ได้ๆ” ตอบตกลงไป พร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ อดหันไปส่งสายตาเขียวๆใส่คาร์เตอร์ไม่ได้
“นานๆไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ดีนะ” ชายหนุ่มบอกเบาๆ ขณะที่สายตามองเลยไปที่หมายอื่น แต่รู้ดีว่าถูกค้อน คาร์เตอร์ดูแลเธอมาตลอด เปรียบเสมือนพี่ชายคนหนึ่งของเธอ
“คืนนี้จะไปรับนะ” คาร์เตอร์บอกเบาๆ ก่อนจะเดินนำไป ตามด้วยสองหนุ่มและหญิงสาวคนเดียวปิดท้าย
ผับหรูกลางกรุงลอนดอนเปิดต้อนรับผู้มาเยือนมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือสามหนุ่มกับอีกหนึ่งสาว โต๊ะสำหรับสี่ที่ถูกจับจ้องอย่างรวดเร็ว โดยมีแฟรงค์ผู้นำที่ดูช่ำชองพอสมควรเป็นคนสั่งเครื่องดื่มให้เพื่อนๆ
“ถอดออกไปได้แล้ว เสื้อคลุมเธอน่ะ” แฟรค์ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงบอกเพื่อนสาวที่นั่งข้าง
“ไม่ต้องถอดก็ได้มั้ง” พูดจบประโยค มือดีของแฟรงค์ก็คว้าถอดเสื้อคลุมออกทันทีเมื่อเพื่อนเผลอ เกาะอกสีดำขับให้ผิวขาวละเอียด เอริคอดผิวปากแซวเล่นๆไม่ได้ ขณะที่คาร์เตอร์อมยิ้มพอใจ
“เห็นไหมถอดแล้วสวยกว่าตั้งเยอะ” แฟรงค์บอก ขณะพับเสื้อคลุมโยนให้เอริคดูแล เครื่องดื่มสีสวยยื่นให้หญิงสาวผู้ดูเหมือนจะไม่สันทัดกับมันสักเท่าไหร่นัก
“ดื่มสักหน่อยก็ได้ออโรร่า” คาร์เตอร์ยิ้มบางๆ เหมือนเป็นคำมั่นว่าจะดูแลเธอถ้าเธอเกิดขาดสติไปเพราะแอลกอฮอล์ ออโรร่าเธอก็เป็นเพียงคนธรรมดาเมื่อน้ำสีสวยเข้าปากเธอหลายแก้ว ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ทำให้ความอายของเธอลดลง ขณะที่ความกล้าก็เพิ่มมากขึ้นด้วย แฟรงค์ชวนเพื่อนสาวไปที่ฟลอเต้นรำ หากปกติแล้วออโรร่าคงปฏิเสธ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่
“ดูแลออโรร่าด้วยแฟรงค์” คาร์เตอร์บอกอย่างห่วงใย ในบรรดาเพื่อนสี่คนที่มา เขาเป็นคนที่ดื่มไปน้อยที่สุด
“รู้แล้วน้า” เสียงอ้อแอ้ของแฟรงค์ตอบกลับมา ไม่ได้ช่วยลดความกังวลใจและความเป็นห่วงในใจของคาร์เตอร์ได้เลย อยากจะชวนกลับแต่ก็ดูเหมือนว่าคงจะไม่ยอมกลับกันง่ายๆ
ผับที่ไฟสลัวๆออกไปทางมืดสนิทมากกว่า หญิงสาวเจ้าของผมสีดำเหยียดตรงกำลังวาดลวดลายร่ายรำสนุกกับเพื่อนเกือบชายอีกคน ร่างบางดูคุ้นตาเขาจนต้องเดินเข้ามาดูใกล้ๆ
“ออโรร่า...” เรียกชื่ออีกฝ่ายเบาหวิว ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะได้ยินท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังขนาดนี้ เธอเต้นสนุกสนานอยู่กับแฟรงค์เพื่อนชายที่เขาเคยเจอครั้งหนึ่ง ไม่รู้ถึงความสนิทสนมของทั้งคู่ รู้แต่ว่าตอนนี้หน้าของเราร้อนผ่าว ในใจร้อนรุ่มไปหมด เอียนก้าวเท้าเดินตรงหน้าไปหา แต่ถูกขวางหน้าด้วยผู้ชายอีกคน นัยน์ตาหลังแว่นทรงรีดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ ถ้าเขาจะเดินไปใกล้เธอ
“คุณ...คาร์เตอร์” อีกฝ่ายพยักหน้าเบาๆ คาร์เตอร์ขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม เพ่งมองท่ามกลางความืดว่าคนตรงหน้าเป็นใคร เขาเดินมาขวางเพียงเพราะเห็นว่ามีผู้ชายจะตรงเข้าไปหาเพื่อนเขาเท่านั้น
“เอียน...”
“ครับ” อีกฝ่ายรับคำสั้นๆ มองเลยข้ามไหล่เขาไปที่ร่างบางที่กำลังเต้นสนุกอยู่กับแฟรงค์
“คุณไม่ต้องห่วงหรอก ตามผมมาสิ” คาร์เตอร์แข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระทึ่ม เดินนำอีกคนไปยังโต๊ะของเขา พร้อมกับให้เขานั่งลงตรงตำแหน่งที่เขานั่งเมื่อกี้ โฟกัสภาพทำให้เอียนแปลกใจ ในฟลอเต้นรำผู้คนมากมายเต้นกันเบียดเสียด แต่จุดที่เขานั่งกลับมองเห็นออโรร่าได้ชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อ
“คุณดูตลอด” เอียนหันมาพร้อมคนที่นั่งข้างๆ ยอมสละที่ตรงนั้นให้อีกฝ่ายแต่โดยดีและไม่คิดจะทวงคืน
“ใช่” รับคำเบาๆ เหลือบมองทางเอริคที่นั่งคอพับคออ่อนดูจากอาการแล้วคงทนนั่งอยู่ได้อีกไม่นาน
“ผมฝากออโรร่าให้คุณดูแลได้ใช่ไหม” คาร์เตอร์ถาม มองลึกเขาไปในตาของอีกฝ่าย ถึงแม้จะมืดแต่เขาก็จับสัมผัสของอีกฝ่ายได้ดี เขามั่นใจว่าคนตรงหน้าพร้อมที่จะดูแลเพื่อนเขา
“นี่เสื้อคุมเธอ” คาร์เตอร์ยื่นให้เอียน ก่อนจะเดินหายเข้าไปที่ฟลอเต้นรำอีกครั้ง เขาพูดอะไรนิดหน่อยกับทั้งสองคนที่กำลังสนุก แต่ก็ยอมตามออกมาแต่โดยดี หญิงสาวผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นใครบางคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะของเธอ และเขาทำเพียงยิ้มทักทาย
“คาร์เตอร์เดี๋ยวผมมานะ” เอียนตะโกนบอก ก่อนจะเดินหายไปทางที่เขามาและกลับออกมาในไม่กี่นาทีต่อมาพร้อมเสื้อนอกสีน้ำตาลที่เจ้าตัวเองพาดแขนเดินออกมา
“เธอกลับกับเอียนเลยแล้วกันออโรร่า ฉันจะไปส่งสองคนนี้เอง” คาร์เตอร์จัดสรรเสร็จสรรพไม่หันไปถามความสมัครใจของหญิงสาวด้วย ถึงแอลกอฮอล์จะทำให้เธอขาดสติไปบาง แต่ก็ไม่ถึงกับไม่รู้เรื่องรู้ราวเอาซะเลย อย่างน้อยเธอก็ยนังเดินตรงทางอยู่
“แต่คาร์เตอร์...” กำลังจะขัด แต่ก็โดนขัดซะก่อน
“น้ำมันแพงออโรร่า ดึกแล้วด้วย ฉันไม่อยากขับรถวนไปมา” ตัดบทเสร็จก็ชวนกันกับแฟรงค์หิวปีกเอริคที่หลับพับไปไม่รู้เรื่องเดินไป แต่ก็ยังหันมาทิ้งท้ายอย่างห่วงใยจว่า
“กลับถึงแล้วโทรบอกฉันด้วย” พยักหน้ารับทั้งๆที่ไม่เต็มใจ ขณะที่อีกคนกลั้นยิ้มสุดฤทธิ์ ก่อนจะตีหน้าขรึม
“กลับกันหรือยังครับ” พยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ ไม่ได้อยากให้เขามาเห็นเธอในสภาพนี้เลย แต่เห็นแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะเก็บอาการให้ได้มากที่สุดเท่านั้น เอียนเดินอ้อมมาด้านหลัง ใส่เสื้อคลุมให้กับเธออย่างถือสิทธิ์ ออโรร่าทำเพียงพึมพำขอบคุณเบาๆ และด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเพราะความอายที่ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวราวกับถูกเผา ทั้งยังยอมให้อีกฝ่ายจับมือพาเดินไปง่ายๆ
ความคิดเห็น