ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic - Reborn : เมื่อทุกสิ่งกลับสู่ความว่างเปล่า

    ลำดับตอนที่ #4 : Rewrite : Part 3

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 58



    Fic – Reborn : เมื่อทุกสิ่งกลับสู่ความว่างเปล่า

    -Part 3-

     

          พิรุณ

               

     

                ยามบ่ายวันหนึ่ง สึนะชวนผมปลอมตัวออกไปเที่ยวในเมืองเพื่อดูความเป็นอยู่ของผู้คนในถิ่นที่เราคอยปกป้องอย่างลับๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด แม้จะมีภาระหน้าที่ถาโถมใส่เขาขนาดไหน สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือความเป็นเด็กที่ซ่อนอยู่ในตัวของเขา

     

                พวกเราหยุดกันที่ซอยร้างแห่งหนึ่ง ตรงนั้นมีหญิงวัยรุ่นนั่งกอดห่อผ้าอย่างสั่นเทา สึนะไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปใกล้ หญิงสาวที่ได้ยินเสียงคนเดินสะดุ้งสุดตัว เงยหน้ามองพวกเราอย่างหวาดหวั่นและร้องเสียงดัง

     

                “มาเฟีย?!”

                “ฮะฮะฮะ ขนาดนายปลอมตัวยังมีคนจำนายได้เลย เจ๋งไปเลยน้าสึนะ~

                “....”

     

                สึนะพูดอะไรไม่ออกแถมยังตวัดสายตามองผมอย่างโกรธๆ ผมเลยมองตอบอย่างนึกขำ สึนะเลยทำเหมือนผมไม่มีตัวตน เขาปลดนาฬิกาที่ผมจำได้ว่าได้รับมาจากนักการเมืองคนหนึ่งที่แฟมมิลี่คอยสนับสนุนเขา แน่นอนว่าเป็นของมีราคา หญิงสาวมองหน้าของสึนะสลับกับมองนาฬิกาที่ถูกยื่นให้อย่างตกใจ

     

                และด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ทำให้หญิงสาวเปลี่ยนทัศคติที่ไม่ดีต่อมาเฟียไปจนสิ้น

               

    “.......ให้”

     

     

     
     

    ผมชื่อยามาโมโตะ ทาเคชิ ชื่อในวงการคือผู้พิทักษ์แห่งพิรุณ หรือมือซ้ายของวองโกเล่ที่สิบ ที่ได้ฉายาอันหลังมา เป็นเพราะความสนิทของที่เคยมีในวัยเด็กและในบรรดาผู้พิทักษ์ทั้งเจ็ด มีเพียงผม โกคุเดระและสึนะที่มีอายุเท่ากัน

     

    เมื่อนานมาแล้วสึนะเคยพูดอะไรบางอย่าง ประโยคที่ยังตราตรึงอยู่กลางใจของผมจนถึงทุกวันนี้คือ

     

    “ยามาโมโตะ ฉันดีใจนี่นายยอมเป็นเพื่อนกับคนห่วยๆอย่างฉันน่ะ นายเป็นเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะ ฉันดีใจมากจริงๆ”

     

    ถึงผมจะมีเพื่อนมากเพราะผมเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและอารมณ์ดีอยู่เสมอ แต่น้อยคนที่จะเป็นเพื่อนกับเราในวันที่เราลำบากเหมือนคำพูดที่มีคนบอกไว้ว่า

     

    เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก

     

    ใช่ ดังนั้นผมเองก็ดีใจเช่นกันที่มีเพื่อนผู้อ่อนโยนอย่างเขาและคาดหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย... ก็จนกว่าผมจะตาย

     

               

     

     

    ปัง!!!!

     

    เสียงปืน เหมือนเสียงที่เขย่าโลกของผมจนพังลง ความคิดทั้งมวลหยุดนิ่ง สายตาที่ถูกฝึกมาดีหันขวับไปยังต้นเสียงพร้อมกับสอดส่องหาที่มาของเสียง จนผมพบความเคลื่อนไหวที่ต้นไม้ไม่ไกลจากที่พวกเรายืนอยู่ ผมกระชับอาวุธคู่กายแน่นพร้อมจะพุ่งตัวไปจัดการที่มาของเสียงให้สิ้นซาก ทว่าความคิดของผมต้องถูกชะงักเนื่องจากเสียงของเพื่อนสนิทผมเทา และตื่นตะลึงทันทีเมื่อทราบว่าใครถูกยิง

     

    ผมหันกลับไปมองร่างของสึนะที่ทรุดไปกับพื้นทำให้คลายสายตากับมือสังหารที่กำลังจะลั่นไกนัดถัดไป เมื่อลั่นไก กระสุนนัดถัดไปก็ตรงเข้าสู่เป้าหมายหรือก็คือร่างที่ล้มลง

     

    “สึนะ?!?!”

     

    ผมเบิกตากว้าง หันขวับกลับไปยังต้นทางของกระสุน แต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆอีกทำให้ทราบว่าบุคคลปริศนาเจ้าของการกระทำอันอุกอาจหนีไปแล้ว และตาของผมแทบถลนเมื่อเห็นเพื่อนสนิทผมเทากำลังร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    ผมขบปากและกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ เจ็บใจในความไม่เด็ดขาดของตัวเองทำให้หนึ่งในเพื่อนสนิทต้องสิ้นลมหายใจ ผมทรุดตัวลงข้างกายของผู้เป็นเจ้านาย ปรารถนาเหลือเกินว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องโกหก เป็นเพียงการฝันกลางวัน และเป็นฝันร้ายที่สุดในรอบยี่สิบปี

     

    แต่ความจริงก็คือความจริง ความจริงที่แสนโหดร้ายตอกย้ำเข้ามากลางใจ ผมขยับมือไปจับแขนของสึนะ อยากปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาอย่างที่เคยเป็น อยากปลุกเขาให้กลับมายิ้มแย้มแจ่มใส แต่สัมผัสที่ผมได้รับคือความความอุ่นที่เริ่มจางหายไปกับการเวลา ดวงตาของผมร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่อยู่ ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าและหลั่งน้ำตาออกมาอย่างเงียบงัน

     

     

    ลูกแก้วสีนิลเหม่อมองไปยังท้องนภา เป็นการส่งท้ายผู้เป็นเพื่อนที่จากไปอย่างไม่ทันตั้งตัว น้ำตาที่ร่วงหล่นเปรียบดังหยาดพิรุณที่เชื่อมต่อระหว่างฟากฟ้ากับผืนดิน ดุจเป็นเส้นทางที่ส่งนภาที่ยิ่งใหญ่ลงสู่พื้นพิภพอันเงียบสงบ

     

    ต่อให้กลายเป็นนภา อย่างไรก็ต้องกลับลงสู่ดิน

     

                ...คนอื่นหากไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันคงยากที่จะเข้าใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ...

     

     

                เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเพราะผมเอง

    เป็นความความผิดพลาดที่ไม่สมควรได้รับการอภัย...

     

    หากในตอนนั้นผมเฉลียวใจสักนิดกับเสียงแปลกๆที่ไล่ตามหลังพวกเรามา

    หากผมกล้าตัดสินใจเข้าไปจัดการกับมัน

    หากผมกล้ามากกว่านี้เพียงสักนิด...

     

     

    ....การจากกันของพวกเราคงไม่เกิดขึ้น....

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×