ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    And we were then brought together - [ dramione ]

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 7 : Like flowers blooming in a lonely field

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.96K
      181
      22 ต.ค. 62

    Chapter 7
    Like flowers blooming in a lonely field





         " นายต้องล้อฉันเล่นเเน่ๆ มัลฟอย ไม่มีใครหย่ากันเพราะแค่หมาหายหรอก "

     

         หลังจากสิ้นเสียงหัวเราะของเขาและเธอ เฮอร์ไมโอนี่ก็ถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม เธอไม่เชื่อหรอก ว่าเรื่องเพียงเรื่องเดียวจะทำให้เดรโกถึงกับต้องหย่าขาดกับแอสโทเรีย

     

         " ถูกของเธอ เเรกๆฉันยอมรับเลย ว่าเธอเป็นภรรยาที่น่ารักมาก เเต่ฉันไม่ได้รักเธอน่ะสิ จากนั้นเธอก็สร้างปัญหาให้ฉันตลอด อย่างเเอบยักยอกเงินบริษัท หรือพยายามจะสาปเเม่ฉัน เเต่ฟางเส้นสุดท้ายคือเธอเอาลูกฉันไปปล่อยนั่นล่ะ " เดรโกพยักหน้าตอบรับคำเฮอร์ไมโอนี่ เเละเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เฮอร์ไมโอนี่ฟัง ครั้งเเรกในชีวิตเลยทีเดียวที่เขาอ้าปากเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาเองให้คนอื่นฟัง

     

         " เอาไปปล่อย? " เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างอย่างตกใจกับสิ่งที่พึ่งรับรู้ เเต่ละอย่างที่เดรโกบอก เธอไม่รู้จะตกใจเรื่องอะไรก่อนดี เธอเคยได้ยินวีรกรรมต่างๆของพี่น้องกรีนกราสมาบ้าง ตอนที่ยังเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์ สองพี่น้องคู่นี้เรียกได้ว่าเป็นตัวป่วน เเละค่อนข้างจะน่ารำคาญในสายตาของเด็กนักเรียนทุกคน เเต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่คิดว่ากรีนกราสคนน้องจะนิสัยเเย่จนแทบกู่ไม่กลับขนาดนี้

     

         " ช่าย เเบบที่เธอเข้าใจนั่นล่ะ ยัยนั่นเอาไปปล่อย เเถมยังถอดปลอกคอที่สลักชื่อกับเบอร์ติดต่อของเลขาฉันทิ้งไปด้วย " เดรโกเอ่ยเสียงยานคาง พลางจิบโกโก้อีกอึก เขานั่งท่าสบายๆ ทั้งๆที่เรื่องต่างๆไม่น่าใช่เรื่องที่ดูสบายใจได้สำหรับเขาเลย

     

         " เเล้วนายรู้มั้ยว่าเธอเอาไปปล่อยที่ไหน " เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว แววตาขำขันของเธอเปลี่ยนไปเป็นแววตาจริงจัง

     

         " ยัยนั่นบอกกับฉันว่า ไปปล่อยไว้ที่โลกมักเกิ้ล เเละไม่ยอมบอกอะไรฉันอีก ฉันน่ะแทบพลิกแผ่นดินหา เเต่ก็ไม่เจอซักที " เดรโกถอนหายใจอย่างหนักใจ เเละกรอกตาอย่างเซ็งๆ

     

         " ฉันขอโทษที่หัวเราะ " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงอ่อย ในตอนเเรกมันก็ขำอยู่หรอกนะ เเต่เมื่อได้รู้เรื่องราวเบื้องหลังจริงๆ เธอก็ถึงกับขำไม่ออก

     

         " ก็ถ้าเทียบเรื่องของเธอ เรื่องของฉันมันก็น่าขำจริงๆนั่นเเหละ ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดนี่ " เดรโกยิ้มบางส่งให้เธออย่างปลอบใจ พร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ บอกเป็นนัยๆว่ามันไม่เป็นอะไร ราวกับมีคนตีกลองในอกของเฮอร์ไมโอนี่ หัวใจของเธอเต้นเเรงเหมือนจะกระเด็นออกจากอกเสียให้ได้ ท่าทางอบอุ่นเเละเข้าใจเธอของคนตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกหวามในอก เฮอร์ไมโอนี่สะบัดหัวไล่ความคิด พลันตัดสินใจเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง เพื่อเป็นการเเลกเปลี่ยน

     

         " ฉันเคยเลิกกันรอนมาครั้งนึงเเล้วล่ะ " เสียงหวานของเฮอร์ไมโอนี่ เรียกความสนใจของร่างสูง ให้ละสายตาจากต้นคริสมัสต้นใหญ่มามองเธอ เดรโกเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ เเต่ไม่ได้พูดอะไรเเทรก พลางยกโกโก้ร้อนขึ้นจิบอีกครั้ง เห็นอย่างนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงว่าต่อ

     

         " ฉันเลิกกับรอนหลังจากจบการศึกษาปีเจ็ด ต่อมาฉันก็ได้ทำงานที่กระทรวงอยู่ประมานสองปี หน้าที่การงานของฉันกำลังไปได้ดีเชียวล่ะ เเละฉันก็ได้เจอรอนอีกครั้ง เราตกลงกลับมาคบกันอีก เเละหลังจากนั้นสองปีก็ตัดสินใจเเต่งงานกัน ตอนนี้ฉันก็ยังทำงานให้กระทรวงนะ เเต่เเค่ภารกิจเล็กๆน่ะ " เฮอร์ไมโอนี่ยกช็อคโกเเลตร้อนขึ้นจิบบ้าง ใบหน้าสวยยังคงมีรอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้น ราวกับเธอกำลังระลึกถึงความหลัง 


         เดรโกเบ้ปากเล็กน้อย ตอนที่พูดถึงงานที่กระทรวง เขารู้ได้ทันทีว่าเธอเสียดายหน้าที่การงานนั่น คำว่าไปได้ดีที่เธอว่าน่ะ มันหมายถึงไปได้ดีสุดๆเลยล่ะ เพราะเขาได้ข่าวจากวงในมา ว่าเธอถูกวางไว้ให้เป็นรัฐมนตรีคนใหม่ของกระทรวงเชียว เเต่ด้วยเหตุผลอะไรซักอย่าง เธอเลือกที่ถอยไปรับงานเล็กๆ นั่นทำให้เธอชวดตำเเหน่งใหญ่โตนั่นไป เดรโกยกมือขึ้นเท้าคางอย่างใช้ความคิด เเต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป เเละรอฟังเรื่องราวต่อจากนั้น

     

         " ในตอนเเรกรอนไม่เป็นเเบบนี้หรอกนะ เขายังโอเคเเละเรายังสามารถที่จะปรับตัวเข้าหากันได้ เเต่หลังๆมานี่รอนเปลี่ยนไปมาก อาจจะเครียดหรืออะไรฉันก็ไม่รู้ เพราะเราไม่เคยพูดคุยกันดีๆได้เลยน่ะ " เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบางๆให้เดรโกอีกครั้งก่อนจะเบือนหน้าออกไปมองต้นคริสมัสที่ลานกว้าง บรรยากาศดีๆของเทศกาลทำให้ใจของเธอกระชุ่มกระชวยขึ้น

     

         " ให้ตายสิเมอลิน อดีตของเรามันน่าขมขื่นเสียจนฉันอยากหัวเราะให้ขาดใจตายไปเลย " เดรโกที่เงียบฟังอยู่นานเอ่ยขึ้น สองสายตาสบประสานกันอีกครั้งก่อนจะหัวเราะให้กันเบาๆ รอยยิ้มของทั้งสองที่ส่งให้กัน ต่างตรึงใจอีกฝ่ายจนไม่มีใครอยากละสายตาไป

     

         เเต่เเล้วเสียงนับถอยหลัง ก็ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยกำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า สายตาสองคู่เบือนออกไปมองต้นคริสมัสพร้อมกัน บนท้องฟ้ามืดปรากฎนาฬิกาบอกเวลานับถอยหลัง ทั้งสองพึมพัมนับถอยหลังในใจ

     

         5

     

         4

     

         3

     

         2

     

         1

     

         " ปีใหม่เเล้วขอให้เธอเจอเเต่เรื่องดีๆนะ เกรนเจอร์ "

     

         เดรโกไวกว่า เขาเอ่ยอวยพรเฮอร์ไมโอนี่ทันทีที่นาฬิกาบนฟ้าปรากฏเลข 00.00 ใบหน้าแหลมยิ้มกว้างให้เธออย่างเป็นมิตร เเสงสว่างจากพลุหลากสีจุดขึ้นฉลองวันใหม่ ตกกระทบเข้าที่ใบหน้าขาวของร่างสูง ที่นั่งยิ้มให้เธออยู่ฝั่งตรงข้าม ราวกับทั้งโลกหยุดเคลื่อนไหว เเละเสียงทุ้มนุ่มก็ดังกังวาลอยู่ในหัวของเธอซ้ำไปซ้ำมา สายตาของเฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถละไปจากใบหน้าดูดีนั่นได้

     

         " เกรนเจอร์? " เดรโกเอ่ยเรียก พลางเอื้อมมือไปโบกๆตรงหน้าเธอ เห็นร่างสูงตรงหน้าชะงักเเละเงียบไป 

     

         " นายก็เหมือนกัน มัลฟอย สุขสันต์วันปีใหม่นะ " เมื่อเฮอร์ไมโอนี่หลุดของจากภวังค์ ก็รีบอวยพรร่างสูงกลับไป เดรโกได้ยินเเบบนี้ก็ยิ้มบางๆ พลางส่ายหัวน้อยๆ ท่าทางดูดีเหล่านั้นช่างร้ายกาจนัก หัวใจของเธอเเทบจะกระเด็นออกจากอกมาเต้นซุมบ้าอยู่บนโต๊ะ

     

         ร้ายกาจ! มัลฟอยน่ะร้ายกาจที่สุด!

     

         "ทำไมวันนี้นายถึงทำดีกับฉันนักล่ะ " เฮอร์ไมโอนี่ถาม พลางขมวดคิ้วจริงจัง

     

         " วันนี้วันปีใหม่นะ ฉันไม่อยากให้มีอะไรเเย่ๆเกิดขึ้นในวันปีใหม่หรอก " เดรโกเพียงเเค่เลิกคิ้วใส่เธอ เหยียดปากคว่ำลงเล็กน้อยเเละตอบกลับ ก่อนที่นัยตาสีเฮเซลจะเหลือบเห็นร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับคว้าสูทขึ้นมาสวม ทำให้เธอต้องรีบลุกขึ้นยืนเเละคว้าเสื้อโค้ทมาสวมตาม

     

         " เธอจะกลับเลยมั้ย " ร่างสูงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบในขณะที่มือผอมของเขากำลังจัดเสื้อสูทให้เข้ารูปเรียบร้อย

     

         " เเล้วที่นี่มีอะไรอีกล่ะ " เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบๆอย่างสนใจ

     

         " ก็ไม่มีอะไรเเล้ว เดี๋ยวพอทุกคนเริ่มแยกย้าย ร้านค้าก็จะปิดกันหมด " เดรโกส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะก้าวออกมาจากโซนร้านขนมปัง เมื่อหลุดออกจากข่ายเวทมนต์ ลมหนาวประจำฤดูก็พัดมาทักทายร่างสูงทันที จนเขาต้องสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกง

     

         " งั้นฉันกลับเลยเเล้วกัน " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้ร่างสูงที่ยืนมองเธอด้วยสายตานิ่งๆ ให้ตายเถอะ เธอคิดว่าวันนี้คงเป็นวันที่เธอยิ้มบ่อยที่สุดในรอบสองสามปีมานี้ เเถมที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือเธอสามารถนั่งคุยนั่งยิ้มกับมัลฟอยได้เป็นชั่วโมงๆ

     

         สิ้นเสียงของเฮอร์ไมโอนี่ เดรโกก็พยักหน้าน้อยๆรับคำ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เห็นดังนั้นก็ตั้งสมาธินึกภาพห้องอพาร์ทเมนต์ เเต่ก่อนจะหมุนวนหายไปอากาศ ตาโตเหลือบเห็นร่างสูงยิ้มร้าย ยกมือขึ้นมาโบกมือบ๊ายบายเธอ พร้อมกับเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

     

         " กลับบ้านดีๆล่ะ เกรนเจอร์ "

     

         ให้ตาย! เห็นมั้ยล่ะ! ฉันบอกเเล้วว่าเขาน่ะร้ายกาจ!

    .

    .

    .

    .

     

         เมื่อเดรโกเห็นร่างบางผมลอนถูกดูดหายไปกับอากาศหนาวๆ เขาก็ลอบยิ้มให้กับตัวเอง สายตาคมกวดตามองไปรอบๆตัวอย่างต้องการซึมซับบรรยากาศดีๆที่ยังหลงเหลืออยู่ เดรโกเดินทอดน่องไปตามถนนเส้นเล็กๆของเมือง เมืองไบตูรี่ เป็นเมืองลับเเลเล็กๆเเละยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของผู้วิเศษมากนัก บรรยากาศภายในเมืองจึงอบอวลไปด้วยความอบอุ่นประหลาดๆ ที่เขาเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ เขาเองไม่ได้คนประเภทออกตามล่าหาเมืองลับเเลเเละมาค้นพบเจอหรอกนะ เเต่การที่เขาเจอที่นี่มันค่อนข้างจะเป็นอะไรที่บังเอิญไปซักหน่อย

     

         ในช่วงที่เขากำลังย่ำเเย่ เขาอยากจะออกไปท่องเที่ยวในที่ใหม่ๆ เขาคุ้นๆว่าในโลกมักเกิ้ล มีสถานที่ท่องเที่ยวชนบทเเห่งหนึ่งที่สนใจชื่อไบบูรี่ เขาจึงไม่รอช้า เดินไปที่เตาผิงทันที เเต่ด้วยความรีบร้อน ผงฟูลในมือเขามันลอยเข้าจมูกจนเขาออกเสียงผิดจาก 'ไบบูรี่' เป็น ' ไบตูรี่ ' เเละทันใดนั้นเขาก็มาโผล่ที่เตาผิงของร้านขนมปังตรงหัวมุมตึก ร้านเดียวกับที่เขากับเฮอร์ไมโอนี่ไปนั่งเคาท์ดาวน์กันนั่นล่ะ

     

         ทุกครั้งหากเขามีเรื่องกลุ้มใจ ต้องการพักผ่อน หรือต้องการมาร่วมซึมซับบรรยากาศของงานเทศกาล เขามักจะมาที่นี่เสมอ เขาโผล่มาที่เตาผิงร้านขนมปังเป็นปนะจำ จนสนิทกับเจ้าของร้านไปเเล้ว ต่อมาเมื่อเรื่องราวทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง เขาเลยตัดสินใจซื้อบ้านหลังเล็กๆเก็บไว้ เพื่อมาพักผ่อนโดยเฉพาะ หรืออย่างในวันนี้ ที่เขาขี้เกียจเกินจะหายตัวกลับบ้าน เขาจึงเลือกที่จะค้างที่นี่ซะ

     

         เดรโกหยุดลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เเม้จะมันจะไม่ได้ใหญ่มาก เเต่ก็ไม่เล็กเท่าหลังอื่นๆในละเเวกนั้น ถัดจากรั้วบ้านก็เป็นสนามหญ้าขนาดย่อมๆ มือผอมเสกกุญเเจสีทองไขประตูไม้เข้าไป ทันทีที่ขายาวเเตะกับพื้นบ้าน ไฟสีนวลก็สว่างไสวไปทั่วบริเวณ ร่างสูงเดินตรงไปที่โซฟานุ่มกลางบ้าน เเละทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า พลางโบกไม้กายสิทธิ์จุดเตาผิงเพื่อเพิ่มความอบอุ่น

     

         บ้านหลังเล็กของเขาถูกตกเเต่งด้วยโทนสีขาวน้ำตาลให้ความรู้สึกอบอุ่นเเละผ่อนคลาย เดรโกหลับตาลงพลางคิดทบทวนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นภายในวันนี้ ทั้งเรื่องงาน เเละเรื่องเกรนเจอร์ เมื่อนึกถึงร่างบาง ภาพเหตุการณ์ต่างๆก็ปรากฎในหัวของเขาเหมือนเล่นหนังซ้ำ ร่างสูงเพียงเเค่ปริปากยิ้มออกมาทั้งๆที่ยังเหนื่อยล้า

     

         เกรนเจอร์ เธอทำให้ฉันยิ้มได้

    .

    .

    .

    .

     

         ไอ้งั่งมัลฟอย!

     

         ทันทีที่เท้าของเธอเเตะพื้นห้องอพาร์ทเมนต์ของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ทรุดลงกับพื้นอย่างอดสู จะอะไรซะอีกล่ะ ปกติเเล้วการหายตัวต้องอาศัยสิ่งสำคัญสามอย่าง คือ จุดมุ่งหมาย ใจเเน่วเเน่ เเละ เจตนาสุขุม เเต่ในขณะที่เธอกำลังจะถูกดูดหายไป ร่างสูงก็ทำให้เธอเสียสมาธิด้วยท่าทางเเละน้ำเสียงสุภาพของเขา! ปัดโถ่!

     

         เเละเมื่อเธอเหลือบเห็น ไอ้สิ่งสำคัญสามอย่างนั่นน่ะมันหายวับไปกับตา เเทนที่ด้วยภาพชายสวมสูทสีดำยกยิ้มให้เธอ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในขณะที่หายตัวเพราะมันอันตรายมาก! เมื่อสามสิ่งสำคัญนั้นหายไป การหายตัวจะไม่สำเร็จเเละทำให้ไปไม่ถึงจุดหมาย เเน่นอน เฮอร์ไมโอนี่ไปโผล่กลางป่ารกทึบที่น่าขนลุกขนพอง ยังดีที่เธอมีสติเเละรีบหายตัวกลับมาที่ห้องของเธอ

     

         ร่างบางถอนหายใจ ก่อนจะค่อยๆปลดชุดหนาของเธอออกทีละชิ้น เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไปรองน้ำอุ่นในอ่าง เพื่อที่เเช่น้ำคลายความปวดเมื่อย ร่างบางเผลอยิ้มออกมาเมื่อเธอเหม่อคิดไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ เเละสิ่งที่เดรโกทำกับเธอ เเม้ว่าสิ่งที่เขาทำกับเธอมันจะดูเล็กน้อย เเละไม่น่าใส่ใจสำหรับคนอื่นนัก เเต่เธอรู้ดี ว่าสิ่งต่างๆที่เดรโกทำให้เธอวันนี้มันมีค่าเสียยิ่งกว่าทอง เฮอร์ไมโอนี่คิดว่า คนอย่าง ' เดรโก มัลฟอย ' คงไม่ยอมให้ใครที่ไหน ด่าเขาว่าไอ้งั่งเเล้วเขาจะทำเหมือนไม่ได้ยิน หรือคนอย่างเขาน่ะหรอ จะปริปากยอมเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังง่ายๆ เเล้วไหนจะนั่งเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามนั่นอีก นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะพบเจอได้อย่างปกติทั่วไปจากคนผมบลอนด์เลย เธอมั่นใจ

     

         เธอรู้ว่าเดรโกในวันนี้น่ะเป็นคนที่สุภาพ เเละน่าประทับใจขนาดไหน เเต่การที่เธอรู้สึกปลื้มกับทุกสิ่งที่เขาทำให้เธอมากขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเธอเจอเรื่องเเย่ๆมา เเละเดรโกก็เข้ามาช่วยเธอได้อย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ เธอไม่อยากเอาใครเป็นเทียบกับใคร เเต่จากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันอดไม่ได้จริงๆที่เธอจะเผลอคิดเอาเดรโกไปเทียบกับรอน เฮอร์ไมโอนี่เลยคิดว่าความประทับใจต่างๆที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นความรู้สึกหวั่นไหวของเธอที่เกิดขึ้นเมื่อต้องการหลักยึดก็เป็นไปได้


         เเต่ในวันนี้ เดรโกก็เเสดงด้านดีๆออกมา ให้เธอสัมผัสด้วยตัวของเธอเองว่าเขาเปลี่ยนไปเเล้วจริงๆ ไม่ใช่จากคำบอกเล่าของคนอื่นหรือจากบทความในหนังสือพิมพ์ เธอจึงอยากจะรู้จักเดรโกให้มากกว่านี้ เเละอยากประทับใจในสิ่งที่เขาทำจริงๆ ที่ไม่ใช่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเพราะเธอเผลอเอาเขาไปเทียบกับใคร เมื่อน้ำในอ่างของเธอได้ปริมาณที่พอดี เฮอร์ไมโอนี่ก็หย่อนตัวลงเเช่น้ำอุ่นๆ เพื่อคลายความเหนื่อยล้า เเละใช้เวลาทบทวนตัวเองซักพัก


         ไม่อยากจะนึก ถ้าวันนี้มัลฟอยไม่โผล่มา เธอก็ไม่รู้จริงๆว่าจะทำอย่างไรต่อไป เเละเธอจะรู้สึกเเย่เเค่ไหน  


         อ่า คงต้องขอบคุณเขาซักหน่อยเเล้วล่ะ




    ---------------------------------------

    TALK TALK WITH nanypp_

         สวัสดีค่าาา เรามาเเล้ววว รีบมาอัพให้นะคะะ 55555 เมื่อเช้ามีเวลาว่างได้ไล่ตอบเม้นทุกคนไป ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะะ ทุกๆคอมเม้นน่ารักมากเลยค่ะะะ อยากเเคปติดให้เต็มฝาบ้าน น่าร๊ากกกก

         ปล.เราเเอบรู้สึกว่าตอนนี้สั้นเเปลกๆ ตอนหน้าจะพยายามเขียนให้ยาวขึ้นนะคะะ


         สามารถเข้ามาร่วมพูดคุยและให้กำลังใจกันได้ทางคอมเม้น หรือจะเป็น twitter : nanypp_ หรือแท็กฟิค #bringtogetherDMHG ได้เลยนะคะะ มาเป็นกำลังใจให้เรากันน๊าาา กำลังใจจากทุกคนมีค่าจริงๆค่ะะ 

         


    ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ :)


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×