คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เจ้าแง่.....แสนงอน
เจ้าแง่.....แสนงอน
“จะไปไหนเล่า เจ้าน้อย” เมื่อร่างบางตั้งท่าว่าจะเดินหนี คนตัวโตจึงรีบคว้าพระหัตถ์น้อยเอาไว้โดยเร็ว
“หม่อมฉันจะกลับคุ้มเจ้าค่ะ”
“พระองค์เสด็จกลับคุ้มองค์เดียวได้ใช่มั้ยเจ้าคะ ทรงเคยมาพำนักแล้ว” น้ำเสียงเย็นชายิ่งนัก แล้วทำไมถึงเรียกพี่ห่างเหิน อย่างนั้นเล่า ทีพี่หน่อคำ เรียกเจ้าพี่ทุกคำ
“ไม่ได้ พี่อยากให้เจ้าไปส่ง” ทรงตอบด้วยสุรเสียงที่เว้าวอน
ยังมีหน้าให้ไปส่งอีก หรือว่าทรงลืมแม้กระทั่งทางกลับคุ้มที่เคยพำนัก จริงสินะขนาดน้องยังทรงจำมิได้ คงลืมทุกอย่างที่นี่แล้ว คิดแล้วน้อยใจยิ่งนัก
หารู้ไม่ว่า ทรงอยากอยู่กับองค์แท้ ๆ ไม่ได้ทรงลืมทางกลับคุ้มอย่างที่ทรงเข้าใจ
ยิ่งได้พิศเนื้อนวลใกล้ ๆ เจ้าช่างงามยิ่งนัก ไม่เหลือเค้าของน้องน้อยที่เคยตามติดเมื่อหลายปีก่อน ช่างเป็นบุญแท้ ๆ ที่พี่จะได้เจ้ามาอยู่คู่เคียง พี่รักเจ้ายิ่งนัก หาใช่ความรักแบบน้องสาวอย่างที่เคยมี เป็นรักที่อยากได้เจ้ามาแนบเคียงทุกคืนวัน แล้วเจ้าเล่าคิดเช่นเดียวกับพี่หรือไม่
“ทรงปล่อยมือหม่อมฉันได้หรือยังเจ้าคะ มันไม่งามถ้าใครมาเห็นเข้า” ด้วยความที่ไม่เคยต้องมือชาย ทำให้อายยิ่งนัก
“แล้วทีเจ้ากอดเจ้าพี่หน่อคำเล่า งามนักรึ” ด้วยความเข้าพระทัยผิดว่าเนื้อนวลรังเกียจ จึงตรัสพาลไปเรื่อยพร้อมทั้งดึงร่างบางนั้นเข้าอ้อมพระกร
โดยมิได้ระวังองค์ จึงถลาเข้าอ้อมกอดของคนตัวโตเต็มแรง
“ปล่อยหม่อมฉันนะเจ้าคะ”
“ไม่ บอกพี่มาก่อนว่าเจ้าคิดถึงพี่” นั่นพระนิสัยเจ้าชู้กำเริบอีกแล้ว......
เรื่องอะไรจะบอก ทีตัวเองไม่เห็นทรงบอกเลยว่าคิดถึงน้อง
“เอ้า เงียบทำไมหละ คิดถึงหรือไม่”
พลันโอษฐ์น้อย ๆ นั้นก็ถูกประกบด้วยโอษฐ์ของคนตัวโต ด้วยความตกพระทัยจึงผลักพระอุระของคนที่รังแก แต่หาได้หยุดไม่ ซ้ำยังบดขยี้แรงยิ่งขึ้น ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งยุอารมณ์ให้คนจูบเตลิดไปไกล เมื่อร่างบางหยุดนิ่งเหมือนโอนอ่อน จูบที่ร้อนแรงเอาแต่พระทัย ก็กลับอ่อนโยนเย้ายวนให้ตอบสนองยิ่งนัก
พอรู้สึกองค์ว่าถ้ามีคนพบเห็นคงไม่งาม ถึงแม้จะเป็นคู่หมาย แต่ก็ยังมิได้เข้าพิธีให้ถูกต้องตามราชประเพณี รังแต่จะทำให้ร่างบางให้อ้อมกอดนี้เสียหาย จึงหักใจถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง เสียดายยิ่งนัก แต่ก็มิยอมปล่อยเนื้ออุ่นในอ้อมพระกรง่าย ๆ
“ปล่อยหม่อมฉันเถอะเจ้าคะ” ทรงตรัสขอร้องอย่างอาย ๆ ในชีวิตนี้มิเคยถูกผู้ใดกอด จูบ เช่นนี้ จึงทำให้เจ้านางน้อยถึงกับทำองค์ไม่ถูก พระพักตร์อ่อนหวานนั้นแดงกล่ำด้วยความอาย ยิ่งทำให้คนที่เสียดาย อยากจูบโอษฐ์น้อยนั้นอีกสักทีด้วยความเสน่ห์หาล้นพระทัย
“ไหนพูดใหม่ซิ” พร้อมเอียงพระกรรณ์รอฟังเสียงหวาน
“ปล่อยหม่อ....” เอาอีกแล้วจูบอีกแล้ว แต่คราวนี้กลับไม่อ่อนหวานเย้ายวนเหมือนเดิม กลับเต็มไปด้วยการเรียกร้องร้อนแรง ทำให้ร่างบางถึงกลับลืมองค์บดเรียวปากตอบกลับด้วยความไร้เดียงสา เรียกเสียงครางด้วยความพอพระทัยจากคนเรียกร้องยิ่งนัก โอ้ย เจ้าจะทำให้พี่เป็นบ้าตาย เพราะต้องการเจ้าเหลือเกิน พอใกล้เจ้าทีไรพี่ห้ามใจไม่ได้สักที
“ไหนพูดอีกทีซิ” เตรียมท่าว่าพร้อมจะจูบทันทีท่าคำพูดนั้นไม่ถูกพระทัย
“ปล่อยน้องเถอะนะเจ้าคะ เจ้าพี่” แล้วคำเรียกที่แสนคุ้นเคยก็ออกจากริมฝีปากบางหน้าจุมพิตนั้น ด้วยกลัวว่าจะถูกรังแกอีก ยังผลให้คนตัวโตยิ้มด้วยความพอพระทัยยิ่งนัก พอได้ยินน้องนางเรียกด้วยความคุ้นเคยเหมือนก่อน ก็ทำให้ในพระทัยอบอุ่นนักหนา ความน้อยพระทัยทั้งหลายพลันหายไปสิ้น
แต่ร่างบางในอ้อมพระกรหาได้รู้สึกเหมือนกันไม่ ด้วยการรอคอยที่ยาวนาน ไม่มีแม้เพียงจดหมายที่ส่งข่าวถึง สู้เพียรพยายามทำให้ได้ตามคำสัญญา แต่ดูรึแม้แต่ถามสักคำว่าเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่มี คงเห็นน้องเหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่จะทรงรังแกอย่างไรก็ได้
ทันทีที่ร่างบางถอยห่างหลังจากทรงคลายอ้อมพระกร พลันเกิดความรู้สึกอ้างว้างโหยหาขึ้นมาในดวงจิต
ก็ทรงรู้องค์ทันใดว่า ถ้าแม้ไม่มีนางอยู่ข้างกาย พระองค์คงต้องขาดใจเป็นแน่แท้
แล้วเจ้าจะวิ่งหนีพี่ไปไหน พี่ยังไม่ได้บอกความรู้สึกที่อยากให้เจ้ารู้เลย จึงตรัสตะโกนเรียกร่างบางที่กำลังสาวพระบาทหนีเร็วไว
“เจ้าน้อย” ด้วยสุรเสียงอันดังก้องที่ทรงตรัสเรียกมา ทำให้ร่างบางหยุดชะงักทันใด
แค่นี้น้องก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว จะทรงรังแกอะไรน้องอีกเล่า
หยุดโดยมิยอมหันพักตร์กลับไปมองบุรษที่เป็นดังดวงใจ ด้วยน้อยเนื้อต่ำใจในตัวพี่เจ้ายิ่งนัก น้ำตาพาลจะไหลอยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งข่าวต่าง ๆ มากมายที่ได้ยินมา ใครก็ว่าทรงเจ้าชู้นัก ข้างพระวรกายมิเคยขาดสตรีโฉมงาม นี่ก็คงเห็นน้องเป็นเพียงของเล่น ที่มาก็คงเพราะขัดคำสั่งของท่านลุงมิได้เป็นแน่แท้ ก่อนหน้านั้นมิเคยเห็นสนใจถามข่าวคราวของน้องมาเลย มีแต่เจ้าพี่หน่อคำเท่านั้นที่คอยส่งจดหมายมาอยู่เสมอ น้องเจ็บปวดใจยิ่งนัก ที่ยังหลงรักพระองค์อยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าพระองค์มิเคยสนใจน้องเลย อย่าหวังว่าน้องจะให้อภั....
“พี่คิดถึงเจ้า”
เอะ! เมื่อกี้ทรงตรัสอะไรนะ เหมือนจะบอกน้องว่าคิดดด.....
"ได้ยินหรือไม่ว่า "พี่คิดถึงเจ้า" "
พอสิ้นเสียงที่ตรัสบอกมานั้น น้ำตาที่พยายามกั้นไว้ ก็ไหลพรั่งพรู เต็มสองเนตรนงคราญ คำนี้ที่น้องอยากได้ยินเป็นหนักหนา คำนี้ที่ทำให้รู้ว่ามิได้มีเพียงแต่น้องคนเดียวที่คิดถึง คำนี้ที่ทลายกำแพงแห่งความน้อยใจ เสียใจ คำนี้ที่ทดแทนความเจ็บปวดจากการรอคอยมาแสนนาน
โดยที่มิทันตั้งตัว ร่างบางนั้นก็โผเข้าหาอ้อมพระกร ที่ทรงรีบอ้ารับแทบไม่ทัน เมื่อทรงรู้องค์ร่างบางนั้นก็ซบแนบพระอุระ ยังความอบอุ่นชุ่มชื่นพระทัยเป็นหนักหนา ด้วยรู้ว่าทรงได้น้องน้อยของพระองค์กลับคืนมาแล้ว มิใช่ความเฉยชา ห่างเหิน ที่ทรงได้เห็นเมื่อแรกพบกัน
เมื่อทรงเอื้อมพระหัตถ์เชยพักตร์หวาน ก็ได้พบรอยยิ้มที่ทรงคุ้นเคย รอยยิ้มที่ทำให้ทรงพร้อมยอมตายเพื่อแลกให้ได้มา
“ไหนบอกให้พี่ชื่นใจหน่อยซิคนดี ว่าเจ้าคิดถึงพี่” พลันความคิดก็นึกไปถึงที่คนตัวน้อยอยู่ในอ้อมพระกรของเจ้าพี่หน่อคำ แล้วบอกว่าคิดถึงที่สุด ดูซิว่าเจ้าจะบอกพี่ว่าอย่างใด
น้องรู้นะว่าทรงคอยฟังอยู่เป็นแน่ว่าน้องจะบอกว่าอย่างใด ถ้าบอกว่าคิดถึงที่สุดเหมือนที่บอกเจ้าพี่หน่อคำ ก็ทรงหาทางรังแกให้น้องบอกใหม่เป็นแน่แท้ ด้วยทรงรู้ว่าถึงแม้พระวรกายจะสูงใหญ่แต่พระทัยนั้นกลับน้อยนิด พอนึกถึงว่าจะทรงโดนรังแกยังไงก็ทำให้พระพักตร์หวานนั้นแดงขึ้นมาทันที
“ว่าอย่างไร จะบอกหรือไม่บอก” พระสุรเสียงหยอกล้อนั้น ทำให้คนตัวน้อยรู้ทันทีว่าถ้าไม่รีบบอกไปคงตัองโดนเป็นแน่
“ไม่มีวันไหนที่น้องไม่คิดถึงเจ้าพี่” ด้วยประโยคง่าย ๆ ที่ทรงตรัสบอกไป แต่กลับทำให้คนที่ได้ฟังซึ้งใจเป็นที่สุด อ้อมพระกรนั้นรัดร่างให้เนื้ออุ่นแนบพระอุระยิ่งขึ้นด้วยกลัวว่านี่จะเป็นเพียงแค่ฝันไป
เจ้าช่างฉลาดนัก ประโยคนี้พี่ได้ฟังอยู่เสมอ ตอนที่เจ้าฝากบอกพี่ไปทางจดหมาย พี่กลับมิได้สนใจ แต่ตอนนี้พอพี่ได้ฟังเองจากปากของเจ้า ความหมายของมันช่างยิ่งใหญ่นัก
ความคิดเห็น