คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : รักนี้......มิอาจลืม
รักนี้...มิอาจลืม
ณ.........แคว้นเมืองแมน
“ไม่ได้ พ่อไม่ยอมให้เจ้ายก กิรินา ขึ้นเป็นพระชายาเด็ดขาด”
พระสุรเสียงที่เกรี้ยวกราด ทำให้ผู้ที่อยู่ในท้องพระโรงแห่งนี้ ต่างรู้กันว่าเจ้าหลวงนั้นทรงกริ้วอย่างรุนแรง ถึงได้ใช้น้ำเสียงนี้กับพระโอรสองค์โปรด
“คนที่จะเป็นพระชายาของเจ้า มีเพียงเจ้าน้อยองค์เดียวเท่านั้น แล้วจงเตรียมตัวเดินทางไปยะภีได้แล้ว พ่อส่งสารตอบเจ้าอาแสงเมืองไปแล้ว ว่าเจ้าตกลง”
“แต่ลูกรักนางเหมือนน้องนะเจ้าคะ” จะทำอย่างไรดี ไม่คิดเลยว่าพระบิดาจะตอบกลับไปโดยไม่ทรงถามสักคำ
“จะรักยังไง พ่อไม่รู้ แต่เจ้าต้องทำตามที่พ่อสั่ง”
เพิ่งทรงรู้องค์เอง ว่าทรงเลี้ยงโอรสอย่างตามพระทัยมากเกินไป หลังจากที่เสียพระมารดาไป โอรสทั้งสองก็ทรงเปลี่ยนไป พระโอรสองค์โตเจ้าหน่อคำกลายเป็นคนเก็บตัว เงียบขรึม แล้วที่หนักพระทัยก็องค์เล็กนี่แหละ เจ้าหน่อแก้ว จากคนที่โอบอ้อมอารี ก็กลายเป็นคนที่เสาะแสวงหาความรักอยู่ตลอดเวลา จึงมีอิสตรีรายล้อมมากมาย แต่ก็มิทรงรักใคร่ใครอย่างจริงจัง เพิ่งจะมีก็ “กิรินา” ลูกสาวเสนาบดี คนนี้แหละที่เห็นจริงจัง ถึงกับจะยกขึ้นเป็นพระชายา
ด้วยทรงผ่านอะไรมามากมาย จึงมองออกว่ามิได้เป็นเพราะความรัก เป็นแค่เพียงความหลงใหลชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น เพียงแต่โอรสของพระองค์ยังไม่สามารถแยกแยะได้ ว่าอะไรคือ..รัก อะไรคือ.....หลง
“ลูกมีข้อแม้เจ้าค่ะ ลูกจะยอมไปยะภีทำตามพระประสงค์ แต่ต้องทรงแต่งตั้งให้ กิรินา เป็นพระสนมของลูก”
มิทรงรู้เลยว่าสิ่งที่ขอในวันนี้ จะทำให้เกิดความเจ็บปวด.........ถ้วนหน้าโดยเฉพาะ....ตัวองค์เอง
เมื่อทรงเห็นว่ามิอาจทำสิ่งใด ได้ดีไปกว่าการยอมตามที่โอรสทรงขอ
“ได้ ตั้งแต่วันนี้ไป “กิรินา” คือพระสนมในเจ้าหน่อแก้วโอรสแห่งเรา”
ณ.......ตำหนักพระสนมกิรินา
“เจ้าพี่จะทรงอภิเษก กับเจ้าน้อยจริง ๆ หรือเจ้าคะ”
“แล้วจะทรงเอาหม่อมฉันไปไว้ที่ใดเจ้าคะ” เสียงร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจของพระสนมกิรินา ทำให้เจ้าชายรูปงาม ถึงกับทรงทำอะไรไม่ถูก
“พี่ขอโทษ พระบิดามิให้ทางเลือกใดกับพี่เลย” แปลกจริงหนอ ในอ้อมพระกรกอดนางหนึ่งไว้ แต่เหตุไฉนในพระทัยถึงเห็นภาพของใครอีกคนที่ทรงเคยกอดปลอบโยนด้วยพระกรคู่นี้เช่นกัน....
เจ้าน้อย....น้องน้อยของพี่นานแค่ไหนแล้วนะ ที่พี่หลงลืมเจ้าไป ป่านนี้เจ้าจะโตเพียงใดหนอ.....
“ทรงคิดอะไรอยู่เจ้าคะ มิทรงสนพระทัยน้องเลย”
เมื่อรู้สึกว่าคนในอ้อมพระกรเริ่มจะงอน จึงทรงใช้พระโอฐปิดปากที่ต่อว่านั่น บดขยี้ด้วยความร้อนแรงเพียงหวังกระตุ้นให้ร่างงามนั้นตอบสนองเหมือนเช่นทุกครา ร่างบางเริ่มโอนอ่อนจูบตอบด้วยความร้อนแรงมิแพ้กัน ก่อนจะสนองตอบด้วยลีลาที่ดุเดือด เพียงหวังมัดพระทัยให้อยู่กับนางเพียงคนเดียว..........
ณ....ตำหนักเจ้าหลวง
“พระบิดามีสิ่งใดให้ลูกรับใช้เจ้าคะ” หลังจากที่กลับจากตรวจกองทหาร ก็ได้รับทราบจากนางกำนัลว่าพระบิดาให้เข้าเฝ้าโดยเร็วที่สุด
“เจ้ารู้แล้วใช่มั้ย ว่าน้องเจ้าต้องไปเข้าพิธีหมั้นหมายกับเจ้าน้อยที่แคว้นยะภี”
“ทราบแล้วเจ้าค่ะ” ด้วยพระวรกายที่สูงใหญ่ดั่งชายชาตินักรบ กับใบหน้าที่คมเข้มดึงดูดสายตา ความสามารถทางด้านการต่อสู้ที่มิเป็นรองใคร ทำให้เจ้าหน่อคำ พระโอรสองค์โตนั้นเป็นที่หมายปองของทั่วทุกแว่นแคว้นหวังส่งราชธิดา เข้ามาให้ทรงเลือกเป็นพระชายา แต่ก็มิทรงเลือกผู้ใด
“แล้วเจ้าหละ เมื่อไหร่จะปลงใจเลือกใครมาเป็นชายาเสียที” ทรงถามเป็นครั้งที่เท่าไหร่มิอาจนับได้ แต่ก็คงได้คำตอบเหมือนเดิมจากโอรสองค์โต
“ลูกยังมิเจอผู้ใด ที่ถูกใจเจ้าค่ะ” ในโลกนี้คงไม่มีหญิงใด ที่แสนจะอ่อนหวานงดงามทั้งกายและใจดั่งเช่นพระมารดา คงไม่มี.........
“พ่อจะให้เจ้าเดินทางไปส่งน้องที่ยะภี ขัดข้องสิ่งหรือไม่” ทรงเปลี่ยนคำถาม เพราะเห็นว่าคุยเรื่องคู่ครองทีไร เจ้าหน่อคำมักจะนิ่งเงียบลงไปอีก
“ไม่ขัดข้องเจ้าค่ะ ลูกอยากเห็นเจ้านางน้อยเหมือนกันป่านนี้คงโตเป็นสาวแล้วนะเจ้าคะ"
"แต่ลูกกลัวว่าทุกอย่างมันจะเลวร้ายลงอีกนะสิคะ เพราะหน่อแก้วเองก็มี "กิรินา" อยู่แล้ว"
“พ่อตัดสินใจดีแล้วหละ มีแต่เจ้าน้อยเท่านั้นที่จะทำให้น้องของเจ้ากลับมาเป็นหน่อแก้วคนเดิม พ่อเชื่อว่าถ้าหน่อแก้วได้พบเจ้าน้อยคราวนี้ ไม่มีทางที่จะปฏิเสธการแต่งงาน เชื่อพ่อสักครั้ง”
ที่ทรงมั่นใจเช่นนี้ เพราะเมื่อคราวเสด็จประพาสยะภีเป็นการส่วนพระองค์นั่น ได้ทรงพบกับเจ้าน้อยพระธิดาในสหายรักแล้ว พระสิริโฉมงดงามดั่งหาใดเปรียบ เก่งทั้งการรบ และการเรือน ช่างประจบเอาใจ อ่อนหวานน่ารักยิ่งนัก อีกทั้งเจ้านางอัญจิมานั้นก็มิได้งามด้อยกว่ากันเลย เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก ถ้าปล่อยให้ดวงแก้วนี้ตกไปอยู่ในมือผู้ใด
ณ....แคว้นยะภี
“เจ้าน้อย” “เจ้าน้อย อยู่ที่ไดได้ยินพี่หรือไม่”
“มีอะไรหรือคะ พี่หญิง น้องปักผ้าอยู่ในห้องเจ้าคะ” เสียงหวาน ตอบกลับจากห้องบรรทมส่วนองค์
ร่างบางของเจ้านางอัญจิมาจึงเดินเข้าไปตามหา เจ้าของเสียงหวาน จึงเห็นว่าเจ้าของห้องนั้นกำลังง่วนอยู่กับการปักผ้าในมือ มิได้หันมามององค์ด้วยซ้ำ
“เจ้าหน่อแก้วตอบตกลงมายะภีแล้วจ้ะ” ร่างบางตรงหน้าหยุดชะงักมือที่ปักผ้าทันใด
“จริงหรือเจ้าคะพี่หญิง มิได้หลอกให้น้องดีใจเล่นนะเจ้าคะ” รอยยิ้มนี้ไม่มีใครได้เห็นจากพระพักตร์หวานนานแล้ว เห็นแล้วยิ่งทำให้คนเป็นพี่ยินดีจนน้ำตาคลอ
“พี่จะหลอกเจ้าไปไย พี่ดีใจกับเจ้าจริง ๆ นะ จะได้พบพักตร์คนที่เจ้ารอมานานเสียที”
............ทรงไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับน้องจริง ๆ..............
ความคิดเห็น