คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 11 : You glow like the sunrise
ศัตรู?
คงไม่ล่ะมั้ง
คนรู้จัก?
ไม่ล่ะ ห่างเหินเกินไปหน่อย
เพื่อนห่างๆ?
ช่วงนี้ก็ดูจะไม่ห่างซักเท่าไหร่
เพื่อนเก่าหรือ?
เเน่นอนว่าไม่ใช่!
เพื่อน?
ไม่อยากจะยอมรับนักหรอก เเต่คิดว่าคงจะใช่
ร่างสูงผมบลอนด์นั่งไขว่ห้างบนเบาะโซฟานุ่มในโซนคาเฟ่ของร้านหนังสือ Reparo
ที่ปัจจุบันเขากลายเป็นลูกค้าประจำไปเสียเเล้ว เเก้วกาแฟ
เเละขนมจานโปรดวางบนโต๊ะกลมด้านหน้าเขา
นัยตาสีฟ้าซีดมองร่างบางเจ้าของร้านรับออเดอร์เสียงใส
พร้อมกับเสียงความคิดในหัวที่พยายามจะหาคำกำจัดความให้กับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ
เขาพบว่า คำว่า ' เพื่อน ' ดูจะเป็นอะไรที่ใกล้เคียงที่สุด
เเม้จะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ เเถมเวลาคิดถึงคำนี้ก็ยังเเอบขนลุกเสียเอง
เดรโกถอนใจพลางหลับตาลง ในชีวิตเขา เพื่อนอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาคิดว่าจะสามารถมีได้
อย่างตอนที่ยังเรียนอยู่
พรรคพวกที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันก็งี่เง่าจนไม่อยากเรียกว่าเพื่อน
หลังจากสงครามครั้งนั้นก็หนีหายตายจากกันไปหมด ฟังดูน่าเศร้า เเต่เขาก็ชินเเล้วล่ะ
เพราะคนรอบตัวมักเข้าหาเขาด้วยผลประโยชน์กันทั้งนั้น
หลังจากวันนั้นที่เขาได้ลองเชื่อใจเฮอร์ไมโอนี่ดูซักครั้ง
ก็ผ่านมาได้เดือนเศษ บรรยากาศของฤดูหนาวเริ่มจาง
เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนเข้าฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เเละดอกไม้หลากสีเริ่มผลิดอกออกใบ
อากาศหนาวๆเริ่มอุ่นขึ้น ไม่ได้เย็นจับขั้วหัวใจอย่างที่ผ่านมา
เขาเเละเธอเจอกันเป็นประจำทุกเช้า หรืออาจมีบางวันที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน
หรือบางครั้งก็จะนัดเจอกันเพียงเพื่อคุยเรื่องสัพเพเหระ
เขาสัมผัสได้ว่าเฮอร์ไมโอนี่เปิดใจกับเขามากขึ้น
จากการที่เธอยอมเล่าเรื่องชีวิตส่วนตัวให้เขาฟัง
หรือจะเป็นการระบายอารมณ์ที่เธอเก็บไว้ลึกๆ หรือจะเป็นการนั่งด่าวิสลีย์ให้ฟังจนเขาไม่มีช่องไฟได้เเทรกเเละทำได้เพียงพยักหน้า
เขามองว่าช่วงเวลาที่ผ่านมามันช่างน่าขัน
ซ้ำยังน่าเหลือเชื่อที่เขากับเธอสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี
หากพวกเพื่อนๆเธอรู้เข้าคงได้ช็อกตาตั้งเเน่
เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดี เเละเขารู้สึกผ่อนคลายเวลาอยู่กับเธอ
เป็นช่วงเวลาเดียวที่เขาไม่ต้องเเบกอะไรหนักๆไว้บนบ่า
ไม่ต้องคอยกังวลเกี่ยวกับปัญหาหรืองานต่างๆ
ที่รู้สึกทึ่งที่สุดคือเขาสามารถเป็นตัวของตัวเองำด้อย่างน่าอัศจรรย์
เดรโกเเอบสอดสายตาไปมองเจ้าของร้านสาวด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย เฮอร์ไมโอนี่ยังคงต้อนรับลูกค้าด้วยรอยยิ้มสุภาพไม่รู้จักจบจักสิ้น
คล้ายเธอลืมเขาไปเเล้วอย่างไรอย่างนั้น
เเละเหตุผลที่เขายังนั่งเเหมะอยู่ตรงนี้ไม่ไปทำงานก็เป็นเพราะเธอนั่นล่ะ
เมื่อเช้าเขาเข้ามาซื้อกาแฟอย่างทุกวัน
เพียงเเต่เเปลกไปที่หน้าร้านเเปะป้ายปิดเร็วกว่าเดิมหลายชั่วโมงนัก
ทันทีที่เธอเห็นเขา ไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง
เฮอร์ไมโอนี่หันไปสั่งออเดอร์กับลูกน้องของเธอทันที ส่วนตัวเธอก็หันไปคีบขนมใส่ถุง
ด้วยท่าทางคล่องเเคล่วอย่างรู้ใจ
ทำให้เดรโกที่เดินเข้ามาเห็นกิริยาเหล่านั้นรู้สึกอกฟูเเปลกๆ
เเต่ในตอนที่เขาจะกลับ เฮอร์ไมโอนีเอ่ยขอให้เขาอยู่ช่วยธุระอะไรซักอย่าง
เขาจึงตกลง เเล้วก็มาจบลงที่เขายังนั่งอยู่ตรงนี้
เเม้ว่ามันจะผ่านไปหลายชั่วโมงเเล้วก็ตามเถอะ!
แปลกใจตัวเองนักที่ยอมนั่งรอเธอเหมือนคนโง่ ทั้งๆทีงานคั่งค้างยังกองพะเนินเทินสูง
ทั้งๆที่คนอย่างเขาไม่เคยหยุดงานเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องเเท้ๆ
เดรโกกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงด้วยความหงุดหงิด
เขาคว้าเเก้วกาแฟ เเละตัดสินใจจะกลับ
เเต่สายตาดันเหลือบไปเห็นใบหน้าหวานที่หันมามองเขาอย่างขอร้องเเละขอโทษอยู่ในทีจากเคาท์เตอร์เครื่องดื่ม
เดรโกชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปั้นหน้ายักษ์เเละกระเเทกตัวลงนั่งที่เดิม
เพราะยัยนั่นขอร้องหรอก ไม่งั้นฉันไม่อยู่เเน่!
เดรโกยกกาเเฟขึ้นจิบ
ปล่อยความคิดเเละอารมณ์ไปกับผู้คนเเละกลิ่นกาแฟคั่วหอมๆภายในร้านเล็กๆเเห่งนี้
เรื่องภารกิจจากกระทรวง เดรโกพบว่ามันไม่ได้ยากอย่างที่เขาคิด เเละเริ่มคิดว่าคิงส์ลีย์อาจจะเฉียบคมกว่าที่คาดไว้
ไม่รู้ว่าด้วยโชคชะตาเล่นตลกหรือเพราะเขาโชคดีอย่างแฮรี่
ฮอครักซ์ถูกส่งมาประเมินราคาที่บริษัทเขาจริงๆ
โจรกระจอกปากพล่อยคนหนึ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาที่บริษัทของเขา
พร้อมกับถ้วยฮัฟเฟิลพัฟบูดๆเบี้ยวๆ เเถมยังบ่นกับเพื่อนโจรเสียงดังทำนองว่าเจ้าของเก็บรักษาอย่างดี
คงจะมีราคา โชคดีที่เรื่องถูกส่งมาหาเขาเพราะข้อห้ามรับซื้อของโจร
เขาจึงรีบสั่งเดเมียนไปจัดการส่งฮอครักซ์กับพวกโจรหน้าโง่นั่นให้กับกระทรวง
เสียงกรุ๊กกริ๊งจากกระดิ่งหน้าร้าน
เรียกสติของเดรโกให้กฃับมาอยู่ในร้านหนังสือ สายตาคมเห็นพนักงานหญิงผมสั้นเดินไปปิดประตูร้านหลังจากเปิดค้างรับลูกค้ามาตลอดเช้า
เเผ่นป้ายพลาสติกหน้าร้านถูกพลิกเเสดงว่าปิด
เสียงพูดคุยของพนักงานไม่กี่คนในร้านดังขึ้นอย่างผ่อนคลายเพราะเหลือเพียงเเค่คนกันเอง
" คุณลูกค้าคะ ทางร้านต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ
เนื่องจากวันนี้ร้านของเราปิดก่อนเวลา
ไม่ทราบว่าลูกค้าต้องการเครื่องดื่มเพิ่มมั้ยคะ "
พนักงานสาวผมสั้นเดินมาหยุดตรงหน้าลูกค้าคนดังที่เธอเเอบปลื้มด้วยท่าทีเรียบร้อย
พร้อมกับโค้งเเละเอ่ยถามด้วยความสุภาพ
" ถามเจ้านายเธอเถอะ ว่าต้องการอะไรจากฉัน " เดรโกชักสีหน้าไม่พอใจ
เเละเหยียดปากคว่ำด้วยอารมณ์หงุดหงิด เอ่ยน้ำเสียงกระเเทกกระทั้นใส่พนักงานผมสั้น
เขารู้ตัวว่าที่เขาทำมันไม่สุภาพเสียเลย เเต่ทำไงได้ล่ะ
เขาตอนอารมณ์ไม่ดีก็ไม่สนใจใครทั้งนั้นล่ะ
" มัลฟอย อย่าไปลงกับพนักงานฉันนะ! " เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงคุ้นก็รีบชะเง้อหน้ามาเอ่ยขัด
เธอเเอบรู้สึกดีอย่างประหลาด ที่ร่างสูงยังคงนั่นรอเธออยู่ที่เดิม
เเละรู้ดีว่าทั้งหมดมันเป็นความผิดของเธอที่เอาเเต่ยื้อเขาไว้
เเต่เธอไม่คิดว่าลูกค้าจะเข้ามาไม่ขาดสายตลอดทั้งเช้า
เมื่อได้จังหวะจึงรีบปิดร้านทันที
" ต้องการอะไรจากฉันอีก! ฉันชักจะทนไม่ไหวเเล้วนะ เกรนเจอร์! "
เมื่อได้ยินคำกล่าวโทษของเฮอร์ไมโอนี่ อารมณ์หงุดหงิดของเขาก็พุ่งปรี๊ด
เสียงเข้มเอ่ยกระเเทกใส่เธอ จนพนักงานสาวสะดุ้งด้วยความตกใจ
ผิดกับเจ้าของร้านโน้มตัวเท้าคางมองร่างสูงด้วยท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว
" โอเค ฉันขอโทษ ฉันไม่คิดว่าลูกค้าจะเยอะขนาดนี้ "
เฮอร์ไมโอยกมือขึ้นยกเเพ้อย่างรู้ความผิด เห็นอย่างนั้นเดรโกจึงไม่ได้เอ่ยตอบ
เขาเพียงสะบัดหน้าหนี
เเละพยายามสะกดอารมณ์ร้อนของเขาด้วยการนับหนังสือบนชั้นใกล้มือ
เฮอร์ไมโอนี่ยกยิ้มบาง ตลอดเวลาหลังจากวันนั้นที่ยอมเชื่อใจกับเขา
เธอพบว่าเดรโกเป็นคนที่น่าคบหากว่าที่คิด เขาไม่งี่เง่าเหมือนเคย
ไม่เอาเเต่เหยียดหยามใครไปวันๆ ไม่โอ้อวดจนน่าหมั่นไส้ เเถมยังเป็นคนฉลาด
เเละมีความคิดความอ่านที่เข้ากับเธอได้เป็นอย่างดี
เธอรู้สึกทึ่งไม่เบากับวิธีการปฏิบัติตัวของเขา เดรโก มัลฟอย มีสติมากขึ้น
มีความสุภาพ มีบ้างบางครั้งที่ยังคงติดนิสัยหยิ่งเเละเอาเเต่ใจอย่างเมื่อก่อน
เเต่ก็น้อยลงจนเเทบนับครั้งได้
" ฉันขอเก็บของตรงนี้ก่อนนะ " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยบอก
รีบลงมือเก็บของเเละทำความสะอาดทันที
" ตามใจเธอเถอะ " เดรโกสะบัดหน้าหนีด้วยความรู้สึกหงุดหงิด
พลางยกกาเเฟเย็นชืดขึ้นจิบแก้กระหาย
.
.
.
.
" นี่อะไร " เดรโกเอ่ยเสียงเย็นพลางขมวดคิ้วเเน่น
นิ้วเรียวชี้ไปที่อุปกรณ์ที่เขามักเห็นพวกเอลฟ์ในคฤหาสใช้เป็นประจำ
ก่อนจะหันกลับมามองร่างบางด้วยสายตาเอาเรื่อง
" อุปกรณ์ทำความสะอาดไง อย่าทำเป็นโง่ไปหน่อยเลยน่า "
เฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนเท้าเอวอยู่ที่หน้าประตูห้องเก็บอุปกรณ์ก็ต้องถอนใจ
ที่คนข้างๆดูจะอึ้งไม่น้อยกับสิ่งของตรงหน้า ให้ตาย เธอลืมไปได้ยังไงนะ
ว่านี่น่ะคุณชายมัลฟอย
" เเล้วยังไงต่อ " เดรโกกอดอกทิ้งตัวเอาไหล่พิงกับกรอบประตู
ยังไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมเฮอร์ไมโอนี่ถึงลากเขามาดูของพวกนี้
หรือเธอต้องการจะอวดเขาว่าเธอมีของพวกนี้เยอะมากมายจนเเน่นถนัดห้องเก็บของเล็กๆนี่
หรือกำลังจะโชว์ว่าไม้กวาดที่มุมห้องถูกทำมาจากไม้เมเปิ้ลเเทนที่จะเป็นพลาสติกหรือไม้ดาดดื่นทั่วไปงั้นหรือ
" ก็ไม่ยังไงหรอก มัลฟอย
นายเเค่ต้องเอาอุปกรณ์พวกนี้ไปทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมในร้านของฉัน "
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้าง ยื่นผ้าพร้อมกับถังอะลูมิเนียมใบเล็กให้ร่างสูงรับ
เดรโกรับมาอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าคมบึงตึง บรรยากาศรอบตัวเย็นเยียบ เสียงขบฟันกรามดังกึก
" มันจะเกินไปเเล้วนะ เกรนเจอร์! " เดรโกตวาดเสียงดัง
ก่อนจะหลับตาลงเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงปรี๊ดราวกับน้ำเดือด
มือผอมที่กำหูหิ้วถังสั่นจนได้ยืนเสียงก๊องเเก๊ง หากเป็นคนอื่นคงกลัวหัวหด
เเต่สาวบ้านกริฟฟินดอร์ตรงหน้าเพียงเเค่หัวเราะขบขันกับท่าทางน่ากลัวของเขา
เเถมยังเอื้มมือมาตบไหล่เขาอีกตะหาก
" เเค่ทำความสะอาดมันไม่ได้ยากเกินความสามารถนายหรอก ฉันรู้ "
ริมฝีปากบางหวานฉีกยิ้มกว้างขึ้นอีกครั้ง ดวงตากลมโตหยียกโค้ง
พาให้เดรโกชะงักไปเล็กน้อยเพราะใบหน้าน่ารักที่ไม่เคยเห็น
" ไม่รู้ล่ะ ฉันจะกลับเเล้ว! " เดรโกกระเเทกถังลงพื้น
พร้อมเขวี้ยงผ้าลงไปในถัง คนอย่างเขาน่ะหรอจะมาทำความสะอาดให้เเม่นี่ เฮ๊อะ
ที่บ้านหรือที่ทำงาน ฝุ่นเเม้เเต่เม็ดเดียวยังไม่เคยได้ไต่เขา
เเล้วนี่จะมาให้ทำความสะอาดร้านงั้นหรอ ไปนอนหลับเเล้วฝันเอาคงจะง่ายกว่า!
ร่างสูงรีบก้าวยาวตรงไปที่ประตูร้าน มือผอมเอื้อมหมายจะคว้าลูกบิด
พลันประกายไฟสีสวยผ่าอากาศแล่นฉิวไปสัมผัสลูกบิดก่อนมือของเขา
ประตูไม้บานสวยส่งเสียงล็อคดังกิ๊ก เดรโกหันกลับไปมองทิศทางที่มาของคาถา
เห็นเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนยิ้มแฉ่ง พลางยกไม้กายสิทธิ์โบกไปมาหยอกล้อ
เดรโกเเยกเขี้ยวใส่
ก่อนจะหันมาคว้าลูกบิดประตูด้วยความหงุดหงิด พยายามหมุนเอย่างเอาเป็นเอาตาย
พลางเขย่าประตูจนสะเทือนไปทั้งแผงหน้าร้าน ไม่พอยังกระเเทกไหล่ใส่ประตูอย่างร้อนใจ
ก่อนที่เขาจะชะงักเพราะนึกขึ้นได้ว่าตนเองไม่ใช่มักเกิ้ล
โง่บรม! ต้องเป็นเพราะเขาทำงานกับพวกมักเกิ้ลงี่เง่านั่นมากไปเเน่ๆ!
เดรโกสอดมือเข้าในเสื้อโค้ท เเล้วหยิบไม้กายสิทธิ์เรียบหรูของเขาขึ้นมา
เสียงทุ้มเอ่ยคาถาสะเดาะกลอนประตู เเต่ก็ต้องผิดหวัง ไม่มีเสียงปลดล็อก
เเถมลูกบิดก็นิ่งไม่ไหวติง เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเยาะกับท่าทางผีบ้าของเดรโก
ทำยังไงเขาก็ออกไปไม่ได้หรอก เพราะเธอรอบคอบเสกคาถาปกป้องการสะเดาะไว้น่ะสิ!
" เกรนเจอร์ ปลดล็อกประตูเดี๋ยวนี้! " เดรโดตวาด
พร้อมกับหันมองเธอด้วยความเดือดดาล ใบหน้าหล่อฉายชัดถึงความไม่พอใจ
จนพร้อมจะเเปลงร่างเป็นยักษ์ได้ทุกเมื่อ
" ไม่ล่ะ " เฮอร์ไมโอนี่ยกยิ้ม ก่อนจะยกมือกอดอก
เเละส่ายหน้าเบาๆ
" เธอลืมเเล้วรึไง ว่าฉันเป็นพ่อมด ต่อให้เธอไม่ปลดกลอนให้ฉัน
ฉันก็หายตัวไปได้ " ริมฝีปากบางของเดรโกเหยียดคว่ำลง
เขายกเเขนสองข้างขึ้นกอดอกเลียนเเบบเฮอร์ไมโอนี่
พลางเอียงคอเล็กน้อยมองร่างบางที่ทำท่าทางน่าหมั่นเขี้ยวอยู่ตรงหน้า
จบประโยคของเดรโก ท่าทางน่าหมั่นเขี้ยวของเฮอร์ไมโอนี่ก็หายวับไปทันตา
เธอหันมาอ้าปากค้างใส่ร่างสูงอย่างคิดไม่ถึง เดรโกสบตาเฮอร์ไมโอนี่อย่างท้าทาย
พลางยกยิ้มน้อยๆอย่างคนเหนือกว่า
" นายจะไม่ช่วยฉันจริงๆหรอ มัลฟอย ฉันคงจะเหนื่อยเเย่
ถ้าต้องทำมันคนเดียว " เฮอร์ไมโอนี่คอตก เอ่ยขอความช่วยเหลือเสียงอ่อย
พลางตีสีหน้าน่าสงสารใส่ร่างสูงที่ทำท่าทีอย่างผู้ชนะ
สายตาคมของเดรโกเผลอสบกับดวงตาสวยสีเฮเซล รู้สึกเหมือนถูกช่วงชิงลมหายใจไปห้วงหนึ่ง
หัวสมองขาวโพลน ราวกับดวงตาของเขาถูกตรึง
เขาไม่อาจละสายตาจากเเววตาอ้อนของเฮอร์ไมโอนี่ได้
" ช่วยฉันทีนะ " ไม่ทันที่เดรโกจะได้หายใจสะดวก
เฮอร์ไมโอนี่โจมตีเขาอีกครั้งด้วยเสียงน่าสงสารพร้อมกับสายตาอ้อนหวานเพิ่มขึ้นสิบเท่า
เดรโกกลืนน้ำลายอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
อารมณ์เดือดดาลที่เคยมีหายเกลี้ยงไม่เหลือเเม้เเต่เถ้าถ่านจนเขาเองยังตกใจ
เดรโกมีท่าทีเลิ่กลั่กอย่างไม่เคยเป็น ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
" ทำไมถึงไม่ใช้เวทมนต์ให้เป็นประโยชน์ล่ะ เธอเป็นผู้วิเศษนะ
ยัยบ้องตื้น " เดรโกเอ่ยตอบเสียงเบา ขยับตัวอย่างอึดอัดเล็กน้อย
" ไม่ล่ะ ฉันรู้สึกว่าทำเองมันสะอาดกว่า ถ้านายไม่สะดวก
นายจะกลับก็ได้นะ " เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าช้าๆ
ก่อนจะโบกไม้กายสิทธิ์คลายคาถาที่ประตู พลันประตูไม้บานสวยก็เเง้มเปิด
เธอไม่ได้ประชดให้เขาเลือก เธอเพียงเเค่รู้สึกเกรงใจ เเละพึ่งนึกได้ว่าเธอชักจะเอาเเต่ใจเกินไปหน่อย
หลายครั้งหลายคราเธอก็สามารถทำมันได้ด้วยตัวคนเดียว อาจจะเหนื่อยจนสายตัวเเทบขาด
เเต่ก็คงไม่เป็นไร เเล้วสำหรับเดรโก
มันคงเป็นอะไรที่ค่อนข้างไร้สาระสำหรับคนในตระกูลมัลฟอยที่มีเอลฟ์คอยทำความสะอาดอยู่ตลอด
เเถมการยัดเยียดให้ใครซักคนต้องทำอะไรที่เขาไม่ได้อยากทำมันก็ไม่ใช่เรื่องดีเอาเสียเลย
เดรโกหันมองประตู ก่อนจะเหลือบมองร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่อย่างคิดไม่ตก
ลมเย็นพัดมาคลอเคลียผิวของเขาอย่างอ่อนโยน ร่างสูงหลุดขำออกมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นท่าทางเหงาหงอยของเธอ เดรโกตัดสินใจเอื้อมมือจับลูกบิดสีทองสวย
เเละผลักบานประตูปิดเบาๆ
เสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งที่ติดอยู่บนบานประตูเรียกให้เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมอง
เมื่อสายตาหวานพบว่าร่างสูงผมบลอนด์เเสนคุ้นเคยยังคงยืนที่เดิมพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น
ริมฝีปากบางของเธอก็ฉีกยิ้มกว้างออกมาทันที
เดรโกพยักหน้าน้อยๆให้เฮอร์ไมโอนี่พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นนั้น พลางขยับตัวถอดเสื้อสูทสีดำตัวสวยออกเเละพาดมันไว้บนเเขนกำยำของเขา ก่อนจะเอ่ยถามเธอด้วยเสียงนุ่มทุ้ม
" เเล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง "
.
.
.
.
เเค่ก เเค่ก
"เกรนเจอร์!! เธอมันร้ายกาจ! "
" ฉันนั่งเเหง่วรอเธอเป็นชั่วโมงเพื่อมาทำความสะอาดให้เธอรึไง! "
" ฉันไม่ใช่เอลฟ์ของเธอนะ เกรนเจอร์! "
" เกรนเจอร์!!! "
" เกรนเจอร์ ตรงนี้ฝุ่นเยอะชะมัด! ให้ตายสิเมอลิน! "
" เธอหลอกฉันมาฆ่าเเละวางเเผนจะฝังฉันด้วยฝุ่นพวกนี้ใช่มั้ย
ฉันรู้ทันเเผนเธอเเล้ว! "
" เกรนเจอร์!! ทำไมไอ้ขวดนี้มันพ่นน้ำได้"
" มันสกปรกมากเกรนเจอร์ เธอซกมกชะมัดยาด "
" เหลือเชื่อจริงๆเกรนเจอร์ เธอให้ฉันมาทำความสะอาด! "
" โอ๊ะ ฉันเกิดอาการเเพ้ฝุ่นรุนเเรงอย่างกระทันหัน เธอต้องรับผิดชอบ!!
"
" เกรนเจออออออออออร์!!!!!! "
" โอ้ยยยยย! ฉันจะไม่ทนเเล้วนะ!! " เสียงหวานตะโกนมาจากหลังร้าน
เข้าหูเดรโกที่กำลังใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดที่ชั้นหนังสือ
เรียกรอยยิ้มบางๆให้ปรากฎบนใบหน้าหล่อได้ วิธีกวนประสาทของเขาสำเร็จ
เขายอมตกลงที่จะช่วย เเต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมช่วยแบบไม่มีปากมีเสียง
กล้าขอให้คนอย่างเขาทำความสะอาดเหมือนพวกเอลฟ์ งั้นเธอก็ควรจะโดนฤกธิ์ของเขาซะบ้าง
เฮอร์ไมโอนี่กระเเทกไม้ถูพื้นเข้ากับบผนังอย่างเเรงด้วยอารมณ์หงุดหงิด เดรโกเเสนสุภาพบุรษเมื่อกี้คงหายไปในกองฝุ่น
เหลือเเต่เฟอเร็ทกวนโอ้ยนั่น เขาเอาเเต่บ่นเเละเรียกชื่อเธอเเทบจะทุกสิบนาที
มั่นใจได้เลยว่านี่คือการกวนประสาท
เฮอร์ไมโอนี่เดินกระเเทกเท้าไปบริเวณชั้นหนังสือหน้าร้าน ทันทีที่เห็นรอยยิ้มร้าย
อารมณ์หงุดหงิดก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
" ไม่ยักจะรู้ว่านายขี้บ่นขนาดนี้นะ มัลฟอย "
เฮอร์ไมนี่ยกมือขึ้นเท้าเอว ใบหน้าหวานบึ้งตึงเคลือบด้วยอารมณ์หงุดหงิด
" ฉันบ่นได้มากกว่านี้อีก เกรนเจอร์ " เดรโกทิ้งผ้าลงในถังใบเล็ก
ก่อนจะหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้เธออย่างหยอกล้อ
" ถ้านายไม่อยากทำนักก็กลับไปเลย ฉันทำคนเดียวได้ "
เฮอร์ไมโอนี่ไม่มีอารมณ์ขันอย่างที่เขาคิด เธอเพียงพูดกับเขาด้วยเสียงกระเเทก
ซ้ำยังชี้ไปที่ประตูเป็นเชิงไล่
" ไม่ล่ะ "
เดรโกลอยหน้าลอยตาเอ่ยตอบทันควัน
" เอาใจยากจริงๆเลยนะ! " เฮอร์ไมโอนี่กระเเนะกระเเหน
" เธอต้องรับผิดชอบ ที่เธอให้ฉันมานั่งเช็ดฝุ่นตามชั้นหนังสือนี่
" เดรโกกอดอก พลางส่งสายตาไปทางชั้นหนังสือที่เขาเช็ดมันจนสะอาดเอี่ยม
เเม้ว่าเขาไม่พอใจที่ต้องมานั่งทำความสะอาดอย่างพวกเอลฟ์ เเต่เขาก็ตั้งใจทำให้ดีที่สุดเเละมันจะต้องออกมาดี
" เเล้วชั้นต้องรับผิดชอบยังไง นั่งฟังนายบ่นเช้ายันเย็นรึไง "
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ
การขอให้เขามาช่วยอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดเลยก็ได้!
" เธอแค่ยอมให้ฉันทำความสะอาด... "
" โอ้ ได้เลย นายอยากทำก็ทำซะสิ ฉันไม่ได้ห้ามซักหน่อย นายจะทำไปจนถึงเข้าวันพรุ่งนี้เลยก็ได้
" เดรโกไม่ทันจะพูดจบประโยคดี
เสียงเเหลมประชดประชันก็เเทรกขึ้นมาเสียก่อน เรียกรอยยิ้มร้ายฉายขึ้นลางๆ
เฮอร์ไมโอนี่กรอกตามองบนอย่างเหลืออด
ความหงุดหงิดของเธอเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่มีท่าทีว่าจะลด
สงสัยอย่างเดียวว่ามัลฟอยจะกวนประสาทจนตัวเธอลุกเป็นไฟเลยมั้ย
" เธอพูดเเล้วนะ เกรนเจอร์ " เดรโกเลิกคิ้วถาม
" เดี๋ยว จะทำอะไร "
เฮอร์ไมโอนี่ที่พึ่งรู้ตัวก็ชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดของเขา
เมื่อเห็นรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจ เธอถึงรู้ทันทีว่าเธอพลาดเเล้ว!
" คำเตือนจากนักธุรกิจ เดรโก มัลฟอย ก่อนที่เธอจะตอบรับข้อเสนอ
เธอควรฟังมันให้ครบถ้วน อ่านมันอย่างน้อยสองครั้ง
เเละใช้เวลาทำความเข้าใจกับมันซักหน่อย เธอจะได้ไม่พลาดนะ "
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเนิบๆอย่างไม่รีบร้อน เเละหันมาส่งยิ้มร้ายให้เธอ
เดรโกทิ้งมือลงข้างลำตัว มือหนึ่งเอื้อมไปด้านหลัง เเละดึงไม้กายสิทธิ์ของเขาขึ้นมา
เสียงทุ้มเอ่ยร่ายคาถาทำความสะอาด ฝุ่นผงละอองจำนวนมากลอยขึ้นกลางอากาศ
ก่อนที่เขาจะขยับไม้กายสิมธิ์เเละยืดตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยคล้ายส่งฝุ่นพวกนี้ไปทางอื่น
ฝุ่นละอองค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปทางช่องหน้าต่างที่เฮอไมโอนี่เปิดเเง้มไว้ที่หลังร้าน
เธอได้เเต่ยืนนิ่งมองร่างสูงทำสิ่งที่ต้องการ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าอย่างยอมเเพ้
มัลฟอยเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกวนประสาทของเเท้!
" ถึงนายจะทำเเบบนี้ ฉันก็จะทำความสะอาดเองอีกรอบอยู่ดี "
เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเข้าปอดอย่างสะกดอารมณ์ เธอพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงต่ำ
ก่อนจะเดินกลับไปทางด้านหลังร้าน เเต่ก็ต้องหยุด
เพราะมือผอมใหญ่ของเดรโกคว้าเเขนเธอไว้ได้เสียก่อน
ใบหน้าของเขาฉายเเววหงุดหงิดเล็กน้อย
" มันสะอาดเเล้วน่า เกรนเจอร์ ให้ฉันเสกอีกรอบก็ได้เอ้า
ได้เห็นกันไปเลยว่ามันยังมีฝุ่นเหลืออยู่อีกมั้ย " ทันทีที่เขาเอ่ยจบ
มือผอมก็จัดการร่ายคาถาอีกรอบด้วยความมั่นใจ
ว่าฝุ่นทั้งหมดในร้านต้องหายไปหมดตั้งเเต่ครั้งเเรก
เดรโกหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนกอดอกเซ็งอยู่ข้างตัวด้วยท่าทางอวดเบ่ง
เธอส่ายหน้าอย่างระอาใจให้เขาเเละพยักเพยิดให้กลับไปดูผลงานของตนเอง
เมื่อเดรโกเหลือบมอง ก็ต้องอ้าปากค้าง
เพราะยังมีฝุ่นผงจำนวนไม่น้อยลอยขึ้นมาจากชั้นหนังสือ! เดรโกเลิ่กลั่ก
ก่อนจะส่งฝุ่นผงออกไปทางเดิม เขาเสกคาถาซ้ำอยู่ห้าหกที
จนในที่สุดก็ไม่มีฝุ่งลอยขึ้นมาบนอากาศอีกเเล้ว
เดรโกถอนหายใจก่อนจะทรุดลงไปนั่งกับพื้น
โว้ยยยยย!!! น่าอายที่สุด!
เฮอร์ไมโอนี่เห็นเดรโกทรุดลงนั่ง เธอเพียงเเค่ยักไหล่
ตาโตลอบมองเขาอย่างละเอียด พบว่าทรงผมที่ถูกเซ็ตมาเริ่มคลายทรง
เเละไม่เรียบร้อยอย่างเมื่อเช้า
มีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นที่ลำคอบ้างซึมตามแผ่นหลังกว้าง เเถมเขายังมีอาการหอบน้อยๆ
เรียกรอยยิ้มขันให้เธอ
" ฉันบอกเเล้วว่ามันไม่สะอาด " เสียงหวานติดตลกเอ่ยขึ้นใกล้ๆหู
ตาคมเหลือบเห็นร่างบางที่ย่อตัวลงมานั่งระดับเดียวกับเขา
" รู้เเล้วน่า! "
เดรโกเอ่ยเสียงกระเเทกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างบางอย่างเอาเรื่อง
เเต่ภาพตรงหน้ากลับดึงสติเขาให้ลอยออกไปไกลเเสนไกล
ภาพที่เฮอร์ไมโอนี่รวบผมขึ้นเเบบไม่ตั้งใจนัก
ใบหน้าหวานของเธอถูกเเต่งเเต้มด้วยรอยยื้มกว้างจนตาหยีอย่างสดใสราวกับเกิดในทุ่งดอกทานตะวัน
คิ้วเรียวสีน้ำตาลได้รูป จมูกเล็กเเสนน่าเอ็นดู
ปรอยเส้นผมที่ตกลงมาคลอเคลียใบหน้าหวาน ลำคอระหงที่ดูคล้ายภาพวาด
กระดูกไหปลาร้าที่เรียงตัวอย่างสวยงาม ทุกอย่าง ทุกอย่างนั่นทำให้เขาไร้สติ
เสียงหัวเราะใสๆดังเข้าหูเขาราวกับเพลงบรรเลง
เฮอร์ไมโอนี่ที่เห็นว่าเดรโกนิ่งไปนานเกินควรก็หยุดหัวเราะ
เเต่ยังคงเหลือรอยยิ้มบางบนหน้าหวาน เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจยกมือขึ้นมา
เเละเลื่อนไปปัดปลายจมูกของเขาเบาๆ อย่างต้องการสะกิด เดรโกสะดุ้งเล็กน้อย
ร่างทั้งร่างราวกับถูกดูดดึงกลับมาด้วยปลายนิ้วเรียวของเธอ ทันทีที่รู้สึกตัว
เขาทำได้เพียงตวัดสายตาไปทางอื่น
เพื่อที่จะหลบรังสีเรืองรองประหลาดๆที่เฮอร์ไมโอนี่เเผ่ออกมา
ใบหน้าหล่อเห่อร้อนอย่างผิดปรกติ
ยัยฟันกระต่ายเกรนเจอร์! อันตราย! อันตรายจริงๆเลย!!
" เห็นนางทุ่มเทขนาดนี้ ฉันไม่ทำความสะอาดซ้ำก็ได้ "
เฮอร์ไมโอนี่ยกยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
กว่าที่เดรโกจะหาเสียงของเขาเจอ เธอก็เดินกลับไปเก็บของเสียเเล้ว
" ถึงจะต้องเสกคาถาหลายครั้ง
เเต่ก็เหนื่อยน้อยกว่าทำความสะอาดเองอยู่ดี เราไม่ใช่เอลฟ์ ไม่ใช่มักเกิ้ลซักหน่อย
เราเป็นพ่อมดเเม่มดนะ เกรนเจอร์ เธอควรใช้ประโยชน์จากมัน "
เดรโกลุกขึ้นเเละรีบก้าวไปทางด้านหลังร้าน ก่อนจะทิ้งตัวพิงประตู
เเละเอ่ยเเนะนำด้วยท่าทางจริงจัง พลันสายตาได้สบกับเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง
ความรู้สึกเห่อร้อนที่ใบหน้ากลับมาอีกครั้ง ทั้งๆที่ยังไม่หายดี
ซ้ำยังจะดูรุนเเรงขึ้นอีก
บ้า! เขาต้องบ้าไปเเล้วเเน่ๆ! ให้ตายสิ! ให้ตายสิ! ให้ตายสิ!
" ไว้ฉันจะจำไว้เเล้วกันนะ " เฮอร์ไมโอนี่เพียงตอบเขาสั้นๆ
เธอหันมองเขาเล็กน้อย เเละส่งยิ้มน่ารักให้เขาอีกรอบ เมื่อเห็นรอยยิ้มน่ารักของเฮอร์ไมโอนี่
เขาก็ต้องกัดริมฝีปาก ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
กล้ามเนื้อในอกกระตุกเป็นจังหวะเเปลกๆอย่างที่ไม่เคยเกิด
เเย่เเล้ว เดรโก เเย่เเล้ว!!!!!!
----------------------------------------
ยังไม่ตายยยยยยย 555555 กลับมาเเล้วค่ะะะ หายไปนานมากกก ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะะ คิดว่าสอบเสร็จเเล้วจะว่าง เเต่เปล่าเลยค่ะะ รุมเร้ามาก เหมือนจะตาย ทุกอย่างเข้ามาพร้อมๆกันหมดเลย ทั้งโปรเจ็ค เอกโท ตารางเรียน ฮื้ออ ปลีกตัวมาไม่ได้จริงๆค่ะะ เเต่นี่กลับมาเเล้วน๊าาา มาช้าเเต่มานะะะ เอาตอนหวานๆไปเย้ยยยย ปิ๊วๆ
เข้ามาร่วมพูดคุยและให้กำลังใจกันได้ทางคอมเม้น หรือจะเป็น twitter : nanypp_ หรือแท็กฟิค #bringtogetherDMHG ได้เลยนะคะะ มาเป็นกำลังใจให้เรากันนะคะะ ขอหน่อยน๊าาา ไม่ไหวเเร้วววววว จะตายจริงๆค่ะ เเย่มากๆ ขอกำลังใจเย้อๆเลยได้มั้ยคะะะ 5555 ขอบคุณล่วงหน้านะคะะ
ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ :)
****รูปเอ็มม่าเป็นรูปเก่า ซ้ำกับตอนที่ผ่านมา เเต่คิดว่าภาพนี้เหมาะมากกกก ถ้าเกิดว่าเจอภาพที่เหมาะกว่านี้ได้จะรีบให้มาเเก้นะคะะ ขอโทษจริงๆค่าา
ความคิดเห็น