ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณธรรมข้อแรกที่สังคมโลกควรมี....

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 อย่าน้อยใจนะแม่..

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 49


    แม่ของพี่ปอการศึกษาน้อย จบ ป. 4 คุณพ่อ จบ ม. 3  

    มีตอนพี่ปอเรียนชั้น มัธยม
    คุณพ่อ มักจะมาบอกพี่ปอบ่อยๆ
    ว่าแม่รู้สึกน้อยใจ  

    ที่ไม่สามารถสอนหนังสือให้ลูกได้  

    ความรู้สึกของแม่จะทรมานขนาดไหน  
    เมื่อวันหนึ่งที่แม่พยายามจะสอนลูก  

    แต่แม่ไม่รู้จะสอนอะไรลูก...
    เพราะความรู้ที่แม่มีมันน้อยมาก

    น้อยเกินกว่าจะพูดให้ลูกที่แม่รักเชื่อได้...

    แล้วแม่จะรู้สึกอย่างไรถ้าแม่
    พยายามจะสอนด้วยความเป็นห่วง...

    แต่ลูกไม่ฟังในสิ่งที่แม่พยายามจะสอน..

    เพราะเราเรียนหนังสือสูงกว่าแม่

    มีความรู้มากกว่าแม่  

    แม่จะรู้อะไรไปมากกว่าเรา  
    มันคนละยุคสมัยแล้วแม่ เชย

    ตอนเด็กพี่ปอ ไม่รู้ ไม่รู้ว่า พี่ปอ
    ทำร้ายจิตใจคุณแม่ไปกี่ครั้ง...

    กี่ครั้งที่พี่ปอเถียงแม่ไป

    เพียงแค่อยากจะบอกว่าที่ลูกทำก็มีเหตุผล นะแม่

    ไม่รู้ว่า คำพูดที่เราพูดออกไป  

    ได้ไปกรีด หัวใจคนที่รักเรายิ่งกว่าใคร...

    พี่ปอไม่รู้ ว่า แม่จะทรมานขนาดไหน...  

    ผ่านมากี่ครั้งที่คำพูดของเราได้ไปกรีดซ้ำๆ

    ลงไปตรงรอยเดิม...

    แม่จะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน  

    แต่แม่ก็ทน และให้อภัยเราเสมอ  

    เราไม่รู้หรอกว่าคำพูดที่เราพูดออกไป
    โดยไม่คิดถึงจิตใจของผู้มีพระคุณ

    ทำร้าย ได้ลึกกว่าคมมีดใดๆ......  

             

              เป็นธรรมดาตอนเราเป็นเด็กเราไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เรา

    แสดงออก สิ่งที่เราพูด สิ่งที่เราทำ...
    กระทบคุณพ่อคุณแม่แค่ไหน  

    ลูกอาบน้ำเหรอยัง
    เดี่ยวก่อน คุยโทรศัพท์ กับเพื่อนก่อน  

    อาบน้ำได้แล้วนะ ดึกแล้ว
    อย่ามายุ่ง น่า รู้แล้ว บ่นอยู่ได้


    แค่นี้ก็ทำร้ายคุณแม่มากพอแล้ว  

    แต่เราก็ยังไม่หยุด ยังเถียงแม่ ตวาดแม่ ...

     

    ได้โปรดนะครับ
    หยุดนะ ...อย่าทำนะครับ
    พี่ปอ ขอร้องพวกเรา

    อย่าให้คมคำพูดต้องกรีดลงบนใจแม่จนแม่ทนไม่ไหว

    อย่าให้แม่ต้องพูดประโยคนี้ออกมา

    ถ้าไม่ใช้ลูกของแม่... แม่ก็จะตัดใจไม่สอน

    ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ... ตาแดงกร่ำ
    หยุดก่อนที่คุณแม่ของคุณจะต้องเสียน้ำตา

    อย่าให้แม่ต้องเสียน้ำตาให้..ลูกรักของแม่เลย...


              พี่ปอ หวังว่าพอเราโตขึ้นมากพอ
    เราจะรู้ได้ว่า เราควรปฏิบัติต่อ แม่อย่างไร  

    ยิ่งเวลา ผ่านไป ทำให้พี่ปอ ยิ่งรู้ว่า ...

    พี่ปอรัก พ่อ แม่มากขึ้น
    เมื่อรู้ว่าเวลาของพ่อแม่มีน้อยลงทุกวัน ทุกวัน.....

    คนเราต้องตายทุกคน
    การจากพรากย่อมเกิดขึ้นไม่อาจทานได้

    เพียงแต่วันนี้เราให้แม่รู้บ้างหรือ ยัง...
    เติมความรักให้หัวใจแม่หรือยัง

    รอยแผลเป็นที่เราล่วงเกินแม่ไว้เราเอาใจใส่กันบ้างไหม

    กลับไปเยียวยากันบ้างหรือป่าวครับ...

    ทุกวันนี้เวลาพี่ปอ

    ได้กลับบ้านพี่ปอจะกราบเท้าแม่ประจำ
    และพี่ปอ มักจะชอบชวน พี่ๆ น้องไปนอน
    ห้องเดี่ยวกับคุณแม่คุณพ่อพี่ปอ

    แล้วก็ขอพรจากคุณแม่....

    ให้คุณแม่นั่งที่เตียงนอน

    พี่ปอกราบลงข้างๆเตียงที่เท่าแม่
    พี่ปอ ขอให้แม่เอาเท้าแม่เหยียบบนหัวพี่ปอ

    เป็นการขอพรจากแม่
    สิ่งที่ต่ำที่สุดของผู้กำเนิด
    ย่อม มีคุณค่า สะอาด
    กว่าสิ่งที่สูงที่สุดของเราเสมอ  

    พี่ปอ เอาไว้เตือนสติตนเอง

    เอาไว้บอกตัวเองว่าเราก็แค่คนหนึ่ง
    ที่เกิดมาจากผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง

    จะได้ไม่ไปก้าวร้าวกับคนอื่นๆ

    และสำนึกในพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของแม่  

    พี่ปอทำอย่างนี้น้องสาวพี่ปอ
    เห็น เมื่อก่อนน้องสาวพี่ปอ
    กับคุณแม่จะไม่เข้าใจกันบ่อยมาก  

    พอน้องเห็นน้องทำตามบ้าง

    ครั้งแรกจะยากมากครับ

    พวกเราจะรู้ว่าตัวตนเราสูงแค่ไหนก็ตอนนี้ละครับ
    ใครที่คอแข็งหลังแข็ง...

    ก้มกราบเท้าผู้ให้กำเนิดตนเองไม่ได้ก็... นะครับ.
    (
    ยิ่งถ้ามีคนอื่นรู้เห็นเหตุการณ์คุณเอ๊ยคอจะแข็งหลังจะแข็งยิ่งขึ้น)

    พี่ปอ เห็นพี่ชายของพี่ปอ กราบเท้าพ่อแม่พี่ปอ

    แล้วพี่ปอจึงทำตาม เมื่อก่อนพี่ปอ ก็ไม่กล้า...

                     พี่โลเป็นพี่ชายที่พี่ปอรักมาก
    และนำมาเป็นแบบอย่าง

    มีเรื่องราวเกิดขึ้นเยอะแยะ
    ที่เกือบจะทำให้พี่โลไม่จบจากโรงเรียนนายร้อย
    แต่พ่อแม่ก็ช่วยกันพยายามแก้ไขปัญหาจนพี่โลจบเป็นนายตำรวจตัวเล็กของสังคมไทยคนหนึ่ง

    ที่ซื่อ ไม่ค่อยทันคน พยายามจะทำธุรกิจ
    เพราะเงินเดือนตำรวจไม่พอใช้

    แต่ก็ถูกเค้าโกงบ้างทำไม่เป็นบ้างตลอด

    แต่พี่โลมีความจริงใจ สูงมาก

    กตัญญูต่อพ่อแม่สูงมาก

    เสียสละสูง
    พี่โลไม่ได้อยากเป็นตำรวจ

    แต่เป็นให้พ่อ พ่ออยากให้ลูกชายจบโรงเรียนนายร้อยสักคนหนึ่ง

    พี่โลจึงต้องเป็นเพื่อให้พี่ปอไม่ต้องเรียนนายร้อย
    เพราะพี่โลรู้แน่ว่าพี่ปอไม่ยอมเป็น.....
    นั้นคือการเสียสละ ของพี่ชาย แต่พี่โลก็สอนพี่ปอมากกว่านั้น...


             
    วันนั้นวันที่พี่ชายพี่ปอ
    ต้องรับพระราชทานกระบี่จากในหลวง

    พอรับกระบี่แล้วออกมาจากห้องพระราชพิธี

    คนถ่ายรูปกันล้านแปด

    พี่โลฝากกระบี่ไว้ที่พ่อ ... สิ่งที่มีค่าที่สุด ให้กับพ่อ พ่อที่ทำงานเป็นตำรวจมา 30 ปี แต่ไม่เคยได้รับค่าเหล่านั้น พี่ชายเอามาให้

    ให้พ่อเรียบร้อยแล้ว...

    พี่โลถ้อยหลังจากพ่อกับแม่ไป 1 ก้าว
    ไม่มีใครรู้ว่าพี่โลกำลังจะทำอะไร

    คุกเข่าลงบนพื้น ต่อหน้าเพื่อนนายร้อยร่วมรุ่นและคนอีกมากมายในงานอันมีเกียรติ์

    ในเครื่องแบบตำรวจ สีขาว

    ในชุดที่เพิ่งออกมาจากห้องพระราชทานกระบี่ จากพระมหากษัตริย์

    มีหลายคนมองมาด้วยสายตาประหลาด

     

    พี่โลค่อยๆ ก้มลงกราบเท้าพ่อแม่ ทั้งชุดนายร้อยตำรวจ

    กราบอยู่อย่างนั้นนานมาก นานมากจน....

    พ่อกับแม่ยืนน้ำตาไหล

    ส่วนพี่ปอ น้ำตาไหล โดยไม่รู้ตัว

    น้องของพี่ปออีกสองคน น้ำตาเต็มทั้งสองแก้ม...

     
    วันนั้นเป็นวันที่พี่ปอประทับใจมาก

    เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พี่ปอ กล้าที่จะกราบแม่..


    ครั้งแรกที่เรากราบได้เราจะรู้สึกตัวเราเบาๆ
    ถ้าเราได้ขอโทษแม่สะบ้าง  

    มงคลก็จะเกิดกับชีวิตเรา
    อย่าทำให้แม่ต้องเสียใจ

    กลับไปรักษาบาดแผล
    ที่เราทำกับแม่ไว้ตอนเด็กๆ บ้างนะครับ

    ใครที่ไม่มีความกตัญญูที่เกิดจากภายในใจอย่างแท้จริง
    พี่ปอว่าคนๆนั้นต้องพิจารณาตัวเองเยอะแล้วนะครับ  

    ถ้าคุณไม่กตัญญูกับผู้มีพระคุณ
    คุณจะมีน้ำใจให้กับผู้อื่นได้อย่างไร

    หัวใจคุณคงแห้งแล้งมากมาก
    จะหาความชุมชื่นได้จากไหน    

    พี่ปอ บอกคุณก็ได้ ว่า
    ไม่มีใครรักและจริงใจเท่าแม่ของพวกคุณอีกแล้ว

    พี่ปอ บอกแม่พี่ปอ เสมอ ว่า

    แม่อย่าน้อยใจเลย
    ที่แม่สอนความรู้ให้ลูกไม่ได้  

    แต่แม่สอนอย่างอื่นให้ลูกเยอะมากกก
    มากกว่า สถานศึกษา มหาวิทยาลัยชั้นนำ
    ที่ไหนจะสอนให้ลูกได้  

    แม่ครับ ....  

    ถ้าตอนลูกเด็ก... เด็ก...

    แม่ไม่พยายาม สอนให้ลูกอ่านหนังสือ ได้

    ลูกจะเรียนจบมหาวิทยาลัยเหรอครับแม่..........  

    พี่ปอ เป็นเด็กที่มีปัญหา
    พูดได้ช้ากว่าวัย ตอนป. 2

    พี่ปอ ยังอ่านหนังสือไม่ได้ เท่าเพื่อนคนอื่น  

    พี่ปอ จำได้ครับ แม่พี่ปอ จะพยายามทุกๆ คืน
    สอนพี่ปอ ไปร้องไห้ไป..........  

    บอกพี่ปอ ให้อ่าน ก. ไก่ พี่ปอ ก็พูดแต่ตัวเลข  

    ช่วยพี่ปอ ทำการบ้าน
    บอกให้พี่ปอ ภูมิใจมั่นใจว่าพี่ปอ ก็เรียนหนังสือได้  

    แม่พี่ปอ จบ ป. 4 ครับ  

    ไม่ได้ชำนาญ เชี่ยวชาญ
    การสอนหรือจบศึกษาศาสตร์จากที่ไหน  

    แต่แม่พี่ปอสอน ให้พี่ปออ่านหนังสือได้เพราะ...

    แม่พี่ปอ สอนด้วยความรัก
    ด้วยหัวใจทั้งดวงที่แม่มี   ......

    ถ้าแม่ไม่มีหัวใจที่เต็มไปด้วยรักสอนพี่ปอ วันนั้น แล้ว
    พี่ปอ จะมาสอนพวกเราวันนี้ได้เหรอครับ  

    ...
    แม่พี่ปอสอนให้พี่ปอ รักพี่รักน้อง    

    แม่มักจะเอาข้าวใส่ในชามใบใหญ่

    แล้วป้อน พี่ปอ ป้อนให้กินที่ละคน
    กินข้าวจากชามเดียวกัน

    ทุกวันนี้ เวลาพี่ปอ เจอพี่ชายพี่ปอ
    ที่อายุห่างกันแค่ปี เดียว
    พี่ปอยกมือไหว้ทุกครั้ง  

    เพื่อนพี่ชายพี่ปอที่เป็นนายตำรวจ
    เจ้านายพี่ชายเห็น ก็รู้สึกดี ผู้ใหญ่เห็นก็เอ็นดู
    ถ้าเพราะไม่ใช่แม่สอนให้พี่น้องรักกัน  

    แล้วพี่ปอจะรู้ไหมครับ

    มหาวิทยาลัยที่ไหนจะสอนพี่ปอเรื่องพวกนี้  

    น้องๆ พี่ปอ ทุกคน ยกมือไหว้พี่ปอ  

    สิ่งที่แม่พี่ปอ สอนทำให้พี่ปอ รู้สึกอ่อนน้อม
    และก็เมตตาคนที่ด้อยกว่าไปในตัว

    เป็นเพราะ แม่ฝึกให้ พวกพี่ปอ พี่น้องเคารพรักกันและกัน

    กินข้าวชามเดี่ยวกัน
    โดยแม่ค่อยๆ ป้อน ลูก ที่ละคน...

                                           .....
    ที่ละคำ  

    แล้วแม่ก็กินเป็นคนสุดท้ายเสมอ...

    รอป้อนให้ลูกทุกคนกินอิ่มก่อน  


    พี่ปอ โตขึ้นหน่อย ตอนนั้น อยู่ทีนราธิวาส ป. 2 ป.3 ได้มั่ง

    คุณพ่อ กลับบ้านได้บ่อยหน่อยไม่ต้องอยู่ในป่า

    ออกมาอารักษ์ขาในหลวง ตามเสด็จนะครับ  

    พ่อต้องกลับมากินข้าวมื้อเย็นที่บ้านทุกวัน
    สมัยนั้นไม่มีโทรศัพท์ครับ  

    แม่จะจัดอาหารไว้ตอนเย็นๆ  
    แล้วก็บอกลูกๆ ทุกคน ให้รอ กินข้าวพร้อมพ่อ  

    บ้างวันได้กินข้าวตอน เที่ยงคืน บ้างวัน ก็ตี 1  
    แต่บนพื้นที่ที่เราล้อมวงกันกินข้าวมื้อคำกัน

    พร้อมหน้าพ่อ แม่ลูก  
    เราทุกคน มีความสุข คุณพ่อ เอา
    อาหารที่พระราชทานจากพระองค์ท่านมาให้กิน

    เล่าเรื่องที่ตามเสด็จ พี่ปอ
    นั่งฟังมีความสุข สนุก
    แล้วก็ภูมิใจในพ่อพี่ปอ  

    ที่ท่านทำงานปิดทองหลังพระ  

    แม่พี่ปอ สอนอะไรครับ...  

    แม่พี่ปอ สอนให้อดทน ..

    ให้รู้จักรอคอย...  

    ให้ภูมิใจในคุณพ่อ

    ความภูมิใจในคุณพ่อ

    ให้พี่ปอได้มีแบบอย่างที่ดีในชีวิต.....  
    พ่อพี่ปอ ชอบร้องเพลงนี้ให้ฟังเสมอเวลากลับจากตามเสด็จ

                       ...
    ไม่ท้อถอย คอยสร้างสิ่งที่ควร
                          
    ไม่เรรวน พะว้าพะวังคิดกังขา
                          
    ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา
                          
    ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป...  

    ทุกวันนี้อะไรที่ควรทำ ควรสร้าง พี่ปอ ก็สร้าง ทำ

    ไม่เรรวน ไม่พะว้าพะวังแม้ว่าใครจะว่า บ้า
    ใครจะมองว่ามันเพื้ยน ไม่สนใจ

    ไม่เคื้องแค้น ว่าทำไมไม่มีใครเข้าใจ
    ทำไมต้องทำต้องสร้างอยู่คนเดียว
    ก้มหน้าก้มตาทำไป  

    ไม่เสียดาย แม้ว่าชาตินี้จะทำไม่สำเร็จ
    ก็เพราะได้ทำได้ลงมือ  

    ความฝันอันสูงสุดของพี่ปอ
    ไม่ได้เป็นอะไรที่ใหญ่โต
    เป็นอะไรที่เห็นว่าควรสร้างควรทำ ก็ทำ ก็สร้าง

    พี่ปอ เจอคุณพ่อน้อยมากตอนเด็กๆ

    แต่ภาพของคุณพ่อ ที่ทำงาน
    คอยตามเบื้องพระยุคลบาท ชัดมาก  
    ได้หลอมให้พี่ปอ กลายเป็นพี่ปอ อย่างทุกวันนี้  

    เป็นเพราะใครสอน
    เพราะแม่ ใช่ไหมครับ  

    แม่อย่าน้อยใจเลยครับสิ่งที่แม่สอนลูก
    มันยิ่งใหญ่กว่าที่สถาบันใดจะสอนได้

    ทุกวันนี้พี่ปอ ดีใจมากที่พี่ปอ เริ่มทำสำเร็จบ้าง
    สิ่งแรกที่พี่ปอ กับเพื่อนร่วมกันสร้างได้  

    ศูนย์การเรียนรู้บ้านแก่นวิชา
    องค์กรที่จะพัฒนาและให้การศึกษาแบบไม่หวังผลกำไร  

    ถ้าไม่ใช้สิ่งที่แม่ทำให้เห็นไม่ใช้สิ่งทีแม่สอน
    พี่ปอ จะคิดอย่างนี้ได้เหรอครับ

    มีครั้งหนึ่ง พี่ปอเคยขอทุน การศึกษา
    ทุน ยากจนละครับ

    ตอนเรียน ม. 1 อาจารย์มาบอกว่าลูกข้าราชการ ตำรวจ
    ไม่มีนโยบายจะให้  

    พี่ปอ เล่าให้แม่ฟังแม่พี่ปอ
    บอกว่าไม่เป็นไรลูก

    แสดงว่าคนอื่นลำบากกว่าเรายังมีให้เค้าก่อนได้  

    เรายังหาเองได้...  

    แม่พี่ปอ สอนพี่ปอ

    หาเงินเองมาตั้งแต่เด็กๆ ตอน 4  หรือ 5 ขวบ

    แม่พี่ปอ จะทำขนมให้พี่ปอไปเร่ขายตามบ้านพักข้าราชการ

    ฝึกไม่ให้พี่ปอ น้อยใจ ไม่อายที่จะทำในอาชีพที่สุจริต  

    ตอน ป. 5 ป. 6 แม่พี่ปอ ขายข้าวแกง
    ในบ้านพักตำรวจอยู่ติดโรงเรียนประถมที่พี่ปอเรียน
    ตอนนั้นพ่อพี่ปอเริ่มเป็นนายตำรวจแล้ว  

    แม่พี่ปอ ก็สอนให้เห็นว่าไม่ต้องน้อยใจในอาชีพสุจริต
    ถ้าควรทำก็ต้องทำ ไม่ต้องไปติดหน้าตาว่า...

    เป็นเมียเป็นลูกนายตำรวจ
    แล้วจะขายข้าวแกงข้างทางไม่ได้  

    เมียตำรวจ ส่วนใหญ่เล่นไพ่กันในบ้านพัก
    ลูกตำรวจไปวิ่งเล่นกัน  

    พี่ปอ เคยน้อยใจว่าทำไมพี่ปอ
    ใช้ชีวิตอย่างนั้นไม่ได้  

    แต่ตอนนี้พี่ปอ เข้าใจ

    สิ่งที่แม่สอนให้พี่ปอ

    ความอดทน การประกอบอาชีพสุจริต
    การไม่หวั่นไหวต่อสายตาหรือคำติฉินนินทาใดๆ  

    จะเป็นส่วนช่วยทำให้เราทำงานที่คนอื่นคิดว่าไม่น่าจะทำได้ให้สำเร็จได้  

    ตอนเรียนประถม พี่ปอ ช่วยแม่ขายข้าวแกง
    เอาไปส่งให้ครูในโรงเรียน
    ที่สั่งข้าวแกงแม่ไปกินก็โดนคุณครูใหญ่ตี  

    ตอนเรียนมัธยม ม.1ครับ
    แม่พี่ปอ ก็สอนให้รูจักบริหารเงินให้เป็น

    แม่พี่ปอ ให้เงินไปโรงเรียน อาทิตย์ ละ 300 บาท  
    บ้านพี่ปอ อยู่นราธิวาส ต้องไปเรียนที่สงขลา
    ทำอย่างไรให้เงินไม่หมดแม่พาไปซื้อ
    หมากฝรั่งจากมาเลแล้ว

    ให้พี่ปอ ไปขายที่โรงเรียน พี่ปอ
    ได้กำไรก็เอากำไรนั้นไปใช้จ่าย  
    เงิน 300 บาท ทุนห้ามใช้

    กำไรที่ได้เหลือใช้ก็ให้สะสม  

    พี่ปอ ก็มีเงินใช้ไม่ลำบาก

    แต่ทำไปได้เทอมหนึ่ง
    โรงเรียนก็สั่งห้ามครับ  
    ทำไมเหรอ ...

    สงสัยเพราะว่าพี่ปอ ไม่จ่ายภาษีแน่เลยอ่ะ :D  

    แต่ตอนนั้นแม่พี่ปอได้สอนให้พี่ปอ
    บริหารเงินเป็นตั้งแต่ ม. 1
    ไม่ต้องรอจบปริญญาตรี บริหารธุรกิจ

    ทุกวันนี้พี่ปอ
    ก็ใช้ความคิดจากครั้งนั้นที่แม่สอนมาบริหารเงิน


    แต่พอโรงเรียนสั่งเลิกขายความลำบากก็มาถึงพี่ปอ
    กับพี่ชาย พี่ชายเรียน ม.2 พี่ปอเรียน ม.1 ไม่มีรายได้

    อาจารย์ห้ามนักเรียน
    ประกอบอาชีพสุจริตใดๆ ในโรงเรียน  

    สมัยพี่ปอมันช่างโหดร้าย
    (
    หรือต้องจ่ายภาษีด้วยอะ พี่ปอ ไม่รู้)

    บางช่วงพี่ปอ กับพี่โลพี่ชายพี่ปอ
    ลำบากเงินหมด ก่อน สัปดาห์  

    แต่ไม่กล้าขอที่บ้านเพราะไม่อยากให้แม่ลำบากใจ
    แม่ขายข้างแกงส่งครับ
    เงินเดือนตำรวจไม่ต้องพูดถึงครับมันน้อยมาก  

    พี่ปอ กับพี่ โลเวลาเดินกลับที่พัก
    ต้องแวะเก็บผักบุ้งข้างทาง มาทำกินกัน ตามประสา
    เสาร์อาทิตย์บ้างสัปดาก็ออกไปหาปลา  

    แต่ผลจากเหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้พี่น้องรักกันมาก  

    และทำให้พี่ปอเข้าใจเด็กๆ
    และอยากให้โอกาสเด็กๆ อีกหลายคน

    เด็กที่ไม่ต้องเรียนเก่งมาก
    แต่ตั้งใจ มีความมุ่งมั่น
    อยากทำประโยชน์ เพื่อแผ่นดิน เพื่อสังคม

    เมื่อเด็กๆเค้าไม่พร้อม
    จะให้เค้าเรียนเก่งมากๆได้อย่างไรครับ

    พี่ปอ ไม่ได้รำรวยก็ต้องทำไปเท่าที่ทำได้
    อยากให้โอกาสเด็กๆ
    แต่ไม่ใช่รอให้รวยก่อนแล้วค่อยทำ  

    พี่ปอและเพื่อน พี่ทุกคน
    ก็พิสูจน์ให้พวกเราเริ่มเห็นบ้างได้แล้ว
    ว่าถ้าเราอยากช่วยเหลือ อยากทำ

    เราคิดเป็นไม่ต้องรอให้เราพร้อมเราก็ช่วยได้ ทำได้

    และพี่ปอ มักจะบอกพวกเราเสมอว่า
    อยากให้พวกเราที่มีโอกาสดีกว่าคนอื่นๆ เยอะ
    มุ่งมันในการศึกษาพัฒนาตน  

    จะได้ช่วยๆกันทำให้บ้านเมืองนี้ดีขึ้น  

    พี่ว่าดีออกถ้าเราได้อยู่ในสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุข

    ..............

    สิ่งเหล่านี้ก็เป็นผลจากที่แม่สอน  
    พี่ปอมักจะบอกผู้ปกครองพวกเราบ้างคน
    ที่มาปรึกษาพี่ปอเรื่องลูกๆ  

    บ้างคนก็บอกว่าฝากหน่อยนะครับ
    ผม/ดิฉัน ความรู้น้อยไม่รู้จะสอนอะไรลูก

    พี่ปอ มักจะบอกกลับไปเสมอครับ

    ว่าสอนความคิดสิ ครับ สอนความดีให้ลูกรู้จัก  

    ถ้าพ่อแม่ไม่สอนสิ่งเหล่านี้ให้ลูกแล้วใครจะสอนครับ

    แม่ครับแม่ไม่ต้องน้อยใจที่ไม่ได้เรียนสูง
    แม่สอนอะไรลูก....
    หลายๆ อย่างกว่าที่ครูบาอาจารย์คนใดจะสอนลูกได้  

    แม่ครับลูกของแม่ทุกครั้งเวลาไปทำงาน
    ต้องไปเจอคนที่เรียนสูงกว่า

    ผู้ใหญ่ที่มีความรู้มากกว่า

    ลูกไม่เคยน้อยใจ
    ไม่เคยไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ควร  

    เพราะว่าแม่ครับ
    แม่ได้ทำให้ลูกเห็นแล้วว่า
    เราไม่จำเป็นต้องเรียนสูง

    เราก็เป็นคนดีได้

    และแม่กับพ่อก็ได้ทำให้เห็นแล้วครับว่า

    คนที่จะทำประโยชน์ให้บ้านเมือง...

    ไม่จำเป็นต้องเรียนสูงก็ได้  
    หากเรียนสูงแล้วคิดจะโกงบ้านโกงเมืองด้วยความโลภ
    คนเอาเปรียบบ้านเมืองด้วยความไม่รู้ ความหลง

    ลูกเห็นมีกันตั้งเยอะแยะแล้ว  

    ลูกขอเรียนจบ ป. 4 เท่าแม่ หรือ ม. 3 เท่าพ่อ
    แล้วลูกสามารถสอนลูกของลูกให้เป็นคนดี

    ไม่คิดโกงไม่คิดเอาเปรียบใครดีกว่าครับ

    สิ่งที่พ่อแม่สอนลูกยิ่งใหญ่เกินกว่า
    ที่ลูกจะหาได้จากที่ไหนครับ  

    เพราะพ่อกับแม่ได้สอนลูกด้วยหัวใจ

    ลูกรักแม่ครับ  

    ลูกปอ    

    วันนี้วันเกิดแม่พี่ปอ ครับ  

    หมายเหตุ...

    30 ปีแล้ว ที่แม่พี่ปอ แต่งงานกับคุณพ่อ
    พี่ปอรักครอบครัวพี่ปอ มาก
    แม่กับพ่อ ชื้อสัตย์ต่อกัน
    พ่อกับแม่พี่ปอ ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน

    แต่ทั้งคู่ก็รักกันมาก
    ความรักที่ท่านมีต่อกันถ่ายทอดมาให้ลูกๆได้
    ทั่วถึงทุกคน  

    พี่ปอ แถมเรื่องหมายเหตุนี้ให้

    กับน้องนักเรียนผู้หญิง
    ที่มักปรึกษาเรื่องความรักกับพี่ปอ บ่อยๆ
    ความรักที่เกิดจากความไม่หลง
    ความซื้อสัตย์ต่อกัน
    ความศรัทธาในรักของกันและกัน

    จะทำให้ชีวิตของพวกคุณสมบูรณ์  
    โลกทุกวันนี้อะไรมันก็ไว
    อะไรยิ่งไวก็ไม่จีรัง

    ลมที่พัดไว ก็อยู่ไม่ได้นานเท่าภูเขา

    น้ำตกที่ไหลแรงก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่ามหาสมุทรที่สงบนิ่ง

    ทำอะไรไตร่ตรองเยอะๆ นะครับ  

    เป็นห่วงน้องๆ ทุกคน

    พี่ปอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×