คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 2 ผู้ทรงอิทธิพลแห่งกรีซ
บรรยากาศยามเย็นในกรุงเอเธนส์ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถือว่าไม่ร้อนมากนักกำลังเย็นสบายผิดกับบรรยากาศร้อนระอุภายในตึกสูงของเคกรุ๊ปสิ้นดี
ปัง!
“จัดการอย่าให้มันแข็งข้อขึ้นมาได้อีก!”เสียงแฟ้มเอกสารเล่มหนากระแทกลงบนโต๊ะไม้อย่างดัง ชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของห้องพูดเสียงเข้มกับคนที่ยืนรอรับคำสั่งตรงหน้า ใบหน้าคมคายรับกับดวงตาสีเขียวเข้มแล้วยังเรือนกายแกร่งไม่ว่าใครก็ลงความเห็นว่าดูดีเป็นที่สุด
“ครับนาย”คนรับคำสั่งโค้งหัวอีกครั้งก่อนจะถอยเท้าออกจากห้องเงียบๆ แต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูผู้เป็นนายก็เอ่ยเรียกไว้ซะก่อน
“เดี๋ยวคังอิน...”ร่างใหญ่หันกลับมาค้อมหัวแล้วยืนนิ่งอยู่ข้างบานประตูอีกครั้งรอรับคำสั่งที่จะตามมาอีก
“บอกพี่ลีทึกขออะไรร้อนๆสักแก้วสิ”เจ้าของชื่อคังอินโค้งหัวรับคำสั่งผู้เป็นนายแล้วออกจากห้องไปอย่างเงียบกริบ สมกับเป็นมือขวานายใหญ่แห่งเคกรุ๊ปทิ้งไว้แต่เจ้านายที่นั่งหน้าขรึมอ่านเอกสารในแฟ้มใหญ่ๆภายในห้องทำงานกว้างต่อไป
ก๊อกๆ
หลังจากลับร่างคังอินไปไม่นานประตูห้องก็ถูกเคาะอีกครั้ง คราวนี้เป็นอีกคนซึ่งตัวเล็กกว่าคนที่ออกไปก่อนหน้านี้ ใบหน้าสวยเรียบนิ่งขณะที่มือประคองถาดใบเล็กมาวางถ้วยเซรามิกไว้บนโต๊ะแล้วบรรจงเทชาสีอ่อนลงแก้วช้าๆ
“ผมอยากได้กาแฟดำ”พูดทั้งที่ไม่มองหน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ มือก็เปิดพลิกหน้าเอกสารไปมาจนกระทั่งความเงียบของอีกคนทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
“ผมจำได้แต่ว่าบอสสั่ง ‘อะไรร้อนๆ’ ”ลีทึกก้มหน้าลงเมื่อเห็นเจ้านายเงยหน้าขึ้นมาแล้วจึงตอบคำ เจ้าของคำสั่งอะไรร้อนๆหน้าตึง มือหนาปิดแฟ้มดังฉับแล้วนั่งยืดตัวตรงสบตาคนเป็นลูกน้องมือซ้ายคนสนิทแต่ว่าอายุกลับมากกว่าซึ่งคนตรงหน้าก็มีแต่ใบหน้านิ่งๆตอบกลับมา
“นี่มันอะไร...”เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็จำต้องถามอย่างเสียไม่ได้แล้วก็ดูเหมือนจะเป็นคำถามที่ดีทำให้ลีทึกค่อยๆจุดรอยยิ้มตรงมุมปากขึ้นมา
“ชาคาโมมายล์ครับ”สีชาตัดกับสีขาวของแก้วเซรามิกทำให้ร่างสูงต้องเขม่นมองก่อนจะเหลือบตาขึ้นไปหาใบหน้าสวยอีกครั้ง
“มีสมุนไพรที่ช่วยคลายเครียด บรรเทาภาวะวิตกกังวล ช่วยให้จิตใจสงบนิ่ง และยังช่วยย่อยอาหารได้ดีอีกด้วย”บรรยายชาถ้วยเล็กตรงหน้าที่สรรพคุณไม่เล็กตามไปด้วยให้คนที่ต้องกินขมวดคิ้วก่อนจะเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้แล้วยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ
กลิ่นหอมอ่อนๆทำให้ผ่อนคลายได้ดีเยี่ยมแถมรสชาติก็ขมหวานกำลังดีส่งผลใบหน้าคมดูสดชื่นขึ้นไม่น้อย...
“เลือกได้ดี”พูดแค่นั้นก่อนจะจิบชาต่อ ปล่อยให้คนที่นำชาเข้ามาให้ประคองกาใบเล็กวางลงบนโต๊ะตรงด้านข้างกองเอกสารแล้วเตรียมจะถอยออกจากห้องไปอีกคน
“เฮ้อออออ”งานที่คร่ำเคร่งส่งผลให้ร่างสูงไม่ค่อยได้ผ่อนคลายนัก และปัญหาที่วิ่งเข้ามาได้ไม่เว้นในแต่ละวันก็ยิ่งทำให้เคร่งเครียด
RRRrrr
เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นที่ลีทึกหยุดขาไว้ตรงหน้าบานประตูราวกับเห็นมือของผู้เป็นนายที่ยกขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อบอกให้อยู่ด้วยกันก่อน ร่างเพรียวยืนกอดถาดก้มหน้านิ่งรอฟังคำสั่ง
“บอสค่ะ นายทุนจากอิตาลี่ขอเข้าพบค่ะ”เสียงโอเปอร์เรเตอร์สาวดังขึ้นเมื่อคนเป็นนายกดรับ คิ้วคมที่เพิ่งคลายออกเมื่อครู่ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง มือหนาวางถ้วยชาลงกับจานรองแล้วตอบคำ
“ผมไม่ว่าง...”ตัดบทสั้นๆ ทั้งยังเตรียมจะยกถ้วยชาขึ้นจิบต่อแต่ว่าเสียงโอเปอร์เรเตอร์สาวก็ขัดขึ้นอีกครั้ง
“ดิฉันเรียนแล้วว่าบอสไม่ว่างให้เข้าพบค่ะ”นับว่าเป็นพนักงานที่เข้าใจการทำงานของคนเป็นนายดีอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะแค่นั่งรับหน้ากับผู้คนที่มาติดต่อแล้วยังรอบรู้เรื่องภายในเป็นอย่างดี
“คุณเคนงานนี้ต้องเป็นคุณเท่านั้น!”เสียงดังแว่วๆที่ลอดเข้ามาตามสายแล้วก็ทำให้คิ้วเข้มขมวดฉับ เสียงหนึ่งในกลุ่มนายทุนฝั่งอิตาลี่ที่เค้าจำได้
กล้ามากที่มาถึงถ้ำเสือแบบนี้!
“ผมเข้าใจแล้ว...ใช้ห้องประชุมหนึ่งแล้วกัน”ฟังจากเสียงของหญิงสาวปลายสายแล้วก็ไม่สู้ดีนัก มือหนากดวางสายแล้วถอนหายใจเล็กน้อย ใบหน้าเหนื่อยล้าเมื่อครู่จากภาระงานอันหนักหน่วงก็แปรเปลี่ยนเป็นคมเข้มดุจัด
“คุณเคนจะรับอะไรเพิ่มก่อนไหมครับ”รับรู้ว่าเรื่องงานที่มารออยู่คงใช้เวลานานกว่าจะเคลียร์จบเลยต้องรีบถามไว้ก่อน
“ไม่ล่ะ เสร็จงานค่อยกินทีเดียว”คำตอบที่ทำให้ลีทึกถอยเท้าออกจากห้องเพื่อไปจัดการกับคนที่อยู่ทางด้านล่างประวิงเวลาให้ผู้เป็นนายหาอะไรดีๆไปจัดการกับคนที่พูดแล้วไม่ฟัง มีอย่างที่ไหนดำเนินธุรกิจผิดพลาดเองแล้วต้องการยืมมือคนอย่างเคน คอนเดลเพื่อให้ธุรกิจตนเองอยู่รอด
ใช่ว่าขึ้นชื่อว่าเก่งกาจแล้วจะต้องเสนอหน้าเข้าไปยุ่งกับทุกเรื่อง แค่นี้ที่ทำอยู่ก็แทบจะอยากโยนทิ้งจะแย่...อีกอย่างมาเฟียอิตาลี่เยอะแยะทำไมไม่ไปขอความช่วยเหลือจากทางนั้นก่อน ทำไมต้องเจาะจงเป็นเคน คอนเดลด้วย...
มือหนาขยับเสื้อสูทหรูให้เข้าที่ ปิดหน้าแฟ้มเอกสารที่อ่านค้างอยู่แรงๆด้วยความหงุดหงิด หยิบโทรศัพท์เตรียมหย่อนลงในกระเป๋าเสื้อแต่ว่าชื่อของคนปลายสายที่โทรเข้ามาตอนนี้ทำให้เคนเปลี่ยนใจ
“ว่าไง...”จุดรอยยิ้มกริ่มมุมปากขณะเอ่ยเสียงก่อกวนอวัยวะเบื้องล่าง
“เชี่ย!”เสียงสบถด่าดังขึ้นมาก่อนในเมื่อระหว่างคนทั้งคู่มันไม่จำเป็นต้องมีการแนะนำตัวด้วยซ้ำ
“คยูฮยอน...กู....มีเรื่องจะให้ช่วยหน่อย...”และเป็นชเวซีวอนที่เข้าเรื่องเลยโดยไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป
เรื่องของนางแบบสาวสุดฮอตอันดับหนึ่งของเกาหลีใช่ว่าคนอย่างเคน คอนเดลหรือชื่อในเกาหลีคือโจวคยูฮยอน...จะไม่รู้จัก แล้วยิ่งเป็นน้องสาวของเพื่อนรักด้วยแล้ว ถึงคยูฮยอนจะไม่เคยเจอตัวจริงชเวฮยอนมินหรืออีกชื่อคือซองมินแต่อย่างใด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินชื่อเลย
“จะให้กูดูแลเด็กแสบนั่นน่ะเหรอ?”วีรกรรมแสบสันต์ในวัยเด็กของเด็กคนนั้นที่เพื่อนเล่าให้ฟังยังติดหูไม่จาง คยูฮยอนแค่นหัวเราะในลำคอ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเติบโตจนได้ชื่อว่าสวยสุดๆในเกาหลีตอนนี้แล้วก็ตาม...
เทียบกับคยูฮยอนแล้วเมื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเคกรุ๊ปอย่างเป็นทางการย่อมได้พบเจอของสวยๆงามๆมากมาย แต่ว่าก็ยังไม่มีใครเลยที่จะดึงดูดสายตาและตรึงใจได้ ก็ไม่แปลกที่ชายหนุ่มจะได้ชื่อว่าคาสโนว่า และดวงตาสีเขียวเข้มก็สามารถทำให้สาวๆตกหลุมเสน่ห์ของชายหนุ่มเสียทุกราย
“นอกจากมึงกูก็ไม่มีใครแล้ว”เนื่องจากสถานที่ที่น้องสาวสุดที่จะรักจะต้องไปมันก็อยู่ในส่วนของเคกรุ๊ปเรียกง่ายๆว่ามันเป็นพื้นที่ใต้การปกครองของคยูฮยอน คงไม่มีใครสามารถทำอะไรซองมินได้แม้ว่ามันจะเป็นเกาะเกาะเดิมที่เคยเกิดเรื่องก็ตาม
“ไม่ต้องห่วง แถวนี้น่ะถิ่นกู เดี๋ยวกูดูแลน้องมึงให้”รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะให้เพื่อนรักวางใจว่าจะไม่มีอะไรมาทำอันตรายน้องสาวได้อย่างแน่นอน
“เออ...แต่กูลืมบอกมึงไป...”อีกหนึ่งประโยคจากชเวซีวอนที่คยูฮยอนต้องเงี่ยหูฟัง
“น้องสาวกูจะไปใช้เกาะของมึงเป็นโลเกชั่นในการถ่ายแบบนะ”พูดจบก็ชิงวางสายไปก่อนไม่ให้คยูฮยอนได้เถียงอะไรสักคำ
จริงอยู่ที่ว่าในปัจจุบันเกาะพาราไดซ์ไม่ใช่เกาะแบบส่วนตัวร้อยเปอร์เซ็นต์ดั่งเช่นในอดีตอีกต่อไปเมื่อคยูฮยอนตัดสินใจเปิดรีสอร์ทเล็กๆอยู่บนชายหาดหนึ่งของเกาะ และมีบ้านพักเพียงแค่เจ็ดหลังรองรับนักท่องเที่ยวได้ไม่เกินสิบห้าคนซึ่งตอนนี้เรียกได้ว่าใครต้องการห้องพักที่ราคาแพงหูฉีกแล้วยังต้องรอคิวกันแทบจะข้ามปีด้วยกว่าจะได้ไปยลโฉมความสวยงามที่สมกับชื่อของเกาะแห่งนี้
“แม่ง!”ได้แต่สบถามหลังไปอย่างทำอะไรไม่ได้ เค้าพอจะจำได้คร่าวๆว่ามีทีมงานของหนังสือนิตยสารอะไรสักอย่างติดต่อมาขอเข้าพักที่รีสอร์ทแถมขออนุญาตใช้พื้นที่ในการถ่ายแบบลงปกนิตยสารด้วยซึ่งคยูฮยอนไม่คิดว่านางแบบจะกลายเป็นคนที่มาจากประเทศบ้านเกิดของเลือดครึ่งหนึ่งในตัวคยูฮยอนแบบนี้
“ช่วยหาประวัติเค้ามาให้ผมที”ร่างสูงสั่งงานไว้กับลูกน้องก่อนจะก้าวยาวๆไปทางห้องประชุมเพื่อจัดการกับอีกธุรกิจที่น่าเวียนหัว แต่ลับหลังคุณเคนหายไปแล้วรอยยิ้มจางๆก็จุดอยู่บนใบหน้าของลูกน้องคนสนิทอย่างลีทึกทันที
มือบางยกกระดาษขึ้นมาดูรูปใบหน้าสวยที่ปรากฏอยู่บนแผ่นกระดาษอีกครั้ง ลายมือหวัดๆเป็นชื่อใต้รูปนั่นก็เป็นคำตอบได้อย่างดีว่าเจ้านายของลีทึกคงสนใจคนในรูปนั่นไม่น้อยเลยทีเดียว
“นางแบบฝั่งยุโรปมีเยอะแยะที่พร้อมพลีกายให้นายใหญ่แห่งเคกรุ๊ป แต่บอสกลับสนนางแบบจากเกาหลีมากกว่างั้นหรือ...ก็นะในเมื่อสวยสะดุดตาขนาดนี้”มือบางตบแผ่นกระดาษลงกับมือรู้สึกว่าอนาคตกำลังจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น
คนที่ทำให้ดวงตาสีเขียวมรกตนั่นจับจ้องมาที่ตนเองได้ อยากเจอตัวจริงของคุณแล้วสิ...ชเวฮยอนมิน
บรรยากาศหมองๆด้านนอกกระจกกับท้องฟ้าสีเทาหม่นบ่งบอกได้ว่าอีกไม่น่าฝนคงเทลงมาอย่างหนักหน่วงเลยทีเดียว แต่มันก็คงไม่เท่ากันบรรยากาศอึมครึมจากใครบางคนที่นั่งนิ่งมานาน
"เฮ้ออออ"เสียงถอนหายใจดังลอยออกมาเป็นรอบที่สิบของเช้าวันนี้แล้วก็ได้ จูเนียลได้แต่มองเพื่อนรักที่นั่งนิ่งอยู่ตรงโต๊ะริมกระจกร้านกาแฟของตนมานานนับชั่วโมงได้แล้ว
จูเนียลรู้จักกับฮยอนมินตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่แม่ของทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน จึงให้ลูกๆเข้าเรียนพร้อมกันกระทั่งโตขึ้นมาก็เข้าวงการเหมือนกัน แต่ว่าเพราะจูเนียลเล่นกีตาร์เก่งและร้องเพลงเพราะเธอจึงไปเอาดีทางด้านการร้องเพลง ต่างจากฮยอนมินที่ถึงจะร้องเพลงดีแต่เจ้าตัวกลับไม่ชอบความวุ่นวายและขอเป็นแค่นางแบบตัวเล็กๆก็เพียงพอ แต่ใครจะรู้ว่าต่อมาไม่นานชื่อของชเวฮยอนมินจะขึ้นแท่นเป็นที่หนึ่งของวงการนางแบบแบบนี้
แสงสีส้มสาดส่องตกกระทบกับพื้นหญ้าด้านนอกกระจกของตัวร้าน ฮยอนมินมาเปิดร้านด้วยตัวเองตั้งแต่เช้า ร้านกาแฟร้านนี้เป็นสิ่งที่ฮยอนมินกับเพื่อนรักลงทุนร่วมกันมา จนลูกน้องเริ่มทยอยมาทำงานตัวเจ้าของร้านคนสวยกลับไปนั่งซึมเหม่อมองท้องฟ้าสลับกับคนแก้วโกโก้เย็นจนมันละลายหมดแก้วได้แล้วละมั้ง
"มีอะไรรึเปล่า เล่าให้ฉันฟังได้นะ"ร่างที่บอบบางไม่ต่างกันของเพื่อนสนิททิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับที่ฮยอนมินนั่งอยู่ ใบหน้าสวยหันมาหาเพื่อนช้าๆ มือเรียวที่ปลายเล็บเคลือบสีชมพูสวยก็ยังคนแก้วต่อไปอย่างไร้จุดหมาย
"ทะเลาะกับพี่ชายนิดหน่อยนะ"แต่จากที่เห็นอาการของฮยอนมินแล้วจูเนียลว่ามันไม่นิดแล้วล่ะ
"ตาจะกลายเป็นหมีแพนด้าแล้วเนี่ยนะที่เรียกว่านิดหน่อย"หญิงสาวเท้าเอวตีหน้าดุใส่เพื่อนที่นั่งเม้มปากจนเป็นเส้นตรงอยู่ตรงข้าม
ใช่ว่าเธอจะดูไม่ออก ใบหน้าของเพื่อนเรียกได้ว่าเหมือนคนอดนอนไม่มีผิด ถึงจะใช้เครื่องสำอางปกปิดแค่ไหนแต่ดวงตาที่แดงก่ำราวกับคนอดนอนนั้นก็ยังเห็นได้ชัด เธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้าลบเครื่องสำอางออกฮยอนมินจะดูโทรมแค่ไหนกัน
"เฮ้อออออ"ใจอยากจะถามมากกว่านี้ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนแต่ฮยอนมินกลับฟุบหน้าลงกับท่อนแขนเลี่ยงการตอบคำถามไปเสียอย่างนั้น จูเนียลที่ไม่รู้จะทำยังหางตาก็เหลือบไปเห็นตัวช่วยคนสำคัญเดินเข้าร้านมาพอดี
"พี่ซินค่ะ ยัยนี่เป็นอะไรของเค้ากัน หนูไม่เข้าใจเลย"เบะปากใส่ว่าที่พี่สะใภ้ของเพื่อนแล้วเป่าลมออกจากปากด้วยความเหนื่อยใจ เค้าอยากช่วยเพื่อนแต่เมื่อเพื่อนไม่บอกตนก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
"เดี๋ยวพี่จัดการเอง จูเนียลมีอะไรก็ไปทำเถอะ"ว่ายิ้มๆแล้วหย่อนตัวลงนั่งแทนที่ผู้ที่เปรียบเสมือนน้องสาวเค้าอีกคน จูเนียลเห็นอย่างนั้นก็หนีไปอยู่หลังเคาเตอร์เตรียมเคลียร์บัญชีของร้านแต่ดวงตาก็คอยเหลือบมองเพื่อนอยู่เนื่องๆ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เธอก็ยังเป็นห่วงเพื่อนอยู่ดี
"น้องมิน..."เสียงคุ้นหูเรียกให้คนที่นั่งฟุบหน้าอย่างไม่กลัวเครื่องสำอางจะเลอะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมานิดหนึ่งซึ่งพอเห็นว่าเป็นใครฮยอนมินก็ทิ้งใบหน้าลงกับท่อนแขนอีกครั้ง
"ฮื่ออออออ"ฮยอนมินเป็นคนดื้อไม่ว่าใครในบ้านก็รู้ดี ถ้าหญิงสาวอยากได้อะไรก็จะเอาให้ได้ ก็เพราะชเวซีวอนเป็นคนตามใจน้องมาเสมอคราวนี้เลยทำให้ทะเลาะกันจนแทบมองหน้ากันไม่ติด และฮีชอลก็รับหน้าที่มาประสานรอยร้าวระหว่างพี่น้อง
"ฟังพี่ก่อนสิ ฟุบแบบนั้นหน้าสวยๆพังหมด"มือเรียวเอื้อมมางัดหน้าน้องสาวขึ้นซึ่งซองมินก็ไม่กล้าขัดขืน อีกอย่างสู้แรงคนเป็นพี่ไม่ได้ด้วย ใบหน้าสวยบอบช้ำที่ฮีชอลเห็นแล้วใจหล่นวูบ ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าซีวอนเห็นชายหนุ่มจะโกรธตัวเองมากแค่ไหน
"พี่ชายน้องมินอนุญาตแล้ว"ดวงตาคู่สวยแดงก่ำเบิกกว้างแต่สมองยังอืออึงคิดตามไม่ทันเป็นผลจากการอดนอนทั้งคืน
"งานถ่ายแบบอันนั้น น้องมินไปทำได้แล้วนะ..."ร่างเล็กอยากจะลุกขึ้นดีใจติดที่ว่าคนตรงหน้ายังพูดไม่จบและดวงตาคู่สวยที่กดดันซองมินอยู่ตอนนี้ก็ให้คนตัวเล็กไม่กล้า
"แต่ว่า...น้องมินต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเพื่อนพี่ชายอย่างเคร่งครัด"ร่างเล็กกระพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ
เพื่อนพี่ชาย...ใคร?
"เพื่อนพี่ชายที่ว่า...ใครเหรอคะ"ใบหน้าสวยเอียงน้อยๆด้วยความสงสัย ฮีชอลละมือออกจากใบหน้าของน้องดึงกลับไปประสานนิ้วกันไว้บนโต๊ะ
"เคน คอนเดล..."
"กรี๊ด! ที่เค้าว่าเป็นนักธุรกิจที่หล่อและทรงอิทธิพลที่สุดในยุโรปนั่นเหรอคะ!"ก่อนที่ฮีชอลจะได้พูดอะไรต่อก็มีเสียงของใครบางคนดังขึ้นมา จูเนียนที่ยกกาแฟมาให้คนเป็นพี่ได้ยินชื่อชายหนุ่มเต็มสองหูก็หลุดกรี๊ดออกมาไม่ได้ ใครจะรู้ว่าชเวซีวอนรู้จักกับคนคนนั้นได้ยังไง
ถ้าบอกว่าเคน คอนเดลหรือโจวคยูฮยอนเป็นคนคุมธุรกิจฝั่งยุโรป ทางฝั่งเอเชียก็คือชเวซีวอน...
"ก็ทำนองนั้น..."ฮีชอลรับคำยิ้มๆ ใช่ว่าฮีชอลจะไม่รู้ เพราะน้องสาวคนนี้ได้ชื่อว่าเห็นเรือนกายหนุ่มๆแน่นๆหน่อยไม่ได้ จ้องซะจนน้ำลายหกตลอด นั่นคือเหตุผลที่ทำให้จูเนียลเลือกเป็นนักร้องมากกว่านางแบบ ไม่งั้นภาพลักษณ์นักร้องผู้แสนน่ารักราวน้องสาวตัวน้อยของประเทศคงเหลือแต่ชื่อ
"รับปากไปซิฮยอนมิน โอกาสแบบนี้หาไม่ง่ายนะ"วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะได้เสร็จจูเนียลก็นั่งลงไปเบียดเพื่อนบนโซฟาก่อนจะเขย่าแขนจนฮยอนมินหัวสั่นหัวคลอน
“ใจเย้นนนนน!!!”คนโดนเขย่ารีบเบรกเพื่อนทันทีก่อนที่ตัวเองจะมึนหัวไปมากกว่านี้ ฮยอนมินตีหน้ายุ่งใส่เพื่อนที่ดวงตาคู่สวยของจูเนียลเป็นประกายดีใจมากมายราวกับจะได้เป็นคนไปถ่ายแบบขึ้น
“ข้อตกลงมีอะไรบ้างค่ะ น้องมินไม่เชื่อว่ามีแค่นั้นแน่ๆ”สมกับที่เป็นน้องสาวของชเวซีวอนจริงๆ ฮีชอลแสยะยิ้มน้อยๆ มือบางยกขึ้นกอดอกรู้สึกดีไม่น้อยที่น้องสาวที่ตนช่วยคนรักเลี้ยงมากับมือถอดแบบนิสัยของตนกับคนรักไปได้อย่างเต็มเปี่ยม
“เค้าสั่งอะไรก็ทำตามแค่นั้น...”พูดเหมือนง่ายแต่ฮยอนมินส่ายหัวขวับๆทันทีที่ได้ยิน เกิดตาบ้านั่นเรียกร้องอะไรที่ฮยอนมินทำไม่ได้ขึ้นมาไม่โดนจับโยนออกนอกเกาะรึไง
ให้ตายซองมินก็ไม่ยอมถูกส่งกลับง่ายๆแน่!
“น้องมินฟังแค่ครึ่งเดียวค่ะ ถ้าเป็นทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยน้องมินจะยอมฟัง แต่ถ้าเรื่องอื่นละก็...ฝันไปเถอะ!”ยังไงก็ยังเป็นฮยอนมินผู้เอาแต่ใจอยู่วันยังค่ำ อะไรที่เสียเปรียบฮยอนมินไม่เอาทั้งนั้นนั่นแหละ
“แต่ว่าคุณเคนเค้าหล่อมากเลยนะ”จูเนียลว่าเสียงอ่อยใบหน้าก็หงอยสนิทเมื่อได้ยินเพื่อนพูดว่างั้น ถ้าเป็นเธอละก็ไม่ว่าคุณเคนสั่งอะไรเธอก็จะเชื่อฟังทั้งหมดเลยขอแค่ได้เห็นหน้าหล่อๆนั่นก็พอแล้ว
“หล่อแล้วไง? พี่ซีวอนหล่อกว่าตั้งเยอะเถอะ!”ร่างเล็กกอดอกเบะปากแล้วเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้เชิดหน้าอย่างมั่นใจว่าพี่ชายตนหล่อที่สุดในโลกนี้แล้ว
“แน่นะ...ห้ามหลงเสน่ห์คุณเคนของฉันแล้วกัน”จูเนียลเอาศอกกระแซะสีข้างเพื่อนสนิทอย่างแกล้งๆ
“อย่ามาเพ้อผู้ชายแถวนี้นะยัยบ้า!”ฮยอนมินสะบัดตัวหนีการกระแซะของเพื่อนทันที แถมยังพูดอย่างมั่นอกมั่นใจแต่คนที่มองอยู่วงนอกอย่างฮีชอลกระตุกยิ้มขึ้นมา
เดี๋ยวก็รู้...
การกระทำทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของใครบางคนที่แอบมาซุ่มดูอยู่แถมด้วยบทสนทนาทั้งหมดก็ถูกบันทึกไว้ให้ผู้เป็นนายได้ฟัง
ร่างสูงโยนแฟ้มรายงานข้ามโลกนั่นลงบนโต๊ะอย่างแรง ริมฝีปากคลี่ยิ้มร้ายกับการดูถูกของใครบางคน คิดถูกจริงๆที่สั่งคนให้ไปติดตามดูพฤติกรรมของยัยเด็กแสบ แล้วในหัวก็มีความคิดดีๆอย่างหนึ่งผุดขึ้นมา ริมฝีปากก็ยิ่งคลายยิ้มกว้างขึ้นอย่างที่ลีทึกผู้ซึ่งเป็นคนเอารายงานฉบับนั้นมาให้ผู้เป็นนายเข้าใจดี
กำลังจะได้เห็นอะไรดีๆแล้วสินะ...
ร้ายอย่างนี้มันน่าปราบให้อยู่จริงเชียว!
เพิ่มตัวละครเพื่อนนางเอกมาอีกคนนะคะ ^ ^
งานนี้คุณนางแบบทำอะไรเจ้าของเกาะเค้ารู้หมดแหละ นินทาว่าร้ายอะไรระวังจะเข้าตัวหมดนะเออ ตอนนี้พระนางเราก็ยังไม่ได้เจอกัน แต่ตอนหน้าเจอกันแน่ๆ รับรองความแซ่บล่วงหน้าเลยคะ คนนึงก็ไม่ยอมใครง่ายๆ อีกคนก็เอาแต่ใจ ก็อยู่ที่ว่าใครจะร้ายได้มากกว่ากัน หุๆ เจอกันตอนหน้าค่า
เมนท์ในทวิตติดแท็ค #ฟิคเกาะรัก นะคะ
ความคิดเห็น