ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้านาง...ยอดดวงใจ

    ลำดับตอนที่ #14 : ดวงหทัย..กลับคืน

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 51


    ดวงหทัย....กลับคืน

    ด้วยความรักที่มีต่อน้องแท้ ๆ ทำให้พระองค์เป็นเช่นนี้ น้องมิได้คิดถึงพระทัยของพระองค์เลยว่าจะทรงเจ็บปวดเพียงใด น้องขอโทษ ..ขอโทษที่ปล่อยให้พระองค์ต่อสู้ทุกอย่างเพียงลำพัง ต่อนี้ไปมิว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น น้องจะไม่หนีหายไปจากพระองค์อีก น้องขอสัญญา....

    เจ้าพี่เป็นอย่างใดบ้างเจ้า” พลางเช็ดพระพักตร์ที่ร้อนผ่าวขององค์ภูมินทร์ ด้วยทรงตรากตรำพระวรกาย มิได้พักผ่อน ทำให้ไข้ขึ้นสูง ตอนนี้คนเฝ้าไข้เลยกลับมาเป็นคนป่วยเสียเอง

    ทรงเห็นว่าพระอาการดีขึ้นมากแล้ว หลังจากที่คอยเฝ้าพระองค์ทั้งคืน รุ่งสาง เจ้านางน้อยจึงทรงกลับไปชำระพระวรกายผลัดเปลี่ยนฉลองพระองค์ ขณะที่ทรงแต่งองค์นั้น นางกำนัลเข้ามากราบทูลว่า เจ้าหน่อแก้วมิทรงยอมเสวยพระโอสถ มิว่าจะป้อนอย่างไรก็มิทรงยอมเสวย พระองค์จึงรีบไปดู

    เมื่อทรงเสด็จไปถึงนั้น องค์พระภูมินทร์ทรงบรรทมหลับอยู่ จึงทรงเดินเข้าไปประคองพระองค์ขึ้นเพื่อป้อนพระโอสถ แต่พระโอสถนั้นพอถึงริมโอฐถ์ ก็ไหลออกมาหมดสิ้น จะทำอย่างไรดีเล่า ถ้าไม่ทรงเสวยพระโอสถพระวรกายคงไม่แข็งแรงเสียที เจ้านางน้อยจึงทรงดื่มพระโอสถแล้วก้มลงป้อนใส่พระโอฐถ์ของพระองค์ แล้วประกบกั้นมิให้โอสถนั้นไหลย้อนออกมา การป้อนพระโอสถจึงเสร็จสิ้นไปด้วยดี

    เป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้วที่เจ้าหน่อแก้วทรงป่วยมิได้พระสติ เจ้านางน้อยทรงคอยดูแลพระอาการอย่างใกล้ชิด บางครั้งก็ทรงเพ้อด้วยพิษไข้ ร้องเรียกหาเจ้านางเสียงดังลั่น เจ้านางจึงทรงโอบกอดพระองค์ไว้ “น้องอยู่นี่ มิเป็นไรแล้วนะเจ้า” ทรงกระซิบปลอบโยน

    เจ้านางเจ้า พระโอสถมาแล้ว” “วางไว้ตรงนั้นแหละคำแก้ว จะไปทำอะไรก็ไปเถอะเดี๋ยวเราจะป้อนพระองค์เอง” ทรงตรัสบอก ด้วยกลัวว่าคำแก้วจะรู้ว่าพระองค์ทรงป้อนยาอย่างไร “งั้นคำแก้วไปช่วยเจ้านางอัญจิมาร้อยมาลัยนะเจ้า” “อืมไปเถอะ” เมื่อร่างของนางกำนัลลับไปแล้วจึงทรงไปหยิบพระโอสถเพื่อถวายแก่องค์ภูมินทร์

    เจ้าพี่เสวยยาก่อนนะเจ้า” ขณะที่ทรงป้อนยาอยู่นั้น พลันรู้สึกเหมือนมีแรงกดจากพระโอฐถ์ที่ประกบกั้น ทรงผละมองพระพักตร์ จึงสบกับสายพระเนตรที่ฉายแววเจ้าเลห์ของเจ้าพี่ที่ทรงป้อนยาอยู่เมื่อกี้ “เจ้าพี่แกล้งน้องใช่มั้ยเจ้าคะ” ด้วยทรงเขินนัก หันพระพักตร์ที่แดงระเรื่อหนีทันใด จึงทำให้มิทันเห็นว่าเจ้าพี่ของพระองค์นั้นทรงกลั้นพระสรวลด้วยความยากลำบาก เมื่อทรงเห็นว่าพระน้องนางคงมิหายงอนง่าย ๆ เป็นแน่แท้ ด้วยมิทรงยอมมองพระพักตร์หรือตรัสอันใดกับพระองค์อีกเลย พระองค์จึงทรงรั้งร่างน้อยนั้นเข้ามากอด “พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะคนดี เพราะพี่คิดถึงเจ้ายิ่งนัก ถึงได้ทำเช่นนี้” ด้วยพระสุรเสียงที่อ้อนวอนกับเหตุผลที่ทรงตรัสบอกทำให้เจ้านางน้อยทรงหายงอน ด้วยรู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพราะพระองค์ ด้วยทรงผ่านความคิดถึงที่เจ็บปวดมาด้วยกัน จึงทรงหันมากอดตอบพระองค์ ด้วยหวังถ่ายเทความรักความคิดถึงทั้งหมดที่ทรงมี ส่งผ่านทางอ้อมกอดนี้ เพื่อไปเยียวยารักษาบาดแผลในพระทัยซึ่งกันและกัน “พี่รักเจ้านะคนดี รักมาก ถึงแม้ว่าเจ้าจะโกรธที่พี่ปกปิดเจ้าเรื่องกิรินาพี่ก็ไม่ว่า ขอเพียงแต่เจ้าอย่าเกลียดพี่ อย่าทิ้งพี่ไว้แบบนี้ พี่กลัวเหลือเกิน”

    คำสารภาพที่พระองค์ทรงตรัสบอกนั้นซาบซึ้งพระทัยหนักหนา ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นใดน้องก็พร้อมจะฟันฝ่าไปกับพระองค์ ร่างน้อยทรงคลายอ้อมพระกรที่กอดรัดองค์พระภูมินทร์ เพื่อมองสบสายพระเนตรดั่งให้คำมั่น “น้องก็รักเจ้าพี่ ถึงแม้จะรู้ว่าเจ้าพี่ทรงมีใครน้องก็ยังรัก ขอเพียงเจ้าพี่เมตตาน้องบ้าง อย่าหมดรักน้องไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน น้องก็พร้อมจะก้าวผ่านทุกอย่างไปพร้อมพระองค์เจ้า” ทั้งสองพระองค์ทรงยิ้มให้แก่กันด้วยตวามสุขพระทัย ทรงสอนให้กันและกันเรียนรู้ซึ่งความรักความให้อภัย ที่เป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งในการครองคู่กันในอนาคต

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×