คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Rewrite : Part 3
Fic – Reborn : เมื่อทุกสิ่งกลับสู่ความว่างเปล่า
-Part 3-
พิรุณ
ยามบ่ายวันหนึ่ง สึนะชวนผมปลอมตัวออกไปเที่ยวในเมืองเพื่อดูความเป็นอยู่ของผู้คนในถิ่นที่เราคอยปกป้องอย่างลับๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด แม้จะมีภาระหน้าที่ถาโถมใส่เขาขนาดไหน สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือความเป็นเด็กที่ซ่อนอยู่ในตัวของเขา
พวกเราหยุดกันที่ซอยร้างแห่งหนึ่ง ตรงนั้นมีหญิงวัยรุ่นนั่งกอดห่อผ้าอย่างสั่นเทา สึนะไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปใกล้ หญิงสาวที่ได้ยินเสียงคนเดินสะดุ้งสุดตัว เงยหน้ามองพวกเราอย่างหวาดหวั่นและร้องเสียงดัง
“มาเฟีย?!”
“ฮะฮะฮะ ขนาดนายปลอมตัวยังมีคนจำนายได้เลย เจ๋งไปเลยน้าสึนะ~”
“....”
สึนะพูดอะไรไม่ออกแถมยังตวัดสายตามองผมอย่างโกรธๆ ผมเลยมองตอบอย่างนึกขำ สึนะเลยทำเหมือนผมไม่มีตัวตน เขาปลดนาฬิกาที่ผมจำได้ว่าได้รับมาจากนักการเมืองคนหนึ่งที่แฟมมิลี่คอยสนับสนุนเขา แน่นอนว่าเป็นของมีราคา หญิงสาวมองหน้าของสึนะสลับกับมองนาฬิกาที่ถูกยื่นให้อย่างตกใจ
และด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ทำให้หญิงสาวเปลี่ยนทัศคติที่ไม่ดีต่อมาเฟียไปจนสิ้น
“.......ให้”
ผมชื่อยามาโมโตะ ทาเคชิ ชื่อในวงการคือผู้พิทักษ์แห่งพิรุณ หรือมือซ้ายของวองโกเล่ที่สิบ ที่ได้ฉายาอันหลังมา เป็นเพราะความสนิทของที่เคยมีในวัยเด็กและในบรรดาผู้พิทักษ์ทั้งเจ็ด มีเพียงผม โกคุเดระและสึนะที่มีอายุเท่ากัน
เมื่อนานมาแล้วสึนะเคยพูดอะไรบางอย่าง ประโยคที่ยังตราตรึงอยู่กลางใจของผมจนถึงทุกวันนี้คือ
“ยามาโมโตะ ฉันดีใจนี่นายยอมเป็นเพื่อนกับคนห่วยๆอย่างฉันน่ะ นายเป็นเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะ ฉันดีใจมากจริงๆ”
ถึงผมจะมีเพื่อนมากเพราะผมเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและอารมณ์ดีอยู่เสมอ แต่น้อยคนที่จะเป็นเพื่อนกับเราในวันที่เราลำบากเหมือนคำพูดที่มีคนบอกไว้ว่า
เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก
ใช่ ดังนั้นผมเองก็ดีใจเช่นกันที่มีเพื่อนผู้อ่อนโยนอย่างเขาและคาดหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย... ก็จนกว่าผมจะตาย
ปัง!!!!
เสียงปืน เหมือนเสียงที่เขย่าโลกของผมจนพังลง ความคิดทั้งมวลหยุดนิ่ง สายตาที่ถูกฝึกมาดีหันขวับไปยังต้นเสียงพร้อมกับสอดส่องหาที่มาของเสียง จนผมพบความเคลื่อนไหวที่ต้นไม้ไม่ไกลจากที่พวกเรายืนอยู่ ผมกระชับอาวุธคู่กายแน่นพร้อมจะพุ่งตัวไปจัดการที่มาของเสียงให้สิ้นซาก ทว่าความคิดของผมต้องถูกชะงักเนื่องจากเสียงของเพื่อนสนิทผมเทา และตื่นตะลึงทันทีเมื่อทราบว่าใครถูกยิง
ผมหันกลับไปมองร่างของสึนะที่ทรุดไปกับพื้นทำให้คลายสายตากับมือสังหารที่กำลังจะลั่นไกนัดถัดไป เมื่อลั่นไก กระสุนนัดถัดไปก็ตรงเข้าสู่เป้าหมายหรือก็คือร่างที่ล้มลง
“สึนะ?!?!”
ผมเบิกตากว้าง หันขวับกลับไปยังต้นทางของกระสุน แต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆอีกทำให้ทราบว่าบุคคลปริศนาเจ้าของการกระทำอันอุกอาจหนีไปแล้ว และตาของผมแทบถลนเมื่อเห็นเพื่อนสนิทผมเทากำลังร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย
ผมขบปากและกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ เจ็บใจในความไม่เด็ดขาดของตัวเองทำให้หนึ่งในเพื่อนสนิทต้องสิ้นลมหายใจ ผมทรุดตัวลงข้างกายของผู้เป็นเจ้านาย ปรารถนาเหลือเกินว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องโกหก เป็นเพียงการฝันกลางวัน และเป็นฝันร้ายที่สุดในรอบยี่สิบปี
แต่ความจริงก็คือความจริง ความจริงที่แสนโหดร้ายตอกย้ำเข้ามากลางใจ ผมขยับมือไปจับแขนของสึนะ อยากปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาอย่างที่เคยเป็น อยากปลุกเขาให้กลับมายิ้มแย้มแจ่มใส แต่สัมผัสที่ผมได้รับคือความความอุ่นที่เริ่มจางหายไปกับการเวลา ดวงตาของผมร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่อยู่ ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าและหลั่งน้ำตาออกมาอย่างเงียบงัน
ลูกแก้วสีนิลเหม่อมองไปยังท้องนภา เป็นการส่งท้ายผู้เป็นเพื่อนที่จากไปอย่างไม่ทันตั้งตัว น้ำตาที่ร่วงหล่นเปรียบดังหยาดพิรุณที่เชื่อมต่อระหว่างฟากฟ้ากับผืนดิน ดุจเป็นเส้นทางที่ส่งนภาที่ยิ่งใหญ่ลงสู่พื้นพิภพอันเงียบสงบ
ต่อให้กลายเป็นนภา อย่างไรก็ต้องกลับลงสู่ดิน
...คนอื่นหากไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันคงยากที่จะเข้าใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ...
เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเพราะผมเอง
เป็นความความผิดพลาดที่ไม่สมควรได้รับการอภัย...
หากในตอนนั้นผมเฉลียวใจสักนิดกับเสียงแปลกๆที่ไล่ตามหลังพวกเรามา
หากผมกล้าตัดสินใจเข้าไปจัดการกับมัน
หากผมกล้ามากกว่านี้เพียงสักนิด...
....การจากกันของพวกเราคงไม่เกิดขึ้น....
ความคิดเห็น