คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ทาง......ที่เลือกเดิน
ทาง.....ที่เลือกเดิน
ณ..... ดินแดนที่แสนสวยงาม บรรยากาศเต็มไปความสงบเยือกเย็น ทำให้ร่างงามที่กำลังมองหาใครสักคน เพื่อสอบถามว่าที่นี่คือที่ใด รู้สึกปล่อยวางจากความกลัวได้อย่างประหลาด
เราอยู่ที่ไหนนะ แปลกจริงทำไมไม่มีผู้ใดเลย หรือว่า.....เราตายแล้ว.....
“เจ้ายังไม่ตายหรอก” พลันปรากฏ ร่างผู้ทรงศีลที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา
ร่างน้อยก้มลงกราบแทบพื้น ด้วยพระจริยวัตรที่งดงาม สมกับเป็นขัติยนารี
“เรามาพาเจ้ากลับไปยังที่ของเจ้า” “หม่อมฉันขออยู่ที่นี่ได้หรือไม่เจ้าค่ะ” เมื่อได้ฟังคำขอ ก็ทำให้ผู้ทรงศีลแปลกใจยิ่งนัก “มีแต่คนอยากกลับไป แต่เหตุใดเจ้าถึงอยากอยู่ที่นี่เล่า” เมื่อทรงนึกถึงเหตุผลที่ถูกถาม พระพักตร์หวานกลับเศร้าหมอง น้ำพระเนตรไหลรินอาบแก้มเหมือนกับว่าแทบขาดใจ
“ทรงมีพระสนมอยู่ที่แคว้นเมืองแมนแล้วเจ้าค่ะ” คำแก้วนางกำนัลคนสนิท รีบมาส่งข่าวให้แก่เจ้านางน้อย หลังจากให้ม้าเร็วไปสืบข่าวที่แคว้นเมืองแมน ถึงเรื่องที่เจ้าหน่อแก้วจะมายะภีหรือไม่ แต่เหตุที่ทำให้ล่าช้ากว่าขบวนเสด็จของสองราชโอรสหลายเพลา เพราะพลม้าเร็วป่วยเป็นไข้ป่า จึงยังมิได้ส่งข่าว
เหตุใดถึงทรงไม่บอกน้องสักคำ เรื่องสำคัญถึงเพียงนี้ ดีที่พิธีแต่งงานยังไม่เกิดขึ้น มิเช่นนั้นน้องมิต้องกลายเป็นหญิงที่แย่งสามีของคนอื่นหรือนี่ น้องรู้ดีว่าพระองค์ทรงมีอิสตรีมากมายรายล้อม แต่ก็มิทรงจริงจังกับใคร เป็นเพียงวิสัยของชายทั่วไปเท่านั้น แต่แล้วทำไมถึงได้มี “พระสนมกิรินา” เล่า พระองค์ทรงรักนางเป็นแน่แท้ ถึงกับยอมทำตามพระประสงค์ของพระบิดามาแต่งงานตามสัญญา เพื่อแลกกับการแต่งตั้งนางเป็นพระสนม ใจดวงน้อยเจ็บปวดยิ่งนัก ดั่งมีใครเอามีดมาเฉือนพระทัยก็มิปราณ
“สัญญานะเจ้าคะว่าถ้าน้องทำได้จะทรงแต่งงานกับน้อง”
“จ้ะ พี่สัญญา”
ช่างน่าขันนัก สู้อุตสาห์เล่าเรียนการต่อสู้ทุกรูปแบบ ทั้งเรียนรู้การเรือนอย่างแตกฉาน เพื่อยึดมั่นทำตามคำสัญญา แต่มันจะมีประโยชน์อันใดเล่า เมื่อคนที่ให้สัญญามิเคยใส่พระทัยเลย
“เจ้านางน้อย จะเสด็จที่ใดเจ้า ยังเช้าอยู่เลย”
“เราจะไปซ้อมดาบ ที่ลานประลองหนะ” พระหัตถ์บางเหน็บชายผ้าพันเกล้า เพื่อเก็บพระเกษา “พระพี่นางไปเสียที่ไหนเล่า เรามิเห็นอยู่ในห้อง” “ทรงลงไปเก็บดอกไม้เอาไว้กรองมาลัยที่สวนเจ้าค่ะ” ยื่นดาบใส่พระหัตถ์น้อย เมื่อทรงยื่นหัตถ์มารอรับ
ทำไมวันนี้เจ้านางน้อยถึงดูเศร้าสร้อยนัก มิทรงร่าเริงเหมือนทุกวัน พระพักตร์หมองเหมือนมิได้บรรทมมาทั้งคืน
“เราจะไปแล้วนะ เหม่ออันใดอยู่เล่า” “เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ไปกันเจ้าค่ะ”
เมื่อถึงลานประลอง ก็ทรงซ้อมด้วยความหักโหม เพลงดาบวันนี้ทำไมถึงรุนแรงนัก คล้ายกับคนซ้อมใช้มัน ระบายสิ่งที่อยู่ในพระทัยที่มิอาจบอกกล่าวผู้ใดได้ หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วหาได้มีสมาธิอยู่กับดาบตรงหน้ากลับนึกวนเวียนถึงสิ่งที่กำลังตัดสินพระทัย
น้องจะคืนสัญญาทุกอย่างให้กับเจ้าพี่เอง จะได้ไม่ต้องทรงลำบากพระทัยในการแต่งงาน และมีความสุขครองคู่กับพระสนมกิรินา ถึงแม้ว่าน้องจะเจ็บเพียงใดน้องก็ยอม เพราะถ้าให้น้องตัดใจเลิกรักเจ้าพี่ น้องทำไม่ได้ นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่น้องทำเพื่อเจ้าพี่ได้
เอะ! ทรงมาทำอะไรที่นี่นะ จะหลบยังไงดีเล่า คงไม่ทันแล้..... ฉัวะ!
โอ้ย ทำไมเจ็บที่แขนจัง..................เจ้าพี่ทรงช่วยน้องด้วยยยยย
“ที่ใดมีรัก ที่นั่นย่อมมีทุกข์ มันเป็นสัจธรรม”
“แต่เจ้ายังไม่หมดอายุขัย จึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้”
“หม่อมฉันไม่อยากกลับไป เพราะไม่อยากทำกรรมกับลูกผู้หญิงด้วยกันเจ้าค่ะ” ทรงรู้องค์เองดีถ้าแม้นว่าทรงกลับไป คงต้องพระทัยอ่อนยอมแต่งงานเป็นแน่แท้ ด้วยเพราะรักองค์ภูมินทร์เป็นหนักหนา แต่ถ้าทรงอยู่ มินานพระองค์ก็จะทรงลืม แล้วกลับไปหาคนที่พระองค์รักที่แท้จริง
“เจ้าแน่ใจแล้วใช่มั้ย ว่าหนทางที่เจ้าเลือกนี้ จะมีเพียงเจ้าที่เจ็บปวด”
“.............................”
“เจ้าก็ตอบเราไม่ได้อยู่ดี เอาหละ เราจะให้เวลาเจ้าได้ตัดสินใจใหม่ ถ้าแม้นว่ายังตั้งมั่นที่จะเลือกทางนี้เจ้าก็ต้องจากคนที่เจ้ารักไปตลอดกาล” ร่างนั้นก็พลันค่อย ๆ เลือนหายไป จนเหมือนมิเคยมีผู้ใดเคยยืนอยู่ตรงนั้น
ความคิดเห็น