ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Ver.Old] | [FIC REBORN] | Excuse Me ขอประทานโทษครับ.. ยัยนั่นน่ะเด็กของผม [G86] #END

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER II : ความสิ้นหวังของหญิงสาวและนภารุ่นแรก

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 63


     

    [FIC REBORN] Excuse Meขอประทานโทษครับ.. ยัยนั่นน่ะเด็กของผม

     

     

    CHAPTER II : ความสิ้นหวังของหญิงสาวและนภารุ่นแรก

     

     

    __________________________________________________________

     

     

     

    ถึงจะเป็นท้องนภาที่โอบล้อมทุกสิ่งแต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องปราณีคนผิดเสมอไป

     

     

     

    ถะ…ถึงแล้วเหรอคะเนียอดีต?

     

     

    เพียงแค่กระพริบตาร่างทั้งร่างของฮารุก็ถูกย้ายมายังสถานที่แห่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคยราวกับว่ากระบวนการข้ามมิติเวลามันเสร็จสิ้นแล้ว

     

     

     

    “ฮะ…ฮาฮิ!มันง่ายขนาดนี้เลยเหรอคะเนีย!?”ฮารุอุทานกับตนเองราวกับว่ามันคือสิ่งที่ไม่น่าเหลือเชื่อพร้อมกับใช้มือของตัวเองลูบไล้ลูบคำร่างกายว่าอยู่ครบองค์ประกอบดีไหม

     

     

     

    “โล่งไปค่ะยังอยู่ครบองค์สามสิบสอง”และฮารุเองก็ไม่ลืมไขว่คว้าหากล่องสีดำที่คล้องคอติดตัวมาด้วยฮารุรีบเปิดมันออกดูเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและก็ต้องโล่งใจอีกครั้งเมื่อมันยังปลอดภัย

     

     

     

    โล่งอกไปทีที่ยังปลอดภัย…

     

     

     

    เมื่อสำรวจและพบว่าตัวเองยังคงปลอดภัยฮารุก็ได้ใช้สายตาลอบมองสถานที่รอบๆที่ดูไม่คุ้นตานี้มันปรากฏเป็นภาพของตึกราบ้านช่องที่ดูเก่าแก่และพุพังเหมือนกับว่ามันโดนถล่มมายังไงยังงั้น

     

     

     

    ดะ…เดี๋ยวนะคะคุณพรีโม่จะมาอยู่ในที่แบบนี้เหรอคะและฮารุเองก็ไม่ได้ถามรูปพรรณาสัณฐานหรือแม้กระทั้งที่อยู่เขาคนๆนั้นมาด้วยอร๊าก!แล้วแบบนี้ฮารุจังเจอตัวของคุณพรีโม่ได้ยังคะเนีย!ไม่ได้การไม่ได้การแล้วแบบนี้

     

     

     

    เอาล่ะ!ในที่สุดก็หลีกหนีชะตากรรมไม่ได้สินะคะในเมื่อคุณพระเจ้ากำหนดมาให้ฮารุต้องเดินทางข้ามกาลเวลามาแบบนี้ฮารุก็ต้องทำให้มันสำเร็จ

     

     

     

    “อันดับแรกต้องตามหาวองโกเล่พรีโม่ตามที่คุณรีบอร์นบอก…”ว่าแล้วฮารุก็พาร่างของตัวเองยันตัวลุกขึ้นอย่างเด๋อๆด๋าๆ

     

     

     

    ฟิ้ว!

     

     

     

    อะ…เด๋แรงลมที่เฉียดผ่านหูไปเมื่อกี้มันคืออะไรกันนะ?

     

     

     

    ปังๆ

     

     

     

    กรี๊ด!เสียงปืนไม่นะ T^Tนี่มันหมายความว่ายังไงเนีย!?อย่าบอกนะว่าสิ่งที่พึ่งผ่านหูของฮารุไปเมื่อตะกี้คือกระสุนปืนที่ถูกยิ่งมาเหรอ

     

     

     

    ทำไมต้องเป็นปืนด้วยฮารุไม่เข้าใจถูกส่งมาอดีตด้วยปืนยังจะต้องมาเจอคนยิงปืนที่อดีตนี่อีก

     

     

     

    ไม่ได้การแล้วค่ะที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้วต้องหาที่ซ่อนเมื่อเห็นมันเป็นแบบนั้นฮารุจึงรีบพาตัวเองเข้าหลบที่พุ่มไม้ข้างๆป่าของหมู่บ้าน

     

     

     

    ให้ตายสิคะแบบนี้ฮารุจะไปหาคุณพรีโม่ได้ที่ไหนกันล่ะเนีย

     

     

     

    “กำจัดมัน!” โอ๊ะ! ดูเหมือนฮารุจะอยู่ที่อิตาลีนะคะเนียทำไมถึงรู้น่ะเหรอก็เพราะคนที่ฮารุแอบสังเกตการณ์อยู่พูดภาษาอิตาลีนะสิเห็นแบบนี้ฮารุก็พึ่งเรียนภาษาอิตาลีมานะคะผ่านไป 5 ปีมันก็ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างแหละค่ะ #คนแต่งขอใช้ภาษาไทยแทนนะคะแหะๆ

     

     

     

    “บอส! พวกวองโกเล่!” ฮาฮิ! วองโกเล่งั้นเหรอคะฮารุไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมบทจะเจอพวกเขาก็ง่ายขนาดนี้เลยเหรอคะเนียเพอร์เพคมากเลยค่ะสายตาของฮารุก็สอดส่องมองหาคุณวองโกลเล่ที่ว่าเหมือนกัน

     

     

     

    “ชิ! ถอยก่อน!” ชายขนดกดำคนนั้นสั่งเสียงเข้มอ๋า! แบบนี้ก็หมายความว่าไม่ได้เห็นพวกนี้ปะทะกันงั้นเหรอเนียแล้วแบบนี้จะรู้ไหมเนียว่าวองโกเล่พวกไหนโถ่จบกันสิคะ

     

     

     

    “ไม่เอาน่า… อยู่ต่อเถอะค่ะฮารุจะได้เห็นพวกวองโกเล่” ฮารุพูดกับตนเองเชิงตัดพ้อและก็ไม่คิดว่าจะมีคนได้ยินเพราะระยะของฮารุกับคนสองคนที่อยู่กลางลานหมู่บ้านนั่นห่างกันพอควรค่ะ

     

     

     

    เพราะฉะนั้นไม่มีใครได้ยินแน่นอน

     

     

     

    แต่ทว่า… ฮารุกลับคิดผิดมหันต์

     

     

     

    “ฮิๆคนญี่ปุ่นงั้นเหรอ… แบบนี้ก็เป็นพวกวองโกเล่สินะฮิๆ” ฮาฮิ! มีเสียงชายปริศนาดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของฮารุไม่ทันที่ฮารุจะได้รู้จักหน้าค่าตาของอีกฝ่ายชายคนนั้นก็ทำการคว้าหมับเข้าที่หางม้าของฮารุที่ถูกหมัดไว้เป็นอย่างดี

     

     

     

    “อะ… โอ้ยฮารุเจ็บนะคะ!” ปากว่าเปล่าพร้อมกับถีบตัวออกจากการจับกุมแต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จฝ่ายชายคนนั้นก็เหวี่ยงฮารุออกจากพุ่มไม้ทำให้สองคนที่คุยกันตรงโน้นรู้ว่ามีคนแอบฟังอยู่ตรงนี้

     

     

     

    แย่จังเลยค่ะ ToT ถูกจับได้ซะแล้ว

     

     

     

    “ยัยนี่ใครน่ะ!?” ชายสุดโฉดที่เป็นเจ้าของประโยคสั่งกำจัดเอ่ยขึ้นพร้อมเดินปึงปังเข้าหาฮารุด้วยใบหน้าที่โหดทมึนให้ตายสิ… ย้อนอดีตกลับมาแบบนี้ทำไมฮารุถึงต้องมาโดนรับน้องแบบนี้ด้วยล่ะคะเนีย!?

     

     

     

    “ฮิๆดูเหมือนว่าจะเป็นสายของพวกวองโกเล่นะหัวหน้า”ชายผู้ที่มีเสียงหัวเราะติดปากบอกกล่าวกับคนตรงหน้าแสดงว่าคนๆนี้ต้องเป็นบอสของฝ่ายศัตรูที่น่าจะพึ่งปะทะกับวองโกเล่แน่ๆเลยค่ะ“เพราะเมื่อกี้ผมเห็นเธอพูดถึงวองโกเล่เป็นภาษาญี่ปุ่น

     

     

     

    “หื้ม… เดี๋ยวนี้พวกไอ้พรีโม่นิยมใช้สาวสวยกันแล้วเหรอเนีย...” อร๊ายฮารุเนียเหรอคะสวย!? นานๆที่จะมีคนชมแบบนี้ฮารุดีใจสุดๆเลยค่ะแต่ว่า… ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาดีใจนี่คะ T^T

     

     

     

    จะตายแหล่ไม่ตายแหล่แล้วค่ะแบบนี้

     

     

     

    “ดูแล้วยัยนี่ไม่นาจะเป็นสายได้เลยนะครับบอสดูท่าทางกระจอกมายมายซ่อนตัวก็ไม่เก่งแถมยังโดนจับได้แบบนี้พวกวองโกเล่นี่คัดสัญหาคนได้แต่แบบนี้หรือไงนะ”

     

     

     

    “ฮารุไม่ได้กระจอกนะคะ! ถึงฮารุจะเป็นผู้หญิงแต่ฮารุก็จะไม่ยอมแพ้พวกคุณหรอกนะ!”

     

     

     

    เพี๊ยะ!

     

     

     

    โดนเข้าแล้วค่ะ T_T บาดแผลแรกในยุคอดีตฮารุไม่น่าปากไวเลยค่ะไม่งั้นคงไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้แน่เเลยเลือดเริ่มไหลออกมาจากมุมปากเล็กน้อยเกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยโดนใครตบเลยนะคะคุณสึนะกีบคนอื่นๆยังไม่ล่วงเกินขนาดนี้เลย

     

     

     

    “หึ! อย่ามาปากดีใส่ฉันนะยัยหนู… ท่าทางแบบนั้นยังคงไม่ได้เตรียมใจที่จะเป็นมาเฟียสินะถูกบังคับขู่เข็นมาหรือไงเดี๋ยวนี้อุดมการณ์ของพรีโม่มันเปลี่ยนไปแล้วหรือไงนะ”

     

     

     

    “คำก็พรีโม่สองคำก็พรีโม่ฮารุน่ะเป็นคนของคุณสึนะคนเดียวเท่านั้นค่ะ!”

     

     

     

    “หื้ม? อะไรเป็นคนดีๆไม่ชอบอยากเป็นของปลาทูน่าหรือยังไงกัน” หน่อย… หมอนี่บังอาจมากที่ดูหมิ่นคุณสึนะเป็นปลาทูน่า! เดี๋ยวฮารุจะสั่นสอนค่อยดูเถอะ

     

     

     

    “บอส! ยัยนี่มีของน่าสนใจด้วยนะ” หนึ่งเสียงนั้นเรียกร้องความสนใจจากบอสได้เป็นอย่างดีของที่น่าสนใจงั้นเหรอ? ฮารุยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อยก่อนจะต้องกระจ่างเมื่อพบว่าบางสิ่งบางอย่างได้หายไป

     

     

     

    กล่องวองโกเล่ริงหล่นไปแล้ว!

     

     

     

    ฮาฮิ! และดูเหมือนว่าหมอนั้นจะเก็บขึ้นไปแล้วสิคะฮารุจะทำยังไงแหวนพวกนั้นคือของสำคัญที่ฮารุจะต้องนำไปให้กับทุกคนนะคะแถมในนั้นก็ยังมีกระสุนสำหรับกลับสู่ยุคปัจจุบันด้วย

     

     

     

    “อย่าแตะต้องมันนะ!” ฮารุรีบลุกพรวดจากพื้นดินเพื่อแย่งมันคืนมาจังหวะนี้ความตายก็ไม่กลัวแล้วค่ะกลัวแหวนจะถูกเอาไปมากกว่า“เอาคืนมานะคะ!”

     

     

     

    “เห๋~ แสดงว่ามันสำคัญมากสินะ” ฮารุกับชายเสียงหัวเราะประหลาดพยายามยื้อแย่งกล่องนั่นสงสัยมันคงจะหลุดไปตอนที่ฮารุโดนบอสของพวกมันตบเมื่อแน่เลยค่ะ

     

     

     

    “สำคัญสิคะ! ไม่อย่างงั้นฮารุไม่เข้ามาแย่งแบบนี้หรอก!”

     

     

     

    “ถ้ายังงั้นฉันจะทำลายมันซะเลย”

     

     

     

    “ฮาฮิ! อย่านะคะ!”

     

     

     

    เคร้ง!

     

     

     

    จนได้! ฮารุทำเรื่องเกิดขึ้นจนได้ค่ะระหว่างที่ยื้อแย่งกันนั้นกล่องมันก็เปิดออกมาสิ่งของภายในก็ล่วงลงมาหนึ่งชิ้นซึ่งสิ่งที่หลุดออกมานั้นก็คือแหวนแห่งเมฆาของคุณฮิบาริ

     

     

     

    ฮาฮิ! ต้องรีบเก็บแล้วค่ะถ้าขืนคุณฮิบาริรู้เรื่องว่าบังอาจทำแหวนอันล้ำค่าของเขาตกหล่นมีหวังฮารุโดนขย่ำเละแน่ค่ะ T..T

     

     

     

    ฮารุใช้มือเอื้อมหยิบแหวนใส่กล่องทันใดแต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไปค่ะเพราะชายที่แสนน่ากลัวทั้งสามมีอากาศชะงักค้างทันทีเมื่อเห็นมัน

     

     

     

    ราวกับว่ากำลังช็อคจากภาพที่ได้เห็น

     

     

     

    “บะ… บอส..” เสียงสั่นของลูกน้องคนเล็กกล่าวขึ้นมา“นะ… นั่นมันแหวนวองโกเล่ธาตุเมฆาของอเลาดิ!” ชายคนนั้นขาสั่นพร้อมนั่งลงแผละที่พื้นและยังใช้นิ้วนั่นชี้มาทีกล่องของฮารุ

     

     

     

    อะ… อเลาดิ? ใครกันคะนี่มันของคุณฮิบาริต่างหาก

     

     

     

    “ไม่ใช่นะคะ! แหวนนี่ของคุณฮิบาริต่างหากละคะ!” ฮารุนี่ก็บ้าซะจริงนะคะเวลาแบบนี้ยังจะมาหาข้อถูกอีกทั้งๆที่ตอนนี้ฮารุใกล้จะโดนเชือดแล้วค่ะ

     

     

     

    กึก!

     

     

     

    เสียงขึ้นนกของปืนพกอีกแล้วค่ะสงสัยฮารุมีปมกับสิ่งนี้จริงๆ

     

     

     

    “ฮาฮิ! จะทำอะไรน่ะคะ?” แบบนี้ไม่ดีแน่แล้วค่ะเพราะอีกฝ่ายชักปืนมาแล้วฮารุก็ไม่ได้มีอาวุธอะไรติดตัวมาเลยนะแบบนี้จะไปสู้ยังไงไหวล่ะคะ

     

     

     

    “ยัยเด็กน้อย… แกนี่มันน่าสนใจจริงๆฉันมีทางเลือกให้แกนั่งหนูทิ้งกล่องนั้นไว้ที่นี่แล้วหนีไปหรือจะตายก่อนแล้วให้ฉันชิงมันมา”

     

     

     

    แกร๊ก!

     

     

     

    หมอนั้นเล็งปืนมาที่ฮารุแล้วค่ะสถานการณ์ตอนนี้ฮารุแดนเจอรัสมากกว่าพวกคุณสึนะอีกนะคะT^T สำหรับฮารุแล้วมันไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆคะคงจะต้องหนี้สถานเดียวจะมัวยืนบื้อทำไมล่ะคะ

     

     

     

    ตึกๆ

     

     

     

    “หนีไปก็ไม่พ้นหรอกนะกระสุนปืนน่ะมันไวกว่าคนวิ่งซะอีกฮ่าๆ”

     

     

     

    ไม่สน! ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นคะเพราะสิ่งที่มีค่าสำหรับฮารุตอนนี้คือคำสัญญาของฮารุที่ให้ไว้กับคุณสึนะและทุกคน…

     

     

     

    ไม่นานเกินรอฮารุจะนำแหวนพวกนี้มาคืนทุกคนนะคะ!

     

     

     

    ก็พูดแบบนั้นไปแล้วก็ต้องหาทางผจญให้มันผ่านไปให้ได้สิคะ ToT

     

     

     

    ปัง!

     

     

     

    ชึบ!

     

     

     

    หนึ่งนัดหนึ่งบาดแผลที่สองที่ฮารุได้รับหมอนี้มันยิงแม่นจริงๆเลยค่ะช่วงต้นแขนข้างขวาของฮารุโดนกระสุนเข้าเต็มๆอร๊าก!! ฮารุเจ็บมากมายเลยค่ะทำไมฮารุต้องมาเจออะไรแบบนี้

     

     

     

    น่ากลัวจังเลยค่ะคุณสึนะ…

     

     

     

    ปัง!

     

     

     

    กระสุนอีกหนึ่งนัดถูกยิงขู่ออกมาราวกับว่าต้องการให้ฮารุยอมจำนนแต่คุณผู้ชายคนนั้นไม่เข้าใจฮารุหรอกนะคะว่าฮารุต้องแบกรับชีวิตของคนหลายคนในวองโกเล่ยุคที่ฮารุอยู่

     

     

     

    ปัง!

     

     

     

    ฉึก!

     

     

     

    ตุ้บ!

     

     

     

    ฮะ… ฮารุเจ็บเหลือเกินค่ะ…

     

     

     

    ร่างทั้งร่างของฮารุทรุดฮวบลงกับพื้นทันทีเนื่องจากกระสุนปืนนั้นที่ถูกยิงออกมามันฝังเข้าไปในขาซ้ายของฮารุเต็มเปามันหยุดการเคลื่อนไหวของฮารุแต่ฮารุจะไม่ยอมแพ้ค่ะฮารุจะพยายามดิ้นรนเพื่อพวดคุณสึนะ

     

     

     

    ไม่ต้องห่วงนะคะทุกคน… ฮะ… ฮารุจะต้องทำให้ความปรารถนาของคุณสึนะสำเร็จ

     

     

     

    ไม่ต้องคิดอะไรเยอะแยะค่ะต้องดิ้นรนต้องอยู่รอดห้ามท้อห้ามถอยห้ามถอดใจห้ามกันหลังกลับเด็ดขาด!

     

     

     

    ฟึบ…

     

     

     

    “อ๊ะ! บอสยัยนั่น!” เสียงแววมาแต่ไกลของลูกน้องมันเอ่ยออกมาราวกับตื่นตกใจคงจะไม่คิดน่ะสิคะว่าฮารุน่ะจะวิ่งหนีต่อแบบนี้ทั้งๆที่ขาซ้ายถูกสกัดไม่ให้เคลื่อนไหวได้แล้ว

     

     

     

    “ชิ! ไม่ยอมหยุดงั้นเหรอที่ไม่ฆ่าให้ตายเพราะคิดว่าจะเอามาบำเร่อและเอากล่องนั้นมาหรอกนะถึงไว้ชีวิต…” ชายคนนั้นสบถออกมา“แบบนี้คงต้องฆ่าทิ้งสถานเดียว”

     

     

     

    ความคิดนั้นเลวทรามและต่ำช้ามากเลยค่ะทำไมมาเฟียยุคนี้ถึงได้เป็นแบบนี้คุณพรีโม่เองก็เป็นแบบพวกนี้ด้วยหรือป่าวคะ

     

     

     

    แปล๊บ!

     

     

     

    อ่ะ... ความเจ็บปวดนี่มันมีข้อจำกัดจริงๆสินะคะ

     

     

     

    ตุบ…

     

     

     

    ถึงใจของฮารุจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ร่างกายของฮารุมันก็รับภาระไม่ได้ขนาดนั้นขาซ้ายของฮารุนั้นไม่สามารถก้าวมันออกไปต่อได้อีกฮารุเห็นมือซ้ายของตัวเองเปื้อนไปด้วยเลือดเพราะฮารุใช้มันกุมบาดแผลที่ต้นแขนข้างขวาก่อนจะต้องกำมันแน่นด้วยความเจ็บปวด

     

     

     

    พร้อมกับน้ำตาของฮารุที่จู่ๆก็ไหลรินลงมาอาบแก้มโดยที่ฮารุไม่ทันได้รู้สึกตัว

     

     

     

    แผละๆ

     

     

     

     

    น้ำตา…

     

     

     

    ฮารุเห็นหยดน้ำใสๆที่ล่วงแหมะลงบนพื้นฮารุไม่อยากจะเชื่อเลยฮารุคนนี้เนียนะคะร้องไห้ฮารุคนเก่งแสนร่าเริงคนนี้เนียนะคะฮารุคนนี้น่ะเหรอคะ…

     

     

     

    ทำไมฮารุถึงอ่อนแอจังเลยล่ะคะคุณสึนะ…

     

     

     

    รอยยิ้มเศร้าๆเผยออกมาบนใบหน้าของฮารุทำไมจู่ๆถึงนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาในอดีตล่ะคะไม่ว่าจะเป็นตอนพบกับคุณสึนะหรือแม้กระทั้งศึกต่างๆที่ฮารุได้ร่วมผจญภัยกับทุกคน

     

     

     

    ทำไมจู่ๆถึงนึกขึ้นมาล่ะ… หรือว่ามันจะเป็นวาระสุดท้ายของฮารุแล้วอย่างงั้นเหรอคะ?

     

     

     

    ตึก…

     

     

     

    เสียงฝีเท้าของคนหยุดที่ด้านหลังของฮารุไม่ต้องเดาก็คงรู้ค่ะว่าคือใครถ้ามันไม่ใช่ชายโฉดคนนั้นก็คงจะต้องเป็นหนึ่งในลูกน้องของมันเป็นแน่เลยค่ะ

     

     

     

    “จบกันแค่นี้แหละนะดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์นั่งหนูอายุยังน้อยๆไม่น่าจะเข้าสู่วงการนี้เลยน่าสงสารจริงๆ” เขาคนนั้นเอ่ยออกมาราวกับเวทนาฮารุ

     

     

     

    กึก!

     

     

     

    นั่นสินะคะ… ฮารุไม่น่าเลือกแบบนี้เลย

     

     

     

    ฟึบ…

     

     

     

    สองมือของฮารุกำเข้าหากล่องสีดำที่ห้อยคอของฮารุพร้อมกันนั้นเอามันเข้ามากอดแนบอกพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาบนใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มเศร้าๆ

     

     

     

    แผละๆ

     

     

     

    น้ำตายังคงไหลลงสู่พื้นดินฮารุแหงนหน้ามองท้องฟ้าสีหม่นที่เห็นพระอาทิตย์นั้นหลบอยู่หลังกลีบเมฆ

     

     

     

    คำปรารถนาเหรอคะ…

     

     

     

    ถ้าเป็นไปได้… ฮารุอยากจะเป็นพระอาทิตย์จังเลยค่ะ… ได้เฉิดฉายอยู่บนท้องนภาเดียวกันกับคุณสึนะ…

     

     

     

    “ลาก่อนนะยัยหนู”

     

     

     

    วาระสุดท้ายของฮารุคงจบลงที่แห่งนี้ฮารุคงจะทำสิ่งที่คุณสึนะต้องการไม่สำเร็จแย่จังเลยนะคะ

     

     

     

    เพราะฮารุน่ะ… อ่อนแอเกินไปทุกคนต้องมาตายเพราะฮารุสินะคะ

     

     

     

    “ลาก่อนนะคุณสึนะ…” เสียงของฮารุเศร้าออกมาพร้อมกับยิ้มแย้มเสมองไปบนท้องนภาที่กว้างใหญ่

     

     

     

    อยากเจอ… คุณสึนะอีกครั้งนึ่งจังเลยค่ะ…

     

     

     

    ปัง!

     

     

     

    ราวกับว่าคือภาพแห่งความฝันทันทีที่ปืนนั้นถูกลั่นไกออกมาภาพของท้องนภาสีหม่นที่ฮารุได้แต่จับจ้องนั้นก็แปรเปลี่ยนไปหมู่เมฆเริ่มเปิดออกเผยให้เห็นถึงความสดใสของท้องนภาและแสงอาทิตย์อันอบอุ่น

     

     

     

    ทางสวรรค์เปิดรับฮารุรอเลยเหรอคะเนีย…

     

     

     

    และภาพของท้องนภาอันสดใสนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าของบุคคลที่แสนคุ้นเคยบุคคลที่ฮารุคิดถึงและห่วงหาใบหน้าของคนที่ฮารุอยากจะเจอเป็นครั้งสุดท้าย

     

     

     

    “คะ… คุณสึนะ” ฮารุเอ่ยออกไปอีกฝ่ายที่เสมือนคุณสึนะได้แต่มองฮารุด้วยสายตาเรียบๆราวกับว่าพินิจนึกอะไรบางอย่าง

     

     

     

    นี่น่ะ… ไม่ใช่คุณสึนะ

     

     

     

    “อร๊าก!!!!!” เสียงกรีดร้องของชายที่กำลังจะสั่งหารฮารุนั้นร้องลั่นออกมานั่นทำให้ฮารุรู้ตัวว่าฮารุไม่ได้เป็นฝ่ายถูกยิงแต่ชายคนนั้นเป็นฝ่ายถูกยิงแทน

     

     

     

    ตุบ!

     

     

     

    เสียงหล่นของร่างยักษ์นั้นกระทบลงพื้นและภาพตรงหน้าทำให้ฮารุต้องหลุดจากภวังค์ที่เอาแต่พร่ำเพ้อออกมาดวงตาของฮารุเบิกกว้างขึ้นอีกครั้งเมื่อพบว่าตัวเองยังมีชีวิตรอดอยู่

     

     

     

    “ฮาฮิ! ฮารุยังไม่ตาย…” และภาพถัดมาที่ได้เห็นก็คือภาพของสมุนที่พึ่งล้มตึงนั้นถูกอัดซะจนเละโดยบุตรปริศนาทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าคนหนึ่งมีผมสีแดงราวกับเพลิงเผาไหม้และอีกคนคือชายในชุดนักบวชที่ดูเหมือนว่าจะเก่งมวยเป็นพิเศษ

     

     

     

    “เธอน่ะ… เป็นใคร” เสียงเรียบนิ่งแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยนเอ่ยออกมา

     

     

     

    ควับ!

     

     

     

    ฮารุรีบหันหาชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าในช่วงที่ฮารุกำลังระลึกถึงคุณสึนะดวงตาของฮารุต้องเบิกโพล่งอีกครั้งเมื่อได้มองใบหน้าของชายผู้มาใหม่อย่างพินิจดูดีๆ

     

     

     

    เค้าโคร่งหน้าที่ชวนให้นึกถึงคุณสึนะแต่เขาคนนี้ไม่ใช่สีผมสีน้ำตาลที่คุ้นเคยก็ถูกแทนที่ด้วยสีเหลืองบลอนด์อ่อนๆตาของเขานั้นมีสีเฉกเช่นเดียวกับเรือนผมเขาคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคุณสึนะและการแต่วตัวและผ้าคลุมสีดำที่เป็นเอกลักษณ์ของคนๆนี้เหมือนกับว่าเป็นต้นแบบพลังของคุณสึนะไม่มีผิด

     

     

     

    แผละๆ

     

     

     

    น้ำตาของฮารุได้ไหลรินลงมาอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มที่สื่อถึงความดีใจและเต็มไปด้วยความหวังฮารุมองใบหน้าคมคายของอีกฝ่ายผ่านม่านน้ำตา

     

     

     

    ไม่ผิดแน่… คนๆนี้คือคนที่ฮารุตามหา…

     

     

     

    “ดีใจจังในที่สุดก็พบคุณจนได้…” ฮารุกล่าวออกไปพร้อมน้ำตามือของฮารุพยายามไขว้คว้าเข้าหาคนตรงหน้าที่ปรียบเสมือนคุณสึนะ

     

     

     

    “ท่านพรีโม่…”

     

     

     

    “รู้จักผมด้วยงั้นเหรอครับ….” ฝ่ายชายนั้นถามกลับมาด้วยเสียงน้ำเสียงอ่อนโยน

     

     

     

    “เรื่องนั้น—” ไม่ทันที่จะได้เอ่ยจนจบประโยคจู่ๆฮารุก็รู้สึกว่าร่างกายของฮารุนั้นก็หนักอึ้งเสียจนไม่สามารถบังคับมันได้อีกต่อไป

     

     

     

    แปล๊บ!

     

     

     

    บาดแผลความเจ็บปวดนั่นเริ่มกลับเข้าสู่โซนประสาทสัมผัสของฮารุถึงจะรอดจากความตายแบบหวุดหวิดได้แต่บาดแผลที่ได้รับนั้นมันก็ยากเกินกว่าจะเยี่ยวยาน้ำตาที่ยังคงคลอที่เบ้าก็ไหลรินลงมาอีก

     

     

     

    น่าสมเพชตัวเองจังเลยค่ะ…

     

     

     

    ฟึบ…

     

     

     

    “อ๊ะ!...” และแล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ๆฝ่ายตรงข้ามก็ช้อนร่างของฮารุที่หมดสภาพจากพื้นดินขึ้นมาพยายามพยุงให้ฮารุยืนขึ้นเขามองฮารุด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน

     

     

     

    “อย่าร้องไห้เลย… น้ำตาไม่เหมาะกับผู้หญิงนะครับ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนของเขานั้นบอกกล่าวออกมามือหนาข้างนึ่งเอื้อมมาปาดน้ำตาให้ฮารุ

     

     

     

    ฮะ… ฮาฮิ! ทำไมจู่ๆหัวใจของฮารุเต้นแรงขึ้นมาเสียอย่างงั้นล่ะคะ

     

     

     

    ฟึบ

     

     

     

    และเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้งนึ่งค่ะเมื่อเขานั้นตัดสินใจอุ้มฮารุขึ้นมาจากพื้นดินฮารุมองใบหน้าของเขาที่อยู่เหนือกว่าอย่างตื่นตะลึง

     

     

     

    “พักเถอะนะ… ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วปลอดภัยแล้วนะ” น้ำเสียงที่อ่อนโยนนั้นทำให้ฮารุต้องหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้ง

     

     

     

    รู้สึกอบอุ่นจังเลยค่ะ...

     

     

     

    ฮารุหลับตาลงไปพร้อมๆกับสภาพร่างกายที่ดูจะไม่ไหวเสียแล้วมือนึ่งของฮารุกำกล่องสีดำขนาดเล็กที่คอไว้ราวกับว่ากลัวมันจะหายไป

     

     

     

    และความรู้สึกสุดท้ายที่ฮารุได้รับคือความอบอุ่นของท้องนภาที่กำลังโอบกอดฮารุไว้ด้วยสองมือของเขานั้นเอง

     

     

     

    ขอบคุณนะคะ…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×