ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fic แปล Heart of Ice (เดร/เฮอร์)

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13:

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.64K
      13
      20 มี.ค. 53

    Chapter 13: Death Day

     

    เดรโกตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกถึงบางอย่างที่อ่อนนุ่ม และความรู้สึกอบอุ่นเกาะกุมเขาไว้  โอ้! ไม่  ใครกันอีกล่ะคราวนี้ เดรโกคิด เขากระพริบตาในความมืดเพื่อปรับสายตาและเหลือบมองลงไปที่ด้านข้างของเขา   เดรโกยิ้มด้วยความโล่งใจ ที่ตรงนั้นมีผ้าห่อหุ้มร่างกายของเธอจนถึงกลางหลัง เธอคนนั้นคือเฮอร์ไมโอนี่ ศีรษะของเธออยู่บนแผ่นอกกว้างขวางของเขา และแขนทั้ง 2 กอดรัดรอบตัวเขาไว้ ในขณะนี้เธอนอนหลับอย่างเป็นสุข ผิวของเธอดูเหมือนจะเปล่งประกายด้วยความงามอย่างแจ่มแจ้ง และรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจเล็กๆปรากฏอยู่บนริมฝีปากของเธอ เดรโกเอียงคางลงให้พอที่จะจูบเธอบนศีรษะได้ ในขณะที่ความคิดต่างๆก็เริ่มโลดแล่นผ่านเข้ามา

     

    เขาเพิ่งร่วมรักกับเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เหรอเนี่ย หลายครั้งที่เขามีความสัมพันธ์เช่นนี้กับผู้หญิงคนอื่นมาก่อน   แต่การร่วมรักครั้งนี้มันช่างผิดแปลกสำหรับเขาอย่างสิ้นเชิง นึกภาพซิว่าพวกสลิธีรินจะพูดยังไง!  นึกภาพซิว่าพ่อของเขาจะพูดแบบไหน!  ใบหน้าของเดรโกตอนนี้เปลี่ยนเป็นครุ่นคิดอย่างหนัก  เอาล่ะ! มันไม่สำคัญใช่ไหม  เพราะพวกนั้นทั้งหมดกำลังจะตาย และตัวเขาเองก็กำลังจะตายไปกับพวกนั้นด้วย

     

    ไม่!  นายมันไอ้คนโง่!  ดูสิ่งที่นายมีในตอนนี้ซิ!  นายไม่อาจพรากจากเธอได้ด้วยซ้ำ!’

    เดรโก ค่อยๆชำเลืองมองหญิงสาวผู้ที่กล้าหลอมละลายหัวใจเยือกเย็นดุจน้ำแข็งของเขาหญิงสาว ผู้ที่ในที่สุดได้สอนเขาว่ารักคืออะไร  แต่เขาไม่มีตัวเลือก เขาต้องไปรวมตัวในงาน ที่ผู้เสพความตายทั้งหมดจะมาในวันนี้ และเมื่อเขาไปที่นั่น เขาต้องทำตามแผนการ เขาจะทำอะไรได้อีกล่ะ  หรือเขาควรจะเป็นทาสรับใช้โวลเดอมอร์ และลงโทษเฮอร์ไมโอนี่ ให้เธอเข้าไปสู่เส้นทางที่เป็นภรรยาของผู้เสพความตายอย่างนั้นหรือ    เดรโกส่ายหัวไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป  ไม่! เขาจะไม่ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับแม่ของเขาอีก

     

    เดรโกค่อยคลายอ้อมแขน และการโอบกอดของเขาออกจากร่างอ่อนนิ่มของเฮอร์ไมโอนี่อย่างระมัดระวัง  เขาทำอย่างแน่ใจว่าจะไม่เป็นการปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมา  เดรโกชำเลืองมองนาฬิกาบนกำแพงมันเป็นเวลาตีสองครึ่งแล้ว  เขาคงต้องรีบถ้าเขาอยากจะไปงานพิธีตรงเวลาด้วยการโบกไม้กายสิทธิ์ครั้งหนึ่ง และคำพูดที่พอให้เลือกได้ไม่กี่คำเพื่อไปที่นั่น   เดรโกอยู่ในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำซึ่งน่าจะเหมาะสมแล้วกับการแนะนำตัวของเขา

     

    เดรโก…”

               

    เขาตัวแข็งในทันใด และรีบหันไปยังหญิงสาวที่อยู่บนเตียงอย่างฉับพลัน  ...1 นาทีผ่านไป ซึ่งนางฟ้าผมสีน้ำตาลของเขาไม่ได้ตื่นขึ้นมา เธอเพียงแค่ฝันไป   ฝันถึงฉัน เขาคิดพร้อมกับยิ้ม และถอนใจออกมาด้วยความโล่งอก   

    แน่นอนหลังจากเขาสวมเสื้อคลุม เขาเขียนข้อความลงบนแผ่นกระดาษหนัง และเสกกุหลาบขึ้นมาดอกหนึ่ง และเดินไปยังด้านข้างของเฮอร์ไมโอนี่อย่างเงียบที่สุดเท่าที่เป็นไปได้   เขาจับผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าสวยงามของเธออย่างระมัดระวังเป็นครั้งสุดท้าย และจ้องมองเธอในยามหลับใหลอย่างสงบ   เธอดูไร้เดียงสา...สวยงาม เขาคิด   เดรโกรู้สึกถึงบางอย่างที่ปั่นป่วนในท้อง ไม่มีทางที่จะปฎิเสธสิ่งที่เขารู้สึกกับเธอได้ในตอนนี้...

     

    ...เขารักเธอ

     

    เดรโกต้องพยายามอย่างหนัก หนักมาก มากพอที่จะไม่หัวเราะหรือเยาะเย้ยสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับเขา  ขณะนี้เขาคือเดรโก มัลฟอย ผู้ไร้หัวใจ  ผู้ที่เกลียดชังพวกที่เกิดจากมักเกิ้ล และ กริฟฟรินเดอร์ทุกคน  แต่เวลานี้เขาตกหลุมรักกริฟฟรินเดอร์ที่เกิดจากมักเกิ้ล!  และ ยิ่งไปกว่านั้นเธอรักเขาเช่นกัน!

     

                ลาก่อน เฮอร์ไมโอนี่เขากระซิบ ในขณะที่ประทับจูบสุดท้ายลงบนริมฝีปากหอมหวานของเธอ   เขาวางทั้งข้อความ และดอกไม้ลงบนหมอนข้างๆเธอ ด้วยความหวังว่าเฮอร์ไมโอนี่คงจะเข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำเช่นนี้ ถ้าทุกสิ่งเป็นไปตามแผน เธอคงจะเป็นอิสระจากความน่ากลัวของโวลเดอมอร์...  เป็นอิสระที่จะรักใครสักคนที่ดีกว่าซึ่งเหมาะสมกับเธอ...  เป็นอิสระที่จะมีลูก... เป็นอิสระที่จะมีอาชีพทุกอย่างเป็นอิสระสำหรับเธอ

                ด้วยการมองเป็นครั้งสุดท้าย  เดรโกหันไปจากเธอและเขาออกไปจากห้องในทันที

    @@@@@@@

     

    เซเวอร์รัส  สเนป สูดลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน เขาเริ่มเดินช้าๆผ่านทางเดินมืดๆของ ประสาทในฮอกวอตส์  คืนนี้เป็นคืนพิธีแนะนำกลุ่มผู้เสพความตาย และเขาจำเป็นต้องไปที่นั่น  ไม่ว่ามันจะกวนใจเขามากแค่ไหนที่ต้องเห็นเด็กๆของเขาอุทิศตัวเองเพื่อไปเป็นทาสรับใช้โวลเดอมอร์ชั่วชีวิต  แต่มันยังมีความจริงที่ว่า ถ้าเขาไม่ไปปรากฏตัวที่นั่นในคืนนี้ โวลเดอมอร์อาจจะฆ่าเขา  หลายสิ่งทำให้เขายับยั้งความคิดใดๆก็ตาม ที่จะไม่ไปร่วมงาน หรือไปพบกับเจ้าแห่งศาสตร์มืด

                เมื่อเขาออกไปจากปราสาท  อากาศยามค่ำคืนของวันศริสต์มาส ที่แสนหนาวเหน็บปะทะกับใบหน้าของเขา  เซเวอร์รัสตัวสั่น และดึงเสื้อคลุมแนบชิดตัวเขามากขึ้น  มีบางสิ่งแปลกไปในคืนนี้  โดยสัญชาตญาณเขาเหลือบมองข้ามไหล่ไป  เขารู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนกำลังตามเขาอยู่

                ศาสตราจารย์ สเนป!” เสียงเรียกลนลานเสียงหนึ่งดังขึ้น   เซเวอร์รัสรีบควักไม้กายสิทธิ์ออกมา และชี้ไปในทิศทางที่เสียงเกิดขึ้น

                นั่นใคร เขาตะโกนถาม 

    พอตเตอร์! ถ้านั่นเป็นเธอ ฉันจะหมายหัวเธอไว้!” เสียงหัวเราะแผ่วเบาทักทายคำขู่นี้ และ เซเวอร์รัสรู้ในทันทีว่ามันไม่ใช่เด็กชายผู้รอดชีวิต สำหรับความกล้าหาญแบบกริฟฟรินเดอร์ของเขาทั้งหมด แต่เขาคงไม่กล้าที่จะหัวเราะใส่อาจารย์วิชาปรุงยาของเขา

                ผมเองครับอาจารย์ เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง เซเวอร์รัสหรี่ตาในความมืด เพื่อมองร่างในชุดเสื้อคลุมสีดำ ที่กำลังเข้ามาใกล้

                คุณมัลฟอยเหรอ เขาถามรับรู้ได้ถึงเสียงเย่อหยิ่งที่ได้ยิน   ร่างนั้นถอดหมวกจากเสื้อคลุมออก   เพื่อเผยให้เห็นผมสีเงินเป็นประกายของเขา เด็กหนุ่มหล่อเหลาพยักหน้า ใบหน้าไม่ยินดียินร้ายของเขาแฝงไว้ด้วยความสนุกสนานเล็กน้อย

                ผมขอโทษที่ทำให้อาจารย์กลัว ที่คิดว่าผมเป็นพอตเตอร์ เดรโกพูดยานคาง เซเวอร์ซัสพยักหน้าตอบแต่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดออกมา สเนปวิตกกังวลเกินกว่าที่จะร่วมอารมณ์ขันของเดรโก

                เธอมาทำอะไรที่นี่  คุณมัลฟอย  ฉันแน่ใจว่าเธอรู้ว่าฉันต้องไปที่ไหนในตอนนี้ ชายหนุ่มดวงตาสีเงินส่ายหัวอย่างรุนแรง

                ผมขอโทษครับ อาจารย์แต่คุณต้องเชื่อผมในเรื่องนี้ อย่าไป เซเวอร์รัสเลิกคิ้ว นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะ

                คุณมัลฟอย ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกซาบซึ้งในความเป็นห่วงของเธอ แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่ของฉันในฐานะผู้สอดแนมที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ง่ายๆ เขาพูดรวบรัด 

    เดรโก  เธอต้องกลับไปที่หอนอนของเธอซะ เซเวอร์รัสหุนหัน และมุ่งหน้าไปยังป่า แต่เขาก็ ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งตามเขามาติดๆ

                สเนป! สเนป  คุณไปไม่ได้  โธ่เว๊ย!  ถ้าคุณเป็นสายสืบจริงๆอย่างที่คุณอ้าง  ถ้าคุณอยู่ฝั่งดัมเบิลเดอร์จริงๆ  ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยให้คุณไปในพิธีนี้กับผม เซเวอร์รัสหันกลับไปด้วยความตกใจ

                เธอเปลี่ยนใจแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอทำแบบนั้นเธอจะกลายเป็นหนึ่งในพวกนั้นไม่ว่าจะอย่างไร

                ไม่ใช่ทีเดียวครับอาจารย์    จากมุมมองของพวกเขา ใช่! ผมเปลี่ยนใจ  ผมพูดได้แค่ว่าผมจะไปในคืนนี้ และมันจะไม่ออกมาดีซักเท่าไหร่  ถ้าคุณเห็นชีวิตของคุณมีค่า  คุณต้องอยู่ที่นี่       เซเวอร์รัสต้องต่อสู้กับอารมณ์ของตัวเองอย่างหนัก เพื่อควบคุมการแสดงออกทางสีหน้าของเขา

    สเนป เป็นห่วงเด็กหนุ่ม ที่แข็งกร้าว และเย็นชาคนนี้จริงๆ   อย่างไรก็ตามบางอย่างที่แปลกประหลาดกำลังจะเกิดขึ้นกับเขาในตอนนี้ และเขารู้จัก เดรโก ดีพอที่จะรู้ว่าเมื่อไหร่ เด็กหนุ่มคนนี้จริงจัง มันดีที่สุดเท่าที่เขาเข้าใจได้

                เธอกำลังวางแผนอะไรอยู่ เดรโก เขาถามอย่างเงียบๆ เด็กหนุ่มจ้องเขาโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา 

    ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร มันจะไม่ได้ผล สเนปพูด เดรโกย้อนคิดกลับไปยังคำทำนายของเขา เดรโกแสยะยิ้ม

                โอ่!  แต่ผมว่าคุณคิดผิด  ผมรู้ว่ามันจะได้ผล  ไม่ว่าคุณจะเชื่อผมหรือไม่  ผมควบคุมมันไม่ได้  สเนป  ความจริงยังคงเป็นเหมือนเดิม  ผมกำลังจะไปที่พิธีนั่น และ ถ้าคุณตามผมไปคุณจะถูกฆ่า เมื่อเดรโกพูดจบเซเวอร์รัสมองเขาในขณะที่เด็กหนุ่มวิ่งเข้าไปในป่า   ชักไม้กายยาสิทธ์ออกมา และหายตัวไป เซเวอร์รัสยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม   ความคิดหลายพันความคิดโลดแล่นผ่านเข้ามาในสมองของสเนป เด็กหนุ่มอยู่ฝ่ายมืดจริงอย่างนั้นเหรอ นั่นจะเป็นคำขู่ที่จะเปิดเผยความลับของเขาให้โวลเดอมอร์รู้รึเปล่า หรือนั่นจะแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เซเวอร์รัสรู้สึกว่าเลือดของเขาเย็นยะเยือก เขาคิดฉันต้องไปพบดัมเบิลเดอร์

     

                สเนป รีบวิ่งกลับไปยังปราสาท เร็วพอๆกับที่ขาทั้งสองข้างของเขาจะพาเขาไปได้  ภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเดรโกเมื่อฤดูร้อนที่แล้ว และพฤติกรรมของเขาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา  กำลังแสดงให้เห็นตั้งแต่ต้นจนจบในสมองของเขา  เขาพยายามที่จะรวบรวมทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันในขณะที่เขารีบรุดผ่านทางเดินในฮอกวอตส์  ไม่สนใจเสียงร้องอย่างไม่พอใจของรูปภาพที่ถูกปลุกให้ตื่นในขณะที่เขาเดินผ่าน

    จากนั้น

    อุ๊บ!

    สเนปรู้สึกว่าเขาปะทะเข้ากับร่างหนึ่ง  เขาร้อง และชักไม้กายสิทธิ์ออกมา และพูดพึมพำว่า 

     

    ลูมอส!” สเนป หยุดชั่วขณะเพื่อมองคนที่วิ่งเข้ามาหาเขา   มันทำให้เขาต้องตกใจสุดขีด เมื่อเห็นคนที่พยายามวิ่งอย่างเต็มกำลังเข้ามา ในชุดเสื้อคลุมสลิธีริน ที่ใหญ่กว่าตัว น้ำตาไหลสู่ใบหน้าและในมือถือจดหมายฉบับหนึ่ง คนๆนั้นคือ...เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์

                คุณ เกรนเจอร์ใช่ไหม เซเวอร์รัสถามอย่างลังเล เธอเงยหน้ามองเขาผ่านสายตากระวนกระวาย จากนั้นวิ่งไปข้างหน้า และคว้าด้านหน้าเสื้อคลุมของเขาไว้

                ศาตราจารย์ สเนป  คุณต้องช่วย! เดรโก! เขาจะทำอะไรบางอย่างที่น่ากลัว และฉันยอมไม่ได้ เห็นแก่พระเจ้าเถอะ ได้โปรดช่วยฉัน!!!”  เธอร้องตะโกนด้วยเสียงแหบแห้ง  ดวงตาของ สเนป เบิกกว้าง  ไม่ว่าจะยังไงมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างหัวหน้านักเรียนหญิงและชายแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่ทุบอกของสเนปในทันที  เขาก้มลงมองด้วยความตกใจที่พบว่าเธอกำลังจ้องมองเขาอย่างเกรี้ยวกราด 

    ช่วยฉัน!  ฉันต้องหาเขา!”

                ใจเย็นก่อน คุณเกรนเจอร์--

                ไม่ ฉันจะไม่ใจเย็น! อ่านนี่ซะ!”  เธอส่งจดหมายที่มีรอยยับให้เขาโดยเร็ว และสเนปคว้ามันไปจากเธอ เขาอ่าน...

     

     

    เฮอร์ไมโอนี่ที่รัก,

     

              ก่อนอื่น ฉันอยากจะขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ฉันเคยทำไว้กับเธอ  ฉันไม่รู้จักเธอ และเธอไม่รู้จักฉัน  อย่างไรก็ตามฉันคงจะซาบซึ้งถ้าเธอจะ...ไม่จดจำฉันในแบบนั้น  ฉันเกรงว่าฉันจะไม่มีเวลามากพอ  ดังนั้นจดหมายฉบับนี้คงไม่สามารถอธิบายได้ทุกสิ่ง  ฉันขอโทษสำหรับเรื่องจดหมายนี้ด้วย... ฉันแค่ต้องการแน่ใจว่ะเธอจะได้รู้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เธอทำให้ฉันตกหลุมรักเธอ...  ฉันรู้ว่าเธออาจจะไม่เชื่อฉัน เพราะพวกมัลฟอยจะไม่ตกหลุมรักใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น เดรโก มัลฟอย ด้วยแล้ว แต่มันคือความจริง ที่ฉันตกหลุมรักเธอ...  แต่เฮอร์ไมโอนี่ เธอก็รู้ใช่ไหมว่ามันเป็นไปไม่ได้   รู้ใช่ไหมว่าเธอคู่ควรกับคนที่ดีกว่าฉัน   เฮอร์ไมโอนี่! มันสำคัญที่เธอต้องเข้าใจว่า  เธอคู่ควรกับคนที่ดีกว่า และเธอจะพบคนที่ดีกว่าอย่างแน่นอนที่สุด

              ในตอนที่เธออ่านจดหมายฉบับนี้ ฉันอาจจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว  นั่นไม่ได้หมายความว่าจดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายลาตาย  พวกมัลฟอยไม่ฆ่าตัวตาย เธอเข้าใจไหม ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าตัวเอง แต่ฉันต้องฆ่าพวกเขาทั้งหมด ฉันเดาว่าเธอจะเข้าใจในไม่ช้า  พวกเขาสมควรที่จะถูกลงโทษ และทางเดียวที่ฉันจะทำได้คือ การที่ฉันต้องตายไปกับพวกเขาด้วย  เขาล้ำเส้นกับแม่ของฉัน  เฮอร์ไมโอนี่ ไม่มีใครที่จะฆ่ามัลฟอย และหนีพ้นไปได้   

    ถ้ามันจะทำให้เธอรู้สึกดีกว่า ฉันคงไม่ทำแบบนี้ และอยู่กับเธอตลอดไป   แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันกำลังทำ มันใกล้เข้ามา  ฉันมาไกลเกินไปแล้วในตอนนี้และฉันปฏิเสธโอกาสนี้ไม่ได้

              พยายามทำคริสต์มาสให้มีความสุข   รู้ไว้นะว่า เธอจะไม่ต้องหวาดกลัวผู้เสพความตาย หรือโวลเดอมอร์อีกต่อไป     ไปสงครามปาหิมะนั่น! และเอาชนะให้ได้   ใครจะรู้! บางทีฉันอาจจะอยู่ที่นั่นกับเธอด้วยจิตวิญญาณของฉัน...

     

    เดรโก,

    ...ฉันรักเธอ เฮอร์ไมโฮนี่

               

    เสนป ปล่อยจดหมายล่วงหล่นลงจากมือที่กำลังสั่นของเขาโดยไม่ทันสังเกต  ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่คว้ามันไว้ได้ทัน และกำจดหมายไว้แนบอกของเธออย่างหวงแหน

                ทีนี้คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม!” เฮอร์ไมโอนี้พูด เธอร้องเสียงแหลม น้ำตายังคงไหลลงสู่ใบหน้า ดวงตาของเธอบวมช้ำเพราะเธอร้องไห้ไม่หยุด

    เราต้องหยุดเขา สเนป สบตาที่เป็นทุกข์ของเธอพอดี ใบหน้าของเขาที่ดูเศร้าซึมสะท้อนให้เห็นจากในดวงตาของเธอ

                เราจะไปหาดัมเบิลดอร์

    ***

                เฮอร์ไมโอนี่ วิ่งอยู่ข้างๆสเนป เขาวิ่งเร็วเสียจนน่าประหลาดใจ  ด้วยความหวังน้อยนิดที่จะได้รับความช่วยเหลือจาก ดัมเบิลดอร์ได้ทันเวลา   เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆ เดรโกทำเรื่องเช่นนี้ได้ยังไง เขาวางแผนมานานแล้วใช่ไหม นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่เขาหลับนอนกับเธอหรือเปล่า หรือเพราะเขารู้ดีว่า ตัวเองจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับผลที่ตามมา หลังจากนี้ใช่หรือไม่ หรือเพราะเดรโก รู้ดีว่าเขาคงจะไม่ต้องลงเอยกับเธอไปตลอด!    เขาพูดว่าเขารักเธอ...แต่ความสงสัยที่คอยทิ่มแทงฉีกหัวใจของเธออย่างไม่ผ่อนผัน และมันไปถึงจุดที่เธอสงสัยว่า...เธออาจจะล้มลงเจ็บแทบตาย เพราะความเจ็บปวดนี้   มันไม่แค่การที่เขาจากไปและฆ่าตัวเอง แต่ทั้งหมดนี้มันรวมถึงเธอด้วย...   ถึงแม้ว่าทุกๆสิ่งในจดหมายจะเป็นเรื่องโกหก แต่ความจริงที่ยังคงอยู่คือ เธอรักเขา...

               

    อาจารย์ใหญ่ครับ!  เดรโกไปพิธีแนะนำตัวของพวกผู้เสพความตาย และเขาบอกให้ผมอยู่ที่นี่  อาจารย์ใหญ่ ผมกลัวว่าเขากำลังวางแผนทำบางอย่างที่น่ากลัว  ด้วยวิธีใดก็ตาม เดรโก ตั้งใจจะฆ่าโวลเดอมอร์ และทาสรับใช้ของโวลเดอมอร์ในเช้านี้  และเขาวางแผนที่จะตายไปกับพวกนั้นด้วย เรื่องราวทั้งหมดนี้ออกมาจากปากของอาจารย์วิชาปรุงยาอย่างรวดเร็ว และเฮอร์ไมโอนี่เข้าใจว่า เขาห่วงใยเดรโกจริงๆ มันเป็นสิ่งแรกที่เธอเคยมีร่วมกันกับเขา ดัมเบิลดอร์พยักหน้าอย่างอ่อนแรง แต่ไม่ได้ดูแปลกใจเลย   เฮอร์ไมโอนี่คิ้วขมวด เธอครุ่นคิด...บางอย่างไม่ถูกต้อง

                เขาไปแล้วใช่ไหม ดัมเบิลดอร์ถามด้วยเสียงแหบแห้ง เป็นอีกครั้งสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ ที่มันฟังดูเหมือนว่าดัมเบิลดอร์รู้แล้ว   แต่มันเป็นครั้งแรกที่ เฮอร์ไมโอนี่ ไม่ไว้ใจดัมเบิลดอร์ นับตั้งแต่ที่เธอรู้จักอาจารย์ใหญ่... 

                ใช่ครับ สเนป ตอบโดยเร็ว

    ผมไม่รู้จะทำยังไง ผมแค่ปล่อยเขาไป...  ผมไม่รู้ว่าเขาจะทำหรือมีแผนการอะไร จนกระทั่งผมพบคุณเกรนเจอร์ตรงทางเดิน ดัมเบิลดอร์พยักหน้า และเอนหลังผิงกับเก้าอี้ เขาจ้องมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่อย่างตั้งใจ

                ถ้าข้อสงสัยของฉันถูกต้อง! ไม่มีอะไรที่เราจะทำได้เลยจริงๆ   มันสายเกินไปแล้ว ฉันเสียใจ

    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่า ทุกสิ่งรอบๆตัวเธอกำลังถล่มลงมา และรู้สึกเลือดขึ้นหูด้วยความโกรธ  ดับเบิลดอร์!   อัลบัส  ดัมเบิลดอร์ผู้ยิ่งใหญ่...   คนที่อยู่เพื่อช่วยเสมอ... จะแค่ปล่อยให้เดรโกตาย! อย่างนั้นเหรอ  อารมณ์ของเฮอร์ไมโอนี่เริ่มเดือด

                คุณหมายความว่าอย่างไร ที่ว่าไม่มีอะไรที่คุณทำได้!  ถ้านี่เป็นแฮร์รี่ คุณคงจะรีบออกจากเก้าอี้ห่วยๆนั่น ตามหาเขาไปในเสี้ยววินาที!”  เธอกล่าวหาอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาของเธอเป็นประกายแสงวาบด้วยความอันตราย   สเนป มองเธอด้วยความแปลกใจ เขาไม่เคยได้ยินเธอพูดแบบนั้น นับตั้งแต่ที่เขารู้จักเธอ และคิ้วของดัมเบิลดอร์พันกันยุ่ง

                คุณเกรนเจอร์ ฉันเสียใจที่เธอคิดแบบนั้นกับฉัน แต่ฉัน...เฮอร์ไมโอนี่แทรกโดยการทุบกำปั้นลงบนโต๊ะอาจารย์ใหญ่

                ฉันไม่สนว่าคุณจะเสียใจแค่ไหน! ดัมเบิลดอร์ คุณปล่อยให้เดรโกตายไม่ได้!!” เฮอร์ไมโอนี่ยกมือที่กำลังสั่นสะท้าน ขึ้นมาปาดน้ำตา

    ได้โปรดเถอะ!  ศาตราจารย์ หนูรักเขามากเหลือเกิน ดัมเบิลดอร์จับคางของตัวเองเพื่อครุ่นคิดหาทางออก

    คุณเกรนเจอร์ มีบางสิ่งที่ดีที่สุด ถ้าเราไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง

    และนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนี่เข้าใจในฉับพลัน การเดินทางลึกลับ  บทเรียนทั้งหมดที่เขาให้แก่เดรโกนับตั้งแต่คืนที่เดรโกกลายเป็นผู้มองเห็นอนาคต  ดัมเบิลดอร์ฝึกเขา

     ...เพราะดัมเบิลดอร์เป็นผู้มองเห็นอนาคตเช่นกัน

    เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยชิงชัง และโมโหเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต  ดัมเบิลดอร์รู้มาตลอดว่า       เดรโก จะทำเรื่องนี้และเต็มใจปล่อยให้เขาสละชีวิตตัวเองเพื่อกำจัดโวลเดอมอร์  ดีล่ะ แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เต็มใจอย่างแน่นอน   เป้าหมายไม่สนับสนุนวิธีการ และเธอจะไม่ละทิ้งชายที่เธอรักเมื่อเธอเพิ่งจะได้เขามา! อย่างแน่นอน ด้วยการมองครั้งสุดท้าย เฮอร์ไมโอนี่หันหนี และรีบออกไปจากห้องทันที

    @@@@@@@@
    สเนปมองอย่างตกตะลึง ขณะที่นักเรียนคนโปรดของอาจารย์ใหญ่แห่งฮอกวอตส์หุนหันออกไปจากห้องทำงาน หลังจากตำหนิดัมเบิลดอร์อย่างแจ่มแจ้ง โชคร้ายที่เขาไม่อาจพูดได้ว่าเขาไม่รู้สึกตำหนิเธอเลย เธอพูดถูก เขาหันไปหาเพื่อนเก่าอย่างสับสน

    อัลบัส ถึงแม้ว่าผมจะเคารพคุณ แต่มันช่วยไม่ได้ที่ผมรู้สึกเห็นด้วยกับคุณเกรนเจอร์   ถ้านี่เป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์ แน่นอนว่าคุณต้อง...

    เซเวอร์รัส ฉันมีเหตุผลในสิ่งที่ฉันกำลังทำ ในตอนนี้ฉันอยากให้คุณตามหาคุณเกรนเจอร์ และแน่ใจว่าเธอจะไม่ทำในสิ่งที่เธอจะต้องเสียใจภายหลัง สเนปเปิดปากพูดอีกครั้ง แต่ดัมเบิลดอร์ ยกมือขึ้นห้ามปรามเขา

    ได้โปรด เซเวอร์รัส ไปตามเธอ 

    สเนปพยักหน้า และ เดินออกไปจากห้องทำงานของดัมเบิลดอร์ อย่างขับข้องใจ  สเนปคิด... เขาจะทำอะไรถ้าเขาเป็นเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์...  ปลุก พอตเตอร์ และวีสลีย์  นั่นหมายความว่าเธอต้องมุ่งหน้าไปตึกกริฟฟินดอร์ใช่ไหม  สเนป ไม่สนร่างกายที่เหนื่อยอ่อนของเขา  เขาเร่งความเร็วผ่านทะลุทางเดินต่างๆในฮอกวอตส์อีกครั้ง   เขาต้องหยุดเด็กสาวคนนั้น  ไม่เพียงแค่เด็กสามคนจะทำในสิ่งที่แย่ถ้าพวกเขารวมตัวกัน แต่มิเนอร์ว่า  จะฆ่าเขา!ด้วย

    ในฉับพลัน แสงวาบสีเขียวจับตาของเขา และก่อนทีเขาจะรู้ว่ามันคืออะไร  เขาถึงตัวเฮอร์ไมโอนี่แล้ว เขากระพริบตาด้วยความประหลาดใจ เธอกำลังรอเขาอยู่ 

    สเนป คุณรักเดรโกเหมือนกันใช่ไหม เด็กสาวผมรุงรังกล่าวอย่างสงบ   สเนป สับสนเล็กน้อยกับข้อคิดเห็นนี้อย่างเงียบๆ จริงอยู่ เขาห่วงใยเด็กหนุ่มนั้น แต่...

    อย่าได้ปฏิเสธมัน เห็นได้ชัดว่าคุณคิดว่าเขาเป็นลูกชายที่คุณไม่เคยมี บอกฉันที คุณจะปล่อยให้เขาตายเหมือนกับที่ดัมเบิลดอร์ทำเหรอ หรือคุณคิดว่าเขามีค่าที่จะอยู่หรือตายมากกว่ากันล่ะ

    เธอท้าทายความคิดของสเนป  ดวงตาของเธอลุกโชนด้วยความโกรธของกริฟฟินดอร์  สเนป คิดและรู้คำตอบของเขาในทันใด 

    ฉันต้องการให้เขา มีชีวิตอยู่ เขาพูดเสียงเบาราวกระซิบและปิดตาลง

    มีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน!” เขาเปิดตาขึ้นอีกครั้ง

    อย่างไรก็ตาม คุณเกรนเจอร์ ถ้าศาสตราจารย์ไม่เห็นทางที่จะป้องกันความตายของเขา ณ ตอนนี้แล้ว ... เฮอรไมโอนี่โบกมือไม่เห็นด้วยให้เขา

    นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดัมเบิลดอร์คิด   เขาแค่คิดว่ามันจะดีกว่าที่จะสูญเสียเดรโกไปพร้อมกับโวลเดอมอร์   ดีกว่าที่จะเก็บเดรโกไว้     โดยส่วนตัวแล้ว หนูบอกได้เลยว่าถ้าดัมเบิลดอร์ต้องการให้โวลเดอมอร์ตาย และไม่มีทางใดที่เขาจะทำมันได้ เมื่อดัมเบิลดอร์รู้ทุกสิ่ง เขาก็จะปล่อยให้เดรโกทำมัน!  แต่สิ่งที่หนูหมายถึงก็คือในขณะเดียวกันนี้ เราก็น่าจะไปช่วยเดรโก ไม่ใช่ปล่อยเขาทำไปเพียงลำพัง สเนปครุ่นคิด สิ่งที่เด็กสาวพูด และดูเหมือนว่าอัลบัสจะตัดสินใจมาก่อนแล้วจริงๆ...
                สเนปพยักหน้า
    มากับฉัน

     

    ****

               

    เดรโก มัลฟอย เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งส่งเสียงขู่ผ่านค่ำคืนที่แสนหนาวเหน็บ   เดรโกสูดลมหายใจลึก และเดินตรงไปกลางที่โล่ง หลังจากจ้องโวลเดอมอร์ชั่วครู่  เดรโกยิ้มอยู่ในใจและคุกเข่าลงตรงหน้าเขา เจ้าแห่งศาสตร์มืดไม่ได้รู้เลยด้วยซ้ำว่าอันตรายอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกของเขา  แปลกทีเดียวที่เดรโกไม่ได้ประหม่าในจุดนี้เลย  มันก็แค่พูดคำบางคำ และโบกไม้กายสิทธิ์ของเขา....

                เจ้าพร้อมที่จะอุทิศตัวให้แก่ข้าไหม  เจ้าหนุ่มมัลฟอย เดรโกเงยหน้ามองเขาและแสยะยิ้ม

                ไม่ ไม่มีทาง ใบหน้าของโวลเดอมอร์มืดมิดและเหล่าผู้เสพความตายรอบๆตัวเขา อ้าปากค้าง  เดรโกไม่สนใจ เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ของเขาออกมา

                ซิโน—“

                เดรโกรู้สึกว่าเวทมนตร์เริ่มทำให้ทั้งร่างของเขาเจ็บแปลบๆ มันเหลือเชื่อ  เขารู้ว่าเวทมนตร์ของพ่อมดเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขามาตลอด แต่เขาเพิ่งรู้สึกถึงพลังของมันจริงๆในตอนนี้ และมันไหลผ่านเข้าไปในสายเลือด....

                เลตัม

                ขณะนี่เดรโกรับรู้ถึงแสงเรืองรองสีเขียวซึ่งเริ่มห่อหุ้มตัวเขา ดาวเริ่มสว่างจ้าขึ้นในทันใด  เหล่าผู้เสพความตายใกล้เข้ามามากขึ้น  ลมเย็นขึ้น....

                อิเน...

                เดรโก!!!” เดรโกหยุดคาถาในทันใด ความสะพรึงกลัวเกิดขึ้นในท้องของเขา ในขณะที่เขาจำเสียง...ที่เรียกเขาได้

    เฮอร์ไมโอนี่!”

                ฆ่าเธอซะ...แกมันโง่!”  ผู้เสพความตายคนหนึ่งพูด  ฟังเสียงดูเหมือน วินเซนต์ แครบ ร้องตะโกนขึ้น   เดรโกเงยหน้าขึ้นมองด้วยความหวาดกลัว และพยายามเล็งไม้กายสิทธิ์ของเขาให้เร็วพอที่จะช่วยเด็กสาวกริฟฟินดอร์ที่มุ่งมั่นของเขา  เมื่อเสียงตะโกนอย่างมุ่งร้ายดังมาจากเสียงที่คุ้นเคย และตามมาด้วยแสงวาบสีเขียว   ผู้เสพความตายที่เดรโกจำได้ว่าต้องเป็นพ่อของแครบล้มลงสู่พื้นหญ้าอย่างสงบเงียบ 

                เอกซ์เปลลิอาร์มัส!” โวลเดอมอร์ตะโกน   ในฉับพลันไม้กายสิทธิ์ของเดรโกลอยจากมือของเขาไปสู่มือของเจ้าแห่งศาสตร์มืดทันที   โธ่ เว้ย!’  เขาคิด  อย่างน้อยที่สุด ยังมีคนช่วยเธอไว้ได้...   เขาเหล่ตาและเหลือบมองไปทางด้านขวาเพื่อมองว่าใครที่ช่วยชีวิตคนรักของเขา  ตรงหน้าหญิงสาวผมรุงรัง (ที่ยังคงสวมเสื้อคลุมสลิธีรินของเขา) คือศาสตราจารย์ เสนป  ตั้งแต่ตอนที่พ่อของแครบล้มลง  อาจารย์วิชาปรุงยาเหวี่ยงแขนของเขาไปด้านข้าง และเล็งไม้กายสิทธิ์ของเขาไปที่โวลเดอมอร์  ไม่มีใครกล้าขยับหรือส่งเสียงใดๆ  ความตึงเครียดปกคลุมไปทั่วบริเวณ

                โวลเดอมอร์ที่มีอารมณ์ขันอย่างมาก หลังจากการปรากฏตัวจากเพื่อนรัก ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ และผู้เสพความตายที่ทรยศ  เขาไม่รู้สึกกลัวพอที่จะหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมา  ในฉับพลันเสียงหัวเราะอย่างเย็นชาของชายที่มีใบหน้าคล้ายงูดังไปทั้งการชุมนุม

    เซเวอรัส สเนป และเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เขาส่งเสียงขู่พร้อมกับยิ้มอย่างเป็นสุขจากการทรมานผู้อื่น

                ข้าดีใจที่ได้เห็นพวกเจ้าเข้ามาขัดจังหวะ สเนปไม่ขยับเขยื้อนเพื่อตอบโต้ใดๆ และเฮอร์ไมโอนี่มัวแต่จ้องไปที่เดรโก   โวลเดอมอร์เอียงศีรษะไปด้านข้าง และในที่สุดยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นและเล็งไปที่หน้าผากของเดรโก

    และเจ้า!   มัลฟอย เจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ  เจ้าคงจะได้เป็นผู้เสพความตายที่ยอดเยี่ยมในวันหนึ่ง แต่เจ้ากลับยืนกรานที่จะทรยศต่อข้าในทุกครั้ง!” โวลเดอมอร์ตะโกน ดวงตาอันน่าสยดสยองของเขาฉายวาบอย่างเป็นภัย เดรโกจ้องเจ้าแห่งศาสตร์มืดอย่างท้าทาย เพราะเดรโกหวังที่จะซื้อเวลาให้กับเฮอร์ไมโอนี่ เพื่อให้เธอได้สติและจากไปมากกว่า เขาไม่ต้องการให้เธอพิสูจน์อะไรอีกแล้ว   เดรโกต้องการให้เธอไป...

                เอาล่ะ ยังกับว่าความภักดีมีอยู่ติดตัวพวกสลิธีรินอย่างนั้นแหละ เดรโกตั้งคำถามพร้อมกับแสยะยิ้ม

    ท่านดูค่อนข้างจะประหลาดใจ และตลกขบขันขันอย่างไม่น่าเชื่อ เดรโกพูด ใบหน้าของโวลเดอมอร์มืดมิด

                อันที่จริง เขาร้องคำราม

    มันยังน่าประหลาดใจ และน่าขันที่สุด ที่สหายของเจ้าช่างโง่เขลามาช่วยเจ้า และเหตุผลที่เจ้าจะตายในมือของข้าในตอนนี้

     

    ***

     

    ห่างออกไป 20 ฟุต สเนป ยื่นมือหนึ่งที่ยังคงชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่โวลเดอมอร์ อีกมือหนึ่งยึดแขนของเฮอร์ไมโอนี่ไว้อย่างมั่นคงเพื่อป้องกันเธอจากการทำอะไรใดๆ ที่หุนหันพลันแล่น   

    ไม่ เธอร้องเสียงแผ่วเบาอย่างหมดหวัง น้ำตาแห่งความโกรธไหลรินลงสู่ใบหน้าของเธอ

                อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นเธอจะถูกฆ่านะ สเนป พูดพึมพำจับเธอไว้แน่นอย่างกระวนกระวาย   ความวิตกกังกลต่างๆปลดปล่อยในตอนนี้แล้วอย่างสิ้นเชิง

    ฉันรู้ว่าเธออยากช่วยเขา แต่เรายากที่จะเอาชีวิตรอดไปได้ อย่าทำอะไรโง่ๆอีก พวกเขามองอย่างหมดหวัง ในขณะที่โวลเดอมอร์ยิ้มและเริ่มร่ายมนตร์

                ไม่!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงแหลม ก่อนที่ เสนป จะทันทำอะไรได้ เธอก็เป็นอิสระเสียแล้ว

                โธ่เอ้ย!” ศาสตราจารย์สบถแล้ววิ่งตามเธอไป และใช้อวาดา เคราฟร้า กับทุกๆคนที่ขวางทางเขา สเนปอาจจะไม่สามารถทำอะไรเพื่อทำให้สถานการณ์นี้ดีขึ้นได้ในตอนนี้ แต่เขาก็ได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว

    ***

                เดรโกเห็นรอยยิ้มซาตาน บนใบหน้าของโวลเดอมอร์ และเขารู้ว่าเวลาของตัวเองกำลังหมดลงแล้ว  เขาปิดตารอคอยคาถาซึ่งจะโจมตีเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เมื่อเสียงกรีดร้องดังขึ้น   เฮอร์ไมโอนี่! โอ้ เมอร์ลิน ไม่!’  เดรโกคิด เขาเปิดตา และหันไปมอง เห็นเธอกำลังวิ่งตรงมาที่เขา เดรโกคิดอย่างรวดเร็ว และยกมือขึ้นและชี้ไปที่เธอ หวังว่าเธอคงจะเข้าใจในภายหลัง  มีคาถาหนึ่งที่ดับเบิลดอร์สอนเขาซึ่งเป็นคาถาที่ผู้มองเห็นอนาคตจะสามารถส่งใครก็ตามไปที่ไหนก็ได้ที่อยากให้พวกเขาไป ด้วยคำพูดคำหนึ่งและความคิดครั้งหนึ่ง  แต่เขาไม่เคยใช้มันมาก่อน 

                ทรานสปอร์ทีโอ!” เขาตะโกน ภาพสถานที่แรกที่เข้ามาในความคิดของเขาคือห้องของเขาที่คฤหาสน์มัลฟอย ดวงตาของเดรโกเบิกกว้างด้วยความโล่งใจในขณะที่เด็กสาวหายตัวไปในทันที โวลเดอมอร์หยุดร่ายคาถาเพราะความสับสนอย่างเต็มที่ในเสี้ยววินาทีนั้น

    นั่นเป็นช่วงเวลาทั้งหมดที่เดรโกต้องการ   พลังของเขาคืนกลับมาเพราะการรับรู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ปลอดภัยแล้ว  เขาฉวยโอกาสอันน้อยนิดเพียงครั้งสุดท้ายกระโดดไปข้างหน้าคว้าไม้กายสิทธิ์ของเขาจากมือที่หุ้มกระดูกของโวลเดอมอร์ออกมา   ก่อนที่ใครจะทันเข้ามาแทรก เดรโกร้องตะโกน ซิโน เลตัม  อิเนโอตัส!”

    มันเหมือนกับครั้งแรกที่เขาพยายามใช้คาถา มัลธัส อะบิ  ความรู้สึกเจ็บแปลบแบบเดิม  แสงสีเขียวเหมือนเดิม และความรับรู้ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดแบบเดิม  และต่อไปคือส่วนที่เลวร้าย 

    ความรู้สึกเจ็บแปลบซึ่งเคยเป็นมาก่อน  ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเริ่มแผ่ไปทั่วทั้งแขนและขาของเดรโก   เขารู้สึกถึงเวทมนตร์ที่ไหลออกมาจากเลือดภายในร่างกายของเขาอย่างแท้จริง และมันสะสมลูกทรงกลมของพลังที่อยู่กลางหน้าอกของเขา    เขาได้ยินเสียงชายคนหนึ่งกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ฟังคล้ายกับว่ามันดังมาจากปลายอุโมงค์ที่มีความยาว และเดรโกรับรู้ได้อย่างคลุมเครือว่ามันเป็นเสียงของเจ้าแห่งศาสตร์มืด   เวทมนตร์แพร่กระจายออกไปในรูปคลื่นพลังคล้ายวัตถุระเบิด และมันฆ่าทุกๆคนในบริเวณนั้น

    เดรโกล้มลงสู่พื้นดิน

    หัวใจน้ำแข็งที่ละลายแล้วของเขาไม่เต้นอีกต่อไป...

     

    ++++++++++++++++++++


    เอาล่ะค่ะเรื่องนี้เหลือตอนสุดท้ายิีกหนึ่งตอนเท่านั้น ตอนสุดท้ายค่อนข้างยาวมากเลยไม่รู้ว่าจะตัดแบ่งออกเป็นสองตอนหรือเปล่า เดี๊ยวขอดูอีกทีนะค่ะแต่ถ้าไม่มีอะไรขัดข้องอาจจะเอาลงให้อ่านจนหนำใจไปเลยแบบ non-stop ไปเลยก็ได้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×