ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Paradise Island : เกาะร้อน...รักร้าย [KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 8 จุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียว

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 58











                ก็ไม่รู้ว่าซองมินเดินเข้ามาในป่าลึกแค่ไหนแล้ว  แต่เกาะเล็กๆแบบนี้มันไม่น่าจะเดินนานขนาดนี้  พระอาทิตย์ลอยลงต่ำลงทุกทีๆและซองมินจะต้องกลับออกจากป่าไปก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดินไม่อย่างนั้นนอกจากจะหลงทางอยู่แถวนี้จนคุณเคนตามมาเจอแล้วซองมินอาจจะโดนส่งตัวกลับไปก่อนเวลาอันควรด้วย

     

     

                ซองมินตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่ายังไงก็จะอ้อนขอคุณเจ้าของเกาะเพื่ออยู่ที่นี่ต่อไป...

     

     

                สัญชาติญาณหรือความเคยชินก็ไม่แน่ใจแต่เท้ากลับพาซองมินลัดเลาะมาตามได้สำเร็จ  เสียงคลื่นซัดเข้าหาชายฝั่งดังแว่วมาไม่ไกล  มือบางขยับหมวกแก๊บที่สวมเพื่อเก็บเส้นผมทั้งหมดไว้ให้เข้าที่ก่อนจะแหวกพุ่มไม้แล้วโผล่หน้าออกไปดู

     

     

                ชายหาดตรงหน้าดูคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก มันคุ้นจนมือไม้เย็นเชียบไปหมด...

     

     

                ซองมินหลบมุมแอบดูอยู่สักพักว่าตรงชายหาดไม่มีใครก็เดินเลาะริมพุ่มไม้ไป  ถึงมันจะเลือนลางในความทรงจำมากแค่ไหน  แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดซองมินไม่มีวันจำสถานที่ในอดีตผิดไปได้อย่างแน่นอน

     

     

                เสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้นมาไกลๆทำให้ซองมินต้องรีบหลบอยู่หลังพุ่มไม้  แอบมองลอดจากกิ่งไม้ไปก็เห็นเงาของเรือลำเล็กลอยมาตามคลื่น  ซึ่งพอเข้าใกล้ฝั่งแล้วเสียงเครื่องยนต์ก็เงียบไป  คิดว่าคนบนเรือคงทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว  ท่าทางในการบังคับเรือผ่านโขดหินจึงดูเชี่ยวชาญมาก

     

     

                เรือลำเล็กไม่ได้ลอยเข้ามาที่ชายหาดแต่มันกลับเบนหน้าไปทางที่เต็มไปด้วยโขดหินลับหายไปตรงหินก้อนใหญ่ทำเอาคิ้วเรียวสวยขมวดเป็นปม 

     

     

                ร่างเล็กตัดสินใจวิ่งเร็วๆไปที่ผาหินด้านบน  ดีว่าตรงส่วนนี้เต็มไปด้วยพุ่มไม้และต้นไม้ง่ายต่อการซ่อนตัว  ได้ยินเสียงพายกระทบน้ำเบาๆซองมินก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงอยู่ไม่ห่างนัก

     

     

                ครู่เดียวที่ซองมินแอบหลบอยู่เสียงด้านล่างก็เงียบไปจึงจำใจต้องออกมาจากที่ซ่อนแล้วชะโงกหน้าลงไปจากผาหินด้านบน

     

     

                “เฮ้ย! ใครอยู่ตรงนั้น”เสียงตะโกนที่ทำให้ซองมินต้องรีบหดคอแล้ววิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้ตามเดิม  เสียงฝีเท้าไต่ขึ้นมาตามโขดหินช้าๆ จึงตัดสินใจวิ่งกลับไปทางเดิมที่เดินผ่านมา

     

     

                ซองมินสับเท้าถี่ๆเพื่อหนีคนด้านหลังที่ไล่ล่าตามมา  เสียงกิ่งไม้หักกับเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทำให้ยิ่งร้อนรน 

     

     

                ได้ยินเสียงต้นไม้แตกเปรี๊ยะๆตามหลังมาก็ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายใช้ปืนเก็บเสียงซองมินก็ยิ่งหวั่นใจ  ถ้าซองมินโดนยิงตอนนี้กว่าจะหาศพเจอก็น่าจะอีกหลายชั่วโมงคนพวกนั้นก็คงจะหนีไปหมดแล้ว

     

     

    ว่าแต่คนพวกนี้เป็นใครกันแน่  หรือจะเป็นคนของเคน คอนเดล?

     

     

                ใจหนึ่งก็พะว้าพะวงกลัวว่าจะเป็นคนอื่นแอบขึ้นเกาะมาอีกใจก็คิดว่าถ้าเป็นคนของคุณเจ้าของเกาะล่ะ...วิ่งไปคิดไปไม่ได้มองทางข้างหน้าให้ดี  ท่อนไม้อันใหญ่ขวางอยู่ตรงหน้าให้ซองมินต้องกระโดดข้าม

     

     

                “อ๊ะ!”เท้าเล็กหลุดออกจากรองเท้าผ้าใบเมื่อขนาดรองเท้ามันหลวมกว่าปกติ  เพราะซองมินไปแอบหยิบของนางแบบคนอื่นมาใส่ทำให้ขนาดไม่พอดีกับรองเท้าพอวิ่งเร็วๆหน่อยก็ลื่นหลุดจากเท้าแต่จะให้หยุดวิ่งตอนนี้ก็ทำไม่ได้  ได้แต่กัดฟันวิ่งต่อไปทั้งที่เท้าเปลือยเปล่าหนึ่งข้าง

     

     

                “โอ๊ย!”ซองมินร้องออกมาเบาๆ พยายามเก็บเสียงให้มากที่สุดถึงมันจะเจ็บมากแค่ไหนก็ตาม  ร่างเล็กทรุดลงกับพื้นดินด้างล่างมือบางกุมไว้ที่ฝ่าเท้า  เลือดสีสดไหลซึมออกมาตามบาดแผล 

     

     

                “อึก!”กัดฟันแน่นขณะที่ใช้มือดึงกิ่งไม้แหลมเล็กที่ปักอยู่ตรงฝ่าเท้าออก ดีว่าไม่ได้เข้าลึกมากแต่มันก็เจ็บไม่น้อย  ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรร่างทั้งร่างก็ลอยวืดขึ้นเหนือพื้น  ซองมินตกใจตาโตเกือบจะร้องกรี๊ดออกมาแต่ฝ่ามือหนากลับปิดไว้เสียก่อน

     

     

                “เงียบๆนะ”เสียงทุ้มและวงแขนอันคุ้นเคยทำให้ซองมินเงียบเสียงลง  ร่างสูงอุ้มคนตัวเล็กเข้าไปหลบอยู่ในพุ่มไม้  คล้อยหลังคยูฮยอนพาซองมินไปหลบได้ครู่เดียวเท้าคนสามสี่คนก็โผล่มาเล่นเอาซองมินแทบจะกลั้นหายใจไปเลยกลัวจะโดนถูกจับได้

     

     

                “มันหายไปไหนแล้ว!!!”กระชากเสียงถามด้วยความไม่พอใจ  ดูจากท่าทางแล้วคงไม่ใช่ลูกน้องของชายหนุ่มแน่ๆไม่อย่างนั้นคุณเคนคงจะไม่พาซองมินมาหลบแบบนี้แน่ 

     

     

                ยิ่งอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ที่ซ่อนตัวของคนทั้งคู่มากเท่าไหร่ซองมินก็ยิ่งกอดคยูฮยอนแน่น  ตัวเล็กๆแทบจะจมไปกับอกแกร่ง  ใกล้กันจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นระรัว  ซองมินไม่รู้ว่าที่หัวใจเต้นแรงแบบนี้มันเพราะอะไรกันแน่ ระหว่างกลัวคนร้ายที่ด้านนอกกับกลัวความอบอุ่นของคนที่กอดตนเองไว้ในอ้อมแขน

     

     

                เสียงคนเดินไกลออกไปทำให้คยูฮยอนค่อยๆคลายอ้อมกอดออกทีละนิด  ร่างสูงแหวกพุ่มไม้ออกดูเหตุการณ์ภายนอกก่อนจะหันกลับมาสนใจคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งอยู่บนตัก

     

     

                “อ๊ะ!”ซองมินตกใจไม่น้อยเมื่ออีกฝ่ายถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกออกมาพันฝ่าเท้าที่เต็มไปด้วยเลือดอย่างไม่รังเกียจแม้แต่นิด

     

     

                “เดี๋ยวผมให้คุณขี่หลังกลับไป ลูกน้องผมอยู่ไม่ไกลจากนี่”ซองมินไม่มีเวลามางอแงอะไรอีกแล้ว  ถึงใจจะกลัวความใกล้ชิดที่ได้รับมันจะทำให้หัวใจดวงน้อยถลำลึกลงไปมากกว่านี้ก็ตาม

     

     

                แขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่งแผ่นอกอิ่มเบียดแนบชิดกับแผ่นหลังกว้างเล่นเอาคยูฮยอนแทบจะเป็นบ้ากับผิวกายเนียนนุ่มที่แนบชิดกายตนอยู่แบบนี้  ซองมินเองก็ทำหน้าที่ช่วยสอดส่องเผื่อคนร้ายจะย้อนกลับมา

     

     

                “บอสครับ!”คยูฮยอนก้าวเร็วๆกลับมาทางบ้านพัก  พ้นพุ่มไม้ใหญ่ออกมาก็เจอกับลีทึกที่ยืนคอยตรงชายป่าอยู่ นั่นหมายความว่าคังอินอยู่ข้างใน 

     

     

                ปัง!!!

     

     

                เสียงปืนที่ดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลพาให้คยูฮยอนต้องรั้งร่างเล็กมากอดไว้อีกครั้ง  ซองมินเองก็หลบมุดใบหน้าไว้กับแผ่นอกกว้างสุดชีวิต  เสียงที่ดังมาถึงบ้านพักตรงนี้แสดงว่าทางด้านรีสอร์ทก็คงได้ยิน 

     

     

                “นายไปช่วยคังอิน แล้วบอกแทคยอนมาทำหน้าที่แทน”คยูฮยอนเข้าใจดีว่าลูกน้องตนคงห่วงอีกคนไม่น้อยแต่ก็ไม่สามารถทิ้งหัวหน้าอย่างตนได้ถึงได้ออกคำสั่งแบบนี้  ลีทึกโค้งหัวรับแล้วถ่ายทอดคำสั่งทันที ไม่ถึงสองนาทีแทคยอนก็โผล่ออกมาจากชายป่าอีกด้านสลับหน้าที่กับลีทึกที่ผลุบหายไปอีกทาง

     

     

                คยูฮยอนยืนมองลูกน้องที่มาประจำหน้าที่แล้วก็อุ้มซองมินเดินเข้าบ้านมา  แทคยอนเห็นอย่างนั้นก็ไปจัดการหาผ้าสะอาดๆมาให้ผู้เป็นนาย

     

     

                “เจ็บนิดหนึ่งนะ...”เอ่ยบอกเสียงนุ่มแล้วค่อยๆช้อนปลายเท้าเล็กขึ้นมาใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดไปเบาๆ  ซองมินงับปากแน่นไม่กล้าร้องทั้งที่เจ็บแต่มันก็ยังพอทนได้ มือบางจิกเล็บลงกับโซฟาหนังตัวสวยจนเป็นรอย

     

     

                “ผมจะทำแผลให้ก่อน”สิ้นเสียงฝ่ามือหนาก็ซับแอลกฮอล์ลงให้ซองมินกรีดเสียงร้องลั่น  ซองมินแทบจะตายกับความแสบ  เพราะแผลมันแค่ถากๆไม่ได้ร้ายแรงมากนักแต่เพราะเลือดมันดูเหมือนออกเยอะทำให้ตอนแรกคยูฮยอนก็เข้าใจไปว่าแผลคงลึก

     

     

                “เสร็จแล้ว”ร่างสูงล้างมือกับแอลกฮอล์ก่อนจะใช้ข้อนิ้วเช็ดหยดน้ำใสบนแก้มนุ่มออกให้อย่างเบามือ

     

     

                ซองมินนั่งนิ่ง  ลูกแก้วกลมใสไหวระริกสบกับผลึกสีมรกต  แล้วน้ำตาที่เหมือนจะเหือดแห้งไปแล้วก็ไหลลงมาอีกครั้ง  ซองมินคิดไม่ออกเลยว่าตอนนั้นถ้าคุณเคนโผล่ไปช่วยไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น  ถึงจะกลัวแต่ร่างเล็กก็ไม่มีความคิดที่จะหนีกลับเกาหลีไปเลยแม้แต่น้อย  ถ้ายังไม่รู้เรื่องในอดีตซองมินจะไม่ยอมไปไหนแน่นอน

     

     

                “...”ไม่มีคำพูดใดๆจากชายหนุ่มมีเพียงแต่อ้อมกอดอบอุ่นที่โอบล้อมรอบตัวซองมิน  มือหนากดใบหน้าสวยให้จมลงกับแผ่นอก  ใช้ภาษากายแทนคำพูดที่ต้องการสื่อ 

     

     

                เพราะเป็นผู้ชายดิบๆ คนอย่างเคน คอนเดลไม่เคยปลอบใจใคร ไม่เคยต้องเช็ดน้ำตาให้ใคร และไม่เคยเป็นห่วงใครจนแทบบ้ามากมายขนาดนี้

     

     

    ก็ไม่แปลกที่จะทำตัวไม่ถูกกับคนที่กำลังทำให้คนอย่างเคน คอนเดลเปลี่ยนไป...

     

     

                มือบางกำแน่นอย่างตัดสินใจก่อนจะกอดตอบกลับไปให้ร่างสูงกดปลายคางลงกับกลุ่มหอมนุ่ม

     

     

                “คุณคงกลัวสินะ  ไม่ต้องห่วงผมไม่ให้ใครทำอะไรคุณได้หรอก...”ผละกอดออกมาแล้วจรดจูบนุ่มนวลตรงหน้าผากมน  ซองมินลืมตาขึ้นมาหลังกลิ่นกายหอมเท่ห่างออกไปแล้ว  ร่างบางงับริมฝีปากล่างน้อยๆอย่างเขินๆ

     

     

                “ว่าแต่...คุณออกไปทำอะไรที่หลังเกาะนั่น...”เอาละสิ คำถามมาแล้ว  ซองมินจะตอบยังไงดี...

     

     

                ร่างเล็กกรอกตาไปมาพยายามหลบดวงตาสีเข้มนั่นไม่ยอมให้สะกดตนเองไว้ได้อีกแล้ว เกิดเผลอตกหลุมเสน่ห์คนตรงหน้าเข้าตอนนี้ต้องแย่แน่

     

     

                  “มองผม...”ข้อนิ้วแกร่งเชยคางเรียวขึ้นมาไม่ให้ร่างเล็กหลบสายตาได้อีก  ตอนนี้ซองมินนั่งอยู่บนตักแกร่งหมดทางจะหนีโดยสิ้นเชิง

     

     

                “ฉันแค่...อยากจะไปชมวิว...”เสียงหวานว่าแผ่วเบาแทบจะไม่พ้นริมฝีปาก

     

     

    “ถ้าโกหกผมจะจูบจนกว่าคุณขาดใจตาย  ผมไม่ล้อเล่นหรอกนะ”เสียงทุ้มว่าเข้มทั้งยังขยับเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนผ่าวรินรดลงบนกลีบปากอิ่ม

     

     

    “อ๊ะ...อ๊ะ  ฉันแค่อยากหนีคุณไปเดินเล่นเฉยๆ”รีบแก้ตัวก่อนจะโดนจูบเข้าจริงๆ มือบางยันแผ่นอกแกร่งไว้เต็มแรงแต่มันแทบช่วยอะไรซองมินไม่ได้เลย  ถ้าคยูฮยอนจะทำอะไรซองมินก็คงสู้แรงไม่ได้อยู่แล้ว

     

     

    “ผมบอกคุณรึยัง...”เสียงทุ้มแหบพร่าที่กระซิบอยู่ตรงริมใบหูเล่นเอาซองมินสะท้านเยือกเพราะมันดูยั่วยวนเสียเหลือเกิน

     

     

    “อะ...อะไร”ละล่ำละลักถามทั้งยังก้มหน้างุด พยายามกดใบหน้าตัวเองลงต่ำไว้จะได้ไม่ต้องสบสายตาอันแสนจะดึงดูดนั่น 

     

     

    “ถ้าคุณยังงับปากล่างยั่วผมแบบนี้อีก  คืนนี้คุณจะไม่ได้นอน...”ดวงตากลมโตเบิกกว้างเงยหน้าขวับทันที 

     

     

    แล้วจะให้ซองมินทำยังไงก็มันเป็นนิสัยไปแล้วเวลาเผลอคิดอะไรมากๆก็กัดริมฝีปากล่างด้วยความเคยชิน  แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรพอคนร่างสูงพูดจบเรียวปากหยักก็กดลงมาทาบทับให้สติซองมินเตลิดไปอีกครั้ง

     

     

    แผ่นหลังบางแอ่นโค้งตามการดันของฝ่ามือแกร่ง  อกอิ่มเบียดแนบชิดกับอกกว้าง  เรียวปากนุ่มถูกละเลียดจูบอย่างเร่าร้อน  คยูฮยอนใช้ฟันงับกลีบปากล่างคนตัวเล็กอย่างแกล้งๆเล่นเอาซองมินทำอะไรไม่ถูก  ก่อนจะใช้ปลายลิ้นรุกไล่ให้คนตัวเล็กครางหือในลำคอ  ร่างเล็กๆสั่นไปหมดเมื่อถูกรุกอย่างร้อนแรง

     

     

    มือหนาทาบอยู่บนแผ่นหลังบอบบางลูบไล้ขึ้นลง  ปลายเท้าเล็กทั้งสองข้างพาดผ่าสีข้างคุณเคนจิกลงกับพื้นโซฟาแล้วลากครูดไปมาระบายอารมณ์วาบหวามที่เกิดขึ้น  มือบางก็คล้องอยู่กับลำคอแกร่งเบี่ยงใบหน้ารับจูบแสนหวานอย่างเต็มใจ

     

     

    กึก!

     

     

    ร่างเล็กที่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์เพราะถูกดึงดูดจากจูบร้อนก็สะดุ้งนิดๆเมื่อมือหนาที่ลากวนบนแผ่นหลังสะกิดปลายนิ้วนิดเดียวสายเสื้อในก็หลุดออกจากกัน 

     

     

    “อื๊ออออ”ทั้งมือและปากทำงานประสานกันอย่างดี  ทั้งที่คยูฮยอนยังไม่ผละจูบออกมามือหนาก็เลื่อนมาลูบไล้บั้นเอวสวยที่โผล่ออกมาจากชายเสื้อหลุดรุย  ค่อยๆไล้ไปตามผิวเนียนนุ่มก่อนจะสัมผัสกับอกอิ่ม  ออกแรงเค้นเบาๆซองมินก็ห่อไหล่อย่างเสียวซ่าน

     

     

    “นายครับ! เอ่อ...ขอโทษครับ”ซองมินสะดุ้งสุดตัวผลักร่างสูงเต็มแรง  คยูฮยอนถอนหายใจแรงๆพลางยกมือขึ้นเสยผมวกๆด้วยความขัดใจ 

     

     

    คังอินรีบร้อนเกินไปไม่ทันคิดว่านายกำลังเล่นบทเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่กลางห้องนั่งเล่นชั้นล่างแบบนี้   ทั้งคังอินลีทึกยืนก้มหน้านิ่งเตรียมรับความผิด  ไม่ใครก็ใครจะได้ถูกจับโยนทะเลก็งวดนี้นี่แหละ

     

     

    “จับได้ไหม...”ถามสั้นๆแต่คนตัวใหญ่กลับไม่มีคำตอบให้ 

     

     

    ตอนนี้คยูฮยอนจับร่างเล็กหมุนตัวหันหลังแล้วเลิกชายเสื้อขึ้นเพื่อติดตะขอเสื้อในให้  ดีว่ายังมีพนักโซฟาบังให้แถมคังอินกับลีทึกยังยืนก้มหน้าอยู่ ไม่อย่างนั้นซองมินคงอายแทบแทรกแผ่นดินหนีไปแล้ว  โดนเห็นว่ากำลังถูกจูบก็แย่พอแล้วนี่ยังเกือบโดนเขมือบไปต่อหน้าลูกน้องคนสนิทของชายหนุ่มไม่พอยังมามีน้ำใจติดตะขอให้ทั้งที่ตัวเองเป็นคนปลดออกเองกับมือแท้ๆ

     

     

    “เดี่ยวฉันไปรอในห้องนอนนะ...”กำลังจะตอบว่าเสร็จแล้วให้คนไปตามแล้วกันแต่ซองมินยังพูดไม่ทันจบร่างสูงก็สวนขึ้นมาทันทีเล่นเอาร่างเล็กงับปากเขินไปอีก

     

     

    “ไปรอในห้องนอน...จะให้ผมตามไปทำต่อรึไง”ร่างเล็กหันกลับมาทำตาเขียวใส่  ทั้งที่อยู่ต่อหน้าลูกน้องคุณเคนก็ยังไม่วาย

     

     

    “คุณ!”ซองมินเถียงไม่ออกแต่โกรธจนหน้าแดงไปหมดแล้ว

     

     

    “ไปกินข้าวกันเถอะ  ผมหิวแล้ว”ร่างสูงตัดบทลุกขึ้นมาโอบไหล่เล็กให้เดินไปด้วยกันแทน  ปล่อยให้คังอินยืนกลืนน้ำลายอยู่กับลีทึก  เหมือนการเมินโดยสิ้นเชิงของคุณเจ้านายนั่นหมายถึงเตรียมหาคำตอบดีๆไว้ว่าทำไมถึงจับคนร้ายไม่ได้

     

     

    คยูฮยอนพาซองมินมาร่วมปาร์ตี้เล็กๆตรงส่วนของรีสอร์ทซึ่งชายหนุ่มเต็มใจจัดขึ้นมาเพื่อเลี้ยงทีมงานทั้งหมดให้สนุกกันก่อนจะกลับ

     

     

    “พรุ่งนี้ทุกคนต้องออกจากเกาะของผม  ตอนเก้าโมงเช้าจะมีเรือมารอรับ”ปล่อยให้ทุกคนสนุกได้ที่แล้วคยูฮยอนก็ประกาศกลางงานก่อนจะขอตัวกลับไปที่พักตน  เล่นเอาทีมงานอึ้งกันหมด  หลายคนก็คิดว่าจะขออยู่อีกสักวันเพื่อเก็บบรรยากาศให้ฉ่ำปอด  แต่บางคนก็คิดว่าดีแล้วเพราะยังขวัญผวากับเสียงปืนตอนเย็นไม่หาย

     

     

    “ว้า กะว่าจะอยู่ต่อเสียหน่อย โอกาสมาเที่ยวที่นี่ไม่ได้หากันง่ายๆ...”จีเฮบ่นออกมาเสียงดัง  แน่นอนเพราะคุณเคนไม่อยู่แล้วเธอถึงกล้า  ดวงตาคู่สวยก็มองออกไปตรงทางที่เห็นคู่แข่งคนสำคัญวิ่งตามหลังคุณเจ้าของเกาะออกไปแวบๆ

     

     

    เอาจริงเธอไม่ได้กลัวเรื่องเมื่อตอนเย็นแม้แต่นิด  เคน คอนเดลได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจที่รวยมากก็ไม่แปลกที่จะมีคนไม่ชอบหน้าชายหนุ่ม ก็อาจจะมีบางคนที่ทำธุรกิจขัดขากันอยู่ก็ได้...

     

     

    “เธอไม่กลัวเลยเหรอจีเฮ...”นางแบบสาวอีกคนอดจะถามไม่ได้ เห็นท่าทีสบายๆของเพื่อนแล้วเธอก็แปลกใจ  ถึงคุณเคนไม่ไล่เธอก็จะรีบออกจากเกาะแต่เช้าเลย  ไปเที่ยวซานโตรินี่ยังจะดีเสียกว่ามาเสี่ยงโดนลูกปืนที่เกาะนี้  ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณเคนถึงไม่ยอมเปิดเกาะถึงจะเปิดก็รับคนไม่เยอะ

     

     

    เล่นมีคู่อริส่งคนขึ้นเกาะมาได้ง่ายๆนี่มันไม่โอเคแล้ว  ถึงเกาะพาราไดซ์จะสวยมากแค่ไหนก็คงไม่มีใครอยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่แน่นอน

     

     

    “นี่คุณ!”ร่างเล็กวิ่งตามมาคว้าแขนชายหนุ่มได้ก่อนจะอีกไม่กี่เมตรจะถึงบ้านพัก  แต่ก็ถือว่าในส่วนที่ยืนกันอยู่นี้ยังมืดๆก็ตาม

     

     

    “คุณมีอะไรก็ว่ามา...”ซองมินคาใจที่คุณเจ้าของเกาะพูดไว้เมื่อกี้มากๆ ที่บอกว่าทุกคนนั้นหมายถึงรวมซองมินด้วยรึเปล่า

     

     

    “เรื่องพรุ่งนี้...”

     

     

    “คุณด้วย”ยังไม่ทันที่เสียงหวานจะว่าจบอีกฝ่ายก็สวนพรวดขึ้นมาราวกับรู้แล้วว่าซองมินหมายถึงเรื่องอะไร

     

     

    “ฉัน?  ไม่เอา...ฉันยังไม่ได้เล่นน้ำทะเลเลยไม่กลับหรอก”ร่างเล็กทิ้งแขนชายหนุ่มที่เกาะไว้มากอดอกแล้วจ้องตาให้คุณเคนรู้ว่างวดนี้ไม่ยอมง่ายๆหรอกนะ

     

     

    “ผมสั่งให้กลับก็ต้องกลับ!”มือหนากระชากแขนคนตัวเล็กเข้ามาใกล้แล้วตะคอกใส่หน้า  เพราะความเป็นห่วงทำให้คยูฮยอนอยากส่งซองมินไปห่างๆตัวเอง  ถ้าศัตรูรู้ว่าซองมินคือจุดอ่อนเดียวของเค้าซองมินจะยิ่งแย่

     

     

    ถึงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันจะไม่กี่วันก็ตามแต่คยูฮยอนก็รับรู้ถึงเสียงในหัวใจที่มันบอกว่าซองมินพิเศษกว่าใคร  ฉะนั้นเค้าต้องตัดไฟเสียก่อนที่ลมจะโหมให้มันเผาไหม้เราทั้งคู่

     

     

    “ไม่! ฉันไม่กลับ!”ซองมินดื้อแพ่ง แขนเรียวพยายามจะดึงออกจากการเกาะกุมแต่มันไม่ง่ายนักเมื่ออีกฝ่ายแรงเยอะกว่ามาก

     

     

    “ได้! คุณท้าทายผมเองนะ!”ยิ่งซองมินเสียงดังใส่ความอดทนคยูฮยอนก็ยิ่งน้อยลงทุกทีๆ  กับซองมินนี่คยูฮยอนถือว่าตนมีความอดทนให้เยอะที่สุดแล้ว  ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นกล้ามาขึ้นเสียงใส่นี่อาจโดนตบไปแล้ว  ใครจะว่าคยูฮยอนอารมณ์รุนแรงก็ได้ เค้าไม่ได้มีความเป็นสุภาพบุรุษมากนักจะว่าดิบเถื่อนเลยก็คงไม่ผิดนัก  หลายๆอย่างในอดีตที่เกิดขึ้นผลักดันให้กลายเป็นชายหนุ่มอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

     

     

    “เอาสิ คิดว่าฉันกลัวงั้นเหรอ!”ซองมินท้าทายกลับไม่มีคำว่ากลัวอยู่แล้ว  ยังไงก็ยังมีพี่ซีวอนหนุนหลังอยู่ ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวชเวซีวอนแถมคนเป็นพี่ชายยังสนิทกับคนตรงหน้าไม่มีทางที่คุณเคนจะทำอะไรให้ซองมินเจ็บช้ำได้อยู่แล้ว

     

     

    “นี่ปล่อยนะ! คุณจะทำอะไรได้”ร่างเล็กหน้าตื่นเมื่อโดนลากลงน้ำ  ทะเลยามกลางคืนน่ากลัวเกินกว่าที่จะลงเล่นได้  คลื่นที่ซาดซัดเข้าหาฝั่งก็ดูบ้าคลั่งเหมือนกับคนที่กำลังลากซองมินลงทะเลในตอนนี้

     

     

    “คุณ! ไม่เอานะ! ทะเลตอนกลางคืนมันน่ากลัว ไม่เอา!!!”ซองมินทั้งเอาเท้าจิกลงกับพื้นทรายมือทั้งสองข้างก็ดึงแขนแกร่งไว้สุดแรงเท่าที่มีแต่ไม่ว่ายังไงตัวก็ลงถลาไปด้านหน้าอยู่ดี

     

     

    “กรี๊ดดดดดดด!!!”พอขืนตัวหนักๆเข้าอีกฝ่ายก็ตวัดขาซองมินขึ้นอุ้มแทนแล้วเดินลุpน้ำลงไปอย่างบ้าระห่ำ  ลมหนาวพัดมาวูบจนซองมินตัวสั่น  น้ำทะเลกระจายขึ้นมาเปียกไปทั่วตัวเมื่อคุณเคนพามาจนถึงส่วนที่น้ำลึกถึงเอว  หันกลับไปดูก็ยิ่งเห็นว่าออกมาจากชายฝั่งไกลแค่ไหนทำเอาซองมินกลัวไม่น้อยมองแทบจะไม่เห็นไฟจากบ้านพักแล้วด้วยซ้ำ

     

     

    “ไม่เอานะ มินกลัว...อย่าแกล้งกันแบบนี้”ซองมินแทบจะร้องไห้อยู่แล้ว ใบหน้าสวยก็ซุกอยู่กับแผ่นอกแข็งแรงไม่ยอมเงยหน้ามองรอบด้านอะไรใดๆทั้งสิ้น

     

     

    “ถ้ากลัวทำไมถึงยังอยากจะอยู่ข้างผมอีกล่ะ”คยูฮยอนเข้าใจไปว่าที่ซองมินไม่อยากกลับเพราะอีกฝ่ายก็คงคิดไม่ต่างจากตน แต่แท้จริงแล้วเพราะมีอีกเหตุผลหนึ่งทำให้ซองมินยังไม่สามารถไปจากที่นี่ได้

     

     

    “คุณ...”ได้ยินอย่างนั้นซองมินก็เงยหน้าขึ้นมองสบกับผลึกสีเข้ม  แววตาอีกฝ่ายไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่นิด

     

     

    “รอบกายผมก็เหมือนทะเล  ดูสวยดูดีดึงดูดผู้คนมากมายให้เข้าหา  แต่ใครจะรู้ว่าทะเลมันแฝงความอันตรายไว้มากแค่ไหน  คุณไม่รู้หรอกว่าอะไรอยู่ใต้น้ำจนกว่ามันจะเข้ามาถึงตัวคุณ...”เหตุผลที่อีกฝ่ายว่ามาทำเอาซองมินต้องงับปากครุ่นคิดอีกครั้ง    

     

     

    มาไกลถึงขนาดนี้แล้วจะให้ถอยกลับโดยที่ยังไม่มีอะไรติดมือกลับเลยได้ยังไง...

     

     

     “ผมอยากให้คุณกลับเกาหลี หลังจากนี้คุณควรอยู่ห่างผมไว้”ซองมินยังไม่เข้าใจว่าทำไมคยูฮยอนถึงทำแบบนี้  อยากจะดื้อขออยู่ที่นี่ต่อแต่กลับไม่มีคำพูดใดหลุดรอดออกมาจากริมฝีปาก  ความหายนะของคำว่าทะเลของอีกฝ่ายมันกำลังทำให้ซองมินคิดหนัก

     

     

    “คุณคงยังไม่รู้ตัว  แต่คุณคือจุดอ่อนเดียวของผม”คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเมื่อไม่เข้าใจในคำที่อีกฝ่ายว่า  ดวงตาคู่สวยกวาดมองเข้าไปในดวงตาคู่คมหาความหมายที่อีกคนต้องการสื่อ 

     

     

    “หมายความว่าไง...”ถึงซองมินจะถามแต่คยูฮยอนคงไม่มีคำตอบให้มากกว่านี้  ร่างสูงอุ้มพาคนตัวเล็กกลับไปยังบ้านพัก  และคืนนี้ซองมินก็ควรจะดีใจที่ตนเองได้ครอบครองห้องนอนกว้างเพียงคนเดียวแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น  คำพูดของคยูฮยอนยังสะท้อนกลับไปกลับมาในหัวสมองไม่หยุด

     

     

    จุดอ่อนที่คุณว่ามันหมายถึงความรักรึเปล่านะ...

               

     

    จริงๆจะมาอัพให้ตั้งแต่ 2 วันที่แล้วละคะ แต่ฟิคดันหายไป 5 หน้า เลยสติแตกไปอยู่ 2 วัน กว่าจะโอเคแล้วเริ่มเขียนตอนที่หายไปกลับมาใหม่ T^T เสียดายมากคืออันที่หายไปนี่เขียนดีแล้วด้วย อันใหม่นี่พล๊อตเดิมแต่ฟีลลิ่งคงได้ไม่เท่าอันเดิม คลีนจะพยายามเขียนให้สมบูรณ์ที่สุดนะคะ

     

    คุณเคนซึนที่สุดในโลกอ่ะ หาทางจูบคุณนางแบบเค้าตลอด นี่สนใจเค้ามากแต่ก็ผลักเค้าออกไปไกลเช่นกัน คือรอบตัวคยูก็ไม่ได้ดูดีอย่างที่คนอื่นๆเห็น เรื่องนี้จะมีทั้งพระนางกัดกันแล้วก็หวานกัน แถมบู้เหมือนฟิคเรื่องก่อน เอาให้ครบรส อาจจะอัพช้าอย่าว่ากันเน้อ >  <

     

    ในทวิตติดแท็ก #ฟิคเกาะรัก  นะคะ

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×