ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Paradise Island : เกาะร้อน...รักร้าย [KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 1 นางแบบสุดฮอตอันดับหนึ่งของเกาหลี

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 58










     

                แชะ! แชะ!

     

     

                เสียงการลั่นชัตเตอร์อย่างต่อเนื่องจากตากล้องมือฉมังกับแสงแฟรชสาดกระจายตามจังหวะการรัวนิ้วกดลงบนปุ่มของกล้องตัวใหญ่พร้อมๆกับความร้อนจากแสงไฟสปอร์ตไลท์ดวงใหญ่ตกต้องบนผิวกายขาวผ่อง  เช่นเดียวกับลมเย็นช่ำจากเครื่องปรับอากาศที่ทำให้สตูดิโอไม่ร้อนจากแสงไฟจนเกินไปนัก

     

     

                แต่ทุกอย่างไม่ได้มีผลอะไรต่อคนที่ตกอยู่ท่ามกลางสายตาของคนนับสิบ เรือนร่างโปร่งบางผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอ่อนยาวสยายเต็มแผ่นหลัง ปลิวไสวโดยพัดลมตัวใหญ่ ทั้งที่ตอนนี้อยู่ในหน้าหนาวแต่ร่างเล็กกลับใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นของฤดูร้อน 

     

     

                ใบหน้าสวยแย้มยิ้มหวานจัดสะกดทุกสายตาได้เป็นอย่างดี ยิ่งคนตัวเล็กอารมณ์ดีและขยับกายตามเสียงชัตเตอร์ดีเท่าไหร่ตากล้องก็ยิ่งชอบใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะนั่นหมายถึงความเป็นมืออาชีพของนางแบบ

     

     

                “หมุนตัวอีกนิดครับ”ร่างเล็กหมุนตัวบิดเอวให้ตามคำขอ เรือนร่างระหงในชุดว่ายน้ำบิกินนี่สีสดใสเหมาะกับหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง  มีผ้าผืนใหญ่ผูกเอวไว้ตามแฟชั่นคอลเล็คชั่นใหม่ของห้องเสื้อ  ตัวเสื้อด้านบนรัดรึงแนบสนิทกับทรวงอกอิ่มตัดกับผิวขาวเนียน

     

     

                ฉากหลังที่ถูกเซ็ตไว้ราวกับเป็นท้องทะเล  มีทั้งต้นไม้ใหญ่และพุ่มดอกไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงาม กระทั่งลูกบอลเป่าลมและของประดับชิ้นอื่นๆที่ไม่ว่าซองมินจะหยิบอะไรมาเสริมเพิ่มในการขยับตัวเพื่อให้ตากล้องจับภาพก็ดูดีไปหมด

     

     

                “เอาล่ะ เสร็จแล้ว”ดั่งเสียงสวรรค์ที่ทำให้นางแบบคนสวยถอนหายใจยาวเปลี่ยนจากมาดนางพญาคนสวยตอนอยู่หน้ากล้องเมื่อครู่กลับมาเป็นสาวน้อยแสนน่ารัก

     

     

                “ขอบคุณทีมงานทุกคนมากค่า”ร่างเล็กโค้งหัวเก้าสิบองศาให้กับทีมงานทุกๆคนไม่เว้นกระทั่งเด็กเสิร์ฟน้ำ  ความน่ารักเป็นธรรมชาติของนางแบบคนสวยที่ไม่ว่าใครก็ประทับใจ

     

     

                “เหนื่อยหน่อยนะ...ฮยอนมิน”เจ้าของชื่อยิ้มหวานให้กับคนที่เดินเข้ามาจับไหล่ตนเอง ร่างเล็กยังไม่ทันก้าวขาออกจากฉากก็มีเสื้อคลุมตัวหนาสวมทับลงมาให้พอดิบพอดีจนต้องยิ้มขอบคุณให้คุณพี่ชายสุดหล่อ

     

     

     

                “อ๋าาาาาา  พี่ซีวอนทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ”วงหน้าสวยเอียงน้อยๆอย่างสงสัย คิวเรียวขมวดเข้าหากัน ท้วงท่าแสนน่ารักของฮยอนมินที่คนเป็นพี่ชายยิ้มกว้าง

     

     

                “เสร็จแล้วสิ ทันมารับเด็กดื้อไปกินเค้กด้วย”มือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มที่ถูกยีเซ็ตไว้จนพองแล้วขยี้แรงๆจนมันฟูหนักกว่าเดิม แต่คนสวยก็ไม่มีทีท่าจะโกรธพี่ชายเลยแม้แต่น้อย 

     

     

     

                การเล่นกันของสองพี่น้องที่หน้าตาดีราวกับภาพวาดนั่นเรียกสายตาจากนางแบบสาวคนอื่นๆได้ไม่น้อย  จะว่าไปชเวฮยอนมินถือได้ว่าเป็นนางแบบสาวอยู่น้อยที่สุดที่ประสบความสำเร็จโดยมีเบื้องหลังคือคิมฮีชอลแฟนคนสวยของพี่ชายสุดหล่ออย่างชเวซีวอนเป็นคนผลักดันมาตลอด

     

     

     

                “แล้วพี่ซินละค่ะ”คนตัวเล็กชะเง้อชะแง้ชะโงกตัวซ้ายขวาทางด้านหลังของพี่ชายหวังว่าจะเห็นร่างว่าที่พี่สะใภ้คนสวยแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของฮีชอล

     

     

     

                “คงยุ่งหัวปั่นจนเย็นนั่นล่ะ มีเด็กไปป่วนไว้นิ”คนที่ถูกหาว่าเป็นจอมป่วนอมลมจนแก้มพอง หน้าตางอนๆของฮยอนมินนั้นไม่ได้ทำให้ซีวอนกลัวแต่อย่างใด มันกลับน่ารักเสียด้วยซ้ำ

     

     

     

                “ไม่ต้องมาทำแก้มป่องใส่พี่เลยนะ”มือหนาคีบแก้มกลมๆนั่นออกแรงหยิกพอให้น้องสาวร้องโอดโอยได้  ถึงฮยอนมินจะสวยและดูเป็นผู้ใหญ่ขนาดไหนในสายตาซีวอน ฮยอนมินยังคงเป็นน้องน้อยแสนน่ารักเสมอ

     

     

                “ไปเปลี่ยนชุดได้แล้วพี่หวง!”ออกปากทั้งยังรุนหลังร่างเล็กไปทางห้องเปลี่ยนเสื้ออย่างรวดเร็วโดยที่ร่างเล็กได้แต่ยิ้มหวาน 

     

     

     

     

                ใบหน้าคมคายถมึงทึงกวาดสายตาดุจัดมองผู้ชายหลายคนที่แอบมองน้องสาวคนสวยของตนตาเป็นประกาย

     

     

                 “คะพี่ชายจอมหวง!”รับปากแต่ก็ยังไม่วายแซวคืนจนซีวอนหมั่นเขี้ยวก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องแต่งตัวสำหรับนางแบบไปก่อนจะโดนคุณพี่ชายดุไปมากกว่านี้ 

     

     

                “น่าอิจฉาน้องฮยอนมินจัง”โคดี้นูนาที่กดไหล่ฮยอนมินนั่งลงกับเก้าอี้หน้ากระจกบานใหญ่เอ่ยปากอย่างแสนเสียดาย  ร่างเล็กได้แต่มองตามนูนาผ่านเงาสะท้อนในกระจกเห็นอีกฝ่ายกำลังหยิบสเปรย์น้ำมาฉีดเพื่อคลายการเซ็ทตัวของผมเส้นเล็กลงแล้วทำทรงใหม่ให้เหมาะแก่การออกไปเดินข้างนอกได้ 

     

     

     

                “อ่ะ! พี่ซิน”เพียงแค่ฮยอนมินร้องเบาๆราวกับตกใจในการปรากฏตัวของเจ้าของชื่อก็ทำให้คนที่บ่นอุบอิบอยู่ถึงกับสะดุ้งหันขวับไปทางด้านหลังทันที เล่นเอาคนขี้แกล้งปิดปากหัวเราะขำคิกๆจนตัวโยน

     

     

     

                “แหม...น้องฮยอนมินก็ชอบแกล้งพี่ตลอดเลย”นูนาคนสวยหน้าง้ำหน้างอแต่มือก็จัดแต่งทรงผมให้นางแบบสาวอย่างเบามือ ล้อเล่นกับคนอื่นนะอาจได้แต่ต้องไม่ใช่คนเป็นเจ้านายอย่างคิมฮีชอลแน่นอน

     

     

                “นินทาอะไรฉัน...”เสียงหวานเอ่ยเย็นเยียบขึ้นใกล้ๆเล่นเอาสะดุ้งทั้งคนหยอกและคนถูกหยอกเมื่อครู่เลยทีเดียว  ฮยอนมินค่อยๆเหลือบมองใบหน้าของพี่สะใภ้คนสวยในกระจกแล้วก็ต้องงุดหน้าลงต่ำเมื่ออีกคนหน้าตึงเปรี๊ยะแถมยังกอดอกฉับตั้งท่าเตรียมพร้อมดุขนาดนี้

     

     

     

                ร่างที่บางไม่ต่างจากคนเป็นพี่ค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้มาด้วยท่าทางนอบน้อมสุดชีวิต  ฮยอนมินทำท่าเป็นลูกแมวตัวน้อยทำหน้าหงอเพื่อให้คนตรงหน้าเห็นใจ ขณะที่โคดี้ที่เสร็จงานของตัวเองแล้วรีบแจ้นออกจากห้องไปอย่างไวก่อนจะโดนคุณเจ้านายคนสวยหักเงินเดือนหรือที่หนักวกว่านั้นก็คือโดนไล่ออก 

     

     

                “พี่ซินอ่า พี่ซินคนสวย”มือบางเกาะหมับเข้าที่แขนเรียวแล้วแนบแก้มกลมลงถูไถ  ท่าทางอ้อนๆของฮยอนมินที่ไม่ว่างัดมาใช้เมื่อไหร่มันก็ได้ผลเสมอ  แต่งานนี้ดูท่าแล้วว่าคงจะยากเมื่อคนตรงหน้ายังหน้าเข้มตาดุอยู่เลย 

     

     

     

                “ง่า น้องมินขอโทษค่ะ  คราวหลังน้องมินจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”ผลงานที่สร้างเรื่องในงานนี้ก็คือร่างบางไม่ยอมปฏิเสธงานที่ถูกอีกฝ่ายตื้ออย่างเด็ดขาด 

     

     

                ปกติงานของซองมินจะต้องผ่านฮีชอลทั้งหมด  ร่างเพรียวผู้มีตำแหน่งเป็นถึงว่าที่พี่สะใภ้จะรับงานทั้งหมดที่ตนเองเห็นแล้วว่าจะไม่เกิดผลเสียต่อน้องสาว  แต่ว่างานนี้เรียกได้ว่ามีผลกระทบเต็มๆเลยเชียวล่ะ

     

     

     

                “เฮ้ออออ ไว้เดี๋ยวค่อยคุยกันที่บ้านดีกว่า”หางตาเหลือบเห็นทีมงานและนางแบบสาวอีกหลายคนที่ยังเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องฮีชอลเลยตัดบทไม่ให้ฮยอนมินเซ้าซี้ต่อไม่อย่างนั้นเรื่องที่ปิดไว้ต้องรั่วไหลแน่ๆ

     

     

     

     

                “ไปกินข้าวกับน้องมินนะคะ พี่ซีวอนมารออยู่แล้ว”อ้างชื่อพี่ชายสุดหล่อขึ้นมาเพื่อให้พี่ชายคนสวยยอมคล้อยตามซึ่งฮีชอลก็พยักหน้ารับแกนๆแถมด้วยการถอนหายใจยาวๆด้วยความหนักใจ

     

     

     

                มีน้องสาวสวยแถมฮอตขนาดนี้จะไม่ให้ห่วงแถมหวงได้ยังไงกัน!

     

     

     

                ร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าประจำด้านมุมในสุดโต๊ะที่มีม่านไม้ไผ่บดบังมีความเป้นส่วนตัวถูกจับจองด้วยนางแบบแสนโด่งดัง คุณเจ้านายแสนสวยและพี่ชายสุดหล่อ ท่ามกลางบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมทั้งเสียงน้ำไหลจากแม่น้ำจำลองที่ประดับไว้ในร้านอาหารแห่งนี้

               

     

                “กินอะไรดีน้า”ร่างเล็กรู้หน้าที่ดีจึงเลือกนั่งตรงข้ามพี่ชายคนสวยแล้วหยิบเมนูมาเปิดพลิกไปพลิกมา

     

     

                “กินเยอะๆนะ ไหนๆมื้อนี้เราก็มีนักธุรกิจใหญ่มาเลี้ยงทั้งที”ฮยอนมินเงยหน้าไปยิ้มกับคนพูดที่ชะโงกหน้าข้ามโต๊ะมาขยิบตาให้อย่างรู้กัน  ร่างเล็กยิ้มกว้างทั้งยังพยักหน้ารับแข็งขัน ตัดสินใจปิดเมนูฉับก่อนจะหันไปทางพนักงานสาวที่อยู่ในชุดกิโมโนตัวสวยที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่ด้านข้าง

     

     

                “เอาทุกอย่างในเมนูเลยคะ”พูดจบแล้วก็ยิ้มกว้างจนตาอย่างน่ารักก่อนจะส่งเมนูคืนแล้วขยับนั่งอย่างเรียบร้อย ลูกตากลมใสก็ส่งสายตาแป๋วๆไปทางพี่ชายจนซีวอนอยากจะดีดหน้าผากจอมแสบไปสักที 

     

     

     

                โตจนกลายเป็นนางแบบเต็มตัวแล้วยังก็ซนเป็นเด็กๆ

     

     

                งานนี้ซีวอนจะโทษใครคงไม่ได้ในเมื่อคนรักของตนเองนั่นแหละที่เป็นคนให้ท้ายน้อง  แต่จะโยนให้เป็นความผิดฮีชอลคนเดียวก็ไม่ได้อีก ตนเองนั่นแหละตัวการตามในสปอยจนฮยอนมินเป็นแบบนี้

     

     

                “กระเป๋าแห้งแน่เลยงานนี้”สีหน้าและแววตาเศร้าสลดของซีวอนที่ดูก็รู้ว่าแกล้งทำมันเรียกเสียงหัวเราะหวานใสจากอีกสองคนในโต๊ะได้เป็นอย่างดี

     

     

                หลังจากมื้ออาหารที่ดูแล้วไม่น่าจะหมดโต๊ะได้ก็เป็นอันเรียบวุธจากสาวน้อยที่เก่งไปเสียทุกเรื่องอย่างฮยอนมิน คนทั่วไปดูภายนอกคงไม่รู้หรอกว่าตัวเล็กๆแค่นี้แถมยังหุ่นดีมากจะสามารถกินจุได้อย่างไม่น่าเชื่อ  และระบบเผาผลาญพลังงานของหญิงสาวคงดีมากเกินไปเพราะไม่ว่าจะกินยังไงก็ไม่เคยจะมีไขมันส่วนเกินออกมาให้เห็นเลยสักนิด

     

     

     

                “ชักอิจฉาน้องมินซะแล้วสิ กินยังไงก็ไม่อ้วนสักที”ร่างเล็กยิ้มกว้างกับคำชมของว่าที่พี่สะใภ้  ฮีชอลเท้าคางเบะปากอย่างหมั่นไส้ในหุ่นแสนจะเพอร์เฟคของพี่น้องคู่นี้

     

     

                คนพี่ก็กล้ามล่ำฟิตเปรี้ยะจนสาวๆน้ำลายหก คนน้องก็เซ็กซี่จนหนุ่มๆพากันมองตาค้าง...  

     

     

                            “ใครว่า น้องมินก็มีพุงนะ”ว่าทะเล้นๆแล้วก็แอ่นพุงออกมาพลางเอามือบีบๆตามเอวให้คนเป็นพี่ดูว่าตนเองก็มีนะ  เล่นเอาฮีชอลต้องส่ายหัวไปมา

     

     

                “ถ้าอยู่ใกล้มือนะโดนหยิกแน่ๆน้องมิน”เป็นซีวอนที่อดจะแซวน้องสาวไม่ได้  แต่คำพูดมันเหมือนจะแอบกัดใครบางคนจนคนโดนแขวะหัวขวับมาถลึงตาใส่แล้วทีนี้ก็ได้รู้กันล่ะว่าเป็นยังไง

     

     

                “ซี๊ดดดดด เจ็บแล้วครับๆ ยอมแล้ววว”ซีวอนซูดปาก มือก็ยกขึ้นมาตรงหน้าปากก็ร้องยอมแพ้เมื่อมือของคนรักคว้าหมับเข้าที่เอวคีบเอาเนื้อที่มีอยู่นิดหน่อยเพราะนอกนั้นเป็นกล้ามแข็งๆแล้วก็บิดแรงๆจนร่างสูงสะดุ้ง

     

     

                “ฮ่าๆ สมน้ำหน้าพี่ซีวอน”ทั้งที่ปากร้องยอมแพ้แต่มีหรือฮีชอลจะยอมปล่อยง่ายๆ มือบางยังบิดค้างไว้พร้อมทั้งใช้มืออีกข้างเอื้อมข้ามโต๊ะมาดึงแก้มน้องสาวจนยืด  กลายเป็นว่าพี่น้องตระกูลชเวตกอยู่ในเงื้อมมือของเจ้าแม่อย่างฮีชอลก็ไม่ผิดนัก

     

     

                “งื้อออออ ปี้อิน อ้องมินเจ็บนะ”เพราะแก้มโดนดึงเลยทำให้พูดไม่ชัดแต่ก็ยังพยายามจะพูด  ฮยอนมินแทบน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บ  ก่อนจะต้องมานั่งลูบแก้มตัวเองป้อยๆเมื่อคนเป็นพี่ยอมปล่อยมือออก

     

     

                “ปี้ซินอย่าดุนักซี่ เดี๋ยวน้องมินก็ยุให้พี่ซีวอนหาแฟนใหม่เลย”นั่งลูบแก้มไปก็บ่นไปแต่ทั้งฮีชอลและซีวอนก็ได้ยินล่ะนะ 

     

     

                “ว่าไงนะ!

     

                “น้องมิน!

     

     

                เสียงแรกเป็นของฮีชอลที่ถามคนเป็นน้องเสียงดังแถมดวงตาคู่สวยยังเบิกตากว้างแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตาแล้วเช่นเดียวกับซีวอนที่ตาโตไปแล้ว  ร่างสูงก็เขยิบออกห่างไปด้านข้างให้พ้นรัศมีมือของคุณนายที่อาจเผลอลงไม้ลงมือกับตนเองได้

     

     

                “อย่าหาเรื่องให้พี่แบบนี้ซิ”คนเป็นพี่ชายร้องโอดครวญเบาๆนั่นทำให้คนโดนพาดพิงต้องหันมามองตาดุใส่จนคนพูดต้องฉีกยิ้มรับหน้า

     

     

                “รักคุณที่สุดแล้วละจ๊ะที่รัก”รวบเอวบางมากอดไว้แน่น จรดจูบหอมแก้มคนรักไปฟอดใหญ่จนฮีชอลค่อยเริ่มยิ้มออกมาได้บ้าง  ท่าทางหวานเจี๊ยบของพี่ชายทั้งสองคนที่คนเป็นน้องซึ่งนั่งดูอยู่เบ้ปากหมั่นไส้ระดับสิบ

     

     

                อย่าให้ได้มีมั่งนะ จะควงมาสวีทโชว์ให้ความหวงพุ่งปรี๊ดเลยคอยดู!!!

     

     

                 จากอาหารญี่ปุ่นร้านโปรดก็มาต่อกันที่ร้านเค้กเจ้าประจำ  ดูท่าว่าคนสวยของบ้านจะอิ่มแล้วแต่นั่นก็ยังไม่พอ  ฮยอนมินยังกินเค้กต่อได้อีก3ชิ้นอย่างหน้าตาเยจนฮีชอลต้องส่ายหน้า

     

     

                ถ้านางแบบสุดฮอตหุ่นเสียเนี่ยเค้าก็ไม่รู้ว่าจะโทษใครดี  ระหว่างพี่ชายแท้ๆของเจ้าตัวที่มีเงินจ่ายทุกอย่างที่น้องอยากกินกับพี่ชายไม่แท้อย่างเค้าที่ยอมให้กับความน่ารักเวลาน้องอ้อนขอกินนี่!!!

     

     

                “เฮ้ออออ ถึงบ้านสักที”ว่าเสร็จก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเก้าอี้โซฟากลางบ้าน  ซีวอนต้องเดินไปยกขาน้องสาวขึ้นบนโซฟาดีๆเพราะกลัวฮยอนมินจะกลิ้งร่วงลงมาให้เจ็บตัว

     

     

                “อะไร?”มือบางที่ยื่นมาดึงข้อมือของฮีชอลทำให้เจ้าของมือต้องก้มลงไปถามเด็กดื้อที่นอนกลิ้งอยู่

     

     

                “หนุนตักหน่อย”ไม่รู้แล้วว่าใครเป็นแฟนใครกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นฮีชอลก็ยอมทิ้งตัวลงนั่งแล้วช้อนศรีษะน้องมานอนหนุนตักตัวเองที่ฮยอนมินก็ทำหน้าฟินซะจนซีวอนหมั่นไส้

     

     

                “โอ๊ย! พี่ชายน้องเจ็บนะ!!!”มือเล็กยกขึ้นมาปิดบนหน้าผากที่โดนคนเป็นพี่ชายดีดดังเพี๊ยะ

     

     

                “หมั่นไส้!”ตอบสั้นๆก่อนจะดึงร่างคนรักให้มานั่งข้างตัวเองที่เก้าอี้โซฟาอีกตัวแถมยังแลบลิ้นใส่คนเป็นน้องไปด้วย

     

     

                ฮยอนมินจะทำอะไรได้นอกจากลุกขึ้นมานั่งลูบหน้าผากป้อยๆ แถมยังเบะปากใส่ซีวอนไปด้วย ให้คนกลางอย่างฮีชอลต้องถอนหายใจก่อนจะเอ่ยเรื่องที่เป็นประเด็นปัญหาของวันนี้ขึ้นมาแทนซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำให้พี่น้องตีกันน้อยลงหรือมากขึ้น

     

     

                “เกาะพาราไดซ์...ชื่อคุ้นๆไหม”หันไปหาคนที่นั่งข้างๆตัวเองพร้อมทั้งส่งสายตาแปลกๆให้ซีวอนที่นั่งอึ้งไปแล้ว

     

     

                “งานที่ฮยอนมินไม่ปฏิเสธคืองานที่ต้องไปที่เกาะพาราไดซ์”ฮีชอลพูดเสียงเรียบๆ ราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่สายตาคอยดูสีหน้าของพี่น้องตระกูลชเวโดยตลอด  สีหน้าฮยอนมินไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียวแต่กับซีวอน  คิ้วคมขมวดมุ่นเข้าหากันทันที

     

     

                “งานนี้พี่ไม่อนุญาต”ตั้งแต่เด็กจนโตเพราะคุณพ่อของซีวอนต้องเดินเรื่องงานบ่อยๆแล้วแม่ของซีวอนก็ต้องตามไปดูแลทำให้ฮยอนมินโตขึ้นมาโดยมีคนเป็นพี่ชายคอยดูแล เรียกว่าซีวอนเป็นผู้ปกครองของน้องสาวโดยสมบูรณ์ก็ไม่ผิดนัก

     

     

                “แต่น้องมินจำเป็นต้องไปที่นั่นพี่ชายก็รู้”คนตัวเล็กนั่งจ้องหน้าพี่ชายนิ่ง ดวงตาคู่สวยไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่นิดเดียว  ท่าทางจริงจังของน้องสาวที่คนเป็นพี่ชายเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรงเหงื่อผุดพรายตรงริมขมับ  ใจดวงแกร่งบีบรัดจนปวดไปหมดพัยงแค่คิดว่าถ้าฮยอนมินไปที่นั่นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

     

     

                “พี่บอกไม่ก็คือไม่...คำไหนคำนั้นห้ามต่อรอง”ซีวอนเอ่ยเสียงเฉียบขาดใบหน้าคมคายจริงจังที่สุดเท่าที่ในชีวิตนี้ฮยอนมินจะเคยเห็น  คนตัวเล็กนั่งหมดแรงอยู่บนโซฟาอย่างเถียงไม่ออก ใบหน้าสวยสลดลงอย่างเห็นได้ชัด

     

     

                “แต่นี่เป็นโอกาสเดียวที่น้องจะได้กลับไปที่นั่น!”ใบหน้าน่ารักหันมามองใบหน้าพี่ชายเต็มสายตา  ดวงตาคู่สวยสั่นระริกมือบางบีบจับกันแน่นอย่างพยายามระงับอารมณ์ที่กำลังจะปะทุภายในใจตัวเอง  ดวงตาคู่สวยที่เคยฉายแววไร้เดียงสาตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น  ซีวอนกำมือแน่นความกลัวแผ่ซ่านเต็มหัวใจ 

     

     

                ถึงยังไงเค้าก็ให้น้องไปเผชิญอันตรายไม่ได้เด็ดขาด!

     

     

                “น้องมินขึ้นไปอาบน้ำก่อนเถอะให้อารมณ์เย็นกว่านี้แล้วค่อยมาคุยกันใหม่”เป็นฮีชอลที่ต้องยื่นมือเข้ามาตรงกลางระหว่างสองพี่น้อง   ซองมินผลุดลุกขึ้นเดินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว  เรียกว่านี่เป็นครั้งแรกที่สองพี่น้องตระกุลชเวทะเลาะกันร้ายแรงที่สุด

     

     

                “ที่ผมทำมันดีแล้วใช่ไหม? ผมต้องปกป้องน้อง...”มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นกุมขมับอย่างเคร่งเครียด  ฮีชอลเองก็ขยับเข้ามาสวมกอดคนรักรั้งใบหน้าคมให้ซุกลงบนซอกไหล่แล้วลูบหลังผู้ชายตัวโตที่แข็งแกร่งกับทุกเรื่องและทุกปัญหาที่ถาโถมเข้ามา แต่ความเข้มแข็งนั้นกลับพังทลายเพียงเพราะคนที่รักมากเพียงคนเดียว

     

     

                “แล้วน้องก็จะเข้าใจว่าที่เราทำทั้งหมดมันเพื่ออะไร”ร่างเพรียวพูดเรียบๆแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนในน้ำเสียง  มือบางลูบศรีษะที่ซบอยู่ช้าๆ ฮีชอลเข้าใจว่าที่ซีวอนทำทั้งหมดก็เพื่อน้องสาวเพียงคนเดียว  ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่คำสัญญาที่ซีวอนเคยลั่นวาจาไว้ยังไงก็ตามต่อให้ตายซีวอนก็จะรักษาสัญญานั่น

     

     

                เหนือคำสัญญาอื่นใด...ชเวซีวอนรักชเวฮยอนมินเทียบเท่ากันน้องสาวที่คลานตามกันมาเลยทีเดียว...

     

     

                “สัญญาได้ไหมซีวอน...สัญญากับพ่อว่าจะดูแลน้องอย่างดีที่สุด  น้องไม่เหลือใครแล้ว”

     

     

                คำพูดของพ่อยังดังก้องอยู่ในหู  ภาพเด็กชายตัวเล็กที่ดวงตาแดงก่ำยืนกอดตุ๊กตากระต่ายยังแจ่มชัดในความทรงจำ  เด็กผู้ชายที่เหมือนจะเปราะบางแต่กลับเข้มแข็งอย่างไม่น่าเชื่อ

     

     

                ซีวอนในวัยสิบเอ็ดขวดรับปากจะดูแลน้องอย่างดีที่สุด...

     

     

                จากน้องชายก็กลายมาเป็นน้องสาวอย่างที่เห็นในปัจจุบันและ...จากลีซองมินเด็กชายที่เป็นลูกของเพื่อนพ่อก็กลายมาเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลชเวและน้องสาวเพียงคนเดียวของชเวซีวอน...ชเวฮยอนมิน

     

     

                ฮีชอลซึ่งเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กคือคนเดียวที่ซีวอนไว้ใจให้รับรู้เรื่องราวในอดีตทุกๆอย่างและคอยช่วยซีวอนในการดูแลซองมิน  แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอีกคนที่ซีวอนเคยหลุดปากเล่าเรื่องน้องสาวเพียงคนเดียวให้ฟัง  คนที่ในอนาคตอาจเป็นกุญแจที่ไขเรื่องราวทั้งหมดให้กระจ่าง  แต่ถ้าเป็นไปได้ซีวอนก็ไม่อยากให้ทั้งคู่เจอกัน เพราะนั่นหมายถึงอันตรายอยู่ใกล้น้องสาวเค้าแค่เอื้อม

     

     

                “ถ้าเป็นอันตรายละก็ซองมินไม่กลัวหรอก”เสียงหวานที่ดังมาจากโถงบันไดทำเอาทั้งสองคนหันขวับไปทันที  ยิ่งได้ยินน้องพูดแบบนี้ใบหน้าคมเข้มของคนเป็นพี่ก็ยิ่งตึง 

     

     

                “น้องมิน!”ตอนนี้ซีวอนหัวเสียอย่างถึงที่สุด  มือหนาคว้าเอาข้อมือเล็กแล้วกระชากร่างน้องสาวเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นหอมของสบู่ที่คนเป็นน้องใช้ลอยฟุ้งออกมาจากตัว

     

     

                พรึ๊บ!

     

     

                เพียงพริบตาเดียวที่ซีวอนตกใจกับรอยยิ้มกริ่มมุมปากจากคนเป็นน้อง ฮยอนมินก็บิดข้อมือหลุดจากการเกาะกุม  ทักษะการป้องกันตัวที่ไม่ธรรมดายิ่งทำให้ซีวอนตกตะลึง

     

     

                “ขอบคุณที่เลี้ยงน้องมาตลอดเวลายี่สิบปีนี้  แต่ว่าพี่ชายคงไม่รู้เลยว่าน้องไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่พี่เห็น”ฮยอนมินหลบสายตาไม่เข้าใจของพี่ชายไปด้านข้างไม่กล้าสบตากับซีวอนได้อีกในเมื่อตนเองเตรียมพร้อมสำหรับวันนี้มานานแค่ไหนแล้ว

     

     

                ราวกับซีวอนได้เห็นอีกตัวตนของน้องสาวที่น่ารัก  ฮีชอลเองก็ตกใจไม่น้อยไม่นึกว่าฮยอนมินจะรอเวลาและโอกาสเข้าไปที่เกาะนั่นโดยใช้เค้าเป็นเครื่องมือเพื่อฝึกฝนตนเอง

     

     

                “ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้”การที่ฮยอนมินสามารถไปเรียนพวกทักษะป้องกันตัวพวกนี้ได้โดยที่คนเป็นพี่ชายอย่างซีวอนไม่รู้เลยเพราะว่าฮยอนมินไปขอว่าอยากเรียนไว้เพื่อป้องกันตัวเองเวลาต้องทำงานซึ่งฮีชอลเองก็เห็นด้วย

     

     

                “น้องมินขอโทษค่ะพี่ซีวอน แต่ยังไงน้องมินก็ต้องไป”ร่างเล็กพูดด้วยดวงตาเด็ดเดี่ยวอย่างที่ซีวอนสะอึกไป  เวลายี่สิบปีไม่ได้ทำให้ไฟความแค้นในใจซองมินเบาบางลงได้เลย  มันรอเวลาที่จะปะทุมาโดยตลอด  และตอนนี้มันคงถึงเวลาแล้ว...

               

     

                ปัง!      

     

     

    เสียงประตูปิดตามหลังอย่างดังที่ชั้นบนทำเอาคนเป็นพี่ที่ตะลึงงันได้สติ  ซีวอนตั้งท่าจะไปเคลียร์กับน้องสาวต่อที่ชั้นบนแต่ฮีชอลกลับคว้าข้อมือคนรักไว้เสียก่อน

     

     

                “เดี๋ยวฉันไปคุยกับน้องเอง”ฮีชอลยกยกมือขึ้นลูบแก้มสากของคนรักเบาๆ ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มน้อยๆให้คนตัวสูงถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา

     

     

                “ผมอยากให้น้องเปลี่ยนใจ ผมเป็นห่วงน้อง ถ้าน้องไปที่นั่นเท่ากับเดินเข้าไปตายชัดๆ”เสียงทุ้มแหบพร่าดวงตาคู่คมก็คลอหน่วงไปด้วยหยดน้ำใสให้ฮีชอลต้องโน้มตัวลงไปสวมกอดคนรัก

     

     

                “นั่นน้องมินเชียวนะ  น้องที่เราสองคนเลี้ยงมากับมือ  ไม่มีใครทำอันตรายได้ง่ายๆหรอก  อีกอย่างผ่านมาตั้งยี่สิบปีแล้ว คนพวกนั้นคงกลายเป็นตาแก่หงำเหงือกหมดล่ะ”คำพูดของคนรักที่ทำเอาซีวอนยิ้มได้ก่อนจะค่อยๆผละกอดจากคนรักออกมา

     

     

                นั่นสิเค้าลืมได้ยังไงนะ...

     

     

                “ถ้ายังไงนายควรโทรไปหาเพื่อนนายนะ ให้เค้าเตรียมตัวไว้...ตัวป่วนจากเกาหลีกำลังจะไปป่วนแล้ว”รอยยิ้มหวานๆจากคนรักที่เป็นกำลังให้ในยามท้อและยามเหนื่อยก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับซีวอนเสมอ ร่างสูงกดจูบบนริมฝีปากบางเบาๆแล้วผละออกมายิ้มกว้างๆให้

     

     

                “หึๆ รับรองน้องมินป่วนจนเกาะพังแน่  คนที่เค้าว่าโหดแสนโหดคงได้สิ้นชื่อก็งวดนี้นี่แหละ”ร่างสูงหัวเราะแถมยังยิ้มกว้างจนเต็มใบหน้า

     

     

                ถึงจะเป็นห่วงน้องมากแค่ไหนแต่ระยะเวลายี่สิบปีที่ผ่านมาเรื่องนั้นคงถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา  คนที่เคยปองร้ายคงไม่อยู่แล้ว  จากนี้ไปเค้าคงไม่ต้องกลัวอะไรอีกในเมื่อเวลาที่ผ่านมาพวกเค้าใช้ชีวิตปกติสุขมาโดยตลอด 

     

     

                เกาะพาราไดซ์ก็คงไม่ใช่เกาะที่น่ากลัวอีกต่อไป...

     

     

                พอกลับมาอ่านใหม่แล้วรู้สึกว่าฟิคครึ่งตอนหลังมันป่วงเกินจะรับได้ คลีนเลยเขียนแก้ใหม่หมด คือเอาจริงๆคาแรคเตอร์มินไม่ใสซื่อขนาดนี้ คือต้องเรียกว่าทั้งแสบทั้งร้ายเลย ฉะนั้นแก้ใหม่ดีกว่า จากที่ตอนแรกคิดไว้ว่าให้มินจำเรื่องราวในวัยเด็กไม่ได้พอเขียนต่อตอน 2 แล้วมันมีปัญหาคลีนเลยเปลี่ยนดีกว่า ไม่งั้นพิมพ์ฮยอนมินทั้งเรื่องตายพอดี กลับไปเป็นซองมินยากมาก เพราะงั้น50% หลังคลีนเขียนใหม่ให้เรื่องมันดูมีอะไรมากขึ้น ต้องขอโทษคนที่อ่านไปก่อนหน้านี้แล้วด้วยนะคะ เพื่อให้ฟิคมันสนุกมากขึ้นคลีนเลยต้องแก้  อีกอย่างคือได้ชื่อใหม่คยูมาแล้วด้วย  ตอนหน้าเจอกันที่กรีซคะ ^  ^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×