ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Paradise Island : เกาะร้อน...รักร้าย [KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 11 แผนลวง

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 58






              

               “ว่าไงนะ!...เจอยาเสพติดปนอยู่กับยาที่จะส่งออกไปวันนี้!?”เมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟท์แล้วชายหนุ่มถึงเพิ่งจะได้ยินชัดๆอีกครั้งว่าเรื่องด่วนที่ว่ามันคือเรื่องนี้

     

     

                “ครับบอส  จู่ๆวันนี้ก็มีสายตรวจบุกเข้าไปขอตรวจค้นสินค้าที่เรากำลังลำเลียงขึ้นเรือ  ชางอุคเองก็รู้ว่าเราบริสุทธิ์เค้าถึงยอมให้ตรวจค้น  แต่ไม่คิดว่า...”ท้ายเสียงหายไปในลำคอ  ชางอุคคือลูกน้องคนหนึ่งของคยูฮยอนที่มีคนมาฝากให้คยูฮยอนช่วยดูแล

     

     

                จีชางอุค...ชายหนุ่มที่อายุพอๆกับซองมิน  เสียพ่อที่เหลือเพียงคนเดียวไปในเหตุการณ์เมื่อสิบปีก่อนตอนที่บนเกาะเกิดระเบิดขึ้น  คยูฮยอนเลยให้ลูกน้องเก่าของคนเป็นพ่อรับไปดูแลจนชายหนุ่มเรียนจบกลับมาทำงานให้กับเคกรุ๊ป   ร่างสูงเลยไว้ใจให้เป็นคนคุมของที่ท่าเรือ

     

     

                “ไม่หรอก  ไม่ใช่ความผิดของชางอุค...เค้าทำถูกแล้ว  แต่ที่น่าสงสัยคือสายตรวจนั่นต่างหาก!”ท้ายเสียงที่เข้มขึ้นของเคน คอนเดลที่ลูกน้องหนุ่มต้องโค้งหัวรับคำสั่ง  ถึงเจ้านายไม่บอกออกมาตรงๆก็รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป

     

     

                “อ้าว...”คยูฮยอนกำลังคิดเลยว่างานนี้อาจจะยุ่งยากนิดหน่อยที่ลูกน้องคนสนิทไม่อยู่แต่เพียงก้าวเท้าออกมาจากโรงพยาบาลใบหน้าคุ้นเคยของคนสองคนก็ปรากฏให้เห็น

     

     

                ลีทึกและคังอินยืนอยู่ข้างรถคันสีดำสนิทของผู้เป็นนายทั้งยังโค้งหัวรับน้อยๆ

     

     

                “พักผ่อนก่อนก็ได้...”คยูฮยอนไม่ค่อยจะชอบใจนักที่เห็นคนสนิทซึ่งยังแขนเจ็บถึงขนาดต้องเข้าเฝือกแล้วยังฝืนมาทำงานแบบนี้ 

     

     

                “ไม่ได้หรอกครับ  ผมว่าเรื่องมันไม่จบง่ายๆ ถ้าผมไม่อยู่บอสจะยิ่งลำบากนะครับ”คังอินยังคิ้วหลิ่วตาส่งให้คยูฮยอนที่คนเป็นนายถอนหายใจเฮือก  ลางสังหรณ์ของเค้าก็ว่าเช่นนั้นเหมือนกัน  เหมือนเรื่องจะเพิ่งเริ่มต้นขึ้น

     

     

                “งั้นนายไปสถานีตำรวจกับฉัน ส่วนลีทึก...นายไปคอยดูแลฮยอนมิน”คำสั่งที่ทำเอาลูกน้องทั้งสองลอบยิ้มให้แก่กัน  ก่อนที่คนสั่งจะก้าวเท้าขึ้นรถไปโดยไม่หันกลับมามอง

     

     

               

                “อ้าวพี่ลีทึก...”ซองมินที่นั่งอยู่ในห้องพักของพี่ชายคนสนิท ได้ยินเสียงเปิดประตูก็หันไปดูว่าใครกันที่เข้าห้องมาก็เห็นเป็นลูกน้องคนสนิทของชายหนุ่ม

     

     

                “พี่คังอินเป็นยังไงบ้างคะ  เห็นพี่กอนฮีบอกว่าช่วยพี่เค้าเอาไว้”ซองมินถามอีกฝ่ายรัวเร็ว  กลัวว่าลูกน้องร่างใหญ่ของชายหนุ่มจะเป็นอะไรร้ายแรงไปหรือเปล่า

     

     

                “ไม่เป็นไรแล้วครับ แค่แขนเดาะเพราะรับตัวคุณกอนฮีไว้แล้วลงน้ำผิดท่า”รอยยิ้มของลีทึกเป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคังอินไม่เป็นไรทำเอาซองมินโล่งใจไม่น้อย

     

     

                “งั้นก็ดีแล้วคะ  แล้วนี่คุณเคนไปไหนเหรอคะ?”ใบหน้าสวยสอดส่ายหาคนที่หายไปให้กอนฮีลอบยิ้มใส่ลีทึกอยู่ด้านหลังคนเป็นน้อง

     

     

                “มีธุระนิดหน่อยครับ  บอสเลยให้ผมมาคอยดูแลคุณฮยอนมิน”พูดเสร็จก็โค้งหัวให้ซองมินอีกครั้งเล่นเอาคนถูกดูแลทำหน้าไม่ถูกเลย

     

     

                “อ่า...งั้นน้องมินดูทีวีรอแล้วกัน  เค้าบอกว่าจะมารับนี่น่า”ร่างเล็กเสเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วเสียจนอีกสองคนร่วมห้องต้องระบายยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

     

     

                ว่าแต่ฮยอนมินเค้าจะรู้ตัวไหมว่าเวลาที่ตัวเองพูดถึงคุณเคนแล้วจะหน้าแดงแบบนั้น...

     

     

                สองชั่วโมงผ่านไป  ดูทีวีจนไม่มีอะไรจะดูแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่กลับมารับสักที คนที่เริ่มเบื่อก็รูดร่างลงไปแทบร่างกับโซฟาตรงมุมห้องให้ลีทึกที่นั่งอยู่ใกล้ๆแอบยิ้มขำไม่น้อย  ท่าทางราวนางพญาของนางแบบสาวก่อนหน้านี้หายวับไปเหลือแต่เด็กสาวแสนน่ารักคนหนึ่งเท่านั้น

     

     

                ภายในห้องพักฟื้นเหลือเพียงแต่เสียงโทรทัศน์เท่านั้นเพราะเจ้าของห้องกินยาหลับไปได้สักพักแล้ว  ดวงตาคู่สวยเหลือบมองไปทางคนบนเตียงว่าอีกฝ่ายจะไม่ตื่นมาแน่ๆ ถึงได้เอามือยันตัวลุกขึ้นนั่งดีๆอีกครั้งให้คนที่มานั่งเฝ้าเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง

     

     

                “พี่ลีทึกคะ...อ่า ฮยอนมินเรียกแบบนี้ได้ใช่ไหมคะ?”ร่างเล็กเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจแต่กลับทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มส่งให้

     

     

                “ได้ครับ...คุณหนู”แต่สรรพนามที่อีกฝ่ายใช้ก็ทำเอาฮยอนมินยู่ปาก  ความน่ารักเป็นธรรมชาติแบบนี้นี่เองที่ลีทึกไม่แปลกใจเลยถ้าบอสเค้าจะหวั่นไหว 

     

     

                ชเวฮยอนมินเล่นน่ารักแตกต่างจากคนอื่นๆที่เอาแต่ปั้นหน้าทำตัวราวเจ้าหญิงใส่แล้วจะให้คุณเคนไม่หวั่นไหวได้ยังไง...

     

     

                “พี่ลีทึกพอจะช่วยอะไรฮยอนมินได้ไหมคะ  ก่อนที่คุณเคนจะกลับมา...”ถามด้วยความไม่แน่ใจ ใบหน้าน่ารักก็เคร่งเครียดจนคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน  ท่าทางที่ทำให้ลีทึกหวั่นใจนิดๆ ยิ่งประโยคสุดท้ายด้วยแล้วคราวนี้คงมีอะไรมาให้หัวใจวายแน่

     

     

                “ว่าแต่คุณเคนจะกลับมารับฮยอนมินกี่โมงคะ  ดึกรึเปล่า?”คำถามต่อมาที่ลีทึกยิ่งขมวดคิ้วมากกว่าเดิม  เหมือนอะไรที่คุณฮยอนมินจะทำมันต้องอาศัยช่วงเวลากลางคืนเลย

     

     

                “วันนี้คงไม่ดึกครับ  แต่ช่วงนี้คงไม่ได้กลับไปที่เกาะสักพักเพราะบอสมีเรื่องงานต้องเคลียร์”ลีทึกไม่อาจบอกรายละเอียดอะไรได้มากกว่านี้  แต่ใบหน้าไม่สู้ดีนั้นก็พอจะให้ซองมินเดาได้ว่ามันอาจจะเกี่ยวโยงกับเรื่องระเบิดที่เกิดขึ้นแต่เธอเองก็ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องอื่นแล้ว 

     

     

                ต้องรอเวลาเหมาะๆกว่านี้  อย่างน้อยต้องทำให้คนในตายใจก่อน  ก็อย่างที่บอกจะหลอกศัตรูก็ต้องหลอกพวกเดียวกันก่อน...

     

     

                “งั้นพี่ลีทึกรับปากฮยอนมินนะคะว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ถึงหูคุณเคน...”ยิ่งอีกฝ่ายสำทับมาแบบนี้ลีทึกก็ยิ่งลำบากใจ  แต่ประโยคต่อให้คนฟังเบิกตากว้าง

     

     

                “ฮยอนมินมีแผนจะให้คนร้ายโผล่หางแล้วคะ”ร่างเล็กยักคิ้วข้างหนึ่งให้คนฟังที่สีหน้าเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว  ร่างเพรียวของคุณบอดี้การ์ดเขยิบเข้ามาใกล้เอียงหูให้กับคนที่กวักมือเร่งยิกๆ

     

     

                “มันจะดีแน่เหรอครับ  เกิดพลาดขึ้นมาบอสเอาผมตายแน่”ร่างเพรียวยังส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย  แต่ในใจก็ร้องลั่นไปแล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางยอมให้คนของเจ้านายเผชิญอันตรายอยู่แล้ว

     

     

                ในสมองตีกันไปมา  เพราะแผนใช่ว่าจะไม่ดี แน่นอนว่ามันสามารถล่อใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังให้รนร้อนจนอาจจะเปิดเผยตัวได้  แล้วยิ่งคุณเคนมีเรื่องอื่นให้ต้องจัดการด้วยแล้ว  เรื่องนี้อจจะเป็นอะไรง่ายๆที่ลีทึกจัดการคนเดียวได้

     

     

                “ดีแน่สิคะ  คุณเคนมีเรื่องอื่นให้ทำเยอะแล้ว  ให้ฮยอนมินช่วยสักเรื่องเถอะคะ  เพราะถ้าฮยอนมินไม่ไปที่ท้ายเกาะวันนั้นเรื่องก็คงไม่เกิด”ร่างเล็กว่าเสียงเศร้า ใบหน้าสวยสลดลง ดวงตาคู่สวยก็คลอหน่วงไปด้วยหยดน้ำใสอย่างรู้สึกผิดให้คนมองใจอ่อน

     

     

                “เฮ้ออออ ครับ  จะให้ผมช่วยเรื่องอะไรบ้างครับ”สุดท้ายลีทึกก็ยอมรับคำให้อีกคนร้องอย่างดีใจแล้วพุ่งเข้ามากอดแขนเอาศีรษะแนบไหล่  ท่าทางอ้อนๆแบบนี้ถ้าคุณเคนมาเห็นสงสัยว่าลีทึกจะโดนคนเป็นนายจับถ่วงทะเลแน่ๆ

     

     

                “เชื่อมือได้เลยคะ  นี่ใครคะ ชเวฮยอนมินน้องสาวพี่ซีวอนนะ!”ว่าอย่างมั่นใจให้อีกฝ่ายถอนหายใจยาว  ยอมล้วงโทรศัพท์มาต่อสายหาลูกน้องให้ปล่อยข่าวและเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ

     

     

                นอกจากจะไม่ให้บอสรู้แล้ว  ความลับนี้ที่ต้องเหยียบให้มิดเพราะถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นรู้ชเวฮยอนมินอาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

     

     


                    สามวันต่อมานับแต่เริ่มแผนการ...

     

     

                    “ว่าไง...”ลีทึกที่วันนี้มาเป็นบอดี้การ์ดให้คุณนางแบบอันดับหนึ่งของเกาหลี ลุกขึ้นเดินออกมารับโทรศัพท์ที่ด้านนอกห้องพักฟื้นของคุณกอนฮี  ข้อความจากปลายสายที่ได้ยินมันไม่สู้ดีเสียแล้ว

     

     

                    “จับตาดูไว้ให้ดี ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงรายงานด้วย”ปลายสายรับคำก่อนจะเป็นฝ่ายตัดการสนทนาไปก่อน  ให้ทางฝั่งคนที่ยืนอยู่ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเครือเคกรุ๊ปถอนหายใจ  มือเรียวเสยผมม้าด้านหน้าขึ้นไปด้วยความเครียด

     

     

                    การเคลื่อนไหวของกลุ่มมาเฟียในอิตาลี่ที่บอสเคยไปขัดผลประโยชน์ไว้นี่มันมากเกินกว่าการวางระเบิดธรรมดาแล้ว  ไหนจะยังองค์กรนักฆ่าเบื้องหลังที่มีการเรียกกำลังคนเข้าไปเพิ่มอีกเนี่ยสิที่น่าสงสัย

     

     

                    ราวกับจะเกิดสงครามกลางเมืองก็ไม่ปาน  ทั้งที่ทั้งหมดมันเป็นแค่การขัดผลประโยชน์ในวงการธุรกิจก็เท่านั้น 

     

     

                    ก็ไม่แปลกที่ทำให้คนอย่างบอสที่นอนกับผู้หญิงทุกคนถึงได้กันคนอย่างคุณฮยอนมินออกไป...

     

     

                    คุณฮยอนมินใสบริสุทธิ์เกินไป

     

                   

                    อย่างหนึ่งที่บอสทำก็เผื่อสืบข่าว  ผู้หญิงไฮโซพวกนี้ขอแค่ได้ชื่อว่าควงกับผู้มีอำนาจก็สามารถเอาไปอวดใครต่อใครได้  ก็ไม่แปลกที่บอสจะยอมควงด้วย  แต่ก็แค่ชั่วคราว...

     

     

                    คนที่ดูท่าจะเป็นตัวจริงนั้น...บอสก็เล่นไล่เค้าออกจากชีวิตสะงั้น

     

     

                    ร่างเพรียวเก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อสูทก่อนจะก้าวเข้าไปภายในห้องพักที่ได้ยินเสียงใสๆเถียงสู้กับคนเป็นพี่ชายไม่ได้รับรู้เลยว่าเรื่องภายนอกเป็นยังไง  ภาพของฮยอนมินที่กำลังแง้วๆคุณกอนฮีให้คืนรีโมททีวีให้เพราะเจ้าตัวอยากจะดูการ์ตูนเรื่องโปรดมันทำเอาลีทึกยืนนิ่ง

     

     

                    อยากจะดูแลและปกป้องคนบองบอสให้ถึงที่สุด...

     

     

                    ความเป็นฮยอนมินที่มันเข้าไปอยู่ในใจของลูกน้องของคนที่ได้ชื่อว่าร้ายกาจในวงการธุรกิจ  ในตอนนี้เพียงแค่ลีทึกมองตาลูกน้องทั้งหมดไม่ว่าคนไหนก็ให้ความนับถือคนคนนี้หมดใจ  คนที่เหล่าผู้ติดตามในเคกรุ๊ปซึ่งทำงานใกล้ชิดนายอย่างคุณเคน  ยอมถวายหัว

     

     

                    ไม่ว่าใครก็ตาม...จะไม่ยอมให้แตะต้องดอกไม้ของนายดอกนี้ได้เด็ดขาด

     

     

                    “อ้าวพี่ลีทึกคุยธุระเสร็จแล้วหรือคะ ถ้าเสร็จแล้วเราก็ไปกันเถอะ  ฮยอนมินหิวจะแย่  อยู่แถวนี้นานๆจะเปลี่ยนมาแทะหัวคนแทน!”ถ้อยคำจิกกัดที่ร่างเพรียวแอบยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นขำ  ทำเอาบรรยายกาศรอบตัวที่เคยอึมครึมของลีทึกหายวับไปภายในพริบตา

     

     

                    ฮยอนมินเดินควงแขนลีทึกออกมาที่ร้านอาหารของโรงพยาบาล  ตอนนี้คนตัวเล็กเคยชินแล้วกับบุรุษชุดดำที่รายล้อมรอบตัว  จะคิดว่าที่คนตามดูแลเยอะขนาดนี้หมายถึงเค้าห่วงแล้วกัน!

     

     

                    “วันนี้คนเยอะกว่าปกติรึเปล่าคะ?”เอ่ยถามคนที่วางถาดอาหารที่เพิ่งไปซื้อมาให้ลงตรงหน้า  ฮยอนมินบู้ปากถามลีทึกที่หย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามให้อีกฝ่ายเลิกคิ้วน้อยๆ

     

     

                    “ฮยอนมินจำหน้าได้หมดแล้วล่ะคะ”ดวงตาคู่สวยจ้องเขม็งเสียจนคนฟังต้องคลี่ยิ้มให้  ลีทึกไม่แปลกใจเลยก็สามวันมานี้รอบตัวคุณหนูฮยอนมินจะมีลูกน้องของบอสวนไปเวียนมาแทบตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงจะจำหน้าได้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

     

     

                    “พอดีงานของบอสมีปัญหานิดหน่อยครับ  เราเลยต้องคุ้มกันคุณหนูฮยอนมินเป็นพิเศษ”แล้วคำตอบก็ทำเอาคนตัวเล็กอยากจะกรอกตาเป็นเลขแปดนัก  นี่เพื่อนพี่ชายเธอจะขยันขัดขาพวกมีอิทธิพลมืดเกินไปรึเปล่า  คราวเรือระเบิดนั่นยังไม่ได้สะสางเลยเรื่องใหม่จะมาอีกแล้วเหรอ

     

     

                    “ใช่พวกเดิมกับที่ระเบิดเรือรึเปล่าคะ”ที่ฮยอนมินกล้าถามออกมาโต้งๆแบบนี้ก็เพราะพื้นที่โดยรอบภายในศูนย์อาหารมันไม่เหลือใครอื่นแล้วน่ะสิ  คนอื่นๆเค้าหนีไปหมดตอนที่ชายชุดดำลูกน้องของเคน คอนเดลเดินเข้ามาเกือบสิบคนแล้ว

     

     

                    “ยังไม่แน่ใจครับ”เอาจริงๆนายสั่งห้ามบอกอะไรคุณฮยอนมินไว้  แต่สายตาออดอ้อนของคนตรงหน้าขนาดบอสเค้ายังใจอ่อนแล้วลูกน้องจะเหลือเหรอ

     

     

                    ลีทึกก็ได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้พูดออกไปเท่าที่จะพูดได้  เพราะแค่นั้นคุณฮยอนมินเค้าก็พอใจแล้ว

     

     

                    “พี่ลีทึกคิดว่ามันหุบเหยื่อที่เราล่อไว้รึเปล่าคะ”ดวงตาคู่กลมมองจ้องแต่อาหารในจานมากกว่าใบหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม  การสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติที่คนภายนอกคงเข้าใจว่าคุยกันเรื่องลมฟ้าอากาศมากกว่าจะวางแผนชั่วร้ายกันแบบนี้  แถมเสียงที่ฮยอนมินใช้มันก็ดังเพียงแค่พอให้ได้ยินกันแค่สองคนด้วย  ไม่มีทางที่ลูกน้องของชายหนุ่มซึ่งยืนรายล้อมอยู่ตามมุมต่างๆของโรงอาหารจะได้ยิน

     

     

                    “เฮ้ออออ คืนนี้ครับ”พูดแค่นี้คนตัวเล็กก็เข้าใจแล้ว รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน  แล้วฮยอนมินก็นั่งกินอาหารต่ออย่างเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

     

     

                    บอสครับ...ช่วยเคลียร์งานเสร็จไวๆแล้วรีบมาทีเถอะ  ผมจะรับมือคุณฮยอนมินไม่ไหวแล้ว...

     

     

                    RRRrrrr

     

     

                    “วันนี้ฉันจะไปโรงพยาบาลช้าหน่อยนะ”เพียงแค่นี้ที่บอสว่ามาตามสายก่อนจะกดวางไปให้คนฟังแทบจะตบหน้าผากตัวเองดังฉาด

     

     

                    บ่นถึงบอส  บอสก็โทรมา แถมยังเป็นประโยคที่ราวกับเปิดทางให้ทุกแผนการที่คุณฮยอนมินวางไว้เข้าล็อกเป๊ะอีกต่างหาก

     

     

                    “คุณเคนว่าไงเหรอ?  ติดงานใช่ไหม”เหมือนกับอีกคนมาแอบฟังโทรศัพท์อย่างไงอย่างนั้นให้ลีทึกทำหน้าไม่ถูก  แต่ฮยอนมินพอจะเข้าใจ 

     

     

                    ไหนๆก็จะจัดการคนที่รู้เรื่องรู้ราวดีแล้วก็ต้องกันคนที่ปกป้องได้ไว้ให้ห่างๆสินะ...

     

     

                    “เอาเถอะ  เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้กัน  ฮยอนมินอิ่มแล้วคะ  ไปหาพี่กอนฮีดีกว่า”ร่างเล็กหยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดปากก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มเล่นเอาลีทึกยิ่งยิ้มแหยเพราะทำไมเค้ารู้สึกว่ายิ้มแบบนี้จะเกิดเรื่องยังไงไม่รู้

     

     

                    คืนนี้ทุกอย่างเข้าล็อกตามแผน  เวลาประมาณห้าทุ่ม...

     

     

                    แกร๊ก!

     

     

                    เสียงเปิดประตูแผ่วเบาพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่มุ่งตรงมายังคนที่นอนอยู่บนเตียงมีสายระโยงระยางเต็มไปหมดไม่ต่างจากวันแรกที่ฮยอนมินมาเยี่ยมคนคนนี้เลยสักนิด  เสียงเครื่องช่วยหายใจและเครื่องวัดความดันทั้งหลายที่ช่วยให้คนคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ดังกลบเสียงฝีเท้าของผู้มาใหม่ได้เป็นอย่างดี

     

     

                    ภายในห้องพักฟื้นมืดสนิทแต่กลับไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับความมืดมาตลอด  ดวงตากวาดมองไปในความมืดมองเห็นร่างหญิงสาวผมยาวที่นอนอยู่ตรงกลางเตียง  มีผ้าห่มคลุมอยู่แล้วก็ต้องแสยะยิ้มในใจก็นึกถึงเรื่องที่ได้รับรู้มาเมื่อวันก่อน

     

     

                    “ผู้ป่วยห้อง...น่าจะใกล้ฟื้นแล้วล่ะ เห็นวันก่อนขยับนิ้วได้แล้ว”นางพยาบาลที่ตามคุณหมอใหญ่ลงตรวจในช่วงเช้าซึ่งตอนนี้ออกเวรแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อนพยาบาลในร้านอาหารใกล้ๆกับโรงพยาบาลที่ตนเองทำงานอยู่

     

     

                    “คนที่เค้าว่าเป็นนางแบบสวยๆคนนั้นน่ะเหรอ?”คนที่นั่งรอเพื่อนอยู่พักหนึ่งแล้วก็ถามขึ้นมาขณะที่พยาบาลสาวก็หันไปหยิบเมนูมาเตรียมสั่งอาหาร

     

     

                    “น่าสงสารเหมือนกันนะ  กว่าใบหน้าสวยๆจะกลับสภาพเดิมได้คงต้องเสียค่าศัลยกรรมเยอะแน่ๆเลย”แล้วนางพยาบาลคนเดิมก็ยังพูดบอกออกมาพลางถอนหายใจเล็กน้อย  ในบรรดาผู้ป่วยที่เกิดจากเรือระเบิดของเกาะพาราไดซ์นั้นมีนางแบบเพียงคนเดียวที่อาการหนักที่สุด 

     

     

                    ถึงจะแปลกใจที่ว่าทุกอย่างดูเหมือนง่ายเกินไปแต่ก็ไม่ได้สะกิดใจอะไรเลยสักนิดเดียว  ซึ่งเอาจริงๆการจะบุกขึ้นมาที่ชั้นนี้ได้มันก็ไม่ง่ายอาจจะเพราะว่าตนเองลอบเข้ามาในช่วงจังหวะการเปลี่ยนเวรยามของบอดี้การ์ดชุดดำก็เป็นได้  แถมการปลอมตัวที่ยังดีเลิศเหมือนเคยไม่อย่างนั้นคงฝ่าเหล่าบอดี้การ์ดหน้าโง่ของไอ้เคน คอนเดลที่ชั้นล่างขึ้นมาไม่ได้

     

     

                    มือหนาในถุงมือยางของแพทย์ดึงมาร์คที่ใส่ปกปิดใบหน้าลงสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ใบหน้าก็ยกยิ้มเหี้ยมรู้สึกได้ถึงเลือดเย็นเยียบที่วิ่งอยู่ในกาย  ร่างสูงที่ราวกับมัจจุราชยกยิ้มพราวระยับในความมืด  สอดมือเข้าไปภายในกระเป๋าเสื้อกราว์ดของนายแพทย์หยิบเอาอาวุธด้ามสั้นที่สะท้อนกับแสงไฟจากระเบียงทางเดินหน้าห้องที่สาดเข้ามาเพียงน้อยนิดวาววับ

     

     

                    “หึๆ ถ้าไม่เสือกมาเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นเธอก็ไม่ตายหรอกสาวน้อย...”มัจจุราชในเงามืดว่าอย่างที่จับจ้องคนบนเตียงตาไม่กระพริบ  มือหนาข้างหนึ่งดึงหมอนใบนุ่มที่รองศีรษะอยู่ออกแรงๆโดยไม่สนใจอาการของคนบนเตียงแม้แต่นิด  ไหนๆก็จะตายอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาสนใจอาการป่วยให้มากนัก  ก่อนจะวางหมอนใบนุ่มทับบนแผ่นอกบางแล้วเงื้อมีดขึ้นสูง

     

     

                    ภายในห้องพักมืดสลัวเงียบกริบนอกจากเสียงปรับอากาศที่กำลังทำงานอยู่  คนที่บุกเข้ามาทำทุกอย่างเงียบกริบอย่างมืออาชีพ  ลิ้นสีสดแลบเลียริมฝีปากเตรียมรับกลิ่นคาวเลือดที่ตนแสนจะโปรดปราน

     

     

                    มือหนาข้างหนึ่งกดหมอนไว้แน่นไม่ให้ขยับออกจากที่ขณะที่มืออีกข้างก็วาดใบมีดลงมาเต็มแรง...

     

     

                    “ง่ายไปมั้ง!!!”ก่อนที่มีดเล่มนั้นจะปักลงกลางอกมือเรียวบางก็พุ่งออกมาจากใต้ผ้าห่มคว้าเอาไว้ได้พอดี

     

     

                    ร่างเล็กตวัดผ้าออกให้เห็นใบหน้าชัดๆ อีกฝ่ายก็ถึงกับอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าจะตนโดนหลอก  ชายหนุ่มยืนนิ่งอย่างตกใจเพียงครู่เดียวก่อนสติจะกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว  พอรู้อย่างนั้นมือหนาข้างที่ถูกจับไว้ก็กระชากเพื่อให้หลุดจากการกอบกุมจนตัวเล็กๆปลิวตาม  คนสองคนยืนกันอยู่กลางห้องพักฟื้นมีแสงสาดจากข้างนอกเข้ามาพอสลัวๆ แต่ฮยอนมินก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากมีดเล่มนั้นง่ายๆ

     

     

                    “หึ”และการแค่นยิ้มของคนตัวเล็กกว่านั้นทำเอาคนที่ปลอมตัวมาถึงขั้นเดือดจัดกัดฟันกรอดที่ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้

     

     

                    ชายหนุ่มในชุดกราวด์ของแพทย์แทงมีดสวนเข้ามาให้คนตัวเล็กกว่าเอี้ยวหลบ  ดวงตาคู่สวยจ้องปลายมีดตาไม่กระพริบเพราะถ้าเธอพลาดเพียงแค่นิดเดียวคงได้เป็นคนขึ้นไปนอนบนเตียงแทนแน่ๆ

     

     

                    “ดูถูกนักฆ่าง่ายไปนะสาวน้อย...”เสียงกระซิบเหี้ยมที่ได้ยินมันไม่ได้ทำให้ฮยอนมินหวั่นใจได้เลยสักนิดเพราะรู้ดีว่าภายนอกห้องมีคนของชายหนุ่มรออยู่แล้ว

     

     

                    “เดี๋ยวก็รู้ว่าดูถูกรึเปล่า”ปลายมีดแฉลบมาข้างลำตัวอีกครั้งแต่ฮยอนมินก็หลบได้  ทักษะการป้องกันอันไม่ธรรมดาที่อีกฝ่ายเริ่มไม่ชอบใจขึ้นทุกขณะ 

     

     

                    ในเมื่ออีกฝ่ายตัวก็เล็กกว่าแถมยังเป็นผู้หญิงอีกแต่เค้ากลับสะบัดข้อมือไม่หลุด  ชายหนุ่มไม่มีทางรู้เลยว่าเรี่ยวแรงที่ฮยอนมินมีมันไม่ใช่แค่พละกำลังของผู้หญิง

     

     

                    ที่ปลอมตัวก็เป็นเพราะอย่างนี้  ฉะนั้นเรี่ยวแรงที่ฮยอนมินมีมันก็เท่าๆกับที่ผู้ชายคนหนึ่งมี...

     

     

                    ฟึ๊บ!

     

     

                    ปลายมีดสวนเข้ามาอีกครั้งและครั้งนี้แรงกว่าสองครั้งแรกแถมยังเร็วแต่ทำเอาคนที่ตั้งรับอยู่แล้วใช้แรงที่ว่าเป็นฝ่ายบิดตัวอ้อมกลับไปด้านหลังใช้ปลายมีดนั้นจ่อที่แผ่นหลังของอีกฝ่าย  ฝ่ามือเล็กบีบข้อมืออีกฝ่ายแน่นราวกับจะหักมันเสียให้ได้

     

     

                    “บอกมานะว่าแกทำงานให้ใคร!”เสียงหวานใสคำรามกร้าวชิดริมใบหูอีกฝ่าย  เสียงที่ทำให้นักฆ่าหนุ่มที่ถูกส่งมาหัวเราะในลำคอ  เข้าใจแล้วว่าทำไมศัตรูของเจ้านายถึงติดใจหญิงสาวคนนี้นักเผลอๆจะรวมไปถึงหัวหน้าตัวเองด้วย

     

     

                    “อย่าคิดว่าไอ้พวกนั้นจะเข้ามาช่วยได้นะ”แต่แทนที่ซองมินจะได้คำตอบ อีกฝ่ายกลับเปลี่ยนเรื่องไปได้อย่างหน้าตาเฉย  และรอยยิ้มเหี้ยมบนใบหน้าของชายหนุ่มที่หันกลับมาทำเอาซองมินรู้สึกถึงแผ่นหลังที่เย็นเยียบ  ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเพิ่งมาคิดได้ว่าตัวเองอยู่ในห้องนี้มากับคนตรงหน้ามาเกือบสิบนาทีแล้วทำไมพี่ลีทึกถึงยังไม่เข้ามาช่วย

     

     

                    “กะ...แก!”ร่างเล็กจะบิดข้อมืออีกฝ่ายให้หักแล้วแต่นักฆ่าที่ถูกฝึกมาย่อมมีความเร็วมากกว่า  ชายหนุ่มบิดตัวแล้วสะบัดแขนตัวเองในชั่วเสี้ยววินาทีทำให้มือเล็กหลุดออกจากข้อมืออีกฝ่ายแล้วถลาไปตามแรง

     

     

                    “โอ๊ย!”รู้ตัวอีกทีร่างก็ถูกจับกระแทกลงบนเตียงโดนมีอีกฝ่ายคร่อมทับอยู่ด้านบน

     

     

                    “ถ้าไม่ติดว่าต้องทำเวลา เราอาจจะได้มีเวลาสนุกกันนะสาวน้อย”อีกฝ่ายยกมีดขึ้นมาเลีย  แสงไฟสะท้อนเข้ากับใบมีดจนซองมินสะท้านเยือกไปทั้งตัว

     

     

                    แคร้ง!

     

     

                    “อึ๊ก!”และอีกคนก็ทำในสิ่งที่ซองมินไม่คาดคิด  มีดเล่มเล็กถูกโยนทิ้งก่อนฝ่ามือหนาจะตรงเข้ามากอบกุมที่ลำคอสวยแล้วออกแรงบีบ

     

     

                    “สวยๆแบบนี้  ไม่อยากให้หน้าและตัวมีรอยเลยแต่ขอที่คอสักที่ไว้แล้วกัน!”คำพูดอีกฝ่ายทำเอาซองมินตัวสั่นรับรู้ได้เลยว่าตัวเองคงไม่รอดแล้ว

     

     

                    ขาเรียวดีดดิ้นทุรนทุรายหาอากาศหายใจเมื่อมันเริ่มเหลือน้อยลงทุกทีๆ เรียวเล็บจิกลงยังฝ่ามือหนาให้ปล่อยออกจากลำคอ แต่กลับสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้

     

     

                    คุณเคน...ช่วยซองมินด้วย...

     

     

                    ชื่อเดียวที่ผุดขึ้นมากลางใจในเวลาคับขัน  หยดน้ำใสไหลซึมลงมาทางหางตา  ซองมินโทษว่าเป็นความผิดตัวเอง แล้วตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าพี่ลีทึกจะได้รับบาดเจ็บอะไรบ้าง  ผลจากการตามใจให้ซองมินดำเนินการตามแผนนี้

     

     

                    “คุณ...อึ๊ก!  เคน”เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบาแทบไม่พ้นริมฝีปาก  คำที่ทำให้นักฆ่าหนุ่มยิ่งแสยะยิ้มแล้วเพิ่มแรงบีบเข้าไปอีก  ดวงตาคู่สวยแทบจะหลับพริ้มลงไปแล้วเพราะถอดใจ   มือบางเลิกตะกุยมือหนาที่ลำคอไปแล้ว เตรียมใจรับวาระสุดท้าย

     

     

                    “พอแค่นั้นแหละ!

     


     มาต่อให้แล้วค่า ช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่งพอสมควรเลย แหะๆ อัพให้ยาวหน่อยนึงแล้วกันเนอะ 

     

    ตอนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ อิคนเขียนมันถนัดฉากไหน ฮ่าๆ ฉากบู้ทีไรเขียนมันส์ลืมโลกทุกที  คุณเคนเค้าหวงเค้าห่วงขนาดไหน แล้วดูคุณนางแบบเค้าทำ เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเองตลอด เอาละสิงานนี้จะทำยังไง แต่พระเอกเรามาช่วยทันนะเออ  ตามชื่อตอน  คุณนางแบบเป็นคนให้ปล่อยข่าวลวงแล้วเพื่อล่อเหยื่อให้มาติดกับ  ในขณะที่คุณเคนไปจัดการเรื่องอย่างอื่น แน่ล่ะจะจัดการเหยื่อต้องหลอกให้คนที่กางปีกปกป้องวุ่นวายจนไม่มีเวลาปลีกตัวมาดูแลได้ ตอนหน้าเดี๋ยวมาดูคุณเคนระเบิดลงกัน อิอิ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×