คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 11 แผนลวง
“ว่าไงนะ!...เจอยาเสพติดปนอยู่กับยาที่จะส่งออกไปวันนี้!?”เมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟท์แล้วชายหนุ่มถึงเพิ่งจะได้ยินชัดๆอีกครั้งว่าเรื่องด่วนที่ว่ามันคือเรื่องนี้
“ครับบอส
จู่ๆวันนี้ก็มีสายตรวจบุกเข้าไปขอตรวจค้นสินค้าที่เรากำลังลำเลียงขึ้นเรือ ชางอุคเองก็รู้ว่าเราบริสุทธิ์เค้าถึงยอมให้ตรวจค้น แต่ไม่คิดว่า...”ท้ายเสียงหายไปในลำคอ
ชางอุคคือลูกน้องคนหนึ่งของคยูฮยอนที่มีคนมาฝากให้คยูฮยอนช่วยดูแล
จีชางอุค...ชายหนุ่มที่อายุพอๆกับซองมิน
เสียพ่อที่เหลือเพียงคนเดียวไปในเหตุการณ์เมื่อสิบปีก่อนตอนที่บนเกาะเกิดระเบิดขึ้น
คยูฮยอนเลยให้ลูกน้องเก่าของคนเป็นพ่อรับไปดูแลจนชายหนุ่มเรียนจบกลับมาทำงานให้กับเคกรุ๊ป ร่างสูงเลยไว้ใจให้เป็นคนคุมของที่ท่าเรือ
“ไม่หรอก ไม่ใช่ความผิดของชางอุค...เค้าทำถูกแล้ว แต่ที่น่าสงสัยคือสายตรวจนั่นต่างหาก!”ท้ายเสียงที่เข้มขึ้นของเคน
คอนเดลที่ลูกน้องหนุ่มต้องโค้งหัวรับคำสั่ง
ถึงเจ้านายไม่บอกออกมาตรงๆก็รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป
“อ้าว...”คยูฮยอนกำลังคิดเลยว่างานนี้อาจจะยุ่งยากนิดหน่อยที่ลูกน้องคนสนิทไม่อยู่แต่เพียงก้าวเท้าออกมาจากโรงพยาบาลใบหน้าคุ้นเคยของคนสองคนก็ปรากฏให้เห็น
ลีทึกและคังอินยืนอยู่ข้างรถคันสีดำสนิทของผู้เป็นนายทั้งยังโค้งหัวรับน้อยๆ
“พักผ่อนก่อนก็ได้...”คยูฮยอนไม่ค่อยจะชอบใจนักที่เห็นคนสนิทซึ่งยังแขนเจ็บถึงขนาดต้องเข้าเฝือกแล้วยังฝืนมาทำงานแบบนี้
“ไม่ได้หรอกครับ ผมว่าเรื่องมันไม่จบง่ายๆ ถ้าผมไม่อยู่บอสจะยิ่งลำบากนะครับ”คังอินยังคิ้วหลิ่วตาส่งให้คยูฮยอนที่คนเป็นนายถอนหายใจเฮือก ลางสังหรณ์ของเค้าก็ว่าเช่นนั้นเหมือนกัน เหมือนเรื่องจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้น
“งั้นนายไปสถานีตำรวจกับฉัน
ส่วนลีทึก...นายไปคอยดูแลฮยอนมิน”คำสั่งที่ทำเอาลูกน้องทั้งสองลอบยิ้มให้แก่กัน ก่อนที่คนสั่งจะก้าวเท้าขึ้นรถไปโดยไม่หันกลับมามอง
“อ้าวพี่ลีทึก...”ซองมินที่นั่งอยู่ในห้องพักของพี่ชายคนสนิท
ได้ยินเสียงเปิดประตูก็หันไปดูว่าใครกันที่เข้าห้องมาก็เห็นเป็นลูกน้องคนสนิทของชายหนุ่ม
“พี่คังอินเป็นยังไงบ้างคะ เห็นพี่กอนฮีบอกว่าช่วยพี่เค้าเอาไว้”ซองมินถามอีกฝ่ายรัวเร็ว
กลัวว่าลูกน้องร่างใหญ่ของชายหนุ่มจะเป็นอะไรร้ายแรงไปหรือเปล่า
“ไม่เป็นไรแล้วครับ
แค่แขนเดาะเพราะรับตัวคุณกอนฮีไว้แล้วลงน้ำผิดท่า”รอยยิ้มของลีทึกเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคังอินไม่เป็นไรทำเอาซองมินโล่งใจไม่น้อย
“งั้นก็ดีแล้วคะ
แล้วนี่คุณเคนไปไหนเหรอคะ?”ใบหน้าสวยสอดส่ายหาคนที่หายไปให้กอนฮีลอบยิ้มใส่ลีทึกอยู่ด้านหลังคนเป็นน้อง
“มีธุระนิดหน่อยครับ
บอสเลยให้ผมมาคอยดูแลคุณฮยอนมิน”พูดเสร็จก็โค้งหัวให้ซองมินอีกครั้งเล่นเอาคนถูกดูแลทำหน้าไม่ถูกเลย
“อ่า...งั้นน้องมินดูทีวีรอแล้วกัน
เค้าบอกว่าจะมารับนี่น่า”ร่างเล็กเสเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วเสียจนอีกสองคนร่วมห้องต้องระบายยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
ว่าแต่ฮยอนมินเค้าจะรู้ตัวไหมว่าเวลาที่ตัวเองพูดถึงคุณเคนแล้วจะหน้าแดงแบบนั้น...
สองชั่วโมงผ่านไป
ดูทีวีจนไม่มีอะไรจะดูแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่กลับมารับสักที
คนที่เริ่มเบื่อก็รูดร่างลงไปแทบร่างกับโซฟาตรงมุมห้องให้ลีทึกที่นั่งอยู่ใกล้ๆแอบยิ้มขำไม่น้อย
ท่าทางราวนางพญาของนางแบบสาวก่อนหน้านี้หายวับไปเหลือแต่เด็กสาวแสนน่ารักคนหนึ่งเท่านั้น
ภายในห้องพักฟื้นเหลือเพียงแต่เสียงโทรทัศน์เท่านั้นเพราะเจ้าของห้องกินยาหลับไปได้สักพักแล้ว
ดวงตาคู่สวยเหลือบมองไปทางคนบนเตียงว่าอีกฝ่ายจะไม่ตื่นมาแน่ๆ
ถึงได้เอามือยันตัวลุกขึ้นนั่งดีๆอีกครั้งให้คนที่มานั่งเฝ้าเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง
“พี่ลีทึกคะ...อ่า
ฮยอนมินเรียกแบบนี้ได้ใช่ไหมคะ?”ร่างเล็กเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจแต่กลับทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มส่งให้
“ได้ครับ...คุณหนู”แต่สรรพนามที่อีกฝ่ายใช้ก็ทำเอาฮยอนมินยู่ปาก
ความน่ารักเป็นธรรมชาติแบบนี้นี่เองที่ลีทึกไม่แปลกใจเลยถ้าบอสเค้าจะหวั่นไหว
ชเวฮยอนมินเล่นน่ารักแตกต่างจากคนอื่นๆที่เอาแต่ปั้นหน้าทำตัวราวเจ้าหญิงใส่แล้วจะให้คุณเคนไม่หวั่นไหวได้ยังไง...
“พี่ลีทึกพอจะช่วยอะไรฮยอนมินได้ไหมคะ ก่อนที่คุณเคนจะกลับมา...”ถามด้วยความไม่แน่ใจ
ใบหน้าน่ารักก็เคร่งเครียดจนคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน ท่าทางที่ทำให้ลีทึกหวั่นใจนิดๆ
ยิ่งประโยคสุดท้ายด้วยแล้วคราวนี้คงมีอะไรมาให้หัวใจวายแน่
“ว่าแต่คุณเคนจะกลับมารับฮยอนมินกี่โมงคะ
ดึกรึเปล่า?”คำถามต่อมาที่ลีทึกยิ่งขมวดคิ้วมากกว่าเดิม
เหมือนอะไรที่คุณฮยอนมินจะทำมันต้องอาศัยช่วงเวลากลางคืนเลย
“วันนี้คงไม่ดึกครับ แต่ช่วงนี้คงไม่ได้กลับไปที่เกาะสักพักเพราะบอสมีเรื่องงานต้องเคลียร์”ลีทึกไม่อาจบอกรายละเอียดอะไรได้มากกว่านี้
แต่ใบหน้าไม่สู้ดีนั้นก็พอจะให้ซองมินเดาได้ว่ามันอาจจะเกี่ยวโยงกับเรื่องระเบิดที่เกิดขึ้นแต่เธอเองก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องอื่นแล้ว
ต้องรอเวลาเหมาะๆกว่านี้ อย่างน้อยต้องทำให้คนในตายใจก่อน
ก็อย่างที่บอกจะหลอกศัตรูก็ต้องหลอกพวกเดียวกันก่อน...
“งั้นพี่ลีทึกรับปากฮยอนมินนะคะว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ถึงหูคุณเคน...”ยิ่งอีกฝ่ายสำทับมาแบบนี้ลีทึกก็ยิ่งลำบากใจ แต่ประโยคต่อให้คนฟังเบิกตากว้าง
“ฮยอนมินมีแผนจะให้คนร้ายโผล่หางแล้วคะ”ร่างเล็กยักคิ้วข้างหนึ่งให้คนฟังที่สีหน้าเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว
ร่างเพรียวของคุณบอดี้การ์ดเขยิบเข้ามาใกล้เอียงหูให้กับคนที่กวักมือเร่งยิกๆ
“มันจะดีแน่เหรอครับ
เกิดพลาดขึ้นมาบอสเอาผมตายแน่”ร่างเพรียวยังส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย แต่ในใจก็ร้องลั่นไปแล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางยอมให้คนของเจ้านายเผชิญอันตรายอยู่แล้ว
ในสมองตีกันไปมา เพราะแผนใช่ว่าจะไม่ดี
แน่นอนว่ามันสามารถล่อใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังให้รนร้อนจนอาจจะเปิดเผยตัวได้
แล้วยิ่งคุณเคนมีเรื่องอื่นให้ต้องจัดการด้วยแล้ว เรื่องนี้อจจะเป็นอะไรง่ายๆที่ลีทึกจัดการคนเดียวได้
“ดีแน่สิคะ คุณเคนมีเรื่องอื่นให้ทำเยอะแล้ว ให้ฮยอนมินช่วยสักเรื่องเถอะคะ
เพราะถ้าฮยอนมินไม่ไปที่ท้ายเกาะวันนั้นเรื่องก็คงไม่เกิด”ร่างเล็กว่าเสียงเศร้า
ใบหน้าสวยสลดลง ดวงตาคู่สวยก็คลอหน่วงไปด้วยหยดน้ำใสอย่างรู้สึกผิดให้คนมองใจอ่อน
“เฮ้ออออ
ครับ
จะให้ผมช่วยเรื่องอะไรบ้างครับ”สุดท้ายลีทึกก็ยอมรับคำให้อีกคนร้องอย่างดีใจแล้วพุ่งเข้ามากอดแขนเอาศีรษะแนบไหล่
ท่าทางอ้อนๆแบบนี้ถ้าคุณเคนมาเห็นสงสัยว่าลีทึกจะโดนคนเป็นนายจับถ่วงทะเลแน่ๆ
“เชื่อมือได้เลยคะ นี่ใครคะ ชเวฮยอนมินน้องสาวพี่ซีวอนนะ!”ว่าอย่างมั่นใจให้อีกฝ่ายถอนหายใจยาว
ยอมล้วงโทรศัพท์มาต่อสายหาลูกน้องให้ปล่อยข่าวและเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
นอกจากจะไม่ให้บอสรู้แล้ว
ความลับนี้ที่ต้องเหยียบให้มิดเพราะถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นรู้ชเวฮยอนมินอาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
สามวันต่อมานับแต่เริ่มแผนการ...
“ว่าไง...”ลีทึกที่วันนี้มาเป็นบอดี้การ์ดให้คุณนางแบบอันดับหนึ่งของเกาหลี
ลุกขึ้นเดินออกมารับโทรศัพท์ที่ด้านนอกห้องพักฟื้นของคุณกอนฮี ข้อความจากปลายสายที่ได้ยินมันไม่สู้ดีเสียแล้ว
“จับตาดูไว้ให้ดี
ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงรายงานด้วย”ปลายสายรับคำก่อนจะเป็นฝ่ายตัดการสนทนาไปก่อน
ให้ทางฝั่งคนที่ยืนอยู่ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเครือเคกรุ๊ปถอนหายใจ มือเรียวเสยผมม้าด้านหน้าขึ้นไปด้วยความเครียด
การเคลื่อนไหวของกลุ่มมาเฟียในอิตาลี่ที่บอสเคยไปขัดผลประโยชน์ไว้นี่มันมากเกินกว่าการวางระเบิดธรรมดาแล้ว
ไหนจะยังองค์กรนักฆ่าเบื้องหลังที่มีการเรียกกำลังคนเข้าไปเพิ่มอีกเนี่ยสิที่น่าสงสัย
ราวกับจะเกิดสงครามกลางเมืองก็ไม่ปาน ทั้งที่ทั้งหมดมันเป็นแค่การขัดผลประโยชน์ในวงการธุรกิจก็เท่านั้น
ก็ไม่แปลกที่ทำให้คนอย่างบอสที่นอนกับผู้หญิงทุกคนถึงได้กันคนอย่างคุณฮยอนมินออกไป...
คุณฮยอนมินใสบริสุทธิ์เกินไป
อย่างหนึ่งที่บอสทำก็เผื่อสืบข่าว ผู้หญิงไฮโซพวกนี้ขอแค่ได้ชื่อว่าควงกับผู้มีอำนาจก็สามารถเอาไปอวดใครต่อใครได้ ก็ไม่แปลกที่บอสจะยอมควงด้วย แต่ก็แค่ชั่วคราว...
คนที่ดูท่าจะเป็นตัวจริงนั้น...บอสก็เล่นไล่เค้าออกจากชีวิตสะงั้น
ร่างเพรียวเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อสูทก่อนจะก้าวเข้าไปภายในห้องพักที่ได้ยินเสียงใสๆเถียงสู้กับคนเป็นพี่ชายไม่ได้รับรู้เลยว่าเรื่องภายนอกเป็นยังไง
ภาพของฮยอนมินที่กำลังแง้วๆคุณกอนฮีให้คืนรีโมททีวีให้เพราะเจ้าตัวอยากจะดูการ์ตูนเรื่องโปรดมันทำเอาลีทึกยืนนิ่ง
อยากจะดูแลและปกป้องคนบองบอสให้ถึงที่สุด...
ความเป็นฮยอนมินที่มันเข้าไปอยู่ในใจของลูกน้องของคนที่ได้ชื่อว่าร้ายกาจในวงการธุรกิจ
ในตอนนี้เพียงแค่ลีทึกมองตาลูกน้องทั้งหมดไม่ว่าคนไหนก็ให้ความนับถือคนคนนี้หมดใจ
คนที่เหล่าผู้ติดตามในเคกรุ๊ปซึ่งทำงานใกล้ชิดนายอย่างคุณเคน ยอมถวายหัว
ไม่ว่าใครก็ตาม...จะไม่ยอมให้แตะต้องดอกไม้ของนายดอกนี้ได้เด็ดขาด
“อ้าวพี่ลีทึกคุยธุระเสร็จแล้วหรือคะ
ถ้าเสร็จแล้วเราก็ไปกันเถอะ
ฮยอนมินหิวจะแย่
อยู่แถวนี้นานๆจะเปลี่ยนมาแทะหัวคนแทน!”ถ้อยคำจิกกัดที่ร่างเพรียวแอบยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นขำ ทำเอาบรรยายกาศรอบตัวที่เคยอึมครึมของลีทึกหายวับไปภายในพริบตา
ฮยอนมินเดินควงแขนลีทึกออกมาที่ร้านอาหารของโรงพยาบาล
ตอนนี้คนตัวเล็กเคยชินแล้วกับบุรุษชุดดำที่รายล้อมรอบตัว
จะคิดว่าที่คนตามดูแลเยอะขนาดนี้หมายถึงเค้าห่วงแล้วกัน!
“วันนี้คนเยอะกว่าปกติรึเปล่าคะ?”เอ่ยถามคนที่วางถาดอาหารที่เพิ่งไปซื้อมาให้ลงตรงหน้า
ฮยอนมินบู้ปากถามลีทึกที่หย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามให้อีกฝ่ายเลิกคิ้วน้อยๆ
“ฮยอนมินจำหน้าได้หมดแล้วล่ะคะ”ดวงตาคู่สวยจ้องเขม็งเสียจนคนฟังต้องคลี่ยิ้มให้
ลีทึกไม่แปลกใจเลยก็สามวันมานี้รอบตัวคุณหนูฮยอนมินจะมีลูกน้องของบอสวนไปเวียนมาแทบตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงจะจำหน้าได้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“พอดีงานของบอสมีปัญหานิดหน่อยครับ
เราเลยต้องคุ้มกันคุณหนูฮยอนมินเป็นพิเศษ”แล้วคำตอบก็ทำเอาคนตัวเล็กอยากจะกรอกตาเป็นเลขแปดนัก
นี่เพื่อนพี่ชายเธอจะขยันขัดขาพวกมีอิทธิพลมืดเกินไปรึเปล่า คราวเรือระเบิดนั่นยังไม่ได้สะสางเลยเรื่องใหม่จะมาอีกแล้วเหรอ
“ใช่พวกเดิมกับที่ระเบิดเรือรึเปล่าคะ”ที่ฮยอนมินกล้าถามออกมาโต้งๆแบบนี้ก็เพราะพื้นที่โดยรอบภายในศูนย์อาหารมันไม่เหลือใครอื่นแล้วน่ะสิ คนอื่นๆเค้าหนีไปหมดตอนที่ชายชุดดำลูกน้องของเคน
คอนเดลเดินเข้ามาเกือบสิบคนแล้ว
“ยังไม่แน่ใจครับ”เอาจริงๆนายสั่งห้ามบอกอะไรคุณฮยอนมินไว้
แต่สายตาออดอ้อนของคนตรงหน้าขนาดบอสเค้ายังใจอ่อนแล้วลูกน้องจะเหลือเหรอ
ลีทึกก็ได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้พูดออกไปเท่าที่จะพูดได้ เพราะแค่นั้นคุณฮยอนมินเค้าก็พอใจแล้ว
“พี่ลีทึกคิดว่ามันหุบเหยื่อที่เราล่อไว้รึเปล่าคะ”ดวงตาคู่กลมมองจ้องแต่อาหารในจานมากกว่าใบหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
การสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติที่คนภายนอกคงเข้าใจว่าคุยกันเรื่องลมฟ้าอากาศมากกว่าจะวางแผนชั่วร้ายกันแบบนี้ แถมเสียงที่ฮยอนมินใช้มันก็ดังเพียงแค่พอให้ได้ยินกันแค่สองคนด้วย
ไม่มีทางที่ลูกน้องของชายหนุ่มซึ่งยืนรายล้อมอยู่ตามมุมต่างๆของโรงอาหารจะได้ยิน
“เฮ้ออออ
คืนนี้ครับ”พูดแค่นี้คนตัวเล็กก็เข้าใจแล้ว รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน
แล้วฮยอนมินก็นั่งกินอาหารต่ออย่างเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
บอสครับ...ช่วยเคลียร์งานเสร็จไวๆแล้วรีบมาทีเถอะ ผมจะรับมือคุณฮยอนมินไม่ไหวแล้ว...
RRRrrrr
“วันนี้ฉันจะไปโรงพยาบาลช้าหน่อยนะ”เพียงแค่นี้ที่บอสว่ามาตามสายก่อนจะกดวางไปให้คนฟังแทบจะตบหน้าผากตัวเองดังฉาด
บ่นถึงบอส บอสก็โทรมา แถมยังเป็นประโยคที่ราวกับเปิดทางให้ทุกแผนการที่คุณฮยอนมินวางไว้เข้าล็อกเป๊ะอีกต่างหาก
“คุณเคนว่าไงเหรอ?
ติดงานใช่ไหม”เหมือนกับอีกคนมาแอบฟังโทรศัพท์อย่างไงอย่างนั้นให้ลีทึกทำหน้าไม่ถูก แต่ฮยอนมินพอจะเข้าใจ
ไหนๆก็จะจัดการคนที่รู้เรื่องรู้ราวดีแล้วก็ต้องกันคนที่ปกป้องได้ไว้ให้ห่างๆสินะ...
“เอาเถอะ เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้กัน ฮยอนมินอิ่มแล้วคะ ไปหาพี่กอนฮีดีกว่า”ร่างเล็กหยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดปากก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มเล่นเอาลีทึกยิ่งยิ้มแหยเพราะทำไมเค้ารู้สึกว่ายิ้มแบบนี้จะเกิดเรื่องยังไงไม่รู้
คืนนี้ทุกอย่างเข้าล็อกตามแผน เวลาประมาณห้าทุ่ม...
แกร๊ก!
เสียงเปิดประตูแผ่วเบาพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่มุ่งตรงมายังคนที่นอนอยู่บนเตียงมีสายระโยงระยางเต็มไปหมดไม่ต่างจากวันแรกที่ฮยอนมินมาเยี่ยมคนคนนี้เลยสักนิด เสียงเครื่องช่วยหายใจและเครื่องวัดความดันทั้งหลายที่ช่วยให้คนคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ดังกลบเสียงฝีเท้าของผู้มาใหม่ได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องพักฟื้นมืดสนิทแต่กลับไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับความมืดมาตลอด
ดวงตากวาดมองไปในความมืดมองเห็นร่างหญิงสาวผมยาวที่นอนอยู่ตรงกลางเตียง มีผ้าห่มคลุมอยู่แล้วก็ต้องแสยะยิ้มในใจก็นึกถึงเรื่องที่ได้รับรู้มาเมื่อวันก่อน
“ผู้ป่วยห้อง...น่าจะใกล้ฟื้นแล้วล่ะ
เห็นวันก่อนขยับนิ้วได้แล้ว”นางพยาบาลที่ตามคุณหมอใหญ่ลงตรวจในช่วงเช้าซึ่งตอนนี้ออกเวรแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อนพยาบาลในร้านอาหารใกล้ๆกับโรงพยาบาลที่ตนเองทำงานอยู่
“คนที่เค้าว่าเป็นนางแบบสวยๆคนนั้นน่ะเหรอ?”คนที่นั่งรอเพื่อนอยู่พักหนึ่งแล้วก็ถามขึ้นมาขณะที่พยาบาลสาวก็หันไปหยิบเมนูมาเตรียมสั่งอาหาร
“น่าสงสารเหมือนกันนะ กว่าใบหน้าสวยๆจะกลับสภาพเดิมได้คงต้องเสียค่าศัลยกรรมเยอะแน่ๆเลย”แล้วนางพยาบาลคนเดิมก็ยังพูดบอกออกมาพลางถอนหายใจเล็กน้อย
ในบรรดาผู้ป่วยที่เกิดจากเรือระเบิดของเกาะพาราไดซ์นั้นมีนางแบบเพียงคนเดียวที่อาการหนักที่สุด
ถึงจะแปลกใจที่ว่าทุกอย่างดูเหมือนง่ายเกินไปแต่ก็ไม่ได้สะกิดใจอะไรเลยสักนิดเดียว ซึ่งเอาจริงๆการจะบุกขึ้นมาที่ชั้นนี้ได้มันก็ไม่ง่ายอาจจะเพราะว่าตนเองลอบเข้ามาในช่วงจังหวะการเปลี่ยนเวรยามของบอดี้การ์ดชุดดำก็เป็นได้
แถมการปลอมตัวที่ยังดีเลิศเหมือนเคยไม่อย่างนั้นคงฝ่าเหล่าบอดี้การ์ดหน้าโง่ของไอ้เคน
คอนเดลที่ชั้นล่างขึ้นมาไม่ได้
มือหนาในถุงมือยางของแพทย์ดึงมาร์คที่ใส่ปกปิดใบหน้าลงสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ
ใบหน้าก็ยกยิ้มเหี้ยมรู้สึกได้ถึงเลือดเย็นเยียบที่วิ่งอยู่ในกาย ร่างสูงที่ราวกับมัจจุราชยกยิ้มพราวระยับในความมืด
สอดมือเข้าไปภายในกระเป๋าเสื้อกราว์ดของนายแพทย์หยิบเอาอาวุธด้ามสั้นที่สะท้อนกับแสงไฟจากระเบียงทางเดินหน้าห้องที่สาดเข้ามาเพียงน้อยนิดวาววับ
“หึๆ
ถ้าไม่เสือกมาเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเธอก็ไม่ตายหรอกสาวน้อย...”มัจจุราชในเงามืดว่าอย่างที่จับจ้องคนบนเตียงตาไม่กระพริบ มือหนาข้างหนึ่งดึงหมอนใบนุ่มที่รองศีรษะอยู่ออกแรงๆโดยไม่สนใจอาการของคนบนเตียงแม้แต่นิด
ไหนๆก็จะตายอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาสนใจอาการป่วยให้มากนัก ก่อนจะวางหมอนใบนุ่มทับบนแผ่นอกบางแล้วเงื้อมีดขึ้นสูง
ภายในห้องพักมืดสลัวเงียบกริบนอกจากเสียงปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่ คนที่บุกเข้ามาทำทุกอย่างเงียบกริบอย่างมืออาชีพ
ลิ้นสีสดแลบเลียริมฝีปากเตรียมรับกลิ่นคาวเลือดที่ตนแสนจะโปรดปราน
มือหนาข้างหนึ่งกดหมอนไว้แน่นไม่ให้ขยับออกจากที่ขณะที่มืออีกข้างก็วาดใบมีดลงมาเต็มแรง...
“ง่ายไปมั้ง!!!”ก่อนที่มีดเล่มนั้นจะปักลงกลางอกมือเรียวบางก็พุ่งออกมาจากใต้ผ้าห่มคว้าเอาไว้ได้พอดี
ร่างเล็กตวัดผ้าออกให้เห็นใบหน้าชัดๆ
อีกฝ่ายก็ถึงกับอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าจะตนโดนหลอก
ชายหนุ่มยืนนิ่งอย่างตกใจเพียงครู่เดียวก่อนสติจะกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว พอรู้อย่างนั้นมือหนาข้างที่ถูกจับไว้ก็กระชากเพื่อให้หลุดจากการกอบกุมจนตัวเล็กๆปลิวตาม
คนสองคนยืนกันอยู่กลางห้องพักฟื้นมีแสงสาดจากข้างนอกเข้ามาพอสลัวๆ
แต่ฮยอนมินก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากมีดเล่มนั้นง่ายๆ
“หึ”และการแค่นยิ้มของคนตัวเล็กกว่านั้นทำเอาคนที่ปลอมตัวมาถึงขั้นเดือดจัดกัดฟันกรอดที่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้
ชายหนุ่มในชุดกราวด์ของแพทย์แทงมีดสวนเข้ามาให้คนตัวเล็กกว่าเอี้ยวหลบ
ดวงตาคู่สวยจ้องปลายมีดตาไม่กระพริบเพราะถ้าเธอพลาดเพียงแค่นิดเดียวคงได้เป็นคนขึ้นไปนอนบนเตียงแทนแน่ๆ
“ดูถูกนักฆ่าง่ายไปนะสาวน้อย...”เสียงกระซิบเหี้ยมที่ได้ยินมันไม่ได้ทำให้ฮยอนมินหวั่นใจได้เลยสักนิดเพราะรู้ดีว่าภายนอกห้องมีคนของชายหนุ่มรออยู่แล้ว
“เดี๋ยวก็รู้ว่าดูถูกรึเปล่า”ปลายมีดแฉลบมาข้างลำตัวอีกครั้งแต่ฮยอนมินก็หลบได้
ทักษะการป้องกันอันไม่ธรรมดาที่อีกฝ่ายเริ่มไม่ชอบใจขึ้นทุกขณะ
ในเมื่ออีกฝ่ายตัวก็เล็กกว่าแถมยังเป็นผู้หญิงอีกแต่เค้ากลับสะบัดข้อมือไม่หลุด ชายหนุ่มไม่มีทางรู้เลยว่าเรี่ยวแรงที่ฮยอนมินมีมันไม่ใช่แค่พละกำลังของผู้หญิง
ที่ปลอมตัวก็เป็นเพราะอย่างนี้
ฉะนั้นเรี่ยวแรงที่ฮยอนมินมีมันก็เท่าๆกับที่ผู้ชายคนหนึ่งมี...
ฟึ๊บ!
ปลายมีดสวนเข้ามาอีกครั้งและครั้งนี้แรงกว่าสองครั้งแรกแถมยังเร็วแต่ทำเอาคนที่ตั้งรับอยู่แล้วใช้แรงที่ว่าเป็นฝ่ายบิดตัวอ้อมกลับไปด้านหลังใช้ปลายมีดนั้นจ่อที่แผ่นหลังของอีกฝ่าย ฝ่ามือเล็กบีบข้อมืออีกฝ่ายแน่นราวกับจะหักมันเสียให้ได้
“บอกมานะว่าแกทำงานให้ใคร!”เสียงหวานใสคำรามกร้าวชิดริมใบหูอีกฝ่าย เสียงที่ทำให้นักฆ่าหนุ่มที่ถูกส่งมาหัวเราะในลำคอ เข้าใจแล้วว่าทำไมศัตรูของเจ้านายถึงติดใจหญิงสาวคนนี้นักเผลอๆจะรวมไปถึงหัวหน้าตัวเองด้วย
“อย่าคิดว่าไอ้พวกนั้นจะเข้ามาช่วยได้นะ”แต่แทนที่ซองมินจะได้คำตอบ
อีกฝ่ายกลับเปลี่ยนเรื่องไปได้อย่างหน้าตาเฉย
และรอยยิ้มเหี้ยมบนใบหน้าของชายหนุ่มที่หันกลับมาทำเอาซองมินรู้สึกถึงแผ่นหลังที่เย็นเยียบ
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเพิ่งมาคิดได้ว่าตัวเองอยู่ในห้องนี้มากับคนตรงหน้ามาเกือบสิบนาทีแล้วทำไมพี่ลีทึกถึงยังไม่เข้ามาช่วย
“กะ...แก!”ร่างเล็กจะบิดข้อมืออีกฝ่ายให้หักแล้วแต่นักฆ่าที่ถูกฝึกมาย่อมมีความเร็วมากกว่า ชายหนุ่มบิดตัวแล้วสะบัดแขนตัวเองในชั่วเสี้ยววินาทีทำให้มือเล็กหลุดออกจากข้อมืออีกฝ่ายแล้วถลาไปตามแรง
“โอ๊ย!”รู้ตัวอีกทีร่างก็ถูกจับกระแทกลงบนเตียงโดนมีอีกฝ่ายคร่อมทับอยู่ด้านบน
“ถ้าไม่ติดว่าต้องทำเวลา
เราอาจจะได้มีเวลาสนุกกันนะสาวน้อย”อีกฝ่ายยกมีดขึ้นมาเลีย
แสงไฟสะท้อนเข้ากับใบมีดจนซองมินสะท้านเยือกไปทั้งตัว
แคร้ง!
“อึ๊ก!”และอีกคนก็ทำในสิ่งที่ซองมินไม่คาดคิด มีดเล่มเล็กถูกโยนทิ้งก่อนฝ่ามือหนาจะตรงเข้ามากอบกุมที่ลำคอสวยแล้วออกแรงบีบ
“สวยๆแบบนี้ ไม่อยากให้หน้าและตัวมีรอยเลยแต่ขอที่คอสักที่ไว้แล้วกัน!”คำพูดอีกฝ่ายทำเอาซองมินตัวสั่นรับรู้ได้เลยว่าตัวเองคงไม่รอดแล้ว
ขาเรียวดีดดิ้นทุรนทุรายหาอากาศหายใจเมื่อมันเริ่มเหลือน้อยลงทุกทีๆ
เรียวเล็บจิกลงยังฝ่ามือหนาให้ปล่อยออกจากลำคอ แต่กลับสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้
คุณเคน...ช่วยซองมินด้วย...
ชื่อเดียวที่ผุดขึ้นมากลางใจในเวลาคับขัน หยดน้ำใสไหลซึมลงมาทางหางตา ซองมินโทษว่าเป็นความผิดตัวเอง แล้วตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพี่ลีทึกจะได้รับบาดเจ็บอะไรบ้าง ผลจากการตามใจให้ซองมินดำเนินการตามแผนนี้
“คุณ...อึ๊ก!
เคน”เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบาแทบไม่พ้นริมฝีปาก
คำที่ทำให้นักฆ่าหนุ่มยิ่งแสยะยิ้มแล้วเพิ่มแรงบีบเข้าไปอีก ดวงตาคู่สวยแทบจะหลับพริ้มลงไปแล้วเพราะถอดใจ มือบางเลิกตะกุยมือหนาที่ลำคอไปแล้ว
เตรียมใจรับวาระสุดท้าย
“พอแค่นั้นแหละ!”
มาต่อให้แล้วค่า ช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่งพอสมควรเลย แหะๆ อัพให้ยาวหน่อยนึงแล้วกันเนอะ
ตอนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้
อิคนเขียนมันถนัดฉากไหน ฮ่าๆ ฉากบู้ทีไรเขียนมันส์ลืมโลกทุกที คุณเคนเค้าหวงเค้าห่วงขนาดไหน
แล้วดูคุณนางแบบเค้าทำ เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเองตลอด เอาละสิงานนี้จะทำยังไง
แต่พระเอกเรามาช่วยทันนะเออ
ตามชื่อตอน
คุณนางแบบเป็นคนให้ปล่อยข่าวลวงแล้วเพื่อล่อเหยื่อให้มาติดกับ ในขณะที่คุณเคนไปจัดการเรื่องอย่างอื่น
แน่ล่ะจะจัดการเหยื่อต้องหลอกให้คนที่กางปีกปกป้องวุ่นวายจนไม่มีเวลาปลีกตัวมาดูแลได้
ตอนหน้าเดี๋ยวมาดูคุณเคนระเบิดลงกัน อิอิ
ความคิดเห็น